เอเจนต์ปล่อยเช่า สื่อกลางระหว่างเจ้าของและผู้เช่า

"ผมชื่อ ภัทรพงษ์ อัศววิทูรทิพย์ (ก่อ) ครับ อายุ 39 ปี ก่อนหน้าที่จะมาทำสายอสังหาฯ อยู่ในแวดวงออนไลน์ดิจิทัล เป็นออนไลน์เอเจนซี่เล็ก ๆ เน้นการทำบทความ ดูเรื่องการตลาด และการประชาสัมพันธ์ให้ลูกค้าต่าง ๆ ทั้งแบรนด์ และ SME มีโอกาสได้ลองทำก็รู้สึกว่าสนุกมาก

โจทย์แต่ละครั้งไม่เหมือนกันเลย แม้จะเป็น ซื้อ-ขาย-เช่า แต่ตัวแปรคือความต้องการในใจของทั้งสองฝ่าย ทำให้รู้สึก ท้าทาย และชอบมาก ๆ อีกอย่างเราก็พบว่า manday (ค่าจ้างต่อวัน) ของอาชีพนี้ คุ้มค่ามากกว่าอาชีพอื่น ๆ ที่เคยทำมา ถ้าเราได้ลองลงทุนทุ่มเทไปอย่างสุดตัวแล้ว ค่าแรงก็ต้องคุ้มค่ากับความทุ่มเทหน่อย"

ถ้าถามผมว่าทำไมถึงชอบงานสายอสังหาริมทรัพย์ คงเป็นเพราะผมชอบให้บริการ ชอบเทคแคร์ การเป็นนายหน้าจะต้องเข้าใจทั้งคนซื้อและคนขาย ว่าทั้งสองฝ่าย มีความต้องการร่วมกันนั้นอยู่ที่ไหน ผมก็จะเป็นคนบริหารจัดการตรงนั้น ให้ลงตัวที่สุด ผมว่ามันท้าทายดีนะ ได้เจอคนใหม่ ๆ ปัญหาใหม่ ๆ ใช้ความคิดในการแก้ปัญหาและตอบโจทย์ความต้องการ

ยังจำได้ดีสำหรับเคสเช่าที่ประทับใจที่สุด ตอนนั้นมีลูกค้าต้องการเช่าสำนักงานในสุขุมวิท ลูกค้าคนแรกมาขอรายละเอียด ขอราคาเรียบร้อยแล้ว ก็พยายามติดต่อนิติบุคคลเอง โดยที่ไม่อยากผ่านเอเจนต์ เพราะไม่ต้องการเสียค่านายหน้า แต่ด้วยความที่เจ้าของ ที่ได้รับการติดต่อจากลูกค้ารายแรกนั้น ทราบว่าเขาไม่ได้มาจากทางเรา โดยแอบติดต่อเจ้าของเอง เพราะหวังว่าจะได้ค่าเช่าที่ถูกลง

เมื่อเจ้าของได้ทราบเรื่อง ก็ทำการยกเลิกสัญญาลูกค้ารายแรก ทั้งที่อยู่ในระยะที่กำลังตกลงกันเรื่องราคา หลังจากนั้นไม่นานผมก็มีลูกค้ารายที่ 2 ซึ่งท้ายที่สุดก็ตกลงเซ็นสัญญาเช่ากัน ความประทับใจคือ ได้ทั้งลูกค้าที่ดี และเจ้าของทรัพย์ที่ดี ถือว่าโชคดีมากที่ได้เจอกับนักธุรกิจที่ให้ความสำคัญกับความซื่อสัตย์ ตรงไปตรงมา

ส่วนเคสที่ยากที่สุด น่าจะเป็นเคสให้เช่าทาวน์โฮมในลาดพร้าว เนื่องจากว่าเป็นบ้านเก่า ผู้เช่าเดิมอยู่มา 20 ปี สภาพจึงโทรมมาก ด้วยความที่บ้านหลังนี้อยู่ลึก และก็เหมาะกับผู้ที่มีรายได้น้อยในการเช่า เราก็แนะนำเจ้าของบ้านว่าควรจะรีโนเวทใหม่ จึงจะปล่อยเช่าได้ง่ายขึ้น หลังจากที่แนะนำเจ้าของเขาก็เชื่อเราและรีโนเวทบ้านใหม่ หลังจากนั้นไม่นานก็มีลูกค้ามาเช่าก็ปิดเคสได้

ดูเหมือนจะง่ายแต่ก็ไม่ง่าย กว่าจะทำให้เจ้าของบ้านยอมรีโนเวทบ้านใหม่ได้นั้น เราต้องทำงานไปก่อน ให้ลูก ให้เจ้าของบ้านเห็นว่าลูกค้ามีความต้องการอย่างไรก่อนที่จะเช่าบ้าน เป็นงานที่ผมต้องใช้เวลา ใช้ความเข้าใจ แล้วค่อย ๆปรับทัศนคติของเจ้าของบ้าน ให้เจ้าของบ้านได้เข้าใจความต้องการของผู้เช่า

