โครงการอินซิโอ้ เสรีไทย (Incio Serithai) คอนโด Low Rise 8 ชั้น 5 อาคาร และ 5 ชั้น 1 อาคาร ห้องชุดพักอาศัยรวม 508 ยูนิต และห้องชุดเพื่อการพาณิชย์ 5 ยูนิต ออกแบบในสไตล์โมเดิร์น มี 3 สระว่ายน้ำ 4 ฟิตเนส และสวนหย่อมตามจุดต่าง ๆ ราคาเริ่มต้น 2.xx ล้านบาท
สนใจ คอนโดฯ ในโครงการนี้? เลือกชม รายการประกาศ ราคาโดนใจ
ปัจจุบันทำเลยอดนิยมของอสังหาริมทรัพย์แนวดิ่งมักจะเป็นพื้นที่ใกล้แนว BTS และ MRT ในรัศมีไม่เกิน 500 ม. ซึ่งส่วนใหญ่ดีเวลลอปเปอร์ที่ได้ครอบครองที่ดินผืนงามใกล้เส้นทางคมนาคมแห่งยุคก็มักเป็นผู้พัฒนาระดับบิ๊กเนม ตลาดของคอนโดมิเนียมใกล้รถไฟฟ้าจึงมีการแข่งขันสูงจนเรียกได้ว่าบริเวณแนวรถไฟฟ้าสายสีเขียวใกล้กับแหล่งธุรกิจหรือแหล่งเมืองนั้นแทบจะไม่หลงเหลือพื้นที่ให้ปักเสาเข็มได้เลย และหนึ่งในแบรนด์ที่ยึดคอนเซ็ปต์ “Location is Everything” และได้ผลตอบรับเป็นอย่างดีจากจุดเด่นของโครงการใกล้สถานีรถไฟฟ้าอย่าง “เดอะ ไลน์” ของผู้พัฒนาชื่อดังอย่าง แสนสิริ ที่จับมือกับพันธมิตรคู่ใจอย่างบีทีเอส กรุ๊ป หลังจากที่ในปีที่ผ่านมา เปิดตัวไปแล้ว 3 โครงการ ได้แก่ เดอะ ไลน์ จตุจักร-หมอชิต (THE LINE Jatujak-Mochit), เดอะ ไลน์ สุขุมวิท 71 (THE LINE Sukhumvit 71) และเดอะไลน์ ราชเทวี (THE LINE Ratchathewi) มาในปี 2559 นี้ การร่วมทุนระหว่างสองผู้ประกอบการเบอร์ใหญ่ยังคงมีอยู่อย่างต่อเนื่อง โดยโครงการที่กำลังจะเปิดตัวล่าสุดนี้ ถือเป็นโครงการที่ 4 โดยจับเอาทำเลใกล้ MRT พระราม 9 (ห่างประมาณ 300 ม.) มาขยายพอร์ทของแบรนด์เดอะ ไลน์ กับโครงการ “เดอะ ไลน์ อโศก-รัชดา” (THE LINE Asoke – Ratchada) กับห้องขนาดเริ่มต้นที่ 27.5 ตร.ม. ในราคาเริ่มต้นที่ 3.99 ล้านบาท หรือประมาณ 168,000 บาทต่อตร.ม.
ข้อมูลโครงการ (ข้อมูล ณ วันที่ 14 มิถุนายน 2559)
ชื่อโครงการ: เดอะ ไลน์ อโศก – รัชดา (THE LINE Asoke – Ratchada)
ผู้พัฒนาโครงการ: บจ. บีทีเอส แสนสิริ โฮลดิ้ง ไนน์
ทำเลที่ตั้ง: แยกพระราม 9 ใกล้ MRT พระราม 9 ประมาณ 300 ม.
เว็บไซต์: http://www.sansiri.com/
โทร: 1685
รายละเอียดโครงการ
พื้นที่โครงการ: 2.5 ไร่
รูปแบบ: คอนโดมิเนียมไฮไรส์ 1 อาคาร สูง 38 ชั้น จำนวน 473 ยูนิต, อาคารจอดรถสูง 9 ชั้น พร้อมชั้นใต้ดิน 1 ชั้น 1 อาคาร
กลุ่มเป้าหมาย: เซ็กเมนต์ระดับกลางจนถึงกลุ่มผู้บริหาร
สถานะการก่อสร้าง: เริ่มก่อสร้าง 1 พฤศจิกายน 2559
คาดว่าจะแล้วเสร็จ: ประมาณต้นปี 2561
ลิฟท์: ลิฟท์โดยสายในอาคาร 3 ตัว, ลิฟท์ขนของ 1 ตัว, ลิฟท์โดยสารใรอาคารจอดรถอีก 2 ตัว
สถานะการขาย: เปิดขายครั้งแรกวันที่ 25-26 มิถุนายน 2559
เงินกองทุนสะสม: 600 บาท ต่อตร.ม.
ค่าส่วนกลาง: 70 บาทต่อตร.ม.
ที่จอดรถ: 48%
ราคาเริ่มต้น: 3.99 ล้านบาท
ราคาเฉลี่ย: 168,000 บาทต่อตร.ม.
