3 เทคนิค ซื้ออสังหาฯ เพื่อการลงทุน

[บทความประชาสัมพันธ์พิเศษ] หากจะบอกว่า การซื้ออสังหาริมทรัพย์เพื่อการลงทุน ไม่ว่าจะเพื่อปล่อยเช่าหรือเก็งกำไรเพื่อขายต่อ เป็นเทรนด์หนึ่งของยุคนี้ก็คงจะไม่ผิดนัก เพราะปัจจุบันหลายคนที่ซื้ออสังหาริมทรัพย์ โดยเฉพาะคอนโดมิเนียม ไม่ได้ซื้อเพื่ออยู่อาศัยเอง แต่ซื้อเพราะเล็งเห็นผลประโยชน์ที่จะได้รับจากการลงทุน สำหรับใครที่เริ่มมองหาคอนโดมิเนียมหรือบ้านที่จะตอบโจทย์นี้ เรามีเทคนิคเบื้องต้นมาฝากกัน เพื่อจะได้นำข้อมูลไปประกอบการตัดสินใจและลดความเสี่ยงในการลงทุนลงได้

1.สำรวจราคาปล่อยเช่าในทำเลที่ต้องการซื้ออสังหาริมทรัพย์
ราคาของอสังหาริมทรัพย์ที่จะซื้อเป็นข้อมูลที่โครงการต่างๆ มีให้พร้อมอยู่แล้ว แต่ที่คุณต้องทำการบ้านเองเพิ่มเติมก็คือราคาปล่อยเช่าในทำเลที่ดูไว้ บางโครงการอาจจะให้ข้อมูลตรงส่วนนี้ไว้ด้วย แต่แนะนำว่าวิธีที่ดีที่สุดคือหาข้อมูลด้วยตัวเอง ซึ่งสามารถทำได้ทั้งการเสิร์ชข้อมูลทางอินเทอร์เน็ตและการสำรวจด้วยตัวเอง ซึ่งวิธีหลังนี้ถึงจะเหนื่อยกว่า ใช้เวลามากกว่า แต่ก็แน่นอนกว่าเพราะได้รู้ทั้งราคาและได้เห็นทั้งสภาพจริงของอสังหาริมทรัพย์ในย่านนั้น ทำให้สามารถนำข้อมูลทั้งหมดมาประเมินได้ว่า หากเราซื้ออสังหาริมทรัพย์เพื่อให้เช่า ค่าเช่าที่เหมาะสม ควรจะเป็นเท่าไร

2. คำนวณผลตอบแทนการเช่าก่อนลงทุนทุกครั้ง
ในกรณีที่วางแผนไว้ว่าจะซื้อเพื่อปล่อยเช่า ให้เปรียบเทียบผลตอบแทนที่จะได้จากค่าเช่าต่อปีกับดอกเบี้ยที่จะได้จากเงินฝากธนาคารในแต่ละปี โดยอาจเทียบจากเงินฝากประจำ 12 เดือน และนำข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับราคาเช่าของอสังหาริมทรัพย์ในทำเลเดียวกันมาประกอบด้วยยกตัวอย่างเช่น หากเราฝากเงินในบัญชีเงินฝากประจำ 2 ล้านบาท อัตราดอกเบี้ยร้อยละ 1.4 ต่อปี เราจะได้ดอกเบี้ยจากเงินฝากนี้โดยยังไม่หักภาษี คิดเป็นเงิน 28,000 บาท แต่หากเรานำเงินนั้นไปซื้อคอนโดฯ แล้วปล่อยเช่าได้เดือนละ 6,000 บาท ก็จะได้เงินปีละ 72,000 บาทถ้าเปรียบเทียบกันแค่นี้ ดูเหมือนว่าการปล่อยเช่าจะให้ผลตอบแทนมากกว่า แต่อย่าลืมว่านอกจากราคาขายแล้ว คุณยังต้องมีค่าใช้จ่ายอย่างอื่นอีก อย่างเช่นการตกแต่งภายในและค่าส่วนกลาง เพราะฉะนั้นต้องคำนวณทั้งหมดให้รอบด้าน ก่อนจะตัดสินใจลงทุน

