ในชีวิตหนึ่งคนเรามักมีบ้านเพียงไม่กี่หลัง ดังนั้น การซื้อบ้านแต่ละครั้งทำให้ผู้ซื้อบ้าน โดยเฉพาะมือใหม่ที่กำลังจะควักเงินในกระเป๋าซื้อบ้านหลังแรกเป็นของตัวเองต้องคิดและวิเคราะห์ให้ดีก่อนตัดสินใจ เพราะการซื้อบ้านหนึ่งหลังมีส่วนที่ต้องพิจารณาหลายด้าน โดยเฉพาะ 9 เรื่องที่ผู้ซื้อต้องคิดก่อนตัดสินใจซื้อบ้าน เพื่อไม่พลาดบ้านดี ๆ ไป
1. รู้จักไลฟ์สไตล์ของตัวเอง
บ้านที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของผู้อยู่อาศัยคือบ้านที่คุ้มค่า เพราะเราจะสามารถหาทุกสิ่งและทำทุกอย่างได้ภายในบ้านของเรา ดังนั้นผู้ซื้อจึงควรสำรวจรูปแบบการใช้ชีวิตของตัวเอง โดยให้ไลฟ์สไตล์เป็นตัวกำหนดตั้งแต่รูปแบบที่อยู่อาศัย ไปจนถึงทำเลของที่อยู่อาศัย
ยกตัวอย่างเช่น หากไลฟ์สไตล์เป็นคนชอบอยู่บ้าน ปลูกต้นไม้ ทำอาหาร หรือส่วนใหญ่ทำงานจากที่บ้าน (work from home) ควรเลือกรูปแบบบ้านเป็นบ้านเดี่ยว เพราะมีพื้นที่ใช้สอยและบริเวณบ้านมากกว่า แต่หากอยากอยู่อาศัยใกล้ที่ทำงานใจกลางเมือง อาจมองทำเลใกล้ที่ทำงาน หรือใกล้รถไฟฟ้าที่ช่วยให้การเดินทางสะดวกขึ้น และไม่ใช้เวลาในการเดินทางมากเกินไป
2. รู้ความสามารถทางการเงิน
นอกจากกู้ได้และผ่อนไหวแล้ว ยังต้องมีเงินพอสำหรับค่าใช้จ่ายที่มาพร้อมกับการเป็นเจ้าของบ้านด้วย เช่น ค่ากองทุน ค่าส่วนกลางที่ต้องจ่ายล่วงหน้า หรือค่าธรรมเนียมโอน นอกจากนี้ยังมีค่าใช้จ่ายต่าง ๆ อีกเมื่อเข้าอยู่ เช่น ค่าขนย้าย ค่าเครื่องใช้ไฟฟ้า และค่าเฟอร์นิเจอร์ ค่าน้ำ-ค่าไฟ ไม่รวมไปถึงค่าเดินทางที่อาจเพิ่มขึ้น ซึ่งเราควรประมาณการเอาไว้ และเผื่อเงินไว้ส่วนหนึ่งเสมอสำหรับค่าใช้จ่ายที่ไม่คาดคิด
3. เปรียบเทียบระหว่างการซื้อบ้านกับการสร้างบ้าน
บางครั้งคุณอาจไม่จำเป็นต้องซื้อบ้านใหม่ เพราะบ้านใหม่ตามโครงการจัดสรรมักออกแบบมาให้ตอบสนองความต้องการของผู้อยู่อาศัยทั่ว ๆ ไป ถ้าหากคุณมีงบมากพอและต้องการบ้านที่ออกมาแบบตามใจต้องการ การสร้างบ้านเป็นทางเลือกที่ดี
แต่ก็ต้องยอมรับความเสี่ยงด้านการก่อสร้างทั้งระยะเวลาและค่าใช้จ่ายที่ยากจะควบคุม และอีกทางเลือกหนึ่งที่อยู่ระหว่างกลางของการซื้อบ้านและการสร้างบ้านก็คือการรีโนเวทบ้าน ซึ่งประหยัดค่าใช้จ่ายจากการสร้างบ้านทั้งหลังลง แต่สามารถปรับเปลี่ยนบ้านให้เข้ากับความต้องการได้มากขึ้น
4. ทำเลและสิ่งแวดล้อม
นอกจากรูปแบบของบ้านหรือคอนโด และสิ่งอำนวยความสะดวกในโครงการที่น่าประทับใจแล้ว ผู้ซื้อต้องไม่ละเลยที่จะพิจารณาถึงสิ่งแวดล้อมรอบนอกโครงการด้วยว่าเป็นที่ตั้งของอะไร และการเดินทางเข้ามายังโครงการผ่านสถานที่อะไรบ้าง ในแต่ละช่วงเวลามีความปลอดภัยมากน้อยเพียงใด ที่ว่างเปล่าข้างโครงการจะพัฒนาเป็นอะไรได้บ้าง โรงงานที่ตั้งอยู่ใกล้ ๆ จะมีมลภาวะ เสียงดัง กลิ่นรบกวนหรือไม่ แม้กระทั่งสภาพพื้นที่ที่โครงการตั้งอยู่นั้นเป็นที่ลุ่มต่ำ การระบายน้ำจะมีปัญหาหรือไม่ในเวลาฝนตก หรือเคยมีประวัติน้ำท่วมหรือไม่
