The Shelter โครงการบ้านเดี่ยว และโฮมออฟฟิศตั้งอยู่ในย่านธุรกิจชั้นนำ เพชรเกษม–พุทธมณฑลสาย 5 บนทำเลที่ดีที่สุดติดถนนเพชรเกษม เดินทางเข้าออกโครงการได้ง่าย ใกล้รถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินส่วนต่อขยายที่เชื่อมต่อถึงพุทธมณฑลสาย 4 ในอนาคต กับราคาเริ่มต้นที่ 10 ล้านบาท
ชนันธร เดเวลลอปเปอร์ ผู้คุ้นเคยกับตลาดอสังหาฯ ทั้งแนวสูง แนวราบย่านพระราม 2 เป็นอย่างดี ล่าสุดขอต่อยอดศักยภาพทำเลฝั่งธน ด้วยการส่งโครงการบ้านเดี่ยว ราคาเริ่มต้น 6.99 ล้านบาท “บี มอตโต้ บาย ชนันธร” ภายหลังจากเปิดให้จอง มอตโต้ ไปเมื่อกลางปีที่แล้ว และได้รับผลตอบรับดีเกินคาด ทั้งนี้ขอเจาะกลุ่มตลาดผู้อยู่อาศัยระดับบน ที่มีความต้องการแหล่งที่อยู่อาศัยขนาดใหญ่ขึ้น ประกอบไปด้วยพื้นที่ส่วนตัว มุมทำกิจกรรมครอบครัว ในขนาดพื้นที่ใช้สอยเริ่มต้นกว่า 200 ตร.ม. รายล้อมด้วยสังคมคุณภาพ พร้อมเพิ่มความเป็นส่วนตัว ด้วย Private Clubhouse ที่แม้ขณะนี้จะเพิ่งเปิดขายเฟสแรกอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 5-6 มีนาคมที่ผ่านมา แต่กลับมียอดจองไปแล้วถึง 10%
เจาะลึกข้อมูลโครงการ (ข้อมูล ณ วันที่ 1 มีนาคม 2559)
• ชื่อโครงการ: บี มอตโต้ บาย ชนันธร (“Be” MOTTO by Chanuntorn)
• ผู้พัฒนาโครงการ: บริษัท ชนันธร ดีเวลลอปเม้นท์ กรุ๊ป จำกัด
• ทำเลที่ตั้ง: 2/6 ถนนกาญจนาภิเษก แขวงแสมดำ เขต บางขุนเทียน กทม.
รายละเอียดโครงการ
พื้นที่โครงการ: 30 ไร่
รูปแบบ: บ้านเดี่ยวสไตล์โมเดิร์น 2 ชั้น จำนวน 105 ยูนิต โดยแบ่งออกเป็นเฟส 1 จำนวน 40 ยูนิต เฟส 2 จำนวน 65 ยูนิต บนพื้นที่ขนาดตั้งแต่ 50 – 100 ตร.ว.
เจาะกลุ่มเป้าหมาย: กลุ่มผู้บริหารหรือเจ้าของกิจการ (Young executives) โดยเฉพาะกลุ่มที่อาศัยอยู่ในย่านพระราม 2 – กาญจนาภิเษก
สถานะก่อสร้าง: เริ่มก่อสร้างประมาณกลางปี 2558 คาดว่าแล้วเสร็จทั้งโครงการภายในปี 2560
ระบบความปลอดภัย: Total Security ระบบความปลอดภัย 5 ระดับ ได้แก่ Double Gate, Home Security, Digital Door Lock, Guard House Alarm และ RFID Entrance System
ส่วนกลาง: สวนสาธารณะ และ Private Clubhouse ประกอบด้วย สระว่ายน้ำ ฟิตเนส
ที่จอดรถ: สามารถจอดได้ 3-4 คัน/ ยูนิต
สถานะการขาย: ภายหลังจากเปิดตัวโครงการอย่างเป็นทางการ มียอดจองไปแล้วสำหรับเฟสแรกกว่า 10 %
ค่าส่วนกลาง: 40 บาท/ ตร.ว./ เดือน (ชำระล่วงหน้า 3 ปี)
ราคาขายเริ่มต้น: 6.99 ล้านบาท
ราคาขายเฉลีย: 140,000 บาท/ ตร.ว.
