พาร์ค 168 นพรัตน์ รามอินทรา (Park 168 Nopparat Ramindra) จาก บริษัท แอล.พี.เอ็น.ดีเวลลอปเมนท์ จํากัด (มหาชน) คอนโดมิเนียม High Rise 25 ชั้น 3 อาคาร ห้องชุดพักอาศัยรวม 1,224 ยูนิต อาคารจอดรถและสระว่ายน้ำ สูง 8 ชั้น 1 อาคาร แต่ละอาคารมีห้องพักอาศัยเพียงอาคารละ 408 ยูนิต มีความเป็นส่วนตัว ไม่แออัด ใกล้รถไฟฟ้าสายสีชมพู สถานีนพรัตนราชธานี ราคาเริ่มต้น 1.69 ล้านบาท
ปีนี้เป็นปีที่ทำเล “ทองหล่อ” มาแรงมาก นับตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมามีกระแสข่าวต่อเนื่องว่ามีผู้ประกอบการหลายรายทั้งใหญ่-เล็กจ่อคิวเปิดตัวโครงการคอนโดมิเนียมใหม่ย่านนี้หลายโครงการ โดยเฉพาะช่วงไตรมาส 4 ซึ่งเป็นช่วงโค้งสุดท้ายของปี บรรยากาศการเปิดตัวคอนโดมิเนียมย่านทองหล่อจะคึกคักมาก และอาจจะเรียกได้ว่าเป็นศึกของผู้ประกอบการรายใหญ่ที่เตรียมปล่อยทีเด็ดเปิดตัวโครงการในย่านนี้เพื่อชิงดีมานด์อย่างดุเดือด และหนึ่งในนั้น คือ โครงการเดอะ แบงค็อค ทองหล่อ (The Bangkok Thonglor) ของบริษัท แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ จำกัด (มหาชน)
สำหรับ The Bangkok ถือเป็นแบรนด์คอนโดมิเนียมระดับไฮเอนด์ของค่ายแลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ ที่เน้นทำเล Prime มากๆ ของกรุงเทพฯ และเน้นความละเมียดละไมในการออกแบบ ซึ่งก่อนหน้าที่จะมี The Bangkok Thonglor แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ได้ปลุกกระแสโครงการไฮเอนด์ย่านสาทรตอนต้นด้วยโครงการ The Bangkok Sathorn มาแล้ว ซึ่งได้รับการกล่าวถึงทั้งในเรื่องทำเลที่ตั้งและเรื่องการออกแบบไม่น้อย จึงไม่แปลกที่ The Bangkok Thonglor จะเป็นที่จับตามองอีกครั้ง
เจาะลึกข้อมูลโครงการ
ชื่อโครงการ: เดอะ แบงค็อค ทองหล่อ (The Bangkok Thonglor)
บริษัทผู้พัฒนา: บริษัท แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ จำกัด (มหาชน): LH
ที่ตั้งโครงการ: หัวมุมทองหล่อซอย 1
เว็บไซต์: www.lh.co.th/thebangkokthonglor
พื้นที่โครงการ: 1-2-94 ไร่
รูปแบบโครงการ: คอนโดมิเนียมพักอาศัย 1 อาคาร ความสูง 31 ชั้น จำนวน 148 ยูนิต
รูปแบบห้องชุด:
– 1 ห้องนอน พื้นที่ใช้สอย 53-63 ตารางเมตร จำนวน 34 ยูนิต
– 2 ห้องนอน พื้นที่ใช้สอย 82-94 ตารางเมตร จำนวน 114 ยูนิต
จำนวนที่จอดรถ: แบบ Automatic Parking Space ประมาณ 180 คัน
เปิดพรีเซล: 22 ตุลาคม 2559 ณ ห้องแกรนด์บอลรูม โรงแรมแกรนด์ เซ็นเตอร์พอยท์ เทอร์มินอล 21 ตั้งแต่เวลา 9.00-15.00 น.
