ลุมพินี วิลล์ แจ้งวัฒนะ 10 คอนโด Low Rise 8 ชั้น 2 อาคาร ห้องชุดจำนวน 476 ยูนิต พร้อมลานกิจกรรม และลานออกกำลังกายขนาดใหญ่ รองรับการพักอาศัยช่วง Work from Home ได้อย่างลงตัว ราคาเริ่มต้นเพียง 1.45 ล้านบาท
สนใจ คอนโดฯ ในโครงการนี้? เลือกชม รายการประกาศ ราคาโดนใจ
มองย้อนกลับไป 3-4 ปีก่อน นับตั้งแต่โครงการรถไฟฟ้ารอบเมืองมีการดำเนินการก่อสร้างจริงให้เห็นเป็นรูปเป็นร่าง พื้นที่ที่อยู่ในรัศมีของรถไฟฟ้าสายใหม่ต่างๆ ก็เริ่มส่งผลต่อภาคอสังหาริมทรัพย์และพฤติกรรมของผู้บริโภค การกระจายตัวของกลุ่มดีมานด์ที่มองหาคอนโดมิเนียมที่สามารถตอบโจทย์การเดินทาง และสาธารณูปโภคที่ครบครันบนราคาที่จ่ายไหวของกลุ่มคนเมืองได้ถูกขยับออกมาปักหมุดบนรัศมีของโครงการรถไฟฟ้าสายใหม่ๆ หรือช่วงต่อขยายซึ่งปักหลักอยู่บริเวณนอกตัวเมืองที่มีการแข่งขันในเรื่องของราคาสูง ด้วยเหตุนี้ซัพพลายคอนโดฯ ใหม่หลายเจ้าจึงจัดสรรค์ผลิตภัณฑ์ที่เจาะกลุ่มตลาดระดับล่างไปจนถึงระดับกลางขึ้นมาบนทำเลไข่ขาวที่ล้อมรอบตัวเมืองเอาไว้
จากประเด็นดังกล่าวประกอบกับคอนโดมิเนียมระดับกลางลงมามีโอกาสเติบโตมากกว่าตลาดบนที่ค่อนข้างชะลอตัว และด้วยอานิสงส์ของรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินที่วิ่งตัดเป็นสี่เหลี่ยมจตุรัสมาบรรจบกันที่บริเวณแยกท่าพระ ซึ่งเป็นเส้นทางที่ล้อมตัวเมืองไว้ และยังมีโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้มตัดผ่านบริเวณนี้ จึงเป็นเหตุผลให้ผู้ประกอบการหลายเจ้าเข้ามาล้อมรั้วบริเวณส่วนต่อขยายของโครงการรถไฟฟ้าสีน้ำบริเวณถนนจรัญสนิทวงศ์ และหนึ่งในผู้พัฒนาที่มีชั่วโมงบินในการบริหารโครงการมานาน และมีจุดเด่นในการคัดสรรทำเลดีๆ บนฐานราคาที่กลุ่มมนุษย์เงินเดือนระดับล่าง-กลางมีกำลังจ่ายไหวอย่างกลุ่มบริษัทมีสไตล์ ก็ได้เลือกเอาทำเลมุมถนนแยกบางพลัดที่เชื่อมต่อเส้นทางคมนาคมเส้นสำคัญอย่าง ปิ่นเกล้า ราชพฤกษ์ พระราม 7 พระราม 8 จรัญฯ รัชดาภิเษก และราชวิถีมาพัฒนาเป็นที่อยู่อาศัยแนวดิ่งกว่า 30 ชั้น ซึ่งถือเป็นตึกสูงแห่งแรกในย่านนี้ โดย บริษัท มีสไตล์ เอสเตท จำกัด ได้ทำการจับเอาที่ดินของอาคารอพาร์ทเมนต์เก่ามาเคลียร์พื้นที่เพื่อพัฒนาโครงการใหม่ล่าสุดอย่าง “บริกซ์ คอนโดมิเนียม (BRIX Condominium)” ที่แม้จะทำการเปิดขายไปแล้วในช่วงเดือนมีนาคมของปี 2558 และมีการ Sold out ไปแล้ว แต่ด้วยจุดเด่นที่ติดกับรถไฟฟ้าสถานีสิรินธร พร้อมกับเป็นตึกสูงแห่งแรกบริเวณแยกบางพลัดจึงทำให้ความน่าสนใจทั้งในแง่ของการลงทุนและการอยู่อาศัยของโครงการดังกล่าวพุ่งสูงมาก
เจาะลึกข้อมูลโครงการ
ชื่อโครงการ: บริกซ์ คอนโด จรัญสนิทวงศ์ 64 (Brix Condominium Charansanitwong 64)
ผู้พัฒนาโครงการ: บริษัท มีสไตล์ เอสเตท จำกัด
สถาปนิกผู้ออกแบบ: บริษัท อินเตอร์คอน อาร์คิเต็ค จำกัด
ทำเลที่ตั้ง: สี่แยกบางพลัด (ซังฮี้) ซ.จรัญสนิทวงศ์ 64 แขวงบางยี่ขัน เขตบางพลัด กรุงเทพฯ
เว็บไซต์: http://www.brixcondo.com
โทร: 098-254-8888
รายละเอียดโครงการ (ข้อมูล ณ วันที่ 30 มีนาคม 2559)
พื้นที่โครงการ: 3-0-68 ไร่
รูปแบบ: คอนโดมิเนียมแบบ High Rise ความสูง 32 ชั้น 1 ชั้นใต้ดิน จำนวน 1 อาคาร รวมห้องพักอาศัย 560 ยูนิต และร้านค้า 8 ยูนิต
กลุ่มเป้าหมาย: คนพื้นที่ พนักงานบริษัท ตลอดจนเจ้าของธุรกิจ
สถานะการก่อสร้าง: ต้นปี 2559
คาดว่าจะแล้วเสร็จ: ต้นปี 2561
ระบบคีย์การ์ด: เข้า-ออกห้องด้วย Access Control Card พร้อมระบบล็อคชั้น
ลิฟท์: ลิฟท์โดยสาร 4 ตัว ลิฟท์ขนของ 1 ตัว ลิฟท์ที่จอดรถ 1 ตัว
เปิดขาย: Presale เมื่อเดือนมีนาคม 2558
สถานะการขาย: 100%
เงื่อนไขการจองและทำสัญญา:
ห้องพื้นที่ 25 ตร.ม. – 50 ตร.ม. ลูกค้าชำระเงินจอง 20,000 บาท ชำระเงินทำสัญญา 30,000 บาท
ห้องพื้นที่ 51 ตร.ม. – Duplex ลูกค้าชำระเงินจอง 50,000 บาท ชำระเงินทำสัญญา 50,000 บาท
เครื่องปรับอากาศ Daikin หรือเทียบเท่า, ชุดครัว Built-in Modernform หรือเทียบเท่า (ชุดซิ้งค์ล้างจาน,ตู้,ที่ดูดควัน), สุขภัณฑ์ Cotto หรือ American standard, ฉากกั้นอาบน้ำ กระจกนิรภัย (Tempered Glass), วอลเปเปอร์
ค่าส่วนกลาง: 50 บาท/ ตร.ม./ เดือน เก็บล่วงหน้า 1 ปี ณ วันโอนกรรมสิทธิ์
เงินกองทุนส่วนกลาง 500 บาท/ ตร.ม. เก็บครั้งเดียว ณ วันโอนกรรมสิทธิ์
ค่าธรรมเนียมการโอนกรรมสิทธิ์ ผู้ซื้อและผู้ขายชำระคนละครึ่ง, ผู้ซื้อเป็นผู้ชำระค่าติดตั้งและค่าประกันมิเตอร์น้ำ และมิเตอร์ไฟ
*ราคาดังกล่าวใช้เฉพาะวันที่ 16 พ.ค. 58 ที่ผ่านมาแล้วเท่านั้น
ที่จอดรถ: ชั้นใต้ดิน, ชั้น 2-6 รวมประมาณ 272 คัน ไม่รวมจอดซ้อนคัน
ราคาเริ่มต้น: 1.55 ล้านบาท
ราคาเฉลี่ย: 85,000 บาท/ ตร.ม.
