LPN ปรับพอร์ตการลงทุน ลุยศึกอสังหาฯ ด้วยกลยุทธ์ Healthy Resilience

DDproperty Editorial Team
LPN ปรับพอร์ตการลงทุน ลุยศึกอสังหาฯ ด้วยกลยุทธ์ Healthy Resilience
[PR News] บริษัท แอล.พี.เอ็น.ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) หรือ LPN วางกลยุทธ์ปี 2568 ดำเนินธุรกิจภายใต้แนวคิด "Healthy Resilience" มุ่งสู่การเป็นบริษัทอสังหาริมทรัพย์ที่มีศักยภาพในการปรับตัวอย่างยืดหยุ่นและแข็งแกร่งขึ้น ท่ามกลางสถานการณ์เศรษฐกิจที่มีความผันผวนและไม่แน่นอน
LPN ปรับพอร์ตการลงทุน ลุยศึกอสังหาฯ ด้วยกลยุทธ์ Healthy Resilience
นางสาวดารณี ฉัตรพิริยะพันธ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แอล.พี.เอ็น.ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) หรือ LPN เปิดเผยว่า หากดูจากสถานการณ์ของเศรษฐกิจปัจจุบัน จะเห็นชัดว่าเป็นปีที่ท้าทายการทำงานของผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์
เนื่องจากกำลังซื้อที่อยู่อาศัยภายในประเทศชะลอตัว จากภาระหนี้ครัวเรือนที่ยังสูงอยู่เกิน 90% ต่อผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (Gross Domestic Products: GDP) และสถาบันการเงินยังคงเข้มงวดในการพิจารณาสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยจากความสามารถในการชำระคืนหนี้ของผู้ซื้อลดลงต่อเนื่อง
ในขณะเดียวกันพฤติกรรมของผู้ซื้อที่อยู่อาศัยในปัจจุบันเปลี่ยนแปลงไป จากผลการสำรวจของหลายสำนักวิจัยพบว่า ปัจจุบันคนรุ่นใหม่เน้นการเช่ามากกว่าการซื้อเนื่องจากรายได้ไม่เพียงพอต่อการซื้อที่อยู่อาศัย โดยกระทบมาจากทั้งราคาที่ดิน ราคาวัสดุก่อสร้าง ที่ปรับตัวสูงขึ้น ทำให้ผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์ต้องปรับกลยุทธ์ในการทำธุรกิจ
โดยปี 2568 LPN จึงต้องปรับกลยุทธ์การทำธุรกิจ สู่แนวคิด"Healthy Resilience" โดยให้ความสำคัญกับการดำเนินธุรกิจที่ต้องมีความยืดหยุ่นขึ้น เพื่อนำพาองค์กรไปสู่เป้าหมาย ซึ่งประกอบด้วยแกนหลัก "5P" ได้แก่

1. Products

การปรับตัวในด้านของผลิตภัณฑ์ให้ตอบโจทย์ความต้องการของผู้ซื้อในปัจจุบันมากขึ้น สำหรับปี 2568 LPN มีแผนเปิดตัวโครงการใหม่ 4 โครงการ มูลค่ารวม 6,000 ล้านบาท แบ่งเป็น
– คอนโด จำนวน 2 โครงการ บนทำเลถนนรามอินทรา และอ่อนนุช มูลค่ารวม 3,350 ล้านบาท
– บ้านพักอาศัยระดับพรีเมี่ยม จำนวน 2 โครงการ บนทำเลถนนพระราม 5 และพุทธมณฑลสาย 4 มูลค่ารวม 2,650 ล้านบาท
รวมทั้งยังให้ความสำคัญกับการออกแบบโครงการโดยคำนึงถึงการใช้ชีวิตของคนทุกวัยอย่างมีสุขภาวะที่ดี (Universal and Wellness Design) ตอบโจทย์การใช้ชีวิตทั้งในรูปแบบของครอบครัวและการใช้ชีวิตแบบคนโสด ซึ่งเป็นโจทย์ใหม่ท่ามกลางการเปลี่ยนแปลงของเศรษฐกิจในปัจจุบันที่ขับเคลื่อนด้วยคนโสด (Solo Economy) โดยปี 2568 บริษัทฯ มีแผนในการปรับพอร์ตการลงทุนซื้อที่ดินที่เหมาะสำหรับการพัฒนาคอนโดมากขึ้น
บริษัทฯ มีการวางแผนในการพัฒนาโครงการคอนโดมากขึ้น เพราะนับว่าคอนโดของ LPN ยังเป็นจุดแข็งที่ลูกค้าให้การยอมรับและเชื่อมั่นมายาวนาน อีกทั้งการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมของผู้ซื้อในปัจจุบันที่เน้นการเช่ามากกว่าการซื้อ ทำให้คอนโดยังเป็นที่นิยมของกลุ่มผู้ซื้อเพื่อการลงทุน
สำหรับปี 2568 นี้ บริษัทฯ จะเปิดตัวโครงการคอนโดมิเนียมและบ้านพักอาศัยจำนวนใกล้เคียงกัน ซึ่งเป็นที่ดินเดิมที่พร้อมพัฒนาเป็นโครงการในรูปแบบบ้านพักอาศัยอยู่เดิม แต่สัดส่วนการเปิดคอนโดจะเพิ่มขึ้นอย่างชัดเจนในปี 2569 เป็นต้นไป

