รีวิวคอนโด: ทริปเปิ้ล วาย เรสซิเด้นซ์ (Triple Y Residence)

ภาพรวมโครงการ TRIPLE Y RESIDENCE

โครงการ TRIPLE Y RESIDENCE เป็นห้องพักอาศัยสไตล์ Fully Furnished คือ ให้เฟอร์นิเจอร์มาพร้อมอยู่ คือมีทั้ง เตียง, ตู้เสื้อผ้า, ครัว และห้องน้ำ โดยใช้หลักคอนเซ็ปต์ Neo Exploring Platform เพื่อรองรับการใช้ชีวิตที่เปลี่ยนไปตามยุคสมัย ทำทุกอย่างได้ภายในห้องเดียว

ทั้งนอน พักผ่อน ทำงาน อีกทั้งยังออกแบบมาให้สามารถอยู่ได้มากกว่า 1 คน ซึ่งดูได้จากเตียงนอนขนาดใหญ่ หรือห้องขนาด 1 Bedroom ที่มีขนาดพื้นที่ 34 ตร.ม. ซึ่งถือว่าค่อนข้างกว้างเลยทีเดียว

การวางทิศทางโครงการ

โครงการนี้ใช้พื้นที่ประมาณ 14 ไร่ มีทางเข้า – ออกแยกเป็น 3 จุด ด้วยกัน คือ

ทางเข้า – ออก ฝั่งติดถนนพญาไท จะเป็นทางเข้าในโซน Residence

ทางเข้า – ออก ฝั่งติดถนนพระราม 4 เป็นทางเข้าส่วน Retail

ทางเข้า – ออก ทางฝั่งซอยจุฬา 15 จะแยกทางเข้า – ออกเพื่อเข้าสู่พื้นที่จอดรถ

Master Plan

Unit Layout

ห้องมีให้เลือก 3 แบบ ต่อไปนี้

1 ห้องนอน ประมาณ 34 ตร.ม. 459 ยูนิต

1 ห้องนอน ประมาณ 40 ตร.ม. 19 ยูนิต

2 ห้องนอน ประมาณ 68 ตร.ม. 38 ยูนิต

สิ่งอำนวยความสะดวกภายในคอนโดฯ Triple Y Residence

โครงการ TRIPLE Y RESIDENCE ตั้งอยู่ภายในพื้นที่เดียวกับ สามย่านมิตรทาวน์ (SAMYAM MITRTOWN) ที่ออกแบบมาเพื่อรองรับไลฟ์สไตล์ของคนรุ่นใหม่ แต่ยังคงไว้ซึ่งบรรยากาศแบบเดิมๆของสามย่าน ซึ่งถ้าใครมาที่นี่ คงหนีไม่พ้นที่จะช้อปปิ้ง หาของกิน อีกทั้งนิสิต นักเรียน นักศึกษาก็ให้ชีวิตอยู่แถวนี้ค่อนข้างเยอะ

จากสิ่งแวดล้อมทั้งหมดจึงกลายมาเป็นคอนเซ็ปต์ “Urban Life Library คลังแห่งอาหารและการเรียนรู้” และเมื่อปรับมาเป็นฟังก์ชั่นการใช้งาน จะสามารถแยกออกมาได้เป็น 3 อาคารหลักๆ คือ

1.อาคาร Office เกรด A สูง 31 ชั้น พื้นที่ใช้สอย 48,000 ตร.ม. คิดเป็น 30% ของพื้นที่รวมโครงการ

2.อาคารส่วน Retail สูง 6 ชั้น + ชั้นใต้ดิน 1 ชั้น พื้นที่ใช้สอย 36,000 ตร.ม. คิดเป็น 30% ของโครงการ แบ่งพื้นที่รวมๆออกเป็น 3 ส่วน คือ

– The Eating Library (43%) แหล่งรวมอาหารการกินขึ้นชื่อแถวสามย่าน โดยทางโครงการได้คัดเลือกร้านเด่นๆดังๆ เข้ามาไว้ให้เลือกสรรกันอย่างมากมายเลยทีเดียว

