ลุมพินี วิลล์ แจ้งวัฒนะ 10 คอนโด Low Rise 8 ชั้น 2 อาคาร ห้องชุดจำนวน 476 ยูนิต พร้อมลานกิจกรรม และลานออกกำลังกายขนาดใหญ่ รองรับการพักอาศัยช่วง Work from Home ได้อย่างลงตัว ราคาเริ่มต้นเพียง 1.45 ล้านบาท
สนใจ คอนโดฯ ในโครงการนี้? เลือกชม รายการประกาศ ราคาโดนใจ
ถึงแม้ตลาดของอสังหาริมทรัพย์ของคอนโดมิเนียมแบบโลว์ไรส์จะไม่ฮอทฮิทเท่ากับคอนโดมิเนียมแนวดิ่ง แต่ก็ยังมีดีมานด์ไม่น้อยที่ให้ความสนใจกับตลาดคอนโดมิเนียมโลว์ไรส์จากข้อแตกต่างในความเป็นส่วนตัวที่มากกว่า ซึ่งหนึ่งในดีเวลลอปเปอร์ที่มีแลนด์แบงค์อยู่บนทำเลที่มีศักยภาพความเป็นตัวสูงบนพื้นที่ผังเมืองสีส้ม (พื้นที่ที่มีที่อยู่อาศัยหนาแน่นปานกลาง) อย่าง “บางนา” เป็นทุนเดิมอยู่แล้วก็คือ บริษัท เสนาดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) กับโครงการ เดอะ นิช โมโน พีค บางนา (The Niche Mono Peak Bangna) โครงการคอนโดมิเนียมโลว์ไรส์ที่เน้นความเป็นส่วนตัว และได้รับความนิยมจากคนในพื้นที่หรือดีมานด์ที่มีแหล่งงานอยู่บริเวณบางนา โดยในปัจจุบันโครงการด้วยกำลังซื้อของคนในพื้นที่บางนาที่ยังคงมีความต้องการที่อยู่อาศัยใหม่สูง และเสนาดีเวลลอปเมนท์เองก็มีชั่วโมงการบินกับผลิตภัณฑ์คอนโดมิเนียมโลว์ไรส์ที่เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายเป็นอย่างดีอยู่แล้ว จึงจับเอาพื้นที่โครงการที่เหลือของ เดอะ นิช โมโน พีค บางนา (The Niche Mono Peak Bangna) ขึ้นมาเป็นเฟส 3 ตอกย้ำความสำเร็จในอนาคตบนพื้นที่บางนากับเซกเมนต์โครงการคอนโดมิเนียมโลว์ไรส์
เจาะลึกข้อมูลโครงการ
ชื่อโครงการ: เดอะ นิช โมโน พีค บางนา (The Niche Mono Peak Bangna)
ผู้พัฒนาโครงการ: บริษัท เสนาดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน)
ทำเลที่ตั้ง: ถนนบางนา-ตราด (ก.ม.3 ฝั่งขาเข้า) แขวงบางนา เขตบางนา กรุงเทพมหานคร
เว็บไซต์: http://www.sena.co.th/form/theniche-mono-peak-bangna
โทร: 1775 กด 28 หรือ 087-016-8888
อีเมล์: thenichemono@hotmail.co.th
*สามารถลงทะเบียนได้ที่ http://www.sena.co.th/form/theniche-mono-peak-bangna
รายละเอียดโครงการ
พื้นที่โครงการ: 1-3-14 ไร่
รูปแบบ: อาคารพักอาศัยรวม สูง 7 ชั้น จำนวน 1 อาคาร 42 ยูนิต แบ่งเป็น 7 ยูนิตต่อชั้น
กลุ่มเป้าหมาย: คนพื้นที่ที่ต้องการที่อยู่อาศัยสไตล์คอนโดมิเนียมที่มีความเป็นส่วนตัวสูง
ที่จอดรถ: รองรับที่จอดรถ 200% พร้อมโฉนดที่จอดรถ 1 คัน / ห้อง หมดกังวลเรื่องที่จอดรถ (เงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทกำหนด)
เงินกองทุนสะสม: 500 บาทต่อตร.ม.