ราคาเริ่มต้น: 18 ล้านบาท
สถานะการก่อสร้าง: เริ่มก่อสร้างเดือนกันยายน 2559
กำหนดแล้วเสร็จ: คาดว่าจะแล้วเสร็จในเดือนกรกฎาคม 2562
รายละเอียดโครงการ
แนวคิดการออกแบบ
โครงการ The Bangkok Thonglor ได้แรงบันดาลใจมาจาก Precious Gems และ Natural Crystals จากการที่ทองหล่อเป็นเหมือนถนนสายทองคำที่มีความรุ่งเรืองและได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่อง เปรียบได้กับเพชรที่ได้รับความนิยมตลอดกาล (Timeless) ที่มูลค่ามีแต่จะเพิ่มขึ้นและความนิยมที่ไม่เคยจางหายไป เปรียบดังคุณค่าที่บอกเล่าได้ไม่รู้จบ โครงการจึงถูกออกแบบให้เป็นดั่ง “มงกุฎเพชร” บนถนนทองหล่อเพื่อรังสรรค์ที่อยู่อาศัยที่ดีที่สุดสำหรับการใช้ชีวิต (Best in Life)
ตัวอาคารจะถูกออกแบบให้เป็นกระจกท้องอาคารที่จะไม่เห็น Frame ของกระจกจากภายนอกอาคาร ส่วน Facade จะเห็นเป็นเส้นตรงเสมือนเหลี่ยมของแท่งคริสตัล และได้ความเงาและแวววาวที่จะเป็นประกายออกจากตัวอาคาร โดยเพิ่มความพิเศษด้วยลายหินอ่อนและทองแดง ซึ่งเป็นวัสดุที่มีมูลค่าใช้เพื่อเสริมให้งานดีไซน์มีความทันสมัย
การวางผังห้อง (Floor Plan)
ภาพการวางผังห้องชุด Type 1A ซึ่งเป็นห้องชุดแบบ 1 ห้องนอน โดยส่วนของห้องชุดพักอาศัยนั้นจะเริ่มตั้งแต่บริเวณชั้น 5
รีวิวภาพรวมโครงการ
โครงการ The Bangkok Thonglor เป็นอีกหนึ่งโครงการย่านทองหล่อที่น่าจับตามอง เพราะนอกจากศักยภาพทำเลทองหล่อ และทำเลที่ตั้งของโครงการแล้ว ในเรื่องการดีไซน์ยังมีความโดดเด่นทั้งด้านนอกโครงการ ภายใน อีกหนึ่งไฮไลท์ในเรื่องของดีไซน์ที่ถือเป็นซิกเนเจอร์ของโครงการจากค่าย แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ก็คือ การวางตัวตึกให้ได้รับแสงธรรมชาติและมีลมหมุนเวียนบริเวณทางเดิน (corridor) ทุกชั้น ตลอดวันทำให้อากาศสามารถถ่ายเท ให้ความรู้สึกโปร่งโล่ง ในขณะที่ ด้านสิ่งอำนวยความสะดวกส่วนกลาง โครงการออกแบบโดยคำนึงถึงผู้อยู่อาศัยอย่างสูงสุด เพื่ออีกระดับของการใช้ชีวิตและการผักผ่อน ประกอบด้วย
1. Triple Full Floors Sky Facilities เสมือน Penthouse ของลูกบ้านทุกคน ที่จะได้ใช้ส่วนกลางบนชั้นที่ดีที่สุดของโครงการ แบ่งเป็น
– Sky Reading Lounge ชั้น 28 มีความเป็นส่วนตัวในการอ่านหนังสือ พร้อมบรรยากาศใจกลางกรุงเทพฯ
ภาพจำลองบริเวณ Sky Reading Lounge ชั้น 28 ที่ลูกบ้านสามารถมานั่งอ่านหนังสือ พร้อมสัมผัสกับทัศนียภาพที่สวยงามของวิวเมือง
– Sky Fitness ชั้น 28 สามารถเพลิดเพลินกับการออกกำลังกาย พร้อมชมวิวเมือง
– Sky Japanese Onsen ชั้น 29 ออนเซ็นทั้งชั้นที่แยกหญิง-ชาย ในสไตล์แบบญี่ปุ่น ให้ลูกบ้านได้ผ่อนคลายและรักษาสุขภาพได้ทุกวัน
– Sky Swimming Pool ชั้น 31 สระว่ายน้ำบนชั้นบนสุดทั้งชั้น กับวิว 360 องศาเสมือนการว่ายน้ำรอบเกาะ พร้อมดูทัศนียภาพใจกลางเมือง
2. Lobby ที่ออกแบบให้เป็นดังห้องรับรองของลูกบ้าน ตกแต่งด้วยหินอ่อน Electric Fire Place และงานศิลปะที่ให้ความรู้สึกสง่างามและอบอุ่นในเวลาเดียวกัน พร้อมทั้งจะมีบริการ Concierge ที่จะคอยต้อนรับและดูแลลูกบ้านทุกคน
