“ห้องนอน” ถือเป็นมุมสงบที่เราจะได้พักผ่อนจากความเหนื่อยล้า และปัญหาต่าง ๆ ในแต่ละวัน แต่เชื่อหรือไม่ว่าถ้าคุณจัดเตียงนอนได้อย่างถูกวิธีตามหลักของฮวงจุ้ย นอกจากจะช่วยให้หลับสบายขึ้นแล้ว ยังช่วยเสริมโชคสร้างลาภให้กับเจ้าของห้องอีกด้วย แต่จะจัดอย่างไรดี หัวเตียงติดหน้าต่างดีไหม หรือตำแหน่งไหนเหมาะกับการวางเตียงที่สุด ลองมาดูหลักในการจัดเตียงเสริมเฮงง่าย ๆ 4 ข้อ ดังนี้
1. อย่าวางหัวเตียงติดหน้าต่าง หรือวางด้านข้างของเตียงให้ชิดกับหน้าต่างจนเกินไป
การวางหัวเตียงติดหน้าต่าง หรือการวางด้านข้างของเตียงให้ชิดกับผนังกับหน้าต่างจนเกินไป จะทำให้เมื่อคุณนอนหรือนั่งอยู่บนเตียงจะรู้สึกเหมือนมีลมพัดจากด้านหลังตลอดเวลา สำหรับคนที่ไม่คิดอะไรก็อาจจะเย็นดี แต่ตามหลักฮวงจุ้ยแล้วจะทำให้ผู้นอนรู้สึกระแวง เป็นกังวล และจะทำให้นอนหลับไม่สบายได้ อีกหนึ่งเหตุผลที่ไม่ควรตั้งให้หัวเตียงติดหน้าต่างคือจะทำให้พลังชี่ ซึ่งเชื่อว่าเป็นพลังของชีวิต ไหลออกไปจากห้อง
นอกจากนี้การวางหัวเตียงติดหน้าต่างก็ยังทำให้บริเวณศีรษะสัมผัสอากาศเย็นได้ง่าย อาจทำให้ไม่สบายได้เช่นกัน
หากวางหัวเตียงติดหน้าต่างหรือวางด้านข้างเตียงให้ชิดกับหน้าต่างเป็นเรื่องที่ไม่ควรทำแล้ว ตำแหน่งไหนที่ควรวางเตียง ก็ต้องแนะนำว่า หัวเตียงควรจะตั้งให้ติดกำแพง หรือไม่ก็มีหัวเตียงที่แข็งแกร่ง (เปรียบเสมือนขุนเขา) ที่จะทำให้รู้สึกปลอดภัยยิ่งขึ้น
ไม่ใช่แค่หัวเตียงติดหน้าต่างเท่านั้น แต่การวางหัวเตียงแนวเดียวกับประตู ก็ไม่ถูกต้องตามหลักฮวงจุ้ย เป็นสิ่งที่ต้องคำนึงถึงด้วยเช่นเดียวกัน ตามหลักโหราศาสตร์จีนหรือฮวงจุ้ยนั้น ถือว่าตำแหน่งหัวเตียงนอนในลักษณะนี้ เป็นตำแหน่งเดียวกับการวางโลงศพ เตียงนอนของคุณจะถูกจัดวางในตำแหน่งที่พลังงานลบพุ่งเข้าหาอย่างรุนแรง แถมพลังงานบวกยังไหลจากเตียงนอนผ่านออกไปนอกประตูได้อีกด้วย ดังนั้นถ้าเลี่ยงได้ควรเลี่ยง
หากเลี่ยงไม่ได้ ไม่สามารถย้ายเตียงนอนไปมุมอื่นได้ มีวิธีแก้ไข คือ หาแผ่นวางเท้ามาวางบนพื้นให้มองเห็นได้อย่างชัดเจน และหาเฟอร์นิเจอร์ชิ้นใหญ่มาวางกั้นระหว่างเตียงและประตูห้องนอนของคุณ เช่น วางม้านั่งพร้อมหมอนหรือผ้าคลุมม้านั่ง เก้าอี้เบาะหนัง หรือเฟอร์นิเจอร์ชิ้นอื่นที่เห็นว่ามีความเหมาะสม มาตั้งไว้บริเวณปลายเตียง ในกรณีที่ไม่สามารถย้ายตำแหน่งหัวเตียงนอนที่จัดวางในแนวเดียวกับประตูได้จริง ๆ เพื่อปกป้องตนเองจากพลังงานลบที่พุ่งเข้ามายังตัวคุณได้ในขณะหลับ

2. หลีกเลี่ยงการนำโคมไฟมาห้อยตรงบริเวณกลางหัวเตียง
นอกจากไม่ควรวางหัวเตียงติดหน้าต่างแล้ว ควรหลีกเลี่ยงการนำโคมไฟมาห้องตรงบริเวณกลางหัวเตียงด้วย เพราะหากคุณต้องนอนใต้โคมไฟที่ห้อยระย้า คุณจะรู้สึก “กดดัน” แล้วจะพาลนอนไม่หลับหรือหากหลับก็อาจจะฝันเป็นตุเป็นตะไปได้ ส่วนในทางวิทยาศาสตร์แล้ว การมีโคมไฟห้อยอยู่ตรงหน้าจะทำให้แสงที่ส่องมารบกวนการนอนของคุณนั่นเอง
