พาร์ค 168 นพรัตน์ รามอินทรา (Park 168 Nopparat Ramindra) จาก บริษัท แอล.พี.เอ็น.ดีเวลลอปเมนท์ จํากัด (มหาชน) คอนโดมิเนียม High Rise 25 ชั้น 3 อาคาร ห้องชุดพักอาศัยรวม 1,224 ยูนิต อาคารจอดรถและสระว่ายน้ำ สูง 8 ชั้น 1 อาคาร แต่ละอาคารมีห้องพักอาศัยเพียงอาคารละ 408 ยูนิต มีความเป็นส่วนตัว ไม่แออัด ใกล้รถไฟฟ้าสายสีชมพู สถานีนพรัตนราชธานี ราคาเริ่มต้น 1.69 ล้านบาท
สนใจ คอนโดฯ ในโครงการนี้? เลือกชม รายการประกาศ ราคาโดนใจ
จุดเปลี่ยนของราคาที่ดินและที่อยู่อาศัยในเมืองกรุง ปัจจัยหลักที่แหล่งข่าวหลายสำนักต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันนั้นคงหนีไม่พ้นการที่ทำเลนั้นๆ มีรถไฟฟ้าพาดผ่าน ตัวอย่างเช่น โซนกลางกรุงอย่างถนนสุขุมวิท สีลม สาทรที่มีรถไฟฟ้าพาดผ่านมากว่าสิบปีก็ทำให้โซนนี้กลายเป็นแหล่งเศรษฐกิจที่สำคัญแห่งหนึ่งของประเทศจนถึงทุกวันนี้ ราคาที่ดินแพงลิบลิ่วสูงสุดแตะตารางวาละล้านกว่าบาท ที่พักอาศัยก็ผุดขึ้นเป็นดอกเห็ด เป็นต้น ในขณะที่น้องใหม่อย่างโซนเหนือ ย่านเตาปูน –บางซื่อเอง ณ ปัจจุบัน ด้วยแผนการพัฒนาสถานีกลางบางซื่อ บนเนื้อที่ขนาด 487 ไร่ เพื่อเป็นสถานีเชื่อมต่อรถไฟฟ้า 3 สายคือ รถไฟฟ้าใต้ดิน รถไฟฟ้าบีทีเอส และรถไฟฟ้าแอร์พอร์ตลิงค์ รวมถึงเป็นสถานีสำหรับรถไฟฟ้าสายสีแดงนั้น ทำให้ 3-5 ปีที่ผ่านมา ย่านนี้เติบโตขึ้นอย่างผิดหูผิดตา ราคาที่ดินพุ่ง 20-50% อาคารที่พักอาศัยโดยเฉพาะประเภทคอนโดมิเนียมเรียงแถวกันผุดขึ้นไม่เว้นแต่ละปี เห็นได้ชัดตั้งแต่ปี 2554 เป็นต้นมา ซึ่งราคาขายของคอนโดฯ จะขึ้นอยู่กับสถานที่ตั้ง หากตั้งอยู่ใกล้สถานีรถไฟฟ้าราคาก็จะสูงกว่าสถานีที่อยู่ห่างไป โดยราคาเฉลี่ยจะอยู่ที่ 2 ล้านต้นๆ เฉลี่ยแล้วคิดเป็น 80,000 -100,000 บาทต่อ ตร.ม. ทั้งนี้คาดว่าหากมีการเปิดใช้รถไฟฟ้าอย่างเป็นทางการในปี 2560 ราคาจะขยับขึ้นอีกเป็นแน่ ย่านที่เห็นได้ชัด อย่าง ถนนประชาชื่นมีโครงการคอนโดมิเนียมใหม่ๆ ผุดขึ้นอย่างต่อเนื่อง อาทิ โครงการยูดีไลท์ 1, 2, 3 และ 4 ของค่ายแกรนด์ยู, โครงการเดอะนิช โมโน รัชวิภา จากค่ายเสนาฯ, โครงการศุภาลัย เวอรันด้า จากศุภาลัย และล่าสุด โครงการเมโทร สกาย ประชาชื่น ของค่ายพร็อพเพอร์ตี้ เพอร์เฟค ที่เตรียมสร้างโครงการขนาดใหญ่พันกว่ายูนิตที่มีไฮไลท์อยู่ที่รูปแบบการสร้างแต่ละอาคารที่แตกต่างกันออกไป
รายละเอียดโครงการ
เจาะลึกข้อมูลโครงการ (ข้อมูล ณ วันที่ 16 กรกฎาคม 2558)
ชื่อโครงการ: เมโทร สกาย ประชาชื่น (Metro Sky Prachachuen)
ผู้พัฒนาโครงการ: บริษัท พร็อพเพอร์ตี้ เพอร์เฟค จำกัด (มหาชน) หรือ PF
ทำเลที่ตั้ง: ปากซอยประชาชื่น 22 แขวงวงศ์สว่าง เขตบางซื่อ กทม.