รูปแบบห้อง
1 ห้องนอน 1 ห้องน้ำ ขนาด 27.50 – 28.00 ตร.ม. จำนวน 59 ยูนิต
1 ห้องนอน 1 ห้องน้ำ ขนาด 34.00 – 36.00 ตร.ม. จำนวน 389 ยูนิต
2 ห้องนอน 1 ห้องน้ำ ขนาด 46.25 – 50.25 ตร.ม. จำนวน 32 ยูนิต
รายละเอียดโครงการ
รีวิวภาพรวมโครงการ
บริเวณหน้าโครงการมีทางกลับรถอยู่หน้าโครงการเลย สามารถกลับรถมุ่งหน้ากลับไปทางพระราม 9 ได้อย่างง่ายดาย
โมเดลอาคาร สเกล 1:125 แบ่งเป็น 2 อาคารคือ อาคารที่พักอาศัยสูง 38 ชั้น และอาคารจอดรถ 9 ชั้นมีชั้นใต้ดิน 1ชั้น
ตามโมเดลโครงการมีส่วนกลางอยู่ที่ประมาณชั้น 23-26 ประกอบไปด้วย สระว่ายน้ำ ฟิตเนส ห้องสตีม ห้องซักรีด และสวนส่วนกลาง
โครงการเดอะ ไลน์ อโศก – รัชดา เป็นโครงการที่เกิดขึ้นระหว่างความร่วมมือระหว่างแสนสิริ และบีทีเอส กรุ๊ป โดยเลือกทำเลที่มีศักยภาพบริเวณใกล้กับแยกพระราม 9 ที่ตอบโจทย์ชีวิตคนเมืองทั้งในเรื่องของเส้นทางคมนาคมและสาธารณูปโภค รวมถึงเป็นแหล่งธุรกิจที่กำลังจะเป็น New CBD ของกรุงเทพฯ โครงการหยิบเอาสีน้ำเงินเอามาตีเป็นเส้นกริดของโครงการ คาดว่ารูปแบบน่าจะออกมาเป็นอาคารสมัยใหม่เหมือนโครงการเดอะไลน์ที่ผ่านมาเพียงแต่เน้นสีน้ำเงินเป็นหลัก และมีการดีไซน์อาคารภายในชั้นแรกให้เป็นล็อบบี้ที่มีความสูงโปร่งโดยเพดานมีความสูงกว่า 3 ม. ในแบบ Double Volume
โดยส่วนกลางของโครงการจะอยู่ที่บริเวณชั้น 23 – 26 ซึ่งประกอบไปด้วยสระว่ายน้ำ และฟิตเนสที่สามารถเทควิวสระว่ายน้ำและบรรยากาศของตัวเมืองได้ รวมไปถึงห้องสตีม สวนส่วนกลาง และห้องซักรีด ซึ่งเรียกได้ว่าสามารถตอบโจทย์ความสะดวกสบายได้ครบ
ในส่วนของห้องมีรูปแบบห้องหลาย Type ปรับเปลี่ยนไปตามพื้นที่ใช้งานของอาคาร แต่แบ่งหลักๆ ออกเป็นห้อง 1 ห้องนอน ไซส์ S กับ ไซส์ L และแบบ 2 ห้องนอน โดยจะเน้นยูนิต 1 ห้องนอน ไซส์ L ขนาด 34-36 ตร.ม. เป็นหลัก ซึ่งมีจำนวนยูนิตมากที่สุดในโครงการ เพื่อตอบโจทย์กลุ่มคนเมือง พนักงานออฟฟิศระดับซีเนียร์ที่มีกำลังจ่ายไหวกับห้องที่มีขนาดใหญ่กว่าห้องปกติทั่วไป
Master Plan
มาสเตอร์แปลนแบ่งเป็นสองส่วนคืออาคารจอดรถ ที่มีส่วนเชื่อมต่อไปถึงล็อบบี้ชั้นล่าง อาคารที่จอดรถมีลิฟท์โดยสาร 2 ตัว ส่วนในอาคารที่พักอาศัยมีลิฟท์โดยสาร 3 ตัว พร้อมลิฟท์ขนของ 1 ตัว
Floor Plan
ชั้นสองประกอบไปด้วยยูนิตพักอาศัย ส่วนใหญ่จะเป็นห้อง 1 ห้องนอนไซส์แอล สิ่งที่พิเศษกว่า Floor Plan ชั้นอื่นๆ คือมี Terrace Garden ที่หันออกไปทางทิศตะวันตก ซึ่งหากกลับไปดูที่การวางทิศทางโครงการด้านบน จะเป็นทิศที่วิวเคลียร์ที่สุด หากมองออกไปจะมองเห็น ตึก G Land เยื้องๆ กับโครงการด้วย
ชั้น 3 – 22 เป็นส่วนของยูนิตพักอาศัย ยูนิตต่อชั้นจะเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 17 ยูนิตต่อชั้น ทางเดินเข้าห้องเป็นแบบ Double Corridor ทิศทางของห้องมีระเบียงหันออกไปทางทิศตะวันออก และทิศตะวันตกเท่านั้น
ที่ชั้น 23 เป็นชั้นส่วนกลาง มี Lower Terrace สวนพักผ่อนขนาดไม่ใหญ่มาก หันไปทางทิศเหนือของโครงการ ซึ่งวิวด้านนี้จะเป็นอาคารสูงไม่เกิน 40 ชั้น ประมาณ 3 อาคาร แต่มีระยะห่างออกไปพอสมควร ไม่ได้อยู่ติดกับรั้วโครงการเสียทีเดียว
มาที่ชั้น 24 เป็นที่ตั้งของสระว่ายน้ำ หันออกไปทางทิศตะวันออก พร้อมสวนส่วนกลาง วิวทางทิศนี้จะเป็นค่อนข้างเคลียร์ไม่ต่างจากทิศตะวันตก จะเป็นอาคารสูงไม่เกิน 4 ชั้น หันไปทางซ้ายมือจะได้วิวสะพานข้ามแยกพระราม 9 ได้
