แต่งบ้านสไตล์ luxury 5 เทคนิค แต่งให้หรู ดูแล้วแพง

ซื้อบ้านมาแล้วสักหลัก การตกแต่งบ้านก็เป็นเรื่องสำคัญ เชื่อว่าการตกแต่งภายในบ้านให้ออกมาดูแพง น่าอยู่ เป็นวิธีการแต่งบ้านที่หลายคนชื่นชอบ การแต่งบ้านสไตล์ luxury จึงมีความสำคัญไม่แพ้การเลือกแบบบ้าน ทั้งนี้ การแต่งบ้านให้ออกมาดูหรู ดูแพง สมกับความ luxury ของบ้านไม่ใช่เรื่องยาก โดยมี 5 เทคนิคที่เจ้าของบ้านหรูควรรู้ดังนี้

บ้าน luxury จะแบ่งกันที่ราคา โดยแบ่งเป็น 3 ระดับ ได้แก่

– บ้านระดับ luxury จะมีราคาตั้งแต่ 20-50 ล้านบาท

– บ้าน super luxury จะมีราคา 50-80 ล้านบาท

– บ้าน ultimate luxury จะมีราคาตั้งแต่ 80 ล้านบาทขึ้นไป

สำหรับ บ้าน luxury จะมีฟังก์ชันที่เหมือนกับบ้านทั่วไป แต่ฟังก์ชันต่าง ๆ จะมาพร้อมความจัดเต็ม เช่น ส่วนครัวที่การแบ่งสัดส่วนเป็นโซนทำกับข้าว และโซนทำขนม

นอกจากนั้นยังมีฟังก์ชันอื่น ๆ ที่สะท้อนความหรูหราในการอยู่อาศัย เช่น Walk-in Closet สำหรับเก็บเสื้อผ้า เครื่องประดับ รองเท้า, Collection Room ห้องสำหรับเก็บของสะสมต่าง ๆ ตามไลฟ์สไตล์ของเจ้าของบ้าน, Guest Lounge สำหรับการสังสรรค์หรือปาร์ตี้, Working Space พื้นที่สำหรับทำงาน และลิฟต์ เนื่องจาก บ้าน luxury ในเมืองส่วนใหญ่มักจะเป็นบ้าน 3 ชั้นขึ้นไป และเพื่อรองรับผู้สูงอายุ ซึ่งไม่จำเป็นต้องอยู่แค่ชั้นล่างเท่านั้น

การแต่งบ้านสไตล์ luxury คือการแต่งบ้านในสไตล์ที่เน้นความหรูหรา จุดเด่นอยู่ที่ความเงาวาว เปล่งประกาย รวมถึงการเลือกใช้วัสดุพรีเมียม และดูแพง ซึ่งการการแต่งบ้านสไตล์ luxury เป็นสไตล์การตกแต่งที่มีราคาสูง

โทนสีในการตกแต่ง เป็นสิ่งที่ควรให้ความสำคัญเป็นอันดับต้น ๆ ในการแต่งบ้านสไตล์ luxury โดยโทนสีที่เหมาะสำหรับบ้านสไตล์นี้ มีอยู่ด้วยกัน 4 โทนสี ได้แก่

1. โทนสีขาว-ครีม-เบจ โทนสีกลุ่มนี้จะดูเรียบง่าย สบายตา ขณะที่มีความหรูหรา ดูดี มีรสนิยม เหมาะสำหรับห้องที่ต้องการตกแต่งแบบหรูหราแต่เรียบง่าย อาทิ Working Space ห้องครัว

2. โทนสีน้ำตาล-ทอง โทนสีนี้นับได้ว่าเป็นที่นิยมสำหรับการแต่งบ้านสไตล์ luxury ยิ่งหากนำมามิกซ์แอนด์แมทช์กันจะยิ่งเพิ่มความหรูหรามากขึ้น เหมาะสำหรับห้องที่ต้องการโชว์ความหรูหรา เช่น ห้องรับแขก ห้องนั่งเล่น

3. โทนสีดำ-เทา โทนสีนี้จะช่วยส่งให้ห้องดูเรียบหรู ดูดีในสไตล์โมเดิร์น เหมาะกับห้องที่สื่อถึงความสนุก เช่น Collection Room Guest Lounge

4. โทนสีเมทัลลิค ความแวววาวและความเปล่งประกายของสีเมทัลลิก ให้ความรู้สึกหรูหรา เหมาะกับการตกแต่งทั้งภายในและภายนอก เข้ากับทุกสไตล์การตกแต่งหลากหลายแบบ

นอกจากโทนสีที่ใช้ในการตกแต่ง วัสดุที่จะช่วยเสริมความหรูหราในการแต่งบ้านสไตล์ luxury ก็มีความสำคัญไม่แพ้กัน โดยการแต่งบ้านสไตล์ luxury มักจะมีวัสดุเหล่านี้เป็นองค์ประกอบในการตกแต่งเสมอ

