“ก่อนการกู้สินเชื่อบ้านหรือสินเชื่อประเภทอื่น ๆ ควรเตรียมตัวให้พร้อมก่อนจะได้ไม่ถูกปฏิเสธสินเชื่อกลับมา”
การมีที่อยู่อาศัยเป็นของตนเอง ไม่ว่าจะเป็น คอนโดมิเนียม ทาวน์เฮ้าส์ อาคารพาณิชย์ หรือบ้านเดี่ยว นับว่าเป็นความฝันของหลายคน เนื่องจากบ้านเป็นทรัพย์สินที่มีมูลค่าสูง การที่จะได้เป็นเจ้าของบ้านสักหลังส่วนใหญ่จะใช้วิธีการกู้เงินจากธนาคาร สำหรับลูกค้ากลุ่มที่มีรายได้ประจำ กลุ่มที่เป็นเจ้าของกิจการ หรือกลุ่มอาชีพอิสระ ที่มีหลักฐานทางอาชีพ/การค้า และหลักฐานทางการเงินที่ชัดเจน ทำให้เข้าถึงแหล่งเงินกู้ได้ง่ายกว่ากลุ่มอาชีพที่ไม่มีหลักฐานตามที่กล่าวมาข้างต้น เช่น กลุ่มพ่อค้าแม่ค้าออฟไลน์ หรือพ่อค้าแม่ค้าตามตลาดต่าง ๆ นั่นเอง
- สำหรับคนที่ทำอาชีพอิสระคุณอาจจะลองดู 3 เคล็ดลับที่จะช่วยให้คุณยื่นกู้ซื้อบ้านให้ผ่าน เพื่อเพิ่มความมั่นใจ
แต่สำหรับกลุ่มพ่อค้าแม่ค้าออฟไลน์ที่ยกตัวอย่างมานี้ ไม่ใช่ว่ากลุ่มนี้จะไม่มีศักยภาพทางการเงิน เพียงแต่ว่าอาจจะไม่มีหลักฐานทางการค้าและหลักฐานทางการเงิน การซื้อขายส่วนใหญ่ใช้เงินสดเป็นหลัก ไม่ผ่านบัญชีธนาคาร จึงเป็นผลทำให้เข้าถึงแหล่งเงินกู้ได้ยาก เพราะธนาคารเองไม่สามารถพิสูจน์ความมั่นคงของอาชีพและความสม่ำเสมอของรายได้อย่างชัดเจน ดังนั้น เพื่อให้กลุ่มอาชีพนี้สามารถกู้ซื้อบ้านได้ K-Expert มี 6 ขั้นตอนเตรียมตัวกู้ซื้อบ้านสไตล์พ่อค้าแม่ค้าออฟไลน์มาฝากกัน
1. เก็บรวบรวมเอกสารทางการค้าทั้งหมด (ถ้ามี)
ไม่ว่าจะเป็นบิลซื้อ-บิลขาย สัญญาเช่าแผงหรือร้านค้า ใบเสร็จค่าเช่า ค่าน้ำ ค่าไฟฟ้า เอกสารทางการค้ากลุ่มนี้สามารถนำมาใช้อ้างอิงในการขอสินเชื่อกับธนาคารได้ ทั้งนี้ อยากแนะนำเพิ่มเติมให้จดทะเบียนการค้า เพื่อเป็นการยืนยันว่าเราได้ทำการค้าจริง และในอนาคตหากต้องการขยายธุรกิจให้ใหญ่ขึ้น หรือต้องใช้เงินทุนในจำนวนที่มากขึ้นทำให้เข้าถึงแหล่งเงินกู้จากธนาคารได้สะดวกยิ่งขึ้น
2. ทำบัญชีรายรับ-รายจ่าย
ทำให้รู้ว่าในแต่ละเดือนมีรายได้เดือนละเท่าไหร่ ค่าใช้จ่ายเดือนละเท่าไหร่ มีกำไรเดือนละเท่าไหร่ เพื่อที่จะได้เห็นว่าเรามีค่าใช้จ่ายอะไรบ้าง สูงเกินไปหรือไม่ หรือมีค่าใช้จ่ายไม่จำเป็นอะไรบ้าง ลดลงหรือตัดออกไปได้หรือไม่ ซึ่งจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพทางการค้าได้ด้วย อีกทั้ง ยังทำให้ธนาคารเห็นภาพในการทำการค้าได้อย่างชัดเจนและประเมินความสามารถในการกู้ยืมได้ง่ายยิ่งขึ้น