ค่าส่วนกลาง: 55 บาท ต่อ ตร.ม.
ราคาเริ่มต้น: แบบ 1 ห้องนอนเริ่มต้น 2.7 ล้าน แบบ 2 หน้องนอนเริ่มต้น 4.4 ล้าน
ราคาเฉลี่ย: ประมาณ 70,000- บาทต่อตร.ม.
รูปแบบห้อง
ห้องชุดพักอาศัยขนาด 1 ห้องนอน พื้นที่ใช้สอย 35.00 ตร.ม.
ห้องชุดพักอาศัยขนาด 2 ห้องนอน พื้นที่ใช้สอย 62.00 ตร.ม.
รายละเอียดโครงการ
รีวิวภาพรวมโครงการ
โครงการ เดอะ นิช โมโน พีค บางนา เฟส 3 เป็นโครงการคอนโดมิเนียมโลว์ไรส์ 7 ชั้น ที่มีความเป็นส่วนตัวสูง จากยูนิตเฉลี่ยต่อชั้นที่ประมาณ 7 ยูนิต โดยมียูนิตรวมเพียง 42 ยูนิต ตอบโจทย์ความเป็นส่วนตัวสำหรับคนที่กำลังมองหาที่อยู่อาศัยที่ต้องการพักผ่อนอย่างแท้จริง จุดเด่นของโครงการคือ Privilege Parking ที่รองรับการจอดรถมากถึง 200% รวมถึงเอกสิทธิ์ล็อกที่จอดหนึ่งที่สำหรับหนึ่งยูนิต และรักษาสิ่งแวดล้อมด้วยการเน้นพื้นที่สีเขียวรอบโครงการ พร้อมส่วนกลางที่ครบครันและสอดคล้องกับจำนวนยูนิต แบบที่เรียกได้ว่าไม่ต้องแย่งกันใช้ก็ว่าได้ โดยส่วนกลางประกอบไปด้วย สระว่ายน้ำ สระว่ายน้ำสำหรับเด็ก Jogging Track พื้นที่สังสรรค์ ฟิตเนส สนามเด็กเล่น Lobby และ Sky Garden สำหรับนั่งพักผ่อนบริเวณ Jogging Track อีกทั้งยังมีระบบกักเก็บพลังงานเพื่อรักษาสิ่งแวดล้อมด้วยแผงพลังงานแสงอาทิตย์นวัตกรรม Solar Cell มาใช้ผลิตไฟฟ้าในส่วนกลางทุกจุด และเน้นความปลอดภัยด้วยกล้องวงจรปิด,ร.ป.ภ. 24 ชั่วโมง , ลิฟต์แบบล็อคชั้นบนราคาที่ตอบโจทย์กลุ่มคนพื้นที่บริเวณบางนา โดยห้อง1 ห้องนอน ราคาเริ่มต้น 2.7 ล้านบาท, 2 ห้องนอน เริ่มต้น 4.4 ล้านบาท
สิ่งอำนวยความสะดวก
Lobby
สระว่ายน้ำ พร้อมสระว่ายน้ำสำหรับเด็ก
Jogging Track
ฟิตเนส
พื้นที่สังสรรค์
สนามเด็กเล่น
แผงพลังงานแสงอาทิตย์
ทําเล & การเดินทาง
วิเคราะห์ศักยภาพทำเล
ปัจจุบันบางนาถือเป็นนิวโลเกชั่นที่ซัพพลายนิยมตบเท้าเข้ามาปักหมุดของโครงการที่อยู่อาศัยต่างๆ นับตั้งแต่มีรถไฟฟ้าส่วนต่อขยายเส้นสุขุมวิทสถานีอ่อนนุช-แบริ่ง ระยะทาง 5.25 กิโลเมตรที่เพิ่งเปิดให้บริการประมาณปี 2554 หรือ 3 ปีที่ผ่านมา ทำให้ราคาขายของที่ดินตามแนวรถไฟฟ้าส่วนต่อขยายมีราคาสูงขึ้นจากอานิสงส์ดังกล่าว