The Shelter โครงการบ้านเดี่ยว และโฮมออฟฟิศตั้งอยู่ในย่านธุรกิจชั้นนำ เพชรเกษม–พุทธมณฑลสาย 5 บนทำเลที่ดีที่สุดติดถนนเพชรเกษม เดินทางเข้าออกโครงการได้ง่าย ใกล้รถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินส่วนต่อขยายที่เชื่อมต่อถึงพุทธมณฑลสาย 4 ในอนาคต กับราคาเริ่มต้นที่ 10 ล้านบาท
แม้สภาวะทางเศรษฐกิจจะยังคงชะลอตัว แต่สำหรับกลุ่มลูกค้าเงินเย็นหรือลูกค้าระดับบนยังคงมีกำลังซื้อ และเลือกซื้อบ้านเดี่ยวขนาดใหญ่ ราคาระดับ 8 ล้านบาทกันอยู่ไม่น้อย ด้วยเพราะสภาพแวดล้อมในโครงการ ระบบรักษาความปลอดภัย อีกทั้งรูปแบบบ้านที่กว้างขวางพอจะขยับขยายพื้นที่ได้มากขึ้น ยิ่งหากเป็นโครงการติดถนนหลักด้วยแล้ว แม้ราคาจะแพงขึ้นแต่ก็ไม่ยี่หร่า เพราะมองผลในระยาว หากทำเลไหนมีรถไฟฟ้าผ่านยิ่งส่งผลดีและตอบโจทย์มากยิ่งขึ้น
อย่างโครงการบ้านเดี่ยวระดับบนบนถนนรามอินทรา ปัจจุบันราคาขายไม่ต่ำกว่า 7-8 ล้านบาทขึ้นไป ราคาที่ดินริมถนนรามอินทราและถนนรามอินทรา – รัชดา มีตั้งแต่ตารางวาละ 1 – 1.5 แสนบาทขึ้นอยู่กับอัตราส่วนพื้นที่อาคารต่อเนื้อที่ดิน ที่มีตั้งแต่ 3-10 เท่า ซึ่งแน่นอนว่าหากรถไฟฟ้าสายสีชมพูดำเนินการแล้วเสร็จ ราคาที่ดินมีโอกาสปรับสูงขึ้นไปแตะตารางวาละ 1.5-2 แสนบาท และถ้ารถไฟฟ้าเปิดใช้น่าจะขยับขึ้นไปเป็น 3 แสนบาทเลยทีเดียว นั่นก็ประมาณอีก 4 – 5 ปี ข้างหน้าหากเป็นไปตามกำหนดที่วางไว้
ตัวอย่างโครงการบ้านเดี่ยวขนาดใหญ่ที่ยึดหัวหาดทำเลติดถนนรามอินทรามานานกว่า 10 ปี อย่างโครงการบ้านริมสวน รามอินทรา ที่กินเนื้อที่รวมกว่า 80ไร่ ถือเป็นโครงการที่ตอบโจทย์ และตรงกลุ่มเป้าหมาย เพราะตอบสนองความต้องการของลูกค้าระดับบนได้หลายจุด ซึ่งจุดหลักคือติดถนนหลักโดยไม่ต้องเข้าซอย ซึ่งปัจจุบันที่ดินติดถนนย่านนี้แทบจะต้องพลิกแผ่นดินหา และแพงหูฉี่
รายละเอียดโครงการ
เจาะลึกข้อมูลโครงการ (ข้อมูล ณ วันที่ 28 สิงหาคม 2558)
ชื่อโครงการ: บ้านริมสวน รามอินทรา (Bann RimSuan Ramindra)
ผู้พัฒนาโครงการ: บริษัท สวนหลวงบ้านและที่ดิน จำกัด
ทำเลที่ตั้ง: ถนนรามอินทรา กม.14 ติดปากซอยรามอินทรา 119/1 แขวงมีนบุรี กทม.