เงื่อนไขการชำระเงิน: จอง 50,000 บาท ทำสัญญา 200,000 บาท (ขึ้นอยู่กับรูปแบบบ้าน)
โปรโมชั่น: สำหรับเดือนมีนาคม จองวันนี้ รับส่วนลดสูงสุด 1,000,000 บาท โดยขึ้นอยู่กับแต่ละรูปแบบบ้าน และเงื่อนไขของบริษัท
เว็บไซต์: be-motto.com
รูปแบบบ้าน:
Maison 3 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ 2+1 ที่จอดรถ บนพื้นที่ 50 ตร.ว.
(พื้นที่ใช้สอย 219 ตร.ม.)
Mantra 4 ห้อนอน 5 ห้องน้ำ 2 ห้องนั่งเล่น ห้องแม่บ้าน ครัวและลานซักล้าง 2+1 ที่จอดรถ บนพื้นที่ 100 ตร.ว.
(พื้นที่ใช้สอย 271 ตร.ม.)
Beyond 4 ห้อนอน 5 ห้องน้ำ 2 ห้องนั่งเล่นขนาดใหญ่ 1 ห้องนอน ชั้นล่างสำหรับผู้สูงอายุ ห้องแม่บ้าน ครัวและลานซักล้าง 3+1 ที่จอดรถ บนพื้นที่ 100 ตร.ว. (พื้นที่ใช้สอย 359 ตร.ม.)
รายละเอียดโครงการ
รีวิวภาพรวมโครงการ
จากพื้นที่เดิมเป็นทุ่งหญ้าว่างเปล่าขนาด 30 ไร่ ได้ถูกพัฒนาปรับเปลี่ยนกลายเป็นโครงการแนวราบ ที่แรกเริ่มเปิดตัวภายใต้ชื่อ มอตโต้ กับบ้านสไตล์โมเดิร์น 2 ชั้น ซึ่งอยู่ทางทิศเหนือของโครงการในราคาขายเริ่มต้น 3 ล้านปลายๆ และเมื่อได้รับความสนใจจากกลุ่มเป้าหมายในพื้นที่ เจ้าของโปรเจคจึงต่อยอดแนวคิดที่อยู่อาศัยเน้นเป้าหมายเป็นผู้ประกอบการ นักธุรกิจ โดยส่งแบรนด์ “บี มอตโต้” (ตั้งอยู่ทางทิศใต้ของโครงการ) โดยเป็นบ้านเดี่ยวราคาเริ่มต้น 6.9 ล้านบาท พร้อมฟังก์ชั่นการดีไซน์ให้สอดคล้องไลฟ์สไตล์กลุ่มคนพื้นที่ ซึ่งมักนิยมอยู่กันเป็นครอบครัวใหญ่ จึงเพิ่มห้องอเนกประสงค์ที่สามารถปรับเปลี่ยนได้ตามความต้องการ อีกทั้งเจ้าของโครงการยังคำนึงความเงียบสงบ เป็นส่วนตัว เป็นหลัก เนื่องจากโครงการอยู่ติดกับถนนกาญจนาภิเษก ดังนั้นจึงเขยิบยูนิตที่อยู่อาศัยเข้าไปข้างใน และห่างจากถนนประมาณ 350 เมตร พร้อมให้บรรดาผู้อยู่อาศัยอุ่นใจกับระบบความปลอดภัย Total Security ประกอบด้วย Double Gate, Home Security, Digital Door Lock, Guard House Alarm และ RFID Entrance System อันช่วยเสริมจุดเด่นให้กับโครงการ
