เลือกบ้านอย่างไร ให้เหมาะกับทาสแมว

"ปัจจุบันวิถีชีวิตของคนรุ่นใหม่มีการเปลี่ยนแปลงไปมากขึ้น ครอบครัวส่วนใหญ่มักเป็นครอบครัวขนาดเล็ก บางครอบครัวก็ไม่มีลูกหรืออยู่เป็นโสดก็เยอะ สัตว์เลี้ยงจึงเป็นส่วนหนึ่งในการเติมเต็มชีวิตของคนหลายครอบครัว ซึ่งปัจจุบันการเลี้ยงสัตว์ไม่ใช่การเลี้ยงแบบ Pet Lover ที่แค่รักหรืออยากมีสัตว์เลี้ยงเท่านั้น แต่มีการพัฒนาไปจนเป็น Pet Partner ที่มีความรักความผูกพันธ์เหมือนเป็นส่วนหนึ่งในสมาชิกครอบครัว ขนาดที่เจ้าของสัตว์เลี้ยงสามารถควักเงินในกระเป๋าเพิ่ม เพื่อให้สัตว์เลี้ยงมีคุณภาพชีวิตที่ดีได้เลยทีเดียว"

คุณมาย นันทนัช ชิ้นแสงชัย ฟรีแลนซ์และทาสแมวเจ้าของฟาร์ม Tarntawan Cattery ได้มาร่วมพูดคุยวันนี้พร้อมกับสมาชิกแมวเหมียวมากมาย เรียกได้ว่าเหมือนได้มาเยือนคาเฟ่แมวแบบส่วนตัวเลยทีเดียว ซึ่งการสัมภาษณ์วันนี้ก็เต็มไปด้วยความอบอุ่น นุ่มนิ่ม ปุกปุยกันถ้วนหน้า โดยคุณมาย เล่าว่า

"เป็นทาสแมวก็ต้องเป็นโรคแมวงอกกันทั้งนั้น คำว่าตัวเดียวกับตัวสุดท้ายมันไม่มีจริงหรอก"

จุดเริ่มต้นของแมวตัวแรกก็ไม่ได้มีความซับซ้อนอะไร โดนตกจากความน่ารักล้วน ๆ ซึ่งตอนนั้นก็ดูแมวไม่เป็นหรอกว่าแบบไหนคือสวยแบบไหนคือไม่สวย แค่ดูว่าเขาน่ารักก็ตกลงรับมาอยู่ด้วยกันเลย จนมาช่วงต้นปี 2563 ได้ศึกษาแมวสายพันธุ์บริติช ช็อตแฮร์ อย่างจริงจังและมีความตั้งใจอยากพัฒนาแมวสายพันธุ์นี้ จึงจุดประกายให้ปัจจุบันมีเจ้านายในบ้านจำนวน 12 ตัวเข้าไปแล้ว

ปัจจุบันคุณมายอาศัยอยู่ทาวน์เฮ้าส์ในศรีนครินทร์ ย่านที่จัดว่ามีความสะดวกสบายมากในระดับหนึ่ง เพราะใกล้ทางด่วน รายล้อมด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน อีกทั้งยังมีโครงการรถไฟฟ้าสายสีเหลืองที่กำลังก่อสร้างและจะเปิดให้บริการในอนาคต ซึ่งเหตุผลหลักที่ต้องย้ายจากคอนโด มาอยู่บ้านก็มาจากจำนวนแมวที่เพิ่มมากขึ้นและอยากให้แมวมีสุขภาพกายและใจที่ดี

การย้ายมาอยู่บ้านจึงตอบโจทย์สำหรับตัวเองและลูก ๆ มากกว่า ซึ่งบ้านหลังนี้ก็สามารถตอบโจทย์การใช้ชีวิตได้ดีทีเดียว เพราะหลายคนอาจคิดว่าการเลี้ยงแมวไม่จำเป็นต้องใช้พื้นที่เยอะ แต่เมื่อเรามีแมวจำนวนมากจนขยายมาเป็นฟาร์มจึงต้องมีการแบ่งห้องให้แมวอยู่อย่างเป็นสัดส่วน

“พื้นที่และห้องส่วนใหญ่ในบ้านจะยกให้เป็นพื้นที่ของแมวทั้งนั้น เนื่องจากเรามีแมวหลายเพศหลายวัย จึงจำเป็นต้องมีหลายห้องเพื่อแยกแมวออกจากกัน เช่น ห้องแมวเด็ก ห้องแมวตัวผู้ ห้องแมวตัวเมีย และห้องสำหรับแมวท้องรอคลอดลูก”