ชั้น 25 ประกอบไปด้วยยูนิตที่พักอาศัยไซส์ S และ L คละกัน มีส่วนกลางฟิตเนตตั้งอยู่บริเวณทิศเหนือ แต่อุปกรณ์เครื่องออกกำลังกายจะหันหน้าออกไปทางทิศตะวันตกและทิศตะวันออก ซึ่งจะได้วิวทางฝั่งแยกพระราม 9 และส่วนกลางสระว่ายน้ำที่ชั้น 24 ได้
ชั้น 26 เป็นสวนส่วนกลางขนาดใหญ่ โครงการจัดให้เป็นสวนโยคะ สำหรับพักผ่อน ชั้นนี้ประกอบด้วยยูนิตพักอาศัยประมาณ 6 ยูนิตเท่ากับชั้น 25
ที่ชั้น 38 ซึ่งเป็นชั้นบนสุดของอาคาร มียูนิตที่พักอาศัยประมาณ 6 ยูนิต เป็นห้องไซส์แอล 5 ยูนิต และห้องไซส์เอสขนาดเริ่มต้นที่ 27.50 – 28 ตร.ม. 1 ยูนิต ชั้นบนสุดมีเลาจ์น ส่วนกลางหันออกไปทางทิศตะวันออก
บริเวณชั้นดาดฟ้าของโครงการเป็นสวนส่วนกลางขนาดใหญ่ พื้นที่ตรงกลางเป็นลานกว้างของทางหนีไฟ มีที่นั่งสำหรับพักผ่อนหย่อนใจ บริเวณทิศใต้จะได้วิวสะพานข้ามแยกพระราม 9
Unit Layout
แปลนห้อง Type 1A และ 1AM เป็นห้องขนาด 1 ห้องนอน 1 ห้องน้ำ พื้นที่ 27.50 – 28.00 ตร.ม. ซึ่งมีทั้งทั้งหมด 59 ยูนิต ความแตกต่างของห้อง 2 ห้องนี้คือ ห้องขนาด 27.50 ตร.ม. มีห้องนั่งเล่นอยู่ติดกับระเบียง และมีห้องครัวอยู่ทางเข้าห้องกับห้องขนาด 28.00 ตร.ม. ที่มีห้องนั่งเล่นอยู่ปากทางเข้าห้องและ มีห้องครัวติดอยู่กับระเบียง
แปลนห้อง Type นี้ เป็นห้องขนาด 1 ห้องนอน 1 ห้องน้ำ พื้นที่ 34.00 – 36.00 ตร.ม. มีทั้งหมด 389 ยูนิต จะแบ่งออกเป็นห้องที่มีระเบียงติดอยู่กับห้องนอนโดยส่วนใหญ่ และมีห้องที่มีระเบียงติดอยู่กับโซนห้องนั่งเล่นคือแปลนแบบ 1F, 1G และ 1H ซึ่งส่วนใหญ่ตำแหน่งของ 3 ห้องนี้จะวางอยู่ตรงหัวมุมของมาสเตอร์แปลนที่เป็นทิศเหนือ
2 ห้องนอน 1 ห้องน้ำ พื้นที่ 46.25 – 50.25 ตร.ม. มีทั้งหมด 32 ยูนิต อยู่ตั้งแต่ชั้น 27 ขึ้นไป ฟังก์ชั่นของห้องมีการใช้งานเหมือนกัน แตกต่างกันที่ขนาดห้อง และบริเวณห้อง Master Bedroom ที่ขนาด 50.25 ตร.ม. จะมี Walk-in Closet เพิ่มเข้ามา แต่แบบ 46.25 จะเปลี่ยนเป็นโซนซักล้างที่อยู่ติดกับห้องน้ำแทน
การวางทิศทางโครงการ
ทิศเหนือ: เป็นด้านหลังของโครงการ เป็นที่ตั้งของอาคารที่พักอาศัย มีคอนโดมิเนียมไฮไรส์โครงการอื่นความสูงไม่เกิน 40 ชั้น บังวิวในด้านนี้ แต่มีระยะห่างจากโครงการพอสมควร
ทิศตะวันตก: หากพูดถึงเรื่องวิว มุมสูงบริเวณนี้จะเป็นวิวที่เคลียร์ที่สุดในบรรดาสี่ทิศของโครงการ เพราะไม่มีตึกสูง สามารถมองออกไปเห็นแยกพระราม 9 จากตรงนี้ได้เลย ถัดไปจากรั้วโครงการเป็นบ้านพักอาศัยสูงไม่เกิน 2 ชั้น
สิ่งอำนวยความสะดวกภายในโครงการ
พื้นที่โถงต้อนรับ
สวนส่วนกลาง พร้อมพื้นที่สันทนาการกลางแจ้ง
สระว่ายน้ำพร้อมจากกุซซี่และสระเด็ก
ห้องออกกำลังกาย พร้อมอุปกรณ์
ห้องอบไอน้ำ
ห้องพักผ่อนอเนกประสงค์
ห้องซักผ้า
สวนชั้นดาดฟ้า
อินเตอร์เน็ตไร้สายบริเวณโถงต้อนรับ ห้องออกกำลังกาย และห้องสมุด
เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย ตลอด 24 ชม.
กล้องวงจรปิด ตลอด 24 ชม.
ที่จอดรถ
สิ่งที่จะได้รับจากโครงการ
พื้น: ห้องนอนและห้องนั่งเล่นเป็นลามิเนตหนา 12 มม., ห้องครัว ห้องน้ำ เป็นกระเบื้อง เซรามิกขนาด 60×60 ซม., ระเบียงเป็นกระเบื้องเซรามิกขนาด 30×30 ซม.
ผนัง: ผนังห้องฉาบปูนทาสี, เหนือเคาน์เตอร์ครัวมีการกรุกระจกเงา, ผนังห้องน้ำกรุกระเบื้องเซรามิก
ความสูงพื้นจรดเพดาน: 2.7 ม.
เครื่องปรับอากาศ: ระบบปรับอากาศแยกส่วนแบบติดผนัง สำหรับส่วนรับแขกและห้องนอนทุกห้อง
สุขภัณฑ์: Cotto
ชุดครัว: MEX
รีวิวภายในห้องตัวอย่าง
ห้องตัวอย่าง 1E 1 ห้องนอน 1 ห้องน้ำ ขนาด 34.76 ตร.ม.
