เพอร์เฟค พาร์ค ราชพฤกษ์-ปทุมธานี หนึ่งโครงการบ้านที่น่าสนใจบนถนนราชพฤกษ์-ปทุมธานี ในรูปแบบบ้านเดี่ยวและบ้านแฝด เป็นส่วนตัวด้วยจำนวนยูนิตเพียง 199 ยูนิต บนพื้นที่โครงการกว่า 39 ไร่ ออกแบบบ้านสไตล์ Resort กับบรรยากาศพักผ่อนท่ามกลางสวนและคลับเฮ้าส์หรู Modern Luxury Style ในราคาเริ่มต้นไม่ถึง 4 ล้านบาท
การแตกไลน์ จากธุรกิจหนึ่งมาสู่สังเวียนของภาคอสังหาริมทรัพย์ ยังคงเป็นแนวพัฒนาธุรกิจของผู้ประกอบการทุนหนาที่ต้องการชิงส่วนแบ่งในตลาดอสังหาฯ เนื่องจากเล็งเห็นช่องทางการทำธุรกิจ อีกทั้งเป็นชั่วโมงทำกินของธุรกิจประเภทนี้ โดยเฉพาะทำเลฮอตฮิต ที่หลักใหญ่ใจความคงหนีไม่พ้นทำเลที่ได้รับอานิสงส์จากการมีรถไฟฟ้าพาดผ่านนั่นเอง
ล่าสุดยักษ์ใหญ่ในวงการกระจกอย่าง TYK (ห้างหุ้นส่วน ต. ยงเกียรติ) ก็กระโดดมาชิงส่วนแบ่งของตลาดอสังหาฯ ในย่านรัตนาธิเบศร์ – บางใหญ่ ที่ดูเหมือนว่าจะเป็นเซ็กเมนต์ของตลาดที่มีเปอร์เซ็นต์ของคู่แข่งที่น้อยมากเพียง1% หรือแทบไม่มีเลยก็ว่าได้ (สำหรับอสังหาฯ ประเภทโฮมออฟฟิศ) และอีกไม่กี่อึดใจในเดือนสิงหาคมนี้รถไฟฟ้าสายสีม่วง (บางใหญ่ – เตาปูน) ก็จะเปิดใช้อย่างเป็นทางการแล้ว
ทั้งนี้ TYK ได้ก่อตั้งบริษัท ที พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด ขึ้น เพื่อผุดโครงการชื่อ “ T59 WESTGATE ”โฮมออฟฟิศระดับพรีเมียม ราคาเหยียบสิบล้านกว่าบาท ติดถนนรัตนาธิเบศร์ ใกล้ห้างเซ็นทรัล เวสต์เกต ใกล้สถานีรถไฟฟ้าบางพลูและสถานีสามแยกบางใหญ่ เอาใจผู้ประกอบการที่ต้องการออฟฟิศสมัยใหม่ ที่ทั้งทำงานและอยู่อาศัยได้จริง ซึ่งถือว่าฉีกกรอบไปจากเดิมที่ส่วนใหญ่โครงการเกาะแนวรถไฟฟ้าจะเป็นคอนโดมิเนียมและทาวน์โฮม
เจาะลึกข้อมูลโครงการ (ข้อมูล ณ วันที่ 26 พฤษภาคม 2559 )
ชื่อโครงการ: ที 59 เวสต์เกต (T59 WESTGATE)
ผู้พัฒนาโครงการ: บริษัท ที พร็อพเพอร์ตี้ ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด
ที่ตั้ง: ถ.รัตนาธิเบศร์ อ.เมืองนนทบุรี จ.นนทบุรี
สำนักงานขาย: 090 909 6000
เว็บไซต์: www.t59westgate.com
รายละเอียดโครงการ
