BOQ คือเอกสารที่มีความสำคัญเกี่ยวกับการก่อสร้างบ้าน ผู้รับเหมาก่อสร้างที่ดีจะต้องแสดงให้ผู้ว่าจ้างเห็นถึงความจริงใจ และอธิบายถึงรายละเอียด ปริมาณการใช้วัสดุ รวมถึงค่าใช้จ่าย และค่าแรกต่าง ๆ ลองมาทำความรู้จักว่า BOQ คืออะไร มีความสำคัญแค่ไหน และคำนวณอย่างไร ได้ที่นี่
อ่านหัวข้อที่คุณสนใจ
BOQ คืออะไร
สมาคมธุรกิจรับสร้างบ้าน ได้อธิบายไว้ว่า BOQ ย่อมาจาก Bill of Quantities ซึ่งแปลเป็นภาษาไทยคร่าว ๆ ว่า ใบแสดงรายการวัสดุและค่าใช้จ่าย ซึ่งออกโดยผู้ออกแบบบ้านหรือผู้รับเหมาก่อสร้าง โดยจะแสดงรายละเอียดหมวดหมู่งานที่ต้องทำในโครงการก่อสร้างว่า จะใช้วัสดุอะไร ปริมาณเท่าไร ราคากี่บาท และค่าแรงในการจัดการวัสดุนั้น ๆ มีราคาเท่าไร
นอกจากนี้ ผู้รับเหมาบางรายอาจระบุถึงกำไรและค่าดำเนินการให้เห็นโดยคิดจากมูลค่าใน BOQ อีกกี่เปอร์เซ็นต์
ตัวอย่างตารางราคา BOQ โดยคร่าว
– ถมดิน
200 คิว
250
50,000
50
10,000
60,000
– ปรับพื้นผิว
200 ตร.ม.
–
–
40
8,000
8,000
– ตอกเสาเข็ม 3 เมตร
30 ต้น
250
7,500
300
9,000
16,500
– เทพื้นคอนกรีต
150 ตร.ม.
200
30,000
50
7,500
37,500
– คอนกรีตโครงสร้าง
20 ลบ.ม.
2,500
50,000
300
6,000
56,000
– เหล็กโครงสร้าง
400 กก.
22
8,800
3
1,200
10,000
– ก่ออิฐผนัง
200 ตร.ม.
160
32,000
100
20,000
52,000
– ฉาบผนังผิวเรียบ
400 ตร.ม.
60
24,000
80
32,000
56,000
รวมค่าก่อสร้างทั้งหมด (บาท)
–
–
–
–
–
296,000
หมายเหตุ ตารางข้างต้นเป็นเพียง BOQ ตัวอย่างที่สมมติปริมาณการใช้วัสดุและราคาเท่านั้น
BOQ สำคัญอย่างไร
1. ใช้ BOQ ในการยื่นขอสินเชื่อกับธนาคารได้
สำหรับผู้ที่วางแผนกู้เงินเพื่อสร้างบ้าน คุณสามารถยื่นใบเสนอราคา BOQ งานก่อสร้างจากผู้ออกแบบหรือผู้รับเหมาก่อสร้างให้แก่ธนาคารเพื่อใช้ประกอบการพิจารณาอนุมัติสินเชื่อได้ โดยธนาคารจะพิจารณาว่าวงเงินที่คุณขอกู้นั้นสอดคล้องกับ BOQ งานก่อสร้างที่ระบุไว้หรือไม่ ซึ่งจะช่วยให้การขอกู้เงินสร้างบ้านราบรื่นยิ่งขึ้น
สร้างบ้านเองต้องเตรียมตัวอย่างไร
สร้างบ้านเอง ต้องเตรียม 7 ขั้นตอน รู้ก่อนหาผู้รับเหมา ขออนุญาตก่อสร้าง
2. ใช้ BOQ ในการเปรียบเทียบราคากลางได้
ในกรณี BOQ ที่มาจากผู้ออกแบบบ้าน พวกเขามักจะใส่ราคาวัสดุคร่าว ๆ เพื่อคำนวณงบประมาณการก่อสร้างไว้ให้คุณแล้ว คุณสามารถใช้เอกสารนี้เป็นราคากลาง BOQ สำหรับเปรียบเทียบกับ BOQ ของผู้รับเหมาอื่น ๆ ที่เสนอมาได้ ซึ่งจะจึงทำให้เห็นภาพว่าผู้รับเหมารายใดให้ราคาที่เหมาะสมที่สุด
