พาร์ค 168 นพรัตน์ รามอินทรา (Park 168 Nopparat Ramindra) จาก บริษัท แอล.พี.เอ็น.ดีเวลลอปเมนท์ จํากัด (มหาชน) คอนโดมิเนียม High Rise 25 ชั้น 3 อาคาร ห้องชุดพักอาศัยรวม 1,224 ยูนิต อาคารจอดรถและสระว่ายน้ำ สูง 8 ชั้น 1 อาคาร แต่ละอาคารมีห้องพักอาศัยเพียงอาคารละ 408 ยูนิต มีความเป็นส่วนตัว ไม่แออัด ใกล้รถไฟฟ้าสายสีชมพู สถานีนพรัตนราชธานี ราคาเริ่มต้น 1.69 ล้านบาท
ปัญจพล พร็อพเพอร์ตี้ ดีเวลลอปเปอร์ที่รู้จักกันดีในวงการอสังหาฯ ประเภทสำนักงานให้เช่า อย่างอาคารยูไนเต็ด เซ็นเตอร์ สีลม ล่าสุด ขยายเซ็กเมนต์สู่การเป็นผู้พัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยแบบเต็มตัว ด้วยการผุดโครงการคอนโดมิเนียม Low Rise ทำเลใจกลางเมืองอย่างเพลินจิต ภายใต้แนวคิดหลักในการพัฒนาโครงการระดับ Luxury ที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว อย่าง คราฟท์ เพลินจิต (Craft Ploenchit) โดยพลิกโฉมพื้นที่ทำเลทองที่ไม่ใหญ่มากนักเพียง 387 ตารางวาให้เกิดประโยชน์สูงสุด และให้ความสำคัญกับความเงียบสงบเป็นส่วนตัวเป็นหลัก ด้วยจำนวนห้องชุดทั้งหมดเพียง 90 ยูนิต หรือประมาณชั้นละ 12 ยูนิตเท่านั้น โดยมีราคาเริ่มต้น 8.1 ลบ
เจาะลึกข้อมูลโครงการ (ข้อมูล ณ วันที่ 19 พฤศจิกายน 2558)
• ชื่อโครงการ: คราฟท์ เพลินจิต (Craft Ploenchit)
• ผู้พัฒนาโครงการ: บริษัท ปัญจพล พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด
• บริษัทออกแบบโครงการ: Palmer & Turner
• บริษัทออกแบบ Landscape: CANCU
• ทำเลที่ตั้ง: เพลินจิต ซ.นายเลิศ ปทุมวัน กทม.
รายละเอียดโครงการ
พื้นที่โครงการ: 387 ตารางวา
รูปแบบ: คอนโดมิเนียมสูง 8 ชั้น 1 อาคาร จำนวน 90 ยูนิต
กลุ่มเป้าหมาย: เน้นรองรับกลุ่มคนรุ่นใหม่ และชาวต่างชาติ
สถานะก่อสร้าง: เริ่มก่อสร้าง 1 พ.ย. 59 เเล้วเสร็จ 31 ต.ค. 61
ระบบความปลอดภัย: Card Access และเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย ตลอด 24 ชม.
ส่วนที่พักอาศัย: เริ่มที่ชั้น B1-8
ส่วนกลาง: ประกอบด้วยสระว่ายน้ำระบบเกลือ ห้องออกกำลังกาย ห้องสังสรรค์ และล็อบบี้เพดานสูงถึง 6 เมตร ซึ่งเชื่อมต่อสวนเล่นระดับ
ลิฟท์: ลิฟท์โดยสารระบบล็อกชั้น 2 ตัว
ที่จอดรถ: Automatic Parking 90%
ค่าส่วนกลาง: 80 บาท/ ตร.ม. / เดือน ชำระล่วงหน้า 1 ปี ชำระ ณ วันโอนกรรมสิทธิ์
เงินกองทุน: 800 บาท/ ตร.ม. ชำระครั้งเดียว ณ วันโอนกรรมสิทธิ์
ราคาเริ่มต้น: 8.1 ลบ
ราคาเฉลี่ย: ประมาณ 178,000 บาท/ ตร.ม.
