“บัตรเครดิตเปรียบเสมือนดาบสองคม ถ้าใช้แบบถูกวิธีก็มีแต่ได้กับได้ แต่ถ้าใช้ไม่ถูกวิธีก็มีแต่เป็นหนี้”
ปัจจุบันบัตรเครดิตเข้ามามีบทบาทในชีวิตประจำวันของเราอย่างมาก ใช้สำหรับซื้อสินค้าและบริการต่าง ๆ แทนเงินสด กอปรกับภาครัฐได้มีนโยบายลดการใช้เงินสด หรือที่เรียกว่า สังคมไร้เงินสด (Cashless Society) ทำให้พวกบัตรเครดิต และบัตรเดบิตประเภทต่างๆ เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตประจำวัน แต่ในที่นี้จะกล่าวถึงเทคนิคการใช้บัตรเครดิต เพราะเป็นการเอาเงินในอนาคตมาใช้ก่อน แล้วค่อยชำระคืนในภายหลัง เพื่อไม่ให้เกิดความผิดพลาดในการใช้บัตรเครดิต จึงควรรู้วิธีการใช้งานบัตรเครดิตให้มากขึ้น
ดังนั้น K-Expert ขอแนะนำ 6 เทคนิคการใช้บัตรเครดิตอย่างไรให้คุ้มค่า เพื่อเป็นแนวทางในการใช้บัตรเครดิตที่ถูกวิธีดังนี้
1. ใช้บัตรเครดิตแทนเงินสดทุกครั้งที่มีโอกาส
เช่น การซื้อสินค้าหรือบริการ นอกจากจะยังไม่ต้องจ่ายเงินสดออกไปทันทีแล้ว ถ้าใช้บัตรเครดิตเป็นแบบสะสมคะแนน ทุก ๆ การใช้จ่าย 25 บาท จะได้รับ 1 คะแนน หรือบัตรเครดิตแบบมีเงินคืน (Cashback) จะได้เงินคืน 1%-3% ขึ้นอยู่กับเงื่อนไขที่ธนาคารกำหนด หรือบัตรเครดิตที่ร่วมกับห้างสรรพสินค้า โรงพยาบาล สถาบันการศึกษา ตัวแทนจำหน่ายรถยนต์ เป็นต้น บัตรเครดิตในกลุ่มนี้จะได้ส่วนลดเพิ่มอีก 3%-15% ทั้งนี้ ไม่ว่าจะใช้บัตรเครดิตประเภทใดควรสอบถามกับพนักงานก่อนว่า ถ้าใช้เงินสดจะได้รับส่วนลดเพิ่มหรือไม่ เช่น ถ้าใช้เงินสดลดเพิ่ม 5% แต่ใช้บัตรเครดิตแล้วคิดราคาเท่าเดิม กรณีนี้ควรใช้เงินสดซึ่งเป็นทางเลือกที่ดีกว่าการใช้บัตรเครดิต
2. มีเงินสดรองรับกับการใช้บัตรเครดิตทุกครั้ง
ข้อนี้ถือว่าเป็นกฏเหล็กที่สำคัญ เนื่องจากการใช้บัตรเครดิต ถือว่าเป็นการเอาเงินในอนาคตมาใช้ เช่น ถ้าใช้บัตรเครดิตซื้อของใช้เข้าบ้าน 5,000 บาท ต้องมีเงินสดรองรับเต็มจำนวน เพราะหากไม่มีเงินสดรองรับ แทนที่จะได้รับประโยชน์จากคะแนนสะสมหรือส่วนลด แต่กลายเป็นว่าต้องมาจ่ายดอกเบี้ยแทน ทำให้เป็นการสร้างภาระหนี้ให้กับผู้ใช้ และสุดท้ายอาจทำให้เป็นหนี้สินล้นพ้นตัวได้
3. ใช้บัตรเครดิตในวันแรกหลังจากวันที่สรุปยอดบัญชี