รูปแบบห้อง
สตูดิโอ และ 1 ห้องนอน ขนาด 22-40 ตร.ม.
2 ห้องนอน ขนาด 42-96 ตร.ม.
ดูเพล็กซ์ ขนาด 115-130 ตร.ม.
รายละเอียดโครงการ
รีวิวภาพรวมโครงการ
ป้ายโครงการดีไซน์ให้มีสไตล์โมเดิร์นโดยใช้สีน้ำตาลเป็นหลัก เพื่อบ่งบอกดีไซน์ที่โมเดิร์นและเป็นสีของอาคาร
นอกจากโบรชัวร์ที่ลูกค้าจะได้รับเมื่อมาติดต่อ ลูกค้ายังสามารถดูแบบแปลนของห้องทุก Type ได้จริงตั้งแต่ห้อง สตูดิโอ, 1 ห้องนอน, 2 ห้องนอน และห้องแบบดูเพล็กซ์ นอกจากโบรชัวร์ที่ลูกค้าจะได้รับเมื่อมาติดต่อ ลูกค้ายังสามารถดูแบบแปลนของห้องทุก Type ได้จริงตั้งแต่ห้อง สตูดิโอ, 1 ห้องนอน, 2 ห้องนอน และห้องแบบดูเพล็กซ์
โซนรับแขกผู้มาติดต่อยังคงการออกแบบสไตล์ Industrial โดยใช้วัสดุโครงสร้างเหล็กเป็นหลักทั้งภายในอาคาร และเฟอร์นิเจอร์
สำหรับโครงการบริกซ์ คอนโดมิเนียม ตั้งอยู่บนพื้นที่ขนาด 3 ไร่ 68 ตร.ว. ซึ่งเดิมเป็นพื้นที่ของอพาร์ทเมนต์เก่า ซึ่งทางบริษัท มีสไตล์ เอสเตท จำกัด ได้ทำการเคลียร์พื้นที่และปลูกสร้างเป็นอาคารใหม่ ด้วยศักยภาพทำเลที่มีวิวทิวทัศน์ที่สวยงามรอบด้าน โครงการตั้งอยู่บริเวณแยกบางพลัดหรือบริเวณซอยจรัญสนิทวงศ์ 64
ภาพรวมโครงการหากมองด้วยตาเปล่าจากมุมถนนคงไม่รู้เลยว่านี่คือคอนโดมิเนียมแนวสูง วิวแม่น้ำเจ้าพระยาแห่งแรกในย่านฝั่งธนฯ พร้อมกับอยู่ติดรถไฟฟ้าสิรินธรในระยะเดินได้แบบไม่เหนื่อยแต่อย่างใด
โมเดลอาคารมีความละเอียดที่ 1: 75 จะเหมือนอาคารถูกแบ่งตึกออกเป็นโซนๆ แต่ความจริงคืออาคารเดียวกัน จะเห็นว่าตามโมเดลยังคงเน้นสีโทนเมทัล ผสมผสานกับสีสนิม ในสไตล์ Industrial ซึ่งแน้นวัสดุธรรมชาติอย่างเหล็ก ไม้ สนิม ปูน อิฐและวัสดุโปร่งใสเป็นองค์ประกอบให้เกิดขึ้นมาเป็นรูปแบบของสไตล์อุตสาหกรรม ทำให้ตัวอาคารดูมีเสน่ห์ไปอีกแบบ ดีไซน์อาคารที่ได้ทีมออกแบบสถาปัตยกรรมจากบริษัท อินเตอร์คอน อาร์คิเต็ค จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทสถาปนิคชั้นนำของประเทศที่เคยฝากผลงานการออกแบบระดับรางวัลจากหลายสถาบันอย่างต่อเนื่อง หนึ่งในนั้นคือ รางวัลจากงานสัมมนานานาชาติ ฟิวเจอร์อาร์ค ฟอรั่ม กรุงเทพฯ (Futur Arc Forum) เมื่อปี 2551 ผ่านการออกแบบโครงการ Millenium Residences Sukhumvit 18
ตามโมเดลจะเห็นการไล่ระดับชั้นของโมเดล ตรงนั้นจะเป็นส่วนของห้องดูเพล็กซ์ ที่มีสวนส่วนตัวยื่นออกมาตามสเต็ป ตัวอาคารจึงออกมาในรูปแบบตัวแอล หากเห็นภาพโมเดล จะเห็นว่าตึกเหมือนจะถูกแบ่งโซนไว้โดยมีการไล่ระดับชั้นลงมาที่หางของตัวแอลทั้งสองด้าน แต่ความจริงคือตึกเป็นอาคารเดียวกันสามารถเดินเชื่อมกันได้หมด ข้อดีของการตกแต่งโดยลดระดับชั้นปลายอาคารลงมาอาจจะเป็นส่วนของห้องแบบดูเพล็กซ์ที่ตั้งอยู่ตามสเต็ปของอาคาร ซึ่งจะมีสวนพักผ่อนที่เป็นดาดฟ้าอาคาร นอกจากนี้ชั้นบนสุดของอาคารจะถูกทำเป็นจุดชมวิวด้วย ส่วนรูปแบบภายในถึงแม้ยังไม่เห็นของจริงแต่เจ้าของโครงการได้โปรโมทผ่านสื่อไว้ว่าโครงการจะเน้นคอนเซ็ปต์ที่บ่งบอกถึงความมีตัวตนและยังคงกลิ่นอายของ “มีสไตล์” ซึ่งสามารถดูได้จากโครงการเก่าๆ ที่ผ่านมาให้คงอยู่ โดยจะสร้างความแตกต่างของโครงการนี้โดยแทรกความเป็น Industrial เพิ่มเข้าไป ผุ้พัฒนาจึงเลือกใช้วัสดุที่เป็น อิฐ หินจากธรรมชาติ และมีการเพิ่มวัสดุอย่างเหล็กเข้าไป ซึ่งเป็นการผสมผสานสร้างสรรค์เพื่อให้เข้ากับวัสดุที่เป็นธรรมชาติ ในส่วน Landscape ของสวนส่วนกลางต่างๆ โครงการได้ออกแบบภายใต้คอนเซ็ปต์ “สวนที่ไม่ได้เป็นแต่เพียงสวนธรรมดา” เท่านั้น แต่ออกแบบให้สวนสามารถเป็นพื้นที่ใช้สอยอย่างอื่นได้ เช่น สถานที่ออกกำลังกายควบคู่กันไปกับการทำกิจกรรมสันทนาการอื่นๆ สำหรับที่จอดรถ โครงการมีพื้นที่พิเศษสำหรับผู้อยู่อาศัยที่ชอบปั่นจักรยาน และที่พิเศษที่สุดโครงการได้จัดสรรพื้นที่สำหรับจอดบิ๊กไบค์เพื่อตอบสนองไลฟ์สไตล์นักบิดยุคใหม่อีกด้วย
ซึ่งโดยรวมในราคาต่อ ตร.ม.ที่ 85,000 บาทในทำเลชานเมืองที่ติดกับรถไฟฟ้า อีกทั้งยังได้รับวิวแม่น้ำเจ้าพระยา พร้อมกับวัสดุที่เหนือมาตรฐานขึ้นมาอีกนิด จะบอกว่าเป็นราคาอนาคตก็ไม่เชิง แต่หากเทียบสเปคกันจริงๆ ราคานี้ถือเป็นราคาที่ในอนาคตสามารถเพิ่มขึ้นได้อีกไม่น้อยก็มากจากราคาปัจจุบัน