ห้องตัวอย่าง Type 1 E ขนาด 34.75 ตร.ม. เป็นห้องไซส์แอล ที่มีจำนวนยูนิตมากที่สุดในโครงการ จากแปลนหน้าห้องจะเห็นได้เลยว่าผังห้องถูกแบ่งเป็นสองส่วนหลักๆ คือส่วนพักผ่อน และส่วนที่เป็นห้องนั่งเล่น โดยแบ่งเป็นขนาดพื้นที่ใช้สอยเท่าๆ กัน ฝั่งห้องนอนประกอบไปด้วยพื้นที่ระเบียง และห้องน้ำในตัว ส่วนฝั่งนั่งเล่นเป็นห้องครัว โซนรับประทานอาหาร และห้องนั่งเล่น
เมื่อเปิดประตูเข้ามาจะเป็นส่วนของห้องครัวที่อยู่ทางหน้าประตูทางเข้า พื้นห้องครัวเป็นกระเบื้องเซรามิก แบ่งแยกโซนกับห้องนั่งเล่นอย่างชัดเจน
เคาน์เตอร์ครัวที่โครงการมอบให้เป็นเคาน์เตอร์รูปตัวแอล พร้อม Hob & Hood ของ Mex และซิ้งค์ล้างจาน พร้อมพื้นที่เตรียมครัว ผนังครัวโครงการจะกรุกระจกเงาให้ตามภาพเลย ชั้นบนจะมีชั้นวางของ ด้านล่างมีชั้นเก็บของอเนกประสงค์พร้อมช่องวางไมโครเวฟขนาดมาตรฐานและช่องวางเครื่องซักผ้าแบบฝาหน้าที่โครงการติดตั้งระบบน้ำประปาให้เรียบร้อย
ถัดมาจากเคาน์เตอร์ครัวเป็นโซนรับประทานอาหาร โครงการจัดสรรให้ส่วนนี้เป็นจุดวางโต๊ะอาหารขนาด 2 ที่นั่ง โดยจะเน้นการใช้งานให้ห้องนั่งเล่นมีพื้นที่ใช้สอยมากขึ้น
พื้นที่ห้องนั่งเล่นเชื่อมต่อกับหน้าต่างบานใหญ่แบบเลื่อนสองตอน สามารถเปิดรับลมเป็นระเบียงในตัวห้องได้ เพราะมีที่กั้นตกเป็นลูกกรงเหล็กกั้นอยู่ด้านในห้อง ห้องตัวอย่างเลือกติดตั้งทีวีบนผนัง ระยะห่างระหว่างโซฟาถึงผนังประมาณ 2-3 ม. จากภาพสามารถวางทีวีติดผนังขนาด 65 นิ้วได้โดยมีระยะห่างอยู่ในเกณฑ์มาตรฐานได้
จากพื้นที่ทั้งหมดของโซนนี้หากจัดสรรดีๆ จะสามารถวางโซฟารูปตัวแอลขนาด 3-4 ที่นั่งได้สบายๆ พร้อมวางโต๊ะกลางขนาดไม่ใหญ่มากได้
บริเวณฝั่งผนังชั้นวางทีวีที่สุดริมห้องเป็นประตูเปิดเข้า-เปิดออกสู่ระเบียงที่เชื่อมต่อกับโซนห้องนั่งเล่น
ระเบียงมีหน้ากว้างเท่ากับขนาดของห้องนอน ความกว้างของตัวระเบียงอยู่ที่ประมาณ 1 ม. สามารถวางเก้าอี้เล็กๆไว้นั่งจิบกาแฟตอนเช้าได้ ที่กั้นตกเป็นวัสดุพรีเมี่ยมอย่าง ลามิเนตกลาส พร้อมเฟรมแบบสเตนเลสสตีล
บริเวณฝั่งตรงข้ามห้องครัวมีชั้นวางของและชั้นวางรองเท้าอยู่ทางหน้าประตู ตรงกลางห้องเป็นประตูทางเชื่อมเข้าสู่ห้องนอน ห้องตัวอย่างยังไม่ได้ติดตั้งประตู แต่แบบห้องจริงมีประตูกั้น
ภายในห้องนอน เชื่อมต่อกับระเบียงของห้องด้วยประตูบานกระจกใสวงกบอะลูมิเนียม แบบเลื่อนสองตอน สามารถเข้า-ออกระเบียงจากทางห้องนอนได้เช่นกัน ด้านหลังเตียงเป็นผนังห้องมีบานกระทุ้งสองมุมตามภาพสามารถเปิดรับลมได้ ห้องนอนมีขนาดใหญ่มาก สามารถวางเตียงคู่ แบบ 3.5 ฟุต ได้สองเตียง หรือเตียงขนาดคิงไซส์ก็ได้ โดยเหลือพื้นที่ให้เดินปลายเตียงประมาณ 1 ม.
อีกฝั่งหนึ่งของห้องเป็นตู้เสื้อผ้าบิลท์อินแบบ Customized Design by Sansiri เป็นตู้เสื้อผ้าที่ได้รับจริงจากโครงการ แบ่งออกเป็นชั้นห้อยกุญแจ ชั้นวางของ และส่วนของตู้เสื้อผ้าแบบประตูกระจกบานเลื่อน ซึ่งประหยัดพื้นที่ใช้สอยมากกว่าตู้เสื้อผ้าแบบบานพับเปิดเข้า-ออก ส่วนทางซ้ายมือเป็นประตูทางเข้าไปสู่ห้องน้ำในตัวของห้องนอน
ภายในห้องน้ำประกอบด้วยสุขภัณฑ์ของ Cotto ประกอบด้วยอ่างล้างหน้า แบบก็อกผสมน้ำอุ่น น้ำเย็น และชั้นวางของด้านบนกรุกระจกเงา โครงการติดตั้งปลั๊กไฟให้พร้อมแต่ไม่มีฝาครอบกันน้ำสามารถติดเพิ่มได้ โดยในห้องน้ำแบ่งแยกโซน เปียกโซนแห้งชัดเจน โดยบริเวณ Shower Box มีกระจกใสกั้น
ห้องตัวอย่าง 2B 2 ห้องนอน 1 ห้องน้ำ ขนาด 50.25 ตร.ม.