สมมติว่า บัตรเครดิตสรุปยอดทุกวันที่ 10 กำหนดชำระในทุกวันที่ 25 ตัวอย่างเช่น ใช้บัตรเครดิตซื้อสินค้าในวันที่ 9 สิงหาคม มีกำหนดชำระในครั้งถัดไปคือวันที่ 25 สิงหาคมในเดือนเดียวกัน เท่ากับมีระยะเวลาปลอดหนี้เพียง 17 วัน แต่ถ้าใช้บัตรเครดิตในวันที่ 11 สิงหาคม (หลังจากวันที่สรุปยอดบัญชีไปแล้ว) มีกำหนดชำระในครั้งถัดไปคือวันที่ 25 กันยายนเดือนถัดไป เท่ากับมีระยะเวลาปลอดหนี้ 45 วันเต็มตามเงื่อนไขที่กำหนด ดังนั้น เพื่อให้ได้ประโยชน์สูงสุดควรใช้บัตรเครดิตหลังจากวันที่สรุปยอดบัญชีแล้ว
4. ชำระเต็มจำนวนโดยการหักบัญชี
เพื่อป้องกันการลืมชำระเงิน หรือชำระไม่ตรงกับวันที่ที่กำหนด หากลืมต้องเสียดอกเบี้ยในอัตรา 18% ต่อปี และมีค่าติดตามทวงหนี้ 88 บาทต่อรอบบัญชี ดังนั้น การชำระเต็มจำนวนและหักบัญชีเป็นวิธีการที่ดี เพื่อป้องกันการเสียค่าปรับและดอกเบี้ย และเป็นการสร้างวินัยการชำระเงินที่ดี อีกทั้งทำให้เป็นคนมีเครดิตที่ดี หากในอนาคตมีความประสงค์จะกู้ซื้อบ้านหรือรถยนต์ หรือกู้ประเภทอื่นๆ สามารถกู้ได้ง่ายขึ้น เพราะมีประวัติการชำระหนี้ที่ดี ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งในการพิจารณาอนุมัติสินเชื่อของธนาคาร
5. อย่ากดเงินสดจากบัตรเครดิต
เนื่องจากบัตรเครดิตไม่ได้ถูกออกแบบมาเพื่อให้ผู้ถือบัตรกดเงินสด แต่มีไว้เพื่อใช้ซื้อสินค้าหรือบริการ ถ้าผู้ถือบัตรเครดิตมีการกดเงินสด ต้องเสียค่าธรรมเนียมการเบิกถอนเงินสด 3% ของจำนวนเงินสดที่เบิกถอน และเสียดอกเบี้ย 18% ต่อปี นับจากวันที่ถอนเงิน ถ้าในวันที่ 9 สิงหาคม ได้มีการเบิกเงินสดจากบัตรเครดิต 10,000 บาท มีกำหนดชำระวันที่ 25 สิงหาคม ผู้ถือบัตรเครดิตต้องเสียค่าธรรมเนียม 3% เท่ากับ 300 บาท และดอกเบี้ยอีก 17 วัน เท่ากับ 84 บาท (10,000 X 18% X 17/365) รวมเป็น 384 บาท หากมีความจำเป็นต้องเบิกเงินสดฉุกเฉินมาใช้ควรมีบัตรกดเงินสด (K-Express Cash) เพื่อใช้เป็นเงินสำรอง จากตัวอย่างเดียวกัน ถ้าต้องการใช้เงิน 10,000 บาท เสียดอกเบี้ย 27% ต่อปี เท่ากับ 126 บาท (10,000 X 27% X 17/365) ส่วนค่าธรรมเนียมเบิกเงินสดไม่เสีย (รายละเอียดเปรียบเทียบตามตารางด้านล่าง) ดังนั้น ถ้าต้องการใช้เงินสดควรเลือกถอนเงินสดจากบัตรกดเงินสด (K-Express Cash) เป็นทางเลือกที่ดีกว่าการถอนเงินสดจากบัตรเครดิต
