ลุมพินี วิลล์ แจ้งวัฒนะ 10 คอนโด Low Rise 8 ชั้น 2 อาคาร ห้องชุดจำนวน 476 ยูนิต พร้อมลานกิจกรรม และลานออกกำลังกายขนาดใหญ่ รองรับการพักอาศัยช่วง Work from Home ได้อย่างลงตัว ราคาเริ่มต้นเพียง 1.45 ล้านบาท
สนใจ คอนโด ในโครงการนี้? เลือกชม รายการประกาศ ราคาโดนใจ
เป็นที่ฮือฮาเป็นอย่างมากสำหรับชาวฝั่งพระรามสามที่มีดีเวลลอปเปอร์อย่าง บริษัท คณาพญา พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด เข้ามาปักหมุดสร้างโครงการที่จะเป็นที่ตั้งของโรงแรมห้าดาวและเรสซิเดนซ์ พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกในระดับ exclusive luxury โครงการ คณาพญา เรสซิเดนซ์ (Canapaya Residences) มีจุดเด่นที่แตกต่างจากโครงการอื่นๆ นั่นคือ การมีทำเลตั้งอยู่บนโค้งของแม่น้ำที่ทุกยูนิตสามารถรับชมวิวในมุมมอง 270 องศาได้ รวมถึงบนถนนเส้นพระราม 3 คือถนนที่มีความเงียบสงบแต่ในขณะเดียวกันใกล้ใจกลางเมืองหรือโซนศูนย์กลางธุรกิจ (CBD) หากใครที่คุ้นเคยกับพื้นที่ทำเลแห่งนี้เป็นอย่างดีหรืออยู่อาศัยมาตั้งแต่เด็กคงจะต้องแปลกใจว่าถนนเส้นนี้ยังสามารถคงความสงบปราศจากความวุ่นวายได้อย่างไรทั้งที่ถัดไปก็เป็นโซนของสาทรและอโศกแล้ว อีกทั้งริมฝั่งแม่น้ำ (พระราม 3-รัชดาภิเษก) เส้นเดียวกับตัวโครงการเองยังคงไม่มีคู่แข่งใดๆขึ้นโครงการในระดับไฮไรส์ จุดนี้เป็นจุดการันตีได้ว่าผู้อยู่อาศัยจะได้สัมผัสกับคำว่าพื้นที่ริมน้ำอย่างแท้จริง
เจาะลึกข้อมูลโครงการ (ข้อมูล ณ วันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2559)
ชื่อโครงการ: คณาพญา เรสซิเดนซ์ (Canapaya Residences)
ผู้พัฒนาโครงการ: บริษัท คณาพญา พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด
ทำเลที่ตั้ง: ถนนพระราม 3
พื้นที่โครงการ: 12.5 ไร่ (20,000 ตร.ม.) ส่วนของเรสซิเดนซ์ 4-0-51 ไร่
รูปแบบ: คอนโดมิเนียมความสูง 57 ชั้น
เจาะกลุ่มเป้าหมาย: กลุ่มนักลงทุนและผู้ที่อยากเป็นเจ้าจองอสังหาฯ ริมน้ำ
สถานะการก่อสร้าง: แล้วเสร็จประมาณปลายปี 2560
ระบบความปลอดภัย: Digital Door Lock, คีย์การด์เข้า-ออก, รปภ. 24 ช.ม.
พื้นที่จอดรถ: 170%
สถานะการขาย: 60%
ค่าส่วนกลาง: 70 บาท/ ตร.ม./ เดือน
ค่ากองทุน: 800 บาท/ ตร.ม.
ราคาเฉลี่ย: 230,000 บาทต่อ ตร.ม. (ข้อมูล ณ วันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2559)
จำนวนห้องพัก: 188 ยูนิต
แบบห้องพัก
1 ห้องนอน ขนาด 45, 68 ตร.ม.
2 ห้องนอน ขนาด 69, 85, 90, 91, 96 ตร.ม.
2 ห้องนอน (ดูเพล็กซ์) ขนาด 77, 78 ตร.ม.
