พาร์ค 168 นพรัตน์ รามอินทรา (Park 168 Nopparat Ramindra) จาก บริษัท แอล.พี.เอ็น.ดีเวลลอปเมนท์ จํากัด (มหาชน) คอนโดมิเนียม High Rise 25 ชั้น 3 อาคาร ห้องชุดพักอาศัยรวม 1,224 ยูนิต อาคารจอดรถและสระว่ายน้ำ สูง 8 ชั้น 1 อาคาร แต่ละอาคารมีห้องพักอาศัยเพียงอาคารละ 408 ยูนิต มีความเป็นส่วนตัว ไม่แออัด ใกล้รถไฟฟ้าสายสีชมพู สถานีนพรัตนราชธานี ราคาเริ่มต้น 1.69 ล้านบาท
หลังจากที่ดีเวลลอปเปอร์อย่าง ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ (ORI) ปูพรมโครงการคอนโดมิเนียมในโซนสุขุมวิทตอนปลายยาวมาถึงฝั่งสมุทรปราการ รวมถึงภาคตะวันออก ทั้งโครงการแนว Hi Rise และ Low Rise หลายโครงการด้วยกัน โดยโครงการเหล่านั้นมักมีจุดขายคือการตั้งอยู่ในทำเลที่มีศักยภาพในแนวเส้นทางรถไฟฟ้า แหล่งชุมชน และใกล้สถานศึกษา โดยล่าสุด ออริจิ้นฯ เตรียมเปิดตัวโครงการใหม่ล่าสุด “เคนชิงตัน เกษตร แคมปัส” ในทำเลใกล้กับมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ บางเขน หลังจากประสบความสำเร็จในการพัฒนา 2 โครงการก่อนหน้านี้ ได้แก่ นอตติ้งฮิลล์ และเคนชิงตัน พหลโยธิน – เกษตร ไปแล้ว โดยครั้งนี้บุกทำเล ริมถนนตัดใหม่ พหลโยธิน-วิภาวดี ซึ่งมีศักยภาพในการเป็นเส้นทางลัดเพื่อหลีกเลี่ยงสภาพจราจรที่แน่นขนัด ประกอบกับสองข้างทางยังคงเรียงรายไปด้วยต้นไม้ พื้นที่สีเขียว กับแนวคิดการออกแบบที่เน้นฟังก์ชั่นการใช้งาน พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน กับราคาขายเริ่มต้นที่ 1.69 ล้านบาท / ยูนิต เพื่อรองรับความต้องการที่อยู่อาศัยในย่านมหาวิทยาลัยเกษตรฯ ที่กำลังขาดแคลน
เจาะลึกข้อมูลโครงการ (ข้อมูล ณ วันที่ 11 กรกฎาคม 2559)
• ชื่อโครงการ: เคนชิงตัน เกษตร แคมปัส (Kensington Kaset Campus)
• ผู้พัฒนาโครงการ: บริษัท ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) (ORI)
• ผู้บริหารงานการตลาดและการขาย: บริษัท วัน เรียลเอสเตท จำกัด
• ทำเลที่ตั้ง: ถนน ตัดใหม่ (พหลโยธิน-วิภาวดี) แขวงลาดยาว เขต จัตุจักร กทม.
รายละเอียดโครงการ
พื้นที่โครงการ: 4 ไร่ 85 ตร.ว.
รูปแบบ: คอนโดมิเนียม ความสูง 15 ชั้น 2 อาคาร จำนวน 448 ยูนิต พร้อมพื้นที่ส่วนกลาง 1 อาคาร (ความสูง 3 ชั้น)
กลุ่มเป้าหมาย: กลุ่มนักศึกษา คนรุ่นใหม่ คนทำงานในพื้นที่ และบริเวณโดยรอบ
สถานะก่อสร้าง: เริ่มก่อสร้างไตรมาส 1 ปี 2560 และคาดว่าจะแล้วเสร็จ 100% ประมาณไตรมาส 3 ปี 2561
ระบบความปลอดภัย: Digital Door Lock, Access Key Card ในการผ่านเข้า-ออก, กล้อง CCTV และเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยตลอด 24 ชม.
