สนใจ คอนโดฯ ในโครงการนี้? เลือกชม รายการประกาศ ราคาโดนใจ
กว่า 15 ปีมาแล้วที่ไม่มีสิ่งปลูกสร้างขนาดใหญ่เกิดขึ้นเลยบนถนนสีลม ซึ่งเป็นเขตศูนย์กลางทางธุรกิจ (Central Business District) ที่สำคัญของกรุงเทพฯ แน่นอนว่าเรื่องของราคาของที่ดินในย่านนี้ก็สูงเป็นอันดับหนึ่งของประเทศถึงตารางวาละ 1 ล้านบาท จากการประเมินของกรมธนารักษ์รอบใหม่ (ปี 59 -62) แต่ราคาซื้อขายจริงนั้นสูงกว่าราคาประเมินถึง 20% ซึ่งเรื่องของราคาก็ไม่ใช่ปัญหาสำหรับดีเวลลอปเปอร์รายใหญ่ๆ เพราะสิ่งที่ถือเป็นโจทย์ยากและท้าทายคือการหาที่ดินแปลงว่างขนาดใหญ่บนเส้นสีลมและไม่ใช่พื้นที่ของสำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์เพื่อนำมาพัฒนาโครงการใหม่ๆ
แต่ในที่สุดความท้าทายนั้นก็ถูกก้าวข้าม เมื่อ “อนันดา ดีเวลลอปเมนท์” สามารถคว้าที่ดินแปลงงามติดถนนสีลมมาพัฒนาโครงการแบรนด์ท็อปของบริษัท “แอชตัน สีลม” (Ashton Silom) ร่วมกับพันธมิตรเบอร์ใหญ่จากแดนปลาดิบอย่างมิตซุย ฟูโดซัง ด้วยงบลงทุนกว่า 5,800 ล้านบาทสร้างความฮือฮาให้กับตลาดคอนโดฯ กลางเมืองอีกครั้ง
ชื่อโครงการ: แอชตัน สีลม (ASHTON SILOM) (ANAN)
เจ้าของโครงการ: บริษัท อนันดา ดีเวลล็อปเม้นท์ จำกัด (มหาชน)
ผู้ร่วมพัฒนาโครงการ: มิตซุย ฟูโดซัน (Mitsui Fudosan)
ที่ตั้งโครงการ : ถนนสีลม เขตบางรัก กรุงเทพฯ 10500
เว็ปไซค์: www.ananda.com
โทร: 02 316 2222
พื้นที่โครงการ: 1.8 ไร่ (โดยประมาณ)
รูปแบบโครงการ : คอนโดแบบ High rise 1 อาคาร จำนวน 48 ชั้น 428 ยูนิต
สิ่งอำนวยความสะดวก: ล็อบบี้ส่วนกลาง, สวนบริเวณชั้น 1, สระน้ำ, จากุซซี่, ฟิตเนส, ห้อง อบไอน้ำและ ซาวน์น่า, ห้องนวดเพื่อการผ่อนคลาย, โรงภาพยนตร์, พื้นที่ส่วนกลางสำหรับคุยธุรกิจ, วิว 360 องศา ณ ชั้น 34 และ 35, โซเชี่ยวคลับ, เอาท์ดอร์ เลาจน์ ในบรรยากาศสวน ณ ชั้น 46 และ 48
เปิดขายอย่างเป็นทางการประมาณ : ต้นปี 2559
ราคาขายเริ่มต้น: 7,300,000 บาท (ราคาเปิดตัวที่ประเทศสิงคโปร์ S$ 290,000)
ราคาเฉลี่ยต่อตารางเมตร: 240,000 บาท/ตร.ม.
ประเภทห้อง
1 bedroom 31 – 48 sq.m.
2 bedroom 71 – 86 sq.m.
