พาร์ค 168 นพรัตน์ รามอินทรา (Park 168 Nopparat Ramindra) จาก บริษัท แอล.พี.เอ็น.ดีเวลลอปเมนท์ จํากัด (มหาชน) คอนโดมิเนียม High Rise 25 ชั้น 3 อาคาร ห้องชุดพักอาศัยรวม 1,224 ยูนิต อาคารจอดรถและสระว่ายน้ำ สูง 8 ชั้น 1 อาคาร แต่ละอาคารมีห้องพักอาศัยเพียงอาคารละ 408 ยูนิต มีความเป็นส่วนตัว ไม่แออัด ใกล้รถไฟฟ้าสายสีชมพู สถานีนพรัตนราชธานี ราคาเริ่มต้น 1.69 ล้านบาท
ปัจจุบันหากพูดถึงเซกเมนต์ของตลาดอสังหาริมทรัพย์สไตล์บ้านพักตากอากาศ หลายคนคงนึกถึงทำเลติดชายทะเลที่เป็นแหล่งรวมผู้พัฒนาทั้งแนวราบและแนวคอนโดมิเนียม แต่ด้วยความฮอทฮิตของพื้นที่ติดชายทะเล ที่ติดอันดับท็อปฟอร์มสถานที่ท่องเที่ยว จึงทำให้ความเป็นส่วนตัวน้อยลง ซึ่งดีมานด์ที่ต้องการบ้านพักตากอากาศส่วนใหญ่นั้นก็จะเป็นกลุ่มครอบครัวรุ่นใหม่ที่เป็นนักธุรกิจหรือผู้บริหารที่มีกำลังซื้อสูง และกำลังมองหาบ้านพักที่มีความเป็นส่วนตัวสูง และได้รับอัตราผลตอบแทนในการลงทุนที่ดีด้วย ดังนั้นนอกจากพื้นที่ติดทะเลแล้ว อีกหนึ่งทำเลที่ดีมานด์กลุ่มดังกล่าวให้ความสนใจเป็นพิเศษก็คือ “เขาใหญ่” จากความเงียบสงบที่โอบล้อมไปด้วยขุนเขา ประกอบกับมูลค่าอสังหาริมทรัพย์ในบริเวณนี้ที่สูงขึ้นเรื่อยๆ จากปัจจัยการพัฒนาเส้นทางคมนาคมไม่ว่าจะเป็น โครงการรถไฟความเร็วสูงกรุงเทพฯ-นครราชสีมา และโครงการมอเตอร์เวย์กรุงเทพฯ-บางปะอิน ที่จะเกิดขึ้นในเร็วๆ นี้ และหนึ่งในดีเวลลอปเปอร์ที่จับกลุ่มตลาดบ้านหรูในกรุงเทพฯ และมีฐานลูกค้าระดับ Luxury เป็นทุนเดิมอยู่แล้วก็คือ บริษัท นายณ์ เอสเตท จำกัด เจ้าของโครงการ Parc Priva, Quarter 31, Quarter 39, Quarter Thonglor, และ Kraam Sukumvit 26 (สามารถคลิ๊กชมรีวิวโครงการต่างๆ ของ นายณ์ เอสเตท ได้ที่ชื่อโครงการ) ที่หันมาจับตลาดบ้านพักตากอากาศบนพื้นที่ที่มีโอโซนเยอะที่สุดในประเทศไทยอย่าง เขาใหญ่ พัฒนาออกมาเป็นโครงการ Thyme Hill Village บนคอนเซ็ปต์ บ้านเล็กในป่าใหญ่ มูลค่า 2,000 ล้านบาทบนพื้นที่ 40 ไร่ กับการออกแบบเฉพาะตัวของบ้านแต่ละหลังที่คำนึงถึงความเหมาะสมของเนินเขากับราคาเริ่มต้นประมาณ 25 – 30 ล้าน บนพื้นที่ใช้สอยกว่า 300 ตร.ม. พร้อมทางเลือกของบ้านพักตากอากาศแบบคอนโดมิเนียมโลว์ไรส์ที่มีทั้งห้อง 1 ห้องนอน ขนาด 58.5 – 61 ตร.ม. และ 2 ห้องนอน ขนาด 92 – 100.5 ตร.ม. แบ่ง Layout ห้องเป็นโซน Indoor และ outdoor ดีไซน์เพื่อตอบโจทย์คนที่ต้องการมาสูดอากาศอย่างแท้จริงกับราคาเริ่มต้นที่ประมาณ 5-10 ล้านบาท
เจาะลึกข้อมูลโครงการ
ชื่อโครงการ: ธาม ฮิลล์ วิลเลจ (Thyme Hill Village)
ผู้พัฒนาโครงการ: บริษัท นายณ์ เอสเตท จำกัด
ตัวแทนการขาย: บริษัท ซีบีอาร์อี (ประเทศไทย) จำกัด
ทำเลที่ตั้ง: ถนนสายบ้านโนนกระโดน – บ้านโศกน้อย ต.พญาเย็น อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา ห่างจากถนนมิตรภาพประมาณ 10 กม.
เว็บไซต์: http://www.nyeestate.co.th
โทร: 094-709-0635, 044-756-455
รายละเอียดโครงการ (ข้อมูล ณ วันที่ 25 พฤศจิกายน 2559)
พื้นที่โครงการ: 40 ไร่
ลักษณะโครงการ: วิลล่า 36 หลัง และคอนโดมิเนียมแบบโลว์ไรส์ 4 – 6 ชั้น จำนวน160 ยูนิต
กลุ่มเป้าหมาย: ระดับบน, กลุ่มครอบครัวที่กำลังมองหาบ้านพักตากอากาศ
สถานะการก่อสร้าง: เริ่มก่อสร้างประมาณไตรมาสที่ 4 ปี 2559 คาดว่าจะแล้วเสร็จประมาณไตรมาสที่ 1 ปี 2563
สิ่งอำนวยความสะดวก: ฟิตเนส ห้องสมุด คลับเฮ้าส์ สวนสาธารณะ และทะเลสาบ
ราคาเริ่มต้น: วิลล่าเริ่มต้นประมาณ 25-30 ล้านบาท, คอนโดมิเนียมเริ่มต้นประมาณ 5-10 ล้านบาท
ราคาเฉลี่ย: วิลล่าประมาณ 50,000 – 60,000 บาทต่อตร.ว. คอนโดมิเนียมประมาณ 80,000 บาทต่อตร.ม.
