ลุมพินี วิลล์ แจ้งวัฒนะ 10 คอนโด Low Rise 8 ชั้น 2 อาคาร ห้องชุดจำนวน 476 ยูนิต พร้อมลานกิจกรรม และลานออกกำลังกายขนาดใหญ่ รองรับการพักอาศัยช่วง Work from Home ได้อย่างลงตัว ราคาเริ่มต้นเพียง 1.45 ล้านบาท
สนใจ คอนโดฯ ในโครงการนี้? เลือกชม รายการประกาศ ราคาโดนใจ
หลังจากที่ได้ทำการพรีวิวโครงการใหม่กับโครงการนี้ไป ฉบับนี้เราจะมาทำการรีวิวโครงการ ซี เอกมัย จากค่ายอสังหาริมทรัพย์หน้าใหม่แต่เปี่ยมด้วยประสบการณ์ของผู้บริหาร เดอะ ช้อยส์ พร็อพเพอร์ตี้ ดีเวลลอปเม้นท์ ที่กล้าเปิดราคาขายของโครงการย่านเอกมัยนี้เพียงที่แสนต้น และคำว่าแสนต้นนี้ไม่ใช่ประเภทที่ว่ามีเพียง 2 – 3 ยูนิต แต่เป็นราคาเริ่มที่ค่อยๆไต่ขึ้นมาตามลำดับของชั้นอาคาร ไม่เพียงแต่ราคาเปิดที่น่าสนใจแต่ตัวโปรดักส์เองน่าสนใจเช่นเดียวกันเนื่องจากสิ่งของต่างๆที่ให้มานั้นอยู่ในเกรดพรีเมี่ยมของตลาด รวมถึงการออกแบบตัวอาคารที่จะเข้ามาเป็นอีกหนึ่งแลนด์มาร์คบนถนนเอกมัยกับความสูงที่สุดหรือ 154 เมตรและการนำ ปริซึมดีไซน์ (Prism Design) เข้ามาเป็นส่วนหนึงของในการสร้างเอกลักษณ์ให้แก่โครงการ
สำหรับทำเลบนถนนเอกมัยฝั่งถนนเพชรบุรีนั้นจะมีจุดเด่นเป็นอย่างไร รวมถึงโปรดักส์จะสร้างความโดดเด่นที่ตั้งอยู่บนราคานี้ได้หรือไม่ ติดตามผ่านรีวิวฉบับนี้ได้เลยครับ
ชื่อโครงการ: ซี เอกมัย (C Ekkamai)
ผู้พัฒนาโครงการ: บริษัท เดอะ ช้อยส์ พร็อพเพอร์ตี้ ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด
ตัวแทนการขาย: บริษัท พลัส พร็อพเพรอ์ตี้ จำกัด
ทำเลที่ตั้ง: ถนนเอกมัย (ซ. สุขุมวิท 63) แขวงคลองตันเหนือ เขตวัฒนา
เว็บไซต์: www.cekkamai.com
โทร: 098 – 268 – 5588
รายละเอียดโครงการ (ข้อมูล ณ วันที่ 30 กันยายน 2559)
พื้นที่โครงการ: 3 – 3 – 0 ไร่
ลักษณะโครงการ: คอนโดมิเนียมไฮไรส์ สูง 44 ชั้น
จำนวนยูนิต: 736
กลุ่มเป้าหมาย: กลุ่มลูกค้าระดับ B+ ที่มีฐานเงินเดือนประมาณ 60,000 บาทขึ้นไป, กลุ่มคนไม่ว่าโสด, คู่ หรือครอบครัว ที่ชอบดำเนินชีวิตไลฟ์สไตล์ในย่านทองหล่อ – เอกมัย แต่อยากหาที่อยู่อาศัยในย่านที่ยังมีราคาเริ่มต้นอยู่ในกรอบแสนต้นๆต่อ ตร.ม.
ลิฟท์: ลิฟท์สำหรับลูกบ้าน 4 ตัว, ลิฟท์เซอร์วิส 1 ตัว
ที่จอดรถ: ประมาณ 55% (รวมจอดซ้อนคัน)
สิ่งอำนวยความสะดวก: ล็อบบี้ที่มาพร้อมความสูงเพดานแบบ double volume, สระว่ายน้ำ, บ่อจากุซซี่, ฟิตเนส, โซนสงบเหมาะสำหรับนั่งสมาธิและโซนโยคะ, ห้องสมุด, สนามเด็กเล่น, Jogging Track, Sky Lounge & Sky Garden
ระบบรักษาความปลอดภัย: CCTV, รปภ. 24 ชม.
สถานะการขาย: เปิดพรีเซลล์ไปเมื่อ 12-13 พ.ย. 2559
สถานะการก่อสร้าง: ผ่าน EIA จะเริ่มก่อสร้างต้นปี 2560 และจะแล้วเสร็จประมาณปลายปี 2562
ราคาเริ่มต้น: ประมาณ 3 ล้านบาท
ราคาเฉลี่ย: 125,000 บาท/ตร.ม.
รูปแบบห้อง:
-1 ห้องนอน พื้นที่ใช้สอย 27 – 52.25 ตร.ม.
-2 ห้องนอน พื้นที่ใช้สอย 51.50 – 65 ตร.ม.
-Penthouse พื้นที่ใช้สอย 82-126 ตร.ม.