1. โลหะที่พื้นผิวมีความมันวาว เช่น สแตนเลส อะลูมิเนียมขัดเงา ทองเหลือง หรือวัสดุสีเมทัลลิค ซึ่งจะช่วยเพิ่มความหรูหราจากการสะท้อนของแสงและเงา ทำให้ห้องดูมีความเนี๊ยบ ดูแพง โดยส่วนใหญ่จะใช้เป็นโครงสร้างเฟอร์นิเจอร์ หรือเส้นตัดบริเวณผนังตกแต่ง

2. หินอ่อน เป็นวัสดุอีกประเภทหนึ่งที่นิยมใช้ในการแต่งบ้านสไตล์ luxury ทั้งแบบเป็นวัสดุปูพื้น ใช้ตกแต่งบริเวณผนังกำแพง ใช้เป็นหน้าบานของเฟอร์นิเจอร์ หรือท็อปเคาท์เตอร์ครัว

3. กระจก นิยมนำมาใช้ในการแต่งบ้านสไตล์ luxury ทั้งการทำเป็นผนังบ้าน หรือการนำกระจกเงามาใช้ในการกรุผนังกำแพง ทำเป็นหน้าบานเฟอร์นิเจอร์ รวมทั้งการใช้กระจกเงาบานสวยเป็นเครื่องประดับบ้าน

4. ผ้า อีกหนึ่งวัสดุที่สื่อถึงความหรูหรา ซึ่งนิยมนำมาใช้กรุผนัง โซฟา เก้าอี้ หัวเตียง โดยการแต่งบ้านสไตล์ luxury ด้วยผ้า มักเน้นสีเอิร์ธโทน สีครีม และสีเทา

นอกจากตัวบ้านและฟังก์ชันของบ้าน ความ luxury ยังสามารถสื่อออกมาได้ทุกองค์ประกอบของบ้าน และไอเท็มเหล่านี้ก็เป็นสิ่งที่จะขาดไปเสียมิได้สำหรับการแต่งบ้านสไตล์ luxury

1. พรม นอกจากจะเป็นไอเท็มที่จะช่วยเพิ่มความหรูหรา ยังช่วยเพิ่มเลเยอร์ให้พื้นห้อง เพียงนำพรมที่มีขนหนานุ่ม โทนสีธรรมชาติลวดลายคลาสสิก หรือสีเข้มลวดลายกราฟฟิกมาตกแต่ง ก็จะเพิ่มเสน่ห์ความหรูหราแบบง่าย ๆ ให้บ้านได้อย่างไม่น่าเชื่อ

2. แชนเดอร์เลียร์ หรือ โคมระย้า นับเป็นไอเท็มที่เป็นสัญลักษณ์แห่งความ luxuryมักจะถูกนำใช้กับห้องโถง ห้องรับแขก หรือห้องรับประทานอาหาร อย่างไรก็ตาม การเลือกแชนเดอร์เลียร์ ต้องเลือกให้เหมาะสมกับแบบบ้าน และขนาดของพื้นที่ที่จะทำการติดตั้ง ไม่เช่นนั้นแทนที่จะได้ความ luxury จะกลายเป็นความรกตาแทน

3. คริสตัล เป็นอีกกิมมิคเล็ก ๆ ในการแต่งบ้านสไตล์ luxury เพียงเลือกใช้ประดับหูจับของเฟอร์นิเจอร์ต่าง ๆ เช่น หูจับตู้โชว์หรือหูจับลิ้นชัก ความวิบวับเป็นประกายของคริสตัลก็จะช่วยเพิ่มความสวยงามโดดเด่นให้กับเฟอร์นิเจอร์และยังช่วยเสริมความหรูหรา ดูแพงได้อีกด้วย

4. อุปกรณ์เพิ่มกลิ่นหอมภายในบ้าน ซึ่งอาจจะเป็นกลิ่นหอมจากดอกไม้สดที่นำมาใช้ประดับบ้าน ก้านน้ำหอม หรือเทียนหอม ซึ่งในสองกรณีหลังควรเลือกแบบที่มีมีกลิ่นหอมละมุน ได้กลิ่นแล้วรู้สึกสดชื่น ผ่อนคลาย ไม่หอมหวานจนเลี่ยนหรือฉุนจนเกินไป เพราะอาจจะทำให้คนในบ้านรู้สึกเวียนหัวจากกลิ่นได้

5. ของโชว์ที่หายาก โดยอาจเป็นของมีราคาสูง หรือดีไซน์แปลก และควรเป็นของที่ค่อนข้างมีเอกลักษณ์ ทำด้วยความปราณีต เมื่อมองแล้วจะเห็นความแตกต่างอย่างชัดเจนจากของแต่งบ้านจุกจิกทั่วไป