3. ตรวจสอบประวัติทางการเงินในเครดิตบูโร
เพื่อดูประวัติทางการเงินของตัวเองก่อน เพราะบางคนอาจจำไม่ได้ว่ามีภาระไปกู้ยืมหรือค้ำประกันใครไว้บ้าง และสถานะหนี้ดังกล่าวเป็นอย่างไร ในเครดิตบูโรจะบอกสถานะหนี้เราอย่างละเอียด หากเป็นหนี้ที่มีปัญหาหรือกำลังถูกดำเนินคดี จะได้เข้าสู่กระบวนการจัดการหนี้สินหรือภาระค้ำประกันดังกล่าวให้เรียบร้อยก่อนจะดำเนินการด้านอื่น ๆ เช่น การเปิดบัญชีธนาคาร ที่จะกล่าวถึงในหัวข้อถัดไป
4. เปิดบัญชีกระแสรายวัน หรือบัญชีออมทรัพย์
พร้อมทำบัตร Debit แบบ K-MAX PLUS เพื่อนำเงินที่ได้จากการขายของในแต่ละวันมาฝากเข้าบัญชี แต่หากไม่สะดวกก็อาจจะรวบรวมไว้สัก 2-3 วันแล้วค่อยนำมาเข้าบัญชีก็ได้ และเมื่อต้องซื้อของเข้าร้านค่อยกดเงินจากบัตรออกมาจ่ายให้กับผู้ขาย เพื่อที่จะได้แสดงปริมาณธุรกรรมทางการค้าที่มีได้อย่างชัดเจน อีกทั้ง การที่แนะนำให้ทำบัตร Debit ดังกล่าว เนื่องจากบัตรประเภทนี้มีประกันอุบัติเหตุคุ้มครองให้ด้วย
ทั้งนี้ หากสมัครใช้บริการ K-Plus และ K-Plus Shop เพื่อเป็นช่องทางให้กับผู้ซื้อสามารถชำระเงินให้กับพ่อค้าแม่ค้าได้สะดวกมากขึ้น และสามารถรับชำระเงินได้ทุกธนาคาร ยิ่งทำให้ธนาคารเห็นธุรกรรมการค้าที่ชัดเจนยิ่งขึ้น
5. เปิดบัญชีทวีทรัพย์
โดยฝากเงินเป็นประจำทุกๆ เดือนให้เท่ากับยอดที่ต้องผ่อนชำระต่อเดือน เพื่อแสดงความสามารถในการผ่อนชำระ ตัวอย่างเช่น ถ้าคาดว่าจะกู้เงินเพื่อซื้อบ้าน 3 ล้านบาท ผ่อน 30 ปี โดยผ่อนเดือนละ 18,000 บาท ดังนั้น หากเราฝากเงินเดือนละ 18,000 บาท เข้าบัญชีดังกล่าวได้เป็นประจำทุกเดือนจะช่วยให้ธนาคารเห็นถึงความสามารถในการผ่อนชำระของเรา และเรายังสามารถประเมินตัวเองได้ว่าหากต้องผ่อนด้วยจำนวนเงินดังกล่าวจริงเราสามารถผ่อนชำระคืนธนาคารได้ (โปรดตรวจสอบเงื่อนไขโดยละเอียดก่อนการกู้เงินและฝากเงินอีกครั้งกับทางธนาคาร)
- อย่างไรก็ตามลองดู เคล็ดลับผ่อนบ้านให้หมดไว ระหว่าง ชำระเกินทุกงวด Vs. โปะเพิ่มปีละครั้ง อันไหนเหมาะกับคุณ
6. ทำบัตรเครดิต
ใช้บัญชีเงินฝากประจำค้ำประกัน และทำหักบัญชีชำระบัตรเครดิตอัตโนมัติ เพื่อเป็นการสร้างประวัติทางการเงินหรือสร้างเครดิตให้กับตัวเอง โดยการทำบัตรเครดิต และเมื่อครบกำหนดการชำระเงิน ควรชำระให้เต็มจำนวนเงินที่ใช้ และชำระให้ตรงเวลา อย่างไรก็ตาม หากคิดว่าเป็นคนขี้ลืมหรือไม่ค่อยมีเวลาไปธนาคาร ทางเลือที่ดีอีกทางหนึ่งคือใช้วิธีการหักบัญชีอัตโนมัติเข้ามาช่วย จะทำให้สามารถปฏิบัติได้ตามเงื่อนไขที่กำหนด
