The Shelter โครงการบ้านเดี่ยว และโฮมออฟฟิศตั้งอยู่ในย่านธุรกิจชั้นนำ เพชรเกษม–พุทธมณฑลสาย 5 บนทำเลที่ดีที่สุดติดถนนเพชรเกษม เดินทางเข้าออกโครงการได้ง่าย ใกล้รถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินส่วนต่อขยายที่เชื่อมต่อถึงพุทธมณฑลสาย 4 ในอนาคต กับราคาเริ่มต้นที่ 10 ล้านบาท
ถึงแม้ในช่วง 1-2 ปีที่ผ่านมา ภาพรวมของตลาดอสังหาริมทรัพย์ทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัดจะเกิดการชะลอตัวบ้าง แต่ทำเลเมืองท่าอย่างชลบุรีกลับมีทิศทางที่สวนกระแส ด้วยการพัฒนาใหม่ๆ ที่เกิดขึ้นในพื้นที่ ไม่ว่าจะเป็นทั้งโครงการเชิงพาณิชย์ โครงการที่อยู่อาศัยทั้งแนวราบและคอนโดมิเนียม โดยมีผู้ประกอบการทั้งรายใหญ่ และรายย่อยให้ความสนใจเข้ามายึดหัวหาดเปิดตัวกันอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้เพราะมองเห็นโอกาสที่ดีในการพัฒนา โดยในจำนวนนี้ก็มีผู้ประกอบการท้องถิ่น อย่าง “บริษัท เท็นทีค ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด” ที่ที่รู้ดีถึงศักยภาพของเมืองชลบุรี และผุดโครงการในรูปแบบที่ตอบโจทย์ความต้องการของคนในพื้นที่ อย่าง “พรีเมียร์ พลัส สุขประยูร” (Premier Plus Sukprayoon) โมเดิร์นโฮมออฟฟิศ 3.5 ชั้น บนขนาดที่ดิน 58-98 ตร.ว. กับพื้นที่ใช้สอยตั้งแต่ 449 – 630 ตร.ม. เพียง 8 ยูนิต ในย่านการค้าของตัวเมืองชลบุรีกับราคาขายเริ่มต้นที่ 12 ล้านกว่าบาท เพื่อรองรับดีมานด์จากกลุ่มนักธุรกิจในพื้นที่ รวมไปถึง นักลงทุนที่หลั่งไหลเข้ามายังพื้นที่จังหวัดชลบุรีอย่างต่อเนื่อง
เจาะลึกข้อมูลโครงการ (ณ วันที่ 14 กรกฎาคม 2559)
ชื่อโครงการ: พรีเมียร์ พลัส สุขประยูร (Premier Plus Sukprayoon)
เจ้าของโครงการ: บริษัท เท็นทีค ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด
ตัวแทนขายโครงการ: Estate Corner Agency
ที่ตั้งโครงการ: ถนนศุขประยูร ตำบลบ้านสวน อำเภอเมือง จังหวัดชลบุรี
โทร: 094 795 1626
เว็บไซต์: www.thepremierplus.com
รายละเอียดโครงการ
เนื้อที่โครงการ: 1-2-85 ไร่
รูปแบบโครงการ: โมเดิร์นโฮมออฟฟิศ 3.5 ชั้น พร้อมชั้น G บนขนาดที่ดิน 58-98 ตรว. กับพื้นที่ใช้สอยตั้งแต่ 449 – 630 ตร.ม. จำนวน 8 ยูนิต
เปิดขาย: มิถุนายน 2559
สถานะการขาย: 12.5 %
สถานะการก่อสร้าง: สร้างเสร็จพร้อมโอนฯ
ระบบรักษาความปลอดภัย: เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย 24 ชั่วโมง
ราคาขายเริ่มต้น: 12 ล้านบาท
ราคาเฉลี่ย: 190,000 บาท/ตร.ว.