3. พื้นที่สีเขียวที่ได้รับการออกแบบอย่างดี ใน 3 ชั้น ได้แก่
– Pocket Garden สวนชั้น Ground ที่จะให้ความสงบและเป็นส่วนตัวที่สุด พื้นที่สีเขียวที่จะมีกำแพงน้ำไหล เพิ่มความผ่อนคลายเวลาที่ได้ใกล้ชิดธรรมชาติ
ภาพจำลองบริเวณ Pocket Garden ที่ลูกบ้านสามารถมาพักผ่อน ท่ามกลางบรรยากาศที่เป็นส่วนตัว มีกำแพงน้ำไหล เพิ่มความผ่อนคลาย
– Sky Terrace ชั้น 22 พื้นที่สีเขียวที่มีความเป็นส่วนตัวในการพักผ่อน
– Upper Sky Terrace ชั้น 28 พื้นที่สีเขียวที่ต่อเนื่องจาก Fitness และ Reading Lounge เพื่อสูดอากาศหลังการออกกำลังกาย หรืออ่านหนังสือ
4. Automatic Parking ระบบจอดรถอัตโนมัติที่จะอำนวยความสะดวกและช่วยประหยัดเวลา ในการวนหาที่จอดรถ
5. Unit Function
– กระจกมีความสูงแบบพื้นจรดเพดานทุกยูนิต สร้างความรู้สึกโป่รงโล่ง และกว้าง ทำให้สามารถรับแสงธรรมชาติได้เป็นอย่างดี
– ทุกยูนิตมีระเบียบแบบ Double Skin Balcony เพิ่มความปลอดภัยของการใช้ระเบียงบนอาคารสูง และยังสามารถเพิ่มพื้นที่ที่ใช้สอยได้มากขึ้นด้วย
ภาพจำลองพื้นที่ห้องนั่งเล่นของห้องชุดแบบ 2 ห้องนอน ด้วยกระจกที่ขนาดใหญ่แบบ Floor to Ceiling เปิดรับวิวเมืองได้แบบเต็มตา
ทําเล & การเดินทาง
วิเคราะห์ศักยภาพทำเล
ปัจจุบันทองหล่อถือได้ว่าเป็น “เบเวอร์ลี่ฮิลส์เมืองไทย” เป็นจุดที่มีราคาที่อยู่อาศัยและค่าเช่าสูงมาก เนื่องจากเป็นย่านธุรกิจ การค้า และศูนย์รวมศิลปะแขนงต่างๆ เป็นถนนที่ถือได้ว่ามีชีวิตชีวาและเต็มไปด้วยร้านค้าทั้งกลางวันและยามค่ำคืน โดยตลอดเส้นทางมีร้านค้าที่หลากหลาย ทั้งร้านค้าดั้งเดิมสะท้อนวิถีชุมชนเก่า และร้านค้าสมัยใหม่ คอมมูนิตี้มอลล์ที่รวมทั้งสินค้าแฟชั่น ร้านอาหาร ร้านกินดื่ม หรือแม้กระทั่งร้านอาหาร ร้านกินดื่มแบบ stand alone ซึ่งล้วนแล้วแต่เป็นร้านค้าระดับไฮเอนด์ที่ยกระดับให้ทองหล่อเป็นแหล่งเอ็นเตอร์เทนเม้นท์ระดับพรีเมี่ยม
นอกจากนี้ ย่านทองหล่อยังอยู่ใกล้กับสถานศึกษาชั้นนำหลายแห่ง ใกล้โรงพยาบาลชั้นนำ ทำให้ย่านนี้เป็นศูนย์รวมที่อยู่อาศัยชั้นดี โครงการคอนโดมิเนียมที่เปิดตัวในย่านนี้ส่วนใหญ่ได้รับการตอบรับที่ดีมากเนื่องจากมีความต้องการที่อยู่อาศัยในระดับที่สูง ด้วยสภาพแวดล้อมที่เต็มไปด้วยเสน่ห์อันหลากหลายในการใช้ชีวิต เดินทางสะดวกทั้งรถไฟฟ้า และรถยนต์ส่วนบุคคล เพราะเชื่อมต่อกับถนนหลายสายทั้งฝั่งถนนสุขุมวิท และฝั่งถนนเพชรบุรี อีกทั้ง ในหลายซอยย่อยของทองหล่อยังเชื่อมไปยังอีกหลายซอยสุขุมวิทที่ทำให้การอยู่อาศัยย่านนี้มีความสะดวกมากขึ้น
แต่ด้วยที่ดินที่เหมาะสำหรับการพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยย่านทองหล่อมีจำกัด ทำให้ซอยทองหล่อที่มีความยาวเพียง 2.4 กม. กลายเป็นถนนสายที่มีมูลค่าสูงมาก แต่ราคาที่ดินและมูลค่าที่ดินของต้นทองหล่อและปลายทองหล่อยังมีความแตกต่างกันอยู่ เนื่องจากสภาพแวดล้อมและทัศนียภาพที่ต่างกัน โดยบริเวณทองหล่อตอนต้น-ตอนกลาง ปัจจุบันราคาที่ดินเสนอขายสูงถึงประมาณ 2.2 ล้านบาท/ตร.ว. และปลายทองหล่อ ราคาที่ดินเสนอขายแตะ 1.5 ล้านบาท/ตร.ว.
