รีวิวโครงการ: ทากะ เฮาส์ เอกมัย 12 (taka HAUS Ekkamai 12)

รีวิวภาพรวมโครงการ ทากะ เฮาส์ เอกมัย 12 (taka HAUS Ekkamai 12)

โครงการ ทากะ เฮาส์ เอกมัย 12 (taka HAUS Ekkamai 12) เป็นโครงการร่วมทุนระหว่าง บริษัท แสนสิริ กับ Tokyu Corporation ซึ่งหลายคนคงทราบดีอยู่แล้วสำหรับการดำเนินการทางธุรกิจของ แสนสิริ ส่วน Tokyu Corporation ถือเป็นบริษัทยักษ์ใหญ่ของญี่ปุ่นที่มีบริษัทอยู่ภายใต้การดำเนินงานรวมทั้งสิน 221 บริษัท และบริษัทร่วมทุน 8 แห่ง ภายใต้การดำเนินงานของ Tokyu Corporation โดยมีเครือข่ายครอบคลุมหลายภาคส่วนตั้งแต่การคมนาคม อสังหาริมทรัพย์ ค้าปลีก และโรงแรม 

จากที่ผ่านมาในประเทศไทย  Tokyu Corporation เคยร่วมทุนกับ ช.การช่าง ตั้งแต่ปี 2524 เพื่อสร้างโครงสร้างพื้นฐาน และอาคารต่างๆ ล่าสุดได้มีการส่งมอบการก่อสร้าง MRT สายสีม่วงกับธุรกิจค้าปลีก ห้าง Bangkok-Tokyu นอกจากนี้ Tokyu Corporation ยังได้ร่วมทุนกับ สหกรุ๊ป ก่อตั้ง บริษัทร่วมทุน บริษัท สหโตคิว คอร์ปอเรชั่น จำกัด พัฒนาและบริหารอพารท์เม้นท์สำหรับลูกค้าญี่ปุ่นที่มาทำงานแถวศรีราชาในชื่อโครงการ HarmoniQ Residence Sriracha ด้วย

ภาพ via sansiri.com

ดังนั้นการร่วมทุนกันครั้งนี้ไม่เพียงแต่เพื่อพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ขึ้นมาเพื่อตอบโจทย์ดีมานด์ญี่ปุ่นบนเอกมัยเท่านั้น แต่ถือเป็นการขยายฐานการตลาดของแสนสิริออกไปสู่ตลาดญี่ปุ่นจากการร่วมมือของบริษัทชื่อดังอย่าง Tokyu Corporation เพราะฉะนั้นในแง่ของโปรดักส์โครงการ ทากะ เฮาส์ เอกมัย 12 (taka HAUS Ekkamai 12) จึงถูกออกแบบมาให้ตอบรับไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตที่หลากหลายบนพื้นที่เดียวกัน โดยที่ 269 ยูนิต โครงการได้ออกแบบ Layout ของยูนิตมาให้เลือกมากกว่า 30 แบบ ทั้งห้องแบบ 1 ห้องนอน และ 2 ห้องนอนที่มีขนาดตั้งแต่ 30 ตร.ม. ไปจนถึง 71.50 ตร.ม. โดยโครงการจะทำการดรอปฝ้าผนังให้ พร้อมมอบชุดครัว และสุขภัณฑ์แบบควบคุมด้วยรีโมท พร้อม Home Automatiom ให้กับยูนิตทุกห้อง ซึ่งห้องที่มี 2 ห้องน้ำขึ้นไปจะมี Master Bathroom ที่มีดีไซน์ของห้องน้ำที่มีฟังก์ชันอ่างอาบน้ำที่ชาวญี่ปุ่นชอบด้วย โดยสามารถเข้าไปชม Layout ยูนิตต่างๆ ได้ที่ sansiri.com