รูปแบบโฮมออฟฟิศ:
Type A พื้นที่ใช้สอย ตั้งแต่ 449 – 631 ตร.ม. หน้าบ้านกว้าง 6.9 เมตรโดยประมาณ ประกอบไปด้วย 3 ห้องนอน 5 ห้องน้ำ 1 ห้องโถงใหญ่ 3 ห้องอเนกประสงค์ และที่จอดรถ 5-8 คัน
Type B พื้นที่ใช้สอยตั้งแต่ 449 – 631 ตร.ม. หน้าบ้านกว้าง 6.9 เมตรโดยประมาณ ประกอบไปด้วย 3 ห้องนอน 5 ห้องน้ำ 1 ห้องโถงใหญ่ 3 ห้องอเนกประสงค์ และที่จอดรถ 5-8 คัน
*หมายเหตุ: ทั้ง 2 แบบจะเหมือนกันหมดต่างกันที่ Type A อยู่ฝั่งขวา และ Type B อยู่ฝั่งซ้าย เทานั้นเอง
รายละเอียดโครงการ
รีวิวภาพรวมโครงการ
พรีเมียร์ พลัส สุขประยูร โมเดิร์นโฮมออฟฟิศ 3.5 ชั้น พร้อมชั้น G บนขนาดที่ดินระหว่าง 58-98 ตร.ว. กับพื้นที่ใช้สอยตั้งแต่ 449 – 630 ตร.ม. โดยมีเพียง 8 ยูนิตเท่านั้น บนเนื้อที่โครงการ 1-2-85 ไร่ โดยโครงการนี้จะมีทั้งหมด 2 แบบได้แก่ Type A และ Type B เป็นยูนิตเปล่าๆ ไม่มีการตกแต่ง โดยทั้ง 2 แบบจะมีความต่างในเรื่องของการจัดวางแปลนที่ขนานกัน พื้นที่ใช้สอยของแต่ละยูนิตเริ่มต้นที่ 449 ตร.ม. ทำให้สามารถจอดรถได้ประมาณ 5 คัน จนไปถึงพื้นที่ใช้สอยเริ่มต้นรวมที่ 631 ตร.ม. ที่สามารถจอดรถได้ประมาณ 8 คัน ทั้งหมดนี้ขึ้นอยู่กับขนาดของที่ดินของแต่ละแปลงนั่นเอง แต่ละยูนิตจะประกอบไปด้วย 3 ห้องนอน 5 ห้องน้ำ 1 ห้องโถงใหญ่ 3 ห้องอเนกประสงค์ ซึ่งจะเหมือนกันทุกหลัง ในเรื่องของความปลอดภัยของโครงการจะมีเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย ทำหน้าที่ดูแลโครงการตลอด 24 ชั่วโมง
โครงการตั้งอยู่ใกล้กับบริเวณปากซอยบ้านสวน – ศุขประยูร 23 ภายในซอยนี้จะเป็นบ้านเดี่ยวเกือบทั้งหมด ถนนภายในซอยจะกว้างประมาณ 6 เมตร เป็นถนนที่ใช้เข้าทางด้านหลังของตัวอาคาร โดยที่ตั้งโครงการจะอยู่ห่างหน้าทางเข้ากองพันทหารปืนใหญ่ที่ 21 รักษาพระองค์ มาประมาณ 450 เมตร บริเวณช่วงทางโค้งลงเนินก่อนเข้าสู่ตัวเมือง โดยที่ตั้งโครงการอยู่ห่างจากตัวเมือง (แยกเฉลิมไทย) ประมาณ 1.6 กม.