เงื่อนไขการชำระเงิน: สำหรับ 1 ห้องนอน จอง 50,000 บาท 2 ห้องนอน จอง 100,000 บาท
เว็บไซต์: panjapolproperty.com
รูปแบบห้องชุด: Fully Fitted
– 1 Bedroom ขนาด 36.5 – 47.5 ตารางเมตร ราคาเริ่มต้น 8.1 ล้านบาท
– 2 Bedrooms ขนาด 57.5 – 74.5 ตารางเมตร ราคาเริ่มต้น 11.2 ล้านบาท
– 3 Bedrooms ขนาด 97.5 ตารางเมตร ราคาเริ่มต้น 19.4 ล้านบาท
– 2 Bed Duplex ขนาด 68- 84 ตารางเมตร ราคาเริ่มต้น 15.8 ล้านบาท
– Penthouse ขนาด 134 ตารางเมตร ราคา 29.5 ล้านบาท
– [Sold Out!] 1 Bed Duplex Type DP1-1 47 ตร.ม.( ชั้น B1-G จำนวน 2 ยูนิต )
Type DP1-2 63 ตร.ม.( ชั้น B1-G จำนวน 2 ยูนิต )
Type DP1-3 59 ตร.ม.( ชั้น B1-G จำนวน 2 ยูนิต )
รายละเอียดโครงการ
รีวิวภาพรวมโครงการ
คราฟท์ เพลินจิต เป็นโครงการที่พยายามดึงจุดเด่นความเป็นแหล่งที่อยู่อาศัยในเมือง รายล้อมด้วยไลฟ์สไตล์แบบโมเดิร์น ดูได้จากการนำระบบเทคโนโลยีที่จอดรถอัจริยะมาตอบสนองความสะดวกสบายของผู้อยู่อาศัย โดยสามารถจอดได้ถึง 90% และมักพบได้ยากสำหรับคอนโดแนว Low Rise สูงไม่เกิน 8 เช่นนี้ อีกทั้งเจ้าของโครงการยังใช้ความคิดสร้างสรรค์มาปรับพื้นที่โครงการ 387 ตร.ว. ในลักษณะรูปสามเหลี่ยมให้กลายเป็นจุดขายของคราฟท์ เพลินจิต ทำให้ผู้อยู่อาศัยมีพื้นที่ใช้สอยมากขึ้น นอกจากนี้ยังไม่ละเลยคอนเซ็ปต์ ความเป็นส่วนตัวและเงียบสงบ คล้ายกับการอยู่อาศัยในบ้านเดี่ยว โดยเฉพาะยูนิตดูเพล็กซ์ ซึ่งจับมาอยู่ชั้น G และ B1 คล้ายกับโครงการในเมืองนอก เพื่อสัมผัสพื้นที่สวนส่วนตัวและสิ่งแวดล้อมโดยรอบโครงการ
Floor Plan Level B1: เป็นส่วนของยูนิตดูเพล็กซ์ และห้องรอรถ (ระบบจอดรถอัจฉริยะ) รวมถึงสวนหย่อมพื้นที่สวนกลาง เพื่อให้ผู้อยู่อาศัยสัมผัสได้ถึงการอยู่อาศัยแบบบ้านอย่างแท้จริง
Floor Plan Level G: ยังคงเป็นชั้นของยูนิตดูเพล็กซ์ จุดจอดรถระบบอัจฉริยะ และสวนหย่อม พื้นที่สีเขียวโดยรอบ
Floor Plan Level 2nd-7th: มีทั้งหมด 12 ยูนิตต่อชั้น โดยสังเกตว่ายูนิต 3 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ พื้นที่ใช้สอย 97.5 ตร.ม. จะอยู่ด้านมุมของอาคารทางฝั่งทิศเหนือ และไม่มีตึกอะไรบล็อกวิว