เว็บไซต์: www.pf.co.th
โทร : 1375
รายละเอียดโครงการ
พื้นที่โครงการ: รวมประมาณ 7-2-33 ไร่
รูปแบบ: คอนโดมิเนียม 3 อาคาร คือ A, B และC รวมทั้งสิ้น 1,356 ยูนิต
เจาะกลุ่มเป้าหมาย คนรุ่นใหม่ อายุประมาณ 35 ปี รายได้ต่อคนเฉลี่ยที่ 40,000 บาทต่อเดือน
สถานะการก่อสร้าง : ล่าสุดตอกเสาเข็มแล้ว เริ่มดำเนินการก่อสร้างอาคารเดือน ส.ค. 2558 ทั้ง 3 อาคาร คาดว่าจะแล้วเสร็จทั้งหมดพร้อมกันประมาณ เดือนธ.ค. 2560
ระบบคีย์การ์ด : คีย์การ์ด เข้าออกได้ภายในชั้นที่พัก และชั้นพื้นที่ส่วนกลางของแต่ละอาคาร
ลิฟท์บริการ : จำนวน 1 ตัว ต่ออาคาร
ลิฟท์ใช้งาน : จำนวน 3 ตัว ต่ออาคาร
สถานะการขาย : ยอดขาย 50% (ข้อมูล ณ วันที่ 16 กรกฎาคม 2558)
เงินกองทุนสะสม: 500 บาท/ ตร.ม.
ค่าส่วนกลาง : 35 บาท / ตร.ม. (จ่ายล่วงหน้า 1 ปี)
ราคาเริ่มต้น : 2.16 ล้านบาท/ ยูนิต (ข้อมูล ณ วันที่ 16 กรกฎาคม2558)
ราคาเฉลี่ย : 87,000 บาท/ ตร.ม. (ข้อมูล ณ วันที่ 16 กรกฎาคม2558)
รูปแบบห้อง มี 3 แบบ คือ
1. แบบ Moff Design ขนาดพื้นที่เริ่มต้น 35.56 ตร.ม. (4 x 7.07 ม.) ราคาเริ่มต้น 3.3 ล้านบาท
2. แบบ 1 ห้องนอน ขนาดพื้นที่เริ่มต้น 24 ตร.ม. (4.90 x 5.65ม.) ราคาเริ่มต้น 2.1 ล้านบาท
3. แบบ 2 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ ขนาดพื้นที่เริ่มต้น 43 ตร.ม. (7.2 x 5.8 ม.) ราคาเริ่มต้น 3.9 ล้านบาท
หมายเหตุ: โดยปกติขายห้องเปล่า แต่มีเพียงบางยูนิตที่ขายพร้อมเฟอร์นิเจอร์ (ดูรายละเอียดจากการรีวิวห้องตัวอย่าง)
รีวิวภาพรวมโครงการ
โครงการยังไม่ได้เริ่มก่อสร้างอาคาร แต่มีการตอกเสาเข็มแล้ว ส่วนสำนักงานขายและห้องตัวอย่างอยู่ในพื้นที่ด้านหน้าติดถนนหลัก ส่วนพื้นที่สร้างอาคารอยู่ด้านหลัง หากพิจารณาสภาพแวดล้อมโดยรอบแล้วถือว่าเงียบสงบ ไม่พลุกพล่าน และหากดูจากภาพจำลองโครงการข้างต้นจะเห็นว่ามีสวนหย่อม และต้นไม้รอบโครงการ ซึ่งหากไม่มีการเปลี่ยนแปลงผังโครงการใดๆ ก็ถือว่าร่มรื่น และเงียบสงบ เป็นส่วนตัวดี
ภายในโครงการ ด้านหลังที่ปิดกั้นไว้เป็นพื้นที่ก่อสร้างโครงการ