รายละเอียดโครงการ
เพื่อให้สอดคล้องกับการที่ถนนเอกมัยเป็นศูนย์รวมไลฟ์สไตล์และลูกเล่นต่างๆที่เกิดขึ้นในย่าน ตัวอาคารถูกสะท้อนออกมาผ่านงานสถาปัตย์รูปทรงคล้ายกับ Prism (อิงจากภาพจำลอง) เกิดมิติขึ้นเมื่อมองเข้าไป พร้อม facade ลวดลายไม้ที่เข้ามาช่วยเพิ่มความเป็นมิติให้แก่ตัวอาคาร
ซี เอกมัยถูกจัดให้เป็นอาคารที่อยู่อาศัยที่สูงที่สุดบนถนนเอกมัยด้วยจำนวน 44 ชั้น (154 เมตร) ซึ่งเมื่อขึ้นไปบนพื้นที่ส่วนกลาง Sky Lounge ณ ชั้น 44 จะทำให้ได้วิวพาโนรามิคแบบ 360 องศาเต็มๆ
พื้นที่ติดกับโครงการ
อาคารหันหน้าเข้าถนนเอกมัย ยูนิตฝั่งขวาของตัวอาคารจะได้วิวเป็นถนนพระราม 9, ฝั่งซ้ายจะเห็นเป็นวิวถนนสุขุมวิทที่มาพร้อมแนวรถไฟฟ้า, ยูนิตด้านหลังจะเห็นเป็นซอยสุขุมวิท 71
พื้นที่ส่วนกลาง
รูปจำลองพื้นที่ส่วนกลางที่อยู่ประมาณชั้น 6 ของโครงการประกอบด้วยสระว่ายน้ำ, lounge และฟิตเนส
ดาดฟ้ามี Sky Lounge ที่ออกแบบมาในลักษณะ double volume หลังคาสูงปลอดโปร่ง และได้วิวเป็น panoramic 360 องศา
สระว่ายน้ำ ความยาว 38 เมตร ที่อยู่บนชั้น 6 เช่นเดียวกัน พร้อมเก้าอี้สำหรับนอนตากอากาศ ณ ชั้นนี้เองยังมีเส้นทางวิ่งสำหรับคนรักการวิ่งอีกด้วย (Jogging Track)
วิว 360 องศาแบบพาโนรามิคที่จะได้แตกต่างกันระหว่างตอนกลางวันและกลางคืน
ภาพจำลองยูนิตโครงการ
รูปแบบของห้องมีให้เลือกหลากหลายตอบสนองความต้องการด้านพื้นที่ (space demand) ที่แตกต่างกัน โดยเริ่มที่ ขนาด 1 ห้องนอน พื้นที่ 27 – 52.25 ตร.ม., ขนาด 2 ห้องนอน พื้นที่ 51.50 – 65 ตร.ม. และ Penthouse พื้นที่ 82 – 126 ตร.ม. ขนาดความสูงของเพดาน (floor to ceiling) ที่ให้มาอยู่ที่ประมาณ 2.7 เมตร ซึ่งนับว่าค่อนข้างสูง
Model จำลองโครงการ
ถนนด้านหน้าโครงการคือถนนเอกมัย หากขึ้นสะพานไป (ฝั่งขวาจากหน้าโครงการ) จะไปยังถนนพระราม 9 ก่อนขึ้นสะพานข้ามไปจะมีทางแยกซ้ายออกมาเพื่อวกกลับเข้าถนนเพชรบุรีซึ่งสามารถวกกลับมายังโครงการได้ หากออกไปยังฝั่งซ้ายจะไปยังถนนสุขุมวิทที่เป็นแนวรถไฟฟ้า
รูปทรงของอาคารออกแบบเป็นรูปตัว “C” ความสูงอยู่ที่ประมาณ 154 เมตร ซึ่งสูงที่สุดบนถนนเอกมัย สาเหตุที่ทำให้พัฒนาโครงการที่มีความสูงขนาดนี้ได้คือการที่พื้นที่ของโครงการตามผังเมืองเป็นสีแดง หมายความว่า FAR (Floor Area Ratio) หรือพื้นที่พัฒนาสุทธิสามารถทำได้ถึงสิบเท่าของขนาดที่ดิน *สมมติพื้นที่โครงการ 1 ไร่ ผังสีแดงสามารถพัฒนาเป็นพื้นที่อยู่อาศัยได้ถึง 10 ไร่ (พื้นที่ขึ้นในแนวสูง)
ชั้น 6 ของอาคารเป็นพื้นที่ส่วนกลางประกอบไปด้วย: สระว่ายน้ำขนาดความยาว 28 เมตร สวนหย่อม ฟิตเนส ห้องสมุด และ jogging track
ชั้นที่ 1-5 เป็นพื้นที่จอดรถ ชั้น 6-43 จะเป็นพื้นที่อยู่อาศัย
ชั้น 40-42 จะเป็นที่ตั้งของยูนิตประเภท Morph (ดูเพล็กซ์) ซึ่งมีประมาณชั้นละ 14 ยูนิต ชั้น 43 เป็นชั้นของยูนิต penthouse ที่จะมีเพียงแค่ 7 ยูนิตเท่านั้น
Master Plan
ถนนหน้าทางเข้าคือถนนเอกมัย ชั้น 1 ประกอบด้วย ล็อบบี้, นิติบุคคล, mail room สำหรับชั้น 2 – 5 จะเป็นพื้นที่จอดรถ
ชั้น 6 จะประกอบทั้งพื้นที่ส่วนกลางและพื้นที่อยู่อาศัย พื้นที่ส่วนกลางประกอบด้วย สระว่ายน้ำขนาด 9.2 x 28.8 เมตร, ห้องสมุด, สวนหย่อมขนาดใหญ่, lounge และ fitness ชั้นนี้มียูนิตอยู่อาศัยประมาณ 17 ห้อง
ชั้นดาดฟ้า (44) ประกอบด้วย Sky Lounge ที่ให้ความสูงเพดานมาแบบ double volume, สวนสำหรับนั่งตากอากาศชมวิวเมืองในแบบ panoramic ได้
Rooms Plan
Type A2 ขนาดพื้นที่ใช้สอย 30 ตร.ม. ประกอบด้วย 1 ห้องนอน, 1 ห้องนั่งเล่น, 1 ห้องน้ำ, ห้องครัว และระเบียงส่วนตัว
Type A4 ขนาดพื้นที่ใช้สอย 34 ตร.ม. ประกอบด้วย 1 ห้องนอน, 1 ห้องนั่งเล่น, 1 ห้องน้ำ, ห้องครัว และระเบียงส่วนตัว
Type C1 ขนาดพื้นที่ใช้สอย 65 ตร.ม. ประกอบด้วย 2 ห้องนอน, 1 ห้องนั่งเล่น, 2 ห้องน้ำ, ห้องครัว, โซนรับประทานอาหาร และระเบียงส่วนตัว
รีวิวห้องชุดตัวอย่าง
สิ่งที่จะได้รับจากโครงการ
– วัสดุพื้น
พื้น living และ dining zone เป็นลามิเนตหนา 12 มม. หน้ากว้าง 8 มม. หนา ทนพิเศษ และไม่ดูดซึมน้ำลดปัญหาเนื้อไม้บวม ความกว้างขนาดนี้ลดรอยต่อระหว่างชิ้นกระเบื้องด้วยเช่นกัน
พื้นครัวกระเบื้อง porcelain 20 x 60 ซม.
– built-in เฟอร์นิเจอร์
งาน built-in เฟอร์นิเจอร์ Starmark
Type C1 ขนาด 65 ตร.ม.