3. ใช้ BOQ ในการตรวจงานและมาตรฐานวัสดุได้
BOQ ก็เปรียบเสมือนรายการตรวจเช็กสำเร็จรูปที่คุณไม่ต้องนั่งคิดเอาเองว่าจะต้องเช็กอะไร คุณสามารถใช้ตรวจวัสดุต่าง ๆ ได้ว่าถูกต้องตามรายการที่ระบุไว้หรือไม่ มีวัสดุหรืองานใดที่ขาดตกบกพร่องไปหรือไม่ ซึ่ง BOQ สามารถตรวจสอบการทำงานของผู้รับเหมาได้ทั้งในระหว่างก่อสร้างและในเวลาตรวจรับงานก่อนส่งมอบ

คำนวณ BOQ อย่างไร
โดยปกติแล้วผู้ออกแบบบ้านหรือผู้รับเหมาก่อสร้างต้องคิดคำนวณ BOQ ให้คุณ แต่ถ้าเป็นงานเล็ก ๆ จากผู้รับเหมารายย่อยที่ยังไม่รู้ว่า BOQ คืออะไร หรือถ้าคุณต้องการคำนวณค่าใช้จ่ายเองเพื่อมอบหมายให้ผู้รับเหมาเสนอค่าแรงหรือตรวจเช็กความสอดคล้องกับ BOQ ของผู้รับเหมา เราก็มีขั้นตอนการคำนวณ BOQ คร่าว ๆ มาให้คุณทำเองได้ดังนี้
1. จัดหมวดหมู่งาน
การจัดหมวดหมู่งานเป็นสิ่งแรกที่ต้องทำเพื่อแยกประเภทงานก่อสร้างทั้งหมดออกเป็นกลุ่ม เช่น ถ้าคุณจะสร้างบ้านสักหลังก็ต้องมีงานเตรียมพื้นที่ งานพื้นผิว งานโครงสร้าง งานหลังคา งานฝ้าเพดาน งานผนัง งานประตูหน้าต่าง งานทาสี งานไฟฟ้า งานประปา งานสุขภัณฑ์ งานตกแต่งภายใน และงานตกแต่งภายนอก
ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับว่าคุณจะทำอะไรบ้าง หรือถ้าเป็นการปรับปรุงห้องน้ำก็อาจมีแค่งานปูพื้นและงานสุขภัณฑ์แค่ 2 กลุ่ม เป็นต้น
2. วัดขนาดพื้นที่
ควรใช้หน่วยเมตรและตารางเมตรเป็นหลักในการวัดพื้นที่ เพราะเป็นหน่วยมาตรฐานที่ใช้ซื้อขายวัสดุก่อสร้าง เช่น พื้นที่บ้านวัดได้ 135 ตารางเมตร คุณก็ระบุใน BOQ บ้านได้ว่า ต้องใช้กระเบื้องปูพื้นประมาณ 135 ตารางเมตร หรือในบ้าน 2 ชั้นที่ต้องการเดินสายไฟให้ครบทุกห้อง และวัดความยาวได้ประมาณ 300 เมตร คุณก็ต้องใช้สายไฟม้วน 50 เมตร จำนวน 6 ม้วน เป็นต้น
เรื่องที่ต้องรู้ก่อนโดนผู้รับเหมาโกง
มีเรื่องอะไรที่คุณควรรู้บ้าง เพื่อป้องกันการโดนผู้รับเหมาโกงเงินค่าวัสดุก่อสร้างบ้าน
3. สำรวจราคา
เราขอแนะนำให้คุณสำรวจราคาในร้านจำหน่ายวัสดุก่อสร้างขนาดใหญ่ เพราะร้านค้าเหล่านั้นมักจะมีบริการทำใบเสนอราคาตามรายการที่คุณต้องการโดยไม่ต้องเสียเวลาเช็กราคาเอง แต่ถ้าคุณไม่สะดวกหรือไม่มีเวลาเดินทาง คุณสามารถพึ่งพาร้านขายวัสดุก่อสร้างบนอินเทอร์เน็ตในการค้นหาราคาวัสดุที่ต้องการได้อย่างง่ายดายเพียงไม่กี่คลิก
