พาร์ค 168 นพรัตน์ รามอินทรา (Park 168 Nopparat Ramindra) จาก บริษัท แอล.พี.เอ็น.ดีเวลลอปเมนท์ จํากัด (มหาชน) คอนโดมิเนียม High Rise 25 ชั้น 3 อาคาร ห้องชุดพักอาศัยรวม 1,224 ยูนิต อาคารจอดรถและสระว่ายน้ำ สูง 8 ชั้น 1 อาคาร แต่ละอาคารมีห้องพักอาศัยเพียงอาคารละ 408 ยูนิต มีความเป็นส่วนตัว ไม่แออัด ใกล้รถไฟฟ้าสายสีชมพู สถานีนพรัตนราชธานี ราคาเริ่มต้น 1.69 ล้านบาท
สนใจ คอนโดฯ ในโครงการนี้? เลือกชม รายการประกาศ ราคาโดนใจ
จากการพัฒนาของโครงข่ายการคมนาคมที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทำให้ดีเวลลอปเปอร์หลายเจ้าผุดโครงการที่อยู่อาศัยใหม่ๆ ตลอดแนวเส้นทางของรถไฟฟ้าทั้งสายปัจจุบัน ส่วนต่อขยาย และสายอนาคต เพื่อตอบสนองดีมานด์กลุ่มคนที่อยากอยู่อาศัยสไตล์เมือง เดินทางเข้า-ออกเมืองสะดวก แม้ซัพพลายคอนโดฯ แนวรถไฟฟ้าจะเกิดขึ้นมามากในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา แต่ดูเหมือนว่าจะไม่เพียงพอกับดีมานด์ หรือในสายตาผู้ประกอบการเองก็ยังมองเห็นโอกาสในการเข้าชิงส่วนแบ่งของตลาด แต่ความท้าทายของยุคที่มีการแข่งขันสูงนั้น ก็คือ การเลือกออกโปรดักส์ที่มีจุดขาย และความน่าสนใจ ซึ่งนั่นก็เป็นสิ่งที่ดีเวลลอปเปอร์น้องใหม่อย่าง “ออลล์ อินสไปร์ ดีเวลลอปเม้นท์” ใช้เป็นหลักในการเข้ามาตีตลาด
ที่ผ่านมา ดีเวลลอปเปอร์เจ้านี้ได้ฝากผลงานไปแล้วรวม 4 โครงการ ภายใต้แบรนด์ “The Excel” ไม่ว่าจะเป็น “The Excel Bearing” ซึ่งปัจจุบันก็ขายหมดแล้ว, “The Excel Hideaway” คอนโดมิเนียมติดสนามกอล์ฟมูลค่าโครงการกว่า 320 ล้านบาท, “The excel Hybrid” ในซอยลาซาล 8 ที่ปัจจุบันเหลือขายเพียงไม่กี่ยูนิต และ “The Excel Parc” ในซอยลาซาล 19 ซึ่งเป็นโครงการที่นำออกไปขายยังต่างประเทศ ทั้งสิงคโปร์ ไต้หวัน และจีน และมียอดขายโควต้าต่างชาติเต็มจำนวนแล้วขณะนี้ ส่วนยูนิตที่เหลือคาดว่าจะเปิดขายในเมืองไทยปลายปีนี้
และล่าสุดกับโครงการใหม่ป้ายแดงอย่าง “The Excel Groove” คอนโดมิเนียม Low Rise ความสูง 8 ชั้น จำนวน 5 อาคาร รวม 655 ยูนิต บนเนื้อที่โครงการ 7 ไร่กว่า โดยแบ่งการพัฒนาออกเป็น 3 เฟส มูลค่าโครงการ 1,200 ล้านบาท โดยเบื้องต้นเปิดให้จองเฟสแรก 1 อาคาร จำนวน 182 ยูนิต ห้องขนาด 25-30 ตารางเมตร ราคาเริ่ม 990,000 บาท หรือเฉลี่ยตารางเมตรละ 39,600บาท โดยเปิดให้จองเฟสแรก ในวันที่ 28 – 29 พ.ค. นี้
เจาะลึกข้อมูลโครงการ (19 พ.ค. 2559)
ชื่อโครงการ: ดิ เอ็กซ์เซล กรูฟ (The Excel Groove)
เจ้าของโครงการ: บริษัท ออลล์ อินสไปร์ ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด
ที่ตั้งโครงการ: ซอยลาซาล 52 ถนนลาซาล (สุขุมวิท 105) แขวงบางนา เขตบางนา กทม.
