ในยามจำเป็นที่ต้องใช้เงิน ควรเลือกกู้เงินในระบบ เช่น การเลือกใช้บัตรกดเงินสด บัตรเครดิต เพราะการกู้นอกระบบจะมีอัตราดอกเบี้ยที่สูงกว่ามาก
คนเรามีโอกาสประสบกับเหตุการณ์ที่ทำให้ต้องใช้เงินแบบเร่งด่วน ไม่ว่าจะเป็นคนในครอบครัวหรือตนเองเจ็บป่วยต้องเข้ารับการรักษาพยาบาล เกิดภัยธรรมชาติต้องใช้เงินซ่อมบ้าน, ซ่อมรถ หรือแม้กระทั่งตกงานขาดรายได้
หากต้องประสบกับเหตุการณ์เหล่านี้ แล้วเงินออมที่เก็บไว้มีไม่เพียงพอ ก็จำเป็นต้องกู้ยืมเงินเพื่อมาใช้จ่าย ซึ่งหลายคนมักจะนึกถึงเงินกู้นอกระบบ เพราะหยิบยืมง่าย แต่อย่าลืมว่าเงินกู้นอกระบบมีดอกเบี้ยที่สูงมาก อาจสูงถึง 20% ต่อเดือน หรือ 240% ต่อปีเลยทีเดียว
ดังนั้น หากจำเป็นต้องหาแหล่งเงินกู้ในยามฉุกเฉิน ขอแนะนำให้เป็นการกู้เงินในระบบ ซึ่งแหล่งเงินกู้ยามฉุกเฉินที่ K-Expert ธนาคารกสิกรไทยขอแนะนำมีดังนี้
อ่านหัวข้อที่คุณสนใจ
บัตรกดเงินสด (Emergency Cash Advance)
บัตรกดเงินสดเป็นบัตรที่ให้วงเงินกู้สำหรับการกดเงินสด ข้อดีคือ กรณีมีความจำเป็นต้องการใช้เงินด่วน สามารถเบิกถอนเงินได้ง่ายที่ตู้เอทีเอ็ม โดยทั่วไป การกดเงินที่ตู้เอทีเอ็มของสถาบันการเงินผู้ออกบัตรจะไม่มีค่าธรรมเนียมในการกดเงิน
สำหรับอัตราดอกเบี้ยของบัตรกดเงินสดจะอยู่ที่ 20-27% ต่อปี ขึ้นอยู่กับสถาบันการเงิน โดยสามารถจ่ายคืนขั้นต่ำ 5% ของยอดใช้จ่าย
ทั้งนี้ ดอกเบี้ยจากบัตรกดเงินสดจะเริ่มคิดเมื่อมีการกดถอนเงินออกมาใช้จ่าย ถ้ายังไม่มีการกดถอนเงิน จะยังไม่เสียดอกเบี้ยหรือค่าธรรมเนียม ดังนั้น การทำบัตรกดเงินสดติดตัวไว้เป็นทางเลือกหนึ่งที่ช่วยบรรเทาความเดือดร้อนยามต้องการใช้เงินฉุกเฉินได้

บัตรเครดิต (Credit Card)
บัตรเครดิตเป็นบัตรที่ช่วยให้ชีวิตมีความสะดวกสบายในการจับจ่ายใช้สอย ไม่ต้องพกเงินสดจำนวนมาก เพราะยังไม่ต้องจ่ายเงินสดออกไปก่อน และค่อยชำระเงินในภายหลัง จึงจัดเป็นแหล่งเงินยามฉุกเฉินทางหนึ่ง
โดยถ้าคุณมีความจำเป็นต้องซื้อสินค้า หรือบริการใด ๆ เช่น ซื้ออาหารหรือเสื้อผ้าที่จำเป็นต่อการดำรงชีวิตประจำวัน หรือต้องรักษาตัวในโรงพยาบาล แต่เงินออม ณ ขณะนั้นมีไม่เพียงพอ
หากร้านค้าหรือผู้ประกอบการนั้น ๆ รับบัตรเครดิต คุณสามารถจ่ายชำระค่าสินค้าหรือบริการด้วยบัตรเครดิตก่อนได้ และถ้าสามารถชำระค่าสินค้าหรือบริการได้ภายในวันที่ครบกำหนดชำระเงิน ก็จะไม่ต้องเสียดอกเบี้ย โดยทั่วไปจะมีระยะเวลาปลอดดอกเบี้ยประมาณ 45-55 วัน ขึ้นอยู่กับสถาบันการเงินผู้ออกบัตร
