สนใจ คอนโดฯ ในโครงการนี้? เลือกชม รายการประกาศ ราคาโดนใจ
หากเอ่ยถึงทำเลฮอตอันดับต้นๆ ของปีนี้ คงต้องยกให้ย่าน“พร้อมพงษ์” เพราะนอกจากศูนย์การค้าเอ็มโพเรี่ยม 1 ที่ปรับโฉมใหม่แล้ว รวมถึง ศูนย์การค้าดิ เอ็มควอเทียร์ หรือเอ็มโพเรี่ยม 2 ก็เร่งก่อสร้าง เพื่อเปิดให้บริการภายในปีนี้ ยังมีโครงการคอนโดมิเนียมหรูใหม่ๆ ที่จ่อคิวเปิดตัวไม่น้อยกว่า 4 โครงการ ซึ่งแน่นอนว่า แต่ละโครงการต้องมีระดับราคาขายเฉลี่ยไม่ต่ำกว่า 250,000 บาท/ตร.ม.อย่างแน่นอน
ปัจจัยที่ทำให้ทำเลย่านพร้อมพงษ์ กลายเป็นทำเลสุดฮอตในปีนี้ได้ เป็นเพราะโครงการ “ดิ เอ็ม ดิสทริค” (The Em District) ของเดอะมอลล์กรุ๊ปที่พลิกโฉมทำเลย่านนี้ให้กลายเป็นแหล่งช้อปปิ้งแห่งใหม่ที่มีเป้าหมายจะดึงทั้งคนไทยและต่างชาติ โดยโครงการดิ เอ็ม ดิสทริค ประกอบด้วยศูนย์การค้า “ดิ เอ็มโพเรี่ยม” ซึ่งปัจจุบันเปิดให้บริการและมีการปรับโฉมครั้งใหญ่แล้ว, โครงการดิ เอ็มควอเทียร์ (อยู่ฝั่งตรงข้ามดิ เอ็มโพเรี่ยม) คาดว่าจะเปิดให้บริการภายในปี 2558 นี้ และดิ เอ็มสเฟียร์ (อยู่ด้านข้างดิ เอ็มโพเรี่ยม ถัดจากสวนเบญจสิริ) คาดว่าจะเปิดให้บริการประมาณปี 2559 อีกทั้งยังร่วมกับกรุงเทพมหานครและรถไฟฟ้า BTS ขยายสกายวอล์คบริเวณสถานีพร้อมพงษ์ใหม่ให้มีกว้างมากขึ้น ซึ่งนอกจากจะเพิ่มความสะดวกให้กับผู้ใช้บริการรถไฟฟ้าแล้ว ยังเชื่อมต่อระหว่างทั้ง 3 ศูนย์การค้านี้ด้วย
ในปัจจุบันศูนย์การค้า หรือไลฟ์สไตล์มอลล์ที่ได้รับความนิยมมีผลให้ความต้องการที่อยู่อาศัยย่านนั้นสูงขึ้น ซึ่งแตกต่างจากในอดีตที่ผู้บริโภคมองเรื่องระบบคมนาคมที่สะดวกเป็นหลัก แต่ปัจจุบันทำเลในเมืองมีความสะดวกเรื่องการเดินทางด้วยรถไฟฟ้าอยู่แล้ว ทำให้ผู้บริโภคมองถึงองค์ประกอบอื่นๆ ในการอยู่อาศัย เป็นผลให้ผู้ประกอบการที่พัฒนาโครงการคอนโดมิเนียมองว่าโครงการดิ เอ็ม ดิสทริคจะทำให้อนาคตของทำเลพร้อมพงษ์เปลี่ยนโฉมหน้าไป มีความพรีเมี่ยมมากขึ้น และก้าวขึ้นแท่นหนึ่งในทำเลศูนย์กลางแห่งการช้อปปิ้ง และทำเลย่านที่อยู่อาศัยชั้นดี
เดอะมอลล์กรุ๊ปประกาศแผนลงทุนโครงการ ดิ เอ็ม ดิสทริค ตั้งแต่ปลายปี 2555 ซึ่งหากประเมินความสำเร็จจากโครงการดิเอ็มโพเรี่ยม 1 ในปัจจุบัน ซึ่งเป็นที่นิยมของทั้งชาวไทย และต่างชาติ โดยเฉพาะชาวญี่ปุ่น ทำให้ผู้ประกอบการคอนโดมิเนียมมองว่า ทำเลนี้จะมีความต้องการที่อยู่อาศัยระดับพรีเมี่ยมมากยิ่งขึ้น จึงเป็นผลให้ตั้งแต่ปี 2556 มีการทยอยซื้อที่ดินบริเวณนี้ และเปิดตัวโครงการคอนโดมิเนียมหรูอย่างต่อเนื่อง
