รีวิวโครงการ: ทเวนตี้เอท ชิดลม (28 Chidlom)

สำนักงานขายโครงการตั้งอยู่ในทำเลที่ตั้งจริงโครงการ ซึ่งติดกับถนนชิดลม

เจ้าของโปรเจกต์ ได้นำต้นไม้มาประดับบริเวณโดยรอบสำนักงานขาย เพื่อให้ตรงกับคอนเซปต์ Urban Oasis

ที่ดินของโครงการ เดิมเป็นบ้านเก่าของตระกูลดัง รายล้อมด้วยต้นไม้ เต็มไปด้วยความร่มรื่น ดังนั้นเมื่อถูกพัฒนาต่อเป็นคอนโดมิเนียม เจ้าของโปรเจกต์ก็ยังคงพื้นที่สีเขียวเหล่านี้อยู่

การตกแต่งพื้นที่บริเวณโดยรอบสำนักงานขาย นั้นเป็นการแสดงออกถึงที่อยู่อาศัยสำหรับคนรุ่นใหม่ อันสอดคล้องกับไลฟ์สไตล์ของย่านชิดลม

จากรูปคือ โมเดลของโครงการ ซึ่งตึกด้านหน้าเป็น อาคาร เดอะ วิลล่า มีความสูง 20 ชั้น ซึ่งขณะนี้ยังไม่เปิดจอง โดยจะเปิดขายอย่างเป็นทางการเมื่อ อาคาร เดอะ ทาวเวอร์ ขายหมดแล้ว ซึ่งเจ้าของโปรเจกต์คาดการณ์ว่าจะสามารถ Sold Out ได้ปลายปีนี้

ทางเข้าโครงการ จะอยู่ทางฝั่งถนนชิดลม

จากรูปเป็นพื้นที่ของเพ้นทเฮ้าส์ ซึ่ง Sold Out ไปแล้ว โดยมีราคาเริ่มต้นเกือบ 100 ล้าน

โครงการประกอบไปด้วยอาคารที่อยู่อาศัย 2 อาคาร คือ เดอะ ทาวเวอร์ สูง 47 ชั้น และชั้นใต้ดิน 1 ชั้น จำนวน 243 ยูนิต เดอะ วิลล่า สูง 20 ชั้น และชั้นใต้ดิน 6 ชั้น จำนวน 184 ยูนิต

เนื่องจากเป็นโครงการที่หลายคนจับตามอง บวกกับเจ้าของโปรเจกต์ต้องการสร้างให้อาคารนี้เปรียบเสมือนเป็นแลนด์มาร์คย่านชิดลม จึงได้ร่วมมือกับบริษัทชั้นระดับโลก อย่าง KPF เจ้าดังประจำเมืองนิวยอร์ค Design 103 International ดูแลด้านสถาปนิก TROP ออกแบบภูมิสถาปัตยกรรม และ Breath ดูแลด้านการตกแต่ง

เรียกว่าเป็นจุดขาย และสร้างความน่าสนใจให้กับกลุ่มคนที่มองหาคอนโดมิเนียมย่านชิดลมอีกหนึ่งประการ กับรูปแบบดีไซน์ใหม่ โดยนำแนวคิดของ Jewel Box ให้ดูเหมือนได้อยู่ห้องมุม เนื่องจากเนื้อที่กว้างขึ้น

สัดส่วนของรูปแบบห้อง ถูกแบ่งออกอย่างละครึ่ง โดยสตูดิโอ และ 1 ห้องนอน คิดเป็น 50% 2 ห้องนอน 3 ห้องนอน และเพ้นท์เฮ้าส์ อีก 50% โดยแบ่งออกเป็นสตูดิโอ 10 ยูนิต  1 ห้องนอน 110 ยูนิต  1 ห้องนอน (ดูเพล็กซ์) 16 ยูนิต 2 ห้องนอน  108 ยูนิต  3 ห้องนอน 4 ยูนิต และเพ้นท์เฮ้าส์ 4 ยูนิต ที่ขายหมดแล้ว