รายละเอียดโครงการ
พื้นที่โครงการ: รวมประมาณ 79-1-8 ไร่
รูปแบบ: บ้านเดี่ยว 2 ชั้น จำนวนทั้งสิ้น 221 ยูนิต (โซน1-12)
กลุ่มเป้าหมาย: ผู้ที่ต้องการมีบ้านหลังที่ 2 และผู้ที่ต้องการขยายครอบครัว
สถานะการก่อสร้าง: เป็นบ้านสร้างเสร็จก่อนขาย เริ่มก่อสร้างเมื่อปี 2547 โซนที่ 1- 6 สร้างเสร็จแล้ว ส่วนโซน 7-12 ซึ่งกำลังก่อสร้าง คาดว่าจะแล้วเสร็จประมาณปี 2559
สถานะการขาย: โซน 1-3 จำนวน 56 ยูนิต ปัจจุบันขายหมดแล้ว ส่วนโซน 4,5และ 6 เปิดขายเมื่อปี 2556 จำนวน 44 ยูนิต ขณะนี้เหลืออยู่ประมาณ 10 กว่ายูนิต ส่วนโซน 7-12 ยังไม่เปิดขาย (ข้อมูล ณ วันที่ 28 สิงหาคม 2558)
ค่าส่วนกลาง: 20 บาท / ตารางวา (จ่ายล่วงหน้า 3 ปี)
ระบบคีย์การ์ด: Access Card สำหรับเข้าออกโครงการ
ระบบรักษาความปลอดภัย: Double Gate Entrance (ประตูทางเข้าโครงการ 2 ชั้น โดยประตูแรกเปิดไว้ตลอด ส่วนประตูที่ 2 ต้องใช้คีย์การ์ดผ่านเข้าออกเท่านั้น, รปภ. 24 ชั่วโมง พร้อมกล้อง CCTV ออนไลน์ตามจุดต่างๆ ของโครงการ
ราคาเริ่มต้น: 8.7 ล้านบาท /ยูนิต (ข้อมูล ณ วันที่ 28 สิงหาคม 2558)
เว็บไซต์: www.suanluang.co.th
รูปแบบบ้าน มี 3 แบบ คือ
1.บ้านชานชมวิว (S) ขนาดที่ดิน 90 ตร.ว. พื้นที่ใช้สอย 218 ตร.ม. 3 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ ราคา 8.7 ล้านบาท
2.บ้านระเบียงลม (M) ขนาดที่ดิน 90 ตร.ว. พื้นที่ใช้สอย 267 ตร.ม. 3 ห้องนอน 4 ห้องน้ำ 1 ห้องแม่บ้านและห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ ราคา 12 ล้านบาท
3.บ้านชมสวน ( L) ขนาดที่ดิน 90 ตร.ว. พื้นที่ใช้สอย 335 ตร.ม. 3 ห้องนอน 4 ห้องน้ำ 1 ห้องแม่บ้านและห้องน้ำ 3 ที่จอดรถ
รีวิวภาพรวมโครงการ
โครงการนี้มีการปรับปรุงใหม่หลายจุด ตั้งแต่ซุ้มประตูทางเข้าโครงการที่กว้างใหญ่ รั้วคอนกรีตและระแนงไม้สูงกว่า 5 เมตร มีประตูทางเข้าแบบ 2 ชั้น (Double Gate Entrance) ตกแต่งป้อม รปภ. ด้วยลวดลายหินอ่อน เพื่อให้โครงการดูหรูหรามากขึ้น พร้อมกับติดตั้งประตูทางเข้าแบบ Automatic รวมถึงปรับหน้าตาคลับเฮ้าส์ สระว่ายน้ำ ฟิตเนส สนามเด็กเล่นและสวนสาธารณะโดยรอบโครงการให้มีความสวยงาม ทันสมัย และปลอดภัยมากขึ้น โดยรวมถือว่ามีบรรยากาศที่น่าอยู่ เงียบ สงบ ร่มรื่นและมีความเป็นส่วนตัวมาก
