ที่อยู่อาศัยถือเป็นปัจจัย 4 ที่สำคัญที่ทุกคนต่างหวังจะมีเป็นของตนเอง แต่สงสัยไหมว่าคนส่วนใหญ่ใช้เหตุผลอะไรในการเลือกที่อยู่อาศัยกันบ้าง แล้วเชื่อหรือไม่ว่าราคาไม่ได้เป็นปัจจัยสำคัญที่คนส่วนใหญ่ใช้เป็นเหตุผลหลักในการเลือกที่อยู่อาศัย ลองมาดูเหตุผลจากผลสำรวจความคิดเห็นของผู้บริโภคต่อสภาพตลาดอสังหาริมทรัพย์ DDproperty Consumer Sentiment Survey รอบล่าสุด ที่มีผู้เข้าร่วมตอบแบบสอบถามร่วม 1,000 คน ว่าคนส่วนใหญ่ใช้อะไรเป็นเหตุผลในการเลือกที่อยู่อาศัยกันบ้าง เพื่อประกอบการตัดสินใจในการเลือกที่อยู่อาศัย หรือลงทุน
1. ทำเลที่ดีต้องเดินทางสะดวก
ทำเลยังคงเป็นเหตุผลหลักในการเลือกที่อยู่อาศัยสูงถึง 81% จากผู้เข้าร่วมตอบแบบสอบถามทั้งหมด ทำเลที่ได้รับความสนใจมากถึง 60% คือทำเลที่ใกล้กับระบบขนส่งสาธารณะ อาทิ รถไฟฟ้า และรถประจำทาง 51% ต้องการที่อยู่อาศัยที่ใกล้กับแหล่งงาน 38% ต้องการที่อยู่อาศัยใกล้กับสถานพยาบาล 32% ต้องการที่อยู่อาศัยใกล้กับแหล่งช้อปปิ้ง และ 25% ต้องการที่อยู่อาศัยใกล้กับสวนสาธารณะ
โดยผู้ที่ทำแบบสอบถามถึง 1 ใน 3 หรือประมาณ 32% ต้องการที่อยู่อาศัยที่ห่างจากระบบขนส่งสาธารณะประมาณ 400-500 เมตร แต่ตัวเลขที่น่าสนใจคือ กลุ่มผู้สูงอายุ อายุประมาณ 60-69 ปี กลับไม่ให้ความสนใจระยะทางห่างจากระบบขนส่งสาธารณะ ซึ่งมีถึง 32% ของผู้เข้าร่วมตอบแบบสอบถามทั้งหมด
2. ความปลอดภัยเพิ่มความอุ่นใจในการอยู่อาศัย
เรื่องความปลอดภัยเป็นอับดับที่สองที่คนส่วนใหญ่ให้ความสำคัญมากถึง 44% จากผู้เข้าร่วมตอบแบบสอบถามทั้งหมด เพราะการอยู่อาศัยในสังคมที่ดีย่อมมีความสุขมากกว่าอยู่ในสังคมที่ต้องระแวดระวังในความปลอดภัยอยู่ตลอดเวลา
ทั้งนี้ ปัจจุบันแต่ละโครงการที่อยู่อาศัยไม่ว่าจะอยู่ในทำเลไหนต่างก็หันมาให้ความสำคัญในเรื่องระบบรักษาความปลอดภัยมากขึ้น เช่น เข้า-ออกผ่านระบบ Keycard access ระบบ CCTV พนักงานรักษาความปลอดภัยตลอด 24 ชั่วโมง ระบบกล้องวงจรปิดภายในบ้าน รวมถึงระบบ Motion Sensor ตรวจจับความเคลื่อนไหวภายในบ้าน พร้อมแจ้งเตือนผ่านโทรศัพท์มือถือ
3. ราคาจับต้องได้ ไม่ไกลเกินเอื้อม
ปัจจัยเรื่องราคากลายเป็นอันดับที่สาม ที่มีผู้ให้ความสำคัญ 36% จากผู้เข้าร่วมตอบแบบสอบถามทั้งหมด ซึ่งปฏิเสธไม่ได้ว่าราคาคืออุปสรรคสำคัญที่ทำให้คนส่วนใหญ่ไม่สามารถเป็นเจ้าของที่อยู่อาศัยได้ โดยมากถึง 33% มองว่าราคาที่อยู่อาศัยสูงเกินไป นอกจากนี้ยังพบว่า คนส่วนใหญ่ถึง 53% ที่ต้องการซื้อที่อยู่อาศัยในช่วง 6 เดือนต่อจากนี้ มีงบซื้อที่อยู่อาศัยไม่ถึง 1 ล้านบาท ส่วนอีก 31% มีงบซื้อที่อยู่อาศัย อยู่ในช่วงราคา 2-3 ล้านบาท