ตัวอย่างเช่น เดอะ เทอร์ทีไนน์ สุขุมวิท 39 ของแสนสิริ (เปิดตัวเมื่อปี 2555 ราคาเริ่มต้นประมาณ 200,000 บาท/ ตร.ม. ปิดการขายแล้ว อยู่ระหว่างก่อสร้าง) โครงการมาร์ค สุขุมวิท 39 ของเมเจอร์ ดีเวลลอปเม้นท์ (เปิดตัวปี 2556 ราคาเริ่มต้นประมาณ 280,000 บาท/ ตร.ม. ยังมีห้องชุดเหลือขาย อยู่ระหว่างก่อสร้าง) โครงการแกลอรี ฮรู เดอร์ 39 ของเอพี (เปิดตัวปี 2556 ราคาเริ่มต้นประมาณ 280,000 บาท/ ตร.ม. อยู่ระหว่างก่อสร้าง และจะนำมาขายใหม่ตอนตึกสร้างเสร็จ ) โครงการพาร์ค 24 ของพราว เรียลเอสเตท (เปิดตัวปลายปี 2556 ราคาเริ่มต้นประมาณ 145,000 บาท/ ตร.ม. เฟส 1 ขายหมดแล้ว อยู่ระหว่างก่อสร้าง)
ล่าสุด เคพีเอ็น (KPN) ก็พร้อมอวดโฉม “เดอะ ดิโพลแมท 39” (The Diplomat 39) หลังจากได้ที่ดินแปลงนี้มาตั้งแต่ปลายปีที่แล้ว โดยมีราคาขายเฉลี่ย ณ วันเปิดตัว ก.พ. 2558 อยู่ที่ 280,000 บาท/ตร.ม. ส่วนหลังจากนี้ ในบริเวณใกล้สถานนีพร้อมพงษ์ คาดว่าจะมีคอนโดมิเนียมหรูเปิดใหม่อีกประมาณ 2 โครงการในซอยสุขุมวิท 39 ของอนันดา ดีเวลลอปเม้นท์ และ เฟรเกรนท์ พร็อพเพอร์ตี้ ขยับไปใกล้ๆ ในซอยสุขุมวิท 33 คาดว่าจะมีคอนโดมิเนียมใหม่ของโนเบิล ส่วนฝั่งเลขคู่ โครงการพาร์ค 24 เฟส 2 ของพราว เรียล เอสเตท และในซอยสุขุมวิท 32 ที่ปัจจุบัน คือโรงแรมเร็กซ์ (Rex Hotel) คาดว่าจะกลายเป็นคอนโดมิเนียมหรูของเอสซี แอสเสทในเร็วๆ นี้
เจาะลึกข้อมูลโครงการ (ข้อมูล ณ 4 กุมภาพันธ์ 2558)
• ชื่อโครงการ: เดอะ ดิโพลแมท 39 (The Diplomat 39)
• ผู้พัฒนาโครงการ: บริษัท เคพีเอ็น กรุ๊ป คอร์ปอเรชั่น จำกัด
• ทำเลที่ตั้ง: สุขุมวิท 39 ห่างจากรถไฟฟ้า BTS พร้อมพงษ์ ประมาณ 100 เมตร
• รายละเอียดโครงการ:
พื้นที่โครงการรวมประมาณ 3 งาน 30 ตารางวา (730 ตารางวา)
อาคารความสูง 31 ชั้น จำนวน 1 อาคาร รวมห้องชุดทั้งหมด 156 ยูนิต
ที่จอดรถ ชั้น 1 – 6 (ประมาณ 160 คัน)
ตั้งแต่ชั้น 25 – 30 ห้องพักเพดานสูง 3.5 เมตร
สิ่งอำนวยความสะดวก ชั้น 7 และ ชั้น 31
ลิฟท์โดยสาร จำนวน 4 ตัว
ระบบคีย์การ์ด: ล็อกชั้น
ระบบรักษาความปลอดภัย Access Card และ CCTV
• สถานะการก่อสร้าง: ยังไม่ได้เริ่มก่อสร้าง (คาดว่าจะเริ่มก่อสร้างประมาณเดือนมิถุนายน 2558)
• กำหนดแล้วเสร็จ: ประมาณมิถุนายน 2562
• เงินกองทุนสะสม (Sinking fund): 900 บาท/ ตร.ม.