รีวิวภาพรวมโครงการ
แอชตัน สีลม (Ashton Silom) เป็นโครงการคอนโดมิเนี่ยมระดับพรีเมี่ยมของ “อนันดา” ซึ่งเป็นคอนโดฯ อยู่อาศัย 48 ชั้น ในย่านสีลมประกอบด้วยยูนิตอยู่อาศัย 428 ยูนิต ที่ตั้งอยู่บริเวณซอย สีลม 12 ใกล้ กับโครงแรม Pullman G และห่างจาก รถไฟฟ้า BTS สถานี ช่องนนทรี 400 เมตร โดยประมาณ โครงการถูกออกแบบมาอย่างเอ็กคลูซีฟโดยจัดแบบห้องให้มีเพียงแค่ประเภท 1 ห้องนอน 31 – 48 ตารางเมตร และ 2 ห้องนอน 71 – 86 ตารางเมตรเท่านั้น ดีไซน์ตัวอาคารในรูปแบบ New Sculpture Building ประกอบกับการออกแบบที่เป็นเอกลักษณ์รูปแบบ interlocking มาพร้อมด้วยความสูงเพดาน 3.6 เมตร สำหรับห้องประเภท 2 ห้องนอนขนาดพิเศษ ส่วนห้องอื่นๆ จะมีความสูงเพดานที่ 3.2 เมตร มาพร้อมงานตกแต่งและบิ้วท์อินระดับ Top Quality ที่พิเศษสุดสำหรับโครงการนี้โดยเฉพาะ
อีกทั้งทางโครงการมีคอนเซ็ตป์ที่มาพร้อมกับบริการเสมือนได้เข้าพักกับโรงแรมระดับ 5 ดาว ประกอบไปด้วยบริการรับ-ส่งไปยังรถไฟฟ้า BTS สถานีช่องนนทรี, บริการพ่อบ้าน (Butler), ฝ่ายต้อนรับพร้อมบริการ 24 ช.ม., บริการสปา, บริการซ่อมบำรุง และพนักงานรับรถ ซึ่งบริการทั้งหมดนี้เป็นโปรแกรมในเรื่องการบริการเบื้องต้นที่ถูกออกแบบมาเพื่อลูกค้าของ แอชตัน สีลม โดยเฉพาะ อีกทั้งมีพื้นที่ส่วนกลางของโครงการที่มาพร้อมกับสิ่งอำนวยความสะดวกครบครับเพื่อตองสนองไลฟ์สไตล์ของคนรุ่นใหม่ที่มองหาการใช้ชีวิตที่สะดวกสบายในทำเลใจกลางเมือง
สิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ ภายในโครงการโดยเริ่มจาก Ground floor ที่มีทั้ง Lobby Lounge, Garden, Sunken Seating ซึ่งเปรียบเสมือนพื้นที่รับรองส่วนกลางให้กับแขกผู้มาเยือน
พื้นที่ไลฟ์สไตล์ อยู่บนชั้น 34 – 35 ประกอบไปด้วย Swimming Pool, Kid’s Pool, Jacuzzi, Fitness, Private Fitness, Steam Room, Sauna Room, Massage Room, Library, Cinema Room, Business Lounge, Sky Deck View 360 ตอบโจทย์ในทุกไลฟ์สไตล์ของผู้อยู่อาศัย
ส่วนชั้นบนสุด ชั้น 48 จัดให้เป็นพื้นที่พักผ่อนที่ประกอบไปด้วย Social Club & Wine Bar, Outdoor Lounge with Gardenและ Rooftop deck ที่คุณสามารถตื่นตากับวิวเมืองในแบบพาโนราม่า