ส่วนกลาง: ล็อบบี้, ห้องสมุด, ห้องประชุม, สระว่ายน้ำ, ฟิตเนส, พื้นที่สวน, ร้านค้า, Bike Club, Co-Working Area, Pavilion และ Jogging Tack
ที่จอดรถ: คิดเป็น 50 % ไม่รวมซ้อนคัน
เงินกองทุนสะสม (Sinking fund): 400 บาท/ ตร.ม. (ชำระครั้งเดียว ณ วันโอนกรรมสิทธิ์)
ค่าส่วนกลาง: 40 บาท/ ตร.ม. / เดือน (ชำระล่วงหน้า 1 ปี ณ วันโอนกรรมสิทธิ์)
ราคาขายเริ่มต้น: 1.69 ล้านบาท
ราคาขายเฉลีย: 71,000 บาท/ ตร.ม.
เว็บไซต์: kensington.origin.co.th
รูปแบบห้อง: ตกแต่งแบบ Fully Fitted
1 Bed: Deluxe 24.40 – 26.00 ตร.ม.
1 Bed Plus: Suite 30.40 – 30.70 ตร.ม.
2 Bed: Penthouse 42.00 – 48.80 ตร.ม.
รายละเอียดโครงการ
ภาพรวมโครงการ
ด้วยทำเลที่ตั้งโครงการ ซึ่งอยู่ใกล้กับรั้วมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ บางเขน เจ้าของโปรเจคอย่างออริจิ้นฯ จึงได้ออกแบบตัวอาคาร ให้มีความทันสมัยและคำนึงถึงฟังก์ชั่นการใช้งานมากที่สุด เพื่อรองรับความต้องการของกลุ่มนักศึกษา คนรุ่นใหม่ รวมถึงคนทำงานในพื้นที่และบริเวณโดยรอบ (ซึ่งเป็นกลุ่มลูกเป้าหมายของโครงการ) โดยมีการแบ่งส่วนพื้นที่อาศัยออกเป็น 2 อาคาร และแยกสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ ออกไปต่างหากอีก 1 อาคาร โดยสิ่งอำนวยความสะดวกภายในโครงการจะประกอบไปด้วย ล็อบบี้ สระว่ายน้ำ ฟิตเนส ห้องประชุม Co-working Space รวมถึงยังออกแบบให้ถูกล้อมรอบไปด้วยสวน พร้อมรองรับเทรนด์สุขภาพที่กำลังฮิตในหมู่คนรุ่นใหม่ ด้วยเลนจักรยาน และ Jogging Tack และแบ่งพื้นที่บางส่วนให้เป็นร้านค้า เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับผู้อยู่อาศัย
จากภาพ Master Plan เนื้อที่โครงการเป็นแบบแนวยาว โดยอาคารของพื้นที่สิ่งอำนวยความสะดวกอยู่ด้านหน้า บริเวณทางเข้าโครงการ
แปลนยูนิต 1 ห้องนอน Delux พื้นที่ใช้สอย 24.40 – 26.00 ตร.ม. จะมีทั้งหมด 6 ยูนิต ต่อชั้น และจะอยู่ทางทิศตะวันตก
แปลนยูนิต 1 ห้องนอน Plus Suite พื้นที่ใช้สอย 30.40 – 30.70 ตร.ม. โดยทั้งสองอาคารมีทั้งหมด 7 ยูนิต ต่อชั้น โดยอยู่ทางทิศตะวันออก
แปลนยูนิต 2 ห้องนอน Penthouse พื้นที่ใช้สอย 42 ตร.ม. โดยจะเป็นห้องมุม และมีเพียง 1 ยูนิต ต่อชั้น ทั้งสองอาคาร
ทําเล & การเดินทาง
วิเคราะห์ศักยภาพทำเล พหลโยธิน-วิภาวดี