Master Plan
ชั้น G พื้นที่ชั้น G มีพื้นที่จอดรถสามารถจอดรถได้ 2-4 คัน (ตามขนาดของพื้นที่แต่ละเปลง) นอกจากนี้ยังเป็นพื้นที่ห้องเก็บของ, ห้องทำงานพร้อมพื้นที่นั่งเล่น, ห้องน้ำ 1 ห้อง และหลังบ้านเป็นพื้นที่สีเขียวสำหรับนั่งพักผ่อนได้
ชั้น 1 (Office Area) พื้นที่ชั้น 1 มีพื้นที่สำหรับเป็นแผนกต้อนรับเพื่อรับรองแขก, ห้องทำงานส่วนตัว, ห้องครัวและห้องรับประทานอาหารสำหรับพนักงาน, ห้องน้ำจำนวน 1 ห้อง และ ที่จอดรถด้านหน้า 2 คัน
ชั้นลอย (Office Area) พื้นที่ชั้นลอย มีพื้นที่สำหรับทำงานขนาดใหญ่เต็มพื้นที่ ห้องประชุม และห้องน้ำจำนวน 1 ห้อง
ชั้น 2 (Family Room) พื้นที่ชั้น 2 เป็นห้องนั่งเล่นและห้องรับประทานอาหารสำหรับครอบครัว และ ห้องน้ำจำนวน 1 ห้อง
ชั้น 3 (bedrooms) พื้นที่ชั้น 3 เป็นห้องนอน 3 ห้องให้ความรู้สึกความเป็นส่วนตัวยิ่งขึ้น และ ห้องน้ำ 1 ห้อง
รีวิวภายในบ้านตัวอย่าง
ดีไซน์ของตัวอาคารเป็นโฮมออฟฟิศสไตล์โมเดิร์น ด้วยความโอ่อ่าของตัวอาคาร จึงให้ความรู้สึกเหมือนกับบ้านแฝดหลังใหญ่
Type A จะเป็นฝั่งขวามือ Type B จะเป็นฝั่งซ้ายมือ ซึ่งทั้ง 2 แบบจะเหมือนกัน ต่างกันก็แต่ขนาดของพื้นที่ และแปลนที่กลับด้านกันเท่านั้นเอง
ด้านหน้าทางเข้าชั้น 1 มีการออกแบบด้านหน้าทางเข้าประตูให้ยื่นออกมาเพื่อเพิ่มมิติให้กับตัวอาคาร พร้อมการเข้ามุมของกระจกเพื่อสร้างลูกเล่น
มุมมองภายในตัวอาคาร จะเป็นโถงโถงโล่งขนาดใหญ่ ผนังเป็นคอนกรีตฉาบเรียบสีขาว ขนาด 7 x 15 เมตร โดยประมาณ
พื้นบริเวณชั้น 1 ปูด้วยประเบื้องแกรนิตโต้ผิวเรียบเงา ขนาด 60 x 60 ซม. เช่นเดียวกับพื้นของบริเวณชั้นลอย
เพดานห้องโถงสูงสุดอยู่ที่ 5 เมตรโดยประมาณ ทำให้ภายในตัวอาคารดูโปร่งโล่งเป็นอย่างยิ่ง ส่วนความสูงเพดานใต้ชั้นลอยประมาณ 2.5 เมตรโดยประมาณ ซึ่งเป็นระดับความสูงที่มาตรฐาน
พื้นที่ด้านหน้าเป็นบานกระจกบานใหญ่หนา 8 มม. กับขอบอะลูมิเนียมดำ ช่วยในการรับแสงเข้ามาในตัวอาคาร พร้อมยังเปิดรับมุมมองจากทั้งด้านนอกและด้านใน และสร้างความสวยงามให้กับตัวอาคารอีกด้วย
พื้นที่ด้านในนี้จะเป็นส่วนที่จะไปได้ทั้งบริเวณใต้อาคาร และชั้นลอย ซึ่งจะมีบันไดอยู่ทางซ้ายมือ อีกทั้งยังมีระเบียงอยู่ด้านหลังอีกด้วย