• ค่าส่วนกลาง: 90 บาท/ ตร.ม. / เดือน
• ราคา: 15 – 185 ล้านบาท
• ราคาขายเฉลี่ย: 280,000 บาท/ตร.ม.
• รูปแบบห้องชุด มีด้วยกัน 5 แบบ
1 ห้องนอน [54 – 60 ตร.ม.]
2 ห้องนอน [74 – 94 ตร.ม.]
3 ห้องนอน [134 – 193 ตร.ม.]
ดูเพล็กซ์ [157 ตร.ม. และ 168 ตร.ม.]
เพนท์เฮ้าส์ [135 – 450 ตร.ม.]
รีวิวภาพรวมโครงการ
• สิ่งอำนวยความสะดวกภายในโครงการ
ชั้น Ground: ล็อบบี้แปดเหลี่ยม, Waiting Lounge, Business Center, The Salon สามารถใช้เป็นพื้นที่รับรองแขกผู้มาเยือนหรือปรับเปลี่ยนเป็นห้องจัดเลี้ยง
ชั้น 7: The Club ที่มีความสูงของเพดาน 5.5 เมตร เป็นพื้นที่ส่วนกลางสำหรับผู้ที่ต้องการมุมสงบส่วนตัวเพื่ออ่านหนังสือ หรือชมวิวบน Deck ของสระว่ายน้ำ โดยสระว่ายน้ำมีขนาดความกว้าง 8 เมตร พร้อมพื้นที่สีเขียว และห้องออกกำลังกาย
ชั้น 31: สวนพักผ่อน Rooftop Garden
รีวิวภายในห้องชุด
เฟอร์นิเจอร์: Fully Fitted เป็นเฟอร์นิเจอร์บิวท์อินครบทุกมุม เช่น ตู้เก็บรองเท้า ตู้เสื้อผ้า โต๊ะเครื่องแป้ง ตู้วางทีวี ส่วนบางห้องยังจัดเตรียมพื้นที่สำหรับตู้เก็บของอเนกประสงค์ ห้องซักรีด มุมแม่บ้าน และสระว่ายน้ำส่วนตัว
เพดาน: ห้องพักส่วนใหญ่ เพดานสูง 3 เมตร ส่วนชั้นที่ 25 – 30 ห้องพักเพดานสูง 3.5 เมตร
สำหรับบรรยากาศจำลองห้องชุดในสำนักงานขาย 1 ห้องนอน [54 – 60 ตร.ม.]
เริ่มด้วย :
• ประตู: ไม้ และตัวจับแบบก้าน พร้อมระบบ digital door lock ของ Yale
• ห้องน้ำ: ห้องชุดตัวอย่าง เปิดประตูเข้ามา ฝั่งซ้ายมือจะเป็นห้องน้ำ ซึ่งได้อุปกรณ์ครบชุด แยกพื้นที่ส่วนแห้ง และส่วนเปียก โดยพื้นที่ส่วนแห้ง จะมีอ่างล้างหน้า พร้อมตู้อเนกประสงค์ด้านล่าง และกระจก มีสุขภัณฑ์พร้อมอุปกรณ์ มีอ่างอาบน้ำ อยู่บริเวณในสุดของพื้นที่ส่วนแห้ง (เพราะย่านนี้คนญี่ปุ่นนิยมอาศัย โครงการจึงออกแบบให้มีอ่างอาบน้ำ เพื่อตอบสนองความต้องการทั้งคนญี่ปุ่นที่สนใจซื้อเอง และคนไทยที่สนใจซื้อลงทุนเพื่อปล่อยเช่า) ด้านข้างจะเป็นพื้นที่ส่วนเปียก ที่กั้นด้วยตู้กระจกอาบน้ำนิรภัย มีอุปกรณ์ครบชุดเช่นกัน เช่น ชุดฝักบัว บวกด้วยเรน ชาวเวอร์ วางระบบน้ำร้อน น้ำเย็น
• ห้องครัว: ได้ครบชุด ประกอบด้วย เคาน์เตอร์ครัวพร้อมตู้ลอย อ่างล้างจาน และก๊อก เตาไฟฟ้า เครื่องดูดควัน (ไม่รวมเครื่องซักผ้า และเตาไมโครเวฟ แต่วางระบบไว้ให้วางเครื่องซักผ้า และตู้เย็น)
• ห้องนั่งเล่น: ห้องจริง เป็นห้องโล่ง แต่มีตู้วางทีวีให้