โทร: 095-558-8456
เว็บไซต์: www.excelcondo.com
รายละเอียดโครงการ
เนื้อที่โครงการ: 2-0-24.7 ไร่ (เฟส 1) เนื้อที่โครงการ 3 เฟส รวม 7 ไร่กว่า
รูปแบบโครงการ: คอนโดมิเนียมโลว์ไรส์ ความสูง 8 ชั้น จำนวน 5 อาคาร รม 655 ยูนิต โดยเฟสแรกเปิดขาย 1 อาคาร จำนวน 182 ยูนิต
เปิดขาย: 28 พฤษภาคม 2559
ค่าส่วนกลาง: 40 บาท/ ตร.ม./ เดือน (ชำระล่วงหน้า 1 ปี)
เงินกองทุน: 600 บาท/ ตร.ม. (ชำระครั้งเดียว)
สถานะการก่อสร้าง: รอผล EIA (การประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม) คาดว่าจะเริ่มสร้าง พ.ย. 2559
ประมาณการก่อสร้างแล้วเสร็จ: ปลายปี 2560
จำนวนที่จอดรถ: คิดเป็น 40 %
ระบบรักษาความปลอดภัย: CCTV รอบโครงการ, รปภ. 24 ชม. เข้าออกด้วยระบบ Key Card, ประตูแบบ Digital Door Lock ของ Samsung
สิ่งอำนวยความสะดวก: ล็อบบี้, สระว่ายน้ำ, ห้องออกกำลังกาย, ห้องสมุด, สวนหย่อมรอบโครงการ, Shuttle Service ไปรถไฟฟ้า
ราคาขายเริ่มต้น: 990,000 ล้านบาท (ราคาปัจจุบันสอบถามโครงการอีกครั้ง)
ราคาขายเฉลี่ย/ตารางเมตร: 39,600 บาท
ราคาปล่อยเช่าเฉลี่ย: 7,000 – 8,000 บาท
รูปแบบแบบห้อง: เป็นห้องชุดแบบ 1 ห้องนอนทั้งหมด แบ่งเป็น 3 Type ขนาดตั้งแต่ 25-30 ตารางเมตร พร้อมชุดครัวและเฟอร์นิเจอร์ ตกแต่งแบบ Fully Furnished ทุกห้อง
แบบห้องพัก
Type A: 1 Bedroom ขนาด 25 ตร.ม.
Type B: 1 Bedroom ขนาด 27.50 ตร.ม.
Type C: 1 Bedroom ขนาด 30 ตร.ม.