Concept: เปิดโลกใหญ่ใจกลางเมือง สะดวกสบาย และสงบ
Layout: ผังโครงการเป็นที่ดินเนื้อที่กว้างเกือบ 80 ไร่ สร้างบ้านจากด้านหน้าเข้าไปด้านใน มีคลับเฮ้าส์ สระว่ายน้ำสนามเด็กเล่น และฟิตเนสขนาดใหญ่บนพื้นที่กว่า 1 ไร่ไว้ในส่วนหน้าติดกับรั้วประตูชั้นใน มีถนนทางเข้าโครงการกว้าง 16 เมตร ซึ่งถือว่ากว้างมาก ส่วนถนนในโครงการกว้าง 14, 12 เมตรและถนนในซอย 9 เมตรตามลำดับ ส่วนด้านในโครงการมีพื้นที่สวนสาธารณะบนเนื้อที่กว่า 2 ไร่
ทั้งนี้ โครงการวางผังบ้านเป็น 2 ส่วนคือ 1. ฝั่งซ้ายของถนนเมนในโครงการ บ้านจะหันหน้าออกทางทิศตะวันออกทั้งหมดทุกหลัง ซึ่งติดถนนเมนเลย ไม่ได้แบ่งเป็นซอยๆ และ 2.ฝั่งขวาของถนนเมนในโครงการ บ้านจะหันหน้าทิศเหนือและใต้ แบ่งเป็นซอยๆ แต่ละซอยมีบ้านไม่เกิน 4 ยูนิต
สำหรับรูปแบบโครงการเน้นกลิ่นอายความเป็นบ้านสวนที่ร่มรื่น มีความเป็นธรรมชาติ ผสานกับแบบบ้านที่มีความโมเดิร์น มีฟังก์ชั่นการใช้งานที่ทันสมัยเพื่อให้สอดรับกับวิถีชีวิตของคนเมือง
ส่วนการก่อสร้างใช้โครงสร้างแบบเสาคานปกติ เพราะสามารถต่อเติมในภายหลังได้ง่าย นอกจากนี้ยังเน้นใช้วัสดุที่ช่วยลดพลังงานความร้อน เช่น Eco block ที่ดูดซับความร้อน, ใช้หลังคาทรงสูงเพื่อให้มีพื้นที่ใต้หลังคามากขึ้น ช่วยให้มีการระบายความร้อนได้ดี และกันความร้อนได้มากขึ้น รวมถึงใช้หลังคาสีอ่อน เพื่อไม่ให้ดูดความร้อนจากแสงอาทิตย์ นอกจากนี้คือ มีระแนงชายคาเพื่อช่วยระบายอากาศ เป็นต้น
สิ่งที่จะได้รับ:
พื้น: ชั้นล่างกระเบื้องแกรนิตโต้ ชั้น 2 พื้นไม้ลามิเนต
ผนัง: ฉาบเรียบ ทาสี
สุขภัณฑ์: ยี่ห้อ Mogen
หมายเหตุ: โปรโมชั่น บ้านราคาเริ่มต้น 8.7 ล้านบาท รับ Gift Voucher จาก SB Furniture มูลค่า 500,000 บาท, เครื่องปรับอากาศ 3 เครื่อง (ห้องนอนใหญ่ 12,000 BTU ห้องนอนเล็ก 9,000 BTU) และวอลล์เปเปอร์ (ข้อมูล ณ วันที่ 28 ส.ค. 2558)