4. เคาะราคาที่ต้องจ่าย
คุณสามารถคิดค่าวัสดุที่ต้องใช้ได้ง่าย ๆ ด้วยการนำ ปริมาณวัสดุ x ราคาต่อหน่วย = ราคาวัสดุที่ต้องใช้ ส่วนค่าแรงนั้นจะคิดยากกว่าพอสมควรเนื่องจากผู้รับเหมาแต่ละรายคิดค่าแรงไม่เท่ากันและไม่มีมาตรฐานตายตัว แต่คุณก็สามารถคาดคะเนได้คร่าว ๆ ดังนี้
- งานขนาดเล็กหรืองานง่ายให้ใช้แบบราคาไม่เกิน 50 บาทต่อหน่วย
- งานขนาดปานกลางหรืองานทั่วไปให้ใช้แบบราคาไม่เกิน 120 บาทต่อหน่วย
- งานขนาดใหญ่หรืองานยากให้ใช้แบบราคาไม่เกิน 500–1,000 บาทต่อหน่วย
แม้ว่าคุณจะไม่มีความรู้ความเชี่ยวชาญในงานก่อสร้าง แต่ด้วยการคำนวณแบบนี้ คุณก็จะทราบค่าแรงโดยประมาณ และสามารถนำมารวมกับราคาวัสดุเพื่อหาจำนวนเงินทั้งหมดที่ต้องจ่ายในเบื้องต้นสำหรับงานก่อสร้างได้
อย่างไรก็ดี ราคา BOQ งานก่อสร้างที่เห็นนั้นไม่ได้หมายความว่าจะเป็นราคาสุทธิที่คุณต้องจ่ายเสมอไป เพราะในระหว่างการก่อสร้างอาจมีปัจจัยอื่น ๆ ที่ทำให้ค่าใช้จ่ายจริงแตกต่างจากเอกสารได้ เช่น การเปลี่ยนแปลงวัสดุ (โดยตกลงกันแล้ว) และการแก้ไขงานเมื่อพบอุปสรรคในระหว่างก่อสร้าง
นอกจากนี้ การตรวจสอบความคืบหน้าและการตรวจรับงานในแต่ละช่วงโดยยึดตามรายการวัสดุใน BOQ ยังช่วยควบคุมค่าใช้จ่ายในการก่อสร้างไปในตัว ทำให้ได้บ้านที่ใกล้เคียงกับสเปกที่ต้องการมากที่สุดตามรายการใน BOQ ที่ตกลงกันไว้ และป้องกันการถูกโกงค่าวัสดุก่อสร้างอีกด้วย
ข้อจำกัดความรับผิดชอบ: ข้อมูลนี้จัดทำขึ้นเพื่อเป็นข้อมูลทั่วไปเท่านั้น DDproperty by PropertyGuru ซึ่งอยู่ภายใต้การดูแลของบริษัท ออลพร็อพเพอร์ตี้ มีเดีย จำกัด ไม่สามารถรับรองหรือรับประกันเกี่ยวกับข้อมูล รวมทั้งไม่สามารถรับรองหรือรับประกันใด ๆ เกี่ยวกับความเหมาะสม สำหรับวัตถุประสงค์เฉพาะใด ๆ ของข้อมูล ตามขอบเขตสูงสุดที่กฎหมายอนุญาต แม้ว่าเราได้พยายามอย่างเต็มที่ เพื่อให้แน่ใจว่าข้อมูลที่ให้ไว้ในบทความนี้ถูกต้อง เชื่อถือได้ และครบถ้วน ณ เวลาที่เขียน แต่ข้อมูลที่ให้ไว้ในบทความนี้ไม่ควรนำไปใช้ในการตัดสินใจทางการเงิน, การลงทุนอสังหาริมทรัพย์ หรือทางกฎหมายทันที ผู้อ่านไม่ควรใช้ข้อมูลในบทความ แทนคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญที่ผ่านการฝึกอบรมซึ่งสามารถพิจารณาข้อเท็จจริงและสถานการณ์ส่วนตัวของคุณได้ ทั้งนี้ เราไม่สามารถรับผิดชอบใด ๆ หากคุณเลือกที่จะนำข้อมูลไปใช้เพื่อประกอบการตัดสินใจ