พ.ศ. 2404 ได้มีการตัด ”ถนนขวาง” เพื่อเอาไว้ใช้ขี่ม้าไปไหนมาไหนและมีบ้านพักตากอากาศของขุนนางชั้นสูง และชาวต่างชาติ ต่อมาเมื่อมีชาวต่างชาติมาตั้งโรงสีลมขึ้นที่นี่ จึงพากันเรียกถนนสายนี้ว่า “Wind Mill Road” หรือ “ถนนสีลม” นั่นเอง
พ.ศ. 2430 มีการตัดถนนขนานกับถนนสีลมถึง 3 สาย ได้แก่ ถนนสาทร, ถนนสุรวงศ์ และถนนสี่พระยา
พ.ศ. 2436 มีการให้สัมปทานชาวต่างชาติเดินรถราง โดยมีรถรางทั้งหมด 7 สาย ซึ่งวิ่งไปยัง บางคอแหลม, สามเสน, ดุสิต, บางซื่อ, หัวลำโพง, ปทุมวัน และ สีลม
พ.ศ. 2490 เริ่มมีการสร้างตึกแถวและอาคารพาณิชย์สูง 3-5 ชั้น บริเวณบางรัก และศาลาแดง
พ.ศ. 2506 มีมติให้รื้อรางรถรางและถมคลองสีลมเพื่อเพิ่มพื้นผิวการจราจร
พ.ศ. 2509 มีการรื้อถอนบ้านศาลาแดง เพื่อก่อสร้างโรงแรมดุสิตธานี
พ.ศ. 2513 โรงแรมดุสิตธานี เปิดให้บริการ ซึ่งเป็นอาคารที่สูงที่สุดในประเทศไทยสมัยนั้น
พ.ศ. 2525 เริ่มมีธนาคารพาณิชย์ทั้งของไทย และต่างประเทศ บริษัทเงินทุนหลักทรัพย์ บริษัทเงินทุนหลักทรัพย์ รวมทั้งบริษัทประกันภัยต่างๆ ตั้งสำนักงานอยู่บนถนนสีลมเป็นจำนวนมาก
พ.ศ. 2527 มีการนำสายไฟฟ้าของอาคารต่างๆ ไว้ใต้ดินแทนการใช้เสาไฟฟ้า ทำให้สีลมเป็นถนนตัวอย่างในการเปลี่ยนแปลงด้านระบบสาธารณูปโภค
พ.ศ. 2528 – 2533 เริ่มมีการสร้างตึกสูง 20-30 ชั้น เช่น อาคารสีลมเซ็นเตอร์, อาคารไอทีเอฟสีลมพาเลซ, อาคารธนิยะพลาซ่า, อาคารซีพีทาวเวอร์, อาคารตรินิตี้คอมเพล็กซ์ เป็นต้น
พ.ศ. 2535 บ้านเรือนและอาคารแนวราบหลายแห่ง ถูกรื้อถอนเพื่อสร้างตึก
พ.ศ. 2542 รถไฟฟ้าสายแรกของของประเทศไทยเปิดใช้บริการ ส่งผลให้การเดินทางในกรุงเทพสะดวกสบายมากยิ่งขึ้น
รู้หรือเปล่าว่าย่าน “สีลม” ที่เราเรียกกันนั้นเริ่มต้นปักหมุดตั้งแต่ ถนนเจริญกรุง (แยกบางรัก) เลยไปทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือ ตัดกับ ถนนมเหสักข์-ถนนสุรศักดิ์ (แยกสุรศักดิ์) ยาวไปถึงถนนประมวญ (แยกประมวญ) ถนนเดโช (แยกเดโช) ถนนนราธิวาสราชนครินทร์ (แยกสีลม-นราธิวาส) รวมถึงถนนคอนแวนต์ (แยกคอนแวนต์) และไปสิ้นสุดที่ ถนนพระราม 4 (แยกศาลาแดง) มีความยาวประมาณ 2.78 กิโลเมตรและทั้งหมดนี้คือย่าน “สีลม” นั้นเอง