– The Learning Library (29%) เปิดประสบการณ์แห่งการเรียนรู้และเสริมทักษะใหม่ที่ไม่ได้มีอยู่แต่ในแค่ห้องเรียน แต่เป็นการเรียนรู้จากประสบการณ์จริงโดยตรง  

– The Living Library (28%) แหล่งรวมของใช้จำเป็นในชีวิตประจำวัน ซึ่งถือว่าใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งในกรุงเทพมหานครก็ว่าได้

3.อาคารส่วน Residence สูง 33 ชั้น แบ่งเป็นคอนโดมิเนียม 516 ยูนิต ตั้งแต่ชั้น 4 ขึ้นไปถึงชั้น 33 และโรงแรม 112 ยูนิต ตั้งแต่ชั้นแรกจนถึงชั้น 4 โดยใช้ชื่อว่า Triple Y Hotel บริหารงานโดย Golden Land ทั้งหมดจะรวมอยู่ในอาคารเดียวกัน คิดเป็น 15% ของพื้นที่

ซึ่งโซน Residence หรืออาคารที่พักอาศัย จะเชื่อมต่อกับส่วน Retail โดยตรง ดังนั้นลูกบ้านจึงสามารถเดินเข้า – ออกเพื่อไปจับจ่ายใช้สอยซื้อของได้อย่างสะดวกไม่ติดขัดตลอด 24 ชั่วโมง

เมื่อเข้ามาที่ตัวอาคาร สิ่งแรกที่เราจะเจอก็คือในส่วนของ Lobby หลัก ซึ่งจะเป็น Shared Lobby จัดเป็นโถงต้อนรับและมีพื้นที่นั่งสำหรับพักผ่อน โดยใช้ร่วมกันระหว่างลูกบ้านคอนโดและแขกของโรงแรม อีกทั้งยังมีทางเดินเชื่อมไปยังส่วน Retail ด้วย

ข้อดีสำหรับการออกแบบการต้อนรับแนวนี้คือ มีคนใช้งานตลอดเวลาทั้งกลางวันและกลางคืน รวมถึงมีพนักงานคอยดูแลตลอด ทำให้ปลอดภัยมากขึ้น แต่สำหรับใครที่กำลังกังวลเรื่องความเป็นส่วนตัว ก็ไม่ต้องห่วง เพราะทางโครงการออกแบบโถงลิฟต์ของลูกบ้านและแขกของโรงแรมแยกออกจากกัน

อีกทั้งลิฟต์ของคอนโดจะเป็น Security Door ต้องใช้คีย์การ์ดแตะและใช้ได้เฉพาะแต่กับคนที่อาศัยอยู่ในคอนโดเท่านั้น

ส่วนกลาง (Facilities)

Facilities หลักจะอยู่ที่ชั้น 33 ซึ่งสามารถเข้าได้เฉพาะลูกบ้าน ส่วนแรกจะเป็น Fitness ความพิเศษของผู้อยู่อาศัยคือนอกจากจะใช้ที่นี่ได้แล้ว ยังสามารถเดินไปใช้ฟิตเนสร่วมกันกับของโรงแรมได้อีกด้วย

ใกล้ๆกันก็จะเป็นมุม Learning Zone หรือพื้นที่สำหรับนั่งทำงาน เหมาะสำหรับคนที่เบื่อการทำงานในห้องตัวเอง ก็สามารถมาใช้ตรงนี้ได้ แต่ถ้าใครไม่มีงานทำ การได้มานั่งเล่น รับลมชมวิวอยู่บริเวณนี้ก็เพลินดีไม่น้อย

อีกหนึ่งมุมที่น่าสนใจคือ Study Zone ออกแบบมาให้เลือกนั่นได้หลายมุม หลากสไตล์ จะมาคนเดียวหรือสองคนก็นั่งได้ หรือจะมากันเป็นทีม เป็นกลุ่มก็ไม่มีปัญหา  

โซน Co – Cooking Space เป็นพื้นที่สำหรับทำครัวขนาดใหญ่ ให้ลูกบ้านได้ใช้ทำอาหาร จะทำทานเองคนเดียว หรือจะทำเลี้ยงเพื่อนในโอกาสพิเศษต่างๆ ก็ได้หายห่วง มีพื้นที่เหลือเฟือแน่นอน

