The Shelter โครงการบ้านเดี่ยว และโฮมออฟฟิศตั้งอยู่ในย่านธุรกิจชั้นนำ เพชรเกษม–พุทธมณฑลสาย 5 บนทำเลที่ดีที่สุดติดถนนเพชรเกษม เดินทางเข้าออกโครงการได้ง่าย ใกล้รถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินส่วนต่อขยายที่เชื่อมต่อถึงพุทธมณฑลสาย 4 ในอนาคต กับราคาเริ่มต้นที่ 10 ล้านบาท
สืบเนื่องจากโซนบางนา-สุวรรณภูมิ เป็นศูนย์กลางระบบขนส่งที่สำคัญของทางฝั่งตะวันออกของกรุงเทพฯ ประกอบกับในอนาคตย่านนี้ยังเป็นเส้นทางของรถไฟฟ้า 3 สาย อาทิ แอร์พอร์ต ลิงค์ รถไฟฟ้าสายสีเหลืองและเขียวเข้ม (อนาคต) จึงทำให้กลายเป็นทำเลรองรับความเจริญ อันเติบโตจากการขยายเมืองอย่างรวดเร็ว ด้วยเหตุนี้เองดีเวลลอปเปอร์อย่าง พฤกษา เรียลเอสเตท ได้มองเห็นความสำคัญของตลาดอสังหาริมทรัพย์ในโซนดังกล่าว จึงทำการต่อยอดพัฒนาโครงการแบรนด์ ภัสสร เพรสทีจ บางนา-สุวรรณภูมิ (Passorn Prestige Bangna- Suvarnabhumi) ให้กลายเป็นบ้านเดี่ยวระดับพรีเมียม พร้อมปรับสไตล์ดูทันสมัย ในรูปแบบ Luxury Loft เพื่อสังคมที่อยู่อาศัยอย่างมีคุณภาพ กับราคาเริ่มต้น 5.99 ล้านบาท
เจาะลึกข้อมูลโครงการ (ข้อมูล ณ วันที่ 27 มีนาคม 2560)
• ชื่อโครงการ: ภัสสร เพรสทีจ บางนา-สุวรรณภูมิ (Passorn Prestige Bangna – Suvarnabhumi)
• ผู้พัฒนาโครงการ: บริษัท พฤกษา เรียลเอสเตท จำกัด (มหาชน): PRUKSA
• ทำเลที่ตั้ง: ถนนกิ่งแก้ว ตำบลราชาเทวะ อำเภอบางพลี สมุทรปราการ
• เว็บไซต์: pruksa.com
• โทร: 1739
รายละเอียดโครงการ (ข้อมูล ณ วันที่ 27 มีนาคม 2560)
พื้นที่โครงการ: 49 ไร่ 26.9 ตร.ว.
ลักษณะโครงการ: บ้านเดี่ยว 2 ชั้น จำนวน 205 ยูนิต
กลุ่มเป้าหมาย: คนทำงาน กลุ่มครอบครัว ทั้งในพื้นที่ และบริเวณโดยรอบ
สถานะการก่อสร้าง: โครงการเริ่มก่อสร้างตั้งแต่เดือนเมษายน 2559 โดยคาดว่าจะแล้วเสร็จ 100 % ทั้งโครงการ ประมาณเดือนต้นปี 2561 (ขณะนี้มีบ้านพร้อมโอนแล้วบางส่วน)
ที่จอดรถ: 2 คัน / ยูนิต
สิ่งอำนวยความสะดวก: คลับเฮาส์ ประกอบไปด้วย สระว่ายน้ำ ฟิตเนส Co Working Space สวนสาธารณะ และสนามเด็กเล่น
ระบบรักษาความปลอดภัย: Easy Pass Entrance เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย และ กล้องวงจรปิดตลอด 24 ชั่วโมง
สถานะการขาย: เริ่ม Presale ไปเมื่อวันที่ 22-23 ต.ค. 59 ขายไปแล้วประมาณ 30%
เงื่อนไขการชำระเงิน: จอง 50,000 บาท ทำสัญญา 50,000 บาท
โปรโมชั่น: ฟรี! จัดสวน วอลเปเปอร์ ฉากกั้นห้องอาบน้ำชั้นบน สัญญาณนิรภัย ปั้มน้ำและถังสำรองน้ำ (บนดิน)
ค่าบริการสาธารณะ: 34 บาท / ตร.ว. / เดือน ชำระล่วงหน้า 36 เดือน ณ วันโอนกรรมสิทธิ
ราคาเริ่มต้น: 5.99 ล้านบาท
รูปแบบบ้าน: บ้านเดี่ยว สไตล์โมเดิร์น
Priva Present 3 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ ห้องรับแขก ห้องรับประทานอาหาร ห้องครัว พื้นที่ใช้สอย 142 ตร.ม. เนื้อที่ 51 ตร.ว.