รูปแบบบ้าน
ปราณ (Prann) – ดีไซน์เปิดโล่งพร้อมระเบียงขนาดใหญ่รับอากาศบริสุทธิ์ ลม และแสงธรรมชาติที่ชั้นบน พื้นที่ใช้สอย 330 ตร.ม. 3 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ
ธรา (Thra) – มิติใหม่ของวิลล่าพร้อมทางเข้าที่ชั้นบน ระเบียงขนาดใหญ่ที่ชั้นล่างโอบล้อมด้วยทุ่งหญ้าเขียวขจี พื้นที่ 300 ตร.ม. 3 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ
ครี (Kree) – มอบทิวทัศน์ขุนเขาแบบพาโนราม่าด้วยพื้นที่เปิดโล่ง และระเบียงกึ่งกลางแจ้ง เพื่อรับลมและแสงสว่าง พื้นที่ 290 ตร.ม. 3 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ
ดารา (Dara) – แนบชิดกับธรรมชาติในทุกช่วงของวันด้วยระเบียงกึ่งกลางแจ้งขนาดใหญ่ พร้อมฉากหลังของท้องฟ้าและหมู่ดาว พื้นที่ 325 ตร.ม. 3 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ
รูปแบบห้องของคอนโดมิเนียม
รายละเอียดโครงการ
รีวิวภาพรวมโครงการ
หากมองภาพรวมภายนอกโครงการต้องบอกว่าพื้นที่รอบโครงการยังไม่มีการพัฒนาโครงการหรืออสังหาริมทรัพย์อื่นๆ มากนัก จึงทำให้บริเวณโดยรอบโครงการเป็นพื้นที่ที่มีความเป็นส่วนตัวสูง และเหมาะสมกลับโปรดักส์โครงการที่ถูกวางออกมาในรูปแบบ Luxury เหมาะกับผู้ที่ต้องการความเงียบสงบจริงๆ ซึ่งในจุดนี้ เรื่องของการเชื่อมต่อไปสู่แหล่งอำนวยความสะดวกก็ไม่ต้องกังวลไป เพราะส่วนใหญ่ไม่ได้อยู่ในระยะเดินจะใกล้จะไกลรั้วโครงการแค่ไหน ก็จำเป็นต้องเดินทางด้วยรถยนต์อยู่ดี ดังนั้นข้อได้เปรียบหลักๆ ของภาพรวมโครงการภายนอกก็คือพื้นที่ที่มีความเป็นส่วนตัวสูงมากๆ
ส่วนภายในโครงการเอง ธาม ฮิลล์ วิลเลจ ถูกออกแบบมาในคอนเซป A Little Hideaway in The Woods หรือบ้านเล็กในป่าใหญ่ ดีไซน์ของตัวบ้านจึงไม่ได้ออกมาหรูหราอะไร แต่ซ่อนฟังก์ชั่นของความเป็นธรรมชาติไว้ในตัวบ้าน ด้วยการวาง Layout ตัวบ้านให้เหมาะสมกับพื้นที่ของเนินเขาที่มีระดับต่างกัน และก็สามารถทำออกมาได้กลมกลืนกันกับพื้นที่บนเนินเขา พร้อมทั้งสร้างคันหินเพื่อป้องกันการทรุดตัวของดิน การก่อสร้างตามรูปลักษณ์ของภูมิศาสตร์จึงทำให้บ้านแต่ละหลังมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว แต่ก็ยังคงคอนเซปต์ให้บ้านทุกหลังมองเห็นวิวเขาได้แบบ 360 องศาโดยไม่มีอะไรบดบัง
ส่วนตัวคอนโดมิเนียมโลว์ไรส์เองก็เน้นการเปิดโล่งเพื่อรับอากาศบริสุทธิ์ แบ่งเป็นห้อง 1 ห้องนอน และห้อง 2 ห้องนอน โดยมีฟังก์ชั่นระเบียงขนาดใหญ่ ตัวห้อง 1 ห้องนอนเป็นห้องแบบติดบานผนังด้านหนึ่งให้เป็นกระจก Full Height ที่มีความสูงเกือบ 2 ชั้น ดังนั้นเพดานห้องจึงเปิดโล่งโปร่งสบายขึ้นไปด้วย Layout หน้าบานกระจกเป็นดีไซน์เหมือนจั่วบ้านให้ความรู้สึกเหมือนอยู่ในบ้าน ส่วนห้อง 2 ห้องนอน จะแบ่งออกเป็นสองโซน คือโซน Outdoor และโซน Indoor เมื่อเปิดประตูเข้าไปจะเป็นพื้นที่ใช้สอยขนาดใหญ่ที่เปิดผนังด้านหนึ่งแบบเปิดโล่ง สามารถจัดกิจกรรมปาร์ตี้แบบ Outdoor ชิลล์ๆ ได้สบาย และสามารถเชื่อมต่อห้องครัวให้เป็นส่วนหนึ่งของพื้นที่นี้ได้ด้วยการเปิดบานกระจกกั้นขนาดใหญ่แบบ Full Height ให้ทั้ง 2 ส่วนกลายเป็นพื้นที่ Outdoor ขนาดใหญ่ได้ ส่วนของการพักผ่อนก็แบ่งออกเป็นมุมนั่งเล่น ห้องน้ำกลาง ห้องนอนที่ 2 และ Master Bedroom โดยมี Layout ของห้องเป็นห้องแนวลึกหรือห้องแนวยาว
ผู้รับเหมา: OBA (สำนักงานสถาปนิกกรุงเทพ) – บริษัทออกแบบที่มีประสบการณ์กว่า 25 ปีในการออกแบบและบริหารโครงการก่อสร้างร่วมกับผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ทั้งในประเทศและต่างประเทศ รวมทั้งจีน อิตาลี เมียนมาร์ ลาว กัมพูชา บาฮาม่า และประเทศไทย ด้วยบริการที่ครอบคลุมตั้งแต่การออกแบบผังเมือง โครงการศูนย์การค้าและมิกซ์ยูส โรงภาพยนตร์ และเอนเตอร์เทนเมนต์ จนถึงที่พักอาศัยและรีสอร์ตระดับหรู