รายละเอียดโครงการ
รีวิวภาพรวมโครงการ
ดิ เอ็กซ์เซล กรูฟ เป็นคอนโดมิเนียม โลว์ไรส์ ความสูง 8 ชั้น บนที่ดินทั้งหมด 7 ไร่กว่า ในซอยสุขุมวิท 105 (ซอยลาซาล 52) โดยแบ่งการพัฒนาออกเป็น 3 เฟส มีอาคารพักอาศัยทั้งหมด 5 อาคาร รวมทั้งสิ้น 655 ยูนิต โดยเฟสแรก ประกอบด้วย 1 อาคาร จำนวน 182 ยูนิต เป็นห้องชุดแบบหนึ่งห้องนอนทั้งหมด ขนาดตั้งแต่ 25-30 ตารางเมตร นอกจากนี้ ยังมีส่วนของรีเทล พื้นที่ขนาด 2,000 ตารางเมตร อยู่ติดถนนด้านหน้าโครงการ ซึ่งจะเริ่มก่อสร้างปลายปีนี้ด้วย
ปัจจุบัน โครงการอยู่ระหว่างการยื่นอนุมัติผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม (EIA) และคาดว่าจะผ่านการพิจารณาภายในเดือนกันยายนนี้ และจะเริ่มก่อสร้างทันทีในเดือนตุลาคม เพื่อให้ทันกำหนดแล้วเสร็จภายในปี 2560 ด้านการออกแบบตัวอาคารนั้นจะเน้นโทนสีขาว-เทา-น้ำตาล ดีไซน์เรียบๆ สไตล์โมเดิร์น ในคอนเซ็ปต์ “Luxury Loft” อีกทั้งยังออกแบบให้ Facade มีขอบที่ยื่นออกมาทำให้ดูมีลูกเล่นมากขึ้น ซึ่งก็ถือเป็นการเติมมิติให้กับตัวอาคารอีกด้วย
ตัวอาคารนั้นจะเน้นโทนสีขาว-เทา-น้ำตาล ดีไซน์อาคารเรียบๆ สไตล์โมเดิร์น เน้นสร้างมิติให้กับตัวอาคาร ด้วยออกแบบให้ Facade มีขอบที่ยื่นออกมาทำให้ดูมีลูกเล่นมากขึ้น
สำหรับสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ ของโครงการ จะอยู่บริเวณชั้น 1 โดยจะอยู่แยกส่วนกับอาคารพักอาศัย ต่างกับโครงการโลว์ไรส์อื่นๆ ที่จะมีสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ อยู่รวมกับส่วนอาคารพักอาศัย เนื่องจากมีขนาดพื้นที่จำกัด หรือบางโครงการเล็กๆ ก็ตัดเรื่องของสิ่งอำนวยความสะดวกนี้ทิ้ง โดยเจ้าของโครงการตั้งใจจะสร้างให้มีลักษณะคล้ายกับคลับเฮ้าส์เหมือนกับโครงการบ้านจัดสรร โดยภายในคลับเฮ้าส์ได้รวบรวมสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ ไว้มากมาย อาทิเช่น สระว่ายน้ำแบบ Infinity-edge pool, ฟิตเนส พร้อมอุปกรณ์มาตรฐาน เป็นต้น อีกทั้งโดยรอบอาคารยังมีสวนหย่อมเพื่อให้ลูกบ้านได้นั่งผ่อนคลาย ส่วนระบบรักษาความปลอดภัยภายในโครงการก็มีทั้งระบบคีย์การ์ดเข้า-ออก กล้อง CCTV และเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย 24 ชม.รวมไปถึง Shuttle Service บริการรับ-ส่งระหว่างโครงการและสถานีรถไฟฟ้าอีกด้วย
Master Plan