ถ้าหากลงบันไดไปยังชั้น G ก็จะพบห้องน้ำอยู่ตำแหน่งเดียวกัน โดยจะมีการแยกส่วนเปียก-แห้ง พร้อมฉากกั้นอาบน้ำมาให้พร้อม และหน้าต่างบานกระทุ้งเพื่อระบายอากาศ
พื้นที่ชั้น G เป็นโถงโล่งขนาดใหญ่ สามารถดัดแปลงใช้ได้ตามความต้องการ ที่เรียกชั้น G ก็เพราะชั้นนี้ไม่ได้อยู่ใต้ดิน แต่อยู่ต่ำกว่าถนนใหญ่บริเวณด้านหน้านั่นเอง
พื้นที่ทางเข้าด้านหลังที่เราเรียกว่าชั้น G อยู่ในระนาบเดียวกับถนนถายในซอยซึ่งเราสามารถเข้ามาจากทางปากซอย บ้านสวน-ศุขประยูร 23 ได้ปกติ
กลับขึ้นมายังบริเวณของพื้นที่ชั้นลอย จะใช้วัสดุเช่นเดียวกับชั้นหนึ่ง โดยชั้นลอยนั้นจะมีพื้นที่ประมาณ ¾ ของพื้นที่ชั้น 1
โดยชั้นนี้จะมีห้องน้ำอยู่ซ้ายมือของทางขึ้น ทำให้ระเบียงของชั้นนี้จะมีขนาดครึ่งหนึ่งของชั้น 1 ส่วนฝ้าเพดานใช้ยิปซั่มบอร์ดหนา 9 มม.
จากการดู Master Plan ทำให้เห็นพื้นที่ชั้น 1 ส่วนหน้า ถูกออกแบบให้เป็น Front office สำหรับผู้มาติดต่อ
ภายในห้องครัวแบบปิดมีระบบการถ่ายเทอากาศที่ดี นอกจากหน้าต่าง บานเลื่อน แล้วยังมีประตูที่สามารถเปิดออกไปสู่ระเบียงได้อีกด้วย
เมื่อขึ้นมาบริเวณชั้น 3 จะมีแต่พื้นที่ทางเดิน โดยส่วนที่เหลือจะถูกกั้นเป็นห้องๆ โดยสามารถใช้เป็นห้องประชุมหรือห้องนอนก็ได้ตามต้องการ
ห้อง 2 (ห้องตรงกลาง) ขนาด 3.5 x 4.10 เมตร มีระเบียงอยู่ด้านข้าง ซึ่งจะหันไปตรงกับยูนิตข้างๆ พอดิบพอดี
ทําเล & การเดินทาง
วิเคราะห์ศักยภาพทำเล
จังหวัดชลบุรีเป็นทำเลที่มีความได้เปรียบทางภูมิศาสตร์ เนื่องจากมีชายฝั่งทะเลทอดยาวกว่า 160 กิโลเมตร ถึงแม้จะเข้าในฤดูมรสุมคลื่นลมก็ไม่รุ่นแรงมากนัก ซึ่งส่งผลให้จังหวัดชลบุรีกลายเป็นพื้นที่เหมาะสมในการสร้างท่าจอดเรือพาณิชย์ ทั้งขนาดใหญ่ และขนาดเล็กได้เป็นอย่างดีสำหรับการค้าขายทางทะเล ส่งผลให้จังหวัดชลบุรีเป็นเมืองสำคัญทางด้านอุตสาหกรรมและการค้าขายของภาคตะวันออก โดยมีท่าเรือแหลมฉบังเป็นท่าเรือพาณิชย์สำคัญของประเทศ รองจากกรุงเทพฯ ประกอบกับตำแหน่งที่ตั้งของชลบุรีที่อยู่ใกล้กับกรุงเทพฯ ใช้เวลาเดินทางไม่ถึงชั่วโมง อีกทั้งไม่ไกลจากสนามบินสุวรรณภูมิมากนัก ก็ยิ่งเสริมให้ชลบุรีกลายเป็นเมืองสำคัญ ที่มีการลงทุนจากภาครัฐมากที่สุดจังหวัดหนึ่งเลยทีเดียว
