ในยุคที่อินเทอร์เน็ตมีความจำเป็นต่อการใช้ชีวิตพอ ๆ กับปัจจัยสี่ คนส่วนใหญ่จึงต้องมีอินเทอร์เน็ตไว้ใช้งานตลอดเวลา ทั้งที่ทำงาน ระหว่างการเดินทาง และโดยเฉพาะในบ้าน แต่อินเทอร์เน็ตบ้านก็มีตัวเลือกอยู่มากมาย ทั้งผู้ให้บริการ ความเร็ว และลักษณะในการเชื่อมต่อ แต่ไม่ต้องสับสนว่าจะเลือกเน็ตบ้านแบบไหนดี ที่นี่มีข้อมูลดี ๆ ที่ช่วยให้ตัดสินใจเลือกอินเทอร์เน็ตบ้านที่เหมาะสมกับตัวเอง
ทำความรู้จักกับเน็ตบ้านแต่ละแบบ
อินเทอร์เน็ตสายโทรศัพท์ (xDSL)
อินเทอร์เน็ตบ้านผ่านสายโทรศัพท์นั้นมีมาอย่างยาวนานตั้งแต่ยุคโมเด็ม 56 Kbps เมื่อประมาณ 30 ปีก่อน จนปัจจุบันถูกพัฒนาเป็นอินเทอร์เน็ต ADSL และ VDSL ซึ่งรองรับความเร็วได้สูงสุด 100 Mbps โดยเน็ตบ้านประเภทนี้จะใช้สายโทรศัพท์เป็นตัวรับส่งข้อมูล ดังนั้น ทุกที่ที่มีสายโทรศัพท์จึงใช้อินเทอร์เน็ต xDSL ได้ (ถ้ามีชุมสายให้บริการ) แต่อินเทอร์เน็ตประเภทนี้ก็ต้องเสียค่าบริการโทรศัพท์พื้นฐานแยกต่างหากด้วย
อินเทอร์เน็ตสายเคเบิล (Docsis)
อินเทอร์เน็ตบ้านผ่านสายเคเบิลนั้นเป็นที่นิยมอยู่ในระยะหนึ่ง โดยเน็ตบ้านประเภทนี้จะรับส่งข้อมูลผ่านสายโคแอคเชียล (Coaxial) ซึ่งมีความเร็วสูงถึง 400 Mbps มีสัญญาณรบกวนต่ำ มีความคงทนสูง และสามารถรับส่งสัญญาณภาพเคเบิลทีวีได้พร้อมกับการใช้อินเทอร์เน็ต แต่เนื่องจากสายโคแอคเชียลนั้นมีราคาสูง ทำให้ใช้ต้นทุนมากในการเดินสาย ผู้ให้บริการจึงลดความสำคัญของอินเทอร์เน็ตประเภทนี้ลง หลังจากมีเทคโนโลยีที่ดีกว่ามาแทนที่
อินเทอร์เน็ตไฟเบอร์ (Fiber Optic)
อินเทอร์เน็ตไฟเบอร์หรือใยแก้วนำแสงเป็นเทคโนโลยีล่าสุดที่นำมาใช้กับอินเทอร์เน็ตบ้าน โดยรับส่งข้อมูลผ่านใยแก้วนำแสง ซึ่งมีความเสถียรสูง และรองรับความเร็วได้สูงถึง 1,000 Mbps (1 Gbps) และถือว่าเป็นอินเทอร์เน็ตบ้านราคาถูกที่สุดเมื่อเทียบกับความเร็วที่ได้รับ แต่การใช้งานทั่วไปจะถูกแบ่งออกเป็น 2 แบบ ได้แก่
- FTTH (Fiber To The Home) คือ อินเทอร์เน็ตไฟเบอร์ที่ลากสายใยแก้วนำแสงโดยตรงจนถึงเราเตอร์ในบ้าน โดยไม่ผ่านการแปลงสัญญาณเป็นรูปแบบอื่นเลย ผู้ใช้เน็ต FTTH จึงได้รับประสิทธิภาพอย่างเต็มที่
- FTTB (Fiber To The Building) คือ อินเทอร์เน็ตไฟเบอร์ที่ลากสายใยแก้วนำแสงจนถึงตัวอาคาร ก่อนกระจายสัญญาณแบบ VDSL ความเร็วในการใช้งานจึงลดลงจากข้อจำกัดของสายโทรศัพท์
อินเทอร์เน็ตเครือข่ายมือถือ (4G Hotspot)