3 ห้องนอน ขนาด 92, 100, 136, 152, 156, 159, 162, 163, 199 ตร.ม.
4 ห้องนอน ขนาด 238, 241, 247, 248 ตร.ม.
Penthouse Duplex ขนาด 188, 228, 301, 422, 473, 652 ตร.ม.
สิ่งอำนวยความสะดวก
-ที่จอดเรือยอร์ชส่วนตัวจำนวน 30 ลำ
-คลับเฮ้าส์ พื้นที่กว่า 1,000 ตร.ม.
-ฟิตเนส
-สระว่ายน้ำ
-lounge area
-business center
-Wifi internet
เว็บไซต์โครงการ: www.canapaya.com
รายละเอียดโครงการ
รีวิวห้องตัวอย่างโครงการ
ห้องตัวอย่างที่จัดแสดง ณ สำนักงานขายมีด้วยกัน 3 แบบ คือ 1 ห้องนอน ขนาด 45 ตร.ม., 2 ห้องนอน 85 ตร.ม. และ 3 ห้องนอน 147 ตร.ม.
โซน living
ห้องนอน
ห้องน้ำ (สามารถเข้าได้จากห้องนอนและโซนครัว)
ห้องตัวอย่างแบบ 2 ห้องนอน 85 ตร.ม.
layout
ประกอบด้วย:
-1 โซนครัว
-1 โซนนั่งเล่น
-1 โซนรับประทานอาหาร
-1 master bedroom + ห้องน้ำในตัว
-1 ห้องนอนเล็ก
-1 ห้องน้ำ (ตรงข้ามห้องนอนเล็ก)
พื้นที่กว้างพอสำหรับวางโต๊ะระหว่างทีวีและติดตั้งชั้นวางทีวีได้/ หลังโซฟายังสามารถวางเป็นโต๊ะทำงานหรืออ่านหนังสือยามดูทีวีได้
ฝั่งขวาของโซนรับประทานอาหารจะเป็นทางเข้าสู่ห้องนอนใหญ่ (ตรงกลาง) ห้องนอนเล็ก (ซ้ายมือ) ห้องน้ำ (ขวามือ)
ห้องนอนเล็ก
ห้องน้ำฝั่งตรงข้ามห้องนอนเล็ก
Master bedroom
ห้องแบบ 3 ห้องนอน ขนาด 152 ตร.ม.
ประกอบด้วย:
-1 master bedroom (พร้อมห้องน้ำในตัว)
-2 ห้องนอนเล็ก (พร้อมห้องน้ำในตัว)
-โซนครัว
-โซนห้องนั่งเล่น
-โซนรับประทานอาหาร
-ระเบียงส่วนตัว
โซนนั่งเล่น & รับประทานอาหาร
Master bedroom
ห้องน้ำใน master bedroom
ห้องนอนเล็กมุมในสุด
ตรงต่อจากตู้เสื้อผ้าจะเป็นห้องน้ำ (สุขภัณฑ์แถมแบรนด์ Villeroy & Boch, อุปกรณ์ shower แบรนด์ Hansgrohe)
ห้องนอนเล็กริมฝั่งซ้าย
พื้นที่รอบโครงการ
-ทิศตะวันตกติดแม่น้ำซึ่งจะร่มรื่นกว่าฝั่งแม่น้ำเจริญกรุงฝั่งตะวันออก
-ทิศเหนือติดกับชุมชนและอาคารบริษัทเอกชนและร้าน Sortel Cottage
-ทิศตะวันออกจะเป็นโครงการคอนโดฯ สตาร์วิว, โชว์รูมรถยนต์ BMW, Rolls Royce และโฮมโปร (กำลังก่อสร้าง)
-ทิศใต้ ติดกับสวนสาธารณเฉลิมพระเกียรติ 6 รอบ พระชนมพรรษา
สิ่งที่จะได้รับจากโครงการ
-สุขภัณฑ์แบรนด์ Villery & Boch
-อุปกรณ์ shower แบรนด์ Handgrohe
-sink ชนิดฝัง (integrated) ณ โซนครัว แบรนด์ Blanco