พอได้มาทำสายอสังหาฯ ผมก็รู้เลยว่า ใช้เอเจนต์ดีกว่าไม่ใช้ แต่ควรใช้มืออาชีพ มีตัวตนเป็นที่รู้จักในแวดวง หรือมีบริษัทฯ จะดีกว่าใช้บริการเอเจนต์มือสมัครเล่น เพราะบริการซื้อ-ขาย-เช่า เอเจนต์จะเป็นส่วนช่วยได้อย่างมาก ทั้งเรื่องการทำเอกสาร งานกฏหมาย หรือแม้แต่เรื่องการต่อรองราคา

บางทีลูกค้าไม่อยากตอบเรื่องราคาเอง หรือไม่สะดวกที่จะต้องคอยรับสาย เปิดบ้าน เอเจนต์จะเป็นผู้รู้ข้อมูลเกี่ยวกับท้องที่ กฎหมาย พื้นที่ ประเมินความเป็นไปได้กับโจทย์ของลูกค้าที่ชัดเจนกว่า และหากเจอกับเอเจนต์เก่ง ๆ จะช่วยทำการตลาดได้ดีมาก รวมท้้งติดต่อกับผู้สนใจ ช่วยประหยัดเวลาได้อย่างมาก เจ้าของไม่ต้องเสียเวลา และทำในสิ่งที่ไม่ถนัด หรือไม่ต้องไปวุ่นวายกับเอกสารด้วยตัวเอง

สมัยนี้โชคดีมาก ๆ ที่มีเครื่องมือออนไลน์มาช่วยในเรื่องของการหาข้อมูล ลูกค้าสามารถการคัดกรอง เลือกสเปกความต้องการของลูกค้าไม่ว่าจะเป็นราคา พื้นที่ รูป ทำเลช่วยให้เอเจนต์ทำงานน้อยลง และสามารถรู้ความต้องการของลูกค้าจำนวนมากได้ว่าต้องการอะไร ทำให้เรานำข้อมูลนั้นไปทำงานต่อได้

โดยเฉพาะอย่างยิ่งพวกโซเชียลมีเดียที่มีการสนับสนุนโฆษณา ยิ่งทำให้คนเห็นมากขึ้น ก็ประหยัดเวลาได้มากขึ้น เจอกลุ่มเป้าหมายง่ายขึ้น

เว็บไซต์สื่อกลางอสังหาฯ ก็มีความสำคัญมาก ๆ เพราะไม่ใช่มีแค่ข้อมุลเรื่องทรัพย์ที่จะซื้อ-ขาย-เช่า แต่ยังมีการให้ข้อมูลข่าวสารใหม่ ๆ เช่น การปรับกฏหมาย ภาษี การปรับผังเมือง โดนเฉพาะการรีวิวก็สำคัญ เพราะทำให้ลูกค้าตัดสินใจได้ง่ายขึ้นด้วย โดยส่วนตัวที่ผมใช้ประจำอยู่หลายเว็บไซต์ หนึ่งในนั้นคือ DDproperty นอกจากนั้นก็จะเป็นกรุ๊ปอสังหาฯ ใน Facebook และ LINE Official

ข้อดีของกลุ่มเว็บไซต์สื่อกลางอสังหาในปัจจุบัน คือ เหมาะกับลูกค้าที่ตั้งใจเข้ามาหาโดยเฉพาะ มีความต้องการที่ชัดเจน สิ่งที่ต้องการให้เพิ่มคือฟังก์ชั่นที่กรอกความต้องการของผู้ใช้บริการเว็บไซต์ที่ใช้งานง่ายมากขึ้น หรือกำหนดกลุ่มเป้าหมายที่ต้องการอสังหาฯ ได้ชัดเจนขึ้น จะมีประโยชน์กับเจ้าของทรัพย์ และกลุ่มเอเจนต์มากขึ้น

พอมาทำสายนี้ผมสนุกมาก และมีความรู้ใหม่ ๆ เข้ามาทุกวัน ได้เห็นรุ่นพี่หลาย ๆ คนประสบความสำเร็จไปถึงจุดที่มีโครงการบ้านจัดสรรของตัวเอง ผมก็มองว่านี่เป็นสิ่งที่น่าสนใจ ในแง่กำไรอาจไม่ได้มากเท่าโครงการแบรนด์ใหญ่ ๆ แต่เป็นการลงทุนที่มองด้านไหนก็คุ้มค่า ถ้าได้เป็นเจ้าของโครงการแปลงกลาง ๆ ในย่านฮิต ๆ นี่ แค่คิดก็น่าสนุกแล้ว