Master Plan
จากมาสเตอร์แปลนจะเห็นว่าพื้นที่ชั้นล่างของโครงการจะถูกแบ่งออกเป็นสามส่วนด้วยกัน จากการลงพื้นที่จะเห็นว่าบริเวณล้อมโครงการยังไม่มีร้านสะดวกซื้อ หรือสิ่งอำนวยความสะดวกในระยะเดินได้ นอกจากโครงการรถไฟฟ้าในอนาคตมากนัก โครงการจึงจัดสรรพื้นที่ส่วนหนีงหนึ่งให้เป็นพื้นที่ของร้านค้า 8 ยูนิต อีกหนึ่งส่วนเป็นพื้นที่ส่วนกลางที่ประกอบด้วยส่วนกลางหลักๆ คือสวนสาธารณะที่เน้นในเรื่องของความร่มรื่น โดยมีทางเข้าที่จอดรถใต้ดินอยู่บริเวณด้านซ้ายของมาสเตอร์แปลน ซึ่งส่วนสุดท้ายจะเป็นล็อบบี้ทางเข้าอาคารที่แบ่งออกเป็น Lounge และออฟฟิศนิติบุคคล ตามภาพจะเห็นว่าโครงการชูจุดเด่นในมาสเตอร์แปลน ด้วยวิวของแม่น้ำเจ้าพระยาทางฝั่งขวา ความจริงอาจมีระยะห่างพอสมควรแต่หากอยู่บนยูนิตที่สูงขึ้นไปกว่าชั้น 10 รับรองว่าจะเห็นวิวแม่น้ำเจ้าพระยาแน่นอน อีกจุดเด่นหนึ่งก็คือสถานีรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินสถานีสิรินธร ที่เรียกว่าอยู่ติดกับ Main Gate ของโครงการเลย
Floor Plan
Floor Plan เป็นแบบ Double Corridor มีลิฟท์โดยสารอยู่ในโซนเดียวกัน 4 ตัว และลิฟท์ขนของด้านหลัง แต่ละชั้นมีการสลับวางยูนิตแต่ละ Type แตกต่างกัน โดยมีส่วนกลางเป็นสระว่ายน้ำอยู่ที่ชั้น 8 และมีสวนสาธารณะลอยฟ้าอยู่ที่ชั้น 17 และชั้น 28 บริเวณด้านบนของแปลน ส่วนชั้นอื่นที่ไม่ได้มีส่วนกลางในส่วนนั้นจะเป็นยูนิตที่อยู่อาศัย ซึ่งหากเอาภาพ Floor Plan ไปเปรียบเทียบกับ Master Plan จะเห็นว่า บริเวณด้านบนที่เป็นพื้นที่ส่วนกลางจะเป็นไฮไลท์ของโครงการที่สามารถมองเห็นวิวได้ถึง 2-3 วิว ซึ่งเป็นห้องแบบดูเพล็กซ์นั่นเอง
Unit Layout
Type A1 ห้องแบบ 1 ห้องนอน ขนาด 22 ตร.ม.
Type A2 ห้องแบบ 1 ห้องนอน ขนาด 25 ตร.ม.
Type A3 ห้องแบบ 1 ห้องนอน ขนาด 28 ตร.ม.
Type A6 ห้องแบบ 1 ห้องนอน ขนาด 34 ตร.ม.
Type A9 ห้องแบบ 1 ห้องนอน ขนาด 40 ตร.ม.
Type B1 ห้องแบบ 2 ห้องนอน ขนาด 42 ตร.ม.
Type B2 ห้องแบบ 2 ห้องนอน ขนาด 43 ตร.ม.
Type B5 ห้องแบบ 2 ห้องนอน ขนาด 48 ตร.ม.
Type C2 ห้องแบบ 2 ห้องนอน ขนาด 51 ตร.ม.
Type D3 ห้องแบบดูเพล็กซ์ 2 ห้องนอน ขนาด 130 ตร.ม.
การวางทิศทางโครงการ
ทิศใต้: เป็นวัดสิงห์ และชุมชนดั้งเดิมทอดยาวออกไปจรดกับแม่น้ำเจ้าพระยาที่มีสะพานกรุงธนเป็นทางเชื่อมไปสู่อีกฝั่ง
ทิศตะวันออก: ทิศนี้อยู่ติดกับฝั่งถนนราชวิถี หากอยู่ห้องที่หันไปทางทิศนี้จะได้รับวิวของเส้นทางการเดินรถไฟฟ้าที่ถนนจรัญสนิทวงศ์เป็นแนวยาวขึ้นไปเชื่อมต่อกับถนนบางกรวยและแยกพระราม 7
ทิศตะวันตก: ทิศนี้อยู่ติดกับซอยจรัญสนิทวงศ์ 62 ภายในซอยเป็นอาคารพาณิชย์ หอพัก และชุมชนดั้งเดิม โดยมีคลองบางจาก ที่ไหลออกมาสู่แม่น้ำเจ้าพระยาอยู่ใกล้ๆ กับซอยจรัญสนิทวงศ์ 62
สิ่งอำนวยความสะดวกภายในโครงการ
Outdoor Library
Adventure Playground
Bar B.Q. Terrace
Steam Room
ห้องซาวน่า
สระว่ายน้ำ
ฟิตเนส
Roof Garden
ลิฟท์โดยสารอาคาร 4 ชุด, ลิฟท์ขนของ 1 ตัว, ลิฟท์ที่จอดรถ 1 ตัว
Access Control Card , CCTV
เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยตลอด 24 ชม.
สิ่งที่จะได้รับจากโครงการ
พื้น: ลามิเนตหนา 12 มม., กระเบื้องแกรนิตโต้ขนาด 60×60 ซม.
ผนัง: อิฐมวลเบาฉาบเรียบติดวอลเปเปอร์
ความสูงพื้นจรดเพดาน: 2.8 ม.
เครื่องปรับอากาศ: Daikin แขวนผนังหรือเทียบเท่า BTU ในห้องนอนและห้องนั่งเล่น BTU คำนวณตามขนาดพื้นที่ห้อง
สุขภัณฑ์: Cotto หรือ American Standard, ฉากกั้นอาบน้ำ กระจกนิรภัย (Tempered Glass)
ชุดครัว: Built-in Modernform หรือเทียบเท่า (ชุดซิ้งค์ล้างจาน, ตู้, ที่ดูดควัน)
รีวิวภายในห้องรูปแบบ 1 ห้องนอน ขนาด 25 ตร.ม.
เมื่อเข้ามาในห้องจะเห็นว่าห้องถูกแบ่งออกเป็นสามส่วนหลักๆ ประกอบด้วยส่วนแรกสุดคือพื้นที่สำหรับนั่งเล่น โดยมีพื้นที่สามารถวางโซฟาขนาด 2 -3 ที่นั่งได้ หากจะเลือกวางโซฟาแบบ L-Shape ก็ควรเลือกวางฝั่งที่ยื่นออกมาให้อยู่ทางด้านซ้ายมือ เพราะทางฝั่งขวามือจะมีผนังเบาหรือผนังโครงคร่าวกันในส่วนของห้องครัวกับห้องนั่งเล่นโดยมีความยาวประมาณ 60 ซม.