• ระเบียง: ประตูกระจกบานเลื่อน ติดฝั่งห้องนั่งเล่น แบ่งพื้นที่วางคอมเพรสเซอร์แอร์ มีประตูปิดเป็นที่จับแบบก้านขึ้น-ลง
• ห้องนอน: ห้องจริง เป็นห้องโล่ง แต่มีตู้เสื้อผ้าบิลท์อิน และตู้วางทีวี
สำหรับบรรยากาศจำลองที่ สำนักงานขาย ห้องชุด 2 ห้องนอน [74 – 94 ตร.ม.] ฟังก์ชั่นห้องจะคล้ายกับ 1 ห้องนอน แต่จะมีห้องนอน 2 ห้อง และห้องน้ำ 2 ห้อง อีกทั้ง ยังมีความพิเศษในบางพื้นที่ เช่น พื้นที่ที่เป็นมุมห้องจะบิวท์อินให้เป็นตู้อเนกประสงค์
เริ่มด้วย :
• ประตู: ไม้ และตัวจับแบบก้าน พร้อมระบบ Digital Door lock ของ Yale
• ห้องนั่งเล่น: ห้องจริง เป็นห้องโล่ง แต่มีตู้วางทีวีให้
• ห้องครัว: ได้ครบชุด ประกอบด้วย เคาน์เตอร์ครัวพร้อมตู้ลอย, อ่างล้างจาน พร้อมก๊อก เตาไฟฟ้า เครื่องดูดควัน รวมถึง พื้นที่ตู้เก็บของอเนกประสงค์ (ไม่รวมเครื่องซักผ้า และเตาอบ แต่วางระบบไว้ให้วางเครื่องซักผ้า และตู้เย็น)
• ห้องนอนเล็ก: ห้องจริง เป็นห้องโล่ง แต่มีตู้เสื้อผ้าบิลท์อิน
• ห้องน้ำเล็ก (ด้านนอกห้องนอน): ได้อุปกรณ์ครบชุด แยกพื้นที่ส่วนแห้ง และส่วนเปียก โดยพื้นที่ส่วนแห้ง จะมีอ่างล้างหน้า พร้อมตู้อเนกประสงค์ด้านล่าง และกระจก มีสุขภัณฑ์พร้อมอุปกรณ์ (ไม่มีอ่างอาบน้ำ)
• ห้องนอนใหญ่ หรือมาสเตอร์เบดรูม: ห้องจริง เป็นห้องโล่ง แต่มีตู้เสื้อผ้าบิลท์อิน และตู้วางทีวี
• ห้องน้ำใหญ่ (อยู่ในห้องนอนใหญ่): ได้อุปกรณ์ครบชุด แยกพื้นที่ส่วนแห้ง และส่วนเปียก โดยพื้นที่ส่วนแห้ง จะมีอ่างล้างหน้า พร้อมตู้อเนกประสงค์ด้านล่าง และกระจก มีสุขภัณฑ์พร้อมอุปกรณ์ มีอ่างอาบน้ำ อยู่บริเวณในสุดของพื้นที่ส่วนแห้ง ด้านข้างจะเป็นพื้นที่ส่วนเปียก ที่กั้นด้วยตู้กระจกอาบน้ำนิรภัย มีอุปกรณ์ครบชุดเช่นกัน เช่น ชุดฝักบัว บวกด้วยเรน ชาวเวอร์ วางระบบน้ำร้อน น้ำเย็น
พื้นที่มุมห้อง บิวท์อินเป็นตู้อเนกประสงค์
วิเคราะห์ศักยภาพทำเลสุขุมวิท 39
โดยปกติแล้วถนนสุขุมวิทซอยฝั่งเลขคี่จะได้รับความนิยมจากการอยู่อาศัยมากกว่าฝั่งเลขคู่ ทำให้ที่ดินฝั่งเลขคี่จะมีราคาสูงกว่าฝั่งเลขคู่ โดยในส่วนของโซนพร้อมพงษ์ ชาวญี่ปุ่นกลุ่มครอบครัวที่มีกำลังซื้อสูง และมีลูกเรียนโรงเรียนญี่ปุ่นย่านพระราม 9 ซึ่งมีรถโรงเรียนรับส่งเฉพาะเส้นทางเท่านั้นจะนิยมอยู่ฝั่งเลขคี่มากกว่า เพราะมีความสะดวกเกี่ยวกับเรื่องรถโรงเรียน ยกเว้นซอยสุขุมวิท 24 ที่เป็นซอยเลขคู่ที่ได้รับความนิยมและมีความพรีเมี่ยม มากกว่าซอยเลขคู่ซอยอื่นๆ เนื่องจากศูนย์การค้าเอ็มโพเรี่ยมตั้งอยู่บริเวณสุขุมวิท 24 มาเป็นเวลานาน จึงปลุกปั้นให้บริเวณซอย 24 ได้รับความนิยมมากขึ้นไปด้วย