แต่ด้วยการเชื่อมต่อของสถานีบางนาที่ค่อนข้างไกลออกมาจากตัวเมือง ทำให้การตัดสินใจในการลงทุนของดีเวลลอปเปอร์ต่างๆ เมื่อเปรียบเทียบราคาค่าที่ดินเป็นเรื่องยากในการตีตลาดคนพื้นที่หรือดึงดีมานด์ภายในตัวเมืองเข้ามา จากความเจริญในอนาคตที่ยังมาไม่ถึง ทำให้การตัดสินใจซื้อคอนโดมิเนียมติดแนวรถไฟฟ้าดูยากขึ้นจากราคาที่สูงเกินไป โดยถึงแม้จะสามารถเชื่อมต่อเข้าสู่เมืองได้แต่ก็ต้องใช้เวลาพอสมควร ดังนั้นซัพพลายส่วนใหญ่จึงขยับตัวออกมาบนถนนสายรองหรือซอยต่างๆ อาทิ ซอยลาซาล – แบริ่งหรือซอยอุดมสุขหรือแม้แต่บริเวณถนนบางนา – ตราด ที่เป็นจุดเชื่อมต่อระหว่างแยกบางนา ไปจนถึงถนนศรีนครินทร์ แต่ด้วยความที่ถนนเส้นนี้ไม่ได้มีรถไฟฟ้าตัดผ่านการปลูกสร้างคอนโดมิเนียมริมถนนที่มีค่าที่แพงกว่าที่ในซอยจึงทำให้ซัพพลายเลือกขยับตำแหน่งของโครงการออกไปอยู่ในซอยบางนา – ตราด ที่ได้พื้นที่ใช้สอยที่มากกว่าและมีราคาที่คุ้มค่าโดยในแง่ของความสะดวกสบายก็ไม่ได้แตกต่างกันมากนัก และตำแหน่งของโครงการ เดอะ นิช โมโน พีค บางนา เฟส 3 ก็มีที่ตั้งอยู่บริเวณซอยบางนา 42 ซึ่งศักยภาพของพื้นที่บริเวณนี้จะค่อนออกไปทางทำเล บางนา – ศรีนครินทร์ มากกว่าทางฝั่งแยกบางนา แต่ทั้งนี้เมื่อความเจริญในอนาคตที่เกิดขึ้นระหว่างสองฝั่งดังกล่าวล้วนมีผลกับที่ตั้งโครงการ
วิเคราะห์ทำเลที่ตั้งโครงการ
เดอะ นิช โมโน พีค บางนา เฟส 3 ตั้งอยู่บนซอยบางนา – ตราด 42 โดยมีถนนเส้นหลักที่ใช้ในการเดินทางคือถนนบางนา-ตราด หากออกมาจากซอยที่ตั้งโครงการและกลับรถ นับจากปากซอยไปประมาณ 700 ม. จะสามารถเดินทางเข้าสู่ ถนนศรีนครินทร์ได้ หากไม่กลับรถและตรงไปประมาณ 3.5 กม. จะเป็นแยกบางนาความหวังของความเจริญที่จะได้เป็นจุดศูนย์กลาง Eastern Business District ในอนาคต ถึงแม้ที่ตั้งโครงการจะใกล้ฝั่งถนนศรีนครินทร์มากกว่า แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าอานิสงส์ต่างๆ จากทางฝั่งแยกบางนาจะส่งผลมาไม่ถึงโครงการ ซึ่งโอกาสในอนาคตสิ่งที่มีผลให้ราคายูนิตโครงการถูกอัพเกรดขึ้นไปอีกแน่ๆ ก็คือการมาของโครงการรถไฟฟ้าส่วนต่อขยายลาดพร้าว – ศรีนครินทร์ที่จะเข้ามามีบทบาทบนถนนสายศรีนครินทร์ รวมไปถึงเชื่อมต่อกับรถไฟฟ้าส่วนต่อขยายสายสีเขียวที่สถานีสำโรง ซึ่งหากเกิดขึ้นจริงตามแผนงานของภาครัฐจะส่งผลกระทบในแง่ดีให้กับที่ตั้งโครงการ โดยสถานีที่จะเกิดขึ้นในอนาคตและใกล้กับโครงการมากที่สุดก็คือสถานีศรีเอี่ยมบริเวณแยกถนนบางนา – ตราด และศรีนครินทร์