ผู้ออกแบบภูมิทัศน์: PLA (บ. พี แลนด์สเคป จำกัด) – เริ่มต้นจากการเป็นสตูดิโอออกแบบภูมิทัศน์ในปี 2540 ขยายธุรกิจเติบโตต่อเนื่องจนปัจจุบันมีทีมงานกว่า 90 คน เชี่ยวชาญการออกแบบรีสอร์ต โรงแรม และที่พักอาศัยระดับไฮเอนด์ ด้วยผลงานทั้งในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และภูมิภาคอื่น ๆ ทั้งจีน อินเดีย ตะวันออกกลาง มัลดีฟส์ และหมู่เกาะฟิจิ
ผู้ออกแบบภายใน: P Viriya Interieurs – สตูดิโอออกแบบภายในพร้อมทีมงานที่นำประสบการณ์กว่า 20 ปี มาสร้างผลงานเพื่อตอบโจทย์อันหลากหลายของลูกค้า ด้วยการสร้างสรรค์แนวคิดที่โดดเด่นเป็นเอกลักษณ์ เพื่อมอบโซลูชั่นที่ทั้งสวยงามและใช้งานได้จริง
ส่วนภายในโครงการเองพื้นที่ส่วนกลางในปัจจุบัน ก็มี Pop-Up คาเฟ่ ให้บริการผู้ที่มาเยี่ยมชมโครงการทุกวีคเอนด์ โดยการนำแบรนด์อาหารกูร์เมต์จากออสเตรเลียที่มีสาขาทั่วโลกอย่าง Jones the Grocer มาตั้งในพื้นที่ส่วนกลางของโครงการ ซึ่งถือเป็นการผสมผสานแบรนด์อาหารชั้นนำกับพื้นที่ที่ช่วยสร้างสุนทรียภาพในชีวิตอย่างเขาใหญ่ได้อย่างลงตัว ความเป็น Luxury และอาหารระดับ Premium จึงถูกรังสรรค์ไว้บนพื้นที่ของโครงการ ธาม ฮิลล์ วิลเลจ ได้อย่างเหมาะสม แต่ทั้งนี้ Jones the Grocer ในโครงการ จะเป็นเพียง Pop-Up Cafe ที่ตั้งอยู่ในโครงการจนถึงสิ้นเดือนมีนาคม 2560 นี้เท่านั้น หากใครมีโอกาสได้แวะเข้าไปชมโครงการก็สามารถลิ้มลองอาหารรสเลิศสไตล์ออสซี่ได้ โดยจะเปิดให้บริการระหว่างวันศุกร์ (เวลา 11.00 – 18.00 น.) เสาร์-อาทิตย์และช่วงวันหยุดยาว (เวลา 8.30 น. – 18.00 น.) ตั้งแต่วันนี้ – มีนาคม 2560 เท่านั้น
สิ่งอำนวยความสะดวกภายในโครงการ
คลับเฮาส์
สระว่ายน้ำ ฟรีฟอร์ม
ฟิตเนส
ห้องสมุด
รีวิวภายในห้องตัวอย่าง
บ้านตัวอย่าง ปราณ (Prann) 3 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ พื้นที่ใช้สอย 330 ตร.ม.
แบบบ้านปราณ เป็นบ้านที่มีดีไซน์เปิดโล่ง พร้อมระเบียงขนาดใหญ่ที่ชั้น 2 และเป็นแบบบ้านที่มีที่ตั้งเหนือระดับพื้นเนินเขาที่สูงที่สุด บ้านจึงออกมาในรูปแบบขนานกับพื้นเป็นแนวราบอย่างที่เห็นในภาพ
ประตูทางเข้าบ้านส่วนนี้จะเชื่อมต่อกับโซนที่เป็นของแม่บ้านทั้งหมด โดยฝั่งตรงข้ามกับเคาท์เตอร์ครัวจะเป็นบันไดทางขึ้นสู่ตัวบ้าน
ถัดมาจากโซนครัวจะเป็นห้องนอนแม่บ้านขนาดเท่าๆ กัน 2 ห้อง ความกว้างของห้องสามารถวางเตียงเดี่ยวขนาด 3.5 ฟุต พร้อมตู้เสื้อผ้าได้
บันไดทางขึ้นสู่ตัวบ้านกว้างประมาณ 80 ซม. เป็นทางขึ้น-ลง แบบเดี่ยว มีราวจับด้านขวามือ ด้านข้างติดไฟดาวน์ไลท์ไว้เพื่อใช้งานเวลากลางคืน
เมื่อขึ้นมาที่ตัวบ้านหันไปทางซ้ายจะเป็นส่วนเชื่อมต่อไปยังพื้นที่ต่างๆ ทางซ้ายมือจะเป็นประตูทางออกไปสวนหลังบ้าน ส่วนทางด้านขวามือจะเป็น Master Bedroom
บรรยากาศของสวนหลังบ้าน เป็น Deck ไม้ ขนาดใหญ่ ล้อมรอบไปด้วยพื้นที่สีเขียว สามารถจัดสวน และที่นั่งแบบ Outdoor รับอากาศบริสุทธิ์ได้
บรรยากาศภายใน Master Bedroom เป็นห้อง Layout สี่เหลี่ยมจตุรัสขนาดใหญ่ มีระเบียงเชื่อมต่อ เน้นความสูงของเพดาน และบานกั้นระเบียงที่เป็นกระจกใสขนาดสูงเกือบจรดเพดาน เพื่อรับแสงธรรมชาติ หากนับจากปลายเตียงถึงชั้นวางทีวี พื้นที่เดินเข้าออกระเบียงเป็นช่องว่างขนาดใหญ่กว่า 60 ซม. สามารถเดินเข้าออกระเบียงได้สบายๆ
อีกด้านหนึ่งของห้องเป็นตู้เสื้อผ้าแบบบิวท์อินที่มีออฟชั่นโต๊ะเครื่องแป้งขนาดไม่สูงมาก ในภาพจะเห็นว่าตำแหน่งของเครื่องปรับอากาศจะเป็นแบบซ่อนฝ้า บานประตูเชื่อมต่อห้องน้ำมีความสูงตั้งแต่พื้นจรดผนัง เพื่อเน้นความโปร่งโล่งของห้อง
เมื่อเดินออกมาจากทางเชื่อมในส่วนที่เป็นสวนหลังบ้านกับ Master Bedroom จะเป็นทางเดินเชื่อมลงไปสู่สวนหน้าบ้าน หรือสามารถเดินเข้าบ้านจากหน้าบ้านได้จากทางนี้
มาที่พื้นที่ส่วนกลางของบ้านที่ชั้นแรกจะเป็นโซน Outdoor ที่สามารถรับลมธรรมชาติจากด้านหน้าบ้านได้ โครงการจัดสรรให้เป็นพื้นที่ส่วนกลางสำหรับจัดปาร์ตี้ พักผ่อนและสังสรรค์กับครอบครัว