Layout: เป็นอาคาร ประเภท Hise Rise 3 อาคาร ก่อสร้างแบบอิฐมวลเบา จำนวนทั้งสิ้น 1,356 ยูนิต คือ
อาคาร A สูง 24 ชั้น จำนวน 491 ยูนิต อยู่ด้านหน้าโครงการติดถนนประชาชื่น สร้างห้องแบบ Moff Design (ลักษณะแบบห้อง Duplex) เกือบทั้งหมด ซึ่งชั้น 1 เป็นร้านค้า ชั้น 2 -11 เป็นแบบ 1 ห้องนอน (ยังไม่เปิดจอง) และชั้น 12 – 24 เป็นห้องแบบ Moff ทั้งหมด ชั้นดาดฟ้าเป็นสกายเลาจ์น
ชั้น 7 เป็นพื้นที่ส่วนกลางของโครงการ
อาคาร B สูง 21 ชั้น จำนวน 370 ยูนิต เป็นอาคารกลาง รวมสิ่งอำนวยความสะดวกทั้งหมดของโครงการไว้ที่นี่ มีห้องพักแบบ 1 ห้องนอน และ 2 ห้องนอน เท่านั้น ชั้น 1-6 เป็นที่จอดรถ ไฮไลท์อยู่ที่ชั้น 7 เป็นสระว่ายน้ำ ฟิตเนส และซาวน่า และชั้น 8-21 เป็นส่วนของห้องพัก
ผังอาคาร C ชั้น 1
อาคาร C สูง 22 ชั้น จำนวน 495 ยูนิต เป็นอาคารด้านในสุด มีห้องพักแบบ 1 ห้องนอน และ 2 ห้องนอน เท่านั้นเช่นกัน ชั้น 1-22 เป็นห้องพักทั้งหมด ชั้นดาดฟ้าเป็นสวนและห้องสมุด
หมายเหตุ: อาคารที่ขายดีที่สุด ณ วันรีวิว คือ อาคาร B เนื่องจากเป็นอาคารกลาง มีสิ่งอำนวยความสะดวกทุกอย่างรวมไว้ในที่เดียว อีกตึกที่ขายดีคือ อาคาร A เพราะลูกค้าชอบรูปแบบห้อง Moff Design
สิ่งที่จะได้รับ: ตามมาตรฐานของโครงการ
พื้น: ไม้สำเร็จรูป
ผนัง: อิฐมวลเบา มีวอลล์เปเปอร์สีขาว-ครีม
พื้นจรดเพดาน: แบบ Moff สูง 4.50 ม., แบบ 1 ห้องนอน และ 2 ห้องนอน สูง 2.60 เมตร
เครื่องปรับอากาศ: ห้อง Moff ได้ 3 เครื่อง, 1 ห้องนอน ได้ 2 เครื่อง และ 2 ห้องนอนได้ 3 เครื่อง
สุขภัณฑ์: ยี่ห้อ Cotto และทุกอย่างตามห้องตัวอย่าง
เครื่องทำน้ำอุ่น: ยี่ห้อ MEX
ชุดครัว: ซิงค์ล้างจาน เคาน์เตอร์และชั้นเก็บของ ไม่รวมเครื่องใช้ไฟฟ้า
การวางทิศทางห้อง : แต่ละอาคารได้วิว ดังนี้
1. อาคารA ทิศเหนือ – วิวเมือง, ทิศใต้ – วิวเมือง
2. อาคารB ทิศเหนือ –วิวสระว่ายน้ำ, ทิศใต้ – รถไฟฟ้า
3. อาคาร C ทิศเหนือ –ทางด่วน, ทิศใต้ – สระว่ายน้ำของอาคาร B