6. ใช้คะแนนสะสมเท่ายอดซื้อเพื่อแลกรับส่วนลดพิเศษ
ปกติการแลกคะแนนสะสมอยู่ที่ 5,000 คะแนน มีมูลค่า 500 บาท หรือใช้คะแนนสะสมเท่ายอดซื้อได้ส่วนลด 10% ซึ่งเป็นเงื่อนไขปกติที่หลายธนาคารใช้กัน แต่หลาย ๆ ครั้งธนาคารมีการจัดโปรโมชันพิเศษออกมา เช่น ใช้ 3,900 คะแนน แลกบัตรกำนัลมูลค่า 500 บาท หรือใช้คะแนนสะสมเท่ายอดซื้อได้ส่วนลด 12% เป็นต้น ถือว่าเป็นเงื่อนไขที่ดีกว่าเงื่อนไขปกติทั่วไป
การใช้บัตรเครดิตเป็นการใช้เงินในอนาคต เปรียบเสมือนดาบสองคม ถ้าใช้แบบถูกวิธีมีแต่ได้กับได้ แต่ถ้าใช้ไม่ถูกวิธีก็มีแต่เป็นหนี้ จนถึงขั้นเป็นหนี้สินล้นพ้นตัวได้ ดังนั้น ถ้าคิดจะใช้บัตรเครดิตควรมีเงินสดรองรับไว้ด้วย
หากคุณมีข้อสงสัยเกี่ยวกับเรื่องบ้าน คู่มือซื้อขาย สามารถเป็นตัวช่วยตอบได้ทุกคำถาม ในขณะเดียวกันสำหรับคนที่สนใจจะซื้อหรือเช่า เรายังมี ทำเลที่น่าสนใจอีกมากมายใน AreaInsider และมีโครงการบ้าน-คอนโดฯ ให้คุณค้นหา รวมถึงแนะนำให้ อ่านรีวิวโครงการ ก่อนตัดสินใจซื้อ
เรื่องข้างต้นนี้เขียนโดย พฤทธิ์ จำรัสพันธุ์ AFPTTM K-Expert ฝ่ายวางแผนและให้คำปรึกษาลูกค้าบุคคล ธนาคารกสิกรไทย หากมีข้อสงสัยหรือต้องการปรึกษาวางแผนเพิ่มเติม สามารถปรึกษากับ K-Expert ธนาคารกสิกรไทย ได้ที่ K-Expert@kasikornbank.com
ข้อจำกัดความรับผิดชอบ: ข้อมูลนี้จัดทำขึ้นเพื่อเป็นข้อมูลทั่วไปเท่านั้น DDproperty by PropertyGuru ซึ่งอยู่ภายใต้การดูแลของบริษัท ออลพร็อพเพอร์ตี้ มีเดีย จำกัด ไม่สามารถรับรองหรือรับประกันเกี่ยวกับข้อมูล รวมทั้งไม่สามารถรับรองหรือรับประกันใด ๆ เกี่ยวกับความเหมาะสม สำหรับวัตถุประสงค์เฉพาะใด ๆ ของข้อมูล ตามขอบเขตสูงสุดที่กฎหมายอนุญาต แม้ว่าเราได้พยายามอย่างเต็มที่ เพื่อให้แน่ใจว่าข้อมูลที่ให้ไว้ในบทความนี้ถูกต้อง เชื่อถือได้ และครบถ้วน ณ เวลาที่เขียน แต่ข้อมูลที่ให้ไว้ในบทความนี้ไม่ควรนำไปใช้ในการตัดสินใจทางการเงิน, การลงทุนอสังหาริมทรัพย์ หรือทางกฎหมายทันที ผู้อ่านไม่ควรใช้ข้อมูลในบทความ แทนคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญที่ผ่านการฝึกอบรมซึ่งสามารถพิจารณาข้อเท็จจริงและสถานการณ์ส่วนตัวของคุณได้ ทั้งนี้ เราไม่สามารถรับผิดชอบใด ๆ หากคุณเลือกที่จะนำข้อมูลไปใช้เพื่อประกอบการตัดสินใจ