สำหรับทำเลสุขุมวิท 39 ถือเป็นซอยชุมชนดั้งเดิม ที่มีจุดเด่น คือทะลุสุขุมวิทซอยเลขคี่ได้หลายซอย และยังเชื่อมต่อไปยังเส้นทางอื่นๆ เช่น ทะลุเข้าถนนเพชรบุรีได้สะดวก อยู่ใกล้ดิ เอ็ม ดิสทริค ใกล้แหล่งธุรกิจ การค้า โรงเรียน โรงพยาบาล เรียกว่ามีองค์ประกอบในการอยู่อาศัยครบ
วิเคราะห์ทำเลโครงการ
ที่ตั้งของโครงการนี้ อยู่ฝั่งขาเข้าซอย 39 (ฝั่งซ้ายมือจากขาเข้าซอย) ห่างจากรถไฟฟ้า และปากทางประมาณ 100 เมตร ซึ่งถือว่าใกล้มาก และถือว่าจุดเด่นของโครงการนี้คือทำเล ถ้าขับรถมาจากถนนสุขุมวิท เข้าซอย 39 ไปเล็กน้อยก็จะเจอโครงการเลย อยู่ฝั่งซ้ายมือ หรือถ้าลงรถไฟฟ้าทางฝั่งสุขุมวิท 39 เดินเข้าซอยมาเล็กน้อย ก็จะเจอตัวโครงการ เรียกว่าเป็นคอนโดมิเนียมแรกทางฝั่งขาเข้าซอย 39 (แต่ปัจจุบันสำนักงานขายของโครงการจะอยู่เลยโครงการ 39 บายแสนสิริ และโครงการเดอะ เทอร์ทีไนน์ สุขุมวิท 39 ไปอีก เพราะที่ตั้งจริงของโครงการยังไม่ได้รื้อถอนตึกเก่า)
ถ้าเทียบกับคู่แข่งในบริเวณใกล้เคียงกัน เช่น มาร์ค สุขุมวิท 39 และแกลอรี ฮรู เดอร์ 39 ก็ถือว่า The Diplomat 39 ได้เปรียบเล็กน้อย เพราะโครงการอยู่ฝั่งขาเข้า และเข้าไปไม่ไกล ส่วนมาร์ค สุขุมวิท 39 และแกลอรี ฮรู เดอร์ 39 แม้จะอยู่ต้นๆ ซอยไม่ต่างกัน แต่อยู่ฝั่งขาออกซอย ซึ่งหากขับรถเข้าจากปากซอย 39 จะเสียเวลากลับรถเล็กน้อย ซึ่งโดยรวมๆ แล้วถือว่าไม่ต่างกันมาก ต้องมาวัดกันที่ตัวภาพรวมโครงการ การออกแบบตกแต่ง สิ่งอำนวยความสะดวก พื้นที่ส่วนกลาง ขนาดห้องชุด ฟังก์ชั่นที่ได้รับ การตกแต่งภายใน คุ้มค่ากับราคาหรือไม่
การเดินทาง
ที่ตั้งโครงการจริง ที่ปัจจุบันยังเป็นตึกเดิมที่ยังไม่ได้รื้อ
1. ถ้าขับรถมาจากถนนสุขุมวิท เลี้ยวซ้ายเข้าซอย 39 ไปเล็กน้อยก็จะเจอโครงการเลย อยู่ฝั่งซ้ายของขาเข้าซอย แต่ถ้ามาจากฝั่งถนนเพชรบุรี อาจจะต้องขับมายาวจนเกือบถึงปากทาง แล้วก็เลี้ยวขวาเข้าตัวโครงการ
2. ถ้าใช้รถไฟฟ้า BTS ลงสถานีพร้อมพงษ์ ทางออก 3 ฝั่งสุขุมวิท 39 เดินเข้าซอยมาเล็กน้อย ก็จะเจอตัวโครงการเลย
สถานที่แนว Lifestyle ย่านสุขุมวิท 39