สิ่งอำนวยความสะดวกภายในโครงการ : คลับเฮ้าส์ กว่า 1 ไร่ (ฟิตเนส ,สระว่ายน้ำ,สนามเด็กเล่น) เสร็จเรียบร้อยพร้อมใช้งาน, สวนสาธารณะกว่า 2 ไร่ อยู่ระหว่างการก่อสร้าง
การวางทิศทางบ้าน:
ผังบ้านในโครงการแบ่งเป็น 2 ส่วนคือ
ฝั่งซ้ายของถนนเมนในโครงการ บ้านจะหันหน้าออกทางทิศตะวันออกทั้งหมดทุกหลัง ซึ่งติดถนนเมนเลย ไม่ได้แบ่งเป็นซอยๆ ซึ่งได้วิวดังนี้
ทิศเหนือ: บ้านอื่นในโครงการ
ทิศใต้: บ้านอื่นในโครงการฝั่งถนนทางเข้าโครงการ
ทิศตะวันออก: ถนนเมน และคลับเฮ้าส์
ทิศตะวันตก: ติดกับโครงการอื่น (โครงการสินธานี)
ฝั่งขวาของถนนเมนในโครงการ บ้านจะหันหน้าทิศเหนือและใต้ แบ่งเป็นซอยๆ แต่ละซอยมีบ้านไม่เกิน 4 ยูนิต ซึ่งวิวโดยรอบทั้ง 4 ทิศคือ บ้านของเพื่อนบ้านในโครงการ
รีวิวภายในบ้าน
บ้านตัวอย่าง มี 2 แบบ คือ
1.บ้านชานชมวิว (S) ขนาดที่ดิน 90 ตร.ว. พื้นที่ใช้สอย 218 ตร.ม. 3 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ ราคา 8.7 ล้านบาท
บ้านมาตรฐานของแบบที่ 1
2.บ้านระเบียงลม (M) ขนาดที่ดิน 90 ตร.ว. พื้นที่ใช้สอย 267 ตร.ม. 3 ห้องนอน 4 ห้องน้ำ 1 ห้องแม่บ้านและห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ ราคา 12 ล้านบาท
เริ่มจากแบบที่ 1
บริเวณรั้วหน้าบ้านแบ่งเป็น 2 ส่วน คือ ประตูใหญ่สำหรับให้รถยนต์เข้า-ออก และมีประตูเล็กสำหรับเดินเข้าออก ทั้งนี้ทางโครงการได้ติดตั้งถังขยะฝังในรั้ว โคมไฟส่องสว่างที่มุมรั้ว และตู้จดหมายให้เรียบร้อย
หน้าบ้านมีฟุตบาทเล็กๆ และเป็นรั้ว CPAC โปร่งสลับทึบ บริเวณที่โล่งว่างก็ปูหญ้า และปลูกต้นไม้ไว้ให้ดูร่มรื่น
ที่จอดรถจอดได้ 2 คัน มีเฉลียงเป็นที่หยุดล้อหลังไปในตัว ป้องกันไม่ให้ถอยชนกำแพง ข้างบ้านปลูกหญ้า กั้นด้วยรั้ว CPAC ระหว่างแปลง ด้านหลังเป็นถังน้ำและปั๊มน้ำเช่นเดิม ข้างประตูทั้งสองด้านมีช่องรับแสง ทำให้บ้านดูไม่ทึบ และบริเวณกลางประตูมีช่องแสงให้เห็นด้านหน้าบ้าน
มีทางเข้า-ออกทั้งหมด 4 ทาง คือ 1.ตั้งแต่ประตูหน้าลานจอดรถซึ่งประตูนี้เป็นประตูเข้าบ้านที่ใช้เวลาฝนตก 2.เข้าทางหลักผ่านเฉลียงหน้าบ้านสู่ห้องรับแขก 3.เข้าทางห้องครัวด้านหลังบ้าน และ 4.เข้าทางเฉลียงข้างบ้าน