Floor Plan Level 8: มีทั้งหมด 9 ยูนิต เนื่องจากพื้นที่บางส่วนของทางฝั่งทิศตะวันออก ถูกใช้เป็นส่วนของห้องออกกำลังกาย
จากโมเดล จะเห็นว่า ทางเข้าโครงการ จะหันไปทางทิศตะวันตก หรือบริเวณทางออกของซอยนายเลิศ ซึ่งสองข้างทางก่อนทางเข้า เป็นลักษณะ บ้านเดี่ยว และทาวน์เฮาส์สลับกันไป โดยมีข้อดีที่ความเงียบสงบ
ส่วนห้องที่หันไปทางทิศตะวันออก และติดกับทางด่วน แม้จะค่อนข้างมีระยะห่าง แต่ทางโครงการได้แก้ปัญหานี้ด้วยการออกแบบพื้นที่สวนด้วยการปูหญ้าเทียมให้กับผู้อยู่อาศัย ดังนั้นหากผู้ขับขี่บนทางด่วนมองผ่านมา จะไม่เห็นภายในห้อง เห็นเพียงสวนหน้าระเบียง พร้อมทั้งติดตั้งกระจกกันเสียงคุณภาพสูง ซึ่งช่วยปัญหาเรื่องเสียงรบกวนได้อย่างดี
จากรูป พื้นที่สีเขียวในโมเดล คือส่วนของทางด่วนดินแดง-พระราม 9 แจ้งวัฒนะ หรือทางฝั่งทิศตะวันออกของอาคาร
เนื่องจากแปลนที่ดินของโครงการ เป็นลักษณะรูปสามเหลี่ยม เจ้าของโปรเจค จึงใช้พื้นที่ส่วนยอดสามเหลี่ยม ให้กลายเป็นส่วนหย่อม พื้นที่สีเขียวในลักษณะ Contour
สิ่งอำนวยความสะดวกภายในโครงการ
แนวคิดหลักในการออกแบบพื้นที่ส่วนกลางของโครงการคราฟท์ เพลินจิต เป็นการผสมผสานระหว่างความหรูหรา โอ่อ่า และความเป็นส่วนตัว รายล้อมด้วยธรรมชาติ อย่างสวน contour เล่นระดับขนาดใหญ่ โดยเชื่อมต่อกับล็อบบี้เพดานสูง 6 เมตร ณ บริเวณชั้น G ของอาคารสถาปัตยกรรมสไตล์โมเดิร์น นอกจากนี้พื้นที่ชั้นดาดฟ้า ยังออกแบบให้เป็นสระว่ายน้ำขนาดใหญ่ ที่มีความกว้างถึง 8 เมตร ยาว 14 เมตร ลึก 1.20 เมตร พร้อมห้องออกกำลังกายรายล้อมด้วยวิวเมืองบนชั้น 8
ภาพ perspective บรรยากาศของสระว่ายน้ำขนาดใหญ่บนชั้นดาดฟ้า
ภาพ perspective แสดงให้เห็นการทำล็อกเกอร์ จุดรับ-ส่งผ้า และ Mail Box เพื่อรองรับการใช้งานของผู้พักอาศัย ซึ่งจะมีทุกชั้น
ภาพ perspective แสดงให้เห็นบรรยากาศของห้องออกกำลังกาย ซึ่งอยู่บนชั้น 8 และสามารถเพลินเพลินไปกับการบริหาร พร้อมรับชมวิวร่มรื่นของสถานฑูตสวิสฯ ด้านล่าง
รีวิวภายในบ้าน
พื้น: ห้องนั่งเล่น ห้องครัว และห้องน้ำ กระเบื้องหินอ่อนนำเข้าจากอิตาลี ส่วนห้องนอนเป็นพื้นไม้เอ็นจิเนียริ่งวูด
ความสูงพื้นจรดเพดาน: 2.5 เมตร