ฝั่งตรงข้ามโซฟาเป็นชั้นวางทีวี เฟอร์นิเจอร์ในโซนนี้โครงการไม่ได้มอบให้ จากภาพจะเห็นว่าทางขวามือเป็นประตูทางเข้าไปสู่ห้องน้ำ สังเกตุดูจากวงกบด้านล่างแสดงให้เห็นถึงประตูเปิด-ปิดเป็นแบบเลื่อน โดยมีผนังกั้นห้องที่มีความยาวประมาณ 1.50 เมตร กั้นอยู่ ซึ่งหากต้องการเพิ่มสเปซห้องยังสามารถติดทีวีกับผนังตั้งแต่จอขนาด 42-49 นิ้ว ได้อยู่ ในระยะดูที่สบายตาตั้งแต่ผนังไปจรดโซฟาที่ประมาณ 3 ม.
ภายในห้องน้ำประกอบด้วย อ่างล้างหน้า โถสุขภัณฑ์ และโซนอาบน้ำ ภายในห้องน้ำตกแต่งด้วยชั้นว่างอ่างล้างหน้าที่เป็นโครงเหล็ก ประกอบกับกระเบื้องเซรามิกลายอิฐบล็อคที่ยังคงคอนเซ็ปต์ในสไตล์ Industrial
โซนอาบน้ำใช้กระจกเขียวตัดแสงกั้นน้ำไหล โดยเป็นประตูบานพับแบบดันเข้าด้านในเพียงอย่างเดียว ขอบกระจกติดยางกันกระแทกไว้ แต่กลอนจับมีขนาดเล็กมากอาจไม่ถนัดมือ ข้อเสียของบานประตูแบบนี้ก็คือพื้นที่ตีวงรัศมีของประตูทำให้เวลาเปิด-ปิดเมื่ออยู่ในโซนนี้ดูไม่ง่ายอย่างที่คิด
ด้านหลังโถสุขภัณฑ์โครงการดร็อปผนังตามโครงสร้างของห้องจึงจัดสรรพื้นที่ส่วนนี้โดยการยกพื้นขึ้นมาเหนือโถสุขภัณฑ์และจัดเป็นพื้นที่วางของ
โครงการจัดสรรฟังก์ชั่นการใช้งานของห้องครัวและห้องนอนให้ใช้ประตูอะลูมิเนียมบานเลื่อนกระจกฝ้าตอนเดียว ให้ใช้งานร่วมกันอย่างลงตัว โดยสามารถเลื่อนเป็นประตูปิดซ้าย-ขวาได้ทั้งห้องนอนและห้องครัว ข้อดีของการใช้ประตูแบบนี้คือการทำให้ครัวเปิดกลายเป็นครัวปิดได้ในพริบตา
ภายในห้องนอนเป็นห้องสี่เหลี่ยมจตุรัสเล็กๆ แต่ยังสามารถวางเตียงคิงไซส์ได้ โดยเหลือพื้นที่ปลายเตียงให้เดินประมาณ 40 ซม. พร้อมฟังก์ชันกระจกเขียวตัดแสงวงกบอะลูมิเนียมบานใหญ่ที่สามารถมองออกไปเห็นวิวได้ 180 องศา ชูจุดเด่นในเรื่องของวิว
อีกฝั่งหนึ่งของเตียงโครงการเลือกใช้ตู้เสื้อผ้าแบบบิลท์อิน โดยมีประตูเป็นแบบเลื่อนสองตอน ถือว่าเป็นการประหยัดพื้นที่ แต่ขณะเลื่อนเปิดตู้เสื้อผ้าคงต้องนั่งเลือกเสื้อผ้าอยู่บนเตียง เพราะช่องด้านข้างเตียงคงไม่สามารถยืนได้เต็มตัว วิธีแก้ไข แนะนำให้เข้าไปแต่งตัวในห้องน้ำหรือลดไซส์เตียงลงมาให้เหลือประมาณ 5 ฟุต
ภายในห้องครัวปูด้วยกระเบื้องแกรนิตโต้ผิวเรียบซึ่งทำความสะอาดได้ง่าย ลักษณะของครัวเป็นรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้า โครงการตกแต่งห้องครัวให้มีพื้นที่รับประทานอาหารขนาดสองที่นั่งโดยยังเหลือพื้นที่สำหรับเตรียมครัวอีกประมาณ 40 ซม. หรือใครอยากจะทำให้ครัวดูกว้างขึ้น ลองตกแต่งพื้นที่ส่วนนี้ด้วยคอนโซล (Bar Table) ติดผนัง ก็ถือว่าช่วยในเรื่องของพื้นที่ได้มาก เผลอๆ อาจนั่งรับประทานอาหารกันได้ถึงสามที่นั่ง
เคาน์เตอร์ครัวที่โครงการมอบให้เป็นของ Modernform ชั้นวางด้านล่างเป็นไลน์ไม้ และมีพื้นรองด้านบนเป็นอะคริลิคที่สามารถเช็ดคราบสกปรกออกได้ง่าย ด้านบนประกอบไปด้วยพื้นที่เตรียมครัว และซิ้งค์ล้างจาน
ด้านบนเป็นชั้นวางของอเนกประสงค์ สามารถเปิดชั้นออกได้ทั้งสองด้าน มาพร้อมเครื่องดูดอากาศ แต่โครงการไม่ได้มอบเตาไฟฟ้าไว้ให้
ห้องครัวเชื่อมต่อกับระเบียง แต่ระเบียงมีขนาดเล็กมากหรือมีความกว้างประมาณ 45 ม. พอให้ยืนตากลมได้ แต่ไม่สามารถวางเครื่องซักผ้าขนาดมาตรฐานได้
ความยาวของระเบียงอยู่ที่ประมาณ 2 ม. จากภาพยังพอที่จะนั่งขัดสมาธิหรือวางเก้าอี้เล็กๆ นั่งชิลๆ ได้หนึ่งตัว มุมระเบียงมีตะแกรงกันกลิ่นเชื่อมต่อกับเซ็ตท่อระบายน้ำสำหรับระบายน้ำ สามารถใช้ระเบียงเป็นโซนซักล้างได้
รีวิวภายในห้องรูปแบบ 2 ห้องนอน ขนาด 43 ตร.ม.
ห้องแบบนี้ใช้วัสดุเดียวกับห้องยูนิตอื่นๆ โดยเลือกไม้ลามิเนตที่มีความหนาถึง 12 มม. ซึ่งข้อดีของพื้นไม้ลามิเนตที่หนาระดับนี้คือการลดความยวบยาบที่เกิดขึ้นจากการติดตั้งบนพื้นที่ไม่ได้ระดับได้ดีกว่าขนาด 8 มม.