โครงการเฟส 1 จะอยู่ห่างจากถนนซอยลาซาลประมาณ 180 เมตร ผังโครงการของเฟส 1 จะเป็นอาคารรูปตัว L เมื่อเข้ามาในโครงการจะผ่านป้อม รปภ. จากนั้นจะเจอกับคลับเฮ้าส์ หรือพื้นที่ส่วนกลาง ซึ่งจะแยกออกมาจากอาคารที่พักอาศัย โดยส่วนกลางจะเป็นอาคาร 2 ชั้น ชั้นล่างเป็นสระว่ายน้ำขนาด 8 x 15 เมตรโดยประมาณ และ Coffee Gallery (ร้านแกแฟ) ส่วนชั้น 2 จะเป็นห้องฟิตเนส พร้อมอุปกรณ์มาตรฐาน
ในส่วนของตัวอาคาร ถัดเข้ามาจะเป็นพื้นที่ล็อบบี้ ส่วนที่จอดรถของโครงการจะอยู่ที่ชั้น 1 โดยมีที่จอดทั้งหมดรวมจอดซ้อนคันคิดเป็นสัดส่วนประมาณ 40%
ภายในล็อบบี้จะประกอบไปด้วย นิติบุคคล, โซนตู้จดหมาย, มีลิฟท์โดยสารให้ 2 ตัว เมื่อเทียบกับจำนวน 1/100 ยูนิต ก็ถือว่าให้มาใช้งานได้สบายเพราะโครงการมีเพียง 8 ชั้นเท่านั้นเอง พื้นที่ด้านข้างที่จอดรถจะมีพื้นที่สวนสีเขียวเป็นแนวยาวเพื่อให้ความรู้สึกผ่อนคลาย ส่วนที่พักอาศัยจะเริ่มที่ชั้น 2 โดยมีห้องพักเฉลี่ย 26 ยูนิต/ ชั้น
ผังชั้น 3 – 8 เป็นพื้นที่ส่วนพักอาศัยมีการวางแปลนคล้ายๆ กันกับชั้น 2 จะมีเพิ่มขึ้นมาก็ในส่วนของ Facade มีขอบที่ยื่นออกมาทำให้ตัวอาคารดูมีลูกเล่นมากขึ้น
ภาพจำลอง คลับเฮ้าส์กับสระว่ายน้ำ และ Coffee Gallery (ร้านกาแฟ) รวมไปถึงห้องฟิตเนส พร้อมอุปกรณ์มาตรฐาน บริเวณชั้น 2
Unit Plan
รีวิวภายในห้องตัวอย่าง
ห้องตัวอย่างแบบ 1 ห้องนอน Type A ขนาด 25ตร.ม.
ภายในห้องตัวอย่างมีการแยกโซน Living room และห้องนอนอย่างเป็นสัดส่วนด้วยฉากกั้น ซึ่งห้องจริงก็ได้แบบนี้เช่นกัน
พื้นที่ห้อง Living room จะอยู่ด้านหน้าทางเข้า พร้อมโซฟาแบบ 2 ที่นั่ง ที่ทางโครงการจะแถมมาให้ ซึ่งเหมือน หรือเทียบเท่ากับที่เห็นในห้องตัวอย่าง
ชุดครัวบิลท์อินให้มาให้พร้อมเตาไฟฟ้า และเครื่องดูดควันยี่ห้อ EVE แต่ตู้เย็นที่เห็น เป็นเพียงไอเดียในการแต่งห้อง ไม่ได้ให้มาด้วยนะครับ
ห้องครัวอยู่ก่อนระเบียงเพื่อให้สามารถระบายกลิ่นได้ดี แต่การที่เป็นห้องครัวเปิดก็อาจทำให้มีกลิ่นอาหารอยู่ภายในห้องบ้าง แต่ทางโครงการก็มีดครื่องดูดควันก็พอช่วยได้บ้าง
ทางโครงการบิลท์อินโต๊ะทานอาหารอเนกประสงค์มาให้เป็นแบบ 2 ที่นั่ง แต่ก็สามารดึงโต๊ะเสริมที่ซ้อนอยู่ออกมาเพิ่มเป็น โต๊ะสำหรับ 3 คนได้เช่นกัน พอไม่ใช้ก็เก็บเข้าที่เดิม
พื้นที่อีกฟากจะเป็นห้องน้ำที่มีการแยกส่วนเปียก-แห้ง พร้อมกระจกกั้นอาบน้ำ ซึ่งมักจะไม่ค่อยมีมาให้สำหรับโครงการราคาไม่ถึงล้าน
ห้องตัวอย่างแบบ 1 ห้องนอน Type B ขนาด 27.5 ตร.ม.