ระบบไฟ: Down Light LED
ระเบียง: เริ่มต้นความกว้าง 1.20 เมตร ยาวประมาณ 3 เมตร
ประตู: Digital Door Lock
ชุดครัว: Built-in เคาน์เตอร์ครัว ซิ้งค์ล้างจาน จาก RCD หรือเทียบเท่า เตาไฟฟ้า เครื่องดูดควัน จาก Siemens หรือเทียบเท่า
สุขภัณฑ์ห้องน้ำ: Roca หรือเทียบเท่า
เฟอร์นิเจอร์: Fully Fitted
เครื่องปรับอากาศ: Daikin VRV Gen4 แบบซ่อนฝ้า
แปลนยูนิต 1 ห้องนอน (A2) ขนาดพื้นที่ 46.5 ตร.ม. เป็นห้องที่หันไปทางทางด่วนดินแดง-พระราม 9 แจ้งวัฒนะ ดังนั้นทางเจ้าของโปรเจคจึงดีไซน์ให้น่าสนใจ พร้อมแก้ปัญหา ด้วยการเพิ่มพื้นที่สีเขียวเข้าไป พร้อมติดตั้งกระจกกันเสียงให้ด้วย
แปลนยูนิต 2 ห้องนอน (ฺB1) ขนาดพื้นที่ 57.5 ตร.ม. เป็นห้องที่หันไปทางทางด่วนดินแดง-พระราม 9 แจ้งวัฒนะ เช่นกัน ดังนั้นทางเจ้าของโปรเจคจึงแก้ปัญหา ด้วยการเพิ่มพื้นที่สีเขียวเข้าไป ในสัดส่วนตามพื้นที่ใช้สอยของห้อง พร้อมติดตั้งกระจกกันเสียงให้ด้วยเช่นกัน
แปลนยูนิต 2 ห้องนอน (B2) ขนาดพื้นที่ 65.5 ตร.ม. จะอยู่ทางด้านทิศตะวันตกของอาคาร โดยมีระเบียงค่อนข้างกว้าง และเป็นสัดส่วน
แปลนยูนิต 3 ห้องนอน (C1) ขนาดพื้นที่ 97.5 ตร.ม. มีเพียง 1 ยูนิตเท่านั้นต่อชั้น โดยจะอยู่ด้านทิศเหนือ หรือส่วนปลายของพื้นที่สามเหลี่ยม ที่แม้ว่าจะมีรูปร่างค่อนข้างแปลก แต่จะได้ข้อดีในเรืื่องความลึก ยาวของห้อง
แปลนยูนิตดูเพล็กซ์ 2 ห้องนอน (DP2-1) ขนาดพื้นที่ 68 ตร.ม. จะอยู่ในส่วนของชั้น B1 และ G โดสยจะอยู่ทางด้านทิศตะวันออกของอาคาร ซึ่งจุดเด่นของดูเพล็กซ์ คือการรายล้อมด้วยพื้นที่สีเขียว และสวนหย่อมส่วนตัว ซึ่งให้ความรู้สึกเหมือนอยู่บ้านอย่างแท้จริง
ภาพ perspective แสดงบรรยากาศห้องพักอาศัยยูนิต 1 ห้องนอน (A1) พื้นที่ใช้สอย 36.5 ตร.ม.
ก่อนไปดูบรรยากาศห้องตัวอย่างจากภาพ perspective มาชม Corridor ในแต่ละชั้น ซึ่งถูกปูพื้นด้วยกระเบื้อง พร้อมความกว้าง ที่ถือว่าไม่อึดอัด
ห้องน้ำสุขภัณฑ์ทั้งหมดจาก Roca หรือเทียบเท่า โดยห้องจริงจะเป็นกระเบื้อง โดยทางโครงการได้ติดตั้งระบบน้ำร้อน-น้ำเย็นให้ด้วย
ภาพ perspective แสดงบรรยากาศห้องพักอาศันยูนิต ดูเพล็กซ์ (DP2-1) พื้นที่ใช้สอย 68 ตร.ม.