ทั้งนี้ภายในบ้านแบ่งพื้นที่และฟังก์ชั่นไว้อย่างเป็นสัดส่วน โดยจัดส่วนรับแขกไว้ด้านหน้า
ส่วนโต๊ะรับประทานอาหารไว้ด้านหลังใกล้ครัวแบบเปิด
ส่วนตรงกลางระหว่างห้องรับแขก กับห้องทานอาหารมีที่ว่างสำหรับวางชั้นหนังสือ เป็นที่นั่งเล่นอ่านหนังสือ หรือเป็นมุมทำงานได้
ส่วนของครัวกว้างขวางดี บ้านตัวอย่างทำเป็นครัวรูปตัว L และตัว I ของจริงเป็นท็อปหินสังเคราะห์สีดำและเป็นแผงตัว I ทั้งสองด้าน
มีประตูกั้นแบบบานเฟี้ยม ส่วนประตูหลังบ้านสามารถเปิดออกไปยังลานซักล้างได้
ห้องน้ำชั้นล่างอยู่ใต้บันได
ผนังข้างบันไดตกแต่งด้วยโทนสีทึบกลมกลืนไปกับห้องเก็บของ ส่วนพื้นที่ว่างฝั่งตรงกันข้ามแต่งผนังบิลท์อิน สามารถโชว์ของหรือวางของได้
ได้สุขภัณฑ์ตามภาพ ตกแต่งด้วยกระเบื้องและสุขภัณฑ์ที่ให้อารมณ์หรูหรา
ชั้นบน บันไดออกแบบมาได้ดี มีชานพักเรียบร้อย และไม่มีขั้นสามเหลี่ยม
จัดไว้เป็นพื้นที่สำหรับห้องนอน ซึ่งมี 3 ห้องนอนและ 2 ห้องน้ำ
บริเวณโถงกลางจะมีมุมอเนกประสงค์เล็กๆให้ สามารถทำเป็นห้องพระได้ ห้องนั่งเล่นพิเศษก็ได้ หรือจะเป็นมุมทำงานก็ได้
ส่วนห้องนอนเล็กอีก 2 ห้อง มีพื้นที่สำหรับเตียงนอนและสำหรับตู้เสื้อผ้าและมีระยะพอสำหรับวางทีวีปลายเตียง
ส่วนห้องน้ำรวมชั้นสองประตูทางเข้าออกอยู่ที่โถงระเบียง
ห้องนอนใหญ่มีตำแหน่งอยู่ฝั่งด้านหน้าของตัวบ้าน กินพื้นที่เต็มๆ ทำให้ได้ห้องที่ยาวมาก
มี Walk-in closet ในตัว
ห้องน้ำที่มีอ่างอาบน้ำ มีฝักบัวและกระจก Tempered Glass กั้น
มุมนั่งเล่นข้างหน้าต่างในห้องนอนใหญ่
แบบที่ 2 (บ้านโทนสีพาสเทล หลังสีเขียวอ่อน)
หน้าตาภายนอกของบ้านหลังนี้เหมือนกันกับแบบแรกทั้งในส่วนของรั้ว ตู้จดหมาย ถังขยะ กริ่งหน้าบ้านและโคมไฟหน้าบ้าน รวมไปถึงสนามหญ้าและต้นไม้น้อยใหญ่รอบบ้าน จะต่างกันก็ตรงที่ขนาดของที่ดิน และพื้นที่ใช้สอยที่หลังนี้มีห้องแม่บ้านและห้องน้ำแม่บ้าน อยู่ด้านหลังบ้าน
ห้องแม่บ้านและห้องน้ำแม่บ้าน อยู่ด้านหลังบ้าน
ทั้งนี้ภายในบ้านชั้นล่างออกแบบให้ดูโล่ง โปร่ง และกว้าง ไร้ประตูกั้นแบ่ง ซึ่งหากเข้าทางประตูรับแขกบานใหญ่จะมีที่จัดไว้สำหรับรับแขก และนั่งดูทีวีได้
ถัดเข้าไปกลางบ้านเป็นส่วนของโต๊ะอาหารขนาดใหญ่