มาถึงห้องนอนขนาดใหญ่ Type 2B ขนาด 50.25 ตร.ม. เป็นห้องที่มีระเบียงอยู่ติดกับโซนห้องนั่งเล่นทางขวามือ ส่วนในห้องนอนใหญ่ จะมี Walk-in Closet หรือพื้นที่สำหรับการแต่งตัว
เมื่อเปิดประตูเข้ามาจะแบ่งออกเป็นสองส่วนหลักๆ คือ ส่วนของห้องครัว และห้องนั่งเล่น โดยห้องครัวจะประกอบไปด้วยชุดโต๊ะรับประทานอาหารขนาด 4 ที่นั่ง และเคาน์เตอร์ครัว ส่วนของพื้นที่นั่งเล่นจะเชื่อมต่อกับระเบียงกั้นโซนด้วยประตูบานเลื่อน 2 ตอนกระจกเขียวตัดแสง วงกบอะลูมิเนียม พื้นของห้องครัวและห้องนั่งเล่นถูกแบ่งโซนชัดเจน พื้นห้องครัวจะเป็นกระเบื้องเซรามิกขนาด 60×60 ซม. และพื้นห้องนั่งเล่นจะเป็นลามิเนตหนา 12 มม.
เคาน์เตอร์ครัวเป็นรูปตัวแอล ซึ่งมีขนาดใหญ่กว่าเคาน์เตอร์ในห้องแบบ 1 ห้องนอน แต่มีฟังก์ชันการใช้งานเหมือนกัน โดยมีทั้งเตาสองหัวของ Mex พร้อมเครื่องดูดควัน Mex และซิงค์ล้างจาน โดยท็อปของเคาน์เตอร์ครัวกรุด้วยหินธรรมชาติ และผนังบริเวณครัวกรุด้วยกระจกเงา ในส่วนของครัวจะได้รับเหมือนห้องตัวอย่างเลย แต่ไม่ได้รับเครื่องใช้ไฟฟ้า
ห้องแบบ 2 ห้องนอนสามารถจัดสรรห้องได้อย่างลงตัว ถึงแม้จะวางโต๊ะกินข้าวขนาด 4 ที่นั่ง แต่ก็ยังเหลือพื้นที่ทางเดินระหว่างโซนห้องครัวและโซนห้องนั่งเล่นกว้างกว่า 1.5 ม. เรียกได้ว่าเดินสวนเข้า-ออกกันได้แบบไม่ชนกันเลย โครงการมอบเครื่องปรับอากาศแบบติดผนังบริเวณห้องนั่งเล่นให้ 1 ตัว
ระเบียงห้องนอนที่เชื่อมต่อกับห้องนั่งเล่นเป็นระเบียงที่มีขนาดความกว้างเท่ากับระเบียงของห้องแบบ 1 ห้องนอน คือประมาณ 1 ม. โดยมีที่กั้นตกเป็นโครงสเตนเลสรมควันสีน้ำตาล พร้อมหน้าต่างบานกระทุ้งความสูงจรดเพดานสองตอน พื้นระเบียงปูด้วยกระเบื้องเซรามิกขนาด 30×30 ซม.
เมื่อเดินมาบริเวณส่วนที่เป็นทางเชื่อมไปสู่ห้องนอนใหญ่ ทางซ้ายมือจะเป็นประตูทางเข้าห้องนอนเล็ก ซึ่งห้องจริงจะมีการติดตั้งประตูสำหรับเปิด-ปิด
โครงการจัดสรรห้องนอนเล็กให้เป็นมุมทำงาน มุมผนังของห้องเป็นกระจกบานฟิกซ์วงกบอะลูมิเนียมรมควันสีน้ำตาล จากภาพพื้นที่ของห้องมีขนาดกว้างพอที่จะวางเตียงคิงไซส์ พร้อมตู้เสื้อผ้าขนาดไม่ใหญ่มากได้ พื้นห้องเป็นลามิเนตหนา 12 มม.
ฝั่งตรงข้ามห้องนอนที่ 1 เยื้องๆ กัน เป็นประตูทางเข้าห้องน้ำกลางของห้อง Type 2 B ประกอบด้วยสุขภัณฑ์ครบครัน อ่างล้างหน้ามีชั้นเก็บของใต้ซิงค์ พร้อมบานกระจกเงา โซนอาบน้ำกั้นด้วยประตูกระจกใส พร้อมธรณีกันน้ำไหลที่ทำสูงขึ้นมาประมาณ 2-3 ซม. ฝักบัวที่โครงการมอบให้เป็นแบบฝักบัวขนาดใหญ่ พร้อมก็อกแบบผสมน้ำอุ่นน้ำเย็น ที่โครงการติดตั้งจุดติดเครื่องทำน้ำอุ่นมาไว้ให้
จากมุมหน้าประตูของห้องนอนหนึ่ง ซึ่งจากแปลนจะเห็นว่าโครงการออกแบบฟังก์ชันการใช้งานมาเพื่อให้ผู้อยู่อาศัยเลือกฟังก์ชันการใช้งานของห้องนอนใหญ่ได้
ทําเล & การเดินทาง
วิเคราะห์ศักยภาพทำเลพระราม 9 (อโศก – รัชดา)
ปัจจุบันที่ดินเปล่าติดถนนพระราม 9 เหลือน้อยมากแล้ว แต่โครงการ เดอะ ไลน์ อโศก – รัชดา ก็สามารถแย่งชิงพื้นที่ไข่แดงโซนพระราม 9 ที่เรียกได้ว่าเกือบจะเป็นที่ดินผืนสุดท้ายมาได้ และถึงแม้พระราม 9 จะไม่หลงเหลือที่ดินเปล่าในการพัฒนา แต่พระราม 9 ก็เป็นทำเลที่ได้รับการพูดถึงในช่วง 2-3 ปีหลังมานี้ในการที่กำลังขึ้นแท่นเป็น New CBD หรือย่านศูนย์กลางธุรกิจแห่งใหม่ของกรุงเทพฯ โดยมีการเข้ามาลงทุนในพื้นที่เกิดเป็นเม็ดเงินหมุนเวียนมากขึ้นเป็นเท่าตัว ด้วยการแข่งขันทางการตลาดจากการหาที่ดินตรงนี้ ปัจจุบัน โครงการเดอะ ไลน์ อโศก – รัชดา ได้เริ่มเข้าไปล้อมรั้วที่ดิน ซึ่งเป็นที่ตั้งโครงการไม่ไกลจากแยกพระราม 9 และสถานี MRT พระราม 9