Proptech เทคโนโลยีที่นำมาใช้กับการอยู่อาศัยจาก แสนสิริ

นอกจากยูนิตที่อยู่อาศัยที่มีให้เลือกเยอะกว่า 30 แบบแล้ว เรื่องของสิ่งอำนวยความสะดวกก็มีทุกองค์ประกอบของส่วนกลางคอนโดมิเนียม แต่ที่เป็นไฮไลท์จะเน้นไปที่สิ่งอำนวยความสะดวกในการอยู่อาศัยสมัยใหม่โดยนำ Proptech ของแสนสิริเข้ามาใช้ในโครงการไม่ว่าจะเป็น Sansiri Home Service Application, Smart Locker, Home Automation, Endless Jet Pool หรือ สระว่ายน้ำทวนกระแส และ Under Water Trade Mill หรือ ลู่วิ่งใต้น้ำ, EV Charging และ Alexa (Echo Dot By Amazon) ซึ่งในจุดนี้ต้องบอกว่าสามารถตอบโจทย์ชาวไทยและชาวญี่ปุ่นได้เป็นอย่างดี อาจจะมีปัญหาเรื่องของ Generetion ของผู้ใช้งานที่แตกต่างกันตามช่วงอายุบ้าง แต่เชื่อว่าด้วยโปรดักส์ที่เน้นไปทางความสะดวกของการอยู่อาศัย โครงการ ทากะ เฮาส์ เอกมัย 12 (taka HAUS Ekkamai 12) ก็น่าจะเข้าถึงกลุ่มผู้บริโภคได้ไม่ยาก

Sansiri Home Service Application 

Sansiri Home Service Application บริการที่เหมือนเป็นผู้ช่วยส่วนตัวช่วยจัดการทุกเรื่องบ้าน ตั้งแต่ก่อนโอนจนเข้าอยู่ ไม่ว่าจะเป็นการส่งข้อความส่วนตัวแก่นิติบุคคลพร้อมการรับการตอบกลับได้อย่างรวดเร็ว, บริการแจ้งเตือนจดหมายและพัสดุเข้าโดยไม่ต้องมาติดต่อเอง, บริการแจ้งยอดชำระค่าบริการรายเดือนรูปแบบต่างๆ, แจ้งเรื่องร้องเรียนถึงงานซ่อมแซม พร้อมรองรับการถ่ายภาพเพื่อแนบไฟล์ภาพประกอบคำอธิบายได้อย่างรวดเร็วฉับไว, ระบบสมุดรายชื่อโทรศัพท์ของนิติบุคคล แผนกแม่บ้านและหน่วยรักษาความปลอดภัย เป็นต้น

โมเดลจำลองภาพรวมโครงการ ทากะ เฮาส์ เอกมัย 12 (taka HAUS Ekkamai 12)

ในส่วนของรูปแบบดีไซน์ของตัวอาคารจะเน้นยูนิตให้หันออกไปทางทิศเหนือและทิศใต้ซึ่งเป็นทิศหลบแดด และจะมียูนิตบางส่วนเท่านั้นที่หันออกไปทางทิศตะวันตก และทิศตะวันออก โย Layout   ของทั้ง 2 อาคาร จะเป็นรูปตัว L ถูกตั้งตรงข้ามกันให้ล้อมรอบพื้นที่ส่วนกลางเอาไว้

Master Plan

ภายในโครงการถูกแบ่งยูนิตที่อยู่อาศัยออกเป็น 2 อาคารด้วยกัน คือ อาคาร A และอาคาร B โดยอาคาร A ตั้งอยู่ในตำแหน่งด้านล่างของแปลนมีทั้งหมด 7 ชั้น พร้อมชั้นใต้ดิน โดยที่ชั้น 1 จะเป็นส่วนกลางรับแขก Lobby และพื้นที่สีเขียว โดยมีส่วนกลางงานบริการ อาทิ Mailbox Locker  และห้องซัก อบ รีด อยู่ที่ชั้นนี้ ส่วนที่ชั้น 2 จะเป็นอาคารจอดรถ และจะมียูนิตที่อยู่อาศัยเริ่มต้นที่ชั้น 3 โดยมียูนิตเฉลี่ยของอาคาร B อยู่ที่ประมาณ 18 ยูนิตต่อชั้น  