เส้นทางการเดินทางของโครงการส่วนต่อขยายรถไฟฟ้าสายสีเหลือง
นอกจากนั้นอีกหนึ่งจุดสำคัญที่ช่วยซัพพอร์ทภาคการคมนาคมให้กับที่ตั้งโครงการก็คือส่วนต่อขยายรถไฟรางคู่ขนาดเบา (Light Rail) สายบางนา – สุวรรณภูมิ ที่เชื่อมต่อกับรถไฟฟ้าสถานีอุดมสุข ซึ่งตามการคาดการจะสามารถเปิดให้ใช้บริการได้ในปี 60 โดยระยะทางจากโครงการไปสู่สถานีที่ใกล้ที่สุดจะอยู่ที่ประมาณ 2 กม. ที่สถานีวัดศรีเอี่ยม
ส่วนต่อขยายรถไฟรางคู่ขนาดเบา (Light Rail) สายบางนา – สุวรรณภูมิ
ภาพ via interlinktower.com
ทั้งนี้ทางฝั่งแยกบางนาเอง ในอนาคตก็จะกลายเป็นจุดศูนย์กลางของบางนาที่แผ่ความเจริญออกไปในรัศมีที่เป็นวงกว้าง โดยการเปลี่ยนแปลงที่จะเกิดขึ้นและพลิกพื้นที่บริเวณแยกบางนาให้กลายเป็น East Gate ประตูเชื่อมต่อทุกภาคส่วนทางฝั่งตะวันตก โดยโปรเจกต์หลักๆ ที่จะส่งผลมาสู่ที่ตั้งโครงการก็คือโปรเจกต์ยักษ์ใหญ่ของกลุ่มห้างเดอะมอลล์ที่มีแผนจะพัฒนาโครงการชอปปิ้งมอลล์ขนาดใหญ่บริเวณสี่แยกบางนาในนาม “Bangkok Mall” ซึ่งนับจากตัวโครงการมีระยะห่างจากแยกบางนาเพียง 3.4 กม.
Bangkok Mall
การเดินทาง
การเดินทางมายังโครงการด้วยรถยนต์ ขอแนะนำการใช้เส้นทางจากถนนเพชรบุรี ซึ่งเป็นเส้นทางที่มาจากทางฝั่งตัวเมือง เพื่อแสดงให้เห็นถึงการเชื่อมต่อที่มีศักยภาพและใช้เวลาไม่นานในการเดินทาง
จากถนนเพชรบุรีให้มุ่งหน้าไปทางถนนพัฒนาการแล้วมุ่งตรงมาเรื่อยๆ จนถึงแยกคลองตันแล้วให้เลี้ยวซ้ายวิ่งเลียบกับทางด่วนรามอินทรา – อาจณรงค์ประมาณ ประมาณ 200 ม. จะเจอด่วนเก็บเงินค่าผ่านทางพิเศษพัฒนาการ 2 ให้มุ่งตรงมาตามป้ายบางนาจะเชื่อมต่อเข้าสู่ทางพิเศษเฉลิมมหานคร จากนั้นตรงมาเรื่อยๆ เมื่อเจอป้ายทางออกถนนบางนา – ตราด ให้เบี่ยงซ้ายเพื่อออกจากทางด่วนพิเศษ และเบี่ยงขวาเข้าสู่ทางคู่ขนานถนนบางนาตราดตรงไปประมาณ 800 ม. ให้ยูเทิร์นมาอีกฝั่งและมุ่งตรงไปอีก 2 กม. จะเจอซอยบางนา – ตราด 42 อยู่ทางซ้ายมือให้เลี้ยวเข้าซอยตรงไป 200 ม. จะพบโครงการอยู่ทางขวามือ