เนื้อที่โครงการ: 6 – 3 – 43ไร่
รูปแบบโครงการ: โฮมออฟฟิศ 5 ชั้น หน้ากว้าง 5.5 ม. จำนวน 59 ยูนิต พร้อมลิฟท์ส่วนตัว และที่จอดรถ 2 – 4 คัน
รูปแบบบ้าน:
ขนาดที่ดินเริ่มต้น: 19.12 ตารางวา – 99.45 ตารางวา
พื้นที่ใช้สอย: 250 ตารางเมตร
ราคาขายเริ่มต้น: 14.9 ล้านบาท
ราคาขายเฉลี่ย: 270,000 บาทต่อตารางวา
เจาะกลุ่มเป้าหมาย : เจ้าของธุรกิจที่ต้องการมีออฟฟิศเป็นของตนเอง รายได้เฉลี่ย 250,000 บาทต่อเดือน
เปิดขาย: มีนาคม 2559
เริ่มก่อสร้าง: พฤษภาคม 2558
แล้วเสร็จ: มีนาคม 2560
สถานะการขาย: เฟสแรกขายไปแล้วกว่า 60% , ปัจจุบันเปิดขายเฟส 2 ขายไปแล้วกว่า 30% (ข้อมูล ณ วันที่ 26 พฤษภาคม 2559)
ค่าส่วนกลาง: 100 บาทต่อตารางวา (จ่ายล่วงหน้า 2 ปี)
เงื่อนไขการชำระเงิน:
เงินจอง 100,000 บาท
เงินทำสัญญา 10% ของราคาขาย
ผ่อนดาวน์ 10%
โปรโมชั่น : ฟรีค่าส่วนกลาง จ่ายล่วงหน้า 2 ปี ,ฟรีปั๊มน้ำ และแท้งค์น้ำ (ข้อมูล ณ วันที่ 26 พฤษภาคม 2559)
รายละเอียดโครงการ
เจาะลึกรายละเอียดโครงการ
ออกแบบสถาปัตยกรรมโดย : บริษัท นาว ออร์ เนฟเวอร์ สตูดิโอ จำกัด
ออกแบบภูมิทัศน์โดย: บริษัท บริษัท นาว ออร์ เนฟเวอร์ สตูดิโอ จำกัด
ระบบรักษาความปลอดภัย: เข้าออกด้วยระบบ Access Card , รปภ. และ CCTV 24 ชม., รั้วประตูแต่ละยูนิตเป็นแบบอัตโนมัติควบคุมด้วยรีโมท
ส่วนประกอบภายในบ้าน
พื้น: ชั้น 1 – 3 กระเบื้องแกรนิตโต้ขนาด 60 x 60 ซม. หรือเทียบเท่า
เฉลียงทางเข้า กระเบื้องแกรนิตโต้ขนาด 60 x 60 ซม. หรือเทียบเท่า
ชั้น 4 – 5 ลามิเนตหนา 8 มม. หรือเทียบเท่า
ผนัง: แต่งสีเรียบ ทาสี TOA 4 Seasons
วัสดุมุงหลังคา: คอนกรีตเสริมเหล็ก และปูโซลาร์สแลป (เพื่อความแข็งงแรง รับแรงกดทับได้ดี ช่วยกันความร้อน ให้อากาศถ่ายเทได้ดี ช่วยดูดซับน้ำ เป็นต้น)
โครงสร้างหลังคา: คอนกรีตเสริมเหล็ก พร้อมทำระบบกันซึม
กระเบื้องห้องน้ำ : พื้น เซรามิก 40 x 40 ซม. หรือเทียบเท่า
ผนังฝักบัว เซรามิก 33 x 60 ซม. หรือเทียบเท่า
ผนังทั่วไป เซรามิก 25 x 40 ซม. หรือเทียบเท่า
Shower Screen: Tempered Glass (ชั้น 4, 5)