ทําเล & การเดินทาง
วิเคราะห์ศักยภาพทำเลเพลินจิต
ย่านเพลินจิต ถือเป็นหนึ่งทำเลใจกลางย่านธุรกิจ (CBD) ของกรุงเทพฯ ที่เต็มไปด้วยอาคารสำนักงานเกรดเอ และห้างสรรพสินค้าชั้นนำ
ความสมบูรณ์แบบของพื้นที่ย่านใจกลางเมือง ยังคงได้รับความนิยมจากผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์อย่างต่อเนื่อง แต่ด้วยดีมานด์ที่ยังคงมีอยู่อย่างต่อเนื่อง ท่ามกลางปริมาณที่ดินที่เหมาะสมสำหรับการพัฒนาโครงการใหม่ๆ ที่หาได้ยากขึ้นทุกวัน ส่งผลให้ราคาที่ดินในย่าน CBD โดยเฉพาะย่านเพลินจิตพุ่งขึ้นไปแตะเลข 7 หลักเลยทีเดียว โดยมีการประเมินจากศูนย์ข้อมูลวิจัยและประเมินค่าอสังหาริมทรัพย์ไทย บจก.เอเจนซี่ ฟอร์ เรียลเอสเตท แอฟแฟร์ส หรือ AREA แล้วว่าเป็นทำเลที่มีที่ดินราคาแพงที่สุดในกรุงเทพฯ จึงเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้คอนโดฯ ระดับพรีเมียม ซึ่งปล่อยขายตารางเมตรละ 1-2 แสนบาท เข้ามาจับจองพื้นที่เพื่อสร้างคอนโดฯ สุดหรู ทั้งติดถนนสุขุมวิท ในรูปแบบ Hi Rise และตามตรอกซอกซอยเป็นโครงการ Low Rise ที่ถูกผังเมืองบังคับให้ก่อสร้างได้ไม่เกิน 8 ชั้น เนื่องจากมีถนนกว้างไม่เกิน 10 เมตร แต่ก็มีข้อได้เปรียบในเรื่องความเป็นส่วนตัว พร้อมรายล้อมสิ่งอำนวยความสะดวกสไตล์คนเมือง
สังเกตได้จากช่วงเวลา 2 ปีที่ผ่านมา มีการเปิดตัวห้างสรรพสินค้าไฮเอนด์อย่างเซ็นทรัล เอ็มบาสซี่ เชื่อมต่อกับเซ็นทรัล ชิดลม บริเวณสี่แยกเพลินจิต ซึ่งเดิมเป็นสถานทูตอังกฤษ แต่หลังจากนั้นเมื่อตระกูลจิราธิวัฒน์สามารถครองโฉนดที่ดินนี้ได้ พร้อมพัฒนาให้กลายเป็นฮับแห่งการช้อปปิ้งขนาดใหญ่ จึงทำให้ย่านเพลินจิตมีความครบครันเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง จึงไม่ต้องแปลกใจว่าทำไมโครงการในย่านนี้จึงเป็นที่ต้องการทั้งจากผู้ซื้อเพื่ออยู่อาศัยเองและบรรดานักลงทุน เพราะจุดขายของโครงการในโซนนี้ ไม่ได้จำกัดเฉพาะความหรูหราเท่านั้น แต่ยังคงชูศักยภาพของทำเลเป็นสำคัญ
วิเคราะห์ศักยภาพทำเลโครงการ
โครงการตั้งอยู่ในซอยนายเลิศ ถนนเพลินจิต ซึ่งอยู่ใจกลางย่านธุรกิจสำคัญของกรุงเทพฯ และแม้จะอยู่ในย่านที่ค่อนข้างพลุกพล่าน แต่หากเดินเข้าไปในซอยกลับพบว่าค่อนข้างเงียบสงบ เป็นส่วนตัว เนื่องจากตั้งแต่ต้นถึงท้ายซอยนั้นเป็นที่ตั้งของบรรดาคอนโดฯ เรสซิเดนซ์หรู รวมถึงบ้านเดี่ยวของผู้ดีเก่ามากมาย แม้ว่าบางคนอาจจะมองว่าเป็นเพียงถนน 2 เลนที่เดินรถในลักษณะ One Way ซึ่งหากเลือกขับรถจะต้องอ้อมใช้เส้นทางถนนวิทยุ เพื่อเข้าซอยนี้ แต่นั่นกับไม่ใช่ปัญหาสำคัญสำหรับคนเมือง ที่มักเลือกเดินทางด้วยรถไฟฟ้าบีทีเอส เนื่องจากห่างจากรถไฟฟ้า 190 เมตร (เพลินจิตร) ดังนั้นจึงทำให้จุดนี้กลายเป็นข้อดีของทำเลโครงการ