ห้องตัวอย่างนี้จะอยู่ชั้น 1 ของสำนักงานขาย ห้อง type C1 layout จะเป็นหน้ากว้างที่มีห้องนอนอยู่ทั้งทางฝั่งซ้ายและขวา
เมื่อเปิดเข้ามาจะพบกับหนึ่ง feature เด่นของห้องนั่นคือช่องเก็บ compressor แอร์ที่แยกส่วนต่างหาก โดยจะไม่ถูกนำไปวางไว้กินพื้นที่ระเบียงเหมือนโครงการทั่วไป ทำให้ได้ใช้พื้นที่ระเบียงแบบเต็มๆ
เมื่อเดินเข้ามาฝั่งซ้ายจะเป็นพื้นที่ที่มิกซ์ระหว่าง living zone และ dining zone เข้าไว้ด้วยกัน วัสดุพื้นที่ได้ในโซนนี้จะเป็นไม้ลามิเนตหนาพิเศษ (12 มม.) ที่แผ่นไม้มีหน้ากว้าง 8 มม. ส่งผลให้เห็นรอยต่อระหว่างแผ่นน้อยที่สุด และเนื่องจากขนาดความหนาของไม้ทำให้ทนทานต่อแรงกระแทกเมื่อทำของหนักตกใส่พื้น และลดการเป็นรอยลงกรณีลากของที่มีมุมแหลมคม
living zone มีขนาดพื้นที่ใช้สอยประมาณ 2 x 1.5 เมตร สามารถจัดวางโซฟาขนาด 3-4 ที่ได้ สำหรับ dining zone มีขนาดพื้นที่เดียวกันโดยสามารถจัดวางชุดโต๊ะทานข้าวขนาด 4 – 6 ที่ได้สบายๆ
ความสูงของเพดานของโครงการจะให้มาถึง 2.7 เมตร ซึ่งให้สัมผัสที่ปลอดโปร่งกว่ามาก ตรงพื้นที่ระหว่าง living & dining zone มีประตูกระจกบานเลื่อนที่เปิดออกไปเป็นระเบียงความกว้างขนาด 4 เมตร
พื้นที่ใต้โซฟามีจุดเต้าเสียบปลี๊กรองรับการใช้งานพร้อมฝาครอบอลูมิเนียม
ราวกันตกเป็นสแตนเลส เนื่องจาก compressor แอร์นั้นถูกแยกเก็บไว้ที่ช่องบริเวณหน้าทางเข้ายูนิตทำให้ได้ใช้พื้นที่สอยตรงระเบียงได้อย่างเต็มๆ
kitchen จะมีประตูเปิดปิดเป็นแบบบานเลื่อนสองตอนที่จะมาบรรจบตรงมุม กระจกประตูได้เป็น tempered glass ฟิลม์ทึบ (ปลอดภัยเพราะเมื่อแตกจะไม่เป็นเศษแก้วแต่จะกลายเป็นผงแทน) ceiling height ที่ได้ตรงส่วนนี้คือ 2.7 เมตร เช่นเดียวกัน พื้นครัวที่ได้เป็นกระเบื้อง Porcelain ขนาด 20 x 60 ซม. ซึ่งกระเบื้องชนิดนี้มีความคงทนกว่า ceramic ที่โครงการทั่วไปใช้ รวมถึงดูดซึมน้ำน้อยมาก การที่ดูดซึมน้อยทำให้น้ำไม่เข้าไปในเนื้อกระเบื้องซึ่งเป็นสาเหตุหลักของกระเบื้องบวม
งาน built-in ครัวได้เป็นแบรนด์ Starmark ซึ่งเป็นแบรนด์ท็อปของตลาด รูปทรงครัวออกแบบเป็นรูปตัว “L” สังเกตว่าตรงขอบลิ้นชักได้เป็น soft coat ที่เป็นขอบสีทองสร้างบรรยากาศแบบครัวฝรั่งหรูได้เป็นอย่างดี
พื้นที่เก็บของค่อนข้างถูกอกถูกใจคนรักการทำครัวเพราะสามารถเก็บอุปกรณ์ได้เยอะ เตาไฟฟ้าและที่ดูดควันได้เป็นแบรนด์ MEX
ประตูทางเข้า Master Bedroom (งาน built-in ชั้นวางทีวีไม่่่่่ได้ติดตั้งมาให้ด้วย ผนังด้านหลังของจริงที่ให้จะเป็นผนังสีขาวเรียบ)
Master Bedroom
ขนาดพื้นที่ใช้สอยของ master bedroom จะประมาณ 2 x 3 เมตร สามารถจัดวางเตียงขนาดคิงไซส์ได้ headboard ด้านหลังของจริงจะเป็นผนังเรียบสีขาว ด้านหลังของจุดวางเตียงมีหน้าต่างบานกระทุ้งติดตั้ง
ระยะห่างระหว่างผนังและปลายเตียงมีพื้นที่เหลือน้อย ส่งผลให้อาจจะเลือกทำชั้นวางทีวีเป็นแบบติดผนัง (งาน built-in ชั้นวางไม่ได้ติดตั้งมาให้ ห้องจริงเป็นผนังเรียบสีขาว) มุมด้านซ้ายปลายเตียงเป็นตำแหน่งของหน้าต่างบานกระทุ้งเช่นกัน
ริมขวาของจุดวางเตียงเป็นตำแหน่งของงาน built-in ตู้เสื้อผ้าโครงการมีมาให้พร้อม ซึ่งตู้นี้มีฟีเจอร์ที่เหมาะกับคนที่มีเครื่องประดับเป็นจำนวนมากแล้วมีปัญหาเรื่องการหาจัดพื้นที่เก็บเป็นสัดส่วน
ช่องที่ซ่อนเก็บอยู่ด้านข้างของตู้เมื่อเลื่อนออกมาจะมีจุดแขวนสำหรับไอเทมเล็กๆเช่นสร้อยคอ ผ้าพันคอ หรือตุ้มหู
ติดกับตู้ built-in จะเป็นห้องน้ำของ master bedroom สุขภัณฑ์ อ่างล้างหน้าเป็นของ Cotto มาพร้อมงาน built-in ใต้อ่าง
ผนังด้านข้างอ่างล้างหน้ามีเต้าเสียบปลั๊กติดตั้งรองรับการใช้งาน ผนังของห้องน้ำเป็น Porcelain ลายหินแบบขัดเงาสวยงาม
พื้นเป็นกระเบื้อง porcelain เช่นเดียวกันขนาด 30 x 30 ซม. แต่จะเป็นชนิดแบบสากเพื่อป้องกันการลื่นล้ม มีการยกธรณีขึ้นมาแยกระหว่างโซนเปียกแห้ง
ห้องนอนเล็ก
ห้องนอนเล็กมีขนาดพื้นที่ใช้สอยประมาณ 1.5 x 1.5 เมตร งานตกแต่ง headboard ไม่ได้บิ้ลท์มาให้ ของจริงเป็นผนังสีขาวเรียบ งาน built-in ตู้เสื้อผ้าทำจากไม้ลามิเนตชนิดหนาพิเศษผ้าติดตั้งมาให้พร้อมแบบห้องตัวอย่างขอบตู้เป็น soft coat สีทอง
โซนอาบน้ำติดตั้งกระจก safety ไว้ให้ พร้อมยกธรณีกั้นระหว่างส่วนเปียกแห้งเช่นกัน ผนังและพื้นเป็น Porcelain
Type A4 1 ห้องนอนขนาด 34.25 ตร.ม.