Master Plan โครงการ สังเกตว่าที่ดินของบี มอตโต้ จะเป็นลักษณะรูปสามเหลี่ยม โดยจะห่างจากถนนใหญ่ประมาณ 350 เมตร โดยฝั่งที่เป็นสีน้ำตาล (ทิศตะวันออก ใกล้กับทางเข้าโครงการ) เป็นส่วนของบ้านแบบ Maison จำนวน 56 ยูนิต ส่วนสีเนื้อ คือ Mantira จำนวน 39 ยูนิต และสีส้ม เป็นพื้นที่ของ Beyond จำนวน 10 ยูนิต
หากดูภาพจาก Google Map จะเห็นว่า ด้านทางเข้าโครงการจะอยู่ทางทิศตะวันออก โดยถนนทางเข้าจะเชื่อมต่อกับทางไปเฟส มอตโต้ ซึ่งอยู่ทางทิศเหนือ ส่วนฝั่งทิศใต้จะติดกับโครงการแนวราบของพฤกษาวิลล์ พระราม 2 และทิศตะวันตกเป็นพื้นที่ทุ่งหญ้า โดยทางโครงการได้ออกแบบรั้วโดยรอบสูง 3 เมตร
เมื่อเข้า Gate ชั้นที่ 2 จะใช้ระบบ Access Key Card พร้อมป้อมเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยตลอด 24 ชั่วโมง
สิ่งอำนวยความสะดวกภายในโครงการ
ด้วยแนวคิดของโครงการที่ต้องการความเป็นส่วนตัว จึงได้ออกแบบพื้นที่คลับเฮ้าส์สไตล์โมเดิร์น ให้มีความเป็นส่วนตัวอย่างแท้จริง โดยโอบล้อมด้วยสวนสาธารณะ คล้ายกับฝั่งโครงการ มอตโต้ ซึ่งเป็นของชนันธรเช่นเดียวกัน ภายในประกอบไปด้วยสระว่ายน้ำระบบน้ำเกลือ ขนาด 10 x 15 เมตร ลึก 1.5 เมตร พร้อมด้วยสระเด็ก และมุมพักผ่อนริมสระ ให้ความรู้สึกเหมือนอยู่รีสอร์ทส่วนตัว นอกจากนี้ ยังมีพื้นที่ของห้องออกกำลังกายที่หันหน้าออกทางสระว่ายน้ำ เพื่อให้เหล่าบรรดาผู้อยู่อาศัยที่มาใช้บริการได้ชมวิวทิวทัศน์ด้านนอก
สำหรับพื้นที่ของ Private Clubhouse ขณะนี้อยู่ในระหว่างการก่อสร้าง ซึ่งจากรูปจะเห็นอาคาร (ด้านขวามือ) สไตล์โมเดิร์นคือส่วนของคลับเฮ้าส์
รีวิวภายในบ้าน
พื้น: กระเบื้องแกรนิตโต้ ขนาด 60 x 60 ซม. บริเวณชั้นล่าง และ ลามิเนตหนา 12 มม. ในชั้น 2
ความสูงพื้นจรดเพดาน: ประมาณ 2.7 เมตร
จอดรถ: 3 – 4 คัน
ระบบไฟ: โคมดาวน์ไลท์ทั้งหลัง (เฉพาะส่วนหลักของบ้าน)
พื้นที่ใช้สอย: 219, 271 และ 359 ตร.ม.