การเดินทางไปสำนักงานขาย
เนื่องจากบริเวณที่ตั้งโครงการ (ซอยนายเลิศ) อยู่ระหว่างดำเนินการก่อสร้าง โดย ณ ตอนนี้ มีการปรับหน้าดินแล้ว ดังนั้นสำนักงานขายคราฟท์ เพลินจิต จึงมาอยู่ที่บริเวณชั้น 1 อาคารยูไนเต็ด เซ็นเตอร์ สีลม เป็นการชั่วคราว และจะทำการเปิดสำนักงานขายชั้น 2 อาคารยูไนเต็ด เซ็นเตอร์ สีลม ในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ 2559 เพราะฉะนั้น การเดินทางเพื่อชมห้องตัวอย่างและสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม ด้วยบีทีเอสจะสะดวกที่สุด เพียงใช้บริการรถไฟฟ้าบีทีเอส โดยเปลี่ยนสถานีที่สยาม เพื่อมุ่งหน้าสู่สถานีศาลาแดง โดยเลือกทางออกที่ 2 แล้วเดินต่อมาประมาณ 300 เมตร ผ่านซอยคอนแวนต์ อาคารยูไนเต็ด เซนเตอร์ จะอยู่ด้านซ้ายมือ ตรงข้ามโรงพยาบาลกรุงเทพคริสเตียน
เส้นทางการเดินทางจาก MRT สีลม ถึงสำนักงายโครงการ ซึ่งตั้งอยู่ในอาคารยูไนเต็ด เซ็นเตอร์ โดยมีระยะห่างประมาณ 600 เมตร
การเดินทางไปโครงการ
แม้ว่าหลายคนจะกังวลสภาพถนนภายในซอยนายเลิศ ที่บังคับเดินรถได้ทางเดียว (One Way) และหากเลือกขับรถจะต้องฝ่าฟันการจราจรที่ค่อนข้างติดขัดเพื่อไปเข้าซอยนายเลิศ ฝั่งถนนวิทยุ แล้วขับต่อมาประมาณ 130 เมตร เพื่อเข้าโครงการ แต่สำหรับผู้ที่เลือกเดินทางไปทำงานในเมือง แน่นอนส่วนใหญ่คงหนีไม่พ้นที่จะใช้บริการรถไฟฟ้าบีทีเอส เนื่องจากสะดวกสบาย ไม่ต้องหงุดหงิดกับสภาพรถติดในช่วงเวลาเร่งด่วน อีกทั้งศักยภาพทำเลโครงการห่างจากรถไฟฟ้าเพียง 190 เมตร (เพลินจิตร)
– รถไฟฟ้า BTS
เลือกใช้บริการรถไฟฟ้าบีทีเอส ลงสถานีเพลินจิต ใช้ทางออกที่ 3 จะพบป้ายซอยนายเลิศ จากเดินเข้าซอยประมาณ 190 เมตร หรือถ้าไม่อยากเดินสามารถใช้บริการวินมอเตอร์ไซค์ เพียง 15 บาทถึงโครงการ
สำหรับผู้ที่อยู่ในย่านเพลินจิตอยู่แล้ว สามารถขึ้นบันไดเลื่อน บริเวณทางออกที่ 4 ของสถานี เพื่อข้ามมาซอยนายเลิศ
จากนั้นให้เดินเข้าซอยนายเลิศ โดยจากรูปจะเห็นว่าฟุตบาท อยู่ในระหว่างดำเนินการก่อสร้าง อาจจะไม่ค่อยสะดวกเท่าไหร่
– รถยนต์ส่วนตัว
หากลงมาจากทางด่วน ให้ลงเพลินจิตฝั่งใต้ จากนั้นเลี้ยวซ้ายเพื่อกลับรถบริเวณหน้าตึกออลซีซั่น แล้วเข้าซอยนายเลิศบริเวณถนนวิทยุ เนื่องจากเป็นถนน One Way