สถานที่แนวไลฟ์สไตล์
ด้วยอานิสงส์จากภาคส่วนต่างๆ ทั้งรถไฟฟ้า ห้างสรรพสินค้า โปรเจกต์ต่างๆ ที่จะเข้ามาในอนาคต ทำให้บริเวณถนนบางนา – ตราด มีสาธารณูปโภคที่ครบครัน และกลายเป็นอีกโซนที่เป็นแหล่งรวมไลฟ์สไตล์ทั้งแฟชั่น อาหารการกิน เพื่อรองรับดีมานด์ทั้งหมดและเปลี่ยนแปลงทำเลบางนาให้เป็นจุดศูนย์กลางของฝั่งตะวันออก โดยแหล่งรวมไลฟ์สไตล์ทั้งหมดจะคลอบคลุมไปถึงทั้งโซนบางนา และบริเวณศรีนครินทร์ด้วย ถึงแม้จะอยู่ในระยะที่ต้องขับรถยนต์ แต่ก็พร้อมไปด้วยสิ่งอำนวยความสะดวก อาทิ
Harbin Ice Wonderland
Bitec Bangna
Big C ศรีนครินทร์
The Bangkok Mall
Chic Republic บางนา
Index Living Mall
Central Plaza บางนา
Big C บางนา
Paradise Park ศรีนครินทร์
SB Design Square บางนา กม.4
Haha Market
Seacon Square ศรีนครินทร์
ตลาดนัดรถไฟ ศรีนครินทร์
Tesco Lotus บางนา – ตราด
Mega บางนา
บทวิเคราะห์
วิเคราะห์อัตราผลตอบแทน
ภาพรวมตลาดอสังหาริมทรัพย์ในย่านบางนา – ศรีนครินทร์ บริเวณที่ตั้งโครงการ ถือว่าอยู่ในแนวโน้มการเติบโตที่ดีเพราะถัดออกมาจากที่ตั้งโครงการตามแนวถนนใหญ่ประกอบไปด้วยอาคารสำนักงาน และชุมชนพาณิชยกรรมรายย่อยที่มีมาแต่ดั้งเดิมอยู่แล้ว นอกจากอานิสงส์จากโครงการรถไฟฟ้าส่วนต่อขยาย 2 สายใหม่ของรถไฟฟ้าสายสีเหลือง (ลาดพร้าว – ศรีนครินทร์) และ ส่วนต่อขยายรถไฟรางคู่ขนาดเบา (Light Rail) สายบางนา – สุวรรณภูมิ ที่จะเพิ่มภาษีให้กับราคาต่อตร.ม.ของยูนิตแล้ว ยังมีผลประโยชน์จากการมีสนามบินสุวรรณภูมิเป็นจุดเชื่อมต่อสำคัญ โดยปกติราคาของยูนิตที่เพิ่มขึ้นในแต่ละปีบริเวณถนนบางนา – ตราดจะอยู่ที่ประมาณ 5-8% และปรับขึ้นประมาณนี้ทุกปี ซึ่งหากโปรเจกต์ที่กล่าวมาทั้งหมดเกิดขึ้นจริงด้วยราคาเริ่มต้นที่ประมาณ 70,000 บาทต่อตร.ม.จะถูกอัพเกรดไปในเรท 90,000 บาทต่อตร.ม.ได้ไม่ยากเลย ซึ่งในส่วนของค่าเช่าต่อเดือนสำหรับห้องขนาดเริ่มต้นก็จะอยู่ที่ประมาณ 9000 – 12,000 บาท สำหรับห้องเปล่า ซึ่งเป็นราคาที่ดีมานด์ในย่านบางนามีกำลังจ่ายไหว ส่วนของการลงทุนก็ใช้ศักยภาพทำเลในอนาคตที่จะเกิดขึ้นจริงเป็นการประกอบในตัดสินใจ เพราะไม่ว่าอย่างไรราคายูนิตจะต้องปรับขึ้นไม่มากก็น้อยอย่างแน่นอน