สิ่งอำนวยความสะดวกภายในโครงการ : หลักๆ อยู่ที่ชั้น 7 อาคาร B คือ สระว่ายน้ำ (เป็นสระเกลือ ขนาด 10×33 เมตร แบ่งเป็นสระเด็กยาว 8 เมตร และสระผู้ใหญ่ยาว 25 เมตร) และฟิตเนส ที่เหลืออยู่บนดาดฟ้าของอาคาร A โดยเป็นสกายเลาจ์นและ C เป็นสวนและห้องสมุด
ที่จอดรถ: อาคาร B ชั้น 1-6 ประมาณ 40% (ให้สิทธิ์ 1 ยูนิต/ 1 คัน ไม่ได้ล็อคที่จอดไว้ให้ห้องใดห้องหนึ่ง) แต่หากนับรวมกับพื้นที่ว่างทั้งหมดในโครงการจะมีประมาณ 50%
รีวิวภายในห้องตัวอย่าง
ห้องตัวอย่างมีทั้ง 3 แบบ เริ่มจาก
แบบ Moff Design
จะมีเฉพาะอาคาร A เท่านั้นโดยปกติแล้วจะขายห้องเปล่า ราคา 3.3 ล้านบาท เริ่มที่ชั้น 13 เป็นต้นไป เป็นแบบห้องที่คล้ายๆกับห้อง Duplex คือมี 2 ชั้น จากพื้นจรดเพดานสูง 4.5 เมตร ชั้นล่างขนาด 10 ตร.ม. ชั้นบน 25 ตร.ม. ซึ่งชั้นบนจะมีเพียงพื้นที่นั่งเล่นไม่ได้เปิดโล่งเป็นห้องนอน แต่ความต่างอยู่ที่ชั้น12 และ 16 จะบิวท์อินให้เป็นห้องนอน รวมถึงทำประตูกั้นห้องให้ รวมถึงมีเฟอร์นิเจอร์ลอยตัว เช่น โต๊ะ ตู้ เตียงให้พร้อม แต่ราคาจะสูงกว่าอยู่ที่ 3.6 ล้านบาท โดยรวมแล้วเป็นแปลนห้องที่มีลูกเล่นมากกว่าห้องแบบอื่น
พื้นที่ชั้นล่างเล็กกว่าชั้นบน ทำเป็นมุมนั่งพักผ่อน ห้องนอนและครัวพร้อมระเบียงด้านหลังห้อง เหมาะสำหรับคนที่มีข้าวของเครื่องใช้น้อยชิ้น เพราะพื้นที่เก็บของค่อนข้างจำกัด
พื้นที่ว่างใต้บันได สามารถทำเป็นที่เก็บของหรือนั่งเล่นได้
ชุดครัวบิวท์อินได้เคาน์เตอร์และชั้นเก็บของ แต่ไม่ได้เครื่องใช้ไฟฟ้า
บันไดทางขึ้นชั้น 2 ได้จริงตามภาพ
พื้นที่โล่งทำเป็นมุมพักผ่อน สำหรับคนที่ชอบความเป็นส่วนตัวจริง ๆ เพราะปกติแล้วมุมนั่งเล่นแบบนี้จะอยู่ด้านล่าง เพื่อรับแขก
ห้องนอนนี้มีแค่ชั้น 12 กับ 16 เท่านั้น และจะได้ประตูกั้นห้องให้ด้วย แต่ชั้นอื่นเป็นพื้นที่ปิดทึบไม่ได้เปิดโล่ง
ห้องนอน และชั้นเก็บของแนวสูงถ่ายภาพจากชั้นบน เพื่อให้เห็นความโปร่งโล่ง จากพื้นจรดเพดาน 4.50 เมตร
แบบ 1 ห้องนอน 1 ห้องน้ำ
มีทั้งอาคาร B และ C แบบนี้จะเป็นแปลนห้องแบบมาตรฐานทั่วไป คือ เข้าประตูมาเจอห้องรับแขก ซ้ายเป็นห้องครัว ขวาเป็นห้องน้ำ ถัดไปคือห้องนอน