3. ต้องมั่นใจในทำเล
เรื่องทำเลนับเป็นปัจจัยที่สำคัญมากจริงๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ในกรณีที่ต้องการซื้อเพื่อขายต่อแบบเก็งกำไร ก่อนจะตัดสินใจ ต้องมั่นใจว่าอสังหาริมทรัพย์ที่จะซื้อนั้นอยู่ในทำเลที่มีศักยภาพ ราคาประเมินสูงขึ้นจากในอดีตและมีแนวโน้มที่จะสูงขึ้นเรื่อยๆ เพราะนั่นหมายความว่าอสังหาริมทรัพย์ที่คุณลงทุนซื้อก็จะมีมูลค่าเพิ่มขึ้นตามราคาประเมินเช่นกันเรื่องแนวโน้มของราคาประเมินนี้ นอกจากจะตรวจสอบกับข้อมูลของกรมธนารักษ์แล้ว เรายังสามารถประเมินความน่าจะเป็นได้จากระบบขนส่งสาธารณะที่มีอยู่หรือที่กำลังจะสร้างขึ้นในทำเลนั้น และสภาพธุรกิจโดยรวมของย่านนั้นในช่วงที่ผ่านมา ซึ่งหากเป็นทำเลที่เดินทางสะดวก เพราะใกล้ระบบขนส่งสาธารณะอย่าง BTS หรือ MRT และร้านรวงในย่านนั้นคึกคัก ก็ถือเป็นสัญญาณที่ดีสำหรับการลงทุนตัว

อย่างทำเลที่เข้าข่ายนี้และน่าสนใจสำหรับนักลงทุนก็คือ ย่านสุขุมวิท ทำเลพรีเมียมสำหรับอสังหาริมทรัพย์ โดยเฉพาะอสังหาริมทรัพย์แนวสูงที่เจาะกลุ่มเป้าหมายตั้งแต่ระดับ B+ ไปจนถึง A+ เพราะมีครบทั้งเรื่องความสะดวกในการเดินทาง เนื่องจากอยู่ใกล้กับรถไฟฟ้าเกือบทุกสถานีของสายสุขุมวิท ตอบโจทย์ความสะดวกในเรื่องไลฟ์สไตล์ด้วย เพราะล้อมรอบด้วยห้างสรรพสินค้า ซูเปอร์มาร์เก็ตขนาดใหญ่ และร้านอาหารดัง อีกทั้งยังเป็นที่สนใจในหมู่ชาวต่างชาติที่ทำงานในเมืองไทยด้วย เพราะฉะนั้นจึงเหมาะทั้งการซื้อเพื่อขายต่อเก็งกำไรและซื้อเพื่อปล่อยเช่าส่วนในเรื่องของราคาประเมินที่ดินในย่านนี้ก็มีแนวโน้มสูงขึ้นเรื่อยๆ เช่นเดียวกับราคาขายของคอนโดไฮไรซ์ในย่านนั้นที่ราคาต่อตารางเมตรเพิ่มสูงขึ้น จากราคาเฉลี่ย 100,000 บาทต่อตารางเมตรเมื่อ 5 ปีก่อน เป็น 175,000 บาทต่อตารางเมตรในปัจจุบัน ซึ่งสูงขึ้นถึง 75 เปอร์เซ็นต์

เรียกว่าเป็นตัวเลขที่น่าสนใจมากในสายตาของนักลงทุนและหนึ่งในคอนโดฯ ย่านสุขุมวิทที่นักลงทุนหลายคนกำลังจับตามองก็คือ คอนโดฯ ในตระกูล The Tree อย่าง The Tree Sukhumvit 71-Ekamai และ The Tree Onnut Station ซึ่งอยู่ในพิกัดที่ไม่พลุกพล่านเกินไป แต่ก็มีความสะดวกสบายในแบบของย่านสุขุมวิท ที่เอื้อให้เดินทางไปไหนก็ใช้เวลาไม่นานเพราะอยู่ใกล้กับรถไฟฟ้า หรือจะเดินทางด้วยแอร์พอร์ตลิงก์ก็ไปได้ง่ายเช่นกัน ตอบโจทย์การใช้ชีวิตที่ต้องการทั้งการพักผ่อนอย่างเต็มที่ สีสันที่ช่วยเสริมความคึกคักให้กับชีวิต และความสะดวกสบายในการเดินทาง

สำหรับคนที่สนใจคอนโดมิเนียมแบบไฮไรซ์อย่าง The Tree Sukhumvit 71-Ekamai ที่นอกจากจะมีคุณสมบัติที่เหมาะแก่การลงทุนครบทุกอย่างตามที่ว่ามาแล้ว ยังมีสระว่ายน้ำที่ห้อมล้อมด้วยธรรมชาติ สร้างการพักผ่อนได้อย่างแท้จริง

ส่วนคนที่สนใจลงทุนในคอนโดมิเนียมใกล้สถานีอ่อนนุชอย่าง The Tree Onnut Station ที่มีสิ่งอำนวยความสะดวกครบทุกอย่าง และมีแนวโน้มว่ามูลค่าที่ดีจะสูงขึ้นเรื่อยๆ เหมาะทั้งซื้อเพื่ออยู่เองและซื้อเพื่อการลงทุน