พัดลมดูดอากาศ: ยี่ห้อ Panasonic หรือเทียบเท่า
บัวเชิงผนังพื้น: สำเร็จรูป Conwood ทาสี หรือเทียบเท่า
บันได: โครงสร้างคอนกรีตเสริมเหล็ก ปูทับด้วยไม้เนื้อแข็ง
ราวบันได: เหล็ก, มือจับไม้เนื้อแข็ง
วงกบ: ไม้เนื้อแข็ง
บานประตูหน้าต่างภายนอก: อะลูมิเนียมสี platinum กระจกลามิเนต
บานประตูภายใน: ประตู ไม้อัดกรุลามิเนต
สีทาบ้านภายนอก: TOA Shield One หรือเทียบเท่า
สีทาบ้านภายใน: TOA 4 Seasons หรือเทียบเท่า
ฝ้า: ยิปซั่มฉาบเรียบทาสี (ภายใน) TOA 4 Seasons
ยิปซั่มกันซึมฉาบเรียบทาสี (ภายนอก) TOA 4 Seasons
รั้วบ้าน: ก่ออิฐ ฉาบเรียบทาสี และโครงเหล็กทาสี
ประตูรั้ว : บานเลื่อนอัตโนมัติ พร้อมรีโมท
ระบบสุขาภิบาล: ท่อ PVC , ถังบำบัดน้ำเสีย 2,000 ลิตร ฝังใต้ดิน
งานไฟฟ้า: 3 PHASE 70 AMP
โทรศัพท์: สูงสุด 3 คู่สาย
สวิต – ปลั๊ก: ยี่ห้อ Panasonic, Bticino หรือเทียบเท่า
มือจับประตูแบบก้านโยก: สี สแตนเลส
ลิฟท์: ยี่ห้อ KONE ขนาดบรรทุก 630 กิโลกรัม (ผู้โดยสาร 8 คน)
ความเร็ว 60 เมตร / นาที /ปรับความเร็วอัตโนมัติ
ระบบท่อป้องกันปลวก ระบบท่อฉีด
ความสูงพื้นถึงเพดาน 2.7 เมตร
สุขภัณฑ์ห้องน้ำ
ยี่ห้อ American Standard ประกอบด้วย โถสุขภัณฑ์, อ่างล้างหน้า , ก๊อกน้ำ, ฝักบัว , อ่างอาบน้ำ
หมายเหตุ: รายการข้างต้นเป็นวัสดุแบบ Full Option ที่ทางโครงการมีให้ แต่หากลูกค้าท่านใดไม่ประสงค์จะมีสามารถเลือกเป็นวัสดุแบบ Pre Built in คือ ลดทอนวัสดุบางอย่างลง ซึ่งก็ต้องมาแจงรายละเอียดกันอีกทีหนึ่ง)
แผนผังโครงการ
โครงการเป็นโฮมออฟฟิศ สูง 5 ชั้น หน้ากว้าง 5.5 เมตร จำนวน 59 ยูนิต ก่อสร้างด้วยโครงสร้างคอนกรีตเสริมเหล็ก ตั้งอยู่บนที่ดินซึ่งเดิมเป็นพื้นที่ว่างเปล่ารอการพัฒนา
Master Plan
ทั้งนี้ โฮมออฟฟิศจะถูกวางเป็นล็อคๆ ละ 5 – 6 ยูนิต และแต่ละยูนิตจะเว้นที่กลับรถให้ประมาณ 4 เมตร
ถนนทางเข้าโครงการกว้าง 18 เมตร ถนนในโครงการกว้าง 12 เมตร ซึ่งทุกยูนิตจะสร้างให้อยู่ติดกับถนนเมน 12 เมตร ทั้งหมด ไม่มีแบ่งเป็นซอย ๆ
