พรีวิวโครงการใหม่: แอสปาย สาทร-ราชพฤกษ์ (Aspire Sathorn - Ratchapruek)

จุดเด่นของโครงการแอสปาย สาทร-ราชพฤกษ์

โครงการแอสปาย สาทร-ราชพฤกษ์ ถือเป็นโครงการแรกในแบรนด์ “Aspire” ที่ทาง AP ยกระดับให้เหนือกว่าแบรนด์เดิมเทียบเท่ากับแบรนด์ “Life” ในอดีต ทั้งด้านสิ่งอำนวยความสะดวก วัสดุ และการดีไซน์ ในราคาที่ถูกกว่าโครงการอื่นในทำเลเดียวกัน โดยจุดเด่นของโครงการมีดังนี้

การเดินทางเชื่อมต่อที่สะดวกสบาย
โครงการตั้งอยู่บน ถ.ราชพฤกษ์ ซึ่งสามารถเชื่อมต่อกับใจกลางเมืองได้อย่างสะดวกสบายทั้งทางรถยนต์และรถไฟฟ้า

แผนที่โครงการ

การเดินทางโดยรถยนต์มายังโครงการทำได้ง่ายมาก หากมาจาก ถ.ราชพฤกษ์ ขาออกเมือง ให้สังเกตป้าย ถ.เทอดไท ขับมาตามทางโครงการจะอยู่ทางฝั่งซ้าย หรือหากจะเข้าเมืองตัวโครงการก็อยู่ใกล้ที่กลับรถสามารถกลับรถแล้วขึ้น ถ.ราชพฤกษ์ ไปสีลม-สาทร ได้อย่างสะดวกสบาย

การเดินทางโดยรถไฟฟ้า ตัวโครงการห่างจากรถไฟฟ้า BTS ส่วนต่อขยาย สถานีบางหว้า เพียง 1 ก้าว โดยทางโครงการได้สร้าง Skywalk เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับลูกบ้านสามารถเดินจากโครงการขึ้น Skywalk ไปสู่สถานีบางหว้าได้อย่างสะดวกสบายและปลอดภัย ซึ่งถือเป็นโครงการเดียวในทำเลนี้ที่มี Skywalk สามารถเดินทางเข้าสู่ใจกลางเมืองอย่างสีลม สาทร และสยาม ได้ภายใน 20 นาที ที่สำคัญเป็นสถานีต้นสายทำให้ในชั่วโมงเร่งด่วนไม่ต้องรอขึ้นหลายขบวน แตกต่างจากสถานีกลางทางอื่นๆ

นอกจากนี้ในอนาคตสถานีบางหว้าจะกลายเป็นอินเตอร์เชนจ์เชื่อมต่อกับรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน ช่วงหัวลำโพง-บางแค ซึ่งจะเปิดให้บริการในปี 2562 และเมื่อรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน ช่วงเตาปูน-ท่าพระ เปิดให้บริการในปี 2563 จะทำให้รถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินวนครบลูป สะดวกสบายในการเดินทางยิ่งขึ้น

รถไฟฟ้ารอบโครงการ

รายล้อมด้วยไลฟ์สไตล์ที่หลากหลาย
ในทำเลราชพฤกษ์ถือว่าเป็นทำเลที่มีร้านอาหาร ร้านกาแฟ ตลาดน้ำ และห้างสรรพสินค้ามากมาย ตอบรับทุกไลฟ์สไตล์ในการพักผ่อนและการใช้ชีวิต ตอบโจทย์การอยู่อาศัยด้วยโรงพยาบาลชั้นนำ และสถาบันการศึกษาชื่อดังอีกเป็นจำนวนมาก

สิ่งอำนวยความสะดวกรอบโครงการ

สิ่งอำนวยความสะดวกที่ให้มากกว่าเดิมและมากกว่าใคร
การยกระดับแบรนด์ “Aspire” ได้เพิ่มทั้งดีไซน์ และสิ่งอำนวยความสะดวกที่ให้มากกว่าเดิมและมากกว่าโครงการในระดับเดียวกันด้วย Triple Facility สิ่งอำนวยความสะดวกที่ให้มากถึง 3 ชั้น ประกอบด้วย

Ground Floor

Lobby Lounge เพดานสูง ตกแต่งสวยงาม หรูหรา

ทางเดินภายใน Lobby Lounge วางเก้าอี้โคคูนที่ออกแบบพิเศษเฉพาะโครงการ สำหรับนั่งเล่นโทรศัพท์ พร้อมช่องเสียบชาร์จแบตโทรศัพท์

