“บางบ่อ” ถือเป็นอีกหนึ่งพื้นที่ในเขตปริมณฑลที่กำลังมีการเปลี่ยนแปลงด้านที่อยู่อาศัยค่อนข้างสูง เนื่องจากเป็นอีกหนึ่งพื้นที่ที่สามารถเชื่อมต่อไปยังจุดศูนย์กลางการค้าของพื้นที่บางนา (Regional Shopping Center) ได้ โดยเชื่อมต่อผ่านถนนเทพารักษ์เท่านั้น ซึ่งในปัจจุบันหากใครกำลังมองหาบ้านราคาไม่เกิน 2 – 3 ล้านบาท ช่วงบางนา – เทพารักษ์ คงหาได้ยากในปัจจุบัน หากจะหาได้ในราคาต่ำกว่า 3 ล้านบาทก็จะได้รับทาวน์โฮม ทาวน์เฮ้าส์ที่มีขนาดพื้นที่ใช้สอยค่อนข้างเล็กหรือมีพื้นที่ใช้สอยน้องกว่า 100 ตร.ม. ด้วยซ้ำ
ดังนั้นด้วยเหตุนี้เองดีเวลลอปเปอร์ท้องถิ่นส่วนใหญ่จึงเริ่มขยับพื้นที่ออกมาพัฒนาโครงการบริเวณบางบ่อ เพื่อตอบโจทย์กลุ่มคนที่มีงบประมาณจำกัด และหนึ่งในโครงการที่น่าสนใจก็คือบริเวณถนนเทพารักษ์ – บางบ่อก็คือโครงการ The Ozone เทพารักษ์ – บางบ่อ บ้านทาวน์โฮม ทาวน์เฮ้าส์ 2 ชั้น รูปแบบ Modern พื้นที่ใช้สอยเริ่มต้นกว่า 110 – 152 ตร.ม. บนที่ดินเริ่มต้นประมาณ 18.1 – 22.8 ตารางวากับราคาเริ่มต้นที่เรียกได้ว่าหาที่ไหนไม่ได้บนพื้นที่บางนาโซนเทพารักษ์ – บางบ่อที่ราคาไม่เกิน 2-3 ล้านบาท หรือ เพียง 1 ล้านบาทต้นๆ เท่านั้นสำหรับแบบบ้านทาวน์โฮม ทาวน์เฮ้าส์ ขนาดเริ่มต้น
ลงทะเบียนรับสิทธิพิเศษจากโครงการได้ที่นี่
ข้อมูลโครงการ The Ozone เทพารักษ์-บางบ่อ
ผู้พัฒนาโครงการ: บริษัท เอสเคแลนด์ พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด : SK LAND
ทำเลที่ตั้ง: ถนนเทพารักษ์ ตำบลบางเพรียง อำเภอบางบ่อ สมุทรปราการ 10560
เว็บไซต์: http://www.skland.co.th
โทร: 02-708-2300
รายละเอียดโครงการ The Ozone เทพารักษ์-บางบ่อ
พื้นที่โครงการ: 31 ไร่โดยประมาณ (เฟส 1: 13 ไร่ เฟส 2: 17 ไร่)
ลักษณะโครงการ: Townhouse/Shop House (ทาวน์โฮม 434 ยูนิต อาคารพาณิชย์กี่ 18 ยูนิต)
สิ่งอำนวยความสะดวกภายในโครงการ: เข้า – ออกโครงการโดยการแลกบัตรผ่าน ถนนทางเข้ากว้าง 16 เมตร
สวนส่วนกลางแบ่งออกเป็นสองสวนบนเนื้อที่เฟส 1 และ เฟส 2 พร้อมระบบรักษาความปลอดภัย 24 ชม
ค่าส่วนกลาง: 500 บาทต่อยูนิต
ราคาเริ่มต้น: 1.xx บาท
ราคาที่ดินเฉลี่ย: 30,000 บาทต่อตารางวา
รูปแบบบ้านโครงการ The Ozone เทพารักษ์ – บางบ่อ
Townhouse A หน้ากว้าง 4 เมตร เริ่มต้น 18.1 ตร.ว. พื้นที่ใช้สอย 110 ตร.ม. 2 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ 1 ที่จอดรถ
Townhouse B หน้ากว้าง 5.7 เมตร เริ่มต้น 22.8 ตร.ว. พื้นที่ใช้สอย 152 ตร.ม. 4 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ 1 ที่จอดรถ
Shop House 3 ชั้น (อาคารพาณิชย์) หน้ากว้าง 4 เมตร เริ่มต้น 21 ตร.ว. พื้นที่ใช้สอย 184 ตร.ม. 2 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ
ภาพรวมโครงการ The Ozone เทพารักษ์ – บางบ่อ
ภาพรวมโครงการขออนุญาตพูดถึงระบบการก่อนสร้างในปัจจุบัน ซึ่งต้องบอกว่าบริเวณเทพารักษ์ – บางบ่อ หรือ ช่วงถนนบางนา – ตราด กม. 27 ถือว่าเป็นพื้นที่ที่มีโครงการที่อยู่อาศัยหนาแน่นพอสมควรแล้ว แต่โครงการส่วนใหญ่มักจะมีราคาเริ่มต้นที่ค่อนข้างถูกหรือที่ประมาณไม่เกิน 2 ล้านบาท 3 ล้านบาทเท่านั้น ดังนั้นโครงการส่วนใหญ่จึงพยายามลดต้นทุนในการพัฒนาบ้านทาวน์โฮม ทาวน์เฮ้าส์ ออกมาให้เยอะที่สุด ถ้าเป็นผู้พัฒนาชื่อดังส่วนใหญ่ก็จะใช้บ้าน Precast , Prefab ที่ได้มาตรฐาน ผลิตออกมาจากโรงงาน สามารถลดต้นทุนได้เยอะเพราะก่อสร้างได้รวดเร็วใช้แรงงานคนน้อย แต่ก็จะมีปัญหาเรื่องการต่อเติมรั่วซึมบ้างเนื่องจากเป็นระบบคอนกรีตที่มีน้ำหนักเบา ส่วนผู้พัฒนาท้องถิ่นหรือผู้พัฒนาโนเนม บางโครงการมีการใช้อิฐบล็อคที่มีความแข็งแรงน้อยและต้นทุนต่ำมากเป็นส่วนประกอบหลักก็มี
แต่สำหรับโครงการ The Ozone เทพารักษ์ – บางบ่อ ในราคาเริ่มต้นที่ 1 ล้านบาทต้นๆ กลับเลือกใช้การก่อสร้างด้วยอิฐแดงหรืออิฐมอญเข้ามาพัฒนาตัวบ้าน ทั้งนี้ต้นทุนในการผลิตในเรื่องของอิฐแดงอาจจะถูกกว่าอิฐมวลเบาหรือระบบ Precast , Prefab แต่ต้องบอกเลยว่าหากนับต้นทุนการก่อสร้างที่ใช้เวลานานกว่าต้นทุนค่าแรงที่ใช้ความประณีตในการก่อสร้าง มูลค่าของตัวบ้านจะมีต้นทุนพอๆ กัน แต่สิ่งที่แตกต่างกันชัดเจนคือ การก่อสร้างบ้านทาวน์โฮม ทาวน์เฮ้าส์ ด้วยอิฐมอญหรืออิฐแดงจะมีการลงเสาเข็มเพื่อให้ตัวบ้านแข็งแรงแตกต่างจากระบบ Precast , Prefab ที่เป็นการวางผนังบ้านต่อๆ ต่อๆ กัน
ดังนั้นบ้านที่ก่อสร้างด้วยอิฐแดงของโครงการ The Ozone เทพารักษ์ – บางบ่อ จึงแข็งแรงกว่าบ้านทั่วไปแน่นนอน และที่สำคัญสามารถทุบต่อเติมได้แบบไม่กระทบต่อโครงสร้างอื่นๆ ซึ่งอิฐแดงอดีตอาจมีส่วนประกอบของดินเหนียวกับแกลบเท่านั้น แต่ปัจจุบันเพื่อความแข็งแรงส่วนผสมของอิฐจึงประกอบไปด้วยดินเหนียว ทราย คอนกรีต ซึ่งต้องบอกว่ามีความแข็งแรงและไม่ดูดซึมน้ำเหมือนอิฐมวลเบาแน่นอน
Plan ด้านบนเป็นแบบบ้านที่ขายดีที่สุดของโครงการ The Ozone เทพารักษ์ – บางบ่อ หรือ แบบบ้าน Townhouse A หน้ากว้าง 4 เมตร เริ่มต้น 18.1 ตร.ว. พื้นที่ใช้สอย 110 ตร.ม. 2 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ 1 ที่จอดรถ ถึงแม้ตัวบ้านจะไม่ได้กว้างมาก แต่พื้นที่ใช้สอยต่างๆ ถูกจัดสรรปันส่วนได้อย่างลงตัวจากพื้นที่ว่างในบ้านที่เป็นตอนลึก
ดังนั้นการวางห้องนั่งเล่น ห้องอาหาร จึงจัดสรรได้อย่างลงตัว รวมไปถึงพื้นที่ว่างหลังบ้านที่สามารถต่อเติมให้เป็นครัวหลังบ้านได้สบายๆ ส่วนตำแหน่งของห้องน้ำชั้นล่างก็อยู่แยกออกจากโซนพักผ่อนที่ด้านหลังบ้าน อีกทั้งยังสามารถอาบน้ำที่ห้องน้ำชั้นล่างได้ด้วย