ผนังด้านที่หันไปหน้าบ้าน ที่เชื่อมอยู่กับห้องนั่งเล่นจะเน้นการตกแต่งเป็นกระจกใสแบบ Full Height และมีบานกั้นที่สามารถเปิดออกไปสู่ระเบียงด้านนอกได้
ระเบียงที่เชื่อมต่อกับห้องนั่งเล่นมีขนาดไม่ใหญ่มาก แต่ถูกออกแบบมาให้มีความยาว สามารถออกมายืนรับลมได้ 4-5 คน แบบไม่เบียดกันเลย
โครงการติดตั้งเครื่องปรับอากาศแบบซ่อนฝ้า พื้นที่ใช้สอยในส่วนนี้มีขนาดใหญ่มาก สามารถวางชุดโซฟา โต๊ะรับประทานอาหารขนาดใหญ่ และห้องครัวแบบมีไอซ์แลนด์ได้สบายๆ
พื้นที่บริเวณห้องครัวตกแต่งด้วยกระเบื้องเซรามิค แบ่งแยกโซนกับพื้นที่พักผ่อนที่เป็นพื้นลามิเนต โดยแบ่งพื้นที่เตรียมครัวเป็นฝั่งไอซ์แลนด์ และฝั่งเคาท์เตอร์ครัว ทำให้สามารถยืนเตรียมครัวได้ 2-3 คนเลยทีเดียว
ห้องนอนที่ 2 มีขนาดเล็กกว่า Master Bedroom พอสมควร และไม่มีระเบียงเชื่อมต่อ แต่ก็สามารถนอนหลับพักผ่อนได้อย่างสบายๆ พร้อมฟังก์ชั่นห้องน้ำในตัวด้านใน
Layout ของการวางโถสุขภัณฑ์จะตั้งอยู่ในตำแหน่งข้างเคียงกับอ่างล้างหน้า พื้นที่ใช้สอยโดยรอบมีขนาดพอเหมาะสามารถใช้งานได้อย่างสบาย
บานกั้นโซนอาบน้ำเป็นบานกระจกนิรภัยสูงโปร่ง พื้นที่อาบน้ำมีขนาดใหญ่กว่า Master Bedroom อย่างเห็นได้ชัดเจน อาจเป็นเพราะ ฟังก์ชั่นห้องนี้ถูกออกแบบมาสำหรับผู้อยู่อาศัย 2 คน
เมื่อเดินออกมาจากห้องนอนที่ 2 ฝั่งตรงข้ามประตูห้องนอนจะเป็นทางเชื่อมไปสู่ประตูห้องน้ำกลางมีอ่างล้างหน้า โถสุขภัณฑ์ แต่ไม่สามารถอาบน้ำได้
อีกฝั่งหนึ่งของห้อง หรือฝั่งตรงข้ามชุดโซฟาจะเป็นบันไดทางเดินเชื่อมสู่ชั้นสองของตัวบ้าน โดยมีผนังกั้นส่วนที่ออกแบบเป็นผนังติดทีวีตามภาพ ทำให้ Layout ของห้องนั่งเล่นและบันไดทางเชื่อมถูกแบ่งโซนกันอย่างชัดเจน
โครงการปูพื้นลูกตั้งลูกนอนของบันไดส่วนนี้ด้วยผิวไม้ยางให้สัมผัสที่ดี พร้อมติดตั้งฟังก์ชั่นไฟดาวน์ไลท์ให้เพื่อความปลอดภัยสำหรับการใช้งานตอนกลางคืน
เมื่อขึ้นมาที่ชั้น 2 Layout ของ Floor จะถูกเว้าพื้นบริเวณส่วนตรงกลางของ Floor ออก ทำให้ที่ชั้นนี้สามารถยืนมองบรรยากาศของโซนพักผ่อนด้านล่างได้ โดยทางเดินที่ชั้นนี้จะถูกแบ่งออกเป็น 2 ทาง
ด้านในสุดโครงการจัดโซฟานอนให้ตามภาพ ด้านข้างติดอยู่กับบานกระจกใสสามารถมองเห็นวิวด้านนอก รวมไปถึงพื้นที่โซนพักผ่อนที่ชั้นล่างได้ด้วย
โครงการออกแบบประตูของห้องนอนที่ 3 เป็นบานเลื่อน 2 ตอน วัสดุ Engineering Wood ขนาดใหญ่ และหรูหรา มีระบบล็อคมือจากด้านในห้อง
บรรยากาศโดยรวมของห้องนอนที่ 3 ที่โครงการออกแบบไว้ให้ ประกอบไปด้วย เตียงขนาด 5 ฟุต ชั้นวางของ และโซฟาปลายเตียง สิ่งที่แตกต่างจากห้องอื่นของห้องนี้คือเครื่องปรับอากาศที่ไม่ได้ซ่อนไว้ในฝ้า เนื่องจากพื้นจรดเพดานของห้องมีความสูงไม่มาก จึงไม่มีการบิวท์อินฝ้าเพิ่มเข้าไปทำให้ต้องติดตั้งเครื่องปรับอากาศแบบติดผนัง
บ้านตัวอย่าง ธรา (Thra) – 3 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ พื้นที่ 300 ตร.ม.
บ้านตัวอย่างของธราเป็นบ้านสองชั้นที่สร้างบนเนินเขาที่ต่างระดับกัน ดังนั้นด้านหน้าที่เห็นพื้นชั้นหนึ่งที่จะคาบเกี่ยวกับเนินเขาด้านล่าง
ด้านหลังบ้านเป็นชั้นสอง แต่สามารถเชื่อมต่อกับเนินเขาด้านบนได้ โดยมีที่จอดรถอยู่บริเวณชั้นสอง และสามารถเข้าบ้านได้จากทั้งชั้นล่างและชั้นบน
พร้อมห้องน้ำที่สามารถอาบน้ำได้ ทั้งนี้หากครอบครัวที่มีแม่บ้าน หรือ คนขับรถ แต่ต้องการความเป็นส่วนตัวก็สามารถให้แม่บ้านและคนขับรถไปพักผ่อนแยกที่เรือนรับรองของโครงการได้
เมื่อเข้ามาในบ้านจากทางที่จอดรถจะมองเห็นทางเชื่อมสองทาง ทางฝั่งขวามือเป็นทางลงไปสู่ชั้นล่าง ส่วนทางด้านซ้ายมือจะเชื่อมต่อไปสู่ระเบียงชมดาวด้านนอก และห้องนอนที่ 3
พื้นที่ของระเบียงชมดาวแบบบ้านของธรา เป็นพื้นที่ Outdoor ขนาดใหญ่ มีชานหลังคาบ้านยื่นออกมาเล็กน้อย พร้อมที่กั้นตกเป็นโครงเหล็กสูงประมาณ 1.2 ม.