แถมยังเชื่อมติดกับส่วนของมุมนั่งรับประทานอาหาร ที่มีโต๊ะเก้าอี้รองรับไว้หลายชุด คือเมื่อเราทำอาหารเสร็จ ขี้เกียจเดินกลับห้อง ก็สามารถนั่งทานกันในพื้นที่ส่วนนี้ได้เลย

อีก 1 จุดเด่นที่รู้สึกว่าไม่ค่อยได้เห็นในโครงการคอนโดมิเนียมที่ไหน ก็คือ Laundry หรือห้องซักผ้า ซึ่งโครงการนี้จะแยกออกมาไว้ในพื้นที่ที่สามารถใช้งานได้สะดวก ตกแต่งสวยงาม

อีกทั้งยังเชื่อมต่อกับส่วนกลางอื่นๆ เผื่อว่าระหว่างรอซักผ้า ลูกบ้านก็สามารถฆ่าเวลาด้วยการเดินออกกำลังกายหรือนั่งชมวิวเพลินๆ ก็แก้เบื่อได้ไม่น้อย

และสุดท้ายของส่วนกลาง จะเป็น Outdoor Pavilion และสระว่ายน้ำ Infinity Edge Pool

รีวิวภายในห้องตัวอย่าง

โครงการคอนโดมิเนียม TRIPLE Y RESIDENCE มีห้องให้เลือกทั้งหมด 3 แบบ โดยสิ่งที่จะได้รับจากโครงการ มีดังต่อไปนี้

• เฟอร์นิเจอร์ Built – in เช่น ตู้รองเท้า เคาน์เตอร์ครัว ตู้เสื้อผ้า เป็นต้น
• ประตูบานเลื่อนกั้นภายในห้อง
• ชั้นวางของ
• เครื่องปรับอากาศ แบรนด์ DAIKIN
• สุขภัณฑ์ในห้องน้ำ
• ชุดเก้าอี้ โซฟา และอื่น ๆ

แปลนอาคารชั้น 11-12 เริ่มเป็นส่วนของที่พักอาศัย โดยฝั่งซ้ายสีส้มจะมี Security Door ให้ลูกบ้านของคอนโดสามารถเข้าออกได้เท่านั้น ส่วนทางฝั่งขวามือจะเป็นส่วนกลางของโรงแรม ซึ่งลูกบ้านก็สามารถใช้งานได้เหมือนกัน

แปลนนี้จะเป็นส่วนของที่พักอาศัยตั้งแต่ชั้น 14 – 32 โดยเหมือนกันทั้งหมด ในแต่ละชั้นก็จะมีห้องทุกแบบผสมกันไป ทั้ง 1 Bedroom, 1 Bedroom Plus และ 2 Bedroom โดยห้อง 1 Bedroom จะมีจำนวนยูนิตอยู่ที่ 23 ห้อง รองลงมาเป็นห้อง 2 Bedroom 2 ห้อง และห้อง 1 Bedroom Plus 1 ห้อง

สำหรับวันนี้จะพาไปชมห้องตัวอย่างขนาด 1 ห้องนอน ประมาณ 34 ตร.ม.

ประตูห้องทั้งหมดในโครงการ จะติดตั้งด้วยระบบ Digital Door Lock 4 ชั้น คือสามารถเปิดได้ทั้งการแตะคีย์การ์ด สแกรนนิ้ว ตั้งรหัสผ่านและไขกุญแจ

เมื่อเปิดประตูเข้าไปก็จะพบกับทางเดินเป็นแนวยาว เชื่อมต่อกับส่วนต่างๆภายในห้องทั้งหมด ซึ่งความกว้างก็ถือว่า พอสมควรเลยทีเดียว สามารถเดินสวนกันได้ 2 คนไม่อึดอัด

ก้าวเข้าประตูมองมาทางขวา ก็จะเป็นส่วนของครัวเล็กๆ ที่พอให้ใช้งานได้แค่ชงกาแฟหรืออุ่นอาหารจากเตาไมโครเวฟเป็นหลัก ไม่เหมาะกับการทำกับข้าวจริงจัง แต่ถ้าอยากทำแนะนำให้ขึ้นไปชั้น 33 ตรงส่วนของ Co – Cooking Space จะดีกว่า