ปัจจัยดังกล่าวทำให้ปัจจุบันราคาคอนโดมิเนียมที่เปิดขายย่านทองหล่อจึงไม่น้อยกว่า 3 แสนบาท/ตร.ม. และมีจำนวนซัพพลายที่เสนอขายในตลาดไม่มากนัก โดยกลุ่มเป้าหมายมีทั้งคนไทยและต่างชาติที่สนใจทั้งซื้ออยู่เองและซื้อเพื่อลงทุน เพราะด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกรอบด้าน ทำให้ชาวต่างชาติ โดยเฉพาะชาวญี่ปุ่นนิยมอยู่ในย่านนี้มาก ส่งผลให้อัตราการอยู่อาศัยในคอนโดมิเนียมย่านทองหล่อถือว่าสูงมากเมื่อเทียบกับคอนโดมิเนียมหรูหลายแห่งในโซนใจกลางเมือง ซึ่งผู้อยู่อาศัยชาวญี่ปุ่นนิยมเช่ามากกว่าซื้อ ทำให้คอนโดมิเนียมย่านทองหล่อมีโอกาสในการลงทุนที่ดีทั้งอัตราผลตอบแทนจากการเช่าและแคปิตอลเกน (Capital Gain) หรือส่วนต่างของมูลค่าทรัพย์สินจากการขายในอนาคต
วิเคราะห์ทำเลที่ตั้งโครงการ
หากแบ่งทำเลถนนทองหล่อออกเป็น 3 ช่วง คือ ช่วงต้น ช่วงกลาง และช่วงปลาย ก็จะมีลักษณะสภาพแวดล้อมที่แตกต่างกันไป โดยช่วงกลางทองหล่อ จะเป็นจุดที่มีร้านค้า คอมมูนิตี้มอลล์ และแหล่งเอ็นเตอร์เม้นท์ยามค่ำคืน ถือเป็นจุดศูนย์กลางของกลุ่มธุรกิจเชิงพาณิชย์ ส่วนช่วงปลายทองหล่อ จะค่อนไปทางถนนเพชรบุรี ซึ่งอาจจะห่างจากฝั่งสุขุมวิทพอควร
ส่วนโครงการ The Bangkok Thonglor ตั้งอยู่บริเวณทองหล่อ ซอย 1 ซึ่งถือว่าอยู่ช่วงต้นของทองหล่อ มีจุดเด่นคือใกล้กับฝั่งถนนสุขุมวิท และไม่หนาแน่นเหมือนกับช่วงกลาง เหมาะแก่การอยู่อาศัย (Daily Living) เนื่องจากเป็นทำเลใกล้ถนนใหญ่ (สุขุมวิท) ห่างจากจุดขึ้น-ลงรถไฟฟ้าสถานีทองหล่อ ประมาณ 300 เมตร สามารถที่จะเดินจากสถานีมาถึงตัวโครงการได้ และยังสะดวกที่จะเดินทางไปแหล่งช้อปปิ้ง ร้านอาหาร และแหล่งบันเทิงได้เมื่อต้องการ อีกทั้ง โครงการยังอยู่หัวมุมทองหล่อซอย 1 ทางเข้าหลักติดถนนใหญ่ และด้านข้างติดถนนซอย จะไม่โดนขนาบข้าง
นอกจากนี้ แม้จะอยู่ช่วงต้นซอย แต่ก็ยังสามารถเชื่อมต่อไปยังสุขุมวิท 53 ซึ่งใกล้กับ Bangkok International Preparatory & Secondary School หรือ Bangkok Prep ซึ่งเป็นโรงเรียนนานาชาติชั้นนำที่ได้รับความนิยมทั้งผู้ปกครองคนไทยและต่างชาติ รวมถึง ยังเชื่อมต่อไปยังสุขุมวิทซอยอื่นๆ ได้ เช่น สุขุมวิท 49, 39, 35 ฯลฯ
การเดินทาง