นับตั้งแต่มีการก่อสร้างโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียวเข้มต่อมาจากสถานีหมอชิตไปยังสะพานใหม่-คูคต ทำให้ย่านพหลโยธิน-วิภาวดี ซึ่งอยู่ในแนวที่รถไฟฟ้าสายดังกล่าวพาดผ่านได้รับการพัฒนาอย่างรวดเร็ว รวมไปถึงโครงการอสังหาฯ ต่างๆ ที่เกิดขึ้นมากมายในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ทั้งโครงการในแนวราบที่มักจะอยู่ตามซอกซอย และโครงการแนวสูงอย่างคอนโดมิเนียมที่เกาะติดแนวรถไฟฟ้า และยิ่งการก่อสร้างโครงการรถไฟฟ้ามีความคืบหน้ามากขึ้นเท่าใด ความคึกคักของตลาดที่อยู่อาศัยตามแนวรถไฟฟ้าสายนี้ก็เพิ่มมากขึ้นเท่านั้น โดยหากเป็นคอนโดฯ ในโซนที่ยังอยู่ในเมืองอย่างพหลโยธินตอนต้น ราคาขายจะเริ่มต้นที่ราวหนึ่งแสนบาทต่อตร.ม. แต่ถ้าหากอยากได้ถูกลงมาหน่อย อาจจะต้องเลือกมาทางฝั่งวิภาวดีปลายๆ ซึ่งความแตกต่างกันของราคา นอกจากระยะทางที่อยู่ไกลจากตัวเมืองแล้ว ยังขึ้นอยู่กับระดับความเจริญของพื้นที่ด้วย โดยในอนาคตอันใกล้ช่วงพหลโยธินตอนกลาง-ปลาย จะกลายเป็นจุดรวมรถไฟฟ้าหลายสาย ไม่ว่าจะเป็น รถไฟฟ้าบีทีเอส รถไฟความเร็วสูง รถไฟรางคู่ รถไฟชานเมือง เป็นต้น อันจะส่งผลให้มูลค่าของที่ดินในย่านดังกล่าวปรับสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว เช่นเดียวกับโครงการอสังหาฯ ต่างๆ
วิเคราะห์ศักยภาพทำเลโครงการ
ศักยภาพของที่ตั้งโครงการ ซึ่งอยู่บนถนน ตัดใหม่ พหลโยธิน – วิภาวดี สังเกตว่าได้รับอานิสงส์พื้นที่สีเขียวจากทางฝั่งมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์
โครงการตั้งอยู่บริเวณถนนตัดใหม่ พหลโยธิน – วิภาวดี เลียบคลองบางบัว ซึ่งก่อนจะถูกเวนคืนสภาพความเป็นอยู่ในย่านดังกล่าวมีลักษณะเป็นชุมชน ส่วนใหญ่จะเป็นบ้านเดี่ยวสลับกับสถานที่ราชการและพื้นที่สีเขียวมีต้นไม้น้อยใหญ่ ย่านดังกล่าวจึงมีความร่มรื่น แต่หากพูดถึงสภาพการจราจรของถนนเส้นพหลโยธิน – วิภาวดี ใครที่ได้ผ่านไปมาต่างรู้ดีว่าหนาแน่นติดอันดับแทบจะทั้งวัน จึงทำให้ภาครัฐเร่งแก้ปัญหาอย่างเร่งด่วน ด้วยการทำถนนตัดใหม่ขึ้น ดังนั้นที่ดินบางส่วนในบริเวณดังกล่าวจึงถูกเวนคืน เพื่อให้ถนนพหลโยธินและวิภาวดีเชื่อมต่อกัน โดยมีระยะทางกว่า 3 กิโลเมตร ซึ่งในอนาคตจะมีแผนขยายถนนออกเป็น 4 เลน โดยสภาพสองข้างทางของถนนเส้นนี้ ปัจจุบันยังคงความร่มรื่นไว้อยู่ ยังไม่มีการพัฒนาใดๆ มากนัก ประกอบกับส่วนใหญ่ที่ดินในโซนนี้เป็นของรัฐ ทำให้หาที่ดินเปล่ามาพัฒนาต่อได้ยาก หากมีดีเวลลอปเปอร์เจ้าใดผุดขึ้นโครงการขึ้นมา