Per Passion 3 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ ห้องพักผ่อนชั้นบน ห้องรับแขก ห้องรับประทานอาหาร ห้องครัว พื้นที่ใช้สอย 179 ตร.ม. เนื้อที่ 51 ตร.ว.
Panoramic Sense 3 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ ห้องพักผ่อนชั้นบน ห้องรับแขก ห้องรับประทานอาหาร ห้องครัว พื้นที่ใช้สอย 201 ตร.ม. เนื้อที่ 58 ตร.ว.
Proud Precious 3 ห้องนอน 4 ห้องน้ำ ห้องพักผ่อนชั้นบน ห้องรับแขก ห้องอเนกประสงค์ ห้องรับประทานอาหาร ห้องครัว ห้องแม่บ้าน พื้นที่ใช้สอย 222 ตร.ม. เนื้อที่ 60 ตร.ว.
รายละเอียดโครงการ
รีวิวภาพรวมโครงการ
สำหรับโครงการภัสสร เพรสทีจ กิ่งแก้ว-สุวรรณภูมินี้ เป็นการปรับโฉมรูปแบบบ้านใหม่ ให้ดูทันสมัยขึ้น มองดูอาจจะคล้ายกับโครงการเดอะ แพลนท์ โดยมีจุดเด่นที่พื้นที่ใช้สอยค่อนข้างกว้าง พร้อมเพิ่มพื้นที่พักผ่อน และห้องอเนกประสงค์ ทั้งนี้ยังแถมสัญญาณกันขโมยให้ทุกยูนิต เพื่อเป็นการสร้างความมั่นใจในเรื่องความปลอดภัยของโครงการ ซึ่งเนื้อที่ทั้งหมดของโครงการ ตั้งอยู่ริมถนนกิ่งแก้ว ข้อดีคือเดินทางสะดวก ง่าย ใกล้สถานที่ไลฟ์สไตล์ แต่อาจจะต้องแลกกับเสียงรถยนต์ที่วิ่งไปมาตลอดเวลาเล็กน้อย ซึ่งเจ้าของโปรเจกต์ได้แก้ปัญหาด้วยการเขยิบพื้นที่อยู่อาศัยเข้าไปประมาณ 300 เมตร จึงทำให้ยังคงเงียบสงบเป็นส่วนตัวอยู่
ก่อนจะเข้าไปดูส่วนยูนิตที่อยู่อาศัยด้านในโครงการ พื้นที่ด้านหน้าโครงการดังรูปนั้น ในอนาคตบริเวณนี้จะมีบ้านแฝด เพื่อการพาณิชย์
เมื่อเข้ามาในโครงการ พื้นที่สนามหญ้าดังรูป จะเป็นพื้นที่ของยูนิตที่อยู่อาศัยในอนาคต
การวางทิศทางโครงการ
ทิศเหนือ: ติดกับบริษัทผลิตรองเท้า (บริษัท วัฒนา ฟุตแวร์ จำกัด) และบริษัทรับซื้อเศษกระดาษ เศษเหล็ก (บริษัท บุญพงษ์กิจ)
ทิศใต้: ที่ดินเปล่า
ทิศตะวันออก: ติดกับถนนกิ่งแก้ว
ทิศตะวันตก: ติดกับบ้านเดี่ยว 2 ชั้น โครงการวิลล์มิลล์
สิ่งอำนวยความสะดวกภายในโครงการ
ความน่าสนใจของคลับเฮ้าส์โครงการนี้ นอกเหนือจากรูปแบบดีไซน์อันทันสมัย ด้วยการดีไซน์อาคารหรูหราถึง 2 ชั้นแล้ว เจ้าของโปรเจกต์ยังดีไซน์ให้มีพื้นที่ Co Working Space พร้อมด้วยสระว่ายน้ำขนาดใหญ่ระบบเกลือ ห้องออกกำลังกาย และสวนหย่อมขนาดใหญ่ กินเนื้อที่กว่า 2 ไร่
ภาพ perspective แสดงบรรยากาศของคลับเฮ้าส์หรูหรา 2 ชั้นของโครงการ โดยภายในจะอัดแน่นสิ่งอำนวยความสะดวกค่อนข้างหลากหลาย รวมถึง Co Working Space ด้วย
รีวิวภายในห้องตัวอย่าง
สิ่งที่จะได้รับจากโครงการ
พื้น: ชั้นล่าง กระเบื้องแกรนิตโต้ ขนาด 60×60 ซม. ชั้นบน ลามิเนต หนา 8 มม.