ผู้ใช้สามารถนำอินเทอร์เน็ตบนเครือข่ายมือถือ 3G/4G มาทำเป็นอินเทอร์เน็ตบ้านไร้สายได้ ซึ่งความเร็วและราคาจะเป็นไปตามแพ็กเกจเครือข่ายมือถือ โดยมีข้อดีคือ ไม่ต้องเดินสาย และสามารถใช้ความเร็วได้สูงถึง 100 Mbps แต่ความเร็วในการรับส่งข้อมูลก็ขึ้นอยู่กับคุณภาพสัญญาณ หากอยู่ในจุดอับสัญญาณ ก็จะไม่สามารถใช้งานได้ และแพ็กเกจมีราคาค่อนข้างแพงเมื่อเทียบกับอินเทอร์เน็ตบ้านแบบมีสาย
การเลือกเน็ตบ้านตามลักษณะที่อยู่อาศัย
ติดอินเทอร์เน็ตในคอนโดหรืออพาร์ตเมนต์
เนื่องจากอาคารสูงและห้องชุดมักจะมีข้อจำกัดในการโยงสายอินเทอร์เน็ต จึงทำให้เจ้าของห้องมีตัวเลือกไม่มากนักในการติดเน็ตคอนโด และคอนโดส่วนใหญ่ก็มักจะติดอินเทอร์เน็ตแบบ FTTB โดยลากใยแก้วนำแสงจนถึงชุมสายของอาคาร
ก่อนกระจายสัญญาณผ่านสายโทรศัพท์ภายในจนถึงห้องของผู้ใช้ แม้จะได้รับความเร็วจากเน็ตไฟเบอร์ไม่เต็มที่ แต่ผู้ให้บริการก็ให้ความสำคัญกับชาวคอนโดเป็นอย่างมาก โดยมีการออกแพ็กเกจเน็ตคอนโดหลายระดับความเร็วและราคาพิเศษให้เลือกใช้อย่างสม่ำเสมอ
ติดอินเทอร์เน็ตในบ้านเดี่ยวหรือทาวน์โฮม
บ้านเดี่ยวและทาวน์โฮมนั้นแทบไม่มีปัญหาในการโยงสายอินเทอร์เน็ต จึงเลือกใช้เน็ตบ้านได้ทุกแบบ แต่ทั้งนี้ การจะได้ใช้เน็ตบ้านแบบไหนก็ขึ้นอยู่กับพื้นที่ให้บริการด้วย โดยในบางพื้นที่อินเทอร์เน็ตไฟเบอร์อาจยังเข้าไม่ถึง เจ้าของบ้านก็ต้องใช้เน็ตสายโทรศัพท์ไปก่อน หรือบ้านอยู่ห่างจากชุมสายมากเกินไป เจ้าของบ้านก็ต้องเสียค่าโยงสายอินเทอร์เน็ตเพิ่ม
ติดอินเทอร์เน็ตในบ้านที่มีหลายชั้น
เจ้าของบ้านไม่จำเป็นต้องติดตั้งเน็ตบ้านให้ครบทุกชั้น แต่ใช้วิธีติดตั้งอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงเพียงจุดเดียว แล้วติดตั้งจุดกระจาย Wi-Fi หรือใช้วิธีการลากสาย LAN ให้ทุกคนในบ้านได้ใช้งาน แต่ถ้าฟังดูยุ่งยากเกินไป ก็ยังมีเทคโนโลยีใหม่ล่าสุดอย่าง Mesh Wi-Fi ที่เกิดจากการใช้เราเตอร์หลายตัวที่สื่อสารซึ่งกันและกันได้ เพื่อกระจายสัญญาณ Wi-Fi ของเน็ตบ้านได้ครอบคลุมมากขึ้น
การเลือกเน็ตบ้านตามลักษณะการใช้งาน
ใช้อินเทอร์เน็ตเพื่อเล่นมือถือ
บ้านที่ไม่ได้ใช้คอมพิวเตอร์หรือสมาร์ททีวีที่ต้องเชื่อมต่อกับอินเทอร์เน็ตเป็นประจำ ก็อาจจะไม่จำเป็นต้องเสียเงินติดเน็ตบ้านเลย เพราะการใช้อินเทอร์เน็ตบนโทรศัพท์มือถือก็เพียงพอแล้ว และยังใช้โทรศัพท์มือถือเป็น 4G Hotspot กับคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊กหรืออุปกรณ์ที่รองรับ Wi-Fi ตามความจำเป็นก็ได้
ใช้อินเทอร์เน็ตเพื่อทำงานหรือท่องเว็บ