อีกหนึ่งปัจจัยสำคัญที่ทำให้ชลบุรีกลายเป็นที่สนใจของเหล่านักพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ นั่นคือใกล้นิคมอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ต่างๆ อาทิ นิคมอุตสาหกรรมเหมราช ชลบุรี, นิคมอุตสาหกรรมอมตะนคร, นิคมอุตสาหกรรมปิ่นทอง, นิคมอุตสาหกรรมแหลมฉบัง, นิคมอุตสาหกรรมบ้านบึง และ นิคมอุตสาหกรรมเหมราชอีสเทิร์นซีบอร์ด ซึ่งถือเป็นแหล่งงาน และพื้นที่ทางเศรษฐกิจขนาดใหญ่ ที่ขับเคลื่อนให้ชลบุรีเกิดการพัฒนาทางเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่องประกอบกับการที่เป็นเมืองหน้าด่านชายทะเล และประตูสู่ภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ก็ยิ่งเป็นการตอกย้ำให้เห็นถึงศักยภาพของจังหวัดนี้ และจึงไม่น่าแปลกใจหากจะเกิดความต้องการด้านอสังหาริมทรัพย์เพิ่มขึ้น ทั้งในรูปแบบที่อยู่อาศัย การท่องเที่ยว และเชิงพาณิชย์
วิเคราะห์ทำเลที่ตั้งโครงการ
พรีเมียร์ พลัส สุขประยูร ตั้งอยู่ติดกับถนนใหญ่อย่างถนนศุขประยูร ห่างจากตัวเมือง (แยกเฉลิมไทย) ประมาณ 1.6 กม. สิ่งปลูกสร้างต่างๆ ภายในตัวเมือง กว่า 90% นั้นจะเป็นอาคารพาณิชย์ขนาด 2-3 ชั้น โดยมีอายุไม่ต่ำกว่า 20 ปี โดยคนพื้นที่ส่วนใหญ่จะเป็นเจ้าของธุรกิจ โดยจะใช้พื้นที่ด้านหน้าของอาคารพาณิชย์เหล่านี้ทำการค้าขาย ใช้ด้านบนเป็นพื้นที่พักอาศัย และด้านล่างใช้ประกอบกิจการทั้งค้าส่ง และค้าปลีก ทำให้ทุกๆ เช้าจะมีผู้คนในพื้นที่เข้ามาจับจ่ายใช้สอยในตัวเมืองเป็นจำนวนมาก
ด้วยการที่เป็นเขตอำเภอเมือง ทำให้ในย่านนี้มีองค์ประกอบที่สำคัญสำหรับการอยู่อาศัยอย่างครบถ้วนไม่ว่าจะเป็นโรงเรียนประจำจังหวัด สนามกีฬาประจำจังหวัด ศาลากลาง และสถานที่ราชการต่างๆ ของจังหวด อีกทั้งยังมีพื้นที่ไลฟ์สไตล์ อาทิ ห้างสรรพสินค้าท้องถิ่นอย่างเช่น ห้างเฉลิมไทย, พลัสมอลล์, วิคตอรี่ เซ็นเตอร์ เป็นต้น รวมไปถึงศูนย์การค้าชื่อดังแห่งใหม่อย่าง เซ็นทรัล พลาซ่า ชลบุรี ตกเย็นก็จะมีตลาดนัดบริเวณรอบลานคนเมืองที่มีขายทั้งอาหารสด และแบบปรุงสำเร็จพร้อมทานให้ผู้คนในพื้นที่ออกมาจับจ่ายใช้สอย หรือนั่งทานอาหารนอกบ้านกัน ทำให้ย่านนี้คับคั่งตั้งแต่เช้ายันเย็น