ทีนี้มามองในแง่ของราคาที่ดิน จากการสำรวจโครงการบริเวณนี้จะพบว่า โครงการส่วนใหญ่มีราคาเริ่มต้นที่ประมาณ 150,000 บาทต่อตร.ม. ขึ้นไป ซึ่งราคามีการขยับตัวที่รุนแรงมากหลังจากมีการเปิดให้บริการรถไฟฟ้าใต้ดินเมื่อ 10 กว่าปีก่อน ทำให้ช่วง 5-6 ปีต่อมาหลังจากมีการลงทุนโครงการต่างๆ จากทั้งในไทยและต่างชาติ จากนั้นราคาที่อยู่อาศัยแนวดิ่งที่อยู่ในเรทราคาไม่เกิน 100,000 บาท/ ตร.ม.ก็มีอัตราพุ่งขึ้นสูงไปถึง 150,000 – 160,000 บาท/ตร.ม. ซึ่งราคาตรงนี้อาจมีความแตกต่างกันเล็กน้อย ตามระยะทางห่างจากสถานี MRT โดยนับเฉพาะโซนที่เป็นไข่แดงของพระราม 9 เท่านั้น ซึ่งโซนที่น่าจับตาที่สุดก็คงหนีไม่พ้นโซนที่เป็นที่ตั้งของโครงการบริเวณแยกพระราม 9 ทำเลดังกล่าวถือว่ามีความสะดวกสบายนการเดินทาง เพราะนอกจากรถไฟฟ้า MRT ที่เชื่อมต่อไปยัง BTS สายสีเขียวได้ ยังสามารถเชื่อมต่อกับ Airport Link สถานีมักกะสันบนถนนเพชรบุรี สามารถเดินไปทางไปสนามบินสุวรรณภูมิ-ลาดกระบังได้อย่างสะดวกรวดเร็ว อีกทั้งยังอยู่ไม่ไกลจากจุดขึ้น-ลงทางด่วนศรีรัช เชื่อมต่อไปยังทางด่วนสายต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นทางพิเศษเฉลิมมหานครเพื่อออกพระราม 2 – บางนาได้ หากเชื่อมไปสู่ทางพิเศษอุตราภิมุขก็สามารถเชื่อมต่อไปสู่วิภาวดี – รังสิตได้เลย หรือหากจะเดินทางไปสู่รามอินทรา – เกษตร นวมินทร์ก็สามารถออกทางพิเศษฉลองรัช และเชื่อมต่อไปยังมอเตอร์เวย์สายกรุงเทพฯ – ชลบุรีได้
ด้วยเหตุผลต่างๆ ที่กล่าวมาทำให้บริเวณที่ตั้งโครงการ เดอะ ไลน์ อโศก – รัชดา มีภาษีที่ดีและถูกจับตาในแง่ของการอยู่อาศัยและการลงทุน เพราะเชื่อว่าพื้นที่บริเวณนี้ยังมีแนวโน้มราคาที่ดีต่อไปในอนาคต ด้วยอานิสงส์จากความครบครันในพื้นที่ รวมถึงโครงการต่างๆ ที่จะเกิดขึ้นในอนาคต อาทิ ตึก The Super Tower ของค่ายจีแลนด์ที่จะกลายเป็นตึกที่สูงที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ หรือโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม (ตลิ่งชัน-มีนบุรี) ที่ช่วงสายตะวันตกจะมีสถานีเริ่มต้นจากสถานีรถไฟตลิ่งชัน วิ่งตรงมาเชื่อมต่อกับโครงการรถไฟฟ้ามหานครสายเฉลิมรัชมงคลบริเวณศูนย์วัฒนธรรม และเบี่ยงเข้าสู่พระราม 9 ไปสิ้นสุดที่สถานีสุวินทวงศ์บริเวณมีนบุรี
วิเคราะห์ทำเลที่ตั้งโครงการ
โครงการ เดอะ ไลน์ อโศก – รัชดา อยู่ติดกับถนนอโศก – ดินแดงฝั่งที่มุ่งหน้าไปดินแดง ที่ตั้งอยู่ห่างจากแยกพระราม 9 ประมาณ 200 ม. โดยมีเส้นทางรถไฟฟ้าที่ใกล้ที่สุดคือ MRT สถานีพระราม 9 ทางออก 3 อยู่ห่างจากโครงการประมาณ 300 ม. ซึ่งจำเป็นต้องข้ามถนนไปยังฝั่งถนนรัชดาภิเษกและข้ามไปยังฝั่งถนนที่เป็นที่ตั้งของเซ็นทรัล พระราม 9 แต่หากไม่ต้องการข้ามถนน 2 จังหวะ สามารถข้ามทางม้าลายหน้าโครงการ และเดินตรงไปที่แยกพระราม 9 เลี้ยวซายไปสู่ทางเข้า-ออกของ MRT สถานีพระราม 9 บริเวณฟอร์จูนได้ แต่ระยะทางจะไกลกว่า ซึ่งทางออกนี้มีระยะห่างจากโครงการในระยะเดินประมาณ 400 ม.