ครัว built-in จะอยู่ฝั่งซ้ายเมื่อเปิดประตูเข้ามา ครัวเป็นงานของ Starmark เช่นเดียวกัน แต่ห้องประเภทหนึ่งห้องนอนจะได้งาน built-in เป็นสีขาว
sink ล้างจานเป็นแบบฝังลงไปในเคาน์เตอร์ (integrated) ที่เปิดปิดแบบผลักเข้าออกดีไซน์ทันสมัย เตาและที่ดูดควันของ MEX ให้มาเช่นเดียวกัน
ฝั่งขวาเป็นงาน built-in ตู้จัดเก็บรองเท้าที่โครงการติดตั้งมาให้ นอกจากเก็บรองเท้าแล้วยังมีพื้นที่สำหรับจัดเก็บร่มและหมวกได้เช่นกัน
ceiling height ของ kitchen และ living room มีขนาดเดียวกับประเภทสองห้องนอนที่ 2.7 เมตร พื้นที่ใช้สอยของ living room จะมีประมาณ 2 x 1.5 เมตร สามารถจัดวางโซฟาขนาด 3-4 ที่ได้ กระจกด้านหลังเป็นไอเดียการตกแต่งของจริงจะเป็นผนังเรียบสีขาว
ยูนิตจริงจุดตรงนี้จะเป็นพื้นที่โล่ง พื้นเป็นลามิเนตขนาดความหนา 12 มม. เช่นกัน living room จะมีพื้นที่ติดระเบียงขนาด 1.5 เมตร
ห้องฝั่งขวามือเป็นห้องนอนขนาด 2 x 2 เมตรที่มี ceiling height ที่ 2.7 เมตรเช่นเดียวกัน งานดรอปฝ้าที่เห็นเป็นเพียงแค่การตกแต่ง แต่จะมี downlight ที่ติดตั้งมาให้
พื้นที่ของห้องนอนสามารถจัดวางเตียงขนาด ควีน – คิงไซส์ ได้ ผนังหัวเตียงยูนิตจริงจะเป็นสีขาวเรียบ พื้นที่ข้างเตียงฝั่งซ้ายเป็นงาน built-in ตู้เสื้อผ้าแบบ walk-in
พื้นที่ด้านข้างเตียงเหลือพอที่จะเพิ่มโต๊ะอ่านหนังสือขนาดเล็กหรือโต๊ะเครื่องแป้งได้ ถัดจากตู้เสื้อผ้า walk-in จะเป็นตำแหน่งของห้องน้ำ
walk-in closet แยกซ้ายขวาระหว่างตู้เสื้อผ้าสำหรับผู้ชายและผู้หญิงพร้อมพื้นที่จัดเก็บไอเทมต่างๆมากมายพวก กำไร แหวน เนกไท
ทําเล & การเดินทาง
ศักยภาพของถนนเอกมัย
ถนนเอกมัย (ซอยสุขุมวิท 63) คือถนนที่ล้อไปกับถนนทองหล่อ (ซอยสุขุมวิท 55) จุดเด่นของเอกมัยคงจะหนีไม่พ้นสถานที่ไลฟ์สไตล์และสถานที่ไนท์ไลฟ์ต่างๆที่เกิดขึ้นมากมาย รองรับความต้องการกินดื่มของหนุ่มสาวชาวออฟฟิศที่มักจะมาสังสรรค์กันในช่วงเย็นและจะหนาแน่นมากเกือบทุกร้านในช่วงวันศุกร์ เมื่อสถานที่ไลฟ์สไตล์เกิดขึ้นใกล้ๆแนวรถไฟฟ้า ส่งผลให้เกิดเอกลักษณ์การอยู่อาศัยของย่านนี้ ดีเวลลอปเปอร์รายต่างๆจึงรีบคว้าที่ดินเพื่อขึ้นคอนโดมิเนียมในระดับลักชัวรี่กัน สาเหตุสำคัญที่ต้องเลือกโปรดักส์ในเซ็กเม้นท์นี้มาลงเป็นเพราะราคาที่ดินได้มาที่สูงนั่นเอง โปรดักส์จึงต้องถูกพัฒนาออกมา “หรู” เพื่อผลักดันราคาขายต่อ ตร.ม. ให้ได้มากที่สุด
หน้าปากซอย 63 จะถูกต้อนรับด้วยร้านสหกรณ์กรุงเทพฯ ที่จะเป็นสินค้าของสหกรณ์ที่ถูกนำมาจัดจำหน่าย อีกฝั่งหนึ่งคือ บ้านไร่กาแฟ ซึ่งจะไม่ใช่แค่แบบที่บริการเฉพาะกาแฟเท่านั้นแต่ยังเป็นร้านอาหารจัดในบรรยากาศสวนอีกด้วย
ฝั่งของ เกทเวย์ เอกมัย สังเกตจะมีซอยอยู่ข้างๆนั่นคือ สุขุมวิท 42 ซอยนี้คือซอยที่เชื่อมต่อระหว่างถนนสุขุมวิทและถนนพระราม 4 เข้าไว้ด้วยกัน
ตลาด bazaar บนพื้นที่ของเกทเวย์จะจัดขึ้นเป็นประจำ ส่วนใหญ่จะเป็นเสื้อผ้าแฟชั่นและอาหารที่บรรดาพ่อค้าแม่ค้าวัยรุ่นนำมาจำหน่าย
สามารถใช้ซอยสุขุมวิท 42 เพื่อไปโผล่ยังถนนพระราม 4 เพื่อเข้าสู่โซน พระราม 3 อย่างง่ายดายโดยไม่ต้องขึ้นทางด่วน แต่ช่วงเย็นๆการจราจรอาจจะค่อนข้างหนาแน่น
สำหรับคนที่อาศัยอยู่ในย่านเอกมัยหรือทองหล่อจะต้องแวะมาเยี่ยมเยียนซอยสุดฮิตอย่าง เอกมัย ซอย 5 (สำหรับคนที่อยู่ฝั่งเอกมัย) หรือ ทองหล่อ ซอย 10 (สำหรับคนที่อยู่ฝั่งทองหล่อ) สำหรับโซนที่เราหยิบยกมาแนะนำจะเน้นมาที่ฝั่งเอกมัยซึ่งคือ อารีนา 10 ของเสี่ยตัน โซนนี้จะเป็นที่รวมของร้านต่างๆทั้งอารมณ์แบบนั่งชิวเช่น Sway Urban Eatery, Tokiya หรือแบบหนักหูสไตล์ EDM เช่น Funky Villa, Demo ไม่เพียงเท่านั้นพื้นที่ใกล้เคียงฝั่งติดถนนเอกมัยยังมีร้านที่เป็นศูนย์รวมของเหล่านักศึกษาและหนุ่มสาวออฟฟิศที่มาปลดปล่อยความเครียดกับการแดนซ์ที่ ร้านนั่งเล่น (ที่ไม่เคยได้นั่งเพราะเต็มตลอดหากไปดึก), Escobar, DND Club และหากต้องการหาอะไรรองท้องทานก่อนกลับจะมีไก่ทอดและลูกชิ้นทอดเข็นมาขายแถวๆร้านให้ได้อิ่มกัน