ส่วนที่มีเสริมขึ้นมาสำหรับห้อง Type B คือขนาดพื้นที่ใช้สอยที่เพิ่มขึ้นมา 2.5 ตร.ม. เพดานห้องสูง 2.45 เช่นกัน
ชั้นวางทีวีบิลท์อินอยู่ด้านหน้าทางเข้า บิลท์อินติดผนังของห้องน้ำ แต่เสียดายที่โครงการน่าจะบิลท์อินให้เต็มพื้นที่ของกำแพง
มีฉากกั้นระหว่างห้องครัวและห้องนั่งเล่นมีการยกขอบเพื่อกั้นส่วนและเพื่อความสะอาดต้องระวังเดินสะดุดนิดนึง
พื้นห้องครัวเป็นกระเบื้องแกรนิตโต้ สะดวกในการทำความสะอาด ประกอบกับการมีฉากกั้นทำให้กลิ่นอาหารไม่รบกวนภายในห้องมากนัก ซึ่งหากเป็นห้องแบบ Type A จะไม่มีฉากกั้นนี้มาให้เหมือนห้อง Type B ห้อง Type นี้จึงเหมาะกับคนชอบทำอาหาร
เตาไฟฟ้า เครื่องดูควันยี่ห้อ EVE เช่นกัน ส่วนผนังครัวเป็นแกรนิตโต้ผิวเรียบเงา ข้อดีคือง่ายต่อการทำความสะอาด
คอมเพรสเซอร์แอร์ 2 ตัวยกลอยขนาด 9000 BTU ให้มาพร้อมกับห้อง ส่วนด้านล่างมีการวางระบบท่อ และไฟไว้ให้สามารถเอาเครื่องซักผ้าแบบฝาหน้ามาวางได้ ส่วนแบบฝาบนอาจติดคอมฯ แอร์ นอกจากนี้ โครงการยังมีราวตากผ้าแถมมาให้ด้วย
ภายในห้องน้ำมีการแยกส่วนเปียก-แห้งอย่างชัดเจน พร้อมกระจกบานใหญ่เต็มพื้นที่ ซึ่งน่าจะถูกใจใครหลายๆ คน ที่ชอบส่องกระจก
ห้องตัวอย่างแบบ 1 ห้องนอน Type C ขนาด 30 ตร.ม.
เตาไฟฟ้า เครื่องดูควันยี่ห้อ EVE เช่นกัน ส่วนผนังครัวติดด้วยกระเบื้องผิวเรียวเงาลายหินอ่อน เพื่อความสะดวกในการทำความสะอาด
สุขภัณฑ์ของ American Standard พร้อมบิลท์อินที่เก็บของใต้อ่างล่างหน้า พร้อมกระจกบานใหญ่ มีการแยกส่วนเปียก-แห้งอย่างเป็นสัดส่วน
Type C วางแปลนห้องเป็นแนวยาว โดยเข้าห้องมาจะเจอกับ Living Room ยาวเต็มพื้นที่ห้อง ส่วนห้องนอน และห้องครัวจะถูกแยกไว้อย่างเป็นสัดส่วน ซึ่งทำให้สะดวกในการอยู่อาศัยและใช้งานจริง
โซฟาขนาด 3 ที่นั่งเป็นดีไซน์เฉพาะของโครงการ ซึ่งแต่ละ Type ห็จะแตกต่างกันออกไป หรือเทียบเท่ากับที่เห็นในห้องตัวอย่าง
ทําเล & การเดินทาง
วิเคราะห์ศักยภาพทำเล
แน่นอนว่าทำเลติดแนวรถไฟฟ้ายังคงเป็นพื้นที่ศักยภาพ และยอดนิยมสำหรับการพัฒนา แต่สิ่งที่ตามมาคือราคาต่อตารางวาที่สูงเช่นกัน เห็นได้จากการพัฒนาของราคาที่ดินตามแนวรถไฟฟ้าที่ถีบตัวสูงขึ้น ทั้งในสายปัจจุบัน และส่วนต่อขยายของสายสีเขียว ส่งผลให้พื้นที่ที่เป็นจุดเชื่อมต่อของทางรถไฟฟ้าในปัจจุบัน และส่วนต่อขยายสายสีเขียวอย่างสถานนีแบริ่ง กำลังเป็นที่สนใจทั้งในกลุ่มผู้ประกอบการ ผู้บริโภค รวมไปถึงนักลงทุน เนื่องจากยังเป็นทำเลที่มีราคาต่ำกว่าช่วงอ่อนนุช