สรุป
ในแง่ของที่อยู่อาศัยของโครงการถือว่าเป็นหนึ่งในโครงการที่มีความเป็นส่วนตัวที่สุดบนถนนบางนา – ตราด จากศักยภาพของที่ตั้งคงตอบได้ไม่ยากว่าเหมาะกับคนที่ขับรถยนต์มากกว่าคนที่มีชีวิตติดอยู่กับแนวรถไฟฟ้า โครงการจึงออกแบบที่จอดรถให้มีมากถึง 200% เพื่อรองรับดีมานด์ที่กระจายตัวอยู่ในพื้นที่บางนา หรือกลุ่มครอบครัวขยายที่กำลังมองหาบ้านหลังที่สองที่ตอบสนองความต้องการได้ครบถ้วนไม่ว่าจะเป็นเรื่องความเป็นส่วนตัวหรือส่วนกลางที่ครบครันบนศักยภาพทำเลที่มีการเติบโตสูง และยังสามารถไปต่อได้อีกไกลในอนาคต ซึ่งนอกจากกลุ่มครอบครัวขยายบนพื้นที่เอง หากมองถึงอนาคตตัวโปรดักส์โครงการก็สามารถดึงกลุ่มนักลงทุนเข้ามาได้ไม่ยาก เพราะในอนาคตสิ่งที่จะเข้ามาช่วยซัพพอ์ทเรื่องของความเจริญก็คือคือเส้นทางคมนาคมที่จะเกิดขึ้นไม่ไกลโครงการ อาทิ โครงการส่วนต่อขยายรถไฟฟ้าสายสีเหลืองที่เชื่อมส่วนต่อขยายสายสุขุมวิทเอาไว้ และสามารถเดินทางไปได้ทุกทิศทาง รวมไปถึงรถไฟรางคู่ขนาดเบาก็ยังอยู่ในระยะที่พึ่งพาขนส่งมวลชนไปได้ไม่ยาก ภาพรวมของโครงการทั้งหมดจึงเรียกได้ว่าคลอบคลุมทุกกลุ่มเป้าหมายจากศักยภาพทำเลและโปรดักส์ที่มีความชัดเจนเน้นเจาะกลุ่มเป้าหมายในราคาเริ่มต้นที่ 2.7 ล้านสำหรับห้องชุดพักอาศัยขนาด 1 ห้องนอน พื้นที่ใช้สอย 35.00 ตร.ม. โดยห้อง Type นี้จะมีเพียง 6 ยูนิตเท่านั้น โดยอีก 36 ยูนิตจะเป็นห้องชุดพักอาศัยขนาด 2 ห้องนอนที่มีพื้นที่ใช้สอย 62.00 ตร.ม. กับราคาเริ่มต้นที่ 4.4 ล้านบาท ซึ่งการที่โครงการเน้นยูนิตที่มีราคาระดับ 4-5 ล้านนั้น ถือเป็นปัจจัยที่ดึงกลุ่มดีมานด์ที่อยู่ในเซกเมนต์ของนักธุรกิจหรือพนักงานระดับสูงที่ต้องการความเป็นส่วนตัวสูงเข้ามาในโครงการ ดังนั้นสิ่งที่ตามมาก็คือสังคมที่หน้าอยู่มีความหรูหรา จากรสนิยมของผู้อยู่อาศัยที่มีกำลังซื้อบวกกับจุดเด่นของที่จอดรถ 200% ที่เสมือนเป็นตัวคัดกรองให้กลุ่มคนที่มีเม็ดเงินสูง และมีไลฟ์สไตล์บนความหรูหรามารวมตัวกันกลายเป็นอีกหนึ่งสังคมคุณภาพบนทำเลบางนา – ตราด
สนใจ คอนโดฯ ในโครงการนี้? เลือกชม รายการประกาศ ราคาโดนใจ