ถัดมาทางฝั่งขวามือเป็นที่นั่งเล่นอ่านหนังสือ และทำงานได้ มีเฉลียงเปิดออกไปนั่งเล่นชมสวนด้านนอกได้ ซึ่งจุดนี้ถือเป็นเอกลักษณ์อย่างหนึ่งของคอนเซ็ปต์การออกแบบบ้านของที่นี่ เพราะสไตล์บ้านแบบบ้านสวนของชาวตะวันตกจะมีเฉลียงด้านนอกสำหรับจิบชายามบ่ายนั่นเอง
กลับเข้ามาในบ้านฝั่งซ้ายเป็นครัวแบบเปิดที่ยกเคาน์เตอร์ครัวขนาดใหญ่มาไว้ เหมาะสำหรับคนที่ชอบทำอาหารหากแต่ในชีวิตจริง แนะนำให้กั้นห้องด้วยประตูกระจกบานเลื่อน เพื่อป้องกันกลิ่นอาหารรบกวน
แต่เรื่องการระบายอากาศถือว่าหายห่วงเพราะมีช่องแสง มีหน้าต่างระบายอากาศหลายบาน และความสูงจากพื้นจรดเพดานก็สูงถึง 3.3 เมตร ซึ่งทำให้โปร่ง โล่ง ไม่อึดอัด
ส่วนห้องน้ำชั้นล่างจะอยู่ใต้บันไดทางขึ้นชั้นบน คือหากเข้าบ้านทางประตูที่จอดรถจะเปิดประตูมาเจอห้องน้ำได้เลย สะดวกสำหรับกรณีที่กลับมาจากข้างนอกแล้วต้องการเข้าห้องน้ำแบบเร่งด่วน
ชั้นบน มีไฮไลท์ที่แสดงถึงเอกลักษณ์ของบ้านได้อีก 1 จุด คือ บริเวณโถงกลางบ้าน จัดไว้เป็นมุมทำงาน และโชว์ผลงานชิ้นเอกของตนเอง
รวมถึงมีระเบียงรับลมด้านข้างบ้านที่เราสามารถจัดให้เป็นมุมโปรดตามแต่ไลฟ์สไตล์ของตัวเอง
ซึ่งบ้านตัวอย่างเนรมิตให้เป็นมุมนั่งเล่นแบบเปิดโล่ง นั่งจิบไวน์เย็นๆ ยามพลบค่ำ ชมวิวริมน้ำให้คลายเหนื่อย (หากอยากได้วิวริมน้ำ ต้องเป็นบ้านหลังหัวมุม)
ห้องนอนเล็กที่ 1 และห้องน้ำในตัว
ห้องนอนเล็กที่ 2 และห้องน้ำในตัว
ห้องนอนเล็กที่ 2
ห้องนอนใหญ่และห้องน้ำในตัวที่มีอ่างอาบน้ำให้ พร้อมแยกอ่างล้างหน้าชาย หญิง รวมถึงเตรียมต่อระบบน้ำร้อน-น้ำเย็นไว้ให้ด้านล่างของอ่างล้างหน้าเรียบร้อยแล้ว
ส่วนของห้องนอนก็ออกแบบให้ทุกห้องมีห้องน้ำในตัว โดยห้องนอนเล็ก 2 ห้องอยู่ฝั่งเดียวกัน ส่วนห้องนอนใหญ่ ยึดพื้นที่ด้านหน้าของบ้านเหมือนกับหลังแรก มีส่วนของ Walk-in closet และห้องน้ำที่กว้างมากรวมถึงมีอ่างอาบน้ำให้ (ห้องน้ำทุกห้องได้จริงตามภาพ)
ทําเล & การเดินทาง
วิเคราะห์ศักยภาพทำเลถนนรามอินทรา และที่ตั้งโครงการ