การจะเลือกที่อยู่อาศัยสำหรับสัตว์เลี้ยงจริง ๆ แล้วก็ไม่ได้แตกต่างกับการที่เราเลือกดูบ้านสำหรับอยู่อาศัยเองมากนัก เพียงแต่อาจจะต้องมีการจัดระเบียบบ้านให้เหมาะสมสักเล็กน้อยเพื่อประโยชน์ของทั้งคนและสัตว์จะสามารถอยู่ด้วยกันได้อย่างมีความสุข

อย่างการเลี้ยงแมวก็ต้องมีความรักความเข้าใจเขาในระดับหนึ่ง โดยแมวส่วนใหญ่นอกจากกินกับนอนแล้วเขาก็ชอบชมนกชมไม้ ที่บ้านก็จะจัดหามุมสำหรับให้นั่งชมวิวกัน ส่วนห้องแมวเด็กน้อยก็จะมีของเล่นให้เยอะหน่อยเพราะกำลังอยู่ในวัยซนอยากรู้อยากเห็น

เหตุผลที่เลือกมาอยู่บ้านหลังนี้ส่วนหนึ่งมากจากทำเลที่เดินทางสะดวก ใกล้ทางด่วนและในอนาคตยังจะมีรถไฟฟ้าอีกด้วย รอบ ๆ โครงการบ้านก็มีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน ทั้งห้างสรรพสินค้า ร้านค้า ตลาดนัด มีแหล่งจับจ่ายใช้สอยเพียบ รวมไปถึงเป็นย่านที่มีโรงพยาบาลสัตว์หลายแห่งและตัวบ้านอยู่ไม่ไกลจากโรงพยาบาลสัตว์ที่เปิด 24 ชั่วโมง ทำให้หมดกังวลหากแมวไม่สบายหรือต้องการคลอดลูกฉุกเฉินตอนกลางคืน

ก่อนจะย้ายมาอยู่ที่ศรีนครินทร์ก็ค่อนข้างกังวลเรื่องสภาพแวดล้อมต่าง ๆ เนื่องจากแต่ก่อนตอนอยู่คอนโดในอโศก จะรู้สึกว่าโซนศรีนครินทร์เป็นพื้นที่ที่ไกลจากอโศกพอสมควร แต่พอได้มาลองใช้ชีวิตจริง ๆ แล้วก็ไม่ได้ไกลอย่างที่คิด ยิ่งถ้าไม่ใช่ช่วงเวลาเร่งด่วนก็สามารถเข้าสู่ใจกลางเมืองได้ประมาณ 30 นาทีก็ถึงแล้ว

“สำหรับคนที่มีสัตว์เลี้ยงหลายตัวหรือทำฟาร์มแบบมายเวลาเลือกบ้านก็ต้องพิจารณากันให้รอบคอบสักหน่อยเพราะครอบครัวเราใหญ่พอสมควร หลัก ๆ เลยจะต้องคำนึงถึงพื้นที่ในบ้านที่ต้องแบ่งสรรให้เป็นสัดส่วน ซึ่งหลาย ๆ บ้าน หากห้องไม่พอสำหรับแยกน้องแมวก็จะนิยมกั้นห้องเพื่อความสะดวกและประหยัดพื้นที่ไปได้เยอะ หากใครนึกไม่ออกให้ลองดูตัวอย่างแบบโรงแรมแมวนั่นแหละ

นอกจากนี้ยังต้องมีความรับผิดชอบต่อส่วนรวมด้วย อย่าให้เสียงหรือกลิ่นไปรบกวนข้างบ้านได้ โดยที่บ้านจะให้อาหารเกรดโฮลิสติก ทำให้กลิ่นอึไม่เหม็น ขนร่วงน้อย และส่งผลให้แมวมีสุขภาพดี ในส่วนของห้องน้ำแมวเราก็ใช้ทรายภูเขาไฟเกรดพรีเมียม สามารถควบคุมกลิ่นได้ดี ไร้ฝุ่น ปลอดภัยต่อระบบหายใจทั้งคนและแมว จึงมั่นใจได้ว่าไม่มีกลิ่นไปรบกวนให้เพื่อนบ้านขุ่นเคืองใจแน่นอน”