ความสูงพื้นจรดเพดาน: 2.6 เมตร
ประตู: บานสไลด์ พร้อมกรอบอลูมิเนียมสีน้ำตาล และกระจกตัดแสงสีเขียว
สุขภัณฑ์: Kohler
บรรยากาศบ้านตัวอย่างรูปแบบ Priva Present ที่มีพื้นที่ใช้สอย 142 ตร.ม. ประกอบด้วย 3 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ ห้องรับแขก และที่จอดรถ 2 คัน
รูปแบบบ้าน Priva Present เป็นขนาดเล็กสุดของโครงการ
สไตล์ของบ้าน เนื่องจากเป็นการปรับโฉมของแบรนด์ภัสสร จึงทำให้ตัวบ้านมีความทันสมัยมากขึ้น โดยใช้โทนสีน้ำตาล เทา ให้ดูอบอุ่นขึ้น ส่วนหลังคาใช้วัสดุซีแพคโมเนียหรือกระเบื้องลอนคู่ ซึ่งมีข้อดีที่น้ำหนักเบา ช่วยลดโครงสร้างหลังคาได้ดี
ประตูเข้าส่วนในบ้าน เป็นแบบบานเลื่อน กรอบอลูมิเนียมสีน้ำตาล พร้อมกระจกตัดแสงสีเขียว โดยบริเวณขั้นบันได จะถูกปูด้วยกระเบื้องแกรนิตโต้ผสมทรายล้าง ทำให้ไม่ลื่น แต่อาจจะทำความสะอาดยาก
เมื่อเข้ามาในตัวบ้าน แม้จะเป็นรูปแบบบ้านขนาดเล็ก แต่กลับสัมผัสได้ถึงความกว้าง สามารถสังเกตได้จากบริเวณโถงรับแขก
โถงรับแขก สามารถนำโซฟาขนาดพอเหมาะมาจัดวางได้ โดยสังเกตว่าบริเวณนี้ จะมีหน้าต่างบานสูง ที่ช่วยระบายอากาศและให้แสงลอดผ่านเข้าตัวบ้าน ทำให้เพิ่มความโปร่งได้ดี
เมื่อเดินมาข้างใน จะพบโซนนั่งกินข้าว บริเวณนี้จะล้อมรอบด้วยกระจก ทำให้แสงเข้ามาตัวบ้าน แต่อาจจะร้อนสักนิด ในช่วงบ่ายที่แดดส่องเข้ามา เนื่องจากไม่มีชายคาคลุม
อีกหนึ่งไอเดียของการตกแต่งบ้าน ที่มีการออกแบบส่วนของพื้นที่เตรียมอาหาร ทำให้สามารถจัดวางอาหาร เครื่องดื่ม เป็นมุมสำหรับปาร์ตี้ในครอบครัวและเพื่อนฝูงได้ดี แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น อาจจะต้องคำนึงถึงขนาดพื้นที่ใช้สอยด้วย เพราอาจทำให้บ้านแคบได้
โดยส่วนของเคาน์เตอร์ที่เห็นดังรูป เป็นเพียงไอเดียในการตกแต่งเท่านั้น
จะเห็นว่าด้วยพื้นที่ใช้สอยที่มีค่อนข้างมาก จึงสามารถ Built-in เคาน์เตอร์บาร์ในขนาดพอเหมาะได้เลยทีเดียว โดยบริเวณนี้จะมีหน้าต่างบานเลื่อนอีกจุด ในการช่วยระบายอากาศ เมื่อเหล่าแม่บ้านทำกับข้าว
บริเวณครัวจะมีประตูเปิดออกไปพื้นที่ซักล้างหลังบ้าน
พื้นที่ด้านข้างบ้าน โครงการได้ปูหญ้ามาเลย์ให้ด้วย
กลับเข้ามาพื้นที่ใช้สอยภายในบ้านกันต่อ จะเห็นว่าส่วนของห้องน้ำชั้นล่าง จะอยู่บริเวณใต้บันได ทั้งนี้ยังออกแบบให้เป็นห้องเก็บของขนาดย่อมด้วย
ห้องน้ำชั้นล่างจะไม่มีพื้นที่อาบน้ำให้ อาจจะเป็นเพราะข้อจำกัดของพื้นที่ใช้สอย ผนวกกับหากมีพื้นที่อาบน้ำ การใช้งานอาจจะไม่ค่อยสะดวก เนื่องจาก Floor to Ceiling ไม่สูงมากนัก ทั้งนี้โครงการได้แก้ข้อเสียของการออกแบบห้องน้ำใต้บันได ด้วยการเพิ่มหน้าต่างให้มีขนาดใหญ่ขึ้น เพื่อทำให้แสงลอดผ่านและระบายอากาศได้ดี