นอกจาก เอกมัย ซอย 5 ในข้างต้นแล้ว ยังมีอีกโซนหนึ่งที่อยู่ข้างๆซอย เอกมัย 10 เรียกว่า “เวิ้งโบราณ” ที่มาในบรรยากาศไม่โบราณเหมือนชื่อ ร้านที่เป็นที่นิยมทั้งในเรื่องราคาที่ถูกและรสชาติอาหารคือ ร้านบ้านเพื่อนเอกมัย (ติดกันจะมียิมออกกำลังกายด้วย) หรือจะเป็นร้านอาหารญี่ปุ่นพร้อมเหล้าสาเกมากมายให้เลือกสรรกันอย่าง Ebisu Sushi
สถาบันความงามครบวงจร
นอกจากสถานที่แฮงก์เอ้าท์มากมายที่เข้ามารองรับดีมานด์การใช้จ่ายของชาวเอกมัยหรือคนจากถิ่นต่างๆ แล้ว ยังมีอีกธุรกิจหนึ่งที่เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งและได้รับความนิยมบนถนนเอกมัยนั่นคือ ธุรกิจเสริมความงาม โดย ณ ปัจจุบันมีเจ้าใหญ่ที่ตั้งอยู่บนถนนนี้อยู่แล้วอย่าง DRK Clinic และใกล้ๆ กัน (ก่อนถึงซอย เอกมัย 3) กำลังมีการก่อสร้างของศูนย์ความงามจากเกาหลีใต้ชื่อดัง Grand Este Beauty Center ซึ่งเทรนด์การเกิดขึ้นของสถาบันเหล่านี้แสดงถึงไลฟ์สไตล์การดูแลตัวเองของชาวเมืองเป็นอย่างดี โดยเฉพาะกลุ่มที่มีกำลังซื้อสูงในย่าน ทองหล่อ – เอกมัย
วิเคราะห์ศักยภาพเอกมัยตอนบน
ถึงความสะดวกสบายด้านขนส่งมวลชนจะไม่สะดวกเท่ากับทางฝั่งเอกมัยตอนล่างที่ติดกับแนวรถไฟฟ้ามากกว่า อย่างไรก็ตามผู้ที่อยู่อาศัยทางเอกมัยตอนบนจะได้เปรียบเรื่อง การเดินทางทางรถ เนื่องจากมุ่งต่อไปทางเหนืออีกนิดนึง (แยกตรงถนนพระราม 9) ก็จะเจอกับจุดขึ้นทางด่วนสายศรีรัชที่จะผ่านถนนประชาชื่นและจะไปสิ้นสุดที่ถนนแจ้งวัฒนะ หรือจะใช้เพื่อเปลี่ยนเส้นทางพิเศษไปยังสายเฉลิมมหานครที่จะไปลงยังฝั่งพระราม 3 รวมถึงมุ่งหน้าไปยังแถวบางนาได้อย่างรวดเร็ว อีกทั้งยังสามารถเปลี่ยนเส้นไปยังสาย รามอินทรา – อาจณรงค์ ที่จะพาไปลงยังถนนศรีนิครินทร์ได้อีกด้วย
การเข้าถึงศูนย์กลางทางธุรกิจหรือซีบีดีก็สามารถทำได้อย่างรวดเร็วเช่นกัน จากโซนเอกมัยตอนบนไปยัง ซีบีดีอโศก มีระยะทางประมาณ 4.5 กม. มีตัวเลือกการเดินทางทั้งขับรถไปเองหรือขึ้นรถรับจ้างมาลงปากซอย 63 เพื่อต่อบีทีเอสก็ได้ หรือการเข้าสู่โซน นิวซีบีดีพระราม 9 ก็มีระยะทางไล่เลี่ยกัน แต่คงต้องขับรถไปเองหรือนั่งรถโดยสารไปก่อนเนื่องจากยังไม่มีรถไฟฟ้าจากโซนเอกมัยตอนบนไปยังแยกพระราม 9 โดยตรง
ความพิเศษของถนนเอกมัยอีกประเด็นหนึ่งก็คือ การที่มีซอยเชื่อมต่อไปยังถนนทองหล่อได้ สำหรับเอกมัยตอนล่างจะใช้ ซอยทองหล่อ 10 (ซอยที่เป็นที่ตั้งของ Arena 10 ในข้างต้น) สำหรับฝั่งเอกมัยตอนบนจะใช้ ซอยแจ่มจันทร์ ในการเข้าภึงถนนทองหล่อฝั่งติดถนนเพชรบุรี
ซอยแจ่มจันทร์ จะใช้เพื่อเป็นทางลัดไปสู่ฝั่งทองหล่อ และตลอดทางของซอยยังคงมีร้านอาหารญี่ปุ่นเกิดขึ้นเช่นกัน
โครการรถไฟฟ้าสายสีเทารางเดี่ยวในอนาคต
ถูกอนุมัติโครงการตั้งแต่ปี 2553 ซึ่ง ณ ปัจจุบันกำลังอยู่ในขั้นตอนการศึกษาการก่อสร้างอยู่สำหรับ รถไฟฟ้าสายสีเทารางเดี่ยว (Monorail) ที่จะมีจุดเริ่มต้นตั้งแต่ช่วงซอยวัชรพลมาสิ้นสุดยังสะพานพระราม 9 (แผนในปัจจุบัน) และในอนาคตจะยิงยาวไปถึงจุด interchange รถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินสถานีท่าพระ สำหรับสถานีที่ใกล้กับโซนเอกมัยตอนบนมากที่สุดคือ สถานีเพชรบุรีทองหล่อ (บนถนนเพชรบุรีซอยที่จะเข้าโซนทองหล่อ) และ สถานีแจ่มจันทร์ (บริเวณซอยแจ่มจันทร์) อย่างไรก็ตามสถานีดังกล่าวทั้งสองอยู่ในเฟส 2 ของโครงการสายสีเทานี้ (ช่วงลาดพร้าว – พระราม 4) ซึ่งตามแผนแม่บทจะแล้วเสร็จประมาณปี ’62 แต่คาดว่าน่าจะดีเลย์ออกไปอีกสักระยะ