อย่างไรก็ตาม แม้ว่าคนส่วนใหญ่จะมองว่าราคาที่อยู่อาศัยยังสูงและเพิ่มขึ้นเร็วเกินไป แต่ก็ยังมีความพึงพอใจต่อบรรยากาศโดยรวมของอสังหาริมทรัพย์ไทย ซึ่งคนส่วนใหญ่ยังคิดว่าสามารถซื้ออสังหาริมทรัพย์เป็นของตนเองได้
อย่ามองข้ามเทรนด์บ้านผู้สูงอายุ
นอกจาก 3 เหตุผลหลักที่คนส่วนใหญ่ใช้เลือกที่อยู่อาศัยแล้ว เทรนด์ใหม่ที่ไม่ควรมองข้ามคือ บ้านผู้สูงอายุ จากผู้เข้าร่วมตอบแบบสอบถาม DDproperty Consumer Sentiment Survey รอบล่าสุด พบว่า 32% ของผู้เข้าร่วมตอบแบบสอบถามทั้งหมด กำลังมองหาที่อยู่อาศัยสำหรับผู้สูงอายุ หรือ Senior Housing นอกจากนี้ 27% ยังมองหาที่อยู่อาศัยที่เอื้อต่อการใช้ชีวิตของผู้สูงอายุ เช่น มีทางลาดรองรับการใช้รถเข็น และอีก 23% ยังมองหาที่อยู่อาศัยที่ใกล้ศูนย์ดูแลผู้สูงอายุ
นอกจากนี้ยังพบว่า 34% มีความกังวลว่าจะไม่สามารถจ่ายค่าที่อยู่อาศัยได้อย่างเพียงพอเมื่อตนเองแก่ตัวลง 21% มีความกังวลว่าจะต้องอยู่คนเดียวยามแก่ 15% กำลังมองหาที่อยู่อาศัยที่เล็กลงเพื่ออยู่อาศัยยามแก่ 6% ไม่ต้องการเปลี่ยนที่อยู่อาศัยจากทำเลเดิมที่ตนเองอยู่ในปัจจุบัน และ 6% กลัวที่จะต้องไปอยู่บ้านพักคนชรา
จากข้อมูลข้างต้นคงทำให้มองเห็นภาพกันแล้วว่าคนส่วนใหญ่ใช้เหตุผลอะไรในการเลือกที่อยู่อาศัย รวมถึงเทรนด์ที่กำลังมาในปัจจุบัน ซึ่งน่าจะตอบโจทย์ผู้ที่ต้องการซื้อที่อยู่อาศัย โดยเฉพาะมือใหม่ว่าควรจะให้ความสำคัญกับปัจจัยใดมากที่สุด รวมทั้งผู้ที่กำลังมองหาโอกาสในการซื้อที่อยู่อาศัยเพื่อการลงทุน
หากคุณมีข้อสงสัยเกี่ยวกับการซื้อบ้าน คู่มือซื้อขาย สามารถเป็นตัวช่วยตอบได้ทุกคำถาม พร้อมบอก รายละเอียดการคำนวณสินเชื่อบ้านให้คุณตัดสินใจซื้อได้ง่ายขึ้น
ข้อจำกัดความรับผิดชอบ: ข้อมูลนี้จัดทำขึ้นเพื่อเป็นข้อมูลทั่วไปเท่านั้น DDproperty by PropertyGuru ซึ่งอยู่ภายใต้การดูแลของบริษัท ออลพร็อพเพอร์ตี้ มีเดีย จำกัด ไม่สามารถรับรองหรือรับประกันเกี่ยวกับข้อมูล รวมทั้งไม่สามารถรับรองหรือรับประกันใด ๆ เกี่ยวกับความเหมาะสม สำหรับวัตถุประสงค์เฉพาะใด ๆ ของข้อมูล ตามขอบเขตสูงสุดที่กฎหมายอนุญาต แม้ว่าเราได้พยายามอย่างเต็มที่ เพื่อให้แน่ใจว่าข้อมูลที่ให้ไว้ในบทความนี้ถูกต้อง เชื่อถือได้ และครบถ้วน ณ เวลาที่เขียน แต่ข้อมูลที่ให้ไว้ในบทความนี้ไม่ควรนำไปใช้ในการตัดสินใจทางการเงิน, การลงทุนอสังหาริมทรัพย์ หรือทางกฎหมายทันที ผู้อ่านไม่ควรใช้ข้อมูลในบทความ แทนคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญที่ผ่านการฝึกอบรมซึ่งสามารถพิจารณาข้อเท็จจริงและสถานการณ์ส่วนตัวของคุณได้ ทั้งนี้ เราไม่สามารถรับผิดชอบใด ๆ หากคุณเลือกที่จะนำข้อมูลไปใช้เพื่อประกอบการตัดสินใจ