3 ภูมิคุ้มกัน รีบสร้างไว้ ก่อนผ่อนบ้านไม่ไหว

DDproperty Editorial Team
3 ภูมิคุ้มกัน รีบสร้างไว้ ก่อนผ่อนบ้านไม่ไหว

“วางแผนเก็บเงินดาวน์บ้านให้ได้อย่างน้อย 20% ของราคาบ้าน และผ่อนบ้านไม่เกิน 30% ของรายได้ต่อเดือน เพื่อไม่เป็นภาระที่หนักเกินไป”

บ้านเป็นหนึ่งในความฝันของหลายๆ คน ถ้าไม่มีเงินก้อนใหญ่เพียงพอซื้อบ้านด้วยเงินสด ก็สามารถใช้วิธีขอสินเชื่อจากธนาคารได้ ทั้งนี้ เมื่อขอสินเชื่อจากธนาคาร ไม่ใช่เพียงแค่คิดว่าทำอย่างไรให้กู้บ้านผ่าน แต่ต้องคิดด้วยว่าทำอย่างไรให้ผ่อนบ้านไหว ซึ่งเราอาจเคยได้ยินหลายๆ คนที่ผ่อนบ้านไปแล้ว เริ่มมีปัญหาผ่อนบ้านไม่ไหว พยายามหาทุกวิถีทางเพื่อให้รอดพ้นวิกฤตไม่ต้องถูกยึดบ้าน แต่จะดีกว่าไหม หากเรา “สร้างภูมิคุ้มกัน” ให้ตัวเองก่อนที่จะผ่อนบ้านไม่ไหว ซึ่งทำอย่างไรได้บ้างนั้น K-Expert ธนาคารกสิกรไทย มีคำแนะนำ
ภูมิคุ้มกันเรื่องแรก “รู้ความสามารถในการผ่อน”
ในการขอสินเชื่อ ธนาคารจะมีการกำหนดให้ผู้กู้มีภาระผ่อนสูงสุดได้ไม่เกิน 40-60% ของรายได้ต่อเดือน โดยหากมีรายได้ที่สูง ธนาคารจะให้มีสัดส่วนหรือความสามารถในการผ่อนที่สูงขึ้น ยกตัวอย่าง เงินเดือน 20,000 บาท ธนาคารให้มีภาระผ่อนต่อเดือนได้ไม่เกิน 40% ของรายได้ต่อเดือน ดังนั้น หากไม่มีภาระผ่อนอย่างอื่น เช่น รถยนต์ สินเชื่อส่วนบุคคล จะสามารถผ่อนบ้านได้เดือนละ 8,000 บาท คิดเป็นวงเงินกู้บ้านที่ได้รับประมาณล้านต้นๆ (คิดคร่าวๆ กู้บ้าน 1 ล้านบาทจะผ่อนเดือนละประมาณ 7 พันบาท)
การที่ธนาคารกำหนดสัดส่วนผ่อนบ้านสูงสุดต่อเดือนก็เพื่อไม่ให้ผู้กู้มีภาระผ่อนที่สูงหรือหนักเกินไป เพื่อป้องกันปัญหาผ่อนไม่ไหวตามมา จริงๆ ตัวเลขผ่อนหนี้ต่อเดือนที่ K-Expert แนะนำ คือ ไม่เกิน 30% ของรายได้ต่อเดือน เพราะกู้ซื้อบ้าน ไม่ได้มีแค่ค่าผ่อนที่เพิ่มเข้ามาทุกเดือน แต่ยังมีค่าใช้จ่ายอย่างค่าส่วนกลาง ค่าประกัน ค่าน้ำไฟ จิปาถะมากมายที่ต้องกันเงินไว้
