Comfort zone กับการซื้อบ้าน 4 ข้อที่ต้องก้าวข้าม กล้าที่จะเปลี่ยน

Comfort Zone หลายคนคงเคยได้ยินหรือรู้จักกับคำนี้ ซึ่งถ้าแปลตรงตัวก็จะหมายถึงพื้นที่ปลอดภัย ที่มีความเกี่ยวข้องกับหลาย ๆ เรื่องในชีวิต โดยเฉพาะการซื้อที่อยู่อาศัย บ้าน-คอนโด หากติดอยู่ใน Comfort Zone มาก ๆ มีข้อเสียอย่างไร และการก้าวออกมาจาก Comfort Zone จะส่งผลดีอย่างไรกับตัวเรา มาติดตามไปพร้อม ๆ กัน

Comfort zone คือ พื้นที่ที่อยู่แล้วรู้สึกปลอดภัย เคยชินจนไม่อยากจะเปลี่ยนแปลง เพราะรู้สึกว่ามันดีอยู่แล้ว ลงตัวอยู่แล้ว โดย Comfort Zone สามารถใช้ได้กับหลาย ๆ เรื่องในชีวิต ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการเข้าสังคม รู้จักกับเพื่อนใหม่ การเปลี่ยนงานใหม่ หรือแม้แต่การย้ายที่อยู่อาศัย ย้ายบ้าน ที่จะไม่มีวันเกิดขึ้นแน่นอน หากคุณไม่กล้าที่จะก้าวออกจาก Comfort Zone ซึ่งเป็นกรอบที่คุณสร้างขึ้นมาล้อมรอบตัวคุณไว้นั่นเอง

แม้จะรู้สึกว่า Comfort Zone คือพื้นที่ปลอดภัย พื้นที่ที่คุณทำสิ่งเดิม ๆ ที่คุ้นชินได้ดีอยู่แล้ว โดยไม่อยากเปลี่ยนแปลง รู้สึกพอใจกับการใช้ชีวิตในแต่ละวันที่ค่อนข้างจะราบเรียบ ไม่หวือหวา ไม่มีเรื่องให้น่าตื่นเต้น ไม่มีสิ่งเร้าใหม่ ๆ ที่ทำให้รู้สึกว่าไม่ปลอดภัย ไม่เป็นตัวของตัวเอง และเกิดความรู้สึกที่ทำให้รู้สึกว่า Comfort Zone ของคุณถูกทำลายลง ซึ่งนี่ถือเป็นข้อเสียของ Comfort Zone

หากยกตัวอย่างให้เห็นภาพมากขึ้น ในแง่ของการทำงาน Comfort Zone อาจทำให้คุุณเป็นคนที่ขาดการพัฒนา ไม่ค่อยกระตือรือร้น หรือเปิดรับกับสิ่งใหม่ ทำสิ่งเดิม ๆ เพื่อให้เวลาผ่านไปในแต่ละวัน แต่ละปี โดยที่ไม่ได้มีการเริ่มต้นสิ่งใหม่ ซึ่งบางครั้งอาจจะเป็นสิ่งที่ดีกว่า และคุ้มค่ากับการที่จะเปลี่ยนแปลง เพียงแต่คุณไม่กล้าพาตัวเองออกมาจาก Comfort Zone ซึ่งอาจนำไปสู่ภาวะอื่น ๆ ที่ส่งผลกระทบต่อชีวิต อย่างภาวะหมดไฟ หรือ Burn out ในการทำงาน และไม่มีโอกาสก้าวหน้าในตำแหน่งหน้าที่การงานทำอยู่

หากโฟกัสในแง่การซื้อบ้าน Comfort Zone อาจกลายเป็นปัญหาใหญ่ของใครหลาย ๆ คนได้ เพียงเพราะคุณหรือคนใกล้ตัวคุณไม่กล้าก้าวออกจาก Comfort zone ตัวอย่างเช่น

สภาพบ้านที่อาศัยอยู่มานานเป็น 10 ปี ย่อมมีการเปลี่ยนแปลงไป สภาพชำรุดทรุดโทรมไปตามกาลเวลา ตั้งแต่โครงสร้างภายนอก โครงสร้างภายใน ไปจนถึงระบบประปา ระบบไฟฟ้า ที่มีปัญหา ต้องเรียกช่างมาซ่อมอยู่บ่อย ๆ เสียทั้งเวลาและเสียเงินแบบที่ไม่รู้ว่าจะจบลงตรงไหน หรือแม้แต่บ้านเช่าที่หลายคนเลือกอยู่อาศัยแทนการซื้อบ้าน ก็มีค่าเช่าห้องและค่าใช้จ่ายอื่น ๆ ที่รวม ๆ แล้วมากพอ ๆ กับการผ่อนบ้านในแต่ละเดือน