ประตู: Digital Door Lock แบรนด์ COLT หรือเทียบเท่า
สุขภัณฑ์ห้องน้ำ: Mogen, Kohler, HOY และ VRH
ความพิเศษของโครงการนี้ คือ ความปลอดภัย Total Security ที่แม้กระทั้งประตูเข้าไปในบ้าน ยังเป็น Digital Door Lock จาก COLT หรือเทียบเท่า และไม่ค่อยพบในโครงการแนวราบ จึงทำให้เป็นจุดเด่นของโครงการ
เมื่อเข้ามาด้านใน บริเวณพื้นที่หลังประตู สามารถนำไอเดียของบ้านตัวอย่าง ทำเป็นตู้เก็บรองเท้าเพิ่มเติม นอกจากนี้ พื้นที่ของบันไดขึ้นไปชั้น 2 ซึ่งอยู่ฝั่งตรงข้าม ลูกตั้ง ลูกนอน และราวบันได จะทำจากไม้เนื้อแข็ง โดยก่อนที่จะขึ้นไปชมชั้น 2 มาสำรวจพื้นที่ชั้น1 กันก่อน
ชั้น 1 จะปูด้วยกระเบื้องแกรนิตโต้ ขนาด 60 x 60 ซม. สีจะเป็นตามรูป โดยบริเวณดังกล่าวสามารถทำเป็นมุมสำหรับนั่งกินข้าวกันในครอบครัว โดยนำโต๊ะกินข้าวขนาด 6 ที่นั่งมาติดตั้งได้
ส่วนพื้นที่ของมุมนั่งเล่น จะอยู่บริเวณทางเข้าอีกทาง ที่เป็นประตูบานเลื่อน โดยสามารถนำโซฟาขนาดใหญ่มาวาง และยังมีพื้นใช้สอยเหลืออยู่
พื้นที่ห้องอเนกประสงค์สามารถปรับเปลี่ยนเป็นห้องดูหนัง ห้องทำงาน หรือห้องนอนสำหรับผู้สูงอายุได้ตามต้องการ
ห้องน้ำในพื้นที่แม่บ้าน จะไม่แบ่งส่วนเปียก-แห้งให้ มีเพียงสุขภัณฑ์ชักโครกจาก Kohler อ่างล้างหน้า ของ Mogen และฝักบัว จาก HOY
เมื่อวางเคาน์เตอร์ครัวแล้ว จะมีพื้นที่ด้านข้างให้สามารถนำตู้เย็นขนาดไม่เกิน 10 คิว และขนาดใหญ่มาวางติดตั้งได้
กลับเข้ามาในบ้าน ดูพื้นที่ใช้สอยชั้น 2 ซึ่งจะปูด้วยลามิเนตหนา 12 มม.โดยด้านซ้ายมือ จะเป็นห้องอเนกประสงค์ดังรูป
ส่วนห้องนอนมาสเตอร์ จะอยู่ตรงกลาง โดยสามารถนำเตียงขนาดใหญ่ อย่างคิงไซส์มาวางได้ เนื่องจากมีพื้นที่ใช้สอยค่อนข้างเยอะ
โดยภายในห้องนี้มีระเบียงด้วย ซึ่งออกแบบประตูเป็นบานเลื่อน กรอบอะลูมิเนียมสีดำ พร้อมกระจกตัดแสงสีเขียว
แบบบ้าน Mantra 4 ห้อนอน 5 ห้องน้ำ 2 ห้องนั่งเล่น ห้องแม่บ้าน ครัวและลานซักล้าง 2+1 ที่จอดรถ บนพื้นที่ 100 ตร.ว.
(พื้นที่ใช้สอย 271 ตร.ม.)