ทั้งนี้สามารถเข้า-ออกได้ 2 ทางคือ ทางด้านหน้าและทางด้านข้างโครงการ พัฒนาเป็นโฮมออฟฟิศทั้งหมด ไม่มีส่วนที่เป็นสิ่งอำนวยความสะดวกใดๆ เนื่องจากเป็นคอนเซ็ปต์ของการทำออฟฟิศเป็นหลัก
ตัวโครงสร้างภายในแต่ละยูนิต สามารถออกแบบให้มีที่จอดรถได้มากสุด 4 คัน มีลิฟท์ให้ทุกชั้น รวมถึงมีประตูหนีไฟ และบันไดหนีไฟโครงเหล็กด้านหลังให้ทุกชั้นเช่นกัน นอกจากนี้ลูกค้าสามารถปรับเปลี่ยน ดัดแปลง หรือต่อเติมให้เป็นออฟฟิศทั้ง 5 ชั้นได้ หรือจะทำชั้น 4 – 5 ให้เป็นส่วนของที่พักอาศัยก็ได้ตามความต้องการ
ทิศทางการวางผังโครงการ
รูปแบบบ้านตัวอย่าง
ภายนอกของบล็อกแบบบ้าน ที่เน้นการใช้ลวดลายเส้นสายเพิ่มให้ดูมีมิติ มีให้ชมทั้งยูนิตมาตรฐาน และยูนิตที่ตกแต่ง
เริ่มที่ยูนิตมาตรฐาน โดยรวม ชั้น 1 – 5 เป็นพื้นที่โล่ง มีโครงสร้างพื้นฐานให้ เช่น ประตูหน้าต่างกระจกแบบ Tempered Glass ข้อดีคือ เวลาแตกจะแตกเป็นเมล็ดข้าวโพด ไม่กระจัดกระจาย ซึ่งปลอดภัย, ชั้น 1 – 3 ปูพื้นกระเบื้องแกรนิตโต้ ส่วนชั้น 4 – 5 ปูลามิเนตหนา 8 มิลลิเมตร, ผนังฉาบเรียบทาสี, สุขภัณฑ์ห้องน้ำ, ปั๊มน้ำ และแท้งค์น้ำ, ประตูและบันไดหนีไฟชั้น 2 – 5 รวมถึงลิฟท์ซึ่งติดตั้งให้ทุกชั้น เป็นต้น
ลิฟท์ตามมาตรฐานโครงการ พร้อมติดตั้งโทรศัพท์ไว้ให้
กั้นแบ่งพื้นที่ภายในและภายนอกด้วยประตูกระจกแบบก้านจับเปิดเข้า-ออก โดยพื้นที่ด้านหลังเป็นพื้นที่โล่งสำหรับเป็นส่วนซักล้าง หรือต่อเติมได้ตามต้องการ มีแท้งค์น้ำ และปั๊มน้ำให้
บันไดทางขึ้นชั้น 2 และลิฟท์บนชั้น 2
นอกจากนี้ บริเวณชั้น 4 เป็นส่วนที่สามารถดัดแปลงเป็นที่พักอาศัย เชื่อมต่อกับชั้น 5 ด้วยบันไดและลิฟท์ พิเศษคือ มีประตูบานเลื่อนกระจกขนาดใหญ่ที่ออกไประเบียงได้ รวมถึงมีห้องน้ำและห้องเก็บของให้
ยูนิตที่ตกแต่ง
ภายในชั้น1 ออกแบบให้เป็นพื้นที่สำหรับรับแขกด้วยโซฟาหนังตัวยาว เพิ่มความหรูหราด้วยผนังกระจกเงา และเฟอร์นิเจอร์ลักษณะมันวาว คุมโทนสีขาว เทา ดำให้ดูสุขุมนุ่มลึก
อีกฝั่งหนึ่งของโซนรับแขก ซึ่งอยู่ติดกับห้องน้ำ เป็นทั้งที่นั่งพัก และตกแต่งไว้สำหรับติดตั้งทีวีแบบติดผนัง เพื่อประหยัดพื้นที่ และยังคงแต่ผนังด้วยกระจกเงาเพื่อให้ผนังมีลูกเล่น