บรรยากาศภายในห้องนอนที่ 3 เชื่อมต่อกับระเบียงที่มีขนาดระเบียงเท่าๆ กับบ้านแบบปราณ ส่วนพื้นที่ในห้องมีขนาดกว้างมาก สามารถวางเตียง และชุดโซฟาหรือโต๊ะทำงานได้
ตู้เสื้อผ้าเป็นแบบบิวท์อินพร้อมโต๊ะเครื่องแป้งแบบลอย ถัดไปด้านในเป็นห้องน้ำในตัวของห้องนอนที่ 3 เครื่องปรับอากาศภายในห้องเป็นแบบติดกับผนังไม่ได้ซ่อนในฝ้า
ห้องน้ำในตัวประกอบด้วยสุขภัณฑ์ที่โครงการมอบให้ตามมาตรฐาน อ่างล้างหน้ามีชั้นวางของและที่เก็บของแบบมีหน้าบานเปิดปิดตามภาพ พื้นที่บริเวณโถสุขภัณฑ์ทำการดร็อปพื้นลงเพื่อกั้นน้ำไหล แต่ไม่มีบานกระจกกั้นโซน
บันไดเดินขึ้น – ลง เป็นบันไดขนาดไม่กว้างมาก มีราวจับอยู่ทางด้านขวามือตามภาพ ที่ด้านซ้ายจะเห็นช่องวอยด์ เปิดผนังโล่งเพื่อรับแสงธรรมชาติจากมุมระเบียงด้านล่างในตอนกลางวันได้
พื้นที่โดยรวมของชั้นล่างประกอบไปด้วยโซนนั่งเล่น ห้องครัวเปิดที่โครงการตกแต่งให้เป็นมุมจัดสวน ส่วนด้านในจะเป็นพื้นที่ของห้องนอนที่ 2 และ Master Bedroom
ห้องนั่งเล่นชั้นล่างเชื่อมต่อประตูกระจกบานเลื่อนแบบ Full Height ที่สามารถเปิดออกได้กว้างมาก เพื่อออกไปยังสวนหน้าบ้าน
ถัดมาด้านในจะเป็นห้องน้ำกลางด้านนอกทางด้านซ้าย และห้องนอนที่ 2 ทางด้านขวา บานประตูผิวลามิเนตที่เห็นจะเป็นในส่วนของห้องเก็บของ ส่วนประตูทางเชื่อมตรงกลางจะเป็นส่วนเชื่อมต่อไปสู่ Master Bedroom
ห้องน้ำกลางมีขนาดไม่ใหญ่มากแต่ก็มีสุขภัณฑ์ครบครัน จัดสรรปันส่วนพื้นที่ได้เป็นอย่างดี โดยมีห้องอาบน้ำอยู่ทางขวามือ Layout ของห้องน้ำกลางเป็นรูปตัว L
ต่อมาเป็นบรรยากาศในห้อง Master Bedroom เป็นห้องขนาดใหญ่ เพดานสูงโปร่ง บานประตูกระจกด้านในสูงตั้งแต่พื้นจรดเพดานสามารถเปิดออกไปเชื่อมต่อกับเนินเขาหน้าบ้านได้เลย
อีกฝั่งหนึ่งของชั้นล่างที่เชื่อมต่อกับโซนนั่งเล่น โครงการออกแบบให้เป็นโซนพักผ่อนแบบ Indoor ประกอบไปด้วยชุดโซฟาพักผ่อน
ห้องตัวอย่าง 1 ห้องนอน ขนาดพื้นที่ใช้สอย 58.5 – 61 ตร.ม.
เมื่อเปิดประตูเข้ามาจะเป็นทางเดินเชื่อมเล็กๆ ไปสู่ตัวห้องด้านขวามือจะเป็นตู้เก็บของ ชั้นวางรองเท้า และโซฟาที่นั่งรับแขก ส่วนอีกฝั่งจะเป็นห้องน้ำ
ห้องน้ำสำหรับห้องแบบ 1 ห้องนอนมีฟังก์ชั่น 2 ประตู โดยประตูหนึ่งจะเชื่อมต่อกับส่วนกลางนอกห้องนอน และอีกประตูจะเชื่อมต่อกับห้องนอนกลายเป็นห้องน้ำในตัวได้เลย ภายในห้องน้ำมี Shower Box กั้นโซนเปียกโซนแห้ง พื้นที่โถสุขภัณฑ์มีขนาดกว้างมากสามารถใช้งานได้ในทุกอริยาบถ
บรรยากาศภายในห้องนอนสามารถวางเตียงขนาดคิงไซส์ได้สบายๆ โดยเหลือพื้นที่ให้เดินรอบเตียง บริเวณปลายเตียงไปจรดผนังกั้นห้องน้ำ มีขนาดกว้างมากสามารถวางตู้เสื้อผ้า และโต๊ะทำงานได้เลย
เมื่อออกมาจากห้องนอนจะเป็นพื้นที่ใช้สอยขนาดใหญ่ พร้อมกับหน้าบานห้องที่ตกแต่งให้มีความรู้สึกเหมือนบ้านด้วยบานกระจก Full Height ที่สูงจรดเพดานที่ออกแบบให้เป็นรูปจั่วหลังคาบ้าน
โต๊ะอาหารที่โครงการจัดสรรค์ให้มีขนาดประมาณ 4 ที่นั่ง ผนังด้านในเป็นบานกระจกเลื่อนสองตอนแบบ Full Height สามารถมองเห็นวิวด้านนอกได้ชัดเจน รวมถึงเชื่อมต่อไปสู่ระเบียงด้านนอกด้วย เมื่อเปิดออกจะทำให้พื้นที่ด้านในและระเบียงเชื่อมต่อเป็นส่วนเดียวกันได้เลย
ห้องตัวอย่าง 2 ห้องนอน ขนาดพื้นที่ใช้สอย 92 – 100.5 ตร.ม.
