5 สเต็ปในการแปลงที่ดินเปล่าเป็นฮวงซุ้ย สร้างรายได้ระดับมหาเศรษฐี

ช่วงยุคเศรษฐกิจตกสะเก็ดเช่นนี้ ใครมีของดีอยู่ในมือต้องรีบควักออกมาต่อทุน สร้างรายได้ให้กับตัวเอง ยิ่งคนไหนมีที่ดินเปล่ามักจะแปรสภาพให้กลายเป็นบ้านเช่า อพาร์ทเม้นท์ เพื่อเก็บเงินกินตอนแก่ แต่ดูเหมือนว่าทุกวันนี้กระแสการลงทุนในรูปแบบนี้ อาจต้องเผชิญกับคู่แข่งค่อนข้างมาก ทำให้ใครที่คิดต่างจะอยู่ในสถานะที่ได้เปรียบ เช่นเดียวกับธุรกิจรูปแบบใหม่อย่างการขายที่สร้าง ฮวงซุ้ย (สุสานของคนจีน) ที่ดูเหมือนไม่ต้องลงทุนอะไรมาก ขอแค่มีที่ดินทำเลดีตามหลักฮวงจุ้ย ด้านหลังเป็นภูเขา เบื้องหน้าเป็นน้ำ แค่นี้ก็สามารถสร้างรายได้มหาศาล ชนิดพลิกชีวิตสู่เส้นทางมหาเศรษฐีได้อย่างไม่รู้ตัว

ตามความเชื่อของคนจีน บ้านหลังสุดท้ายเมื่อหมดลมหายใจ จำเป็นต้องตั้งอยู่บนทำเลดีตามหลักฮวงจุ้ยคือได้กระแสพลังงานจากภูเขาและสายน้ำ เพื่อนำพาความเจริญ ก้าวหน้า ร่ำรวยมาสู่บรรดาลูกหลาน เพราะหากเลือกทำเลผิด อาจนำความหายนะมาสู่ครอบครัวได้ ด้วยเหตุนี้เหล่ากลุ่มคนไทยเชื้อสายจีนกระเป๋าหนัก จึงยอมควักเงินหลักหมื่นถึงหลักล้านเพื่อเสาะแสวงหาที่พักสุดท้ายของชีวิต (ฮวงซุ้ย) ทำเลดีกันเป็นแถว จนกลายเป็นโอกาสอันดีงามให้กับผู้ถือครองที่ดินเหล่านี้ลงมือทำธุรกิจสร้างสุสานคนจีนขึ้น ตามหลักการง่ายๆ แบบไม่ต้องลงทุนเยอะ 5 ขั้นตอนดังต่อไปนี้

แม้จะมีที่ดินเพียบพร้อม มากด้วยเนื้อที่ ฮวงจุ้ยเอื้ออำนวย แต่ถึงกระนั้นจะลงมือแปลงโฉมเป็นสุสานแบบถูกกฎหมาย จำเป็นต้องไปขอใบอนุญาตจากเจ้าพนักงานท้องถิ่นก่อนอันดับแรก ในที่นี่คือ ผู้อำนวยการเขต นายอำเภอ นายกเทศมนตรี หรือเจ้าหน้าที่สุขาภิบาล ดังที่กล่าวไว้ในรายละเอียดของพระราชบัญญัติสุสานและฌาปนสถาน พ.ศ. 2528 ซึ่งกำหนดให้ขอใบอนุญาตจัดตั้ง ดำเนินการ และก่อสร้าง โดยพื้นที่ที่จะทำธุรกิจนี้ได้จำเป็นต้องมีเนื้อที่ไม่น้อยกว่า 1 ไร่ ไม่รุกล้ำป่า ไม่เป็นสถานที่ท่องเที่ยว อยู่ห่างจากทางหลวงหรือที่สาธารณะอย่างน้อย 50 เมตร พร้อมทั้งห่างจากทางน้ำในระยะ 100 เมตร ที่สำคัญต้องไม่ตั้งอยู่ในเขตเทศบาล โดยเฉพาะแถบเมืองพัทยา

เรื่องของฮวงซุ้ย เป็นความเชื่อของคนจีน ดังนั้นการจะปักหมุดแบ่งโซนพื้นที่ ทั้งแบบตั้งอยู่แปลงรวม และแบบแยกเดี่ยว มีความเป็นส่วนตัว ซึ่งมักมีราคาสูงนั้น จำเป็นต้องเสาะแสวงหาซินแสเพื่อปักหมุดว่าทำเลดังกล่าว เกื้อหนุนให้เหล่าลูกค้าที่ต้องการซื้อ สะดวกสบายต่อการมาสักการะบรรพบุรุษในช่วงเทศกาลเชงเม้ง ที่สำคัญต้องตรงตามหลักฮวงจุ้ยที่ดี อันจะนำความสุข ความเจริญมาให้เหล่าผู้ซื้อฮวงซุ้ยด้วย ประกอบกับเหล่าผู้ประกอบการ เจ้าของสุสาน จำเป็นต้องเรียนรู้ภาษาจีน เนื่องด้วยบุคคลที่สนใจ 100% เป็นกลุ่มคนจีน และคนไทยเชื้อสายจีนกระเป๋าหนักทั้งหมด