ห้องนี้ตกแต่งแบบเรียบง่าย หวานๆ สไตล์วินเทจ
มุมรับแขกกับห้องครัวอยู่ฝั่งเดียวกัน แบ่งกั้นห้องเป็นสัดส่วนด้วยประตูกระจกบานเลื่อน
ใช้กระจกมาตกแต่งผนังเพื่อให้ห้องดูกว้างขึ้น (แต่ขายจริงเป็นห้องเปล่าไม่มีประตูกระจก หรือผนังกระจก)
ห้องนอนเหมาะกับคนพร็อพน้อยชิ้นเช่นกัน ตู้เสื้อผ้าออกแบบแนวสูง ติดผนังจะช่วยเพิ่มพื้นที่ในการจัดเก็บได้มากขึ้น
แบบ 2 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ
มีทั้งอาคาร B และ C เช่นกัน แบบนี้มีแปลนห้องที่ยกห้องครัวมาไว้ด้านขวามือประตูทางเข้าห้อง (ข้อดีคือ มีประตูกระจกกั้นแบ่งห้องครัวไว้ให้) ส่วนด้านซ้ายจะเป็นโต๊ะรับประทานอาหาร ถัดไปเป็นห้องนอนอยู่ 2 ฝั่งตรงข้ามกัน โดยห้องนอนใหญ่มีห้องน้ำในตัว ส่วนห้องนอนเล็กใช้ร่วมกันกับห้องน้ำรับแขก ส่วนโถงกลางด้านในจัดไว้เป็นมุมรับแขก
ห้องนี้ตกแต่งให้อารมณ์แบบปาร์ตี้ๆ
แปลนห้องก็ต่างจาก 2 ห้องแรกเพราะเปิดประตูมากก็เจอห้องครัว และโต๊ะรับประทานอาหารเลย สอดรับกับคนที่ชอบทำอาหารและพร้อมจะปาร์ตี้
ห้องนอนใหญ่ มีห้องน้ำในตัว ให้ไอเดียการจัดเก็บสิ่งของติดผนัง
ห้องนอนเล็ก ใช้ประโยชน์ของพื้นที่ด้วยไอเดียที่เก็บของติดผนังเช่นกัน
มุมนั่งเล่น รับแขกที่แต่งผนังด้วยวัสดุอะคริลิกเงาเพิ่มลูกเล่น และเลือกใช้โซฟาหนังเพิ่มความหรูหรา
ตัวอย่างพื้น และผนังติดวอลล์เปเปอร์ที่ให้จริงตามภาพ หรืออาจใกล้เคียงมากที่สุด
ทําเล & การเดินทาง
วิเคราะห์ศักยภาพทำเลบางซื่อ– เตาปูน
อย่างที่ได้เกริ่นไปข้างต้น ทำเลนี้ถือว่ามีศักยภาพและมาแรงมากอีกทำเลหนึ่ง ปัจจัยหลักคือมีการวางแผนให้เป็นจุดเชื่อมต่อขอรถไฟฟ้าหลายสาย คือ รถไฟฟ้าสายสีม่วง (บางซื่อ – บางใหญ่) รถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน (บางซื่อ –ท่าพระ) และรถไฟฟ้าแอร์พอร์ตลิงค์ รวมถึงรถไฟฟ้าสายสีแดงอ่อน (บางซื่อ –รังสิต) ซึ่งอย่างหลังสุดสร้างเสร็จแล้วรอเปิดใช้งานอย่างเป็นทางการเท่านั้น
ถนนกรุงเทพนนท์ ก่อนถึงแยกบิ๊กซีวงศ์สว่าง