เมื่อเข้ามาในบ้านพื้นที่ห้องนั่งเล่น ถูกแบ่งออกเป็น 2 ฝั่ง ซ้าย – ขวา จากรูปคือการตกแต่งเป็นไอเดียของโครงการ (ฝั่งขวา)
บรรยากาศของห้องกินข้าว สามารถวางโต๊ะกินข้าวขนาดใหญ่ได้ และถูกล้อมรอบด้วยหน้าต่างบาน fixed และบานเลื่อนดังรูป
ส่วนด้านข้างเตียง สามารถ Built-in ตู้เสื้อผ้าขนาด 3 บาน โดยด้านมุมห้องสามารถทำเป็นโต๊ะเครื่องแป้งได้ดังรูป
ทําเล & การเดินทาง
วิเคราะห์ศักยภาพทำเลพระราม 2
ภาพแสดงเส้นทางรถไฟฟ้ามหานครทั้งหมด ภาพ via mrta.co.th
นับตั้งแต่พื้นที่พระราม 2 ซึ่งอยู่ทางตอนใต้ของกรุงเทพฯ ได้รับการพัฒนาด้านการคมนาคมให้สามารถเข้า-ออกนอกเมืองได้สะดวกขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการขยายถนนให้มีความกว้างกว่า 10 เลน ทั้งเส้นพระราม 2 และกาญจนาภิเษก อีกทั้งยังมีจุดเชื่อมต่อกับเส้นกัลปพฤกษ์ ราชพฤกษ์ เพชรเกษม จึงทำให้พื้นที่ต่างๆ ในย่านนี้สะดวกต่อการเดินทาง ยิ่งไปกว่านั้นการสร้างวงแหวนรอบนอกฝั่งตะวันตก พร้อมจุดขึ้น-ลง ทางด่วนเฉลิมมหานคร (ขั้นที่ 1) มุ่งหน้าสู่กรุงเทพฯ ชั้นใน จึงเป็นเผตุผลหนึ่งที่ทำเลพระราม 2 นี้เปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว สังเกตได้จากการที่ผู้ประกอบการ พร้อมใจกันจับจองพื้นที่ริมถนนใหญ่ เพื่อสร้างศูนย์การค้า คอมมูนิตี้มอลล์ ซุปเปอร์มาร์เก็ตชั้นนำ รวมถึงโครงการที่อยู่อาศัยแนวราบ บรรดาบ้านหรูจับตลาดกลุ่มเอบวก เริ่มหันมากระจุกตัวในย่านนี้มากขึ้น ส่วนหนึ่งนอกจากความเจริญของพื้นที่แล้ว อาจเป็นเพราะดินแดนทางฝั่งพระราม 3 ได้ถูกสร้างเป็นคอนโดริมแม่น้ำ แหล่งที่อยู่อาศัยกันอย่างหนาแน่นแล้ว นอกจากนี้ ในอนาคตอันใกล้ยังมีอีกหลายโปรเจคจ่อเปิดตัว เร่งเร้าความเจริญให้เพิ่มขึ้นอีก อาทิ โครงการทางพิเศษบางพลี – บางขุนเทียน (วงแหวนใต้) ที่เชื่อมกับทุกวงแหวน และ เส้นทางรถไฟฟ้าสายสีแดงเข้ม เริ่มต้นเส้นทางที่หัวลำโพง สุดสายที่สถานีมหาชัย รวมระยะทางกว่า 36 กม. ซึ่งหากโครงการต่างๆ เหล่านี้แล้วเสร็จ เชื่อว่าโฉมหน้าย่านพระราม 2 จะเปลี่ยนแปลงไปกว่าปัจจุบัน รวมถึงระดับราคา ประเมินที่ดินติดริมถนนพระราม 2 จาก 80,000 บาท / ตร.ว. คาดว่าจะปรับสูงขึ้นอีกตามความเจริญของพื้นที่
วิเคราะห์ศักยภาพทำเลโครงการ