จากการประกาศราคาประเมินที่ดินรอบใหม่ของกรมธนารักษ์ ที่จะเริ่มมีผลบังคับใช้ตั้งแต่ 1 ม.ค.59 – 31 ธ.ค.62 นั้น เมื่อพิจารณาลงในรายละเอียดจะพบว่าราคาประเมิน โดยเฉพาะส่วนใกล้บริเวณสถานีรถไฟฟ้าจะมีการปรับเพิ่มสูงสุด 100-150% และต่ำสุด 25-50% โดยราคาประเมินเฉลี่ยทั้งประเทศจะปรับเพิ่มขึ้นประมาณ 15% ส่วนทำเลมีราคาสูงสุดยังคงเป็นสีลม กับราคาประเมินอยู่ที่ตารางวาละ 1 ล้านบาท จากเดิม (การประเมินราคารรอบปี 55-58) จะอยู่ที่ตารางวาละ 850,000 บาท หรือเพิ่มขึ้น 17.65% แต่ในราคาที่ซื้อขายกันจริงๆ ในช่วงต้นปี 2558 กลับอยู่ที่ประมาณ 1 ล้านบาท/ ตารางวา ซึ่งเท่ากับราคาประเมินในรอบใหม่ (ปี 59 -62) และในช่วงไตรมาสสุดท้ยของปี 2558 นี้ ราคาขายจริงของที่ดินย่านลีลมก็ขยับขึ้นไปอีกเกือบ 20% เพื่อรองรับการประเมินรอบใหม่ที่กำลังจะเกิดขึ้นในปี 2559 นี้
เชื่อว่าเมื่อถึงต้นปีหน้าราคาซื้อขายจริงของทำเลย่านสีลมมีโอกาสแตะ 1.2 ล้านบาท/ ตารางวา ประกอบกับปัจจัยเสริมที่จะทำให้ราคาที่ดินพื้นที่สีลมถีบตัวขึ้นอีก คือความยากในการที่จะหาพื้นที่ขนาดพอเหมาะเพื่อมาพัฒนาโครงการขนาดใหญ่ใหม่ๆ เนื่องจากที่ดินในสีลมส่วนใหญ่เป็นพื้นที่ของสำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ และกว่า 15 ปีมาแล้วหลังจากอาคารสเตท ทาวเวอร์ (Sirocco) เปิดใช้งาน ถนนสีลมก็ไม่มีตึกสูงใหม่ขึ้นเลย ซึ่งถือเป็นการตอกย้ำความเป็นทำเลทองของสีลม ถึงแม้จะมีโครงการตึกสูงอย่าง “มหานคร” เกิดขึ้น แต่ก็ไม่ได้ถือว่าตั้งอยู่บนสีลมจริงๆ เพราะอยู่บนถนนนราธิวาส หรือถ้าจะมีจริงๆ ราคาน่าจะสูงไปแตะที่ตารางวาละ 1.5 ล้านบาทเอาได้ง่ายๆ เพราะสีลมยังคงเป็นศูนย์กลางทางธุรกิจที่สำคัญของกรุงเทพฯ เปรียบได้กับย่านวอลล์สตรีทของมหานครนิวยอร์ก ที่ไม่เคยหลับใหล และที่สำคัญ บรรยากาศสีลมช่วงกลางวันและยามค่ำคืนถือว่าแตกต่างกันค่อนข้างมาก เพราะในช่วงกลางวันสีลมคือย่านธุรกิจที่ขึงขัง แต่พอตกค่ำ ย่านเดียวกันนี้กลับกลายเป็นแหล่งรวมสีสัน ความบันเทิงในยามค่ำคืนที่นักท่องเที่ยวจากทั่วทุกมุมโลกพากันมาเยี่ยมเยือน