เมื่อเปิดประตูเข้ามาสำหรับห้อง 2 นอน จะเห็นว่า Layout ห้องถูกแบ่งออกเป็นสองส่วน คือ ส่วนพักผ่อนที่เป็น Outdoor ด้านหน้าห้องเป็นผนังโล่ง และส่วนที่เป็น Indoor มีบานกระจกใสกั้นสูงโปร่งตามภาพ ซึ่งในส่วนนี้สามารถเปิดบานเลื่อนออกให้ทั้งสองส่วนเชื่อมต่อกันได้
ด้านในประกอบไปด้วยโต๊ะรับประทานอาหาร เคาท์เตอร์ครัวแบบมีไอซ์แลนด์ มุมโซฟาพักผ่อน ธีมภายในของห้องตกแต่งด้วยวัสดุลายไม้เพื่อเน้นความเป็นธรรมชาติ และเปลี่ยงแปลงรูปแบบของห้องคอนโดมิเนียมให้เหมือนกับบ้านมากที่สุด
พื้นจรดผนังภายในห้องมีความสูงโปร่ง โครงการบิวท์อินฝ้าลายไม้ และใช้เครื่องปรับอากาศแบบซ่อนฝ้า ทำให้ห้องดูสวยงาม ด้านในเป็นทางเชื่อมเข้าไปสู่โซนห้องนอน
ทางฝั่งขวาบริเวณทางเชื่อมเดินไปสู่ Master Bedroom จะเป็นห้องน้ำกลาง มีตำแหน่งตั้งอยู่ฝั่งตรงข้ามกับห้องนอนที่สอง ตัวห้องน้ำเปิดโล่งไม่มีประตูกั้น แต่จะถูกแบ่งเป็นโซรอาบน้ำ โซนโถสุขภัณฑ์ที่มีฉากบานกระจกฝ้ากั้นทั้งสองส่วนแทน
ต่อมาเป็น Master Bedroom ที่มีห้องน้ำในตัว ด้านบนเป็นเพดานเรียบไม่ได้บิวท์อินเพิ่มเติม ห้องนี้จึงได้รับเครื่องปรับอากาศแบบแขวนผนัง
ภายในห้องน้ำประกอบด้วยโถสุขภัณฑ์ อ่างล้างหน้า เรียงตำแหน่งในระนาบเดียวกัน จัดสรรพื้นที่ให้ใช้งานง่ายที่สุด
พื้นที่ห้องอาบน้ำของ Master Bedroom มีขนาดไม่ใหญ่มาก บานกระจกเป็นบานพับเข้า-ออก อาจมีปัญหาเรื่องรัศมีประตูตอนเปิดเข้าออกเล็กน้อย
ทําเล & การเดินทาง
ศักยภาพทำเล
ปัจจุบันที่ดินบริเวณเขาใหญ่ที่ถูกพัฒนาเป็นโครงการบ้านพักตากอากาศ Luxury กำลังเป็นที่นิยมของเหล่ากลุ่มเป้าหมายระดับบน นักลงทุน และเศรษฐีที่ต้องการกำลังมองหาบ้านหลังที่สองที่สามารถพักผ่อนได้ในวันหยุดหรือยามเกษียณ เนื่องจากภูมิประเทศที่โอบล้อมด้วยป่าผืนงามของเขาใหญ่สร้างแหล่งโอโซนบริสุทธ์ อุณหภูมิเย็นสบายตลอดทั้งปี จนติดอันดับ 7 ของโลกที่เป็นพื้นที่ที่มีโอโซนเยอะที่สุด และเป็นเหตุผลหลักที่ทำให้มีซัพพลายบ้านตากอากาศเข้ามา และนับเป็นโซนพักตากอากาศที่ดีที่สุดจากความเป็นส่วนตัว บนสภาพแวดล้อมที่เงียบสงบไม่พลุกพล่าน และมีผลกระทบจากภัยพิบัติทางธรรมชาติค่อนข้างน้อยเนื่องจากภูมิประเทศส่วนใหญ่เป็นที่ราบสูง ไม่เสี่ยงต่อดินถล่ม แผ่นดินไหว และอุทกภัย รวมไปถึงเป็นทำเลที่เชื่อมต่อกับกรุงเทพฯ ได้ในเวลาเพียง 1-2 ชม. นอกจากปัจจัยของสภาพแวดล้อมที่กล่าวมาทั้งหมดแล้ว สิ่งหนึ่งที่ทำให้มีผู้พัฒนานิยมมาลงทุนก็คือราคาที่ดินที่ยังไม่แพงมากหากนำไปเปรียบเทียบกับโซนตากอากาศอื่นๆ แต่ก็มีอัตราผลตอบแทนที่สูงขึ้นในทุกๆ ปี จากการแข่งขันทางการตลาดของบ้านพักตากอากาศบริเวณเขาใหญ่ที่เกิดขึ้นเรื่อยๆ รวมไปถึงอานิสงส์ในอนาคตของโครงการรถไฟความเร็วสูงกรุงเทพฯ-นครราชสีมา และโครงการมอเตอร์เวย์กรุงเทพฯ-บางปะอิน ที่จะเกิดขึ้นประมาณปี 2563 โดยปัจจุบันร้อยละประมาณ 90% กลุ่มผู้ซื้อยังอยู่ในลักษณะของผู้ซื้อที่ ต้องการซื้อเพื่ออยู่อาศัยเอง แต่หากเมกะโปรเจกต์ทั้งสองตามที่ได้กล่าวมาข้างตนสำเร็จและเปิดใช้บริการจริง พื้นที่บริเวณเขาใหญ่ก็จะถูกจับตาจากนักลงทุนมากขึ้นด้วย
รถไฟฟ้าความเร็วสูงสาย กรุงเทพฯ – นครราชสีมา
ภาพ via rrd.co.th
ภาพเส้นทางการเดินทางของรถไฟฟ้าความเร็วสูงทั่วประเทศในอนาคต จะแบ่งออกเป็น 4 เส้นทางด้วยกัน โดยหนึ่งใน 4 เส้นทางนี้ก็คือเส้นทางรถไฟฟ้าความเร็วสูงสาย กรุงเทพฯ – นครราชสีมา ที่วิ่งเลียบกับถนนมิตรภาพบริเวณเขาใหญ่ โดยมีระยะทางรวมกว่า 256 กม. ตั้งแต่กรุงเทพฯ, อยุธยา, บ้านภาชี , นครนายก , สระบุรี , ปากช่อง , นครราชสีมา โดยใช้เวลาในการเดินทาง 1 ชั่วโมง 30 นาทีเท่านั้น
โครงการมอเตอร์เวย์บางปะอิน – โคราช ในอนาคต
ภาพตัวอย่างการแสดงเส้นทางการเดินทางของมอเตอร์เวย์สายใหม่อย่างบางปะอิน-โคราช ที่มีทางขึ้นอยู่บริเวณอำเภอบางปะอิน มุ่งตรงยาวมาสิ้นสุดที่ถนนมิตรภาพและมุ่งหน้าเข้าสู่จังหวัดนครราชสีมา เป็นระยะทางกว่า 59 กม.