เนื่องจากโครงการตั้งอยู่เลียบถนนกาญจนาภิเษก ใกล้กับวงแหวนรอบนอกฝั่งตะวันตก วงแหวนอุตสาหกรรม โดยมีจุดเริ่มต้นเส้นทางที่พระราม 2 ซึ่งจะตัดผ่านธนบุรี พร้อมเชื่อมต่อกับเส้นทางฝั่งจังหวัดนนทบุรี ปทุมธานี และสิ้นสุดที่ถนนพหลโยธิน ประตูสู่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา อีกทั้งเส้นกาญจนาภิเษก หากมุ่งหน้าไปเรื่อยๆ จะสามารถไปมหาชัย สมุทรสาคร รวมถึงจังหวัดต่างๆ ทางฝั่งตะวันตก และใต้ของกรุงเทพฯ ได้ ดังนั้นจึงเป็นข้อเด่นในเรื่องศักยภาพทำเลการเดินทาง อีกทั้งด้วยอานิสงส์ของโครงการด้านคมนาคมทั้งในปัจจุบัน และอนาคต จึงส่งผลให้ทำเลที่ตั้งโครงการได้รับการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง อีกทั้งยังถูกรายล้อมไปด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกมากมาย เพื่อมารองรับกลุ่มผู้อยู่อาศัยที่เข้ามาปักหลักในย่านนี้มากขึ้น อาทิ เซ็นทรัลพระราม 2 เทสโก้ โลตัสพระราม 2 เดอะมอลล์ บางแค ใกล้โรงเรียนสารสาสน์ โรงเรียนอัสสัมชัญ ธนบุรี โรงพยาบาลนครธน โรงพยาบาลบางมด โรงพยาบาลบางปะกอก 9 และโรงพยาบาลเกษมราษฎร์ บางแค
การเดินทาง
แม้ว่าในอนาคตการเดินทางในย่านพระราม 2 จะสะดวกสบายขึ้น ด้วยโครงการรถไฟฟ้าอนาคตสายสีแดงเข้ม ซึ่งเริ่มต้นเส้นทางที่หัวลำโพง สุดสายที่สถานีมหาชัย แต่ ณ ขณะนี้คงต้องเพิ่งการเดินทางด้วยรถยนต์ไปก่อน จนกว่ารถไฟฟ้าจะแล้วเสร็จ ซึ่งมีเส้นทางให้เลือกดังนี้
รถยนต์
ทางเลือกที่ 1 สำหรับผู้ที่อยู่ใจกลางเมือง ให้ใช้ทางด่วนพิเศษเฉลิมมหานคร มาทางฝั่งพระราม 3 ถนนสุขสวัสดิ์ โดยข้าม สะพานแขวน แล้วมุ่งหน้าไปตามเส้นทางที่จะไปจังหวัดสมุทรสาคร เมื่อสุดทางด่วนให้ขับตรงมาเรื่อยๆ ประมาณ 5 กม. จากนั้น ให้เบี่ยงซ้ายขึ้นสะพานวนเข้าถนนกาญจนาภิเษก เส้นที่มุ่งหน้าไปบางแคขับต่อไปประมาณ 700 เมตร จะสังเกตเห็นป้าย บี มอตโต้ ให้ชิดซ้ายเพื่อเลี้ยวเข้าโครงการ
ทางเลือกที่ 2 สำหรับกลุ่มคนที่อยู่ในละแวกนี้อยู่แล้ว เริ่มต้นเส้นทางที่ถนนกาญจนาภิเษก ให้มุ่งหน้าตรงไปทางพระราม 2 ประมาณ 4.5 กม. พร้อมกับสังเกตปั๊มน้ำมัน ปตท. ก่อนถึงถนนตัดเข้าสู่สายเอกชัย เพื่อเตรียมกลับรถใต้สะพาน จากนั้นให้พยายามชิดซ้าย เพื่อเลี้ยวเข้าโครงการ
หากขับลงมาจากสะพานวนเข้าถนนกาญจนาภิเษก ที่เชื่อมต่อกับถนนพระราม 2 จะสังเกตเห็นป้ายโครงการอย่างชัดเจน
สถานที่แนว Lifestyle