การเดินทางในย่านนี้ สามารถเข้า-ออกได้หลายเส้นทาง และยังมีรถไฟฟ้าบีทีเอสสถานีทองหล่อเป็นทางเลือกด้วย โดยหากเดินทางด้วยรถยนต์ จากถนนสุขุมวิท เลี้ยวซ้ายเข้าสู่ซอยสุขุมวิท 55 ตรงเข้ามาราว 200-250 เมตรโครงการจะอยู่ฝั่งซ้ายมือ ติดถนนทองหล่อ ใกล้กับทองหล่อซอย 1 ซึ่งในบริเวณใกล้เคียงหากตรงไปเล็กน้อย จะเป็นทองหล่อซอย 5 และซอย 9 ซึ่งเชื่อมต่อไปยังซอยสุขุมวิท 53 ได้ หรือถ้าเข้าทองหล่อ ซอย 13 ก็เชื่อมต่อไปยังสุขุมวิท 49 ได้
หากเดินทางด้วยรถไฟฟ้าบีทีเอส ลงสถานีทองหล่อ ทางออก 3 เดินมาจะเจอร้านค้าดั้งเดิมหลายแห่ง เลี้ยวเข้าสู่ซอยสุขุมวิท 55 หรือซอยทองหล่อเดินตรงมาเล็กน้อยก็จะเจอโครงการ หรือถ้าไม่เดินจะนั่งมอเตอร์ไซค์ หรือรถแดง ซึ่งเป็นรถสองแถวเก่าแก่ที่ให้บริการบนถนนย่านนี้มายาวนานก็ได้เช่นกัน
บรรยากาศบริเวณต้นซอยทองหล่อ ที่จะเป็นพื้นที่ร้านค้าดั้งเดิมที่เปิดให้บริการมาเป็นเวลาหลายสิบปี เช่น ร้านข้าวเหนียวมูนแม่วารี ซึ่งขึ้นชื่อในเรื่องความอร่อยจนนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกต้องแวะมาชิมถึงที่
นอกจากนี้ ยังมีร้านขายยา ร้านอาหารต่างๆ รวมไปถึงร้านรถเข็นแต่รสชาติเด็ดไม่แพ้กัน เปิดให้บริการตลอดแนวต้นซอย
รถเมล์แดง หนึ่งในตำนานด้านการเดินทางของซอยทองหล่อ วิ่งให้บริการจากต้นซอยถึงช่วงท้ายซอย (บริเวณโรงพยาบาลคามิลเลี่ยน) และวนกลับรถใต้สะพาน อีกหนึ่งทางเลือกสำหรับผู้ที่ต้องการเดินทางภายในซอย แบบประหยัด ในวันที่ไม่เร่งรีบ
สถานที่แนวไลฟ์สไตล์
หากเอ่ยถึงร้านแนวไลฟ์สไตล์ย่านทองหล่อ ต้องถือว่าย่านนี้เป็นจุดกำเนิดร้านฮิปๆ ชิคๆ และคอมมูนิตี้มอลล์จำนวนมาก ไม่ว่าจะเป็น Market Place, The Maze, 72 Courtyard, 9:53 Art Mall, The Taste, Seen Space, J Avenue, The common หรือในบริเวณใกล้เคียง เช่น Nihonmura Mall, Villa Market ยังไม่รวมร้านดั้งเดิม ร้านอาหาร และร้านกิน-ดื่มอีกจำนวนมาก
บทวิเคราะห์
วิเคราะห์อัตราผลตอบแทนที่จะได้รับ
จากที่วิเคราะห์มาตอนต้นแล้วว่า ความต้องการที่อยู่อาศัยย่านทองหล่อถือว่าสูงมาก โดยเฉพาะความต้องการเช่าจากลูกค้าชาวญี่ปุ่น จึงมีโอกาสที่จะลงทุนปล่อยเช่าได้ แต่ต้องยอมรับว่า อัตราผลตอบแทนจากค่าเช่าอาจจะไม่สูงมาก เพราะต้นทุนในการลงทุนค่อนข้างสูง โดยหากคิดจากราคาขายห้องชุด พื้นที่ใช้สอย 53 ตร.ม. ราคา 18 ล้านบาท อัตราค่าเช่าย่านนี้ประมาณ 1,000 บาท/ตร.ม. รายได้จากค่าเช่าต่อปีอยู่ที่ประมาณ 636,000 บาท โอกาสที่จะได้อัตราผลตอบแทนจะอยู่ที่ 3.53%