ทำเลที่ตั้งโครงการ
หากเดินทางจากกรุงเทพประมาณ 2 ชม. หรือประมาณ 150 กม. มุ่งตรงมาทางจังหวัดสระบุรี และเชื่อมต่อสู่ถนนมิตรภาพ หรือ ทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 2 ถนนสายหลักที่มุ่งหน้าสู่ภาคอีสาน และเป็นเส้นทางของดินแดนแห่งโอโซนบนเทือกเขาใหญ่ นับตั้งแต่เข้าสู่ถนนมิตรภาพตรงไปไม่เกิน 40 กม. แล้วกลับรถมาอีกฝั่ง จะพบกับอีกหนึ่งถนนสายสำคัญที่กำลังได้รับความนิยมในการปักหมุดโครงการบ้านพักตากอากาศจากความเงียบสงบและเป็นส่วนตัวที่สุดบนเขาใหญ่อย่าง ถนนผ่านศึก-กุดคล้า ทำเลใหม่บนพื้นที่เขาใหญ่ ถนนที่เชื่อมต่อถนนมิตรภาพและถนนธนะรัชต์ถนนสายหลักของเขาใหญ่เอาไว้ด้วยกัน และสามารถนำไปสู่แหล่งท่องเที่ยวสำคัญต่างๆ ของเขาใหญ่ได้ง่าย จริงอยู่ที่ลึกเข้าไปบนถนนธนะรัชต์จะเป็นทำเลดั้งเดิมที่เป็นแหล่งรวมตัวของบ้านพักตากอากาศ แต่ ณ ปัจจุบันด้วยการรุกรานพื้นที่ธรรมชาติจากอดีต ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงพื้นที่ธรรมชาติให้กลายเป็นพื้นที่เชิงพาณิชย์ บริเวณโซนธนะรัชต์จึงเต็มไปด้วย บ้านพักตากอากาศ รีสอร์ท คอมมูนิวตี้มอลล์ ร้านอาหาร จนกลายเป็นแหล่งรวมไฟล์สไตล์บนพื้นที่เขาใหญ่ทำให้ความเงียบสงบและเป็นส่วนตัวลดน้อยถอยลง บริษัท นายณ์ เอสเตท จำกัด จึงคัดสรรทำเลที่ดีที่สุดที่สามารถตอบโจทย์ความเป็นบ้านพักตากอากาศแบบ Luxury ได้อย่างแท้จริงบนทำเลติดถนนผ่านศึก-กุดคล้า จากปากทางถนนมิตรภาพเชื่อมต่อเข้าสู่ถนนผ่านศึก-กุดคล้าตรงเข้ามาไม่ถึง 10 กม. เมื่อเลี้ยวขวาจะเจอถนนสายบ้านโนนกระโดน – บ้านโศกน้อย ถนนสายสั้นๆ ที่สามารถพามายังที่ตั้งของโครงการ ธาม ฮิลล์ วิลเลจ โครงการตั้งอยู่บนพื้นที่ 40 ไร่ และเป็นโซนทำเลที่มีความสูงจากระดับพื้นพอสมควรทำให้พื้นที่โครงการเปิดรับวิวเทือกเขาแบบพาโรนามา 360 องศาได้เลย
ส่วนแวดล้อมภายนอกโครงการ ในระยะขับรถยนต์ประมาณ 500 ม. – 1 กม. ประกอบไปด้วยสถานที่ท่องเที่ยวมากมาย อาทิ ไร่องุ่นและโรงผลิตไวน์ พีบี วัลเล่ย์, ฟาร์มนานาชนิด, สนามกอล์ฟ, สวนดอกกุหลาบ และร้านอาหารหลากหลายสัญชาติ อีกทั้งยังใกล้อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ที่มีแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติอีกมากมาย อาทิ น้ำตกเหวนรก, น้ำตกเหวสุวัต, น้ำตกสาริกา, น้ำตกผากล้วยไม้, ผาเดียวดาย, และหอชมสัตว์ในอุทยานฯ เป็นต้น ก่อนถึงถนนธนะรัชต์จะเป็นที่ตั้งของ “พรีโม เพียซซ่า” แหล่งช็อปปิ้งและจุดหมายปลายทางอีกแห่งบนพื้นที่เขาใหญ่ที่นักท่องเที่ยวต้องไปเยือน โปรเจกต์นี้มีคอนเซปต์การพัฒนาคล้ายกับปาลิโอ เขาใหญ่
บทวิเคราะห์
วิเคราะห์อัตราผลตอบแทนที่จะได้รับ
หากมองย้อนกลับไปในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา กลุ่มผู้ซื้อที่ตบเท้าเข้ามาในตลาดบ้านพักตากอากาศเขาใหญ่ จะเป็นกลุ่มลูกค้าที่เป็นกลุ่มนักธุรกิจหรือคนที่มีกำลังซื้อสูงในฐานะการซื้อเพื่ออยู่อาศัยเองโดยส่วนใหญ่ แต่จากที่ผ่านมาสิ่งที่เห็นได้ชัดเจนเลยก็คือ ภาพรวมของตลาดอสังหาริมทรัพย์ระดับ High End ที่มีแนวโน้มการเติบโตสูง เนื่องจากที่ดินเขาใหญ่ที่อยู่ในโซนตากอากาศที่ยังมีราคาไม่แพงมากหากเทียบกับบริเวณโซนตากอากาศอื่นๆ ในประเทศไทย ประกอบกับความต้องการบ้านหลังที่สองสำหรับใช้พักผ่อนของกลุ่มผู้ซื้อระดับบนที่มากขึ้นเรื่อยๆ ทำให้ดีเวลลอปเปอร์หลายเจ้าให้ความสนใจบนพื้นที่ จนในปัจจุบันเรียกว่าโซนยอดฮิตอย่างถนนธนะรัชต์ถนนสายหลักบนเทือกเขาใหญ่ถูกปักหมุดไปด้วยโครงการอสังหาริมทรัพย์ ทั่งรีสอร์ท บ้านพักตากอากาศ คอนโดมิเนียม และอื่นๆ มากมาย จนกลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่มีนักท่องเที่ยวหมุนเวียนเข้ามามากขึ้น จากเดิมที่มีแต่ดีมานด์ซื้อเพื่ออยู่อาศัยเอง ก็เริ่มเป็นที่น่าสนใจของนักลงทุนด้วย จากการแข่งขันทางการตลาดของอสังหาริมทรัพย์แนวที่อยู่อาศัยที่สูงขึ้น ประกอบกับความเจริญที่เพิ่มเข้ามาแบบปีต่อปีทำให้ที่ดินมีราคาเพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ซึ่งหากควบรวมอานิสงส์จากการพัฒนาเส้นทางคมนาคมอย่าง โครงการรถไฟความเร็วสูงกรุงเทพฯ – นครราชสีมา และโครงการมอร์เตอร์เวย์กรุงเทพฯ – บางปะอิน ที่จะเกิดขึ้นในปี 2563 ยิ่งทำให้ราคาที่ดินและโครงการบ้านพักตากอากาศที่มาตั้งรกรากอยู่แล้วมีราคาเพิ่มขึ้นไปอีก ดังนั้นทั้งกลุ่มผู้ซื้อเดิมที่ตั้งใจซื้อเพื่ออยู่อาศัยเองจึงได้รับอัตราผลตอบแทนจากตรงนี้ไปด้วยเต็มๆ และเมื่อโปรเจกต์การพัฒนาต่างๆ เสร็จเรียบร้อย เซกเมนต์ของกลุ่มนักลงทุนก็จะขยายตัวมากขึ้นบนทำเลเขาใหญ่อย่างแน่นอน
เนื่องจากโครงการที่นำมาเปรียบเทียบจะเป็นโครงการที่มีรูปแบบเหมือนกันคือมีทั้งวิวล่าและคอนโดมิเนียม หากไม่ได้พูดถึงราคา ซึ่งเป็นในส่วนของการตัดสินใจของผู้ซื้อ โดยมาดูที่ทำเลจากตำแหน่งที่ตั้งโครงการจะเห็นได้ชัดเจนว่าโครงการ ธาม ฮิลล์ วิลเลจ จะมีพื้นที่ที่ลึกเข้ามาจากถนนสายหลักอย่างถนนผ่านศึก-กุดคล้า ทำให้มีความเงียบสงบและเป็นส่วนตัวมากกว่าโครงการแสนดาวเขาใหญ่ แต่ถึงแม้ตัวโครงการจะเงียบสงบมากกว่าแต่การเชื่อมต่อไปยังสาธารณูปโภคต่างๆ ย่อมเป็นไปได้ยากกว่าโครงการแสนดาวที่ตั้งอยู่ติดกับถนนหลักรวมไปถึงเชื่อมต่อไปถึงถนนธนรัชต์ได้ง่ายกว่า ทีนี้การตัดสินใจเลือกโครงการทั้งสองก็ต้องมาดูที่ปัจเจกของผู้ซื้อว่าต้องการโครงการแบบไหน
ทั้งนี้ในแง่ของบ้านพักตากอากาศแล้วต้องบอกว่าในระยะการเชื่อมต่อไปสู่สาธารณูปโภคต่างๆ จำเป็นต้องใช้รถยนต์ในการเดินทางเชื่อมต่อไปยังสถานที่ต่างๆ อยู่แล้ว เพียงแต่จะช้าจะเร็วกว่าขึ้นอยู่กับว่าไปสถานที่แห่งใด ดังนั้นการเลือกบ้านพักตากอากาศสักหลังจึงควรคำนึงถึงปัจจัยส่วนตัว และอัตราผลตอบแทนในอนาคตมากกว่าเรื่องของตำแหน่งที่ตั้งโครงการ ซึ่งโครงการ ธาม ฮิลล์ วิลเลจ เองเป็นโครงการที่เพิ่งมีการเปิดตัวในปีนี้ ส่วนโครงการแสนดาว เขาใหญ่ เป็นโครงการที่สร้างเสร็จพร้อมอยู่ในปี 2558 ที่ผ่านมา
เปรียบเทียบกับโครงการอื่น
โครงการ แสนดาว เขาใหญ่ (เปิดตัวเมื่อปี 2556 แล้วเสร็จเมื่อปี 2558 ที่ผ่านมา)
เจ้าของโครงการ: บริษัท เขาใหญ่ท็อปฮิลล์ จำกัด (Khao Yai Top Hill Co., Ltd.)