ทั้งนี้การเป็นศูนย์กลางที่สามารถเชื่อมต่อไปยังที่ต่างๆ ได้สะดวก ส่งผลดีกับการขยายการลงทุนกว้างไปถึงกรุงเทพฯ ตอนเหนืออีกด้วย ไม่ว่าจะเป็นศูนย์การค้าส่งขนาดใหญ่ใกล้ดอนเมือง และการลงทุนกว่า 10,000 ล้านบาทของกลุ่มเซ็นทรัล เป็นต้น
ด้านหน้าทางเข้าโครงการ ติดถนนประชาชื่น ซอย22
ด้านฝั่งขวาของโครงการคือ ธนาคารกสิกรไทย
สภาพการจราจร บางช่วงที่ติดขัด โดยเฉพาะในชั่วโมงเร่งด่วน
วิเคราะห์ทำเลที่ตั้งโครงการ
โครงการตั้งอยู่บริเวณปากซอยประชาชื่น 22 หากมาจากทางแยกประชานุกูล จะอยู่ก่อนถึงทางรถไฟ แต่หากมาทางแยกเตาปูน จะอยู่เลยทางรถไฟ ที่ตั้งโครงการถือว่าเป็นทำเลที่ดีมากทำเลหนึ่ง แต่เดิมเป็นชุมชนเก่าแก่ เป็นถนนที่เงียบสงบ ไม่จอแจ เป็นถนน 4 เลนแบบไม่มีเกาะกลาง รถสวนกันได้ แต่ปัจจุบันต้องยอมรับว่าคนที่สัญจรโดยใช้รถยนต์ส่วนตัวต้องยอมรับกับสภาพการจราจรที่หนาแน่นมากๆในช่วงเช้า และเย็น อาจต้องเลือกใช้บริการรถสาธารณะหรือรถไฟฟ้าแทน ซึ่งด้านหลังโครงการนี้ใกล้สถานีบางซ่อน เพียง 80 เมตร
บริเวณใกล้โครงการ ฝั่งตรงข้ามเป็นคลองประปา และศูนย์เอกสาร ธอส.
ทั้งนี้หากพูดถึงสภาพโดยรวมแล้วถ้าไม่อยู่ในช่วงชั่วโมงเร่งด่วนถือว่าทำเลนี้ยังน่าอยู่มาก เพราะฝั่งตรงข้ามด้านหน้าโครงการเป็นคลองประปา ไม่มีตึกสูงบดบังทัศนียภาพแต่อย่างใด
การเดินทาง
1. รถยนต์ส่วนตัว: เข้าออกได้หลายเส้นทางคือ จากโครงการมุ่งหน้าไปแยกประชานุกูลเลี้ยวขวาไปรัชวิภา รัชโยธิน วิภาวดีรังสิตได้ และห่างจากถนนรัชดาภิเษกเพียง 900 เมตร อีกทั้งยังใกล้กับจุดขึ้นลงทางด่วนประชานุกูลด้วย อีกทางหนึ่งคือ จากหน้าโครงการเลี้ยวซ้ายวิ่งตรงไปสุดทาง เลี้ยวซ้ายก็จะไปขึ้นสะพานข้ามไปบริษัท ปูนซิเมนต์ไทยฯ (SCG) ที่ติดกับสถานีรถไฟฟ้าใต้ดินบางซื่อได้ ระยะทางประมาณ 2 กิโลเมตร แต่ถ้าเราไม่ขึ้นสะพานก็จะทะลุไปแยกเกียกกายได้ หรือหากสุดทางเลี้ยวขวาก็จะตรงไปทางแยกบางโพได้
2. รถไฟฟ้า: สายสีม่วง (บางซื่อ –บางใหญ่) สถานีบางซื่อ ห่างจากโครงการประมาณ 2 กิโลเมตร
สายสีแดงอ่อน (บางซื่อ -ตลิ่งชัน) สถานีบางซ่อน ห่างจากอาคาร B ประมาณ 80 เมตร แต่ถ้านับจากหน้าโครงการก็ประมาณ 200 เมตร