ภาพจำลอง Monorail ที่วิ่งผ่าน ถนนเพชรบุรี – ทองหล่อ ลักษณะของรถรางประเภทนี้คือการยกรางขึ้นเหนือเกาะกลาง การเดินรถจะเป็นแบบ one way
การเดินทางมายังโครงการ
การเดินทางที่สะดวกที่สุดคือการขึ้นบีทีเอสสายสีเขียวเข้ม (สายสุขุมวิท) มาลงยัง สถานีเอกมัย เพื่อต่อรถรับจ้างเข้ามายังบริเวณ ซอยเอกมัย 30 ซึ่งเป็นที่ตั้งของโครงการ C Ekkamai นั่นเอง
ไม่ต้องตกใจหากพี่วินพาเลี้ยวเข้าซอย 22 เพราะสามารถไปโผล่ซอย 30 ได้เช่นกัน สาเหตุที่ต้องเลี้ยวเข้าซอยนี้เพราะในช่วงถนนเอกมัยตอนบนจะมีกรวยตั้งทำให้ไม่สามารถเลี้ยวขวาเพื่อเข้าซอยฝั่งเลขคู่ได้
เมื่อเข้าซอย 22 ตามทางมาเรื่อยๆจะพบว่าผ่านทางเข้าจากซอย 28 มาด้วย เมื่อเลยซอย 28 มาจะมีทางเลี้ยวซ้ายเพื่อโผล่ไปปากซอย 30 ได้
บรรยากาศภายในซอย 30
เมื่อพ้นปากซอยมาจะบังคับเลี้ยวซ้าย หากต้องข้ามถนนในจุดนี้ให้ระวังรถที่วิ่งมาจากฝั่งถนนเพชรบุรีด้วยเพราะเป็นช่วงโค้งพอดี
บรรยากาศภายในสำนักงานขาย
ซ้ายไปถนนเพชรบุรี – ประตูน้ำ, ตรงจะมุ่งไปยัง พระราม 9 (จุดขึ้นทางด่วนศรีรัช) – รามอินทรา ขวาเป็นการมาจากถนนเพชรบุรี
บริเวณพื้นที่โครงการจะมีซอยที่สามารถพาเข้าสู่ทองหล่อได้ทันทีนั่นคือ ซอยแจ่มจันทร์
ร้านอาหารที่เกิดขึ้นในซอยแจ่มจันทร์จะมีทั้งร้านอาหารญี่ปุ่น (Shibuya Shabu) และร้านเบเกอรี่ (Cheesecake House Restaurant) รวมถึงซอยนี้ยังมีโรงเรียนแจ่มจันทร์ตั้งอยู่ด้วย
หากมาจาฝั่งถนนเพชรบุรีการที่จะเข้าซอยแจ่มจันทร์แนะนำว่าให้กลับรถที่ปั๊มจะปลอดภัยกว่าการลักไก่กลับรถใกล้กับจุดตั้งกรวยจราจร
ซัพพลายที่เกิดขึ้นบนถนนเอกมัย
บนถนนเอกมัยมีการเกิดขึ้นของโครงการต่างๆ เริ่มกันที่โครงการที่อยู่มานานบนถนนนี้และขายหมดไปแล้ว (อยู่ในช่วง Resale) นั่นคือ Noble Reveal ที่มีราคาเริ่มต้นที่ประมาณ 160,000 บาท/ตร.ม., The Alcove ทองหล่อ 10 (โครงการแล้วเสร็จตั้งแต่ปี 2558) และล่าสุดกับ Rhythm เอกมัย จากค่าย เอพี (ไทยแลนด์) ที่กำลังอยู่ในช่วงการก่อสร้างแต่ราคาถูกดันไปอยู่ที่เริ่มต้นประมาณเกือบ 200,000 บาท/ตร.ม. เนื่องจากอยู่ฝั่งเอกมัยตอนใต้ซึ่งติดแนวรถไฟฟ้ามากกว่า เมื่อเปรียบเทียบกับราคาของริธึม ส่งผลให้ราคาของ C Ekkamai ดูน่าสนใจขึ้นมาทันทีเพราะเป็นโครงการใหม่ที่มาในราคาเริ่มต้นที่ 125,000 บาท/ตร.ม.
สถานที่ Lifestyle
ตรงซอยเอกมัย 2 มีคอมมูนิตี้มอลล์ที่เป็นศูนย์รวมของร้านต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นร้านอาหารญี่ปุ่นเช่น ร้านสุกี้ชาบู Donabe, ร้านปิ้งย่าง Mosho Moshi Yakiniku, ร้านซูชิ Honmono Sushi, ร้านราเมงต้นตำรับญี่ปุ่น Yamagoya Ramen, ร้านข้าวห่อไข่และขนมหวาน Omu Japanese & Omurice & Cafe, ร้านแซนวิช Delice, ร้านจิบไวน์ Salute Bistro Wine Bar และร้านเบียร์ Pint Beer นอกจากร้านอาหารแล้วยังมีศูนย์บริการสำหรับสัตว์เลี้ยงรวมถึงยังเป็นโรงแรมรับฝากสัตว์เลี้ยงกรณีที่เจ้าของไม่อยู่อีกด้วยชื่อ Twinkle พื้นที่สำหรับคุณหนูๆก็มีเช่นกันกับ Playtime
สำหรับคนที่รักสุขภาพ พาร์ค เลน ยังมีสปาตั้งอยู่ด้วยไม่ว่าจะเป็นสปาสำหรับเส้นผม Heads Up และสปานวดเพื่อการผ่อนคลาย S sense Spa รวมไปถึงบริการทำเล็บกับร้าน OPI Boutique หรือหากคุณผู้หญิงคนไหนต้องการเลือกซื้อกระเป๋าแฮนเมดและแบรนด์เนมต่างๆ (มือ 2 สภาพดี) สามารถซื้อได้ที่ร้าน Amanrante ร้าน Amidass และ ร้าน Chicstation เรียกได้ว่า พาร์ค เลน เป็นสถานที่ที่เกือบจะครบวงจรกันเลยทีเดียว
นอกจากฝั่งตรงข้ามเอกมัย 2 (ที่ตั้งของ Park Lane) และ เอกมัย 10 (ที่ตั้งเวิ้งโบราณ) ยังมีอีกหนึ่งซอยที่มีร้านอาหารแนะนำเช่นกันนั่นคือ ซอย เอกมัย 12 โดยในซอยนี้ยังเป็นที่ตั้งของโรงเรียนนานาชาติเอกมัยอีกด้วย (Ekkamai International School)
Escape เอกมัย 12
ร้านเอสคาเปเป็นแนว Pub and Restaurant ที่ตกแต่งในสไตล์โมเดริ์นผสมกับเรโทร มีการจัดวางไอเทมคลาสสิคไว้ตามมุมต่างๆของร้านพร้อมโต๊ะพูลสำหรับดวลฝีมือ ผนังตกแต่งโดนใจคนรักงานลอฟต์ด้วยปูนเปลือย
บรรยากาศภายในร้าน
ผนังมีการดึงทั้งงานอิฐงานปูนเข้ามาผสมกันได้อย่างลงตัว
ยำลูกไก่ที่ทำมาจากเนื้อปลาซาร์ดีน ดูคล้ายลูกชิ้น
ภาพ via: https://www.facebook.com/escape-283069151749470/?fref=ts
24 OWLs by Sometime’s
เป็นร้านอาหารอิตาลีที่เปิดกันแบบ 24 ชม. การตกแต่งจะออกแนว restaurant ผสมกับ coffee shop ร้านตกแต่งสไตล์ Industrial Loft ประดับประดาร้านด้วยไอเทมแนวเรทโทร เหมาะสำหรับหนุ่มสาวออฟฟิศที่นัดเจอกันยามเย็นในบรรยากาศบทสนาทนาเรื่องเบาๆแซมด้วยเรื่องที่ทำงานหน่อยๆ
อาหารอิตาลี พิซซ่า, สปาเก็ตตี้ ชอบแบบไหนเลือกสั่งกันได้เลย
(ภาพ via: https://www.facebook.com/pages/24-Owls-By-Sometimes/)
ร้าน Vanilla Garden
เป็นร้านอาหารและเบเกอรี่ญี่ปุ่นพร้อมเมนูเครื่องดื่มปั่น, เฟรปเป้รวมถึงชาต่างๆต้นฉบับแบบญี่ปุ่น มีสมุดเมนูกระต่ายแดงคือของหวานและกระต่ายดำคือของคาว
Menu Display บนกระจกสวยและดูคลาสสิค (ภาพ via: https://www.facebook.com/pages/Vanilla-Garden-Ekkamai-12)
ฺBake กับ Brew กันให้เห็นเลย (ภาพ via: https://www.facebook.com/pages/Vanilla-Garden-Ekkamai-12)
มีจุดให้บริการอ่านการ์ตูนญี่ปุ่น (Manga) (ภาพ via: https://www.facebook.com/pages/Vanilla-Garden-Ekkamai-12)
บทวิเคราะห์
ถึงแม้ว่าจะอยู่ถัดกันเพียงแค่ซอยเดียวแต่ความต่างทางด้านราคาที่ดินระหว่างถนนทองหล่อและเอกมัยนั้นค่อนข้างมากโดยในช่วงต้นของทองหล่อนั้นราคาที่ดินต่อ ตร.วา ซื้อขายกันที่หลักล้านต้นๆกันแล้ว ในขณะที่ช่วงต้นของเอกมัยก็กำลังอยู่ในช่วงราคาเฉียดล้านเช่นกัน ดังนั้นจึงเป็นจุดสังเกตที่ว่าทำไมช่วงต้นของถนนทองหล่อและเอกมัยดีเวลลอปเปอร์จึงเลือกแบรนด์ระดับบนมาพัฒนา และบางโครงการเลือกใส่จุดเด่นทางด้านการออกแบบโดยการนำศิลปินต่างชาติเข้ามาช่วยดีไซน์ (ตัวอย่างเช่น Khun by Yoo จากค่าย แสนสิริ) ที่ราคาเปิดออกมาถึง 360,000 บาท/ตร.ม. หรือจะเป็นโครงการ RHYTHM เอกมัยจากค่าย เอพี ไทยแลนด์ ที่อยู่ช่วงเอกมัย 2 ซึ่งตอนนี้ sold out ไปเรียบร้อยแล้วโดยตอนนี้ราคารีเซลขยับขึ้นไปอยู่ที่ประมาณ 200,000 บาท/ตร.ม. การเน้นไปที่แบรนด์และดีไซน์ใช้เพื่อเป็นส่วนประกอบในการผลักราคาขายต่อ ตร.ม. ให้สูงขึ้น และจำเป็นที่จะต้องพัฒนาโครงการในลักษณะของไฮไรส์เพื่อให้เกิดพื้นที่ขายสุทธิได้มากที่สุด
สำหรับราคาซื้อขายที่ดินช่วงกลางๆเอกมัยจะอยู่ที่ประมาณ 500,000 – 600,000 บาท ต่อ ตร.วา จึงเป็นปัจจัยสำคัญด้านราคาเปิดที่ทางดีเวลลอปเปอร์พยายามดันให้เริ่มกันตั้งแต่ 150,000 บาท/ตร.ม. โดยราคารีเซลสำหรับโครงการที่เสร็จแล้วอย่าง Noble Reveal อยู่ที่ประมาณ 150,000 – 170,000 บาท/ตร.ม. หรือจะเป็นโครงการ Aclove ทองหล่อ 10 (สร้างเสร็จพร้อมอยู่ตั้งแต่ปี 2554) ที่ราคารีเซลซื้อขายกันอยู่ที่ประมาณ 120,000 – 130,000 บาท/ตร.ม.