การปฏิบัติตามแนวทาง 6 ขั้นตอนเตรียมตัวกู้ซื้อบ้านสไตล์พ่อค้าแม่ค้าออฟไลน์ดังกล่าวนี้ สามารถนำไปประยุกต์ใช้ได้กับทุกสาขาอาชีพที่ไม่มีหลักฐานทางอาชีพ/การค้า และหลักฐานทางการเงินที่ไม่ชัดเจนได้เช่นกัน นอกจากเป็นการเตรียมตัวสำหรับการกู้ซื้อบ้านแล้ว แต่ยังใช้สำหรับการขอสินเชื่อธุรกิจ เพื่อการขยายธุรกิจได้อีกด้วย อนึ่ง หากปฎิบัติได้ตามข้างต้นแล้วไม่ได้หมายความว่าธนาคารจะอนุมัติวงเงินให้ เพราะธนาคารมีปัจจัยในการพิจารณาการขอสินเชื่ออีกหลายประการ แต่อย่างน้อยหากปฏิบัติได้ก็มีแนวโน้มที่จะเข้าถึงสินเชื่อได้สะดวกมากขึ้น ดีกว่าไม่ได้เตรียมตัวอะไรเลย
ทั้งนี้นอกจากในเรื่องของการเตรียมตัวทางด้านเอกสารแล้ว สำหรับคนที่กำลังมองหาบ้านคุณอาจจะอยากรู้ข้อมูลเกี่ยวกับอสังหาฯ ในด้านอื่นประกอบ เพื่อช่วยให้คุณวางแผนในการซื้อได้อย่างถูกเวลาและเพิ่มความมั่นใจ อ่านรายงาน DDproperty Property Market Outlook 2019, DDproperty Property Index รวมถึงอ่านรีวิวเพื่อเลือกโครงการที่ตรงใจ
เรื่องข้างต้นนี้เขียนโดย พฤทธิ์ จำรัสพันธุ์ AFPTTM K-Expert ฝ่ายวางแผนและให้คำปรึกษาลูกค้าบุคคล ธนาคารกสิกรไทย หากมีข้อสงสัยหรือต้องการปรึกษาวางแผนเพิ่มเติม สามารถปรึกษากับ K-Expert ธนาคารกสิกรไทย ได้ที่ K-Expert@kasikornbank.com
ข้อจำกัดความรับผิดชอบ: ข้อมูลนี้จัดทำขึ้นเพื่อเป็นข้อมูลทั่วไปเท่านั้น DDproperty by PropertyGuru ซึ่งอยู่ภายใต้การดูแลของบริษัท ออลพร็อพเพอร์ตี้ มีเดีย จำกัด ไม่สามารถรับรองหรือรับประกันเกี่ยวกับข้อมูล รวมทั้งไม่สามารถรับรองหรือรับประกันใด ๆ เกี่ยวกับความเหมาะสม สำหรับวัตถุประสงค์เฉพาะใด ๆ ของข้อมูล ตามขอบเขตสูงสุดที่กฎหมายอนุญาต แม้ว่าเราได้พยายามอย่างเต็มที่ เพื่อให้แน่ใจว่าข้อมูลที่ให้ไว้ในบทความนี้ถูกต้อง เชื่อถือได้ และครบถ้วน ณ เวลาที่เขียน แต่ข้อมูลที่ให้ไว้ในบทความนี้ไม่ควรนำไปใช้ในการตัดสินใจทางการเงิน, การลงทุนอสังหาริมทรัพย์ หรือทางกฎหมายทันที ผู้อ่านไม่ควรใช้ข้อมูลในบทความ แทนคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญที่ผ่านการฝึกอบรมซึ่งสามารถพิจารณาข้อเท็จจริงและสถานการณ์ส่วนตัวของคุณได้ ทั้งนี้ เราไม่สามารถรับผิดชอบใด ๆ หากคุณเลือกที่จะนำข้อมูลไปใช้เพื่อประกอบการตัดสินใจ