แต่หากวิเคราะห์มูลค่าทรัพย์สินที่เพิ่มขึ้นในแต่ละปี จากการสำรวจราคาขายห้องชุดย่านทองหล่อในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา ปรับขึ้นต่อเนื่องประมาณปีละ 10-15% จึงอาจกล่าวได้ว่า คอนโดมิเนียมย่านนี้มีโอกาสในการได้ผลตอบแทนจากแคปิตอล เกน (Capital Gain) ในอนาคตที่ดี
เปรียบเทียบกับโครงการอื่น
ถ้าวัดทั้งทำเลที่ตั้ง คอนเซ็ปต์โครงการ และการออกแบบ คู่แข่งของโครงการนี้ในระยะเวลาอันใกล้นี้ มีด้วยกัน 2 โครงการซึ่งเป็นของบริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) ที่ร่วมทุนกับกลุ่มบีทีเอสทั้ง 2 โครงการ คือ
1.โครงการบริเวณทองหล่อ ซอย 12 (อยู่ระหว่างคิดชื่อแบรนด์) จะเปิดตัวในไตรมาส 4 ปีนี้ อยู่บนพื้นที่กว่า 1 ไร่ เน้นห้องชุดเล็ก เริ่มต้น 40 ตร.ม. จำนวน 150 ยูนิต ราคาเริ่มต้น 15 ล้านบาท ราคาเฉลี่ยสูงกว่า 3 แสนบาท/ตร.ม.
2.โครงการเดอะ โมนูเมนต์ ทองหล่อ (ใกล้ฝั่งถนนเพชรบุรี) จำนวน 127 ยูนิต เน้นห้องชุดขนาดใหญ่ เริ่มต้น 2-3 ห้องนอน 120-700 ตร.ม. ราคาเฉลี่ย 3 แสนบาท/ตร.ม. หรือเริ่มต้นประมาณ 36 ล้านบาท จะเปิดตัวปีหน้า
เรียกว่าทั้ง 3 โครงการ ได้แก่ โครงการ The Bangkok Thonglor ของแลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ กับอีก 2 โครงการของแสนสิริ ต่างก็มีจุดแข็งในด้านการออกแบบคอนเซ็ปต์โครงการที่จะสร้างทางเลือกอันหลากหลายให้กับผู้บริโภค
สรุป
ด้วยทำเลที่ตั้งโครงการในย่านทองหล่อ ซึ่งถือว่าเป็นหนึ่งใน Prime Location ของกรุงเทพฯ และมีสิ่งอำนวยความสะดวกในการอยู่อาศัยครบ ประกอบกับที่ดินที่หายากขึ้น ทำให้โครงการคอนโดมิเนียมย่านนี้เหมาะทั้งการซื้อเพื่ออยู่อาศัยเองและซื้อเพื่อลงทุนระยะยาว สิ่งที่น่าจับตาคือ เมื่อโครงการเปิดพรีเซลครั้งแรกในวันที่ 22 ตุลาคม ที่โรงแรมแกรนด์ เซ็นเตอร์พอยท์ เทอร์มินอล 21 จะสร้างความฮือฮาให้กับตลาดมากน้อยเพียงใด แต่สำหรับผู้ที่สนใจเข้าร่วมเป็นส่วนหนึ่งของปรากฏการณ์ #BestinLife ที่บางที่..บอกคุณค่าได้ไม่รู้จบ สามารถลงทะเบียนได้ที่ โทร. 1198 หรือ www.lh.co.th/thebangkokthonglor