พระราม 2 แม้จะเป็นชานเมืองฝั่งทางใต้ของกรุงเทพฯ ซึ่งค่อนข้างจะไกลจากใจกลางเมือง จนทำให้เหล่าผู้อยู่อาศัยใหม่ที่ไม่คุ้นเคยกับพื้นที่ อาจมึนงงว่าจะไปเที่ยววันหยุดสุดสัปดาห์ที่ไหนดี แต่เมื่อย่านนี้ได้รับการพัฒนาก็เริ่มมีนายทุนเข้ามาปักหมุดสร้างศูนย์การค้าขนาดใหญ่อย่าง เซ็นทรัล พลาซ่า พระราม 2 (ห่างจากโครงการประมาณ 2.5 กม.) บิ๊กซี (ห่างจากโครงการประมาณ 2.5 กม.) เทสโก้ โลตัส (ห่างจากโครงการประมาณ 2 กม.) หรือแม้แต่คอมมูนิตี้มอลล์เปิดใหม่เมื่อไม่นานมานี้อย่าง Gourmet District (ห่างจากโครงการประมาณ 4 กม.) และ The Bright Mall (ห่างจากโครงการประมาณ 3.5 กม.) แหล่งรวมสินค้า ร้านค้าไลฟ์สไตล์คนเมือง แถมยังมีการตกแต่งให้ผู้คนแวะเวียนผ่านไปมาเป็นต้องหยุดจอดกันเป็นทิวแถว แต่ถ้าหากใครอยากได้บรรยากาศชายทะเล เงียบสงบ แบบไม่ต้องเดินทางมุ่งหน้าออกสู่หัวหิน แนะนำให้ไปเส้นบางขุนเทียน (ห่างจากโครงการประมาณ 4 กม.) ซึ่งเป็นพื้นที่เดียวในกรุงเทพฯ ที่ติดทะเล เต็มไปด้วยเสน่ห์ของธรรมชาติและระบบนิเวศ ยิ่งไปกว่านั้นยังเรียงรายไปด้วยร้านอาหารซีฟู้ดขึ้นชื่อมากมาย
แต่ที่เด็ดชนิดไม่ลองไม่ได้ นั้นก็คือ กั้งทอดกระเทียม แห่งร้านครัวแสวงซีฟู้ด ต่อกันด้วยร้านเก่าแก่แห่งบางขุนเทียน ที่เก๋าในเรื่องรสชาติมาอย่างยาวนานถึง 20 ปี กับเมนูกุ้งเสียบไม้ทอด ที่ไม่เคยกินที่ไหน ปิดท้ายด้วยร้านบรรยากาศโรแมนติก ริมอ่าวทะเลไทย อย่าง Bangkok See View Restaurant โดดเด่นความอร่อยทั้งเมนูอาหารรสเด็ด และวิวโดยรอบ
บทวิเคราะห์
วิเคราะห์อัตราผลตอบแทนที่ได้รับ
แม้ตลาดอสังหาฯ ไทยในภาพรวมจะชะลอตัวลง แต่ทำเลอย่างย่านพระราม 2 กลับคึกคัก เมื่อมีดีเวลลอปเปอร์ทั้งรายเล็ก กลาง ใหญ่ เดินขบวนพาเหรดปักหมุดจับจองที่ดินติดถนนหลักทั้งพระราม 2 และเส้นกาญจนาภิเษก สร้างโครงการแนวราบ เจาะกลุ่มเป้าหมายนักธุรกิจ ที่มีกำลังซื้อกับบ้านที่มีราคาขายสตาร์ทตั้งแต่ 7-10 ล้าน ส่งผลให้เหล่านักลงทุนที่แม้ว่าจะไม่ค่อยนิยมครอบครองเพื่อปล่อยเช่า (ราคาปล่อยเช่าบ้านเดี่ยวพระราม 2 เริ่มต้น 15,000 บาทขึ้นไป) เนื่องจากตลาดผู้เช่าแนวราบราคาสูงนั้นค่อนข้างมีจำนวนน้อย ด้วยเหตุนี้จึงทำให้มีหลายรายซื้อเพื่ออยู่เองและปล่อยต่อ โดยสามารถขายได้ราคามากกว่าทุนเดิมประมาณ 15% (ราคาขายจะปรับตัวตามระดับราคาที่ดิน) อันถือเป็นสัญญาณบ่งบอกถึงความฮอตของตลาดอสังหาฯ ในย่านพระราม 2
เปรียบเทียบกับโครงการอื่น
ชวนชื่น พระราม 2
ชวนชื่น พระราม 2 ภาพ via mk.co.th
ผู้พัฒนาโครงการ: บริษัท มั่นคงเคหะการ จำกัด (มหาชน)
ทำเลที่ตั้ง: ซอยบางกระดี่ 32 ถนนพระราม 2 แขวง แสมดำ เขต บางขุนเทียน กทม.