ประตูห้องเป็นประตูไม้ HDF (High Density Fiber) ถึงแม้จะไม่ได้ให้คุณภาพระดับไม้จริงแต่มีคุณภาพดีกว่าประตูไม้อัดที่มีน้ำหนักเบา แค่เปิดประตูระเบียงที่เชื่อมต่อกับโซนนั่งเล่นไว้ฝั่งตรงข้าม แล้วมีลมตีอัดเข้ามาก็ดึงประตูเปิดได้ยากแล้ว ในส่วนของประตูโครงการใช้ระบบ Key Access Control ในการเปิดห้อง โดยมีที่จับเป็นแบบมือจับก้านโยก
สำหรับห้อง 2 ห้องนอน โครงการต่อจุดรับสัญญาณโทรทัศน์ให้ 3 จุด คือในห้องนั่งเล่น และห้องนอนอีกทั้งสองห้อง หากสังเกตุพื้นที่จุดนี้จะเห็นว่าผนังฝั่งชั้นวางทีวียื่นออกมาประมาณ 50 ซม. ซึ่งไม่เลยกึ่งกลางของโซฟามาตรฐาน 2 ที่นั่ง ดังนั้นการจัดวางทีวีอาจจะไม่ตรงจุดกึ่งกลางระดับสายตา ผู้อยู่อาศัยสามารถปรับพื้นที่ส่วนแรกที่มีขนาดใหญ่กว่าให้เป็นในส่วนของห้องนั่งเล่นได้ และเปลี่ยนพื้นที่ส่วนนี้ให้เป็นโซนรับประทานอาหารแบบ 4 ที่นั่งเชื่อมต่อกับระเบียงก็ยังได้อยู่
ระเบียงห้องนี้มีความยาวประมาณ 240 ซม. กว้างประมาณ 60 ซม. อาจจะสามารถวางเครื่องซักผ้าขนาดมาตรฐานที่ 60×60 ซม. ได้ แต่อาจจะต้องติดตั้งระบบประปาออกมาด้านนอกระเบียง
ทางเดินเชื่อมที่นำไปสู่ห้องน้ำ ห้องครัว ห้องนอนที่สอง และ Master Bedroom มีความกว้าง 1.5 ม. สามารถเดินสวนกันได้สบายๆ
ทางด้านขวาของทางเดินเชื่อมเป็นห้องครัว โครงการมอบเคาน์เตอร์ครัวชุดเดียวกับห้องขนาด 25 ตร.ม.ไว้ให้ โดยยังเหลือพื้นที่วางตู้เย็นได้ สามารถทำพื้นที่นี้เป็นครัวปิดได้ โดยกั้นด้วยประตูบานเลื่อนกระจกฝ้าสองตอน
ถัดมาอีกฝั่ง เยื้องกับห้องครัวเป็นห้องน้ำ ที่โครงการออกแบบให้เป็นทั้งห้องน้ำกลางและห้องน้ำในตัวของ Master Bedroom ด้วยฟังก์ชั่นการใช้งานแบบสองประตู ซึ่งโครงการก็เลือกใช้ประตูเป็นแบบบานเลื่อนกระจกฝ้าตอนเดียวเช่นกัน
ภายในห้องน้ำประกอบด้วยอ่างล้างหน้า โถสุขภัณฑ์ และโซนอาบน้ำที่กั้นด้วยประตูกระจกใสตามมาตรฐาน ซึ่งเป็นชุดเดียวกับห้องตัวอย่างแรก แต่จะมีพื้นที่ใช้สอยบริเวณโถสุขภัณฑ์และพื้นที่อาบน้ำที่กว้างกว่า
ห้องนอนใหญ่ สามารถวางเตียงขนาดคิงไซส์ได้ โดยยังเหลือพื้นที่ปลายเตียงมากกว่า 40 ซม. และสามารถเดินได้รอบเตียง จากภาพจะเห็นระยะห่างระหว่างผนังห้องบริเวณหัวเตียงกับระยะทีวีที่ประมาณ 3 ม. ซึ่งหากไม่ได้ติดชั้นวางทีวีสามารถติดทีวี ขนาดประมาณ 49 นิ้วดูแบบสบายๆ สายตาได้ ในส่วนของหน้าต่างตรงกลางเป็นบานฟิกซ์ขนาดใหญ่ ทางด้านซ้ายและด้านขวาสามารถเปิดรับลมได้สองด้าน ทางฝั่งด้านบนทั้งด้านซ้ายและด้านขวา
ทําเล & การเดินทาง
วิเคราะห์ศักยภาพทำเล
จุดเด่นของศักยภาพทำเลแยกบางพลัด ในจุดนี้ ขอธิบายในแง่ของเส้นทางการคมนาคมทั้งในปัจจุบันและในอนาคตซึ่งจะสามารถแบ่งออกเป็นได้ 2 ประเด็นหลักๆ โดยไม่ต้องพูดถึงในเรื่องของสาธารณูปโภคที่มีอยู่แล้วในปัจจุบันและจะเพิ่มขึ้นอีกในอนาคตจากความเจริญที่สอดแทรกเข้ามาบนทำเลนี้
จุดที่หนึ่งเป็นเรื่องของเส้นทางคมนาคมบนท้องถนน หนึ่งในถนนที่มีปริมาณรถมากจนเรียกได้ว่าเป็นเส้นทางเชื่อมต่อสู่ตัวเมืองที่สำคัญ และมีความหนาแน่นคงหนีไม่พ้นถนนเส้นบรมราชชนนี – ปิ่นเกล้า ที่เชื่อมต่อกับสะพานข้ามแม่น้ำเจ้าพระยาอย่างสะพานพระปิ่นเกล้า และสะพานกรุงธน ตลอดจนสะพานพระราม 8 ในชั่วโมงเร่งด่วนจะพบปัญหาคอขวด ทำให้การจราจรชะลอตัวจนถึงจุดที่เรียกว่าคับคั่ง แต่นั้นหมายถึงความเจริญในด้านสาธารณูปโภคที่ครบครัน และเป็นสิ่งที่บอกได้ถึงความหนาแน่นของการอยู่อาศัยในระดับปรอทแดงทั้งขาเข้า-ขาออก ซึ่งในประเด็นนี้สามารถบอกได้ว่าพื้นที่ทางฝั่งธนฯ นี้ ไม่ได้ตกอยู่ในกลุ่มความเจริญในอนาคต แต่เป็นพื้นที่ที่ถูกพัฒนาจนเจริญแล้วเพียงแต่รอซัพพลายของที่อยู่อาศัยระดับแนวดิ่งเข้ามาเติบโต เพราะในแง่ของอสังหาริมทรัพย์แนวราบที่เข้ามาเป็นดอกเห็ดก่อนหน้านี้ได้ฉุดเอาความเจริญและดีมานด์ของกลุ่มครอบครัวขยายในตัวเมืองออกมาส่วนหนึ่งแล้ว