ในกรณีที่คุณอยากจะมีโคมไฟอยู่บริเวณเตียง ควรหาโคมไปแบบตั้งวางด้านข้างหัวเตียงทั้งสองข้าง เพราะเชื่อกันว่าจะช่วยในเรื่องของความรัก ควรเลือกโคมไฟที่มีขอบมนกลมเพื่อช่วยเสริมการไหลเวียนของพลังชี่
3. กระจกเป็นสิ่งที่ไม่ควรมีอยู่ในห้องนอน
แม้การติดกระจกในห้องนอนจะช่วยให้ห้องนอนเล็ก ๆ ดูกว้างขวางขึ้นได้ก็จริง แต่ตามหลักฮวงจุ้ยแล้ว กระจกเป็นสิ่งที่ไม่ควรมีอยู่ในห้องนอน เพราะเชื่อกันว่าจะสะท้อนพลังชีวิตให้ออกไปจากห้อง แต่ในกรณีที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ พยายามอย่าตั้งเตียงให้ตรงกับกระจกเพราะจะทำให้คุณรู้สึกกลัวกับภาพประหลาด ๆ (ซึ่งจริง ๆ แล้วอาจจะเป็นภาพของเราเองนั่นแหละ) เมื่อเกิดความรู้สึกกลัวขึ้นมาแล้วอาจจะทำให้คุณคิดเตลิดเปิดเปิงไปจนนอนไม่หลับ หรือหลับก็หลับไม่ค่อยสบายจนอาจล้มป่วยลงได้
นอกจากนี้ ไม่ควรตั้งเตียงให้ตรงกับประตู เพราะจะทำให้คุณรู้สึกไม่ค่อยมีความเป็นส่วนตัว และไม่ค่อยปลอดภัยนั่นเอง

4. ใช้สีถูกต้องช่วยเสริมฮวงจุ้ย
การใช้สีและองค์ประกอบตามหลักฮวงจุ้ย เชื่อกันว่าจะช่วยสร้างสมดุลให้กับชีวิตมากขึ้น สีที่จะขอแนะนำ ได้แก่
สี
|
ความหมายตามหลักฮวงจุ้ย
|
สีเหลือง
|
ความเบิกบานในชีวิต
|
สีชมพู
|
ความสุข
|
สีขาว
|
สงบสุขและสมดุล
|
สีแดง
|
ความรักและความสมหวัง
|
สีส้ม
|
ความสร้างสรรค์
|
สีเขียว
|
กระชุ่มกระชวยและเพิ่มพลังให้กับชีวิต
|
สีม่วง
|
ความสงบ
|
สีฟ้า
|
ความสงบ
|
การวางเตียงให้ถูกหลักฮวงจุ้ยเป็นอีกหนึ่งความเชื่อที่แฝงไปด้วยหลักวิทยาศาสตร์ เช่น ไม่ควรวางหัวเตียงติดหน้าต่าง เพราะจะทำให้ไม่สบายได้ง่าย ดังนั้น การจัดหรือตกแต่งห้องนอนให้ถูกหลักฮวงจุ้ยนอกจากจะช่วยให้การนอนหลับสบายขึ้นแล้ว ยังสามารถช่วยเสริมสิริมงคลให้กับผู้นอนได้ด้วย
เรื่องอื่นที่น่าสนใจ
ข้อจำกัดความรับผิดชอบ: ข้อมูลนี้จัดทำขึ้นเพื่อเป็นข้อมูลทั่วไปเท่านั้น DDproperty by PropertyGuru ซึ่งอยู่ภายใต้การดูแลของบริษัท ออลพร็อพเพอร์ตี้ มีเดีย จำกัด ไม่สามารถรับรองหรือรับประกันเกี่ยวกับข้อมูล รวมทั้งไม่สามารถรับรองหรือรับประกันใด ๆ เกี่ยวกับความเหมาะสม สำหรับวัตถุประสงค์เฉพาะใด ๆ ของข้อมูล ตามขอบเขตสูงสุดที่กฎหมายอนุญาต แม้ว่าเราได้พยายามอย่างเต็มที่ เพื่อให้แน่ใจว่าข้อมูลที่ให้ไว้ในบทความนี้ถูกต้อง เชื่อถือได้ และครบถ้วน ณ เวลาที่เขียน แต่ข้อมูลที่ให้ไว้ในบทความนี้ไม่ควรนำไปใช้ในการตัดสินใจทางการเงิน, การลงทุนอสังหาริมทรัพย์ หรือทางกฎหมายทันที ผู้อ่านไม่ควรใช้ข้อมูลในบทความ แทนคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญที่ผ่านการฝึกอบรมซึ่งสามารถพิจารณาข้อเท็จจริงและสถานการณ์ส่วนตัวของคุณได้ ทั้งนี้ เราไม่สามารถรับผิดชอบใด ๆ หากคุณเลือกที่จะนำข้อมูลไปใช้เพื่อประกอบการตัดสินใจ