หากจะเปรียบเทียบลักษณะการอยู่อาศัยกับการขับรถยนต์สามารถเปรียบได้ว่าการอยู่อาศัยในย่านทองหล่อคือการขับรถยุโรปหรูตัวท็อป (Mercedes Benz, BMW) ที่มีราคาค่อนข้าง overpriced หรือราคาที่รถนั้นแพงเกิดจากการที่ผู้บริโภคตีมูลค่าแบรนด์สูงนั่นเอง แต่การอยู่อาศัยในย่านเอกมัยเปรียบเสมือนการได้ขับรถญี่ปุ่นหรูตัวท็อป (Honda Accord, Toyota Camry) ที่เราได้นิยามคำว่าหรูเช่นเดียวกันพร้อมสมรรถนะและฟังก์ชั่นของรถที่ใกล้เคียงกันแตกต่างกันเรื่องมูลค่าของตัวแบรนด์นั่นเอง จากการเปรียบเทียบนี้สะท้อนออกมาผ่านราคาของอสังหาริมทรัพย์ที่เกิดขึ้นบนถนนทองหล่อและเอกมัย สมมติว่ามีสองโครงการที่เป็นโปรดักส์เซ็กเม้นต์เดียวกันเกิดขึ้นบนถนนช่วงเดียวกันระหว่างถนนทองหล่อและเอกมัย แต่ราคาขายต่อ ตร.ม. ของอสังหาฯระหว่างสองถนนนี้ค่อนข้างแตกต่างกันอย่างมีนัยยะสำคัญเลยทีเดียว
ทางคุณ วิญญู พูลเกิด กรรมการบริหารของ เดอะ ช้อยส์ฯ ได้นำเสนอว่าการที่กล้าเปิดราคาขายต่อ ตร.ม. ที่แสนต้นๆ นั้นเพราะต้องการให้ผู้ที่ถือครองยูนิตของโครงการ ซี เอกมัยนั้นมีความสุขในด้านการขยับขึ้นของราคาโครงการด้วย (Capital Gain) โดยคาดการณ์ว่าราคาของโครงการจะปรับตัวเข้าหาเส้นเฉลี่ยของราคาโครงการเปิดใหม่บนนถนนเอกมัยที่ส่วนใหญ่เปิดกันที่ 170,000 บาท/ตร.ม. หรือเราอาจจะได้เห็นราคาของยูนิตที่เพิ่มขึ้นถึงเกือบ 40% ในช่วงระยะเวลาประมาณ 3 ปีข้างหน้า ทางด้านฝั่งของการเช่านั้นเรทเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 700 – 800 บาท/ตร.ม. ดังนั้นห้องเริ่มต้นที่ขนาด 27 ตร.ม. สามารถปล่อยเช่าได้ที่ประมาณราคา 18,000 – 19,000 หรือหากคิดเป็นอัตราผลตอบแทนต่อปี (Yield) จะอยู่ที่ประมาณ 6 – 8%
เปรียบเทียบโครงการ*
สำหรับการเปรียบเทียบขอหยิบโครงการ Life Sukhumvit 48 ขึ้นมาเพราะเป็นโครงการที่ยังอยู่ในคำนิยามว่าใหม่ แต่ทางโครงการนั้น sold out ไปเรียบร้อย อย่างไรก็ตามตลาดรีเซลของโครงการยังคงหนีไม่ห่างจากราคาเปิดตัวมากนัก สำหรับ Life Sukhumvit 48 จะสร้างเสร็จประมาณปลายปี 2560 ราคาของโครงการอยู่ใกล้เคียงกับช่วงกรอบราคาของ ซี เอกมัย
ภาพจำลองโครงการ Life สุขุมวิท 48
ข้อมูลโครงการ
ชื่อโครงการ: ไลฟ์ สุขุมวิท 48 (Life Sukhumvit 48)
ผู้พัฒนาโครงการ: บริษัท เอพี (ไทยแลนด์) จำกัด มหาชน: AP
ที่ตั้งโครงการ: ซ. สุขุมวิท 48 เขตพระโขนง
ประเภทโครงการ: คอนโดมิเนียมไฮไรส์ 2 อาคาร
พื้นที่โครงการ: 3-2-99 ไร่
จำนวนยูนิต: 612 (อาคาร N สูง 19 ชั้น 153 ยูนิต, อาคาร S สูง 31 ชั้น 459 ยูนิต)
*ภายในซอยเอกมัยยังมีโครงการที่มีราคาเปิดตัวใกล้เคียงกับ ซี เอกมัย เช่น Aclove (เอกมัย 5) และ Nusasiri Grand (ฝั่งตรงข้าม ซี เอกมัย) แต่เนื่องจากเป็นโครงการที่สร้างเสร็จแล้วเมื่อประมาณ 4-5 ปีที่แล้วจึงไม่ได้ยกนำมาเปรียบเทียบกับตัว ซี ที่เป็นโครงการที่เพิ่งกำลังจะเข้าสู่ช่วง presale
ชื่อโครงการ | ยูนิต | พืนที่ใช้สอย | ราคาเฉลี่ย | ราคาขาย |
C Ekkamai | 736 | 1 br 27-52.25 sq.m.2 br 51.5-65 | 125,000 baht / sq.m. | 3 million baht |
Life Sukhumvit 48 | 612 | 1 br 30-40 sq.m.2 br 47-60 sq.m. | 110,000 baht / sq.m. | 3 million baht |
สรุป
โครงการ ซี เอกมัย สร้างจุดเด่นแก่สายตาผู้บริโภคด้วยรูปลักษณ์การดีไซน์ของอาคารที่เป็นรูปตัว “C” ตามชื่อ และสถิติความสูงที่สูงที่สุดบนถนนเอกมัย ส่งผลให้สามารถเห็นวิวแบบ 360 องศา ณ Sky Lounge ที่ตั้งอยู่บนชั้นบนสุด ด้านงาน built – in และวัสดุที่ให้มาอยู่ในเกรดสูงสุดของตลาดซึ่งค่อนข้างหาได้ยากในโปรดักส์ราคาแสนต้นที่ตั้งอยู่บนถนนเอกมัย
ด้านการเดินทางโดยรถไฟฟ้าอาจจะเรียกได้ว่าไม่ได้ใกล้บีทีเอสมากเหมือนกับโครงการที่อยู่ช่วงต้นของถนน อย่างไรก็ตามสามารถนั่งมอเตอร์ไซต์จากปากซอยมาลงด้านหน้าโครงการได้ทันทีที่ 30 บาท เท่านั้น แต่หากพูดถึงจุดขึ้นลงทางด่วนนั้นค่อนข้างอยู่ใกล้ (ประมาณกิโลเมตรกว่าๆ) ซึ่งจะสะดวกสำหรับผู้ที่ใช้รถเป็นอย่างมาก ทั้งนี้ต้องคอยติดตามว่า Monorail สายสีเทาช่วงที่สองที่จะมาลงยังซอยแจ่มจันทร์ที่อยู่ใกล้กับโครงการประมาณ 800 เมตรนั้นจะสร้างเสร็จและเปิดให้บริการเมื่อไร และคาดว่าปัจจัยของรถไฟฟ้าระบบรางเดี่ยวนี้อาจจะส่งผลไปยังการปรับขึ้นของราคาที่ดินในรัศมี 1 กม. ด้วยเช่นกัน ซึ่งแน่นอนนำไปสู่การปรับตัวขึ้นของราคายูนิต
สุดท้ายโครงการมีการสกรีนลูกค้าที่ดี เนื่องจากไม่ต้องการให้ ซี เอกมัย ตกเป็นเป้าของเหยี่ยวนักลงทุนที่มักจะชอบเข้ามาปั่นราคาใบจองคอนโดมิเนียมบนย่านทองหล่อเอกมัย โดยการวางเงื่อนไขเงินจองและทำสัญญาที่ค่อนข้างสูง (100,000 – 150,000 บาท) สามารถป้องกันดีมานด์ด้านเก็งกำไรได้เป็นอย่างดีเพราะนักลงทุนต้องใช้งบประมาณในการลงทุนถือใบจองที่สูงนั่นเอง เมื่อราคาต้นสูงก็เป็นไปได้ว่าเมื่อนำปล่อยสู่ตลาดอาจจะไม่ได้รับการตอบรับที่ดีในด้านการส่งไม้ต่อขายใบจอง จึงค่อนข้างมั่นใจได้ว่าดีมานด์ความสนใจในตัวโครงการมาจาก เรียลดีมานด์ หรือการซื้อยูนิตเพื่ออยู่อาศัยจริงๆ
สนใจ คอนโดฯ ในโครงการนี้? เลือกชม รายการประกาศ ราคาโดนใจ