Master Plan โครงการ สังเกตเห็นว่ากรอบสีเขียว คือพื้นที่สีเขียว ซึ่งถือว่าค่อนข้างมาก ตรงกับความตั้งใจของเจ้าของโปรเจกต์ ที่อยากให้เป็นโอเอซิสใจกลางเมืองบนถนนชิดลม

Floor Plan แต่ละชั้นของโครงการ มีจำนวนห้องชุดอาศัยทั้งหมด 7 ยูนิต/ชั้น โดยจะมียูนิต 2 ห้องนอน (สีเทา) เป็นห่องมุม

Floor Plan ชั้น 38 จะแตกต่างกว่าชั้นอื่นๆ โดยมียูนิต 2 ห้องนอน (สีเทา) เป็นห้องมุม โดยมี 7 ยูนิต / ชั้น

Unit Plan ยูนิต 1 ห้องนอน การจัดวางเมื่อเปิดประตูมาจะพบส่วนครัวเปิดก่อนอันดับแรก

Unit Plan ยูนิต 2 ห้องนอน จากรูปจะเห็นว่าเป็นลักษณะรูปตัว L

จากรูปเป็น พาโนราม่า วิว บนชั้น 29 เป็นมุมมองทั้งทางทิศเหนือ ตะวันออก และใต้ สังเกตว่าส่วนใหญ่รายล้อมไปด้วยตึกสูง

จากรูป ทิศที่ไร้การบล็อกวิว น่าจะเป็นทางทิศตะวันออก และตะวันตก แม้ฝั่งด้านนี้จะมีอาคาร TOT สูง 7-9 ชั้น แต่ถือว่าค่อนข้างห่างจากตัวตึก

ระหว่างตัวอาคาร เดอะ วิลล่า และ เดอะ ทาวเวอร์ นั้นมีพื้นที่สวนเป็นส่วนเชื่อมต่อ

ภายในสำนักงานขาย ได้ออกแบบให้เห็นบรรยากาศสวนที่จะเกิดขึ้นภายในโครงการ

สไตล์ของสวนในโครงการ จะเป็นแนว Tropical

ภาพ perspective แสดงบรรยากาศของพื้นที่สวน เชื่อมต่อระหว่างอาคาร เดอะ วิลล่า และ เดอะ ทาวเวอร์

ภาพ perspective แสดงบรรยากาศล็อบบี้ของอาคารเดอะ ทาวเวอร์ ซึ่งเลือกใช้วัสดุหินอ่อน สีดำ และขาว พร้อมด้วยเฟอร์นิเจอร์สีน้ำตาล เพื่อให้เข้ากับบรรยากาศสวนด้านนอกอาคาร โดยล็อบบี้นั้นมีเพดานสูงถึง 7 เมตร และเมื่อเข้ามาแล้วจะสัมผัสได้ถึงความโปร่ง เนื่องจากเพดานบางส่วน ถูกออกแบบให้เป็นกระจก

ภาพ perspective แสดงบรรยากาศกของ Heated Spa Pool และ Steam & Sauna บนชั้น 12 ที่สามารถนอนออนเซน พร้อมสัมผัสบรรยากาศของใจกลางเมืองกรุงเทพฯ ได้แบบส่วนตัว

ภาพ perspective แสดงบรรยากาศของห้องออกกำลังกายที่ถูกดีไซน์ให้เป็น 2 ชั้น ชั้นล่างเป็นส่วนของพื้นที่เครื่องออกกำลังกาย ชั้นบนเป็นลักษณะห้องโยคะ

ภาพ perspective แสดงบรรยากาศของพื้นที่สระว่ายน้ำ ที่เพิ่มดีไซน์ ส่วนของพื้นที่นั่งพักผ่อนริมสระ ในลักษณะเล่นระดับ