-เครื่องใช้ไฟฟ้าในครัว: เตาไมโครเวฟ, เตาหุงต้ม, ที่ดูดควัน แบรนด์ Siemens
-เตาเบเกอรี่แบรนด์ (เฉพาะห้องประเภท 3 ห้องนอนขึ้นไป)
-งานบิลท์อินในลักษณะ fully-fitted
-ความสูงพื้นจรดเพดาน 3 เมตร
-พื้นกระเบื้องแกรนิตโต้บริเวณห้องน้ำ, โซนครัว, dining และ living room
-พื้น engineered wood บริเวณ master bedroom และห้องนอนเล็ก
-พื้นบริเวณระเบียงส่วนตัวทำจากไม้ยาง
-กระจกหน้าต่างเป็นลักษณะชิ้นเดียวไม่ใช่แบบนำมาติดทีละชิ้น (คล้ายกับของอาคารกสิกร)
-แอร์ฝังใต้ฝ้า (concealed)
ทําเล & การเดินทาง
พื้นที่พระราม 3 คือหนึ่งในพื้นที่เก่าแก่ที่สุดของกรุงเทพฯ โดยสัดส่วนของประชากรส่วนใหญ่นั้นจะถูกเทไปที่กลุ่มคนยุค Baby Boomers ที่ค่อนข้างมีศักยภาพทางด้านฐานะการเงิน หากพูดถึงในเรื่องของที่อยู่อาศัยโดยเฉพาะโครงการในลักษณะแนวราบส่วนใหญ่จะเป็นในรูปแบบของทาวน์โฮมที่ไม่ได้อยู่ในลักษณะของหมู่บ้านหรือถ้าเป็นหมู่บ้านก็จะเป็นโครงการเก่า ไม่ค่อยมีการเกิดขึ้นของโครงการที่อยู่อาศัยใหม่ๆ มากนัก ยิ่งถ้าเป็นบริเวณแถบริมแม่น้ำด้วยแล้วล่ะก็ยิ่งแทบจะหาไม่ได้
หลังจากที่ราคาที่ดินเริ่มปรับตัวสูงขึ้น บางรายถึงกับบอกว่า overpriced ในย่าน CBD อย่างเช่น สีลม, สาทร, อโศก ทำให้บริษัทใหญ่ๆ เริ่มย้ายสำนักงานใหญ่หรือ headquarters มาปักหมุดแถบทำเลพระราม 3 โดยเฉพาะพื้นที่ริมน้ำ ตัวอย่างอาคารสำนักงานใหญ่ที่เรียกได้ว่าเป็นแลนด์มาร์คของทำเลนี้คือ อาคารสำนักงานใหญ่ธนาคารกสิกรไทย, กรุงศรีอยุธยา หรือจะเป็นบริษัทยักษ์ใหญ่แห่งวงการอสังหาริมทรัพย์อย่าง บริษัท ศุภาลัย จำกัด (มหาชน) เนื่องจากราคาของที่ดินในช่วงนั้นยังซื้อขายกันอยู่ในระดับราคาที่ไม่สูงมากนักเมื่อเทียบกับโซนธุรกิจที่ได้กล่าวไปในข้างต้น
อีกทั้งพื้นที่ทำเลของโครงการยังตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยาเส้นพระราม 3 – สาทร ทำให้การเดินทางเพื่อเข้าสู่โซน CBD อย่างสาทรหรืออโศกสามารถทำได้โดยง่าย และหากมองดูทั้งแถบเส้นริมน้ำลากจุดตั้งแต่แยกพระราม 3 ที่จะมุ่งไปคลองเตยมาจนถึงฝั่งเจริญกรุง ยังไม่มีการเกิดขึ้นของโครงการที่เรียกได้ว่าไฮไรส์จริงๆ ซึ่งหากการก่อสร้างของโครงการเสร็จเมื่อไรจะกลายเป็นอีกหนึ่งแลนด์มาร์คของเส้นฝั่งริมน้ำนี้ทันที อีกทั้งโครงการเองยังสามารถเข้าสู่แลนด์มาร์คศูนย์รวมร้านค้าและนักท่องเที่ยวอย่าง Asiatique (เมกะโปรเจคจากกลุ่มเบียร์ช้าง) ได้โดยง่ายเนื่องจากอยู่ฝั่งริมแม่น้ำเหมือนกัน แต่ทางเอเชียทีคเองจะอยู่ฝั่งของเจริญกรุง ถนนที่เก่าแก่ที่สุดของกรุงเทพมหานคร