แต่สามารถใช้งานรถไฟฟ้าได้ไม่ต่างกัน อีกทั้งภายในซอยสุขุมวิท 105 หรือที่รู้จักกันในชื่อซอยลาซาลนั้น เป็นชุมชนอยู่อาศัยที่มีองค์ประกอบครบถ้วนกับการใช้ชีวิตประจำวัน และในอนาคตก็ยังจะมีโครงการรถไฟฟ้าสายสีเหลืองวิ่งขนานกับสายสีเขียวผ่านแยกศรีนครินทร์ ซึ่งเป็นที่ตั้งของสถานีศรีลาซาล โดยอยู่ห่างจากโครงการเพียง 600 เมตร นอกจากนี้ จากทำเลที่ตั้งของโครงการ ยังสามารถเดินทางเชื่อมต่อไปยังถนนสุขุมวิท -ศรีนครินทร์ – บางนา – เทพารักษ์ ได้อีกด้วย
วิเคราะทำเลที่ตั้งโครงการ
โครงการ ดิ เอ็กซ์เซล กรูฟ ตั้งอยู่ภายในซอยสุขุมวิท 105 หรือช่วงซอยลาซาล 52 ซึ่งเป็นย่านชุมชนมีองค์ประกอบที่เอื้ออำนวยความสะดวกในการใช้ชีวิตอย่างครบถ้วน ไม่ว่าจะเป็นโรงเรียนนานาชาติ (บางกอกพัฒนา) โรงพยาบาลศิครินทร์ที่อยู่ห่างจากโครงการเพียง 800 เมตร รวมไปถึงอาคารพาณิชย์ที่เรียงรายอยู่ตลอดสองข้างทาง มีทั้งร้านค้า ร้านอาหาร และธุรกิจการบริการ ต่างๆ
ทั้งยังมีจุดเด่นในเรื่องของการเดินทางตรงที่สามารถเชื่อมต่อถนนสายหลักได้ถึง 3 สาย ได้แก่ บางนาตราด-สุขุมวิท-ศรีนครินทร์ และในอนาคตทำเลนี้จะมีการสร้างรถไฟฟ้าสายสีเหลือง (ลาดพร้าว – สำโรง) โดยสถานีที่อยู่ใกล้โครงการที่สุดคือ สถานีศรีลาซาล (ประมาณ 600 เมตร) แต่หากเป็นรถไฟฟ้าสายปัจจุบัน สายสีเขียว สถานีแบริ่งซึ่งอยู่ห่างจากโครงการประมาณ 4 กม. ยังคงเป็นเส้นทางหลักที่คนแถวนี้ใช้ในการเดินทางเข้าเมือง
การเดินทาง
เส้นทางที่ 1 มาจากปากซอยสุขุมวิท 105 (ซอยลาซาล) ตรงไปตามเส้นทางภายในซอยมุ่งหน้าถนนศรีนครินทร์ โครงการจะตั้งอยู่ทางขวามือใกล้กับซอยลาซาล 52 ก่อนถึงแยกศรีนครินทร์ประมาณ 600 เมตร
เส้นทางที่ 2 หากมาจากถนนศรีนครินทร์ฝั่งขาเข้า ให้มุ่งหน้าตรงมายังถนนบางนา-ตราด เลี้ยวซ้ายบริเวณสี่แยกศรีนครินทร์ตัดลาซาล ตรงเข้ามาในซอยประมาณ 600 เมตร ก็จะถึงที่ตั้งโครงการซึ่งอยู่ทางซ้ายมือ ก่อนถึงซอยลาซาล 52
เส้นทางที่ 3 เข้าทางซอยบางนา – ตราด 4 ซึ่งเป็นซอยลัดเข้าสู่สุขุมวิท 105 หรือซอยลาซาล 32 เมื่อตรงเข้ามาในซอยประมาณ 900 เมตร หรือช่วงปากซอยลาซาล 32 ให้เลี้ยวซ้าย แล้วตรงไปตามทางมุ่งหน้าถนนศรีนครินทร์อีกประมาณ 2 กม. ก็จะถึงที่ตั้งโครงการอยู่ทางขวามือ
เส้นทางที่ 4 มาจากทางด่วนลงแยกบางนา เข้าสู่ถนนบางนา – ตราดขาออก ให้วิ่งตรงขึ้นสะพานมุ่งหน้ามายังถนนศรีนครินทร์ เมื่อถึงสี่แยกศรีนครินทร์ตัดลาซาล ให้เลี้ยวขวาเข้าสู่ซอยลาซาลจากนั้นตรงไปตามซอยประมาณ 600 เมตร ก็จะถึงที่ตั้งโครงการ ซึ่งอยู่ทางซ้ายมือ
รถไฟฟ้า
ห่างจากรถไฟฟ้า BTS สายเขียวสถานีแบริ่ง ประมาณ 4 กม.