นั่นหมายความว่าผู้ประกอบการรายนั้นย่อมมั่นใจในศักยภาพของทำเลนี้พอสมควร ดังเช่นค่ายออริจิ้นฯ ที่เล็งเห็นโอกาสในการพัฒนาโครงการในย่านนี้ ที่มีดีมานด์หลักมาจากมหาวิทยาลัยใหญ่อย่าง มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ จากทั้งบรรดานิสิต นักศึกษา บุคคลากรที่ทำงานในมหาวิทยาลัย ในขณะที่ซัพพลายที่จะมารองรับดีมานด์ตรงนี้นั้นไม่ค่อยมี ประกอบกับราคาคอนโดฯ ในย่านพหลโยธิน (ฝั่งเซ็นทรัล ลาดพร้าว เมเจอร์ รัชโยธิน) ปรับสูงขึ้น 22% ในรอบปี ปัจจัยหนึ่งมาจากอานิสงส์ของการขยายเส้นทางของรถไฟฟ้าออกเป็น 2 สาย ได้แก่ โครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียว ช่วงหมอชิต – สะพานใหม่ – คูคต (โครงการอยู่ใกล้สถานีบางบัว คาดการณ์ว่าตั้งอยู่บริเวณถนนพหลโยธิน 49/1) และรถไฟสายชานเมืองสายสีแดง ช่วงบางซื่อ – รังสิต (ใกล้สถานีบางเขนและทุ่งสองห้อง) โดยทำเลที่ตั้งโครงการเคนซิงตัน เกษตร แคมปัสนั้นอยู่บนที่ดินขนาด 4 ไร่ ติดรั้วมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ฝั่งประตูพหลโยธิน 1 และ 2
การเดินทาง
แม้ว่าในอนาคตข้างหน้าจะเกิดรถไฟฟ้าสองสายวิ่งผ่านบริเวณที่ตั้งโครงการ นั้นคือ โครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียวเข้ม ช่วงหมอชิต – สะพานใหม่ – คูคต (ใกล้สถานีบางบัว ซึ่งคาดว่าจะอยู่บริเวณถนนพหลโยธิน 49/1) และรถไฟสายชานเมืองสายสีแดง ช่วงบางซื่อ – รังสิต (ใกล้สถานีบางเขนและทุ่งสองห้อง) ซึ่งปัจจุบันอยู่ในระหว่างการก่อสร้าง ในระหว่างนี้การเดินทางที่สะดวกที่สุดคงเป็นการขับรถส่วนตัว หรือใช้บริการรถสาธารณะ โดยมีทางเลือก 2 เส้นทางในการมาโครงการดังนี้
ทางเลือกที่ 1 หากมาจากถนนวิภาวดีขาเข้า ให้ขับตรงมาเรื่อยๆ พร้อมสังเกตบริษัทยาคูลท์ทางด้านซ้ายมือ ให้เตรียมชิดซ้าย แล้วเบี่ยงเข้าถนนตัดใหม่ พหลโยธิน-วิภาวดี เลียบคลองบางบัว จากนั้นขับตรงมาประมาณ 700 เมตร จะเจอโครงการอยู่ด้านขวามือ ติดกับรั้วมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์
ทางเลือกที่ 2 หากมาจากถนนพหลโยธิน ให้ขับตรงมาเรื่อยๆ และให้สังเกตโรงเรียนบางบัวทางด้านซ้ายมือ ให้เลี้ยวซ้ายเข้าถนนตัดใหม่ พหลโยธิน-วิภาวดี เลียบคลองบางบัว จากนั้นขับตรงมาประมาณ 600 เมตร จะเจอโครงการอยู่ด้านซ้ายมือ ติดกับรั้วมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์
สถานที่แนว Lifestyle