มองจากห้องน้ำจะเห็นส่วนของเคาน์เตอร์สำหรับผู้มาติดต่องาน และลิฟท์ที่ตกแต่งผนังข้างลิฟท์ด้วยกระจกเพื่อเพิ่มความสวยงาม
หลังบ้านที่เป็นพื้นที่เปล่า ได้รับการเนรมิตให้เป็นสวยหย่อม ปูพื้นด้วยหญ้าเทียม,หินและปูพื้นด้วยทรายล้าง พรางสายตาจากภายนอกด้วยการทำสวนแนวตั้ง ใส่ไอเดียเก๋ๆ ด้วยผนังไม้ไผ่
บันไดขึ้น-ลงจากชั้น 2 – 5 ทำด้วยโครงสร้างเหล็ก ไว้สำหรับเป็นทางออกฉุกเฉิน เช่น กรณีเกิดไฟไหม้ เป็นต้น ซึ่งทุกชั้นจะมีโคมไฟส่องสว่างให้บริเวณประตูทางเข้า-ออก
ชั้น 2 ออกแบบตกแต่งไอเดียให้เป็นพื้นที่ของห้องประชุม โดยวางโต๊ะกลางขนาดใหญ่ไว้กลางห้อง ส่วนผนังด้านหนึ่งเป็นโซฟาสำหรับนั่งรีแลกซ์ได้
ภายในห้องน้ำ มีทั้งชักโครก และโถปัสสาวะสำหรับคุณผู้ชาย ระบายอากาศด้วยเครื่องดูดอากาศ ติดตั้งบริเวณด้านบนของเพดาน
ชั้น 3 ตกแต่งไว้สำหรับเป็นห้องทำงานของพนักงาน จัดวางโต๊ะทำงานไว้ให้นั่งได้สบายๆ สำหรับ 8 – 10 คน ทั้งหันหน้าเข้าผนัง และโต๊ะกลางแบบหันหน้าเข้าหากัน
ชั้น 4 จัดไว้เป็นไอเดียในส่วนของที่พักอาศัย ในโทนสีอบอุ่น ดูสบายๆ โดยตกแต่งให้เป็นที่นั่งเล่น พักผ่อนด้วยโซฟาเบดตัวยาวบุด้วยวัสดุผ้าเพื่อให้ความรู้สึกผ่อนคลาย บริเวณริมหน้าต่างบานใหญ่ที่เปิดออกไปรับลมเย็นยามค่ำคืนที่ระเบียงได้
ห้องน้ำของชั้น 4 มีขนาดกว้างพอสมควร กั้นส่วนเปียกและแห้งด้วยฉากกั้นให้ ส่วนข้างฝักบัวก็ติดตั้งระบบเครื่องทำน้ำอุ่นให้แล้ว พื้นที่บริเวณอ่างล้างหน้ากว้างพอสำหรับวางของกระจุกระจิก พร้อมกับติดกระจกบานใหญ่ และชั้นวางของด้านข้างให้
ชั้น 5 ออกแบบให้เป็นพื้นที่สำหรับห้องนอน ไม่มีระเบียง แต่มีหน้าต่างบานใหญ่ ห้องนี้ถือว่ามีพื้นที่ที่กว้างมาก ขนาด 50 x 50 ตารางเมตร เท่ากันกับชั้น 4 ซึ่งถ้ารวมกันก็จะเท่ากับว่ามีพื้นที่พักอาศัยถึง 100 ตารางเมตร หากเทียบกับคอนโดฯ ก็จะให้ความรู้สึกเหมือนเป็นห้องแบบเพนท์เฮ้าส์ ซึ่งจริงๆ หากความสูงจากพื้นถึงเพดานสูงกว่านี้อีกหน่อยก็จะเพอร์เฟคมากขึ้น