นอกจากความสะดวกจากเส้นทางคมนาคมทางรถไฟฟ้าแล้ว อีกหนึ่งเส้นทางสำหรับผู้ใช้รถยนต์ก็คือ ทางด่วนศรีรัช ซึ่งโครงการจะอยู่หากจากจุดขึ้น – ลงบริเวณถนนจตุรทิศอยู่ที่ประมาณ 1 กม. หรือเมื่อออกจากโครงการมาให้รีบเบี่ยงขวาแล้วกลับรถมุ่งหน้าไปทางแยกพระราม 9 แล้วเลี้ยวขวาตรงมาอีกประมาณ 250 ม. จากนั้นเลี้ยวซ้ายที่ถนนจตุรทิศ วิ่งเลียบทางด่วนมาสักประมาณ 470 ม. จะเจอทางขึ้นทางด่วนศรีรัชฝั่งมุ่งหน้าไปพระราม 9 – รามอินทรา และสามารถไปเชื่อมต่อกับมอเตอร์เวย์สายกรุงเทพฯ – ชลบุรี เดินทางไปสุวรรณภูมิได้ง่ายด้วยระยะทางที่เป็นเส้นตรงบนทางด่วนประมาณ 35 กม. และยังมี Airport Link สถานีมักกะสันอีกหนึ่งช่องทาง โดยอยู่ห่างจากโครงการไม่เกิน 1 กม. บนถนนกำแพงเพชร 7 ซึ่งหากมาจากโครงการต้องกลับรถมุ่งหน้ามาเลี้ยวขวาที่แยกพระราม 9 ตรงมาประมาณ 600 ม. ก็จะเจอแยกถนนกำแพงเพชร 7 ให้เลี้ยวขวาตรงไปอีกนิดก็จะเป็น Airport Link สถานีมักกะสันเลย
ในส่วนของสาธารณูปโภค และสิ่งอำนวยความสะดวกรอบโครงการคงไม่ต้องพูดถึงมาก เพราะมีทั้งทางฝั่งถนนพระราม 9 และฝั่งถนนรัชดาฯ โดยสถานที่ไลฟ์สไตล์ส่วนใหญ่จะกระจุกตัวอยู่บนถนนรัชดาฯ มากกว่า
การเดินทาง
รถยนต์
ทางด่วนยมราช
หากเดินทางมาจากฝั่งถนนราชดำเนินสามารถเดินทางไปทางถนนหลานหลวงมุ่งตรงสู่แยกยมราช จะเลือกขึ้นทางด่วนหรือไปทางปกติก็ได้ หากเลือกขึ้นทางด่วนศรีรัช ให้ขึ้นตรงยมราช มุ่งหน้าไปตามป้ายพระราม 9 และมาลงที่ทางออกพิเศษอโศก จากนั้นเลี้ยวซ้ายขึ้นไปที่แยก อ.ส.ม.ท. ประมาณ 200 ม. แล้วเลี้ยวขวา จากนั้นตรงไปผ่านแยกอโศก-พระราม 9 ตรงมาไม่เกิน 300 ม. จะเจอโครงการอยู่ทางซ้ายมือ
เส้นทางปกติ
หากเลือกมาทางปกติ จากถนนราชดำเนินให้ใช้เส้นทางบนถนนศรีอยุธยา โดยออกจากราชดำเนินที่แยกพระบรมรูปทรงม้า จากนั้นตรงขึ้นสะพานราชปรารภ และเลี้ยวซ้ายลงทางออกแรกไปสู่ถนนดินแดง จากนั้นเลี้ยวขวาวิ่งไปตามถนนเลียบสะพาน ประมาณ 700 ม. จะเจอแยกพระราม 9 ให้กลับรถแล้วมุ่งตรงมาประมาณ 200 ม. จะเจอโครงการอยู่ทางซ้ายมือ
MRT
หากเดินทางมาจาก MRT ให้ใช้ทางออกที่ 1 หรือทางฟอร์จูน ทาวเวอร์ จากนั้นเดินตรงขึ้นมาทางถนนดินแดง 300 ม. แล้วข้ามถนนมาฝั่งที่มุ่งหน้าไปถนนดินแดง เดินตรงตามถนนมาเรื่อยๆ ก็จะเจอตัวโครงการอยู่ทางซ้ายมือ
สถานที่แนวไลฟ์สไตล์
ศูนย์รวมแหล่งไลฟ์สไตล์ในย่านนี้ก็คือบริเวณถนนรัชดาฯ นับตั้งแต่เซ็นทรัล พระราม 9 ฟอร์จูนฯ ยาวออกไป ถึงเอสพลานาด ที่มีตลาดนัดรถไฟรัชดาและยาวออกไปถึงคอมมูนิตี้มอลล์ เดอะ สตรีท รวมไปถึงโครงการ เดอะ แกรนด์ พระราม 9 โซนอนาคตใหม่ที่ประกอบไปด้วยอาคารสำนักงาน ร้านค้า รวมไปถึงคอนโดมิเนียมด้วย ส่วนย่านแฮงก์เอาท์ชื่อดังของโซนนี้คงหนีไม่พ้น RCA ที่ประกอบไปด้วยผับ บาร์ชื่อดังตลอดซอย โดยมีระยะห่างจากโครงการเพียง 2 กม. เท่านั้น
สถานที่สำคัญใกล้โครงการ
อาคารสูง
AIA Capital Center
ตึกสำนักงานใหญ่ ตลาดหลักทรัพย์ (SET)
Cyber World Tower (อาคารรัชดา สแควร์ ทาวเวอร์ เดิม)
True Tower
G Land Tower พระราม 9
The Super Tower พระราม 9 (คาดว่าจะแล้วเสร็จปี 2563)
สถานที่ราชการ
สถานฑูตฯ จีน
สถานฑูตฯ เกาหลี
กรมสุขภาพจิต กระทรวงสาธารณะสุข
สถานที่แนวไลฟ์สไตล์
ฟอร์จูนทาวน์
เซ็นทรัล พลาซ่า แกรนด์ พระราม 9
เทสโก้ โลตัส ฟอร์จูน ทาวน์
บิ๊กซี รัชดาภิเษก
เอสพลานาด รัชดาภิเษก
ตลาดนัดรถไฟ รัชดา
ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย
RCA
โรงพยาบาล
โรงพยาบาลพระราม 9
โรงพยาบาลปิยะเวท
โรงเรียนและมหาวิทยาลัย
โรงเรียนแม่พระฟาติมา
โรงเรียนเซนต์ดอมินิก
โรงเรียนนานาชาติ NIST
โรงเรียนวัฒนาวิทยาลัย
มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ ประสานมิตร
บทวิเคราะห์
วิเคราะห์อัตราผลตอบแทนที่จะได้รับ
โครงการมีภาษีดีจากการที่อยู่ห่างจาก MRT สถานีพระราม 9 ประมาณ 300 ม. ซึ่งจากการสำรวจห้องชุดขนาดประมาณ 27-28 ตร.ม. ในย่านพระราม 9 จะมีอัตราค่าเช่าอยู่ที่ประมาณ 16,000 – 17,000 บาท ซึ่งเป็นราคา ณ ปัจจุบัน หากมองในแง่การลงทุนเมื่อโครงการเสร็จพร้อมอยู่ราคาค่าเช่าและราคาเฉลี่ยจะต้องเพิ่มขึ้นจากการพัฒนาในพื้นที่เพิ่มขึ้นมาเรื่อยๆ ทั้งในแง่ของธุรกิจ และเส้นทางคมนาคมของรถไฟฟ้าสายสีส้มที่ตัดผ่านเส้นพระราม 9 ดังนั้นหากกำลังกำเงิน 4 ล้านอยู่ในมือ โครงการนี้ถือเป็นหนึ่งในโครงการที่น่าลงทุนทั้งการปล่อยเช่า และเก็งกำไรระยะยาว
เปรียบเทียบกับโครงการอื่น
เอ สเปซ ไอดี อโศก-รัชดา (A Space I.D. Asoke – Ratchada)
ผู้พัฒนาโครงการ: บริษัท อารียา พรอพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน): A
ทำเลที่ตั้ง: ถนนดินแดง แขวงดินแดง เขตดินแดง กรุงเทพฯ
พื้นที่โครงการ: 2 ไร่ 1 งาน 83.70 ตร.ม.