ทีนี้มาพูดถึงเรื่องศักยภาพในการเดินทางที่เชื่อมต่อกับถนนสายสำคัญหลายสาย จะเห็นว่าบริเวณแยกบางพลัดเป็นเหมือนกึ่งกลางระหว่างฝั่งพระนครและฝั่งธนฯ บริเวณนี้จึงเป็นจุดตัดของถนนที่จะเชื่อมต่อไปสู่ทางฝั่งของราชพฤกษ์ก็ได้ หรือจะเดินทางเข้าเมืองไปตามถนนราชวิถียาวไปจนถึงอนุสาวรีย์ชัยฯ ถนนหกเหลี่ยมที่พาออกไปยังภูมิภาคต่างๆ ได้อย่างสบาย โดยมีทางด่วนยมราชหรือสะพานพระราม 8 คอยให้ความสะดวกในการกระจายตัวของการจราจร และมีถนนเส้นหลักอย่างจรัญสนิทวงศ์ที่เชื่อมต่อกับถนนรัชดาภิเษกไว้ทั้งทางฝั่งเหนือและทางใต้ ดังนั้นจะเห็นว่าเส้นทางการเชื่อมต่อที่สามารถเข้าตัวเมืองได้เป็นส่วนหนึ่งของศักยภาพที่ทำให้ทำเลนี้เริ่มได้รับความสนใจเพิ่มมากขึ้นจากผู้ที่กำลังมองหาที่อยู่อาศัยที่สะดวกสบาย ในราคาที่จับต้องไหว
จุดที่สองที่จะกล่าวถึงคืออานิสงส์ที่ได้รับจากโครงการรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน ซึ่งสามารถพูดได้เต็มปากเลยว่าหากไม่นับรวมกับส่วนต่อขยายโครงการรถไฟฟ้าสายเดิมหรือสายสีเขียว โครงการรถไฟฟ้าสายนี้ถือว่าเป็นเส้นทางรถไฟฟ้าที่มีความสำคัญรองจากสายปัจจุบัน สังเกตุเส้นทางการเดินรถไฟฟ้าที่ล้อมรอบเมืองเป็นเส้นรอบวงมาบรรจบที่สถานีท่าพระและมีส่วนต่อขยายออกไปเป็นเส้นตรงไปจบที่สถานีพุทธมณฑลสาย 4 โดยมีจุดตัดผ่านรถไฟฟ้าสายเดิมหรือสายสีเขียวบริเวณอโศก และบางหว้า รวมไปถึงในอนาคตที่จะมีรถไฟฟ้าสายสีม่วง สายสีส้ม และสายสีแดงตัดผ่านภายในเส้นทางการเดินทางของโครงการรถไฟฟ้าสีน้ำเงิน ด้วย ศักยภาพในส่วนนี้มีส่วนช่วยอย่างมากที่จะปลุกราคาอสังหาริมทรัพย์ในพื้นที่นี้ให้ขึ้นมาบูม หลายโครงการที่ปักหมุดบริเวณที่จะเป็น Interchange ในอนาคตมีภาษีในเรื่องของราคาที่มาพร้อมอนาคต บางโครงการมีมูลค่าต่อ ตร.ม.ที่ประมาณเกือบหนึ่งแสนบาทเลยก็ว่าได้จากเดิมที่มีราคาเพียงครึ่งหนึ่ง โดยเฉพาะที่ดินบริเวณแยกถนนที่เป็นจุดเชื่อมต่อไปสู้สถานีรถไฟฟ้าจะมีการปล่อยขายที่อยู่ในราคา 200,000 บาทต่อ ตร.ว.เลยทีเดียว ซึ่งหากถามว่าราคาตรงนี้ขึ้นไปอยู่จุดสูงสุดบนเพดานราคาที่ดินหรือยังนั้นคงต้องตอบได้ว่า “ไม่” อย่างแน่นอน เพราะหากเมื่อเส้นทางการเชื่อมต่อทางคมนาคมของรถไฟฟ้าทุกสายเสร็จเรียบร้อย กลุ่มนักลงทุนที่มองเห็นตลาดของการทำธุรกิจในพื้นที่ที่จะมีดีมานด์ที่อยู่อาศัยสูงจะช่วยทำให้พื้นที่บริเวณนี้มีราคาสูงขึ้นไปอีกจากราคาที่คาดการณ์ไว้ล่วงหน้า ณ ปัจจุบัน
วิเคราะห์ทำเลที่ตั้งโครงการ
โครงการตั้งอยู่บริเวณแยกบางพลัด จุดเด่นของโครงการคือมีสถานีรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินสถานีสิรินธรอยู่หน้าโครงการเลย หรือเรียกได้ว่าเดินนับก้าวก็สามารถเอาปลายเท้าไปเตะขอบบันไดของสถานีได้สบายๆ จากแผนที่จะเห็นว่าด้านหลังโครงการจะเป็นแม่น้ำเจ้าพระยาที่ไหลผ่านใต้สะพานซังฮี้ซึ่งห่างจากถนนหลักหน้าโครงการอย่างถนนจรัญสนิทวงศ์อยู่ประมาณไม่เกิน 2 กม. ดังนั้นวิวด้านหลังอาคารฝั่งนี้จะสามารถมองเห็นแม่น้ำเจ้าพระยา รวมไปถึงความงดงามยามค่ำคืนของสะพานข้ามแม่น้ำทั้งสามแห่งได้เลย ไม่ว่าจะเป็นสะพานพระปื่นเกล้า สะพานพระราม 7 และจุดที่เด่นชัดที่สุดคือสะพานซังฮี้
หากย้อนไปในวันเปิดตัวโครงการ ยูนิตที่ได้รับความสนใจที่สุดก็จะเป็นแนวอาคารด้านหลัง ที่ถึงแม้จะไม่ได้ติดกับแม่น้ำเจ้าพระยาก็จะเห็นวิวของแม่น้ำเจ้าพระยาชัดเจนที่บริเวณชั้น 10 ขึ้นไป เพราะทางด้านหลังตึกส่วนนี้จะเป็นวัดสิงห์ และชุมชนดั้งเดิมที่มีความสูงไม่เกิน 4 ชั้น ในส่วนของชั้น 1 ถึง 8 องศาการมองอาจจะไม่ไปจรดที่แม่น้ำเจ้าพระยา และยังมีอพาร์ทเมนต์ อาคารหอพักที่สูงไม่เกิน 8 ชั้นบดบังวิวอยู่ประปราย แต่ไม่ถึงขนาดชิดกับตัวโครงการ ซึ่งในส่วนนี้จะเป็นห้องสตูดิโอหรือห้องหนึ่งห้องนอนขนาด 32 ตร.ม. ซึ่งน่าจะเป็นรูปแบบห้องที่มีเยอะที่สุดในโครงการ ซึ่งจุดเด่นเหล่านี้ได้พิสูจน์แล้วจากยอดขายในช่วงที่เปิดพรีเซลเมื่อปีที่แล้วที่ทำให้ภายใน 2-3 วันมียอดขายไปกว่า 90% จากการคัดดสรรทำเลใกล้รถไฟฟ้าในอนาคตพร้อมกับวิวรอบด้านที่ยังเป็นแนวราบอยู่ในปัจจุบัน