ถัดจากเตียงนอน บิลท์อินเป็นมุมแต่งตัว และบิลท์อินผนังด้านหนึ่งให้เป็นตู้เสื้อผ้าขนาดใหญ่ที่สามารถจุเสื้อผ้าได้มากพอสมควรเลยทีเดียว
บริเวณอ่างล้างหน้าก็เหมือนกับชั้น 4
ทําเล & การเดินทาง
เจาะลึกทำเลและการเดินทาง
ทำเลบางใหญ่
หากเอ่ยถึงโซนกรุงเทพฯ ฝั่งตะวันตก หรือในจังหวัดนนทบุรี อาจแบ่งฮับใหญ่ๆ ได้เป็น 3 แห่ง โดยแห่งแรกคือ ย่านงามวงศ์วาน แห่งที่ 2 คือโซนพระนั่งเกล้ามาจนถึงเซ็นทรัล รัตนาธิเบศร์ และแห่งที่ 3 คือย่านบางใหญ่ (โดยเฉพาะบริเวณสามแยกบางใหญ่)
ทั้งนี้จะเรียกว่าฮับแห่งสุดท้ายเป็นทำเลมาแรงก็ว่าได้ เพราะแวดล้อมด้วยห้างใหญ่อย่างเซ็นทรัล เวสต์เกต, รถไฟฟ้าสายสีม่วงพาดผ่าน และมีเส้นทางการเดินทางที่เชื่อมต่อไปยังถนนหลายสาย มีถนนวงแหวนตะวันตกที่เชื่อมต่อทิศเหนือ ทิศใต้ และทิศตะวันออกได้ อีกทั้งในอนาคตยังมีโครงการเชื่อมต่อสามแยกบางใหญ่ – กาญจนบุรี ซึ่งล่าสุดได้รับการอนุมัติเพื่อก่อสร้างแล้ว
ทำเลที่ตั้งโครงการ
ที่ตั้งโครงการอยู่ริมถนนรัตนาธิเบศร์ ฝั่งมุ่งหน้าไปบางใหญ่ ไม่ต้องเข้าซอย และหากมองในแง่ของการเดินทาง และมีสิ่งอำนวยความสะดวกรายล้อม ถือว่าเป็นทำเลที่ตั้งที่มีศักยภาพมากแห่งหนึ่ง
แม้โดยรวม รอบๆ โครงการรัศมีไม่เกิน 300 เมตร ในขณะนี้จะไม่มีร้านรวง สถานที่กินดื่มใกล้ๆ เหมือนแหล่งงานอื่นๆ แต่คาดว่าหากรถไฟฟ้าเปิดให้บริการจะเริ่มเห็นการพัฒนา และมีความคึกคักขึ้นตามมา
การเดินทาง
รถยนต์ส่วนตัว
ทางเลือกที่ 1 จากถนนรัตนาธิเบศร์ มุ่งหน้าไปบางใหญ่
ทางเลือกที่ 2 จากถนนกาญจนาภิเษก มุ่งหน้าไปบางใหญ่
ทั้งนี้เราใช้เส้นทางที่ 1 ตั้งต้นจากสะพานพระนั่งเกล้า ขับตรงยาวมาเรื่อยๆ สังเกตป้ายบอกทางให้วิ่งตามป้ายไป ถนนกาญจนาภิเษก
รถไฟ
รถไฟฟ้าสายสีม่วง บางใหญ่ – เตาปูน
-จากโครงการถึงสถานีบางพูล ประมาณ 150 เมตร
-จากโครงการถึงสถานีสามแยกบางใหญ่ ประมาณ 150 เมตร
แท็กซี่
ผ่านหน้าโครงการ
รถตู้
ผ่านหน้าโครงการ คันที่วิ่งเส้น บางบัวทอง – งามวงศ์วาน , สมบัติบุรี – จตุจักร
สถานที่ไลฟ์สไตล์
สถานที่ไลฟ์สไตล์ที่ใกล้ที่สุดและมีทั้งที่กิน ที่ช้อปปิ้งทางฝั่งบางใหญ่ ก็คือ เซ็นทรัลเวสต์เกต และในอนาคตก็จะมีอิเกีย สาขาบางใหญ่ที่อยู่ระหว่างการก่อสร้างติดกับเซ็นทรัล เวสต์เกตนี่เอง