หากเลือกอยู่ย่านนี้ ไม่ต้องห่วงเรื่องหาสถานที่ไปแฮงค์เอ้าท์ยาก เพราะสามารถไปได้ทุกที่ตามแนวรถไฟฟ้า หรือจะเป็นสถานที่ใกล้ๆ ทางฝั่งสุขุมวิท ก็ทองหล่อ เอกมัย หรือฝั่งพระราม 4 ก็มี เค วิลเลจ (K Village), เอ สแควร์ (A Square) ซึ่งเป็นคอมมูนิตี้มอลล์ ที่อยู่ในซอยสุขุมวิท 26 ค่อนไปทางพระราม 4 ที่นี่จะมีซูเปอร์มาร์เก็ต ร้านไอที ร้านอาหารญี่ปุ่น ร้านกินดื่มสำหรับแฮงค์เอ้าท์ได้สบายๆ
แต่ใกล้สุด ก็ต้องยกให้โครงการดิ เอ็ม ดิสทริค ที่กล่าวไปแล้วช่วงต้น โดยนอกจากจะมีร้านค้าแฟชั่นแบรนด์เนมชั้นนำ ซูเปอร์มาร์เก็ต ร้านอาหารนานาชาติ ร้านแฮงค์เฮ้าท์เก๋ๆ อยู่ในทั้ง 3 ศูนย์การค้าดังกล่าวแล้ว ดิ เอ็ม ดิสทริค จะเป็นศูนย์รวมความบันเทิง เช่น โรงภาพยนตร์ระดับโลกขนาด 7 โรง และ IMAX “ควอเทียร์ ซีเนอาร์ท” ของกลุ่มเมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์, โรงภาพยนตร์ระดับ 6 ดาว “เอ็มโพเรี่ยม ซีเนม่า” ของกลุ่มเอสเอฟ ซีนีม่า ซิตี้, เวอร์จิ้น แอคทีฟ ฟิตเนสระดับเวิลด์คลาส, คิดส์ ครีเอทีฟ เพลย์กราวด์ ฯลฯ เรียกว่า มาที่เดียวก็ครบ
สถานที่ใกล้เคียงอื่นๆ: มหาวิทยาลัยกรุงเทพ, โรงพยาบาลกล้วยน้ำไท, ช่อง 3 ฯลฯ
วิเคราะห์อัตราผลตอบแทน
หมายเหตุ คอนโดมิเนียมหรูที่เพิ่งเปิดตัวใหม่ๆในทำเลที่ดีมากๆ ตั้งแต่ปี 2557 เป็นต้นมา จะได้อัตราผลตอบแทนจากการปล่อยเช่าไม่มาก แต่ Capital Gain (ผลต่างของราคาขายหลักทรัพย์ ที่สูงกว่าราคาทุน) จากการปรับขึ้นของมูลค่าห้องชุดบนทำเลเหล่านี้ในแต่ละปีจะค่อนข้างสูง โดยนักลงทุนที่สนใจลงทุนในย่านนี้ ควรมองเรื่อง Capital Gain มากกว่าอัตราผลตอบแทนจากการปล่อยเช่าต่อปี และให้มองเรื่องการปล่อยเช่าเป็นส่วนเสริมมากกว่าเป็นอัตราผลตอบแทนหลัก
เปรียบเทียบกับโครงการอื่น
• XXXIX (เดอะ เทอร์ทีไนน์ สุขุมวิท 39) ของบริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) เปิดตัวประมาณปลายปี 2555 อยู่ใกล้กับปากทางของซอยสุขุมวิท 39 (เลย The Diplomat 39 (เดอะ ดิโพลแมท 39) ไปเล็กน้อย) ที่ดินประมาณ 1-3-74 ไร่ เป็นคอนโดมิเนียมความสูง 32 ชั้น จำนวน 1 อาคาร รวมห้องชุด 178 ยูนิต ที่จอดรถ 100% มีห้องชุด 1-3 ห้องนอน และเพนท์เฮ้าส์ (พื้นที่ใช้สอย 50 – 323 ตร.ม.) ราคาเริ่มต้นในช่วงเปิดตัวประมาณ 10 ล้านบาท ราคาเฉลี่ยประมาณ 195,000 บาท/ตร.ม. อยู่ระหว่างก่อสร้าง คาดว่าจะแล้วเสร็จปี 2558 โดยโครงการนี้ปิดการขายภายในไม่กี่วันหลังจากเปิดตัว แต่ ปัจจุบันมีการนำห้องชุดมาขายรีเซล อยู่ที่ประมาณ 230,000-250,000 บาท/ตร.ม.