การรับส่งอีเมลหรือท่องโลกอินเทอร์เน็ตตามเว็บไซต์ต่าง ๆ จำเป็นต้องใช้อินเทอร์เน็ตที่มีความเร็วพอประมาณ สามารถรับส่งไฟล์หรือเปิดเว็บไซต์ได้โดยไม่ต้องรอนาน ซึ่งจริง ๆ การใช้เน็ตบ้าน ADSL ก็ถือว่าเพียงพอแล้ว แต่ถ้ามีการรับส่งไฟล์ขนาดใหญ่บ่อย ๆ ก็ควรขยับเทคโนโลยีเพื่อรองรับการทำงานได้อย่างรวดเร็วยิ่งขึ้น ยกตัวอย่างเช่น เน็ตสายเคเบิล
ใช้อินเทอร์เน็ตเพื่อเล่นเกมหรือรับชมความบันเทิง
สำหรับการเล่นเกมออนไลน์นั้น ต้องใช้อินเทอร์เน็ตบ้านที่มีความเสถียรสูง มีค่าเวลาในการรับส่งข้อมูล (Ping) ต่ำ ส่วนการรับชมความบันเทิง เช่น การดาวน์โหลดวิดีโอ หรือดูหนังสตรีมมิ่ง ก็ต้องใช้อินเทอร์เน็ตที่มีความเร็วสูงเช่นกัน บ้านที่มีกิจกรรมเหล่านี้จึงควรเลือกใช้เน็ตไฟเบอร์ ซึ่งเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุด
ท้ายที่สุดนี้ หากเป็นไปได้ ก็ขอให้เลือกใช้อินเทอร์เน็ตไฟเบอร์เป็นอันดับแรก เพราะเป็นเน็ตบ้านราคาถูกที่ให้ความเร็วที่สูงมาก และยังมีเสถียรภาพที่น่าพึงพอใจ ส่วนที่เหลือก็ขึ้นอยู่กับพื้นที่ให้บริการด้วยว่าจะรองรับอินเทอร์เน็ตรูปแบบใด โดยการเลือกซื้อบ้านหรือซื้อคอนโดทำเลดี ก็มีส่วนทำให้เข้าถึงอินเทอร์เน็ตที่ดีที่สุดได้เหมือนกัน
สนใจรับบทความดีดี อัปเดต ข่าวอสังหาริมทรัพย์ และ อ่านคู่มือซื้อขาย พร้อม รีวิวโครงการคอนโดฯ ใหม่ บ้านใหม่ หลากหลายทำเลและราคา รวมถึง ทำความรู้จักกับทำเลฮอตทั่วกรุง เพื่อเพิ่มความมั่นใจในการซื้อ-ขาย-เช่า
ข้อจำกัดความรับผิดชอบ: ข้อมูลนี้จัดทำขึ้นเพื่อเป็นข้อมูลทั่วไปเท่านั้น DDproperty by PropertyGuru ซึ่งอยู่ภายใต้การดูแลของบริษัท ออลพร็อพเพอร์ตี้ มีเดีย จำกัด ไม่สามารถรับรองหรือรับประกันเกี่ยวกับข้อมูล รวมทั้งไม่สามารถรับรองหรือรับประกันใด ๆ เกี่ยวกับความเหมาะสม สำหรับวัตถุประสงค์เฉพาะใด ๆ ของข้อมูล ตามขอบเขตสูงสุดที่กฎหมายอนุญาต แม้ว่าเราได้พยายามอย่างเต็มที่ เพื่อให้แน่ใจว่าข้อมูลที่ให้ไว้ในบทความนี้ถูกต้อง เชื่อถือได้ และครบถ้วน ณ เวลาที่เขียน แต่ข้อมูลที่ให้ไว้ในบทความนี้ไม่ควรนำไปใช้ในการตัดสินใจทางการเงิน, การลงทุนอสังหาริมทรัพย์ หรือทางกฎหมายทันที ผู้อ่านไม่ควรใช้ข้อมูลในบทความ แทนคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญที่ผ่านการฝึกอบรมซึ่งสามารถพิจารณาข้อเท็จจริงและสถานการณ์ส่วนตัวของคุณได้ ทั้งนี้ เราไม่สามารถรับผิดชอบใด ๆ หากคุณเลือกที่จะนำข้อมูลไปใช้เพื่อประกอบการตัดสินใจ