เซ็นทรัลเวสต์เกต
ขยับไปอีกนิดก็เป็น BB Market (ตลาดบางใหญ่เดิม) ซึ่งก็มี Index Living Mall อยู่ใกล้กัน นอกจากนี้ก็มีบิ๊กซี ,โลตัส และโฮมโปร สาขารัตนาธิเบศร์ด้วย
ส่วนทางฝั่งรัตนาธิเบศร์ มุ่งหน้างามวงศ์วานก็มีเซ็นทรัล รัตนาธิเบศร์, เดอะมอลล์งามวงศ์วาน และพันธุ์ทิพย์ พลาซ่า เป็นต้น
หากพูดถึงร้านอาหาร และที่นั่งชิลก็เห็นจะต้องขยับไปทางโซนราชพฤกษ์ ชัยพฤกษ์ เพราะย่านนั้นเป็นย่านที่อยู่อาศัย และมีคอมมูนิตี้มอลล์เกิดขึ้นใหม่มากกว่าย่านที่ตั้งโครงการ เช่น ร้าน haven 69 Marina & Cuisine ร้านอาหารสำหรับคนที่ชอบนั่งริมน้ำ รวมถึงมีบริการให้เช่าเจ็ทสกีขับเล่นได้ด้วย
ร้านอาหาร Haven69 Marina & Cuisine
ภาพ via facebook/haven69/marina&cuisine
หรือไม่ก็ต้องขยับมาทางฝั่งที่จะมุ่งหน้าไปทางสะพานพระนั่งเกล้าก็แนะนำ ร้านอาหารและกาแฟน่านั่ง “ร้าน The Brick Coffee & Restaurant” ในซอยท่าอิฐ รวมถึงร้านอาหารริมแม่น้ำแถวสะพานพระนั่งเกล้า หลายร้านไว้ให้ได้นั่งกันหลายร้าน อาทิ ร้านแดรี่ควีน บรรยากาศแบบเรือไม้ดูคลาสสิก อาหารรสชาติอร่อย เป็นต้น
ร้าน The Brick Coffee & Restaurant
ภาพ via facebook/thebrickcafé
แต่อย่างไรก็ตามเชื่อว่าเมื่อรถไฟฟ้าเปิดทำการอย่างเป็นทางการในอนาคตย่านที่ตั้งโครงการคงจะมีร้านอาหารใหม่ๆ เกิดขึ้นเป็นแน่
สถานที่สำคัญใกล้เคียงหรือแหล่งอำนวยความสะดวก
โรงพยาบาลการุณเวช รัตนาธิเบศร์ อยู่ฝั่งตรงข้ามโครงการ
โรงพยาบาลเกษมราษฎร์ รัตนาธิเบศร์
ศูนย์ราชการนนทบุรี (ที่ว่าการอำเภอเมืองนนทบุรี)
อาคารจอดแล้วจร (บริเวณสถานีรถไฟฟ้าสามแยกบางใหญ่ เชื่อมกับสถานีบางใหญ่)
บทวิเคราะห์
ผลตอบแทนที่จะได้รับ
ทั้งนี้โครงการเป็นลักษณะของโฮมออฟฟิศระดับพรีเมียม ซึ่งลูกค้าส่วนใหญ่เน้นซื้อเพื่อใช้งานจริง แต่หากพูดถึงในส่วนของผลตอบแทนการลงทุนต่อปี เฉลี่ยจะอยู่ที่ 5 – 7% ซึ่งคาดว่าในอนาคตจะขยับขึ้นเป็น 7 – 8%
ในส่วนของราคาที่ดิน ณ ปัจจุบัน ที่ดินติดถนนแนวรถไฟฟ้าในย่านนี้เฉลี่ยนอยู่ที่ 150,000 – 200,000 บาทต่อตารางวา