• Marque Sukhumvit (มาร์ค สุขุมวิท 39) ของบริษัท เมเจอร์ ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน)เปิดตัวประมาณกลางปี 2556 อยู่ปากซอยสุขุมวิท 39 ฝั่งขาออก ที่ดินประมาณ 3 ไร่ เป็นคอนโดมิเนียมความสูง 50 ชั้น จำนวน 1 อาคาร รวมห้องชุด 148 ยูนิต ที่จอดรถ 282 มีห้องชุด 2-3 ห้องนอน และเพนท์เฮ้าส์ (พื้นที่ใช้สอย 128 – 260 ตร.ม.) ราคาเริ่มต้นในช่วงเปิดตัวประมาณ 30 ล้านบาท ราคาเฉลี่ยประมาณ 250,000 บาท/ตร.ม. อยู่ระหว่างก่อสร้าง คาดว่าจะแล้วเสร็จปี 2559 โดยโครงการนี้ยังมีห้องชุดที่อยู่ระหว่างขาย และปัจจุบันราคาขายปรับขึ้นอยู่ที่เฉลี่ย 280,000 บาท/ ตร.ม.
• GALERIE rue de 39 (แกรเลอรี ฮรู เดอร์ 39) ของบริษัท เอพี (ไทยแลนด์) จำกัด (มหาชน) เปิดตัวประมาณต้นปี 2556 อยู่ปากซอยสุขุมวิท 39 ฝั่งขาออก (ถัดจากมาร์ค สุขุมวิท 39) ที่ดินประมาณ 1.7 ไร่ เป็นคอนโดมิเนียมความสูง 28 ชั้น จำนวน 1 อาคาร รวมห้องชุด 88 ยูนิต ที่จอดรถ 142 คัน มีห้องชุด 2-3 ห้องนอน และเพนท์เฮ้าส์ (พื้นที่ใช้สอย 100 – 300 ตร.ม.) ราคาเริ่มต้นในช่วงเปิดตัวประมาณ 28 ล้านบาท ราคาเฉลี่ยในช่วงเปิดตัวประมาณ 280,000 บาท/ตร.ม. อยู่ระหว่างก่อสร้าง คาดว่าจะแล้วเสร็จปี 2559 โดยโครงการนี้ยังมีห้องชุดที่อยู่ระหว่างขาย แต่ปิดการขายชั่วคราว และจะนำมาขายใหม่เมื่อตึกก่อสร้างเสร็จ เป็นห้องชุดพร้อมอยู่
• The Park 24 (พาร์ค 24) ของบริษัท พราวด์ เรียลเอสเตส จำกัด เปิดตัวประมาณปลายปี 2556 โครงการนี้มีทางเข้าอยู่ในซอยสุขุมวิท 24 แต่พื้นที่โครงการส่วนใหญ่อยู่ในสุขุมวิท ซอย 22 อยู่บนที่ดิน 5-0-82 ไร่ (เฟสแรก) โดยเป็นอาคารไฮไรส์ จำนวน 2 อาคาร แบ่งเป็น อาคารความสูง 51 ชั้น รวมห้องชุด 533 ยูนิต และอาคารความสูง 29 ชั้น รวมห้องชุด 300 ยูนิต (แปลนทั้งโครงการจะมีด้วยกัน 6 อาคาร) ยูนิตต่อชั้นสูงสุด 12 ยูนิต ที่จอดรถประมาณ 426 คัน ไม่รวมจอดซ้อนคัน คิดเป็น 51% มีห้องชุด 3 แบบ คือ 1 ห้องนอน (พื้นที่ใช้สอย 27-38 ตร.ม.) 2 ห้องนอน (พื้นที่ใช้สอย 52-54 ตร.ม.) และ ดูเพล็กซ์ (พื้นที่ใช้สอย 80-106 ตร.ม.) ราคาเริ่มต้นในช่วงเปิดตัวประมาณ 170,000 บาท/ตร.ม. คาดว่าจะแล้วเสร็จปี 2561