ส่วนที่ชั้น 2 จะประกอบไปด้วย Master Bedroom ที่มีระเบียงหันออกมาทางหน้าบ้าน และห้องนอนที่ 2 ที่มีขนาดเล็กกว่าแต่เพิ่มพื้นที่ใช้สอยของระเบียงออกมาทางด้านหลังบ้าน ส่วน Layout ในห้องน้ำที่ถูกวางตำแหน่งให้อยู่ตรงกลางมีผนังชิดอยู่กับ Master Bedroom สามารถต่อเติมทำประตูทางเข้าอีกทางจากห้องนอนได้เลย ถึงแม้ตัวบ้านจะไม่ใหญ่มากแต่สำหรับครอบครัว 2-3 คนถือว่าฟังก์ชันในบ้านค่อนข้างครบครัน
ศักยภาพทำเลที่ตั้งโครงการ The Ozone เทพารักษ์ – บางบ่อ
ตัวโครงการตั้งอยู่บริเวณถนนบางนา – ตราด กม. 27 อยู่ในซอยแยกของถนนคลองด่าน – บางพลี จากถนนบางนา – ตราดมายังโครงการมีระยะทางประมาณ 7 กม. ซึ่งดูเหมือนจะไกล แต่ด้วยการขยายตัวของที่อยู่อาศัยต้องบอกว่าการเดินทางมายังโครงการ The Ozone เทพารักษ์ – บางบ่อ ตลอดแนวซอยไม่เปลี่ยวเลย ตลอดแนวซอยเต็มไปด้วยหมู่บ้านและที่อยู่อาศัย ซึ่งปัจจุบันทำเลนี้ถือว่ากำลังเป็นที่นิยมในการพัฒนาที่อยู่อาศัยในราคาไม่เกิน 3 ล้านบาท
จุดเด่นของทำเลที่ตั้งโครงการ The Ozone เทพารักษ์ – บางบ่อ คือสามารถเข้าออกได้ 2 ทางคือจากฝั่งถนนเทพารักษ์ และบริเวณถนนซอยวัดบางเพรียงที่เดินทางเข้ามาจากนิคมอุตสาหกรรมบางพลีได้ ซึ่งจากการสำรวจจะเห็นว่าที่ตั้งโครงการ The Ozone เทพารักษ์ – บางบ่อ จะค่อนมาทางนิคมอุตสาหกรรม ดังนั้นบริเวณรอบๆ โครงการ จึงประกอบไปด้วยพื้นที่อุตสาหกรรมขนาดย่อม มีบริษัท ห้างร้าน เป็นจำนวนมาก อีกทั้งหากเดินทางออกมายังฝั่งบางนาก็จะพบกับทางพิเศษบูรพาวิถีสามารถใช้ทางด่วนเส้นนี้มุ่งตรงเข้าสู่เมืองได้ไม่ยากเลย
ดังนั้นสิ่งที่เห็นได้ชัดว่าว่าเป็นจุดที่น่าสนใจก็คือ ในระยะเดินจะมีทั้งร้านค้า ร้านอาหาร ร้านสะดวกซื้อ ส่วนเรื่องมลภาวะจากเสียงหรือกลิ่นที่รบกวนโครงการ เรียกได้ว่าแทบไม่รู้สึกเลย เพราะบริษัทส่วนใหญ่เป็นอุตสาหกรรมขนาดย่อมที่ตั้งอยู่ในซอย ส่วนในเรื่องของสิ่งอำนวยความสะดวก นอกจากร้านอาหาร ร้านค้า ร้านสะดวกซื้อที่เข้ามารองรับกลุ่มคนที่อยู่อาศัยบริเวณนี้แล้ว สาธารณูปโภคด้านอื่นๆ ก็อยู่ไม่ไกลจากโครงการ The Ozone เทพารักษ์ – บางบ่อ โดยในระยะทางไม่เกิน 3 กม. หรือ ในเวลาเกิน 5 นาทีสามารถเชื่อมต่อจากโครงการไปถึง โรงพยาบาลบางบ่อ ตลาดเสริมสุขบางเพรียง โรงเรียนอนุบาลพัตรีรมยา หน้าปากซอยยังมี ATM ธนาคารกรุงเทพ ตลาดนัดลุงแซม Lotus Express
สถานที่สำคัญใกล้เคียงโครงการ The Ozone เทพารักษ์ – บางบ่อ
มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ
สนามกอล์ฟ เดอะ วินเทจ คลับ
โรงพยาบาลบางบ่อ
นิคมอุตสาหกรรมบางพลี
ที่ว่าการอำเภอบางเสาธง
โรงเรียนบดินทรเดชา (สิงห์ สิงหเสนี) สมุทรปราการ
The Ozone เทพารักษ์-บางบ่อ เหมาะกับใคร?