พื้นที่โครงการ: ที่ดินประมาณ 13-1-81 ไร่
รูปแบบโครงการ: คอนโด Low Rise 7 ชั้น 2 อาคาร รวม 81 ยูนิต และ วิลล่า 18 หลัง
คอนโดมิเนียมโลว์ไรส์
ยูนิตต่อชั้น: 6 ยูนิต
ที่จอดรถ: ประมาณ 75%
รูปแบบห้อง: 1 Bedroom 55 ตารางเมตร, 2 Bedrooms 84-103 ตารางเมตร
ราคาเริ่มต้น: ประมาณ 4 ล้านบาท
ราคาเฉลี่ย: 70,000-80,000 บาท ต่อตร.ม.
วิวล่า
รูปแบบบ้าน: 3 ห้องนอน 4 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ พื้นที่ใช้สอย 282-288 ตารางเมตร ที่ดินแปลงมาตรฐาน 109-170 ตารางวา
ราคาเริ่มต้น: 12 ล้านบาท
สรุป
สำหรับการเลือกซื้อบ้านพักตากอากาศเพื่ออยู่อาศัยเอง ซึ่งเป็นเสมือนบ้านหลังที่ 2 ปัจจัยหลักๆ ที่ควรคำนึงถึงก็คือความเงียบสงบ และความเป็นส่วนตัว ส่วนเรื่องที่สองก็คือเรื่องของโปรดักส์โครงการ แต่ส่วนใหญ่หากเป็นดีเวลลอปเปอร์ที่มีชื่อเสียง ไม่น่าจะต้องห่วงเพราะผู้พัฒนาคงไม่กล้าเอาชื่อเสียงมาแลกในต่างถิ่น การจะปลูกบ้านบนเนินเขาจึงมีการศึกษาและวางแผนเป็นอย่างดีไม่ว่าจะเป็นอุบัติภัยหรือโครงสร้างต่างๆ ก็ตาม ดังนั้นสำหรับ บริษัท นายณ์ เอสเตท จำกัด ที่จับกลุ่มจับกลุ่มตลาดระดับบนอยู่แล้ว ย่อมเข้าใจการสร้างโปรดักส์ที่เข้าถึงกลุ่มคนเหล่านี้ ดังนั้นทั้งปัจจัย 2 ปัจจัยที่กล่าวมานี้ ต้องบอกว่าโครงการ ธาม ฮิลล์ วิลเลจ ทำออกมาได้ดีและตอบโจทย์กลุ่มลูกค้า พร้อมตัวเลือกอีกหนึ่งระดับราคาสำหรับคนชอบบ้านพักสไตล์คอนโดมิเนียมที่ราคาเริ่มต้น 5 ล้านก็เป็นอีกหนึ่งชอยส์สำหรับคนที่กำลังมองหาบ้านพักตากอากาศที่เก็บไว้มาพักผ่อนเป็นครั้งคราวในช่วงวีคเอนด์
สำหรับในแง่มุมของการลงทุนเอง ในปัจจุบันราคาที่ดินบริเวณถนนผ่านศึก-กุดคล้า อันเป็นโซนที่ตั้งของโครงการจะมีราคาถูกกว่าบริเวณถนนธนะรัชต์ที่มีการแข่งขันด้านอสังหาริมทรัพย์สูง แต่ด้วยความเป็นจุดเชื่อมต่อ และยังถือว่าเป็นพื้นที่ใหม่บนเขาใหญ่จึงเป็นที่น่าจับตาของนักลงทุน โดยปัจจุบันที่ดินบริเวณนี้มีราคาไม่เกิน 60,000 บาทต่อตร.ว. ขณะที่จุดเชื่อมต่ออย่างบริเวณถนนธนะรัชต์มีราคาพุ่งขึ้นสูงไม่ต่ำกว่า 90,000 บาทต่อตร.ว. ซึ่งจุดนี้แสดงให้เห็นถึงการขยายตัวของอสังหาริมทรัพย์บนเขาใหญ่ และถือเป็นแนวโน้มที่ดีสำหรับทำเลใกล้เคียงอย่างช่วงต้นถนนผ่านศึก-กุดคล้าทางฝั่งถนนมิตรภาพซึ่งเป็นที่ตั้งของโครงการไปด้วย โดยถึงแม้ปัจจุบันบนถนนผ่านศึก-กุดคล้าจะยังมีการลงทุนน้อยก็ตาม แต่เชื่อว่าในระยะเวลาไม่เกิน 5 ปี ด้วยอานิสงส์ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นโครงการรถไฟความเร็วสูงกรุงเทพฯ – นครราชสีมา และโครงการมอร์เตอร์เวย์กรุงเทพฯ – บางปะอิน ที่จะเกิดขึ้นในปี 2563 จะช่วยพลักดันให้ทำเลนี้เป็นที่น่าสนใจและน่าจะมีการปรับราคาเพิ่มขึ้น 5-10% เลยทีเดียว