ในเรื่องของการเดินทางก็สะดวกสบายเพราะขับรถเพียงแค่ 3 นาทีก็ถึงถนนบายพาส 10 นาทีถึงจุดขึ้น – ลงมอเตอร์เวย์ หากคิดจะไปเที่ยวบางแสนก็ใช้เวลาเดินทางเพียง 15 นาที อีกทั้งยังอยู่ใกล้กับนิคมอุตสาหกรรมอมตะนคร ที่ถือเป็นแหล่งงานขนาดใหญ่ของย่านนี้อีกด้วย และที่สำคัญขับรถเพียงแค่ 30 นาทีก็ถึงสนามบินสุวรรณภูมิ
การเดินทาง
รถยนต์
เส้นทางที่ 1 ใช้เส้นทางสายบางนา-ตราด (ทางหลวงหมายเลข 34) เข้าสู่จังหวัดชลบุรี (อำเภอเมือง) เลี้ยวซ้ายบริเวณแยกเฉลิมไทย ตรงเข้าสู่ถนนศุขประยูร ตรงไปตามทางประมาณ 1.6 กม. ก็จะเห็นที่ตั้งโครงการอยู่ทางขวามือ ให้ไปกลับรถที่บริเวณ กองพันทหารปืนใหญ่ที่ 21 รักษาพระองค์ แล้วตรงมา ตามถนนศุขประยูรประมาณ 450 เมตร ก็จะถึงที่ตั้งโครงการอยู่ทางซ้ายมือ รวมระยะทางจากกรุงเทพฯ (แยกบางนา) ประมาณ 80 กิโลเมตร
จากถนนบางนา-ตราด (ทางหลวงหมายเลข 34) มุ่งหน้าสู่จังหวัดชลบุรี (อำเภอเมือง) จะผ่านนิคมอุตสาหกรรมอมตะนคร
ตรงมาตามถนนศุขประยูรประมาณ 450 เมตร ก็จะถึงที่ตั้งโครงการอยู่ทางซ้ายมือ บริเวณปากซอยบ้านสวน – ศุขประยูร 23
เส้นทางที่ 2 ใช้เส้นทางหลวงพิเศษ (มอเตอร์เวย์) สายกรุงเทพฯ-ชลบุรี-พัทยา เลี้ยวซ้ายเข้า อ.พนัสนิคม และเลี้ยวขวาเข้าถนนศุขประยูร มุ่งหน้าเข้าสู่อำเภอเมือง จากนั้นจะเห็นกองพันทหารปืนใหญ่ที่ 21 รักษาพระองค์ อยู่ทางขวามือแสดงว่าใกล้จะถึงที่ตั้งโครงการแล้วให้ตรงไปอีกประมาณ 450 เมตร ก็จะถึงที่ตั้งโครงการอยู่ทางซ้ายมือ รวมระยะทางจากกรุงเทพฯ ประมาณ 80 กิโลเมตร (จากแยกบางนา) หรือใช้เวลาเดินทางประมาณ 45 นาที
จากนั้นจะเห็นกองพันทหารปืนใหญ่ที่ 21 รักษาพระองค์ อยู่ทางขวามือให้ตรงไปอีกประมาณ 450 เมตร จะถึงที่ตั้งโครงการ อยู่ทางซ้ายมือบริเวณปากซอยบ้านสวน – ศุขประยูร 23
เส้นทางที่ 3 (เส้นทางรอง) ใช้เส้นทางสายกรุงเทพฯ-มีนบุรี (ทางหลวงหมายเลข 304) ผ่านจังหวัดฉะเชิงเทรา-บางปะกง เข้าสู่จังหวัดชลบุรี (อำเภอเมือง)
เส้นทางที่ 4 (เส้นทางรอง) ใช้เส้นทางสายเก่า ถนนสุขุมวิท (ทางหลวงหมายเลข 3) ผ่านจังหวัดสมุทรปราการ ไปจนถึงแยกอำเภอบางปะกง และให้แยกเข้าสู่เส้นทางหมายเลข 34 ไปจนถึงจังหวัดชลบุรี (อำเภอเมือง)
สถานที่แนวไลฟ์สไตล์
ตลาดเก่าหน้าเก๋ง 100ปี ชลบุรี