ภาพ perspective แสดงบรรยากาศของสระว่ายน้ำที่มีความยาวลักษณะ Lap Pool เหมาะกับคนชอบกีฬาว่ายน้ำ

ห้องตัวอย่างยูนิต 1 ห้องนอน 1 ห้องน้ำ

เมื่อเข้ามาจะพบส่วนของครัวเปิด ที่ถูกออกแบบแก้ปัญหาพื้นที่เก็บของ โดยสังเกตว่ามีส่วนของตู้และลิ้นชักเพิ่มมากขึ้น โดย Built-in ตู้เย็น จาก Electrolux ให้ด้วย

ใต้พื้นที่ติดตั้งไมโครเวฟ มีช่องสำหรับติดตั้งเครื่องซักผ้าฝาหน้าในขนาดไม่เกิน 7 กิโลกรัม โดยทางโครงการได้วางระบบท่อน้ำ ไว้ให้แล้ว

ซิงค์ล้างจานถูกฝังบนเคาน์เตอร์ครัว ส่วนท๊อปเคาน์เตอร์ครัวใช้วัสดุพื้นผิวแบบกลอส จึงง่ายต่อการทำความสะอาด

เตาไฟฟ้า และเครื่องดูดควัน เป็นของ Kuppersbusch โดยผนังบริเวณนี้ ติดกระจกให้ จึงง่ายต่อการทำความสะอาด แม้ว่าอาจจะต้องเช็คบ่อยสักหน่อย เนื่องจากเห็นรอยสกปรกได้อย่างชัดเจน

ถัดจากส่วนของครัวไป จะเป็นโซนนั่งเล่น พร้อมพื้นที่ Jewel Box

แอร์ทุกยูนิตจะเป็นแบบฝังฝ้า งานซ่อม หรือล้าง ช่างแอร์ไม่จำเป็นต้องเข้ามาในห้อง เพราะคอมเพสเซอร์แอร์ งานระบบ ถูกนำไปไว้พื้นที่ส่วนกลาง

สำหรับยูนิตนี้ เป็น Jewel Box แบบมีระเบียง ซึ่งสำหรับโครงการนี้ มีให้เลือกว่าจะเอาแบบมีระเบียง หรือไม่มี แล้วแต่ความต้องการของผู้อยู่อาศัย

สำหรับประตูออกไปบริเวณระเบียง ยังคงเป็นลักษณะ Full High เพื่อให้ห้องดูโปร่ง หรูหรา มากขึ้น โดยระเบียงจะมีประตูบริเวณห้องนังเล่น

มาดูส่วนของห้องนอนกันบ้าง สำหรับการวางเตียง ด้วยขนาดพื้นที่ใช้สอยที่ค่อนข้างมาก จึงสามารถนำเตียงขนาด 6 ฟุต และสตูข้างเตียง มาวางได้อย่างไม่อึดอัด

จากรูปสิ่งที่น่าสังเกตคือ ภายในห้องนอนมาหน้าต่างบานกระทุ้ง ที่อาจต้องใช้ทักษะการข้ามออกไปพื้นที่ระเบียงสักหน่อย หากไม่ได้เลือกออกจากทางห้องนั่งเล่น

สำหรับการจัดวางตู้เสื้อผ้า จะเป็นลักษณะเหมือน Walk in closet เล็ก ๆ โดยโครงการได้ Built-in ให้

ห้องน้ำ มีการแบ่งพื้นเปียก-แห้ง โดยชักโครกเป็นแบบ Washlet ข้อดีคือความสะดวก หรูหรา ทันสมัย แต่อาจจะต้องระมัดระวังการทำความสะอาดสักนิด

อ่างล้างหน้าจะฝังท๊อปหินอ่อนลงไปดังรูป ข้อดีคือทำให้มีพื้นที่ใช้สอยบนเคาน์เตอร์มากขึ้น