3.มอเตอร์ไซค์รับจ้าง: อยู่บริเวณธนาคารกสิกรไทย (ข้างโครงการ), ทางรถไฟและ 7-11 (ฝั่งซ้ายของโครงการ)
4.รถเมล์: สาย 70, 66
5.แท็กซี่: ผ่านหน้าโครงการ
สถานที่แนว Lifestyle
สถานที่แนวไลฟ์สไตล์ทั้งกลางวัน-กลางคืนในรัศมีถนนเตาปูน ถนนประชาชื่นที่ใกล้กับโครงการ อย่างฝั่งตรงข้ามโครงการริมคลองประปา มีร้านอาหาร SIP ที่บรรยากาศน่านั่ง และล่าสุดที่โดนใจขาช้อปสุดแนวคือ ตลาดนัด “สยามยิปซี” ที่เปิดช่วงค่ำๆ บริเวณเรียบแนวทางรถไฟสถานีบางซ่อนในวันพุธ-อาทิตย์ แต่สินค้าจะมีมากในวันศุกร์-อาทิตย์ ที่นี่ถือเป็นอีกหนึ่งแหล่งของคนรักสินค้ามือสอง สินค้าแฮนด์เมด อารมณ์คล้ายๆตลาดนัดรถไฟ ถ้าไปเดินช่วงที่ลมพัดเย็นๆ ช่วงหน้าหนาวจะชิลล์สุดๆ
นอกจากนี้ ย่านนี้ยังมีที่กินที่เที่ยว นั่งชิลล์ให้เลือกมากอยู่เหมือนกัน คนทั่วไปก็ไปเดินเล่น ซื้อของ กินข้าวกันที่เทสโก้ โลตัส ประชาชื่น หรือบิ๊กซี วงศ์สว่างเสียเป็นส่วนใหญ่ ถ้าเป็นร้านอาหารอร่อยๆ ก็ต้องผ่านแยกประชานุกูลไปทาง รพ.เกษมราษฎร์ ประชาชื่น เช่น ร้านเจ๊ไข่ อาหารซีฟู๊ด ข้าวต้มสมพงศ์ เป็นต้น หรือจะเลี้ยวเข้าทางไปวัดเสมียนนารี แวะตลาดบองมาเช่ก็ได้ ถนนเส้นนี้มีที่กินที่เที่ยวเพียบ
ส่วนร้านนั่งชิลล์ตอนเย็นก็จะอยู่ทางถนนวงศ์สว่างระแวกเดียวกับมหาวิทยาลัยพระจอมเกล้าพระนครเหนือ และเส้นรัชวิภาเหมาะกับนั่งท่องราตรี คนที่ชอบสังสรรค์โดยเฉพาะในวันศุกร์และเสาร์ เช่น Lizm@ประชาชื่น เป็นต้น
นอกจากนี้ ยังสามารถข้ามสะพานรัชวิภาไปทางรัชโยธินที่มีเมเจอร์ รัชโยธิน, ร้านเสวนาพาเพลิน, ร้านสะดวกโยธินให้นั่งกินดื่ม หรือไม่ก็ขยับไปทางถนนรัชดาภิเษกและลาดพร้าวเลยเพราะมีแหล่งรวมความบันเทิงครบครัน
บทวิเคราะห์
วิเคราะห์อัตราผลตอบแทน
อัตราค่าเช่ารายเดือน
1.แบบ Moff Design ขนาดพื้นที่เริ่มต้น 35.56 ตร.ม. (4×7.07ม.) ปล่อยเช่า 14,000 บาท/ เดือน
2. แบบ 1 ห้องนอน ขนาดพื้นที่เริ่มต้น 27 ตร.ม. (4.90x 5.65 ม.) ปล่อยเช่า 9,000 บาท/ เดือน