ส่วนอาคาร B จะเป็น Layout รูปตัว L ด้านบนของแปลนมีทั้งหมด 8 ชั้น มียูนิตที่พักอาศัยอยู่ตั้งแต่ชั้น 1 – 8 โดยจากแปลนจะเห็นว่าโครงการได้สร้างทางเชื่อมของอาคาร B   ไว้ โดยฝั่งหนึ่งจะมียูนิตเฉลี่ยต่อชั้นที่ประมาณไม่เกิน 15 ยูนิต ส่วนอีกฝั่งจะมีความเป็นส่วนตัวสูงที่ยูนิตเฉลี่ยประมาณ 8 ยูนิตต่อชั้น แต่การเข้าออกี่พักอาศัยจำเป็นต้องใช้ลิฟท์ฝั่งที่มียูนิตเยอะและเดินผ่านทางเชื่อมไปยังส่วนนั้น

3rd Floor Plan 

ที่ชั้น 3  จะเป็นพื้นที่ส่วนกลางของโครงการประกอบไปด้วยฟิตเนส และสระว่ายน้ำ โดยยุนิตที่พักอาศัยทั้ง 2 อาคารที่อยู่ตั้งแต่ชั้น 4 ขึ้นไป และมีหน้าห้องที่หันมาทางฝั่งนี้จะได้รับวิวของส่วนกลางชั้น 3 ทั้งหมดจาก Layout ของอาคารที่ล้อมรอบพื้นที่ภายในโครงการตามแบบแปลน แต่ทั้งนี้การจะเข้าไปใช้ส่วนกลางที่ชั้น 3  ผู้อยู่อาศัยที่อยู่ในอาคาร B จะต้องเข้ามาจากทางล็อบบี้ของอาคาร A เท่านั้น

สิ่งอำนวยความสะดวกภายในโครงการ

Lobby lounge

Library

Co – kitchen space

Entertainment room

Game room

Exercise room

Garden with outdoor recreation area

Treehouse

Swimming pool

Laundry room

Wireless internet

Electric vehicle charging station

รีวิวภายในห้องตัวอย่างของโครงการ ทากะ เฮาส์ เอกมัย 12 (taka HAUS Ekkamai 12)

สิ่งที่จะได้รับจากโครงการ

พื้น: พื้นห้องลามิเนตหนา 8 มม., พื้นครัวกระเบื้องแกรนิตโต้ 60×60 ซม.

ผนัง: ฉาบเรียบทาสีขาว

ประตู: Digital Door Lock จาก Yale

พื้นจรดเพดานความสูง: ยูนิตอาคาร A พื้นจรดเพดานห้องสูง 2.6 ม., ยูนิตอาคาร B พื้นจรดเพดานห้องสูง 2.5 ม.

ชุดครัว: เคาน์เตอร์ครัวพร้อม Hob & Hood จาก Mex

สุขภัณฑ์: Automatic จาก Cotto

ห้องตัวอย่าง Type 1F 1 ห้องนอน 1 ห้องน้ำ ขนาด 41.50 ตร.ม.

ห้องตัวอย่างนี้เป็นห้องขนาด 41.50 ตารางเมตร ประกอบไปด้วย 1 ห้องนอน 1 ห้องน้ำ และพื้นที่อเนกประสงค์ในห้องที่เชื่อมต่อกับระเบียง เมื่อเปิดประตูเข้าไปจะเป็นในส่วนของห้องครัว โดยโครงการมอบเคาน์เตอร์ครัว Hob และ Hood ของ Mex บิวท์อินให้พร้อมเคาท์เตอร์ครัวเลย ส่วนเครื่องใช้ไฟฟ้าอื่นๆ โครงการไม่ได้มอบให้

ถัดไปด้านในจะเป็นพื้นที่ของห้องนั่งเล่นที่โครงการจัดสรรไอเดียโดยการวางโซฟาขนาด 2 นั่งและยังเหลือพื้นที่สำหรับวางโต๊ะทำงานด้านหลังโซฟา อีกทั้งยังเหลือพื้นที่ให้เดินวยรอบห้องได้สบายๆ