ห้างเฉลิมไทย (สี่แยกเฉลิมไทย)
เซ็นทรัล พลาซ่า ชลบุรี
บทวิเคราะห์
วิเคราะห์อัตราผลตอบแทนที่ได้รับ
แบบโฮมออฟฟิศ | ขนาด (ตร.ม.) | ราคาปล่อยเช่า (บาท/ เดือน) |
Type A – B | 449 – 631 | 80,000 – 80,000 ขึ้นไป |
เปรียบเทียบโครงการ
จากการลงพื้นที่ และสอบค้นข้อมูลเพื่อนำมาทำการเปรียบเทียบโครงการ ที่อยู่ในเซ็กเมนต์เดียวกันกับโครงการนี้ พบว่า ไม่มีโครงการในลักษณะอาคารพาณิชย์หรือโฮมออฟฟิศ ใหม่ๆ เกิดขึ้นเลยในย่านนี้ ทั้งๆ ที่ในอำเภอเมืองจะเป็นพื้นที่ทางการค้าก็ตาม รวมไปถึงอาคารพาณิชย์ของคนในพื้นที่ใช้ทำการค้าในเมืองส่วนใหญ่ก็ค่อนข้างจะเก่ามากแล้ว สะท้อนให้เห็นถึงซัพพลายที่มีอยู่อย่างจำกัด ประกอบกับถ้าหากมีใครสนใจที่จะขยายกิจการ หรือคนรุ่นใหม่ที่ต้องการต่อยอดทางธุรกิจของครอบครัว โปรเจกต์นี้ก็น่าจะเป็นแห่งเดียวที่สามารถตอบโจทย์เรื่องนี้ได้
สรุป
ถึงแม้ว่าโครงการ พรีเมียร์ พลัส สุขประยูร จะพัฒนาขึ้นโดยผู้ประกอบการท้องถิ่น หน้าใหม่ แต่ด้วยความที่เป็นคนในพื้นที่นี่เองที่ทำให้เข้าใจความต้องการของคนในย่านนี้เป็นอย่างดี โครงการเป็นแบบสร้างเสร็จพร้อมให้นักลงแวะเวียนเข้าไปเยี่ยมชมได้ตลอด อีกทั้งในเรื่องของการออกแบบพื้นที่ใช้สอยในส่วนต่างๆ ของตัวอาคารก็ถือว่าจัดมาได้อย่างลงตัว สามารถนำไปปรับเปลี่ยนได้ตามความเหมาะสมของการใช้งานที่หลากหลายทำให้น่าจะเป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับผู้ที่จะประกอบธุรกิจในพื้นที่
รวมไปถึงการต่อยอดทางธุรกิจใหม่ๆ ประกอบกับยูนิตจำนวนน้อยที่มีเพียง 8 ยูนิต ก็น่าจะทำให้โครงการนี้ปิดการขายไปได้ไม่ยาก เนื่องจากเรื่องของซัพพลายในเซ็กเมนต์เดียวกันนี้แทบไม่มีให้เห็นเลยในพื้นที่ ทั้งๆ ที่ตัวอำเภอเมืองนี้คือศูนย์รวมทางด้านธุรกิจ การค้า การลงทุน และไลฟ์สไตล์ หลักๆ ของจังหวัด ประกอบกับพื้นที่โดยรอบในจังหวัดก็มีนิคมอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ มากมาย ซึ่งล้วนเป็นพื้นที่ของฐานการผลิตหลักในประเทศ ก็ยิ่งเป็นสิ่งที่ตอกย้ำให้เห็นถึงศักยภาพของทำเล และด้วยปัจจัยเหล่านี้นี่เองล้วนเป็นสิ่งดึงดูดให้นักลงทุนทั้งรายย่อย และรายใหญ่ต่างหลั่งไหลเข้ามายังจังหวัดชลบุรีอย่างต่อเนื่อง