คงปฏิเสธไม่ได้ว่าจุดเด่นของโครงการนี้คือเรื่องของทำเลที่ตั้งของโครงการ เนื่องจากสีลมเป็นถนนสายสำคัญเส้นหลักที่เชื่อมต่อไปยังถนนสายอื่น และเป็นศูนย์กลางทางธุรกิจที่สำคัญของประเทศไทย ที่เป็นแหล่งรวมสำนักงานใหญ่ของสถาบันการเงินระดับประเทศ เช่น ธนาคารกรุงเทพ, HSBC, ธนาคารสแตนดาร์ดชาร์เตอร์ด, แบงค์ออฟไชน่า, อาคารสำนักงานขนาดใหญ่ เช่น ซีพี ทาวเวอร์, ยูไนเต็ด เซ็นเตอร์, โรงแรมห้าดาว, โรงพยาบาลชั้นนำ อย่างโรงพยาบาลกรุงเทพคริสเตียน นอกจากนั้นยังมีศูนย์การค้าอย่าง สีลมคอมเพล็กซ์ รวมถึงวัดแขก ศาสนาสถานที่ทุกคนต่างรู้จักกันดี รวมไปถึงพื้นที่ Night Life อย่างซอยถนนพัฒน์พงศ์ ที่ชาวต่างชาติต่างรู้จักกันดี หรือจะเป็นบริเวณซอยธนิยะ ซึ่งเป็นโซนยอดนิยมของชาวญี่ปุ่น ถึงแม้ว่าจะมีย่าน CBD อื่นๆ แต่สีลมก็ยังคงเป็นเบอร์หนึ่งอยู่ดี
โดยโครงการแอชตัน สีลมนั้นตั้งอยู่บริเวณซอยสีลม 12 ติดริมถนน บนเนื้อที่ประมาณ 1.8 ไร่ ซึ่งใกล้กับโรงแรมพูลแมน กรุงเทพ จี และห่างจากรถไฟฟ้า BTS สถานีช่องนนทรีประมาณ 400 เมตร ห่างจากแยกสีลม-นราธิวาส และแยกเดโช 100 เมตร
ทิศเหนือของทางโครงการจะหันไปทางตึก “M Silom”
ทิศใต้ของโครงจะอยู่ตรงช้ามกับโครงการ มหานคร
ทิศตะวันออกหันไปทางตึก ไอทีเอฟ
ทิศตะวันตกเป็นโรงแรมพูลแมน กรุงเทพ จี
ทั้งหมดนี้ทำให้เห็นว่ารอบโครงการมีหลากหลายกิจกรรมเกิดขึ้นบนพื้นที่แห่งนี้ ประกอบกับความสะดวกสบายในการเดินทางที่สามารถเชื่อต่อไปยังถนนสายสำคัญทั่วกรุงเทพฯ รวมไปถึงเส้นทางรถไฟฟ้า BTS และรถไฟใต้ดิน MRT ยิ่งเป็นการตอกย้ำว่าพื้นที่แห่งนี้ยังคงเป็นทำเลทองที่ไม่สามารถหาได้ที่ไหนอีก
รถยนต์ส่วนตัว
เส้นทางที่ 1 จากถนน สีลม (BTS ศาลาแดง) มุ่งหน้าทางตะวันตกเฉียงใต้ ไปตามถนน สีลม ตรงไปประมาณ 1 กม. จะถึง แยกสีลม-นราธิวาส ให้มุ่งหน้าข้ามแยกตรงไป 400 เมตร แล้วกลับรถที่แยกเดโช ตรงไปประมาณ 350 เมตร ที่ตั้งของโครงการจะอยู่ทางซ้ายมือ (สีลมซอย 12)
เส้นทางที่ 2 จากถนน นราธิวาส ราชนครินทร์ มุ่งหน้าทางตะวันตกเฉียงเหนือ ไปตามถนน จะถึง แยกสีลม-นราธิวาส ให้เลี้ยวซ้าย เข้าสู่ถนน สีลม ให้มุ่งหน้าข้ามแยกตรงไป 400 เมตร แล้วกลับรถที่แยกเดโช ตรงไปประมาณ 350 เมตร ที่ตั้งของโครงการจะอยู่ทางซ้ายมือ (สีลมซอย 12)
เส้นทางที่ 3 จากถนน เจริญกรุง มุ่งหน้าทางตะวันออกเฉียงเหนือ เข้าสู่เส้นสีลม ตรงไป 1.2 กม. ที่ตั้งของโครงการจะอยู่ทางซ้ายมือ (สีลมซอย 12)