ห่างจากรถไฟฟ้าสายเหลือง (ในอนาคต) สถานีศรีลาซาล ประมาณ 600 ม.
สถานที่แนวไลฟ์สไตล์
ZURU: Japanese Delicious
ร้านนี้ตั้งอยู่ภายในโครงการศิครินทร์มอลล์ (ด้านหน้า รพ.ศิครินทร์) ส่วนเมนูของร้านมีทั้งอาหารญี่ปุ่นแบบออริจินัล ฟิวชั่น และเมนูผสมผสานความเป็น New York เข้าไปด้วย แม้จะมีเมนูฟิวชั่น แต่เลือกที่จะปรุงออกมาโดยคงรสชาติของวัตถุดิบเอาไว้ให้มากที่สุด อาหารที่นี่มีทั้ง Sushi, Sashimi, Tempura, Tonkatsu, Donburi และ Steak จึงมีความหลากหลาย ต่อให้แวะมาบ่อยๆ ก็ไม่มีเบื่อ
AM Steak and Salad
ร้านสเต็กขวัญใจชาวซอยลาซาล ด้วยปริมาณที่เยอะจุใจ พร้อมบรรยากาศชิลๆ ของร้าน ที่ปิดตั้งแต่ 10 โมงจนถึง 3 ทุ่ม ซึ่งเป็นที่พึ่งให้ได้ฝากท้องกันตั้งแต่เช้ายันค่ำ กับเมนูนับสิบรายการ ราคาเริ่มต้นที่ 59 บาท
ตลาดรถไฟศรีนครินทร์ แหล่งช้อปปิ้งสไตล์วินเทจและจุดพบปะสังสรรค์ยามค่ำคืน มีร้านค้าสไตล์เท่ๆ มากมายไม่ว่าจะเสื้อผ้า รองเท้า เครื่องประดับ ของตกแต่งบ้าน ร้านกินดื่มน่านั่งที่มีดนตรีสดบรรเลงขับกล่อมเสริมบรรยากาศให้เพลิดเพลินตลอดทั้งคืนซึ่งจะคึกคักเป็นพิเศษในคืนวันศุกร์และเสาร์
บทวิเคราะห์
วิเคราะห์อัตราผลตอบแทน
แบบห้องชุด | ขนาด (ตร.ม.) | ราคาปล่อยเช่า (บาท/เดือน) |
1 ห้องนอน | 25 – 30 | 7,000 – 8,000 |
เปรียบเทียบกับโครงการอื่น
เอสเพน คอนโด (Aspen Condo)
เจ้าของโครงการ: บริษัท มานะพัฒนาการ จำกัด (บริษัทในเครือเนาวรัตน์พัฒนาการ)
ที่ตั้ง: ถนนลาซาล (สุขุมวิท 105) แขวงบางนา เขตบางนา กทม.