ป้ายซอยนายเลิศ สามารถสังเกตเห็นได้อย่างชัดเจน แต่เนื่องจากสภาพถนนเป็นแบบ One Way ดังนั้นจึงต้องไปกลับรถ ข้ามแยกเพลินจิต แล้วเข้าซอยนายเลิศบริเวณถนนวิทยุ
สถานที่แนว Lifestyle
เมื่อศักยภาพทำเลที่ตั้งโครงการ อยู่ในย่านเพลินจิต ซึ่งเต็มไปด้วยสถานีที่ไลฟ์สไตล์มากมาย ไม่ว่าจะห้างสรรพสินค้าสุดหรู เซ็นทรัล เอ็มบาสซี่ (ห่างจากโครงการประมาณ 500 เมตร) หรือ อาคารสำนักงานเกรดเออย่าง ปาร์ค เวนเชอร์ (ห่างจากโครงการประมาณ 700 เมตร) ซึ่งมีร้านกาแฟสัญชาติอเมริกัน รสดีทั้งเครื่องดื่มกับเบเกอร์รี่สไตล์อเมริกันไว้คอยให้บริการบรรดาหนุ่มสาวออฟฟิศในย่านนี้ นอกจากนี้ภายในซอยร่วมฤดี ฝั่งตรงข้ามกับที่ตั้งโครงการ ยังอัดแน่นไปด้วยร้านอาหารชื่อดัง ไม่ว่าจะเป็น ก๋วยเตี๋ยวกั้งบ้านเพ (ห่างจากโครงการประมาณ 800 เมตร) สูตรต้นตำรับจากระยอง ที่เสิร์ฟมาตัวใหญ่บิ๊กไซส์ หรือ ร้านอาหารสไตล์ฝรั่งอย่าง Neil’s Tavern Restaurant (ห่างจากโครงการประมาณ 1 กม.) ซึ่งโดดเด่นด้วยเนื้อ ละมุนลิ้น แต่หากใครไม่อยากไปไกลภายในซอยนายเลิศ ที่ตั้งของโครงการ ยังมีร้าน Bodega (ห่างจากโครงการประมาณ 90 เมตร) ตั้งอยู่ภายในโรงแรม Arcadia Suites ซึ่งอัดแน่นด้วยเมนูนานาชาติ แต่ที่โดดเด่น ต้องตามากที่สุด คงหนีไม่พ้น สปาเกตตี้คาโบนาร่า , U.S. Angus Beef , Lasagna ที่เรียกว่าเด็ดจนใครๆ อยากจะมาลิ้มลอง
บทวิเคราะห์
วิเคราะห์อัตราผลตอบแทนที่ได้รับ
ต้องยอมรับว่าทำเลที่อยู่อาศัยโซนกลางเมืองอย่างย่านเพลินจิตกำลังได้รับความนิยมทั้งชาวไทยและต่างชาติแถบยุโรป อเมริกา ที่มีกำลังซื้อและเช่าสูง เนื่องจากเป็นทำเลทองที่มีระดับราคาที่ดินค่อนข้างสูง ส่วนคอนโดมิเนียมนั้นต่างปล่อยขายกัน 1-2 แสนบาทต่อตารางเมตร ดังนั้นสำหรับผู้ที่สนใจลงทุนทั้งระยะยาวและสั้นในย่านนนี้ มักเจอคู่แข่งค่อนแข่งค่อนข้างมาก เนื่องจากคอนโดฯ มีทั้งรูปแบบ High Rise และ Low Rise ผุดขึ้นเป็นดอกเห็ด และสำหรับยูนิตหนึ่งห้องนอน จะได้ผลตอบแทนประมาณ 25,000 – 30,000 บาท / เดือน หรือขั้นต่ำราว 4% ต่อปี
เปรียบเทียบกับโครงการอื่น
The Nest Ploenchit
คอนโดมิเนียมของบริษัท เดอะเนสท์ พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด ตั้งอยู่ซอยนายเลิศ แขวงลุมพินี เขตปทุมวัน พื้นที่โครงการ 234 ตร.ว. อาคารสูง 8 ชั้น 1 อาคาร รวมห้องชุดพักอาศัยทั้งหมด 64 ยูนิต รูปแบบห้องสตูดิโอ 1 – 2 ห้องนอน และลอฟท์ พื้นที่ห้องชุดโครงการ 27.5 – 89.80 ตร.ม. ที่จอดรถ 60% ราคาขายปัจจุบันเริ่มต้นประมาณ 196,000 บาท / ตร.ม.