ศักยภาพทำเลมีผลต่อการวางทิศทางโครงการ ตามดีไซน์จะเห็นว่ายูนิตที่อยู่อาศัยทุกด้านจะได้รับวิวในทุกๆ มุม
ในแง่ของดีไซน์ก็มีผลต่อทำเลที่ตั้งและการเลือกยูนิตอยู่อาศัยอยู่ไม่น้อย โครงการดีไซน์ตัวอาคารให้เป็นรูปตัวแอล โดยด้านในของตัวแอลที่เป็นด้านตรงข้ามกับวิวแม่น้ำเจ้าพระยาจะเป็นฝั่งที่หันหน้าออกไปสู่ถนนจรัญสนิทวงศ์ โดยก่อนจะพาดสายตาไปสู่วิวถนนจะเป็นพื้นที่ส่วนกลางอย่างสระว่ายน้ำที่บริเวณชั้น 8 ดังนั้นห้องที่ตั้งอยู่ด้านนี้แม้จะไม่ได้รับวิวแม่น้ำก็จะได้รับความร่มรื่นของสระว่ายน้ำส่วนกลาง
ส่วนยูนิตที่หันออกไปด้านนอกจะได้รับอานิสงส์จากที่ตั้งบริเวณแยกถนนแล้วตัดปิดด้านหลังด้วยแม่น้ำเจ้าพระยา ในอนาคตก็จะได้รับวิวโครงการรถไฟฟ้าที่จะตัดผ่านแล้วมาเลี้ยวเข้าถนนจรัญสนิทวงศ์ฝั่งโครงการพอดี ดังนั้นจะเห็นว่าถึงแม้ยูนิตอื่นที่ไม่ได้รับวิวแม่น้ำเจ้าพระยา และส่วนกลาง แต่ในอนาคตเมื่อรถไฟฟ้าสร้างเสร็จก็จะเห็นวิวรถไฟฟ้าวิ่งผ่านแน่นอน หรือในอีกแง่ บริเวณมุมยูนิตที่อยู่มุมของตัวแอลบางห้องอาจจะได้วิว 2 วิว หรือ 3 วิวก็เป็นได้
หากไม่ได้พูดถึงเรื่องสาธารณูปโภคที่เรียกได้ว่ามีครบครันอยู่แล้ว จุดเด่นของที่ตั้งโครงการที่อยู่บริเวณแยกถนน พร้อมกับจุดตัดของแม่น้ำเจ้าพระยาถือเป็นโลเคชั่นที่ค่อนข้างพีคของโซนนี้เลย
การเดินทาง
หากมาจากสะพานพระปิ่นเกล้า ซึ่งเป็นทางเชื่อมต่อเข้าสู่เมืองที่ง่ายที่สุด นับจากถนนราชดำเนินหรืออนุสาวรีย์ประชาธิปไตย
จากนั้นจะเจอแยกปิ่นเกล้าให้ขับตรงต่อมา จนเจอป้ายระหว่างแยกบรมราชชนนี ให้เบี่ยงขวา แล้วเลี้ยวขวาเข้าถนนจรัญสนิทวงศ์ด้านหน้า
เมื่อเลี้ยวเข้ามาจะเจอโครงสร้างของรางรถไฟฟ้าสีน้ำเงินที่กำลังดำเนินการก่อสร้างอยู่ ให้ขับเลียบกับรางรถไฟฟ้าดังกล่าวมา
จากนั้นตรงมาเรื่อยๆ จะพบกับไซต์โครงการอยู่ด้านขวามือซึ่งเป็นฝั่งถนนสวนเลนจำเป็นต้องกลับรถ ให้เลี้ยวขวาเข้าสู่ถนนสิรินธร
จากกนั้นให้ตรงไปเรื่อยๆ จะเจอสะพานกรุงธนฯ ให้มุ่งตรงไปแล้วเบี่ยงซ้ายเพื่อเตรียมตัวกลับรถ จากนั้นตรงไปตามป้ายถนนพระปิ่นเกล้า
เมื่อตรงมาตามป้ายจะเจอทางเลี้ยวซ้ายให้เลี้ยวกลับเข้ามาสู่ถนนจรัญสนิทวงศ์ตรงมาไม่ถึง 100 ม. จะพบกับไซต์โครงการและสำนักงานขาย
สถานที่แนวไลฟ์สไตล์
สถานที่ไลฟ์สไตล์ส่วนใหญ่ในรัศมีของโครงการจะมีตั้งฮั่วเส็ง ธนบุรีเป็นสถานที่หลักบริเวณถนนสิรินธร ด้วยความเป็นห้างดั้งเดิมที่คนพื้นที่มีความผูกพัน ที่นี่จึงเป็นแหล่งจับจ่ายใช้สอยที่สะดวกครบครัน ตั้งแต่เรื่องอาหาร ไลฟ์สไตล์ บนจนถึงเครื่องใช้ไฟฟ้า
ตั้งฮั่วเส็ง ธนบุรี (1.6 กม. จากโครงการ)
ภาพ via positioningmag.com
นอกจากจุดศูนย์กลางในการช้อปปิ้งแล้ว บริเวณถนนสิรินธรยังเป็นย่านที่มีร้านอาหารริมทางที่มีดีทางรสชาติไม่ว่าจะเป็นลูกชิ้นปลาโบราณ ข้าวหมูแดงร้านอร่อยชื่อดังที่มีทั้งข้าวและบะหมี่เฉโปยอดฮิต ก๋วยจั๊บน้ำใสและโจ๊กดินแดง ที่มีทีเด็ดอยู่ที่หมูกรอบ ต้องบอกว่าไม่เคยเจอหมูกรอบที่ไหน ที่มีความเป็นหมูกรอบขนาดนี้จริงๆ นอกจากนั้น ยังมีร้านเนื้อกระทะปิ้งย่างชื่อวัวหัวเราะที่ใช้เนยสดแทนน้ำมัน เนื้อย่างกลิ่นหอมที่มีความมันของเนยสดแทรกเข้าไปตามเนื้อมันแทบละลายในปากไปตามกลิ่นของเนยได้เลย
ลูกชิ้นปลาโบราณ (อยู่ติดกับ ตั้ง ฮั่ว เส็ง ธนบุรี)
ภาพ via wongnai.com
ข้าวหมูแดงอร่อย (ถนนสิรินธร จากห้างฯตั้งฮั่วเส็ง ธนบุรี มาประมาณ 1 กก. เป็นตึกแถว 1 คูหา)
ภาพ via m.pantip.com
ก๋วยจั๊บน้ำใสและโจ๊กดินแดง (อยู่ห่างจากโครงการประมาณ 1.8 กม. ร้านอยู่ฝั่งเดียวกับตั้ง ฮั่ว เส็ง ธนบุรี เลยมาทางฝั่งไปถนนพระปิ่นเกล้าประมาณ 200 ม.)