เมื่อข้ามฝั่งแม่น้ำผ่านสะพานกรุงเทพจะเข้าสู่ย่านริมน้ำที่อีกจุดหนึ่งที่ผู้ประกอบการอสังหาฯ เข้ามาจับจองพื้นที่เพื่อขึ้นโครงการคอนโดฯ ต่างๆ อย่าง เจริญนคร ซึ่งในอนาคตจะมีการเกิดขึ้นของบิ๊กโปรเจค ศูนย์การค้าและเอนเตอร์เทนเมนต์ซึ่งเป็นการร่วมทุนจากธุรกิจเบอร์ใหญ่อย่างเครือซีพี, MQDC และสยามพิวรรธน์ อย่าง The Icon Siam ที่จะเป็นที่ตั้งของเรสซิเดนซ์จากแบรนด์โรงแรมห้าดาวอย่างแมนดารินและอีกหนึ่งโครงการจาก MQDC เรียกได้ว่าเสน่ห์ต่างๆ ค่อยๆผุดขึ้นริมฝั่งแม่น้ำจนเราไม่รู้ว่าในอนาคตราคาที่ดินจะไต่ระดับสูงไปอยู่ที่เท่าไร
การเดินทาง
รถยนต์: ให้เลือกขึ้นทางด่วนเฉลิมมหานครวิ่งเข้าเส้น บางโคล่-ดาวคะนอง แล้วเลือกลง สาธุประดิษฐ์ เมื่อลงมาจะเจอกับถนนรัชดาภิเษกดังรูปด้านล่าง
แยกสาธุประดิษฐ์ (ซ้าย: ถนนสาธุประดิษฐ์, ตรง: ถนนพระราม 3, ขวา: ถนนจันทน์) ให้เลือกตรงไป (ภาพ via: Google Map)
สถานที่ lifestyle
ออกจากโครงการเลี้ยวซ้ายแล้วตรงมาเมื่อถึงแยกเจริญราษฏร์จะมีทางกลับรถ หลังจากนั้นตรงมาเรื่อยๆ เมื่อเจอแยกให้เลี้ยวซ้ายเพื่อเข้าถนนรัชดาภิเษกตรงมาเรื่อยๆ ข้ามแยกสาธุประดิษฐ์ ชิดซ้ายจะเจอห้างเซ็นทรัล พระราม 3 แผนที่จาก (Google Map)
ร้านอาหาร Sotrel Cottage Rama 3 จะอยู่ด้านขวาจากประตูโครงการประมาณ 300 เมตร (ภาพ via: Facebook Sotrel พระราม 3)
สวนเฉลิมพระเกียรติครองราชย์ 6 รอบ พระชนมพรรษา จะอยู่ด้านขวาจากประตูโครงการประมาณ 400 เมตร (ภาพ via: http://www.oknation.net)
อย่างที่กล่าวไปข้างต้นว่าโครงการตั้งอยู่ในพื้นที่ริมน้ำพระราม 3 ซึ่งแน่นอนแตกต่างจากพื้นที่ริมน้ำทางฝั่งเจริญกรุงหรือเจริญนครเนื่องจากโซนเหล่านั้นเป็นโซนที่มีการสัญจรทางน้ำและเป็นที่ตั้งของท่าเรือต่างๆ เรือเล็ก เรือใหญ่ต่างวิ่งกันตลอดช่วงกลางวัน (ทั้งเรือโดยสารและเรือบริการจากโรงแรมห้าดาวแถบริมน้ำ) ทำให้เกิดคลื่นใต้น้ำอยู่ตลอดเวลาเป็นสาเหตุที่ทำให้สภาพน้ำไม่นิ่งผู้ประกอบการหลายรายที่สร้างคอนโดฯ ริมน้ำจึงตัดสินใจไม่สร้างท่าเรือเนื่องจากเกรงว่าอาจจะทำให้ตัวเรือของผู้พักอาศัยได้รับผลกระทบอาจทำให้เรือที่จอดอยู่เกิดความเสียหาย ดังนั้นการสร้างท่าเรือส่วนตัวขนาดใหญ่แทบจะเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้ทางฝั่งริมแม่น้ำ เจริญกรุง – เจริญนคร บวกกับปัจจัยที่ช่องการเดินเรือนั้นยังไม่กว้างพอที่จะรองรับท่าเรือส่วนตัวได้
แต่สำหรับริมแม่น้ำพระราม 3 นั้นไม่ได้รับผลกระทบในเรื่องนี้เนื่องจากไม่ได้อยู่ในพื้นที่ที่มีการสัญจรของบรรดาเรือโดยสารหรือเรือบริการจากโรงแรมแบรนด์ห้าดาวต่างๆ อีกทั้งตำแหน่งที่ตั้งยังตั้งอยู่ตรง “โค้งแม่น้ำ” พอดิบพอดีซึ่งทางฮวงจุ้ยจะเรียกว่าพื้นที่ “ท้องมังกร” พร้อมการออกแบบทางสถาปัตยกรรมที่ได้รับอิทธิพลมาจากแผ่นดินใหญ่ (Chinese Feng-Shui) ซึ่งทางโหราศาสตร์เชื่อว่าหากได้อยู่อาศัยบนพื้นแผ่นดินแลนด์สเคปเช่นนี้จะนำพามาซึ่งความเจริญมั่งคั่งและโชคลาภรวมถึงอำนาจประกอบกับเลขที่บ้านของโครงการที่ได้ตัวเลขสุดยอดฮวงจุ้ย “888”
พื้นที่โค้งแม่น้ำหรือท้องมังกรจะมีอาณาเขตเส้นทางทางธารกว้างเป็นพิเศษและจะมอบมุมทิวทัศน์ได้สวยกว่าในลักษณะ panoramic view ทำให้คุณจะรู้สึกถึงความสงบเมื่อได้ชมผ่านมุมมองจากตัวโครงการ ณ สระว่ายน้ำชั้น 50 ตรงจุดโค้งแม่น้ำนี้ยังเป็นจุดพักของเรือ cargo ขนาดใหญ่ที่นานๆทีถึงจะมีการเคลื่อนไหวทำให้คุณได้รับวิวในลักษณะที่เป็น industrial ผสมอยู่ด้วย
สำหรับเรื่องความสวยงามของวิวยังถูกประดับด้วยสะพานแขวนที่เป็นสะพานใหญ่เพื่อข้ามไปยังฝั่งพระราม 2 แน่นอนเมื่อมองจากตัวโครงการเราจะเห็นสำนักงานใหญ่ธนาคารกสิกรฯ ตั้งเด่นสง่าอยู่ เรียกได้ว่าตัวโครงการโดดเด่นเรื่องวิวทิวทัศน์เป็นอย่างมากเมื่อเทียบเคียงกับโครงการริมน้ำประเภทเดียวกัน
โครงการยังได้รับการการันตีเรื่องการออกแบบด้วยรางวัล Best Architecture ในฐานะโครงการ mixed-use โดยผ่านเวทีอย่าง Asia Pacific Property Awards
โครงการนี้ได้ผู้รับเหมาที่ถือว่าเป็นผู้เล่นใหม่ในวงการการก่อสร้างของอิสราเอล (บริษัท TMDC) ดังนั้นเครื่องจักรการก่อสร้างทุกอย่างใหม่ทั้งรุ่นและสภาพเพื่อสร้างความมั่นใจต่อผู้พักอาศัยในเรื่องโครงสร้าง