อย่างไรก็ตามโครงการในลักษณะนี้ ในย่านนี้ถือว่ามีคู่แข่งน้อยมาก หรือเรียกว่าไม่มีเลยก็ว่าได้ ซึ่งราคานี้เป็นราคาที่เจ้าของโครงการพัฒนาบนที่ดินที่ซื้อสะสมไว้ก่อนที่ระดับราคาที่ดินจะสูงขึ้น ซึ่งหากนักลงทุนกระเป๋าหนัก หรือผู้ประกอบการที่ต้องการออฟฟิศในย่านนี้ก็ถือว่าคุ้มราคาหากจะซื้อในช่วงนี้ เพราะหากซื้อในอนาคตราคาจะปรับสูงขึ้นอีกแน่นอน
เปรียบเทียบกับโครงการอื่น
*ปัจจุบันยังไม่มีโครงการอื่นเพื่อมาเปรียบเทียบกับโครงการนี้ เนื่องจากบนทำเลที่ตั้งโครงการ ยังไม่มีโครงการในลักษณะนี้เกิดขึ้นแต่อย่างใด หากเป็นออฟฟิศก็เป็นลักษณะของอาคารพาณิชย์เสียเป็นส่วนใหญ่
สรุป
โครงการถือว่ามีความต่าง และคู่แข่งน้อยมาก เนื่องจากย่านที่ตั้งโครงการบนถนนรัตนาธิเบศร์ นั้นไม่มีโฮมอฟฟิศในลักษณะนี้เกิดขึ้นเลย และการมีรถไฟฟ้าพาดผ่านก็เป็นจุดขายของโครงการเพราะอยู่ใกล้ 2 สถานีคือ สถานีบางพูล และสถานีสามแยกบางใหญ่ ระยะทางเพียง 150 เมตร
ปัจจัยเหล่านี้ทำให้ลูกค้าที่กำลังมองหาสถานที่เพื่อทำออฟฟิศ และอยู่อาศัยจริงนั้นตัดสินใจเป็นลำดับต้นๆ ส่วนใครที่คิดซื้อเพื่อลงทุนในระยะยาวก็ถือว่าคุ้มค่า ในแง่ของทำเลที่ตั้ง เพราะราคาที่ดิน และค่าเช่าขยับขึ้นทุกปี
“ทั้งนี้หากเทียบจากทุกย่านที่มีโฮมออฟฟิศหรืออาคารพาณิชย์ติดริมถนนสายเศรษฐกิจ และมีรถไฟฟ้าให้บริการนั้น จะมีมูลค่าเพิ่มสูงขึ้นจาก 100% เป็น 200% ภายใน 3 ปี ซึ่งเคยเกิดขึ้นแล้วกับทำเลสุขุมวิท, รัชดาฯ และวงเวียนใหญ่ ซึ่งเชื่อว่าในส่วนของ T59 เวสต์เกต ก็เช่นกัน” นายธงชัย ปิยสันติวงศ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ทีเนอจี้ จำกัด ที่ปรึกษาด้านกลยุทธ์การตลาดและการขายของโครงการนี้ ได้กล่าวไว้
อย่างไรก็ตาม โครงการนี้ไม่มีสิ่งอำนวยความสะดวกอย่างอื่นให้ เนื่องจากมองว่าเป็นพื้นที่สำหรับออฟฟิศเป็นหลัก ลูกค้าที่ชื่นชอบการออกกำลังกายอาจต้องไปใช้บริการที่อื่น แต่อย่างไรก็ตามในอนาคตอาจมีสถานให้บริการ เช่น ฟิตเนส โยคะ มาเปิดให้บริการที่นี่ก็เป็นได้