ยูนิต 1F ขนาด 41.50 ตารางเมตร เป็นหนึ่งใน Type ห้องกว่า 30 รูปแบบที่โครงการออกแบบมา โดยห้องนี้จะมีระเบียงเชื่อมต่อกับห้องนั่งเล่น มีความกว้างประมาณ 80 ซม. ประตูระเบียงเป็นบานเลื่อนสามตอนเนื่องจากโครงการออกแบบระเบียงให้มีพื้นที่ใช้สอยเป็นทางยาวเกือบเท่าความกว้างของพื้นที่อเนกประสงค์

ในส่วนของห้องน้ำโครงการออกแบบให้มีประตูเข้าออกห้องน้ำ 2 ทาง คือ จากทางฝั่งห้องนั่งเล่น และทางฝั่งห้องนอน ฟังก์ชันนี้ถือว่าสร้างขึ้นมาตอบโจทย์คนที่ต้องการห้องน้ำในตัว เนื่องจากรูปแบบของห้องเป็นห้องแบบ 1 ห้องนอน 1 ห้องน้ำ

ถัดมาจากห้องน้ำเป็นห้องนอน ด้วยพื้นที่กว่า 40 ตารางเมตรห้องนอนจึงมีขนาดใหญ่พอสมควรสามารถวางเตียงคิงไซส์บวกกับตู้เสื้อผ้าได้สบาย ภายในห้องมีมุมหน้าต่างแบบ Full Height สามารถรับแสงธรรมชาติได้เต็มที่ ส่วนอีกฝั่งหนึ่งจะเป็นพื้นที่เชื่อมต่อไปสู่ประตูห้องน้ำภายในห้องนอน จากพื้นที่หากจะกั้นห้องให้เป็น Walk in Closet เล็กๆ ก็สามารถทำได้

ภายในห้องน้ำโครงการมอบสุขภัณฑ์ให้ครบครัน โดยจะเน้นไปที่ความสะดวกในการใช้งานของโถสุขภัณฑ์ที่เป็นระบบ Automatic จาก Cotto ส่วนอ่างล้างหน้าก็จะมีฟังก์ชันเก็บของชั้นล่าง ด้านในสุดจะเป็นห้องอาบน้ำที่โครงการมอบฉากกั้นโซนเปียกโซนแห้งไว้ให้

มาที่ด้านในห้องอาบน้ำถึงจะมีขนาดไม่ใหญ่มากแต่โครงการมีการเลือกใช้ Floor Drain แบบซ่อนพื้น และมอบที่อาบน้ำแบบ Rain Shower ให้ด้วย ทั้งนี้วัสดุอุปกรณ์ต่างๆภายในห้องไม่ว่าจะเป็นพื้นห้อง ผนัง ถือว่าเป็นวัสดุมาตราฐานของคอนโดฯ ทั่วไป ที่เหนือกว่าโครงการอื่นๆ ก็จะเป็นลูกเล่นของอุปกรณ์ต่างๆ ภายในห้องที่โครงการมอบให้ โดยห้องทุกห้องจะสามารถวบคุมเครื่องใช้ไฟฟ้าต่างๆ ด้วย Home Automation ได้ด้วย

ห้องตัวอย่าง Type 2I 2 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ ขนาด 67.00 ตร.ม.

ห้องตัวอย่างนี้เป็นห้อง Type 2I เป็นห้องแบบ 2 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ ที่ดูเหมือนจะพิเศษกว่าห้องอื่นๆคือห้องรูปแบบนี้มี Terrace ทางเดินเข้าห้อง หรือ เป็นเสมือน Foyer หรือโถงรับแขกของบ้านเดี่ยวขนาดย่อมเลยก็ว่าได้

โครงการมอบส่วนกั้นห้องระหว่าง Terrace กับตัวห้องเป็นบานกระจกเขียวตัดแสงวงกบอลูมิเนียมแบบ 3 ตอนให้เพื่อความเป็นส่วนตัว โดยถัดมาที่ภายในห้องเป็นพื้นที่ขนาดใหญ่ที่สามารถวางโต๊ะรับประทานอาคาร 4-6 ที่นั่งโดยยังเหลือพื้นที่ให้เดินรอบโต๊ะ ส่วนด้านในสุสชิดกับมุมหน้าต่าแบบ Full Height โครงการจัดสรรให้เป็นพื้นที่นั่งเล่น