เส้นทางที่ 4 จากถนน สุรวงศ์ มุ่งหน้าทางตะวันตก ไปตามถนน สุรวงศ์ เข้าสู่ซอย อนุมานราชธน ตรงไปอีก 220 เมตร เลี้ยวซ้าย เข้าสู่ ถนน เดโช วิ่งตรงไป 280 เมตร ให้เลี้ยวซ้าย เข้าสู่ ถนน สีลม ตรงไปอีก 170 เมตร ที่ตั้งของโครงการจะอยู่ทางซ้ายมือ (สีลมซอย 12)
ระบบรถไฟฟ้า
จากรถไฟฟ้าสถานี BTS ช่องนนทรี ออกทางออกที่ 3 โครงการอยู่ห่างจากจากสถานีรถไฟฟ้า ประมาณ 400 เมตร
หากพูดกันตรงๆ เรื่องจุดเด่น จุดแข็ง จุดขาย ที่ทำให้แอชตัน สีลม มีความน่าสนใจคงหนีไม่พ้นเรื่องของทำเลที่ตั้งของโครงการที่ตั้งอยู่ติดกับถนนสีลมจริงๆ และถือเป็นโครงการตึกสูงที่เกิดขึ้นเป็นแห่งแรกในรอบกว่า 15 ปี
ถึงแม้ว่าราคาเปิดตัวของประเภท 1 ห้องนอน ขนาด 31 ตารางเมตร ราคาขายเริ่มต้นที่ประมาณ 7.3 ล้านบาท (ราคาเปิดตัวที่ประเทศสิงคโปร์ S$ 290,000) หรือราคาเฉลี่ยต่อตารางเมตร 240,000 บาท อาจจะฟังดูสูง แต่เมื่อเทียบกับความเป็น rare item ของย่านสีลม เชื่อว่าน่าจะมีคนที่เล็งเห็นถึงศักยภาพของการเป็นโครงการบนทำเลที่ที่ดินหายากยิ่งกว่าทองในปัจจุบัน ในเชิงของมูลค่านั้น ยิ่งเวลาผ่านไป การครอบครองสินทรัพย์ในย่านที่ซัพพลายใหม่ๆ ค่อนข้างจำกัดนั้น จะทำให้มูลค่าของสิ่งที่คุณครอบครองอยู่เพิ่มขึ้นจนคุณอาจจะต้องตกใจ
สนใจ คอนโดฯ ในโครงการนี้? เลือกชม รายการประกาศ ราคาโดนใจ
พาร์ค 168 นพรัตน์ รามอินทรา (Park 168 Nopparat Ramindra) จาก บริษัท แอล.พี.เอ็น.ดีเวลลอปเมนท์ จํากัด (มหาชน) คอนโดมิเนียม High Rise 25 ชั้น 3 อาคาร ห้องชุดพักอาศัยรวม 1,224 ยูนิต อาคารจอดรถและสระว่ายน้ำ สูง 8 ชั้น 1 อาคาร แต่ละอาคารมีห้องพักอาศัยเพียงอาคารละ 408 ยูนิต มีความเป็นส่วนตัว ไม่แออัด ใกล้รถไฟฟ้าสายสีชมพู สถานีนพรัตนราชธานี ราคาเริ่มต้น 1.69 ล้านบาท
คาราเพช หัวหิน-เขาเต่า (CARAPACE Huahin-Khaotao) คอนโด Low Rise สไตล์รีสอร์ต อยู่ติดชายหาดเขาเต่า ไม่ไกลจากถนนเพชรเกษม สามารถสร้าง Passive Income จากการลงทุนที่โครงการการันตีผลตอบแทน 5% นาน 5 ปี รวมรับผลตอบแทนต่อเนื่อง 15 ปี ในราคาเริ่มต้น 3.5 ล้านบาท
ลุมพินี ทาวน์ชิป รังสิต-คลอง 1 คอนโด Low Rise 8 ชั้น 50 อาคาร อาคารที่จอดรถสูง 8 ชั้น 6 อาคาร มีจำนวนยูนิตพักอาศัยรวม 10,074 ยูนิต และร้านค้า 7 ยูนิต ตกแต่งแบบ Fully Fitted ราคาเริ่มต้นต่ำกว่า 1 ล้านบาท