นอกจากนี้ บัตรเครดิตยังมีคุณสมบัติของการเป็นแหล่งเงินกู้ยามฉุกเฉินอีกตัวเลือกหนึ่ง คือ ผู้ถือบัตรสามารถกดเงินสดจากบัตรเครดิตได้
ทั้งนี้ บัตรเครดิตจะคิดค่าธรรมเนียมในการกดเงินสดอยู่ที่ 3% ของยอดเงินที่กด จึงแนะนำว่าหากจำเป็นต้องกดเงินสด ควรใช้เป็นบัตรกดเงินสด เนื่องจากไม่มีค่าธรรมเนียมในการกดเงิน
สำหรับอัตราดอกเบี้ยบัตรเครดิตจากการค้างชำระค่าสินค้า หรือชำระคืนเพียงบางส่วน รวมถึงการกดเงินสดจะอยู่ที่ประมาณ 18% ต่อปี
เทคนิคการใช้บัตรเครดิตให้คุ้มค่า
6 เทคนิค การใช้บัตรเครดิตให้คุ้มค่า อีกหนึ่งทิปส์ประหยัดเงินซื้อบ้านในอนาคต
หากจำเป็นต้องใช้เงินด่วน คุณสามารถกู้ยืมเงินจากแหล่งเงินกู้ที่แนะนำได้ อย่างไรก็ตาม เพื่อป้องกันปัญหาขาดสภาพคล่องทางการเงิน และต้องมีภาระดอกเบี้ยจ่ายจากการกู้เงิน ขอแนะนำให้มีการเก็บออมเงินในสินทรัพย์ที่มีสภาพคล่องสูง
ยกตัวอย่างเช่น บัญชีเงินฝากออมทรัพย์, เงินฝากประจำเผื่อฉุกเฉิน หรือกองทุนรวมตราสารหนี้ระยะสั้นที่สามารถไถ่ถอนได้ทุกวันทำการ ประมาณ 6 เท่าของค่าใช้จ่ายต่อเดือน เพราะหากเกิดเหตุการณ์ที่ต้องใช้เงินอย่างเร่งด่วน จะได้นำเงินออมส่วนนี้ออกมาใช้จ่ายได้ทันทีที่ต้องการ
สินเชื่อปิดบัตรเครดิต
เช็กสินเชื่อปิดบัตรเครดิตจากหลายธนาคารได้ที่นี่
เรื่องข้างต้นนี้เขียนโดย นิชฌานี ฉันทศาสตร์ CFP®K-Expert ฝ่ายวางแผนและให้คำปรึกษาลูกค้าบุคคล ธนาคารกสิกรไทย หากมีข้อสงสัยหรือต้องการปรึกษาวางแผนเพิ่มเติม สามารถปรึกษากับ K-Expert ธนาคารกสิกรไทย ได้ที่ K-Expert@kasikornbank.com
ข้อจำกัดความรับผิดชอบ: ข้อมูลนี้จัดทำขึ้นเพื่อเป็นข้อมูลทั่วไปเท่านั้น DDproperty by PropertyGuru ซึ่งอยู่ภายใต้การดูแลของบริษัท ออลพร็อพเพอร์ตี้ มีเดีย จำกัด ไม่สามารถรับรองหรือรับประกันเกี่ยวกับข้อมูล รวมทั้งไม่สามารถรับรองหรือรับประกันใด ๆ เกี่ยวกับความเหมาะสม สำหรับวัตถุประสงค์เฉพาะใด ๆ ของข้อมูล ตามขอบเขตสูงสุดที่กฎหมายอนุญาต แม้ว่าเราได้พยายามอย่างเต็มที่ เพื่อให้แน่ใจว่าข้อมูลที่ให้ไว้ในบทความนี้ถูกต้อง เชื่อถือได้ และครบถ้วน ณ เวลาที่เขียน แต่ข้อมูลที่ให้ไว้ในบทความนี้ไม่ควรนำไปใช้ในการตัดสินใจทางการเงิน, การลงทุนอสังหาริมทรัพย์ หรือทางกฎหมายทันที ผู้อ่านไม่ควรใช้ข้อมูลในบทความ แทนคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญที่ผ่านการฝึกอบรมซึ่งสามารถพิจารณาข้อเท็จจริงและสถานการณ์ส่วนตัวของคุณได้ ทั้งนี้ เราไม่สามารถรับผิดชอบใด ๆ หากคุณเลือกที่จะนำข้อมูลไปใช้เพื่อประกอบการตัดสินใจ