ถนนรามอินทราเดิมมีพื้นที่ว่างเปล่าอยู่มาก แต่ปัจจุบันเมื่อเมืองขยาย มีระบบการคมนาคมที่เชื่อมต่อถนนหลายสายทำให้ถนนสายนี้มีความโดดเด่นด้านพาณิชยกรรมมากขึ้น เพราะมีทั้งห้างสรรพสินค้า ตลาดสด ร้านค้ารายย่อย ร้านอาหาร โรงพยาบาล โรงเรียนตลอดแนวถนน ส่วนพื้นที่ด้านในตามแนวถนนสายรองก็จะเป็นส่วนของพื้นที่อยู่อาศัย ทั้งโครงการจัดสรรเก่าที่ปิดขายไปแล้ว และโครงการใหม่ที่เปิดขายกว่าหลายสิบโครงการ
ทั้งนี้ปัจจุบันถนนรามอินทรานับจากช่วงแยกสวนสยามไปบรรจบกับถนนร่มเกล้า ส่วนใหญ่ยังคงเป็นบ้านจัดสรรระดับกลางถึงบน อาทิ โครงการแกรนด์ บางกอก บูเลอวาร์ด รามอินทรา และไลฟ์ บางกอก บูเลอวาร์ดของ บมจ.เอสซี แอสเสทฯ, โครงการกรีนิชของกลุ่มรับเหมาไทยโพลีคอนส์ เป็นต้น ส่วนคอนโดมิเนียมยังมีไม่มากนัก แต่คาดว่าหากรถไฟฟ้าเริ่มดำเนินการ จะเห็นสัญญาณของที่อยู่อาศัยประเภทคอนโดฯ มากขึ้นตามไปด้วย
สำหรับที่ตั้งโครงการ บ้านริมสวน รามอินทรา ตั้งอยู่ถนนรามอินทรา 119/1 ซึ่งค่อนไปทางปลายๆ ของถนนรามอินทรา ห่างจากเลี้ยวซ้ายไปสุวินทวงศ์ประมาณ 800 เมตร ซึ่งถือว่าได้เปรียบในเรื่องของที่ตั้งที่ติดถนน ไม่ต้องเข้าซอย มีสิ่งอำนวยความสะดวกรอบโครงการ แม้โดยรอบโครงการจะมีปริมาณรถที่มีจำนวนมาก หากแต่ทางโครงการมีการเว้นพื้นที่ทางเข้าโครงการที่ลึกพอควร ทำให้มีความเป็นส่วนตัว และปลอดภัยมากขึ้น
การเดินทาง : 1. รถยนต์ส่วนตัว : เดินทางด้วยถนนหลักรามอินทราเป็นเส้นหลัก มีทางด่วนรามอินทรา – อาจณรงค์ให้ใช้วิ่งตัดเข้าเมือง หรือจะเลือกใช้เส้นวงแหวนตะวันออกก็ได้ เพราะสามารถเชื่อมไปต่างจังหวัดได้สบายๆ
ทั้งนี้เราเดินทางจากถนนเกษตรตัดใหม่ เลี้ยวซ้ายเข้าถนนรามอินทรา (มีนบุรี)
ตรงตามทางไปเรื่อยๆ ขึ้นสะพาน (ที่เขียนว่ามีนบุรี) พอลงสะพานก็ขับไปเรื่อยๆ ตามถนนรามอินทรา จนเจอซอยรามอินทรา 119/1
ให้สังเกตฝั่งซ้ายมือ จะเจอทางเข้าโครงการอยู่ซ้ายมือติดถนนใหญ่พอดี ติดกับบริษัทกีฟฟารีน โครงการจะอยู่ก่อนโรงเรียนเศรษฐบุตรบำเพ็ญ
2.รถไฟฟ้า : สายสีชมพู (ปากเกร็ด- มีนบุรี) สถานีเศรษฐบุตรบำเพ็ญ ห่างจากโครงการประมาณ 500 ม.
3.มอเตอร์ไซด์รับจ้าง : ห่างจากโครงการ 1 ป้ายรถเมล์
4.รถเมล์ : ห่างจากโครงการประมาณ 500 ม.