เว็บไซต์: mk.co.th
รายละเอียดโครงการ
พื้นที่โครงการ: 34 ไร่
พื้นที่ใช้สอย: 136 – 250 ตร.ม.
รูปแบบ: บ้านเดี่ยว 2 ชั้น บนเนื้อที่ 100 ตร.ว. ขึ้นไป รวมทั้งหมด 95 ยูนิต รูปแบบ 3-4 ห้องนอน 2-3 ห้องน้ำ
ที่จอดรถ: 1-2 ที่จอดรถ
ราคาขายปัจจุบันเริ่มต้น: 6 ล้านบาท
ซีรีน พระราม 2
ซีรีน พระราม 2 ภาพ via prinsiri.com
ผู้พัฒนาโครงการ: บริษัท ปริญสิริ จำกัด (มหาชน)
ทำเลที่ตั้ง: ถนนเลียบวงแหวนกาญจนาภิเษก แขวง ท่าข้าม เขต บางขุนเทียน กทม.
เว็บไซต์: prinsiri.com
รายละเอียดโครงการ
พื้นที่โครงการ: 68 ไร่
พื้นที่ใช้สอย: 157 – 226 ตร.ม.
รูปแบบ: บ้านเดี่ยว 2 ชั้น บนเนื้อที่ 50 ตร.ว. ขึ้นไป รวมทั้งหมด 305 ยูนิต รูปแบบ 3-4 ห้องนอน 2-3 ห้องน้ำ
ที่จอดรถ: 2 ที่จอดรถ
ราคาขายปัจจุบันเริ่มต้น: 6 ล้านบาท
สรุป
บทสรุป
แม้ว่าหลายคนจะมองว่าพื้นที่แถบพระราม 2 นั้นค่อนข้างห่างไกลจากใจกลางเมือง และมีสถานที่แนวไลฟ์สไตล์ที่ตอบโจทย์การใช้ชีวิตไม่มาก แต่ต่อจากนี้ไปคงต้องมองย่านนี้ในมุมใหม่ เพราะนับตั้งแต่มีการขยายถนน พร้อมเชื่อมต่อหลายเส้นทาง ไม่ว่าจะเป็น กัลปพฤกษ์ ราชพฤกษ์ เพชรเกษม สุขสวัสดิ์ พระราม 3 ยังไม่นับรวมโครงการอื่นๆ รวมถึงไฮไลท์อย่างรถไฟฟ้าในอนาคตสายสีแดงเข้มที่จะทำให้สามารถเดินทางเข้า-ออกเมืองได้สะดวกขึ้น อานิสงส์เหล่านี้จะส่งผลให้เหล่านักลงทุน ผู้ประกอบการ ปักหมุดผุดโปรเจคอสังหาฯ แนวราบ โดยเฉพาะฝั่งติดถนนพระราม 2 ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นบ้านเดี่ยวระดับราคา 5 ล้านบาทขึ้นไป เฉกเช่นเดียวกับโครงการ บี มอตโต้ จึงทำให้ตอบโจทย์ความต้องการกลุ่มคนพื้นที่ และบริเวณโดยรอบ โดยเฉพาะเหล่านักธุรกิจย่านนี้ ที่แสวงหาแหล่งที่อยู่อาศัย มีพื้นที่ใช้สอยขนาดใหญ่ แวดล้อมไปด้วยสังคมเปี่ยมคุณภาพ และพื้นที่ส่วนกลางที่ให้ความรู้สึกเป็นส่วนตัว ซึ่งถ้าหากในอนาคตอยากลงทุนปล่อยเช่าหรือขายต่อ ก็ยังคงได้ผลตอบแทนที่ดี โดยสามารถขายได้กว่าราคาต้นทุนประมาณ 15% ตามการผันแปรของราคาที่ดิน อันเป็นผลจากความเจริญที่ผันแปรไปตามกาลเวลา