2. Process

การปรับกระบวนการทำงานให้มีความยืดหยุ่นและมีประสิทธิภาพ โดยเน้นการใช้นวัตกรรม, ข้อมูล และเทคโนโลยีให้มากขึ้น ในการปรับปรุงกระบวนการทำงานภายใน โดยมุ่งสู่ความต้องการของลูกค้าเป็นหลัก ตั้งแต่การจัดซื้อที่ดิน, งานออกแบบ, การก่อสร้าง, การส่งมอบ และการบริหารจัดการโครงการหลังการส่งมอบ เพื่อครอบคลุมความต้องการของลูกค้า
รวมทั้งให้ความสำคัญกับการก่อสร้างที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม โดยปรับปรุงกระบวนการทำงานและการก่อสร้างไปสู่การเป็น Net Zero Waste Developer ที่เริ่มมาตั้งแต่ปี 2566 และดำเนินการต่อเนื่องมาถึงปัจจุบัน
โดยบริษัทฯ กำหนดเป้าหมายลดก๊าซเรือนกระจก ก่อนที่กฎหมายว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ จะมีผลบังคับใช้ และมีเป้าหมายลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก เฉลี่ยปีละ 2.5% โดยนับปี 2566 เป็นปีฐาน และปี 2566 บริษัทฯ ปล่อยก๊าซเรือนกระจก 1,292 ตันคาร์บอน (tCO2e) และปี 2567 มีการปล่อยก๊าซเรือนกระจกลดลงเหลือ 1,259.7 ตันคาร์บอน (tCo2e) หรือลดลง 2.5% ตามแผนเป็น Net Zero ภายในปี 2608
LPN ปรับพอร์ตการลงทุน ลุยศึกอสังหาฯ ด้วยกลยุทธ์ Healthy Resilience

3. People

มุ่งเน้นการพัฒนาศักยภาพการทำงานของทีมงานภายใต้แนวคิด Work Smart with Commitment ปี 2568 เป็นปีที่บริษัทให้ความสำคัญกับการพัฒนาศักยภาพบุคลากรในการทำงาน เพิ่มการอบรมในทุก ๆ ด้าน การใช้นวัตกรรม และเทคโนโลยี ให้สามารถทำงานร่วมกัน มีทักษะในการเรียนรู้ปรับตัวเพื่อให้เกิดประสิทธิภาพ พร้อมส่งมอบสินค้าและบริการที่มีคุณภาพให้กับลูกค้า

4. Partnership and Stakeholders

ปี 2568 จะเป็นปีที่ LPN พร้อมเปิดรับพันธมิตรทางธุรกิจในด้านต่าง ๆ เพิ่มมากขึ้น เพื่อต่อยอดในการดำเนินธุรกิจโดยร่วมกันสร้างประสบการณ์ใหม่ให้กับลูกค้าและเพิ่มประสิทธิภาพในการแข่งขันและเสริมความแข็งแกร่งในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ จนสามารถสร้างรายได้และยอดขายให้ได้ตามเป้าหมายที่กำหนดไว้ และมุ่งหวังให้พันธมิตรและผู้มีส่วนได้ส่วนเสียกับธุรกิจสามารถที่จะได้รับผลตอบแทนที่เหมาะสมต่อเนื่อง