3.แบบ 2 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ ขนาดพื้นที่เริ่มต้น 43 ตร.ม. (7.2×5.8 ม.) ปล่อยเช่า 15,000 บาท/ เดือน
เปรียบเทียบกับโครงการอื่น
1.โครงการยูดีไลท์ @บางซ่อน สเตชั่น หรือ ยูดีไลท์ 4 เจ้าของโครงการ บริษัทแกรนด์ ยูนิตี้ ดิเวลล็อปเมนท์ จำกัด ที่ตั้งโครงการอยู่ติด MRT บางซ่อน พื้นที่โครงการ3-0-92 ไร่ เป็นอาคารพักอาศัยสูง 26 ชั้น 1 อาคาร จำนวน 527 ยูนิต ขนาดเริ่มต้น 1 ห้องนอน พื้นที่ใช้สอยเริ่มต้น 30 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 2.59 ล้านบาท คาดว่าจะแล้วเสร็จ ธันวาคม 2558
2.โครงการเดอะนิช โมโน รัชวิภา เจ้าของโครงการ บริษัท เสนา ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) ตั้งอยู่หัวมุมสี่แยกประชานุกูล พื้นที่โครงการ 6-1-52.6 ไร่ อาคารที่พักอาศัย 27 ชั้น 2 อาคาร จำนวน 840 ยูนิต ขนาด 1 ห้องนอน 30.08-39.57 ตร.ม./ 2 ห้องนอน 53.49-62.23 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 2.18 ล้านบาท
สรุป
โดยรวมแล้วโครงการนี้เด่นในเรื่องทำเลที่ตั้ง เพราะถนนประชาชื่นถือว่าเชื่อมต่อกับถนนเส้นอื่นได้หลายเส้นทาง อีกทั้งมีรถไฟฟ้าผ่านถึง 3 สาย รวมถึงใกล้แหล่งความเจริญ สถานที่ไลฟ์สไตล์มากมาย เหมาะทั้งซื้อเพื่ออยู่อาศัยและเก็งกำไร ยิ่งหากรถไฟฟ้าเปิดใช้อย่างเป็นทางการราคาที่ดินจะยิ่งขยับขึ้น 20-50% ส่วนราคาห้องพักประเภทคอนโดมิเนียมโดยเฉลี่ยปัจจุบันอยู่ที่ 80,000 – 100,000 บาท/ ตร.ม. ในอนาคตจึงมองว่าโอกาสที่ราคาจะขยับขึ้นอีกมีแน่นอน
อย่างไรก็ตาม ในแง่ของโครงการนั้นมีจำนวนยูนิตที่มากกว่าพันยูนิต และพื้นที่ส่วนกลางเกือบทั้งหมดไปกระจุกตัวอยู่ที่อาคาร B เพียงอาคารเดียว ฉะนั้นจึงต้องมีระบบการจัดการที่ดี เพื่อไม่ให้เกิดความวุ่นวาย นอกจากนี้ในเรื่องของการเดินทางในช่วงเวลาเร่งด่วนคงต้องคำนวณเวลาให้ดี เพราะถนนเส้นนี้ก็ขึ้นชื่อในเรื่องการจราจรที่หนาแน่นไม่แพ้ใคร
อัพเดทข่าวอสังหาริมทรัพย์ ทางอีเมลส่งตรงจากเว็บไซต์อสังหาฯ อันดับ 1 ของเมืองไทยฟรี สมัครได้ที่นี่
สนใจ คอนโดฯ ในโครงการนี้? เลือกชม รายการประกาศ ราคาโดนใจ