the nest ploenchit ภาพ via thenestcondo.com
Maestro 02
คอนโดมิเนียมของบริษัท เมเจอร์ ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด(มหาชน) ตั้งอยู่ซอยร่วมฤดี 2 ถนนเพลินจิต แขวงลุมพินี เขตปทุมวัน พื้นที่โครงการ 1 ไร่ 62 ตร.ว. อาคารสูง 8 ชั้น 1 อาคาร รวมห้องชุดพักอาศัยทั้งหมด 126 ยูนิต รูปแบบ 1 – 2 ห้องนอน และดูเพล็กซ์ พื้นที่ห้องชุดโครงการ 25.5 – 87 ตร.ม. ที่จอดรถ 60% ราคาขายปัจจุบันเริ่มต้นประมาณ 160,000 บาท / ตร.ม.
Maestro 02 ภาพ via mde.co.th
Klass Condo Langsuan
คอนโดมิเนียมของบริษัท หลังสวน แอสเสท จำกัด ตั้งอยู่ถนนหลังสวน แขวงลุมพินี เขตปทุมวัน พื้นที่โครงการ 1 ไร่ 11 ตร.ว. อาคารสูง 8 ชั้น 1 อาคาร รวมห้องชุดพักอาศัยทั้งหมด 110 ยูนิต รูปแบบ 1 – 3 ห้องนอน และดูเพล็กซ์ พื้นที่ห้องชุดโครงการ34 – 118 ตร.ม. ที่จอดรถ 75% ราคาขายปัจจุบันเริ่มต้นประมาณ 180,000 บาท / ตร.ม.
Klass Condo Langsuan ภาพ via klasscondo.com
สรุป
คราฟท์ เพลินจิต แม้จะมีเนื้อที่โครงการค่อนข้างน้อย และมีลักษณะเป็นรูปสามเหลี่ยม อีกทั้งถนนในซอยนายเลิศ ซึ่งเป็นที่ตั้งโครงการยังเป็นลักษณะ One Way ทำให้ใครหลายคนเกิดความกังวล แต่ดีเวลลอปเปอร์ได้นำข้อด้อยนี้ มาแก้ไข พร้อมปรับเปลี่ยนให้เป็นจุดเด่นของโครงการ ด้วยการเพิ่มพื้นที่ใช้สอยให้มากขึ้น พร้อมใช้วัสดุเกรดพรีเมียมมาตกแต่งห้องให้เทียบเท่ากับโครงการคอนโดฯ ไฮเอนด์ในย่านนี้ นอกจากนี้ ยังเพิ่มฟังก์ชัน Automatic Parking 90% ซึ่งหาได้ยากในคอนโดฯ Low Rise มาตอบสนองความต้องการของผู้อยู่อาศัย พร้อมทั้งห่างจากรถไฟฟ้า 190 เมตร (เพลินจิตร) ซึ่งเป็นระยะที่เดินได้จริง เพียง 2 นาทีถึง จึงทำให้สะดวกสบายต่อการเดินทางมากขึ้น และสำหรับนักลงทุน แม้จะมีคู่แข่งค่อนข้างมาก แต่สำหรับคนที่มองหาการอยู่ในเมืองที่เงียบสงบเช่นนี้ นับว่าตอบโจทย์ทั้งกลุ่มคนไทยและชาวต่างชาติอย่างแท้จริง