เว็บไซต์โครงการ: Aspen-condo.com
เนื้อที่โครงการ: 3-3-78.1 ไร่
รูปแบบโครงการ: อาคารชุดพักอาศัยความสูง 8 ชั้น จำนวน 2 อาคาร รวม 425 ยูนิต แบบ 1 ห้องนอน อาคาร 1 มี 212 ยูนิต , อาคาร 2 มี 213 ยูนิต
รูปแบบแบบห้อง: แบบ 1 ห้องนอน 1 ห้องน้ำn Type A ขนาดเริ่มต้นที่ 23.80 – 24.30 Type B ขนาดเริ่มต้นที่ 26.20 – 27.10 Type C ขนาดเริ่มต้นที่ 34.30 – 35.00
ราคาขายเริ่มต้น: 1.50 ล้านบาท
ราคาขายเฉลี่ย/ตารางเมตร: 66,000 บาท/ ตารางเมตร
iCondo Sukhumvit 105
เจ้าของโครงการ: ไบรท์ ดีเวลลอปเมนท์ กรุงเทพ (ในเครือพร็อพเพอร์ตี้ เพอร์เฟค)
เว็บไซต์โครงการ: www.pf.co.th/condominium/icondo/sukhumvit105/
รูปแบบโครงการ: จำนวน 6 อาคาร จำนวน 1,384 ยูนิต และ อาคารจอดรถ 2 อาคาร สูง 8 ชั้น และ 7 ชั้น
ที่ตั้งโครงการ: ตั้งอยู่ในซอยลาซาล (สุขุมวิท105)
เนื้อที่โครงการ: 14 ไร่ 3 งาน 71 ตารางวา
รูปแบบห้อง: 1 ห้องนอน ขนาด 30.00 ตร.ม. 2 ห้องนอน ขนาด 47.00 ตร.ม.
ราคาขายเริ่มต้น: ราคาเริ่มต้น 1.53 ล้านบาท
ราคาขายเฉลี่ย/ตารางเมตร: ราคาเฉลี่ยเริ่มต้น 52,000 บาท/ ตร.ม.
สรุป
พื้นที่ในซอยสุขุมวิท 105 หรือ ซอยลาซาล ยังคงได้รับความนิยมจากเหล่าดีเวลลอปเปอร์หลายๆ เจ้า เนื่องจากอยู่ในแนวรถไฟฟ้าสายสีเขียว โดยในอนาคตสถานีแบริ่งจะเป็นจุดเชื่อมต่อกับส่วนต่อขยายสายสีเขียวที่วิ่งยาวไปยังสมุทรปราการ ซึ่งจะส่งผลให้ที่ดินและอสังหาฯ ในย่านนี้มีราคาที่ปรับสูงขึ้น อีกทั้ง โครงการยังจะอยู่ใกล้กับรถไฟฟ้าสายอนาคตอย่างสายสีเหลือง โดยมีสถานีที่ใกล้ที่สุด คือ สถานีศรีลาซาล ที่ห่างจากโครงการ 600 เมตร
ด้วยความที่สภาพความเป็นอยู่ภายในซอยลาซาลยังมีความเป็นชุมชนอยู่อาศัย จึงมีสิ่งอำนวยความสะดวกในการอยู่อาศัยครบครัน ตามที่ได้บอกไว้ในข้างต้น อีกทั้งยังมีเรียลดีมานด์อยู่มากในซอยนี้ที่มีร้านสะดวกซื้อ ร้านอาหารที่มีให้เห็นตลอดสองข้างทาง
และที่สำคัญไปกว่านั้น ในเรื่องของราคาที่ทางเจ้าของโครงการเคลมว่าเป็นโครงการที่ถูกที่สุดในย่านนี้กับราคาเริ่มต้นไม่ถึงล้านแต่ได้ห้องแบบ fully furnished โดยจะเปิดให้จองเฟสแรกเป็นครั้งแรกในวันที่ 28 – 29 พ.ค. นี้ โดยมีลูกค้าที่จองล่วงหน้าผ่านเว็ปไซต์ และสื่อโซเซียลมีเดียต่างๆ รวม 5,000 ราย และแนวโน้มว่าจะเปิดขายเฟส 2 ด้วยในวันเดียวกัน เป็นการการันตีความร้อนแรงของโครงการนี้ ว่าจะซื้อเพื่ออยู่อาศัยหรือปล่อยเช่า ก็ดูจะมีอนาคตที่ดี
สนใจ คอนโดฯ ในโครงการนี้? เลือกชม รายการประกาศ ราคาโดนใจ