บริเวณที่ตั้งโครงการเป็นถนนตัดใหม่ พหลโยธิน-วิภาวดี ที่มีจุดเด่นในเรื่องความเงียบสงบ ดังนั้นหากต้องการไปเพลิดเพลินกับสถานที่ไลฟ์สไตล์อย่างร้านอาหาร แหล่งนั่งชิล หรือบรรดาห้างสรรพสินค้า อาจจะต้องขยับไปทางถนนพหลโยธิน ซึ่งเป็นที่ตั้งของเมเจอร์ รัชโยธิน เซ็นทรัล ลาดพร้าว รวมถึงแหล่งแฮงค์เอาท์ขึ้นชื่ออย่าง ร้านอาหารอิตาเลี่ยน Wine Society at Major ที่มีบรรยากาศสบายๆ อาหารอร่อย เชื้อเชิญให้ผู้คนโดยเฉพาะกลุ่มนักศึกษา และวัยทำงานมาดื่มด่ำบรรยากาศ รวมถึงร้าน Bangkok Brass Pub & Restaurant ซึ่งตั้งอยู่บริเวณพื้นที่สวนสนุกแดนเนรมิตในอดีต ปัจจุบันถูกปรับเปลี่ยนเป็นสนามโกคาร์ท และแบ่งส่วนหนึ่งเป็นที่ตั้งของร้านนี้ ซึ่งขึ้นชื่อเรื่องบรรยากาศและรสชาติอาหารอีกเช่นเคย แต่ถ้าใครอยากดื่มด่ำความหรูหรา และโรแมนติกแนะนำให้ไปทางฝั่งเกษตรนวมินทร์ ที่เชื่อมต่อกับเส้นพหลโยธิน บริเวณดังกล่าวต่างอัดแน่นไปด้วยสวนอาหาร ภัตตาคาร ร้านนั่งชิล ที่แข่งกันตกแต่งอย่างมีเอกลักษณ์ จนทำให้ช่วงเย็น-ดึก การจราจรในย่านนี้จะค่อนข้างหนาแน่นพอสมควร (โดยเฉพาะช่วงวันศุกร์-เสาร์) แต่ทั้งนี้ สถานที่ไลฟ์สไตล์ต่างๆ ที่เกิดขึ้นบริเวณโดยรอบ มักผุดขึ้นตามความต้องการของกลุ่มผู้อยู่อาศัย ที่ต่างทยอยมาพักพิงในย่านดังกล่าวมากขึ้น
บทวิเคราะห์
เปรียบเทียบกับคู่แข่ง
ทำเลที่ตั้งโครงการซึ่งตั้งอยู่บนถนนตัดใหม่ พหลโยธิน-วิภาวดี ที่สองข้างทางเต็มไปด้วยความร่มรื่น เงียบสงบ และด้วยความเป็นทำเลป้ายแดง ปัจจุบันจึงยังไม่มีโครงการคู่แข่งในทำเลนี้ ซึ่งการเข้ามาปักหมุดในครั้งนี้ของโครงการเคนชิงตัน เกษตร แคมปัส ซึ่งอยู่ติดกับรั้วมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ แสดงให้เห็นชัดเจนว่ากลุ่มเป้าหมายของโครงการนี้คือกลุ่มนิสิตและเจ้าหน้าที่ที่ทำงานในมหาวิทยาลัยแห่งนี้ รวมทั้งนักศึกษาและกลุ่มคนทำงานในละแวกใกล้เคียง ซึ่งดีมานด์ในย่านนี้มีอย่างต่อเนื่องในขณะที่ซัพพลายหรือสินค้าที่ออกมารองรับความต้องการของคนในย่านนี้นั้นไม่ค่อยมีโครงการใหม่ๆ เกิดขึ้น และหากจะเปรียบกับคู่แข่ง อาจจะต้องเทียบกับฝั่งซอยพหลโยธิน 49/1 หรือถนนงามวงศ์วาน อย่าง โครงการแชปเตอร์ วัน, พรีมีโอ เวโทร หรือแม้กระทั้งในเครือของออริจิ้นฯ ด้วยกัน อย่าง เคนชิงตัน และนอตติ้ง ฮิลล์ พหลโยธิน – เกษตร ทั้งนี้ ผลตอบแทนจากการเช่าของห้องชุดในย่านนี้จะอยู่ในเรท 6-8% ต่อปี