Social Library Lounge โซนห้องสมุดและโต๊ะอ่านหนังสือ

Techno Booth สำหรับนั่งติวหนังสือ หรือทำงาน มาพร้อมโทรทัศน์ที่สามารถต่อกับคอมพิวเตอร์เพื่อพรีเซนต์งานได้

Private Meeting Room สำหรับนั่งประชุมแบบจริงจังและเป็นส่วนตัวมากขึ้น ด้านข้างเป็น Casual Lounge แบบที่นั่ง Cabana นั่งทำงานพร้อมชมวิวสวนและสายน้ำให้อารมณ์รีสอร์ท

นอกจากนี้ในสวน Outdoor ยังออกแบบให้เป็นพื้นที่ Multifunction Deck สำหรับนั่งทำงาน หรือนั่งพักผ่อนภายใต้ต้นไม้ใหญ่

ชั้นที่ 8

สระว่ายน้ำขนาดใหญ่ ยาวถึง 40 เมตร ฉีกกรอบการออกแบบเดิมๆ ด้วย 2 ฟังก์ชั่น แบ่งเป็น                                                           – Active Zone สระว่ายน้ำความยาว 25 เมตร สำหรับออกกำลังกายแบบจริงจัง                                                                           – Passive Zone สำหรับนั่งพักผ่อน ประกอบด้วย Sunken bed, Social pool, Kid pool และ Sunbed บนผิวน้ำ โซนสระว่ายน้ำยังมีพื้นที่นั่งพักผ่อนริมสระที่ออกแบบให้ผู้อยู่อาศัยสามารถนั่งพักผ่อน หรือทำงานได้อย่างเป็นส่วนตัว

ฟิตเนสที่ให้มากกว่าใคร ครั้งแรกกับแบรนด์ของ AP ที่นำเครื่องออกกำลังกายใหม่อย่าง Adjustable Pully, Rower และ S-Drive เข้ามาใช้ในโครงการ นอกจากนี้ยังมีโซนบ๊อกซิ่ง เวทเทรนนิ่ง โยคะ ฯลฯ

ชั้นที่ 32

เนื้อที่บนดาดฟ้าแบ่งเป็น 2 ปีก คือ Co-recreational Sky Park ลานกิจกรรมที่ใช้ประโยชน์ได้หลากหลาย อาทิ ที่นั่งพักผ่อน ลู่วิ่ง BBQ Area และ Amphitheater พร้อมลานรองรับกีฬาหลากหลายประเภท เช่น ฟุตซอล แฮนด์บอล แชร์บอล และโยคะ

ดาดฟ้าอีกปีกเป็น Rooftop Garden นอกจากจะเป็นพื้นที่สีเขียวแล้ว ยังแบ่งพื้นที่ 20% เป็น Urban Farming ที่ผู้อยู่อาศัยสามารถปลูกผักสวนครัวและสมุนไพรต่างๆ เพื่อนำมาประกอบอาหารได้ พร้อมจุดชมวิวเมืองแบบ 360 องศา ที่สามารถนั่งทำงานและพักผ่อนได้

พิเศษด้วยการนำเทคโนโลยีอินเตอร์เน็ตแบบ Fibre optic เดินสายเข้ามาถึงภายในห้อง รองรับการใช้งานอินเตอร์เน็ตแบบ Hi speed ได้สูงสุด ซึ่งถือเป็นครั้งแรกในแบรนด์ Aspire และเหนือกว่าโครงการอื่นที่ยังใช้สายทองแดงปกติ

ห้องดีไซน์ใหม่ที่ปรับเปลี่ยนรูปแบบได้หลากหลาย

การออกแบบห้องถูกยกระดับให้มีความหรูหรามากขึ้น อาทิ ประตูกั้นห้อง Full height ห้องน้ำสำเร็จรูปที่ใช้กระเบื้อง ให้ความรู้สึกเหมือนห้องน้ำจริงแต่ดูแลได้ง่ายกว่า กระเบื้องภายในห้องครัวใช้กระเบื้องแผ่นใหญ่ 60×60 เซนติเมตร จากเดิมที่ใช้เพียง 30×30 เซนติเมตร ครบครันมากขึ้นด้วยอุปกรณ์ในห้องครัวมาพร้อมเตาไฟฟ้า และเครื่องดูดควันของ Teka และอ่างล้างจานของ MEG

พิเศษยิ่งขึ้นด้วยห้องขนาด 35 ตารางเมตร ที่สามารถปรับเปลี่ยนฟังก์ชั่นได้หลากหลายรูปแบบ