ทำเลศรีนครินทร์ ตอนแรกเป็นที่ทำเลไม่คุ้นเคยมากนัก เนื่องจากแต่ก่อนเราอยู่คอนโดย่านอโศกก็จะใช้ชีวิตอยู่แค่ในโซนนั้น แต่หลังจากได้ลองมาใช้ชีวิตอยู่จริง ๆ ก็เริ่มตกหลุมรักบรรยากาศในทำเลนี้เพราะไม่ได้ไกลจากตัวเมืองเลย จะไปเดินห้างหรือหาของกินก็สะดวก ใกล้ซีคอนแสควร์ เมกาบางนา มีตลาดนัดกลางคืน และช่วงหลังมานี้ได้ไปนั่งชิวริมทะเลพัทยาบ่อยมาก ใช้เวลาขับรถแค่ชั่วโมงเดียวก็ถึงแล้ว ทำให้รู้สึกว่าเป็นทำเลที่สามารถเชื่อมต่อกับพื้นที่อื่น ๆ ได้ง่าย จะไปไหนก็สะดวกสบาย

"ถ้าถามว่ามีอะไรที่อยากจะเปลี่ยนแปลงในบ้านหลังนี้ไหมก็คงยังไม่มี แต่ก็คิด ๆ ไว้ว่าอยากจะย้ายไปอยู่บ้านเดี่ยวเพื่อจะได้มีพื้นที่เพิ่มมากขึ้น อยากทำห้องรับรองลูกค้าที่มาดูเด็ก ๆ ให้เป็นสัดส่วนกว่าเดิม และช่วงหลังมานี้มีเริ่มหันมาถ่ายรูปแมวเอง ทำให้อยากมีพื้นที่สตูดิโอสำหรับแมวเพิ่มสักห้องหนึ่ง ซึ่งถ้าได้ย้ายไปอยู่บ้านเดี่ยวที่สามารถจัดสรรพื้นที่ทุกอย่างตามแบบที่เราต้องการได้ก็สามารถเรียกได้ว่าเป็นบ้านในฝันแล้ว"

"สำหรับมุมโปรดของบ้านแน่นอนว่าเป็นห้องแมวเด็กเพราะแมววัยนี้หลอกล่อง่าย ชอบเล่น ชอบซน เอนเตอร์เทนง่ายที่สุดแล้ว ซึ่งการได้นั่งเล่น นั่งกอดแมว เหมือนเราได้ชาร์จแบตจากวันเหนื่อย ๆ ได้ดีทีเดียว แถมยังช่วยทำให้เราลืมความเครียด ผ่อนคลายอยู่ในห้องแมวได้เป็นชั่วโมง ๆ เลย"

สำหรับคุณมายแล้วมีเงื่อนไขในการเลือกที่อยู่อาศัยค่อนข้างมาก ไม่ว่าจะเป็นเรื่องพื้นที่ที่ต้องเยอะพอสมควร ทำเล สภาพแวดล้อมที่สามารถหาโรงพยาบาลสัตว์ยามฉุกเฉินได้ง่าย ไปจนถึงการเดินทางที่สะดวกสบาย จึงต้องมีตัวช่วยที่สามารถคัดกรองบ้านตามแบบที่ต้องการได้

หนึ่งในวิธีที่ง่ายและรวดเร็วที่สุดก็คือการค้นหาจากเว็บไซต์นั่นเอง ซึ่งเว็บไซต์ DDproperty ก็สามารถตอบโจทย์คนที่ต้องการหาที่อยู่อาศัยได้หลากหลายรูปแบบ ทั้งบ้านเดี่ยว ทาวเฮ้าส์ คอนโดฯ มีการวิเคราะห์ทำเลพื้นที่ สภาพแวดล้อมต่าง ๆ ไว้อย่างละเอียด เป็นอีกหนึ่งเว็บไซต์ยอดฮิตของคนที่กำลังมองหาที่อยู่อาศัยหรือต้องการศึกษาทำเลต่าง ๆ ได้ดีทีเดียว

นี่คืออีกหนึ่งตัวอย่างในการเลือกบ้านของทาสแมว โดยปัจจัยสำคัญอาจไม่ได้ขึ้นอยู่กับพื้นที่ใช้สอยเป็นหลักเพียงอย่างเดียวเท่านั้น แต่ทำเลก็ยังต้องมีความสะดวกสบาย มีสาธารณูปโภคครบครันที่สามารถตอบโจทย์ได้ ทั้งคนที่อยู่อาศัย รวมไปถึงสัตว์เลี้ยงด้วย