ใช่ว่าจะมีเพียงแต่เหล่าโครงการอสังหาฯ บ้านจัดสรรหรือคอนโดมิเนียมที่มีผู้รับเหมามือดีมาออกแบบสร้างสรรค์ไอเดียแปลกใหม่เพื่อมัดใจเหล่าผู้อยู่อาศัยเท่านั้น ฮวงซุ้ย หรือสุสานของคนจีน และคนไทยเชื้อสายจีนนั้นมีผู้ออกแบบก่อสร้างด้วยเช่นกัน แถมยังมีให้เลือกสรรค่อนข้างมาก โดยส่วนใหญ่ค่าใช้จ่ายต่อหลุมตั้งแต่หลักหมื่นไปจนถึงหลักล้าน ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับขนาด ลวดลาย ประกอบกับบางสุสานมีการสร้างความน่าสนใจด้วยบรรยากาศโดยรอบที่ร่มรื่น ลักษณะเหมือนสวนหย่อม เพื่อกลบความน่ากลัว ซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของสถานที่ฝั่งศพไปโดยปริยาย ซึ่งปัจจัยเหล่านี้มีส่วนให้กลุ่มผู้ซื้อเป้าหมาย ตัดสินใจเช่าหรือซื้ออย่างรวดเร็ว

ภาพ via nirvana-memorial.co.th

อีกหนึ่งองค์ประกอบสำคัญที่ผู้ประกอบการธุรกิจประเภทนี้จะมองข้ามไปไม่ได้ นั่นคือ “ผู้ดูแสสุสาน” ทั้งเฝ้ายาม คอยทำความสะอาด และอำนวยความสะดวก เนื่องจากช่วงเทศกาลที่มีการไหว้บรรพบุรุษ เหล่าลูกหลานจะพากันมาเคารพบรรพบุรุษ ซึ่งทางสุสานสามารถหารายได้โดยการจัดคนดูแลทำความสะอาดฮวงซุ้ย ทาสี ถางหญ้าให้อย่างเรียบร้อย และอำนวยความสะดวกให้กับบรรดาเครือญาติ และเนื่องจากฮวงซุ้ยเป็นที่โล่ง ดังนั้นลูกหลานที่มาไหว้บรรพบุรุษ จึงจำเป็นต้องเช่าเต๊นท์ โดยทางผู้ประกอบการสามารถจัดสรร หรือหารายได้จากส่วนนี้ได้อีกทาง ซึ่งส่วนใหญ่แล้วการดูแลความสะอาด ตกแต่งหลุมตามธรรมเนียมของคนจีน และบริการเต๊นท์ให้เช่านั้น มีอัตราค่าบริการโดยรวมตั้งแต่ 2,000 – 10,000 บาท/หลุม/ปี

สำหรับรายได้เป็นกอบเป็นกำจากธุรกิจฮวงซุ้ยนั้น ถูกแบ่งออกเป็นดังนี้

– รายได้จากการขายที่แต่ละหลุม ซึ่งขึ้นอยู่ทำเลฮวงซุ้ยนั้นด้วย หากทำเลดี มีความเป็นส่วนตัวสูงหน่อย มักมีราคาอยู่ที่ 500,000 – 1,000,000 บาท/หลุม

– เงินสะพัดจากค่าใช้จ่ายที่ผู้ซื้อจะต้องเสียรายปีอยู่ที่ 2,000 – 10,000 บาท/หลุม คล้ายกับค่าส่วนกลางในหมู่บ้านจัดสรรหรือคอนโดฯ โดยเจ้าของสุสานจะจัดหาคนทำความสะอาด ทาสี ดูแลหลุมศพให้เป็นอย่างดี

รู้ 5 ขั้นตอนแปลงสภาพที่ดินเปล่า มาสร้างรายได้เป็นกอบเป็นกำ ด้วยธุรกิจสุสานในรูปแบบฮวงซุ้ยแล้ว หลายคนอาจจะเกิดไอเดียแปลงสภาพที่ดินในมือมาชิงส่วนแบ่งในตลาดนี้ แทนการแข่งขันสร้างรายได้จากการลงทุนสร้างห้องแถว หรืออพาร์ทเม้นท์ เพราะอย่างน้อยก็ไม่ต้องมานั่งปวดหัวกับพฤติกรรมผู้เช่าอันไม่พึงประสงค์ และที่สำคัญรายได้สะพัดชนิดเป็นมหาเศรษฐีได้โดยไม่รู้ตัวเลยทีเดียว