จุดเด่นหลักๆ ของโครงการนี้ คือ ทำเลสุขุมวิท 39 ที่มีเสน่ห์ด้วยตัวเอง และยังมีปัจจัยสนับสนุนอื่นๆ เช่น รถไฟฟ้า และโครงการศูนย์การค้าเอ็ม ดิสทริค ทำให้ราคาในอนาคตมีโอกาสขยับขึ้น ส่วนทำเลที่ตั้งของโครงการก็ถือว่าได้เปรียบกว่าคู่แข่งในซอยเดียวกันเล็กน้อย แต่อย่างที่กล่าวแล้วว่าไม่ได้แตกต่างกันมาก ผู้สนใจต้องเปรียบเทียบภาพรวมของโครงการ และสิ่งที่ได้รับว่าคุ้มค่ากันหรือไม่ ส่วนโครงการคอนโดมิเนียมในอนาคตที่มีกระแสข่าวทั้งของกลุ่มอนันดาฯ และกลุ่มเฟรเกรนท์ฯ จะอยู่ลึกเข้าไปกว่าโครงการ The Diplomat 39
จุดอ่อน คือ การจราจรที่หนาแน่นในซอยสุขุมวิท 39 ช่วงชั่วโมงเร่งด่วน
อัพเดทข่าวในแวดวงอสังหาริมทรัพย์ ทางอีเมลส่งตรงจากเว็บไซต์อสังหาฯ อันดับ 1 ของเมืองไทยฟรี สมัครได้ที่นี่
สนใจ คอนโดฯ ในโครงการนี้? เลือกชม รายการประกาศ ราคาโดนใจ
พาร์ค 168 นพรัตน์ รามอินทรา (Park 168 Nopparat Ramindra) จาก บริษัท แอล.พี.เอ็น.ดีเวลลอปเมนท์ จํากัด (มหาชน) คอนโดมิเนียม High Rise 25 ชั้น 3 อาคาร ห้องชุดพักอาศัยรวม 1,224 ยูนิต อาคารจอดรถและสระว่ายน้ำ สูง 8 ชั้น 1 อาคาร แต่ละอาคารมีห้องพักอาศัยเพียงอาคารละ 408 ยูนิต มีความเป็นส่วนตัว ไม่แออัด ใกล้รถไฟฟ้าสายสีชมพู สถานีนพรัตนราชธานี ราคาเริ่มต้น 1.69 ล้านบาท
คาราเพช หัวหิน-เขาเต่า (CARAPACE Huahin-Khaotao) คอนโด Low Rise สไตล์รีสอร์ต อยู่ติดชายหาดเขาเต่า ไม่ไกลจากถนนเพชรเกษม สามารถสร้าง Passive Income จากการลงทุนที่โครงการการันตีผลตอบแทน 5% นาน 5 ปี รวมรับผลตอบแทนต่อเนื่อง 15 ปี ในราคาเริ่มต้น 3.5 ล้านบาท
ลุมพินี ทาวน์ชิป รังสิต-คลอง 1 คอนโด Low Rise 8 ชั้น 50 อาคาร อาคารที่จอดรถสูง 8 ชั้น 6 อาคาร มีจำนวนยูนิตพักอาศัยรวม 10,074 ยูนิต และร้านค้า 7 ยูนิต ตกแต่งแบบ Fully Fitted ราคาเริ่มต้นต่ำกว่า 1 ล้านบาท