อีกทั้งเมื่อเวลาผ่านไป ความต้องการพื้นที่ใช้สอยอาจจะเพิ่มมากขึ้น การซื้อบ้านหลังใหม่ที่มีโครงสร้างแข็งแรงและมีพื้นที่ใช้สอยที่ครบครัน ตอบโจทย์ได้ครบจึงน่าจะตอบโจทย์กว่า และถึงเวลาที่จะก้าวออกจาก Comfort Zone

เมื่อถึงวันเวลาที่จะแต่งงาน สร้างครอบครัว การวางแผนชีวิตคู่เป็นปัจจัยต้น ๆ ในการซื้อบ้าน ที่ไม่ได้มองแค่ซื้อเพื่ออยู่อาศัยในวันนี้สำหรับ 2 คน สามี-ภรรยาเท่านั้น แต่ยังต้องคิดถึงการมีลูก มองไกลถึงอนาคตด้วย เมื่อมีลูก

แน่นอนว่าความต้องการพื้นที่ใช้สอยย่อมมีมากขึ้น เช่น จำนวนห้องนอนที่มากขึ้น มีห้องทำกิจกรรม หรือสวนบริเวณบ้านสำหรับลูกน้อยได้วิ่งเล่น ส่งเสริมพัฒนาการเรียนรู้ของเด็กให้เติบโตสมวัย และยังต้องเป็นทำเลที่ใกล้โรงเรียนลูก ซึ่งอาจจะไม่ใช่ทำเลที่เป็น Comfort Zone

สำหรับครอบครัวที่กำลังขยับขยายใหญ่ขึ้น และมีผู้สูงอายุอาศัยอยู่ร่วมกันในบ้าน การซื้อบ้านจะต้องให้ความสำคัญกับเรื่องฟังก์ชันที่ต้องสามารถรองรับการใช้ชีวิตของคนทุกวัย ที่อาศัยอยู่ในบ้านหลังเดียวกัน โดยเฉพาะผู้สูงอายุ หรือแม้แต่ตัวเราเองที่เข้าใกล้วัยเกษียณ

บ้านที่เหมาะกับคนวัยเกษียณต้องมีก็เช่น บ้านที่มีห้องอเนกประสงค์ชั้นล่าง ที่สามารถปรับเปลี่ยนเป็นห้องนอนสำหรับคุณพ่อ คุณแม่ หรือผู้สูงอายุ ให้ไม่ต้องเดินขึ้นบันไดให้ลำบาก มีฟังก์ชันสำหรับผู้สูงอายุ เช่น ห้องน้ำผู้สูงอายุ ทางลาดสำหรับรถเข็นวีลแชร์ เป็นต้น บ้านที่เป็น Comfort Zone คุณจึงต้องเป็นบ้านที่เติมเต็มความอบอุ่นของสมาชิกในครอบครัวทุกคนด้วย

การมีบ้านใกล้ที่ทำงาน ไม่ต้องฝ่ารถติดในการเดินทาง หรือใช้ชีวิตบนท้องถนนนานหลายชั่วโมง ก็ทำให้คุณมีสุขภาพกายและสุขภาพจิตดีขึ้นได้ จากเวลาที่เพิ่มขึ้นและได้ทำสิ่งที่ชอบ เช่น ออกกำลังกาย หรือแฮงก์เอ้าท์กับเพื่อน การซื้อบ้านกับ Comfort Zone จึงอาจไม่ใช่ทำเลเดิมที่คุณเคยอยู่อาศัยมาตั้งแต่เด็ก แต่เป็นทำเลใหม่ ใกล้ที่ทำงาน เดินทางได้หลากหลาย ใกล้ทั้งถนนเส้นหลัก ทางด่วน รถไฟฟ้าและรถไฟใต้ดิน

Comfort zone กับการซื้อบ้าน เป็นการตัดสินใจครั้งใหญ่ที่นำมาซึ่งความเปลี่ยนแปลง ต้องศึกษาให้รอบด้าน และยังมีอีกหลายปัจจัยที่ต้องพิจารณา สามารถดูเพิ่มเติมได้บทความ 5 ข้อต้องคิดก่อนตัดสินใจซื้อบ้านในช่วงนี้ ก่อนที่จะตัดสินใจซื้อ