อีกหนึ่งในจุดเด่นของโครงการคือท่าเรือ (Canapaya Marina) ที่สามารถทำการจอดเรือได้ถึง 30 ลำด้วยกัน เนื่องจากพื้นที่น้ำแห่งนี้ไม่มีการสัญจรของเรือโดยสารหรือเรือบริการที่วุ่นวายทำให้สภาพน้ำบริเวณโครงการค่อนข้างนิ่ง หมดกังวลเรื่องความเสียหายของเรือ
สำหรับพื้นที่ส่วนกลางมีพื้นที่กว้างกว่า 1,000 ตารางเมตร (พื้นที่คลับเฮาส์ไม่ต้องใช้คีย์การด์ในการเข้าออกทำให้เมื่อมีแขกเข้ามารอพบสามารถนั่งรอ ณ ล็อบบี้ในบริเวณคลับเฮ้าส์นี้ได้)
Panoramic view จากชั้นต่างๆของโครงการ (ทุกยูนิตจะได้เห็นวิวโค้งแม่น้ำในมุม 270 องศา)
ชั้น 18
ชั้น 32
ชั้น 50
Master Plan โครงการ
โครงการจะถูกแบ่งออกเป็น 2 เฟส นั่นคือส่วนของเรสซิเดนซ์และโรงแรมห้าดาว (ยังไม่คอนเฟิร์มว่าแบรนด์ใด) โดยทั้งคู่จะมีท่าเรือและสิ่งอำนวยความสะดวกแยก ส่วนของโรงแรมจะมีส่วนที่เป็น community mall ด้วย
โมเดลจำลองโครงการ
บรรยากาศอาคารสำนักงานขาย
สำนักงานขายจะประกอบด้วยกัน 3 ชั้น โดยชั้น 2-3 จะเป็น shown units
ชั้นที่ 1
ชั้น 2
ทางเดินเข้าโซนเลือก spec อุปกรณ์ต่างๆที่จะเลือกเข้ายูนิต/spec อุปกรณ์ shower, ฝักบัว มีให้เลือก รวมถึงด้ามจับและสเปคกระเบื้อง
รวมถึงแพ็คเกจเครื่องใช้ไฟฟ้าเช่นเครื่องซักผ้าและตู้เย็นที่ต้องการ โดยที่ไม่ต้องเสียเวลาไปเลือกข้างนอกเอง
บรรยากาศรอบอาคารสำนักงานขาย
Hobs Canapaya
ปัจจุบันพื้นที่ริมน้ำส่วนนี้เปิดให้ Hobs เข้ามาเช่าพื้นที่
Canapaya Marina
สามารถจอดเรือได้ 30 ลำ (ขนาดความยาวประมาณ 40 ฟุต)
สิ่งอำนวยความสะดวก บริเวณท่าเรือส่วนตัว:
-กล้องวงจรปิด 24 ช.ม.
-บริการล้างเรือ
-Wifi-Internet
-จุดชาร์จไฟและจ่ายน้ำบริเวณจุดจอดเรือแต่ละลำ
Floor Plans
ส่วนของคลับเฮ้าส์
ชั้น 1 จะประกอบด้วย: -สระว่ายน้ำ และบ่อสำหรับแช่ -โซนร้านเบเกอรี่ -โซนอ่านหนังสือ -ห้องดูหนังฟังเพลง 2 ห้อง -outdoor terrace 2 จุด -ห้องประชุม -ห้องอเนกประสงค์ -ห้องน้ำแยกชาย-หญิง
ชั้น 2 ประกอบด้วย: -ฟิตเนส -ห้องแอโรบิค -ห้องล็อกเกอร์ -ห้องน้ำแยกชายหญิง -โซนนวดสปาและแผนไทยโบราณ -โซนชาลอนทำผม -สำนักงานนิติบุคคล ชั้นยูนิตอยู่อาศัยเริ่มตั้งแต่ชั้น 7
ชั้น 50-51 จะเป็นสระว่ายน้ำและจุดชมวิว
ชั้น 52 (เพนท์เฮ้าส์จะเริ่มตั้งแต่ชั้นนี้เป็นต้นไป)
ประกอบด้วยห้องประเภท:
-3 ห้องนอน (penthouse duplex) ขนาด 188 ตร.ม. 1 ห้อง
-3 ห้องนอน (penthouse duplex) ขนาด 228 ตร.ม. 1 ห้อง
-3 ห้องนอน (penthouse duplex) ขนาด 422 ตร.ม. 1 ห้อง
ชั้น 53
ชั้น 54
ประกอบด้วยห้องประเภท:
-3 ห้องนอน (duplex) ขนาด 188 ตร.ม. 1 ห้อง
-3 ห้องนอน (duplex) ขนาด 228 ตร.ม. 1 ห้อง
-3 ห้องนอน (duplex) ขนาด 422 ตร.ม. 1 ห้อง
ชั้น 55
ชั้น 56
ชั้น 57
บทวิเคราะห์
เนื่องจากรูปแบบของโครงการจัดอยู่ในประเภทโครงการลักซ์ชัวรี่ ริมแม่น้ำซึ่งเหมาะกับการเป็นคอนโดฯ ตากอากาศเสียมากกว่า ผู้ซื้อจึงมีความประสงค์ที่จะย้ายเข้ามาอยู่จริงๆ (real-demand) โดยไม่ได้ซื้อเพื่อวัตถุประสงค์ปล่อยเช่ากินกำไรแต่อย่างไรก็ตามการขยับขึ้นของราคาก่อนจะมีการลงเสาเข็มนั้นถือว่าก้าวกระโดดค่อนข้างรวดเร็ว เมื่อ 3 ปีก่อนหน้านี้ (2556) ราคาเริ่มต้นในช่วงนั้นอยู่ที่ประมาณ 170,000 บาทต่อตารางเมตร (เริ่มที่ห้องขนาดเล็กสุด 45 ตร.ม.) แต่ ณ ปัจจุบัน (ไตรมาสที่ 1 ปี 2559) ราคาได้ขึ้นมาแตะอยู่ที่ 230,000 บาทต่อตารางเมตรแล้วหรือเพิ่มขึ้นมาประมาณ 35% คาดการณ์ว่าเมื่อโครงการเริ่มเปิดให้ย้ายเข้าอยู่ราคาจะขยับขึ้นในระดับที่ค่อนข้างสูง อีกทั้งในพื้นที่เดียวกันยังมีการเกิดขึ้นของโครงการโรงแรมห้าดาว ปัจจัยนี้จะส่งผลให้เกิดการขยับขึ้นของราคาได้ไกลขึ้นอีก ดังนั้น ราคาคอนโดฯ ลักซ์ชัวรี่ริมน้ำพร้อมอยู่ใกล้ใจกลางเมืองที่ยังคงอยู่ในราคา 2 แสนต้น ยังคงอยู่ในระดับที่ไม่สูงลิ่วจนเกินไปนัก ซึ่งถ้าเลือกลงทุนอัตราผลตอบแทนในช่วง ปี ‘61(โครงการแล้วเสร็จปลายปี ’60) น่าจะขยับขึ้นอีกอย่างน้อย 20% เข้าใกล้โครงการเรสซิเดนซ์ของแมนดาริมบนพื้นที่คอมเพล็กซ์ยักษ์ ดิ ไอคอน สยาม ที่มีราคาพรีเซลเริ่มต้นที่ประมาณ 300,000 บาท ต่อตารางเมตร
เปรียบเทียบโครงการ
1. โครงการสตาร์วิว พระราม 3
รายละเอียดโครงการ
ชื่อโครงการ: Star View Rama 3 (สตาร์วิว พระราม 3)
เจ้าของโครงการ: บริษัท อีสเทอร์น สตาร์ เรียล เอสเตท จำกัด (มหาชน)
ที่ตั้ง: ถนนพระราม 3 ตรงข้ามสวนเฉลิมพระเกียรติ 60 พรรษา
ประเภทโครงการ: ไฮไรส์ 2 อาคาร อาคาร A 44 ชั้น อาคาร B 54 ชั้น
เนื้อที่โครงการ: 7-0-25 ไร่
จำนวนยูนิต: 556 ยูนิต
ประเภทห้อง: 1 ห้องนอน และ 3 ห้องนอน ขนาด 77-159 ตร.ม.