รูปแบบ: คอนโดมิเนียมไฮไรส์ความสูง 30 ชั้น จำนวน 543 ยูนิต และร้านค้า 4 ยูนิต
ราคาเริ่มต้น: 3.69 ล้านบาท
ราคาเฉลี่ย: ประมาณ 110,000 บาทต่อตร.ม.
มาเอสโตร 03 รัชดา – พระราม 9 (Maestro 03 Ratchada – Rama 9)
ผู้พัฒนาโครงการ: บริษัท เมเจอร์ ดีเวลลอปเม้นท์ เอสเตท จำกัด
ทำเลที่ตั้ง: ซอยรัชดาภิเษก 3 ติดกับสถานฑูตจีน เขตดินแดง กรุงเทพฯ
พื้นที่โครงการ: 3-0-18 ไร่
รูปแบบ: คอนโดมิเนียม 3 อาคาร 8 ชั้น ที่จอดรถใต้ดิน 2 ชั้น จำนวน 321 ยูนิต (ห้องพักอาศัย 320 ยูนิต 1 ยูนิตสำหรับสำนักงานขาย)
ที่จอดรถ: 55% ของโครงการ
ราคาเริ่มต้น: 3.5 ล้านบาท
ราคาเฉลี่ย: 120,000 บาทต่อตร.ม.
แอสปาย พระราม 9 (Aspire Rama 9)
ผู้พัฒนาโครงการ: บริษัท เอพี (ไทยแลนด์) จำกัด (มหาชน)
ที่ตั้งโครงการ: ห้วยขวาง
ลักษณะโครงการ: คอนโด High Rise 2 อาคาร อาคาร A 23 ชั้น, อาคาร B 25 ชั้น, 663 ยูนิต และร้านค้า 1 ยูนิต
ยูนิตต่อชั้นสูงสุด 17
ที่จอดรถประมาณ: 311 คันคิดเป็น 46% รวมจอดซ้อนคัน คิดเป็น 49%
พื้นที่โครง: 4-2-48.3 ไร่
รูปแบบ: 1 Bedroom 32 – 49 ตร.ม., 2 Bedrooms 49.2 – 66.2 ตร.ม.
ราคาเริ่มต้น: 3.1 ล้านบาท
ราคาเฉลี่ย: 96,800 บาทต่อตร.ม.
สรุป
แม้ว่าปัจจุบันพื้นที่บนทำเลพระราม 9 บริเวณอโศก – รัชดาฯ จะได้รับการพัฒนาพื้นที่ให้เป็นไปในรูปแบบเชิงพาณิชย์และที่อยู่อาศัยไปมากแล้ว แต่ระดับความต้องการของผู้บริโภคที่อยากมาใช้ชีวิตอยู่บนทำเลนี้ก็มีมากขึ้นไปด้วยเนื่องจากพื้นที่นี้กำลังก้าวขึ้นสู่การเป็น NEW CBD ดังนั้นในเรื่องของความสะดวกสบายจึงเป็นปัจจัยที่ส่งผลให้ราคาที่อยู่อาศัยบริเวณนี้มีราคาที่สูงขึ้น ในขณะที่การลงทุนก็มีโอกาสที่ดี เพราะด้วยความครบครันของทำเล คงทำให้การปล่อยเช่าง่ายขึ้นเพราะน่าจะมีดีมานด์รองรับ ราคาต้นทุน (ที่ดิน) ที่ถูกกว่าฝั่งถนนสุขุมวิทกับสาธารณูปโภคที่เรียกได้ว่าไม่แตกต่างกัน ประกอบกับพื้นที่ที่ยังสามารถอัพราคาขึ้นไปได้ในอนาคต ทำให้ยังมีโอกาสเติบโตได้ง่ายกว่าทำเลโซนเมืองอื่นๆ ซึ่งในด้านการลงทุนโครงการย่านนี้อาจจะมีราคาที่แตกต่างกันเล็กน้อย หากผู้บริโภคต้องการซื้อเพื่ออยู่อาศัยก็สามารถเลือกโครงการที่ห่างจากสถานีรถไฟฟ้าไปสักหน่อย (แต่ยังอยู่ในระยะที่เดินได้) ก็จะได้ราคาที่ถูกกว่ากันแล้ว แต่ถ้าต้องการจะลงทุนก็เลือกโครงการที่อยู่ใกล้ขึ้นมาอีกนิดในรัศมี 100-200 ม. ก็จะมีโอกาสในการรับผลกำไรที่มากกว่า สิ่งที่น่าสนใจก็คือ ว่าโครงการเดอะไลน์ อโศก-รัชดานี้จะได้การตอบรับที่ดีดังเช่น อีก 3 โครงการในแบรนด์เดอะไลน์ที่เปิดตัวไปก่อนหน้านี้หรือไม่
สนใจ คอนโดฯ ในโครงการนี้? เลือกชม รายการประกาศ ราคาโดนใจ