The Ozone เทพารักษ์-บางบ่อ เป็นโครงการบ้านทาวน์โฮม ทาวน์เฮ้าส์ ที่มีราคาเริ่มต้นที่ 1 ล้านบาทต้นๆ เท่านั้น หากเปรียบเทียบกับโครงการบ้านทาน์โฮม ทาวน์เฮ้าส์อื่นๆ บนทำเลบางนา เทพารักษ์ บางบ่อ ต้องบอกว่าที่ 1 ล้านต้นๆ ไม่สามารถหาโครงการไหนที่ได้พื้นที่ใช้สอยกว่า 110 ตร.ม. ขึ้นไปได้เลย โครงการอื่นๆ บนพื้นที่ดังกล่าวที่ตั้งอยู่ติดกับถนนใหญ่ก็จะมีราคาตั้งแต่ 2 – 3 ล้านบาทขึ้นไปและมีพื้นที่ใช้ซอยประมาณ 90 ตร.ม. เท่านั้น
ดังนั้นใครที่มีงบประมาณไม่เกิน 2 ล้านบาทและกำลังมองหาบ้านบนทำเลบางนาที่มีพื้นที่ใช้สอยสำหรับครอบครัวเริ่มต้น 3-4 คน The Ozone เทพารักษ์-บางบ่อ ถือเป็นโครงการที่ค่อนข้างคุ้มค่า เพียงแต่ผู้อยู่อาศัยอาจจะยังต้องพึ่งพารถยนต์ในการเชื่อมต่อไปยังสถานที่สำคัญต่างๆ ในเมือง ที่ราคา 1 ล้านบาทต้นๆ คนที่มีเงินเดือนเริ่มต้นอยู่ที่ประมาณ 15,000 บาทก็สามารถกู้ซื้อผ่านได้สบาย หรือ หากต้องการบ้าน Type B ที่ใหญ่ขึ้นมาหน่อยจอดรถได้ 2 คัน พร้อมพื้นที่ใช้สอยเสมือนบ้านเดี่ยวที่ 150 ตร.ม. ขึ้นไป ก็แนะนำให้กู้ร่วมได้ ซึ่งคุณจะมีโอกาสเป็นเจ้าของบ้านในโครงการ The Ozone เทพารักษ์-บางบ่อ ได้ไม่ยากเลย
เพอร์เฟค พาร์ค ราชพฤกษ์-ปทุมธานี หนึ่งโครงการบ้านที่น่าสนใจบนถนนราชพฤกษ์-ปทุมธานี ในรูปแบบบ้านเดี่ยวและบ้านแฝด เป็นส่วนตัวด้วยจำนวนยูนิตเพียง 199 ยูนิต บนพื้นที่โครงการกว่า 39 ไร่ ออกแบบบ้านสไตล์ Resort กับบรรยากาศพักผ่อนท่ามกลางสวนและคลับเฮ้าส์หรู Modern Luxury Style ในราคาเริ่มต้นไม่ถึง 4 ล้านบาท
ลุมพินี วิลล์ แจ้งวัฒนะ 10 คอนโด Low Rise 8 ชั้น 2 อาคาร ห้องชุดจำนวน 476 ยูนิต พร้อมลานกิจกรรม และลานออกกำลังกายขนาดใหญ่ รองรับการพักอาศัยช่วง Work from Home ได้อย่างลงตัว ราคาเริ่มต้นเพียง 1.45 ล้านบาท
โครงการ สุชารี วิลล์ 7 หลักสี่-ดอนเมือง รูปแบบทาวน์โฮม 2 ชั้น ขนาด 3 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ จอดรถได้ 2 คัน จำนวน 182 ยูนิต ออกแบบเน้นความเรียบง่าย เพดานบ้านสูงเน้นความโปร่ง ราคาเริ่มต้น 2.95 ล้านบาท