ทั้งนี้ เพื่อให้มั่นใจว่า หากกู้บ้านผ่านแล้ว บ้านจะไม่กลายมาเป็นภาระให้ต้องปวดหัว โดยแนะนำว่า ก่อนจะกู้ซื้อบ้าน ลองสำรวจค่าใช้จ่ายในแต่ละเดือนว่าอยู่ที่ประมาณเท่าไร เมื่อหักออกจากเงินเดือนหรือรายได้แล้ว เหลือเงินแค่ไหน เพียงพอสำหรับค่าผ่อนบ้านและค่าใช้จ่ายที่ตามมาในแต่ละเดือนหรือไม่ เพราะแต่ละคนมีภาระค่าใช้จ่ายแตกต่างกัน เช่น บางคนมีลูกต้องกันเงินสำหรับค่าเรียนและค่าใช้จ่ายของลูก บางคนต้องกันเงินสำหรับดูแลคนในครอบครัว เมื่อลองสำรวจตรวจสอบรายได้และค่าใช้จ่ายดูแล้ว น่าจะช่วยประเมินได้ว่า จริงๆ แล้วเราพร้อมที่จะกู้ซื้อบ้านหรือไม่
ยิ่งไปกว่านั้น ผู้ที่วางแผนว่าจะกู้ร่วม เพราะรายได้ตัวเองไม่มากนัก แต่อยากได้บ้านหรือคอนโดฯ ที่มีขนาดใหญ่หน่อย จึงหาคนมากู้ร่วม ไม่ว่าเป็นพ่อแม่ ญาติพี่น้อง ยิ่งต้องคิดคำนวณให้ดีว่า ถ้ากู้ร่วมไปแล้ว ต้องผ่อนบ้านเพียงคนเดียว จะผ่อนไหวไหม จะเหลือเงินสำหรับการใช้จ่ายประจำวันแค่ไหน
ภูมิคุ้มกันเรื่องที่สอง “วางเงินดาวน์สักก้อนหนึ่ง”
โดยทั่วไปธนาคารไม่ได้ให้วงเงินกู้สินเชื่อบ้านเต็ม 100% มักให้วงเงินประมาณ 80-90% ของราคาบ้าน ขึ้นอยู่กับโครงการ ผู้กู้จึงต้องวางเงินดาวน์ก้อนหนึ่งอย่างน้อย 10-20% ลองดูว่า จะซื้อบ้านในอีกกี่ปี ตอนนี้มีเงินเพียงพอดาวน์บ้านหรือยัง หรือต้องวางแผนเก็บออมเงินเพิ่มเติมอีกเท่าไร
อย่างไรก็ตาม หลายคนอาจเคยเห็นธนาคารร่วมกับโครงการบ้านหรือคอนโดฯ ให้วงเงินกู้ 100% ของราคาขายหรือราคาประเมิน ช่วยให้ผู้ที่ต้องการซื้อบ้านไม่ต้องรอเก็บเงินดาวน์ ก็สามารถกู้ซื้อบ้านได้ทันที แต่วงเงินกู้ที่ธนาคารให้เต็ม 100% นั้น มักคิดจากวงเงินสินเชื่อบ้าน รวมกับสินเชื่อตกแต่ง ซึ่งสินเชื่อตกแต่งมักมีอัตราดอกเบี้ยแพงกว่าสินเชื่อบ้าน ทำให้ผู้กู้ต้องจ่ายดอกเบี้ยสูงขึ้น และต้องไม่ลืมว่า เมื่อขอวงเงินกู้สูงขึ้น ค่าผ่อนต่อเดือนจะมากขึ้นตาม แต่หากวางเงินดาวน์ได้สักก้อน ภาระผ่อนจะลดลง และหมดหนี้ได้เร็วขึ้นด้วย
ที่สำคัญ การเก็บเงินทุกเดือนเพื่อเป็นเงินดาวน์เหมือนได้ทดลองผ่อนบ้านดูด้วย ถ้าเป็นไปได้ เก็บเงินดาวน์ให้ได้อย่างน้อยเท่ากับค่าผ่อนบ้านจริงๆ เพื่อดูว่า ถ้ากู้บ้านผ่านแล้ว ต้องผ่อนบ้านทุกเดือน จะผ่อนไหวหรือไม่
ภูมิคุ้มกันเรื่องที่สาม "กันเงินสำรองเผื่อฉุกเฉิน"