อีกหนึ่งจุดตรงนี้ที่เราชอบมากคือ ตู้ Built – in แนวตั้งข้างตู้เย็น ซึ่งดูดีและถือเป็นการออกแบบเฟอร์นิเจอร์ได้เหมาะกับพื้นที่ใช้สอยที่มีอยู่อย่างจำกัดมากเลยทีเดียว

ก้าวเท้ามาครึ่งก้าวทางซ้ายมือ จะเป็นส่วนของห้องน้ำ ที่ออกแบบสไตล์ 2-at-a-Time แยกห้องน้ำและห้องอาบน้ำออกจากกันอย่างชัดเจน คือ คนนึงเข้ามาอาบน้ำและอีกคนก็สามารถเข้ามาแปรงฟันได้พร้อม ๆ กัน ทำให้ช่วยประหยัดเวลาในชั่วโมงเร่งด่วน

ส่วนอุปกรณ์ที่ใช้ ก็จะยึดที่ทนต่อความชื้น ไม่บวมเวลาโดนน้ำ สวยงาม เช่น ประตูจากกระจกขุ่น ธรณีจากหินอ่อน หรือฝ้าที่ทำมาจากยิปซัมเซาะร่อง เป็นต้น

ตรงมาอีก 1 ก้าว ถัดจากห้องน้ำ ก็จะเป็นห้องนอนขนาดกำลังพอดี ไม่อึดอัด มาพร้อมเตียงขนาด 3.5 ฟุต 2 เตียงแยกออกจากกัน แต่ถ้าอยากนอนเตียงที่มีขนาดใหญ่ขึ้น ก็สามารถนำมาประกบกันได้

มองไปที่ปลายเท้าก็จะเจอตู้เสื้อผ้าขนาดใหญ่มากเช่นกัน ภายในตู้จะแบ่งออกเป็น 3 ส่วน ซึ่งใหญ่พอที่จะใส่เสื้อผ้าของผู้อยู่อาศัยได้ถึง 3 คนเลยทีเดียว

กระเบื้องยางที่ปูพื้นในห้องนอนโครงการตกแต่งออกมาได้ค่อนข้างดีมาก คือ นอกจากมีลวดลายที่สวยงามแล้ว ยังทำความสะอาดง่าย กันน้ำ หากใช้งานจนเก่าก็สามารถถอดออกแล้วเปลี่ยนเป็นอันใหม่ได้ด้วยตัวเองเลย  นอกจากนั้นก็จะมีไฟซ่อนตามจุดต่างๆที่ไม่เยอะและไม่น้อยเกินไป สว่างสบายตา

เปิดกระจกกั้นห้องนอนเข้ามาด้านใน ก็จะเจอส่วนของ Day-Bed โดยจะแบ่งพื้นที่ทำงานและพักผ่อนอย่างละครึ่งอย่างลงตัว อีกทั้งยังมีบริเวณโซฟาอยู่ติดกระจก สามารถนอนมองวิวสวย ๆ เพลิน ๆ จากภายนอกได้

แถมยังดีไซน์เอียง เพื่อให้ผู้อยู่อาศัยสามารถ Take View ในมุมที่ไม่ชนกับตึก Office Building ของตัวโครงการ จากแนวคิดการออกแบบ ดูเหมาะกับการใช้ชีวิตแบบ 2 คนเป็นหลัก

สุดท้ายระเบียงมีขนาดไม่ใหญ่มาก ไม่เหมาะแก่การทำกิจกรรมใดๆนอกจากรับลมชมวิว แต่ถ้าตากผ้าก็ยังได้อยู่ ปูพื้นด้วยกระเบื้องยางสีเทาเข้ม ทำมุมดีไซน์เอียงเหมือน Day-Bed

ข้อมูลสำหรับคนที่กำลังคิดจะซื้อบ้าน คอนโดฯ ครั้งแรก

หากใครกำลังมองหาบ้าน คอนโดฯ ครั้งแรก แต่ไม่รู้จะเริ่มต้นจากตรงไหน ควรศึกษาอะไรก่อน DDproperty พร้อมให้คำแนะนำและวิธีในการเลือกบ้าน คอนโดฯ หลังแรก