5. Performance

สำหรับในปี 2568 LPN มีเป้าหมายยอดขาย 8,500 ล้านบาท และรายได้รวม 8,300 ล้านบาท ซึ่งใกล้เคียงกับปี 2567 ที่มียอดขาย 8,450 ล้านบาท รายได้รวม 8,000 ล้านบาท มุ่งเน้นไปที่เป้าหมายสำคัญ คือการนำ LPN กลับไปสู่ TOP10 ในกลุ่มธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ให้ได้ภายใน 5 ปี
โดยให้ความสำคัญกับการบริหารการเงิน ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญในการนำพาธุรกิจให้ขับเคลื่อนต่อไปได้อย่างแข็งแกร่งและเติบโตอย่างมั่นคง ในอัตรา 5-10% ต่อปี การจัดการสภาพคล่องทางการเงิน โดยการลดปริมาณสินค้าคงเหลือ (Inventory) ให้ได้มากที่สุด
รวมทั้งการสร้างรายได้จากหน่วยธุรกิจให้เช่าและการให้บริการ เพื่อเพิ่มกระแสเงินสด และรองรับความผันผวนทางเศรษฐกิจที่อาจเกิดขึ้น เพียงพอต่อการบริหารจัดการ และการลงทุนใหม่ ๆ ที่จะเกิดขึ้นในอนาคต เพื่อตอกย้ำความเป็นผู้นำกลุ่มธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ที่ทำธุรกิจอย่างครบวงจร (Self-fulfillment)
นอกเหนือจากการพัฒนาโครงการที่พักอาศัยทั้งประเภทอาคารชุดและบ้านพักอาศัยแล้ว LPN ยังมีบริษัทในเครือที่ทำธุรกิจที่เกี่ยวเนื่อง และสร้างรายได้ให้กับบริษัทฯ ทั้งบริษัทบริหารจัดการโครงการอย่าง บริษัท แอล พี พี พรอพเพอร์ตี้ มาเนจเมนท์ จำกัด (LPP) ที่ปัจจุบันได้รับการยอมรับจากลูกค้าในการบริหารจัดการนิติบุคคลกว่า 260 โครงการ
โดยปัจจุบัน บริษัทฯ มีสินค้าคงเหลือพร้อมขายมูลค่ารวม 9,000 ล้านบาท และมียอดขายรอโอน (Backlog) ในปี 2568 อยู่ที่ 1,700 ล้านบาท นอกจากนั้น LPN ยังมีแผนการปล่อยแคมเปญส่งเสริมการขายอย่างต่อเนื่องทั้งปี เพื่อกระตุ้นให้เกิดการซื้อทั้งลูกค้าที่ซื้ออยู่เอง และกลุ่มนักลงทุน
ทั้งยังให้ความสำคัญกับการบริหารความสัมพันธ์ที่ดีกับลูกค้าในระยะยาว อาทิ โปรแกรม #MembersGetNeighbors ที่เปิดตัวไปเมื่อปีที่แล้ว เพื่อเปิดโอกาสให้ลูกค้า LPN ทุกคนสามารถสร้างรายได้เพิ่มขึ้นง่าย ๆ เพียงแค่ชวนเพื่อนมาเป็นครอบครัว LPN ด้วยกัน ผ่านระบบที่ได้รับการพัฒนาให้มีขั้นตอนที่ง่าย ชัดเจน สามารถติดตามและตรวจสอบสถานะได้ด้วยตัวเอง
ถือเป็นการสร้างประสบการณ์ใหม่ให้กับสมาชิกครอบครัว LPN ควบคู่ไปกับกิจกรรมสานสัมพันธ์ และการมอบสิทธิประโยชน์อีกมากมายในอนาคต
อย่างไรก็ตาม จากกรณีที่ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) มีการรับเรื่องพิจารณาผ่อนคลายมาตรการควบคุมสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย (Loan to Value: LTV) ซึ่งอยู่ระหว่างการนำข้อมูลต่างๆ มาพิจารณา โดยคาดว่าน่าจะมีข้อสรุปภายในไตรมาส 2 ปี 2568
หากได้รับความเห็นชอบแล้ว คาดว่าจะส่งผลเชิงบวกกับลูกค้า LPN โดยเฉพาะสำหรับกลุ่มลูกค้าที่ซื้อคอนโดมิเนียม เพราะปัจจุบันลูกค้า LPN จำนวนมากซื้อคอนโดเป็นบ้านหลังที่ 2 เพื่อไว้พักอาศัยระหว่างช่วงวันทำงาน
เนื่องจากคอนโดของ LPN อยู่ในทำเลศักยภาพใกล้ที่ทำงานและรถไฟฟ้า สะดวกในการเดินทาง ถึงแม้ปีนี้จะเป็นอีกปีที่ท้าทาย แต่เชื่อว่า แนวทางการดำเนินธุรกิจ "Healthy Resilience" จะทำให้บริษัทฯ ก้าวข้ามความผันผวนและความไม่แน่นอนของเศรษฐกิจในปี 2568 โดยที่มียอดขายและรายได้ตามแผนที่วางไว้
ข้อจำกัดความรับผิดชอบ: ข้อมูลนี้จัดทำขึ้นเพื่อเป็นข้อมูลทั่วไปเท่านั้น DDproperty by PropertyGuru ซึ่งอยู่ภายใต้การดูแลของบริษัท ออลพร็อพเพอร์ตี้ มีเดีย จำกัด ไม่สามารถรับรองหรือรับประกันเกี่ยวกับข้อมูล รวมทั้งไม่สามารถรับรองหรือรับประกันใด ๆ เกี่ยวกับความเหมาะสม สำหรับวัตถุประสงค์เฉพาะใด ๆ ของข้อมูล ตามขอบเขตสูงสุดที่กฎหมายอนุญาต แม้ว่าเราได้พยายามอย่างเต็มที่ เพื่อให้แน่ใจว่าข้อมูลที่ให้ไว้ในบทความนี้ถูกต้อง เชื่อถือได้ และครบถ้วน ณ เวลาที่เขียน แต่ข้อมูลที่ให้ไว้ในบทความนี้ไม่ควรนำไปใช้ในการตัดสินใจทางการเงิน, การลงทุนอสังหาริมทรัพย์ หรือทางกฎหมายทันที ผู้อ่านไม่ควรใช้ข้อมูลในบทความ แทนคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญที่ผ่านการฝึกอบรมซึ่งสามารถพิจารณาข้อเท็จจริงและสถานการณ์ส่วนตัวของคุณได้ ทั้งนี้ เราไม่สามารถรับผิดชอบใด ๆ หากคุณเลือกที่จะนำข้อมูลไปใช้เพื่อประกอบการตัดสินใจ