กันเงินสำรองเผื่อฉุกเฉินไว้สัก 6 เท่าของค่าใช้จ่ายต่อเดือน เพราะถ้าเกิดฉุกเฉิน รายได้ไม่พอใช้จ่าย หรือตกงานว่างงานขาดรายได้ขึ้นมา ขณะที่มีภาระผ่อนบ้านอยู่ จะได้มีเงินสำรองก้อนนี้มาผ่อนบ้านและใช้จ่ายประจำวันโดยไม่เดือดร้อนมากนัก
เพราะบ้านหลังหนึ่งราคาไม่ใช่น้อย มักเป็นหลักล้านขึ้นไป ต้องใช้เวลาผ่อนนานเป็นสิบๆ ปีกว่าจะผ่อนหมด K-Expert จึงอยากให้ผู้ที่จะซื้อบ้านวางแผนให้ดี สร้างภูมิคุ้มกันไว้ก่อนจะผ่อนบ้านไม่ไหว วางเงินดาวน์สักก้อน ผ่อนต่อเดือนไม่เกินกำลัง ไม่อยากให้คิดเพียงว่า เมื่อเป็นหนี้แล้ว เดี๋ยวประหยัดสักนิด ลดการใช้จ่ายสักหน่อย ก็ผ่อนไหวเอง เพราะถ้ากู้บ้านผ่านแล้ว แต่ผ่อนไม่ไหวขึ้นมา อาจกลายเป็นหนี้เสีย และนำไปสู่การถูกยึดบ้านได้
อัพเดท ข่าวอสังหาริมทรัพย์ สดใหม่ทุกวัน พร้อมส่งตรงถึงอีเมล์ของคุณฟรี สมัครได้ที่นี่ หรือหากคุณกำลังมองหาบ้านคอนโด ก็สามารถเลือกชม โครงการใหม่ พร้อม รีวิวโครงการคอนโดใหม่ บ้านใหม่ หลากหลายทำเลและราคาได้เช่นกัน
เรื่องข้างต้นนี้เขียนโดย นิชฌานี ฉันทศาสตร์ CFP® K-Expert ฝ่ายวางแผนและให้คำปรึกษาลูกค้าบุคคล ธนาคารกสิกรไทย หากมีข้อสงสัยหรือต้องการปรึกษาวางแผนเพิ่มเติม สามารถปรึกษากับ K-Expert ธนาคารกสิกรไทย ได้ที่ K-Expert@kasikornbank.com
ข้อจำกัดความรับผิดชอบ: ข้อมูลนี้จัดทำขึ้นเพื่อเป็นข้อมูลทั่วไปเท่านั้น DDproperty by PropertyGuru ซึ่งอยู่ภายใต้การดูแลของบริษัท ออลพร็อพเพอร์ตี้ มีเดีย จำกัด ไม่สามารถรับรองหรือรับประกันเกี่ยวกับข้อมูล รวมทั้งไม่สามารถรับรองหรือรับประกันใด ๆ เกี่ยวกับความเหมาะสม สำหรับวัตถุประสงค์เฉพาะใด ๆ ของข้อมูล ตามขอบเขตสูงสุดที่กฎหมายอนุญาต แม้ว่าเราได้พยายามอย่างเต็มที่ เพื่อให้แน่ใจว่าข้อมูลที่ให้ไว้ในบทความนี้ถูกต้อง เชื่อถือได้ และครบถ้วน ณ เวลาที่เขียน แต่ข้อมูลที่ให้ไว้ในบทความนี้ไม่ควรนำไปใช้ในการตัดสินใจทางการเงิน, การลงทุนอสังหาริมทรัพย์ หรือทางกฎหมายทันที ผู้อ่านไม่ควรใช้ข้อมูลในบทความ แทนคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญที่ผ่านการฝึกอบรมซึ่งสามารถพิจารณาข้อเท็จจริงและสถานการณ์ส่วนตัวของคุณได้ ทั้งนี้ เราไม่สามารถรับผิดชอบใด ๆ หากคุณเลือกที่จะนำข้อมูลไปใช้เพื่อประกอบการตัดสินใจ