Layout ของห้องนี้ถูกออกแบบมาให้มีพื้นที่สำหรับรับประทานอาหารร่วมกันมากกว่าพื้นที่พักผ่อนอย่างห้องนั่งเล่น ดังนั้นด้วยพื้นที่ขนาดใหญ่สามารถจัดสรรไอเดียได้ตามใจชอบ ใครที่ชอบไลฟืสไตล์แบบไหนก็สามารถสลับสับเปลี่ยนมุมพักผ่อนได้

ในส่วนของห้องครัวจะอยู่ทางขวามือของภาพ โครงการมอบบานกั้นส่วนแบบ 3 ตอนให้ ส่วนภายในห้องครัวจะเป็นครัวปิดมีขนาดไม่ใหญ่มาก แต่ก็สามารถเตรียมครัวได้ถึง 2 คนตามพื้นที่ใช้สอยแนวยาว โครงการมอบเคาน์เตอร์ให้ แต่ไม่ได้มอบเครื่องใช้ไฟฟ้า อาทิ เครื่องซักผ้า ไมโครเวฟให้

ถัดมาจากห้องครัวจะเป็นห้องน้ำกลางของห้อง โครงการติดตั้งสุขภัณฑ์ให้ครบครัน ไม่ว่าจะเป็นอ่างล้างหน้าที่มีชั้นเก็บของด้านล่าง ฝักบัวพร้อม Rain Shower Floor Drain กันกลิ่นแบบซ่อนกับพื้น บานกั้นห้องอาบน้ำ และโถสุขภัณฑ์แบบธรรมดาไม่มีระบบ Automatic

ฝั่งตรงข้ามห้องน้ำจะเป็นห้องนอนที่ 2 ที่โครงการจัดสรรไอเดียให้เป็นห้องทำงาน พื้นที่ภายในห้องมีขนาดไม่ใหญ่มาก แต่ก็สามารจัดให้เป็นห้องนอนโดยการวางเตียงเดี่ยวให้เหลือพื้นที่พอสำหรับโต๊ะเล็กๆ หรือ ตู้เสื้อผ้าได้ แต่หากจะทำให้เป็นห้องนอนแบบคู่ พื้นที่อาจจะเล็กเกินไปจนทำให้อึดอัดจากการวางเตียงขนาด 5 ฟุตขึ้นไป

Layout ของ Master Bedroom เป็นรูปตัว L ภายในประกอบไปด้วยพื้นที่ของห้องนอนและห้องน้ำในตัว

ห้องน้ำในตัวของ Master Bedroom เป็น Master Bathroom ขนาดใหญ่ที่พิเศากว่าห้องน้ำทั่วไปเนื่องจากมีการติดตั้งอ่างอาบน้ำ พร้อมโถสุขภัณฑ์แบบ Automatic โดยในพื้นที่ของห้องอาบน้ำจะแยกออกเป็นอ่างอาบน้ำ และพื้นที่อาบน้ำด้านข้าง สามารถเลือกชะโลมร่างกายได้ตามใจชอบบนพื้นที่ห้องน้ำที่เป็นสัดส่วน

ถัดมาที่ห้องนอนเป็น Layout สี่เหลี่ยมที่มีขนาดพอประมาณ ไม่ใหญ่ไม่เล็ก แต่จากห้องตัวอย่างโครงการเลือกวางเตียงจนาดคิงไซส์ที่ 6 ฟุต โดยถึงแม้จะเดินรอบเตียงได้แต่ Space ภายในห้องก็เหลือพื้นที่ใช้สอยให้จัดวางเฟอร์นิเจอร์อื่นๆ น้อยมาก หากเปลี่ยนไปวางเตียงขนาด 5 ฟุต น่าจะเหลือพื้นที่ว่างภายในห้องที่ดูโปร่งสบายกว่าได้