ราคาเฉลี่ย: 8.9 ล้านบาท (ขนาดห้องเริ่มต้นที่ 77 ตร.ม.)
(อ่านรีวิวโครงการนี้ได้ที่: http://www.ddproperty.com/StarView)
2. โครงการเดอะ ริเวอร์
ชื่อโครงการ: The River (เดอะ ริเวอร์)
เจ้าของโครงการ: บริษัท ไรมอนด์ แลนด์ จำกัด (มหาชน)
ที่ตั้ง: ถนนเจริญนคร เขตคลองสาน
ประเภทโครงการ: คอนโดไฮไรส์ 2 อาคาร (South Tower สูง 71 ชั้นและ North Tower สูง 41 ชั้น) และอาคารร้านค้า 3 ชั้น 2 อาคารด้านหน้าของโครงการ
เนื้อที่โครงการ: 12-3-41 ไร่
จำนวนยูนิต: South Tower 519 ยูนิต North Tower 307 ยูนิต รวม 826 ยูนิต
ประเภทห้อง:
-1 ห้องนอน 56-69 ขนาด ตร.ม.
-2 ห้องนอน ขนาด 78-232 ตร.ม.
-2 ห้องนอน (duplex) ขนาด 136-137 ตร.ม.
-3 ห้องนอน ขนาด 149-231 ตร.ม.
-Loft Duplex ขนาด 247.55-409.92 ตร.ม.
-Penthouse ขนาด 588.78-637.46 ตร.ม.
ราคาเฉลี่ย: เริ่มต้นที่ 250,000/ตร.ม.
สรุป
นับเป็นโครงการหรูที่มาปักหมุดกับพื้นที่โค้งแม่น้ำนี้ สำหรับคนที่ซื้อไว้ตั้งแต่ช่วงพรีเซลคงจะพอใจกับราคาที่ขยับขึ้นถึง 35-40% อีกทั้งยังมีระยะทางใกล้กับสาทรประมาณ 1 กิโลเมตร และอโศกประมาณ 2 กิโลเมตร ถือเป็นโครงการที่น่าเลือกเป็นคอนโดฯริมน้ำที่อยู่ใกล้ CBD ทั้งสองโซน ส่วนกลางที่มอบให้เป็นการตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของผู้ซื้อในระดับนี้ โดยเฉพาะผู้ที่มีเรือส่วนตัวสามารถนำมาจอดได้บริเวณท่าเรือที่มีความกว้างถึง 6 เมตร ซึ่งหายากสำหรับโครงการริมน้ำในกรุงเทพฯ และการมีโรงแรมแบรนด์ห้าดาวมาตั้งในทำเลเดียวกันทำให้คุณสามารถใช้บริการห้องอาหารของโรงแรมได้เมื่อต้องการให้มื้อนั้นเป็นมื้อพิเศษโดยที่ไม่ต้องขับรถออกไปข้างนอก ดังนั้นหากคุณกำลังมองหาโครงการที่มอบความหรูหราทั้งในเรื่องการออกแบบและสิ่งอำนวยความสะดวก คณาพญา เรสซิเดนซ์ คือโครงการที่สามารถตอบโจทย์ความต้องการนี้ได้สำหรับผู้ที่กำลังมองหาโครงการ luxury ริมน้ำที่มาพร้อมที่จอดเรือยอร์ชส่วนตัว สำหรับคนที่มีกำลังทรัพย์ในซัพพลายส่วนนี้ คณาพญา เรสซิเดนซ์ นับเป็นโครงการที่น่าสนใจหากจะซื้อเพื่ออยู่เองและค่อยๆปล่อยให้ราคาค่อยๆปรับตัวขึ้น แต่หากจะมองเรื่องการปล่อยเช่าคงยังไม่มีดีมานด์ที่จะรองรับกับซัพพลายชนิดนี้ที่มีราคาต่อตารางเมตรที่ 230,000 บาทต่อตารางเมตร
สนใจ คอนโด ในโครงการนี้? เลือกชม รายการประกาศ ราคาโดนใจ