ภายในพื้นที่อาบน้ำ นอกจากมีฝักบัวแล้ว ยังมี Rain Shower ให้ด้วย

สำหรับยูนิต 2 ห้องนอน 2 ห้องน้ำนี้ จะมีแปลนห้องในลักษณะรูปตัว L และยังคงเข้ามาเจอโซนครัวเปิดอันดับแรก

ประตูทุกยูนิตของโครงการ จะเป็นลักษณะ Full Height สี Hazel Bronze โดยกรอบประตูเป็นอลูมิเนียมทั้งหมด ทำให้หมดปัญหาเรื่องสนิม

โครงการได้ติดตั้ง Digital Door Lock จาก Alpha ซึ่งเป็นแบบ 3 ระบบ คือ ใช้คีย์การ์ด ใส้รหัส และกุญแจ

จากรูปเป็นตัวจับกอนประตู จากด้านในห้อง

ระบบการเปิด-ปิดไฟทั้งหมดในห้อง จะมีแผงควบคุมดังรูป

เข้ามาในห้อง สิ่งแลกที่พบคือ การ Built-in ตู้เก็บของ และตู้รองเท้า ไว้สองฝั่ง ทำให้แก้ปัญหาตู้เก็บของไม่พอ ซึ่งมักพบสำหรับผู้อยู่อาศัยคอนโดฯ

เมื่อเดินผ่าน Corridor มา จะพบพื้นที่ครัวเปิด ที่มีการ Built-in เคาน์เตอร์ครัว ตู้เก็บของ และเคาน์เตอร์ส่วนของซิ้งค์ล้างจานแยกออกมา ทำให้มีพื้นที่วางของเครื่องใช้ระหว่างประกอบอาหาร กิจกรรมต่างๆ ได้มากขึ้น

ซิงค์ล้างจานเป็นแบบฝังลงไปในเคานเตอร์ โดยสังเกตเห็นกระเบื้องด้านข้างซิงค์ ที่สามารถเลื่อนปิดซิงค์ได้ถ้าไม่ใช้งาน

เตาอบที่เห็นจาก Kuppersbusch ช่วงนี้ทางโครงการเขาติดตั้งให้ด้วย แต่อาจจะต้องติดตามโปรโมชั่นจากโครงการนั้นมีการเปลี่ยนแปลงของแถมอย่างไร

สำหรับยูนิต 2 ห้องนอน เตาไฟฟ้าจะเป็นแบบ 4 หัว เพิ่มเติมขึ้นมาจากยูนิต 1 ห้องนอน

ใกล้กับส่วนของพื้นที่ครัวเปิด สามารถนำโต๊ะกินข้าวขนาดพอเหมาะ ไม่ใหญ่มาก ประมาณ 4 ที่นั่ง มาจัดวางบริเวณนี้ได้ เพื่อให้มีพื้นที่ทางเดินเหลือ และสังเกตเห็นว่า ส่วนของพื้นที่ครัวจะปูพื้นด้วยหินอ่อน นอกจากทำให้หรูหราแล้ว ง่ายต่อการทำความสะอาดด้วย ไม่ต้องกลัวว่าพื้นจะบวมเหมือนกับพื้นไม้หรือลามิเนต

ถัดมาโซนครัวกับโต๊ะกิขข้าว จะเป็นมุมของโถงนั่งเล่น ที่มีความพิเศษตรง Jewel Box ที่ยื่นออกมาด้านหลังโซฟา ทำให้นอกจากจะมีพื้นที่ใช้สอยเพิ่มขึ้นแล้ว ยังทำให้ได้มุมมองวิวทิวทัศน์กว้างขึ้น โดยบริเวณนี้จะมีระเบียงยื่นออกมาเล็กน้อย ไม่เหมือนกับยูนิต 1 ห้องนอน เนื่องจากพื้นที่ใช้สอยถูกนำมาใช้กับส่วนของโถงนั่งเล่นแล้ว