5. สินเชื่อที่อยู่อาศัย
ควรให้ความสนใจกับอัตราดอกเบี้ยที่จะได้รับจากการกู้บ้านเพราะการกู้บ้านนั้นเป็นหนี้สินในระยะยาวสูงสุดถึง 30 ปี หรือสำหรับธนาคารรัฐอาจสูงถึง 40 ปี แม้ว่าจะสามารถรีไฟแนนซ์ได้หลังจากผ่อนเกิน 3 ปีขึ้นไป แต่ก็มีค่าใช้จ่ายในการรีไฟแนนซ์อีก ดังนั้นจึงควรเลือกสินเชื่อที่มีอัตราดอกเบี้ยต่ำไว้ก่อน
6. ใช้บริการตัวแทนอสังหาริมทรัพย์
ก่อนจะตัดสินใจซื้อ หากไม่มั่นใจว่าสำรวจบ้านมามากเพียงพอ หรือยังไม่เจอบ้านที่ตรงใจจริง ๆ การใช้บริการเอเจนท์ หรือนายหน้า หรือตัวแทนอสังหาริมทรัพย์ ก็เป็นวิธีการที่น่าสนใจ โดยเอเจนท์ที่มีความเชี่ยวชาญ มักจะรอบรู้ในทำเลต่าง ๆ มีข้อมูลของอสังหาฯ ที่ประกาศขายอยู่ในพื้นที่นั้นหลายรายการจะเป็นตัวช่วยคัดกรองหาบ้านที่คุณต้องการได้เป็นอย่างดี นอกจากนั้นยังสามารถให้ข้อมูลราคาซื้อขายที่เหมาะสมของทำเลนั้นอีกด้วย
7. ตรวจสอบบ้านโดยผู้เชี่ยวชาญ
บ้านบางหลังนั้นมีปัญหาอยู่แล้ว หรือการออกแบบที่ทำให้เกิดปัญหาในระยะยาว แต่ผู้ซื้ออาจไม่สังเกตเห็น และผู้ขายปกปิดเอาไว้ การพาผู้เชี่ยวชาญเข้าชมบ้านด้วยนั้นจะทำให้มองเห็นจุดบกพร่องต่าง ๆ เหล่านี้ได้ชัดเจนมากขึ้น แม้ว่าจะต้องมีค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้น แต่เมื่อเทียบกับค่าซ่อมแซมบ้านที่จะเกิดขึ้นในระยะยาวเนื่องจากบ้านมีปัญหานั้นก็ถือว่ามีความคุ้มค่ามาก
8. บันทึกทุกอย่าง
ในการซื้อบ้านนั้นมีข้อมูลหลายอย่างที่อาจไม่อยู่ในเอกสาร หรือบางครั้งข้อมูลในเอกสารก็ไม่ได้ระบุไว้อย่างชัดเจน การจดบันทึกรายละเอียดเพิ่มเติมนอกจากจะทำให้ไม่หลงลืม หรือเข้าใจคลาดเคลื่อนแล้ว ก็ยังทำให้สามารถทบทวนในภายหลังได้ หรือหากมีประเด็นสงสัยหรือต้องการหาข้อมูลเพิ่มเติมก็บันทึกไว้ และหาข้อมูล หาคำตอบในภายหลังได้ก่อนตัดสินใจซื้อ
9. สิ่งที่ควรทำก่อนตัดสินใจซื้อ
เมื่อได้รับข้อมูลอย่างรอบด้านแล้ว ทั้งข้อมูลเกี่ยวกับบ้านที่จะซื้อ ข้อมูลที่เกี่ยวข้องสิ่งแวดล้อมและการเดินทาง รวมไปถึงภาระการเงินและค่าใช้จ่าย ให้กลับมาวิเคราะห์อีกครั้งว่าตัวบ้านที่จะซื้อมีความพอใจ หรือไม่พอใจอะไรบ้าง สิ่งแวดล้อมและการเดินทางมีข้อดีข้อเสียอย่างไรบ้าง ภาระการเงินและค่าใช้จ่ายนั้นคุณมีความสามารถที่จะจ่ายหรือไม่ หากมีปัญหาทางการเงินโดยเฉพาะด้านรายได้จะมีเงินผ่อนบ้านต่อไปได้อีกนานแค่ไหน เมื่อตอบคำถามต่าง ๆ ได้หมดแล้วจึงจะตัดสินใจซื้อได้
สนใจรับบทความดีดี อัปเดต ข่าวอสังหาริมทรัพย์ และ อ่านคู่มือซื้อขาย พร้อม รีวิวโครงการคอนโดฯ ใหม่ บ้านใหม่ หลากหลายทำเลและราคา รวมถึง ทำความรู้จักกับทำเลฮอตทั่วกรุง เพื่อเพิ่มความมั่นใจในการซื้อ-ขาย-เช่า