5.รถสองแถว : มีนบุรี
รถตู้: มีนบุรี, รามอินทรา
สถานที่แนว Lifestyle
คนส่วนใหญ่เน้นไปเดินเล่นที่แฟชั่นไอส์แลนด์เพราะอยู่ใกล้ นอกจากนี้ก็มีเหล่าซูเปอร์สโตร์อย่าง แม็คโคร, เทสโก้ โลตัส, บิ๊กซี, เซ็นทรัล รามอินทรา, ตลาดมีนบุรี รวมถึง คอมมูนิตี้มอลล์ตรงข้ามโรงพยาบาลนพรัตน์ราชธานีอย่าง Amorini อยู่ห่างโครงการประมาณ 2.4 กิโลเมตร
ส่วนใครที่อยากหาร้านนั่งดื่ม พบปะเพื่อนฝูงตอนเย็นก็ต้องขยับมาทางเส้นเลียบด่วนรามอินทรา ไปเดินเล่นที่ตลาดนัดเลียบด่วน และเส้นเกษตรตัดใหม่ที่มีร้านนั่งฟังเพลงชิลล์ๆ เพียบ
บทวิเคราะห์
วิเคราะห์อัตราผลตอบแทนที่จะได้รับ
บ้านไซด์ S อัตราเช่าเฉลี่ยอยู่ที่ 20,000 -50,000 บาท/ ยูนิต /เดือน หากเป็นบ้านไซด์ M เฉลี่ยจะอยู่ที่ 50,000 บาทขึ้นไป/ยูนิต/เดือน
เปรียบเทียบกับโครงการอื่น
1.โครงการเสนาพาร์ค แกรนด์ รามอินทรา บ้านเดี่ยว 2 ชั้นตั้งอยู่บนถนนวงแหวนตะวันออก (บางนา-บางปะอิน) ดำเนินงานโดยบริษัท เสนาดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) พื้นที่ใช้สอย 239 ตร.ม.ขนาด 4 ห้องนอน 4 ห้องน้ำ 1 ห้องรับแขก / นั่งเล่น + 1 ห้องพักผ่อน 1 มุมอ่านหนังสือ/ทำงาน + 1 ห้องแม่บ้าน ที่จอดรถ 2 คัน ราคาเริ่มต้น 6-10 ล้านบาท
2.โครงการฮาบิเทีย เวนต์ ปัญญาอินทรา บ้านเดี่ยว 2 ชั้น 4 ห้องนอนสไตล์โมเดิร์น จากบริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) ตั้งอยู่ใกล้ทางด่วนจตุโชติ รามอินทรา วัชรพล บนที่ดินเริ่มต้นที่ 100 ตร.ว. พื้นที่ใช้สอยเริ่มต้น 175 ตร.ม. 3 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ 3 ที่จอดรถ ราคาเริ่มต้น 8.9 ล้านบาท
สรุป
โครงการบ้านริมสวน รามอินทรา ตั้งอยู่ในทำเลที่ดี เดินทางสะดวก แต่ในช่วงชั่วโมงเร่งด่วนการจราจรก็หนาแน่นอยู่ไม่น้อย อย่างไรก็ตามโครงการอยู่ใกล้กับทางด่วนและเส้นวงแหวนเป็นทางเลือกที่ช่วยอำนวยความสะดวกในการเดินทางเข้า-ออกเมือง ทั้งนี้ หากโครงการรถไฟฟ้าสายสีชมพู ซึ่งจะอยู่ห่างจากโครงการเพียง 500 เมตรเกิดขึ้นและเปิดให้บริการในอนาคตลูกบ้านของโครงการนี้ก็จะมีทางเลือกในการเดินทางมากขึ้น
ข้อดีอีกอย่างหนึ่งคือการที่โครงการตั้งอยู่ติดถนนรามอินทรา ไม่ต้องเข้าซอยลึก ภายในโครงการมีรั้วรอบโครงการสูงประมาณ 5 เมตร CCTV รอบโครงการ และรปภ. 24 ชั่วโมง
ทั้งนี้หากมีเงินเย็นก็น่าซื้อไว้เป็นบ้านหลังที่สอง และหากคิดจะลงทุนก็ต้องเป็นระยะยาวรอรถไฟฟ้าสร้างเสร็จ ปัจจุบันบ้านไซด์ S อัตราเช่าเฉลี่ยอยู่ที่ 20,000 – 50,000 บาท/ยูนิต/เดือน หากเป็นบ้านไซด์ M เฉลี่ยจะอยู่ที่ 50,000 บาทขึ้นไป/ยูนิต /เดือน ซึ่งแน่นอนว่าหากรถไฟฟ้าแล้วเสร็จราคาต้องปรับขึ้นอีกแน่นอน