Corridor ทางเดินไปห้องนอน มีความกว้างประมาณ 1 เมตร ซึ่งถือว่าไม่ได้กว้างมาก แต่ก็ไม่ถึงกับแคบ โดยจากรูปฝั่งขวามือ เป็นส่วนของห้องน้ำ ส่วนซ้ายมือ เป็นพื้นที่ของห้องนอนเล็ก

ภายในห้องนอนเล็ก สามารถนำเตียงขนาด 5 ฟุต มาวางได้อย่างไม่อึดอัด แต่ส่วนของพื้นที่ปลายเตียง อาจจะดูแคบลงเล็กน้อย เมื่อวางที่วางที่วี ดังนั้นอาจจะไม่จำเป็นต้องวางเหมือนดังรูป แต่อาจปรับเปลี่ยนตู้เก็บของในลักษณะ Built-in บริเวณพื้นที่ใกล้กับหน้าต่างแทน ก็จะทำให้มีทางเดินตรงปลายเตียงเพิ่มมากขึน

การจัดวางทีวีบริเวณปลายเตียง อาจไม่จำเป็นต้องติดตั้งตู้เก็บของ เหมือนในรูปดังที่กล่าวไปแล้ว

ข้างเตียง สามารถ Built-in ตู้เสื้อผ้าขนาด 3 บาน ได้อย่างพอดีกับผนัง

ส่วนของห้องน้ำที่อยู่ตรงข้ามห้องนอนเล็ก ชักโครกจะเป็นแบบธรรมดา แต่ยังคงแบ่งส่วนเปียก-แห้งอยู่

พื้นที่อาบน้ำ จะไม่มี Rain Shower ให้

ความน่าสนใจคือระบบปรับน้ำร้อน-เย็น ที่มีดีไซน์ทันสมัยดังรูป ซึ่งผู้อยู่อาศันจะได้ตามนี้เลย

ด้านข้างฝักบัว จะมีช่องให้สามารถวางขวดสบู่ ยาซักผม

มาดูส่วนของห้องนอนมาสเตอร์ ด้วยพื้นที่ห้องค่อนข้างกว้าง สามารถนำเตียงขนาด 6 ฟุตมาวางได้ แต่หน้าต่างบานกระทุ้งในห้องนี้ สามารถเปิดรับลมได้อย่างเดียว เนื่องจากเรย์เอาท์ห้องจะไม่มีระเบียงบริเวณห้องนอน ซึ่งไม่เหมือนกับยูนิต 1 ห้องนอน ที่สามารถออกไปบริเวณระเบียงได้

ปลายเตียง เพื่อความสะดวก และทำให้ห้องกว้างขึ้น อาจจะปรับการวางตู้วางของ ด้านล่างทีวีใหม่

ภายในห้องนอนมาสเตอร์ยังคงมี Walk in closet เป็นจุดเด่นอีกเช่นเคย

ตู้เสื้อผ้าถูกแบ่งออกเป็น 2 ฝั่ง พร้อมจัดวางโต๊ะเครื่องแป้งตรงดังรูป โดยทั้งหมดโครงการได้ Built-in ให้

ห้องน้ำแบ่งส่วนเปียก-แห้ง พร้อมตกแต่งหินอ่อนเพื่อเพิ่มความหรูหรา และง่ายต่อการทำความสะอาด

อ่างล้าางหน้าฝังลงบนเคาน์เตอร์ เพื่อเพิ่มเนื้อที่ใช้สอย

โดยโครงการยังคำนึงถึงการเก็บของจิปาถะของผู้อยู่อาศัย จึงได้ทำตู้เก็บเครื่องใช้ ด้านบนอ่างล้างหน้า

ชักโครกภายในห้องนอนมาสเตอร์ เป็นระบบ Washlet

ตัวกดชักโครก ถูกแยกส่วนให้อยู่ด้านบน สะดวกต่อการใช้งาน