ภาพ via wongnai.com
ร้านวัวหัวเราะ (ซอย สิรินธร1 เลยแยกบางพัด มาประมาณ 600 ม. อยู่ฝั่งเดียวกับตั้งฮั่วเส็ง)
ภาพ via wongnai.com
ถัดมาในส่วนของบริเวณถนนปิ่นเกล้าจะเป็นจุดศูนย์กลางของช้อปปิ้งมอลล์ที่ยกระดับขึ้นมา หากเปรียบเทียบกันระหว่างสองถนนนี้ ถึงแม้ระยะทางจะไกลกว่าถนนสิรินธรแต่ก็ไม่ได้เหนือบ่ากว่าแรงอะไร เพราะในส่วนนี้เต็มไปด้วยแหล่งไลฟ์สไตล์ห้างดังทั้ง เซ็นทรัล ปิ่นเกล้า เมเจอร์ ปิ่นเกล้า เดอะเซนส์ รวมถึงสะพานพระปิ่นเกล้าที่เชื่อมต่อไปสู่ฝั่งพระนครในระยะไม่ไกลมาก ที่เปิดประตูต้อนรับฝั่งพระนครด้วยสถานบันเทิงยามราตรีชื่อดังอย่างถนนข้าวสาร และถนนพระอาทิตย์ที่เต็มไปด้วย ร้านอาหาร คอฟฟี่ช็อป คาเฟ่ ไปจนร้านนั่งชิล และภัตตาคาร
เมเจอร์ ปิ่นเกล้า (2.7 กม. จากโครงการ)
ภาพ via charliehousepinklao.com
เซ็นทรัล พลาซ่า ปิ่นเกล้า (3.1 กม. จากโครงการ)
ภาพ via chillpainai.com
The Sense (3.2 กม. จากโครงการ)
ภาพ via hanksterclub.com
ถนนข้าวสาร (4.0 กม. จากโครงการ)
ภาพ via suvarnabhumiairport.com
ถนนพระอาทิตย์ (4.0 กม. จากโครงการ)
ภาพ via m.suvarnabhumiairport.com
บทวิเคราะห์
วิเคราะห์อัตรผลตอบแทนที่จะได้รับ
โครงการจะสร้างเสร็จพร้อมอยู่ในปีเดียวกับการเปิดใช้บริการของโครงการรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน (ประมาณปี 2561) ซึ่งราคาปัจจุบัน ( ณ เดือนมีนาคม 2559) ต่อ ตารางเมตรถูกอัพขึ้นมาจากปีที่แล้ว ซึ่งอยู่ที่ 70,000 ต้นๆ ขยับมาอยู่ที่ 85,000 บาทต่อตารางเมตร ในแง่ของการลงทุน หากมีใบจองหลุดมาถึงมือก็ควรรีบคว้าไว้กับโครงการที่อยู่นอกเมืองแต่กับได้รับความสนใจเป็นอย่างมากเช่นนี้ เพราะในอนาคตหากพื้นที่บริเวณนี้ถูกพัฒนาไปเรื่อยๆ จะทำให้มีความครบครัน และเป็นปัจจัยให้โครงการบริกซ์ คอนโด จรัญสนิทวงศ์ 64 มีราคาพุ่งสูงขึ้นไปอีก ถึงแม้โครงการจะถูกมองว่าถูกตั้งราคาขายในอนาคตไปแล้ว แต่กลับกันยอดจองกับทำได้ 100% ภายในเวลาไม่นาน
เปรียบเทียบกับโครงการอื่น
*เนื่องจากทำเลที่ตั้งปัจจุบันของโครงการ ยังเป็นนิวโลเกชั่น รวมไปถึงโครงการ บริกซ์ คอนโดฯ จรัญสนิทวงศ์ 64 เป็นโครงการคอนโดมิเนียมโลว์ไรส์แห่งแรกบนแยกสิรินธร จึงขออนุญาตเปรียบเทียบกับโครงการโลว์ไรส์อื่นๆ ที่อยู่บริเวณย่านจรัญสนิทวงศ์และเอื้อประโยชน์กับโครงการรถไฟฟ้าสีน้ำเงิน
ดีคอนโด แคมปัส รีสอร์ท ราชพฤกษ์
เจ้าของโครงการ: บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน)
ที่ตั้งโครงการ: ตั้งอยู่ระหว่างถนนราชพฤกษ์ และจรัญฯ 13 หรือบริเวณแยกถนนบางแวกและถนนพาณิชยการณ์ธนบุรี
พื้นที่โครงการ: ประมาณ 7 ไร่
ลักษณะโครงการ: อาคารที่พักอาศัย 8 ชั้น จำนวน 3 อาคาร 586 ยูนิต
รูปแบบห้อง: 1 ห้องนอน 30 ตร.ม. และ 2 ห้องนอน 60 ตร.ม.
ราคาเริ่มต้น: 1.59 ล้าน
ราคาเฉลี่ย: 53,000 บาทต่อตร.ม.
ไลบรารี่ เฮ้าซ์ จรัญสนิทวงศ์ 13
เจ้าของโครงการ: บริษัท ไลบรารี่ เฮ้าส์จรัญ จำกัด
ที่ตั้งโครงการ: ซอยจรัญสนิทวงศ์ 13 ถนนพาณิชยการธนบุรี แขวงวัดท่าพระ เขตบางกอกใหญ่
พื้นที่โครงการ: 383 ตร.ว.
ลักษณะโครงการ: อาคารชุดพักอาศัยความสูง 8 ชั้น จำนวน 1 อาคาร รวม 149 ยูนิต
รูปแบบห้อง: 1 ห้องนอน ขนาด 26.02 – 32.58 ตรม. เริ่มต้นที่ 1.49 ล้านบาท และ 1+1 ห้องนอน (1 ห้องนอนบวกห้องอเนกประสงค์ 1 ห้อง) ขนาด 33.98 – 34.17 ตร.ม. เริ่มต้นที่ 2.09 ล้านบาท
ราคาเริ่มต้น: 1.49 ล้านบาท
ราคาเฉลี่ย: 57,000 บาทต่อตร.ม.
สรุป
ปัจจุบันความต้องการที่อยู่อาศัยมีมากขึ้น แน่นอนว่าหากเป็นโครงการที่อยู่ในทำเลดีๆ ภายในเมืองคงจะเป็นอะไรที่จับต้องได้ยาก เนื่องจากราคาที่สูงมาก หากจะบอกว่าเปอร์เซ็นต์การขายของโครงการนี้น่าจะเป็น Real Demand ที่กำลังมองหาคอนโดมิเนียมที่สามารถตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ในการทำงาน และความสะดวกสบายได้ โดยอยู่ในงบที่จำกัดก็ไม่แปลก เนื่องจากคอนโดมิเนียมนอกเมืองที่ติดกับโครงการรถไฟฟ้าสายใหม่ถือเป็นสิ่งที่น่าสนใจอย่างมากสำหรับการอยู่อาศัยและนักลงทุนหน้าใหม่ เนื่องจากข้อมูลทั้งหมดพอจะสรุปได้ว่าตลอดหนึ่งปีที่ผ่านมาที่โครงการทำการเปิดตัวจนในปัจจุบันโครงการมีทิศทางของราคาปรับขึ้นไปในทางที่ดี วิสัยทัศย์รอบโครงการที่เอื้ออำนวยไปด้วยเส้นทางคมนาคมที่ประกอบไปด้วยสาธารณูปโภคครบครันไม่ว่าจะเป็นห้างสรรพสินค้าทางปิ่นเกล้า คอมมูนิตี้มอลล์ทางฝั่งราชพฤกษ์ หรือจุดเชื่อมต่อไป CBD ของเมืองอย่างรัชดาภิเษก ย่อมมีส่วนในการกระจายตัวของความเจริญมาสู่ที่แห่งนี้ได้ไม่ยากถึงแม้โครงการจะมีรัศมีที่ไกลจากทำเลสำคัญดังกล่าว แต่ก็ยังคงมีจุดเชื่อมต่อที่ไปถึงกันได้ง่าย รวมไปถึงอานิสงส์จากรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินที่เข้ามาเป็นองค์ประกอบให้โครงการบริกซ์ คอนโด จรัญสนิทวงศ์ 64 มีความน่าสนใจมากขึ้น
หากในช่วงปีสองปีนี้ที่โครงการรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินยังไม่เปิดให้บริการแล้วมีใบจองหลุดมาถึงมือในราคาที่เพิ่มขึ้นไปไม่ถึงครึ่งของราคาเดิมก็ยังพอน่าซื้อเก็บไว้ลุ้น แต่หากจะซื้อเพื่ออยู่อาศัยเองในราคาของการโอนต่อจากผู้ซื้ออื่นในราคาที่อัพสูงจนถึงระดับคอนโดมิเนียมในเมืองก็ต้องเปรียบเทียบกันโครงการต่อโครงการ ราคาที่เท่าๆ กันในขณะนั้น อาจจะได้เปรียบในเรื่องของพื้นที่ที่มากกว่าเพราะออยู่นอกเมือง แต่ถ้าโลเคชั่นของยูนิตในเมืองสามารถตอบโจทย์ชีวิตได้ในราคาพอๆ กัน บนพื้นที่ใช้สอยน้อยลงมาหน่อยก็ถือว่าในเมืองยังน่าอยู่กว่าหากคุณยังยึดติดกับไลฟ์สไตล์ที่รีบเร่งแบบชีวิตคนเมืองอยู่
สนใจ คอนโดฯ ในโครงการนี้? เลือกชม รายการประกาศ ราคาโดนใจ