ขึ้นมาดูส่วนของพื้นที่ใช้สอยชั้น 2 ของบ้าน บันไดจะถูกปูด้วยไม้สำเร็จรูป ส่วนราวบันไดเป็นเหล็กทาสี ดังนั้นการทำความสะอาดพื้นบริเวณบันได อาจจะต้องระมัดระวังเล็กน้อย ไม่ควรใช้ผ้าเปียก เพราะจะทำให้พื้นไม้บวม
ขึ้นมาชั้น 2 แล้ว มาดูการตกแต่งห้องนอนที่ 3 ของบ้านตัวอย่าง Priva Present ที่่มีการดีไซน์ให้เป็นลักษณะของห้องอเนกประสงค์ โดยจัดวางตู้เสื้อผ้าแบบ Built-in พร้อมมุมทำงานได้อย่างลงตัว
เป็นไอเดียที่ดีในการจัดวางให้เป็นห้องทำงานและห้องแต่งตัวไว้ด้วยกัน เหมาะสำหรับครอบครัวเล็กๆ ที่ต้องการพื้นที่ห้องอเนกประสงค์ ทั้งนี้อาจปรับเปลี่ยนเป็นห้องพระ หรือห้องเด็กเล่น ได้ตามต้องการ
ส่วนของห้องน้ำชั้นสอง พื้นที่ใช้สอยจะเป็นลักษณะตอนลึก โดยโครงการได้แบ่งส่วนเปียก-แห้ง ไว้อย่างชัดเจน พร้อมติดตั้งฉากกั้นอาบน้ำจาก Hafele ให้ด้วย
บริเวณที่เปิดฝักบัวอาบน้ำ โครงการได้ติดตั้งที่วางสบู่ให้ดังรูป แต่ถ้าหากผู้อยู่อาศัยต้องการวางของจิปาถะเพิ่มเติม อาจจำเป็นต้องติดตั้งชั้นวางของเพิ่ม
มาดูพื้นที่ห้องนอนที่ 2 กันบ้าง เมิ่อเข้ามาสิ่งแรกที่พบคือ มุมนั่งทำงานหรืออ่านหนังสือด้านข้างเตียง สังเกตว่าสามารถวางโตีะได้ในขนาดพอเหมาะได้เลย อันเป็นการบ่งบอกว่าห้องนอนที่ 2 นั้นมีขนาดค่อนข้างกว้างทีเดียว
บริเวณปลายเตียง เพื่อให้สะดวกต่อการเดิน แนะนำว่าไม่ควร Built-in ตู้เก็บของที่ยื่นออกมากินพื้นที่ ควรเป็นลักษณะมีที่เก็บของเพียงเล็กน้อย Built-in กับผนัง พร้อมปรับการวางตู้เสื้อผ้า ให้อยู่บริเวณพื้นที่ว่างข้างเตียงแทน
สำหรับห้องนอนที่ 2 พื้นที่ระเบียงจะอยู่บริเวณด้านข้าง ซึ่งมีความกว้างพอสมควร สามารถนำเก้าอี้มานั่งพักผ่อนได้ดังรูป
อีกหนึ่งความน่าสนใจของโครงการนี้ คือการออกแบบห้องนอนมาสเตอร์ ให้มากด้วยพื้นที่ใช้สอย พร้อม Wail in closet ทุกยูนิต
สำหรับระเบียงห้องนอนมาสเตอร์จะอยู่ด้่านหน้า โดยจะปูกระเบื้องหินทรายให้ดังรูป
มาดูพื้นที่ของ Walk in Closet กันบ้าง สำหรับบ้านจริง จะไม่ได้มีประตูบานเลื่อน กั้นเป็นสัดส่วนเหมือนเช่นนี้
บรรยากาศบ้านตัวอย่างรูปแบบ Panoramic Sense ขนาด 3 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ ห้องพักผ่อนชั้นบน ห้องรับแขก ห้องรับประทานอาหาร ห้องครัว พื้นที่ใช้สอย 201 ตร.ม. เนื้อที่ 58 ตร.ว.
รูปแบบบ้าน Panoramic Sense จะมีขนาดพื้นที่ใช้สอยเพิ่มขึ้นมา และเป็นอีกหนึ่งรูปแบบที่ได้รับความนิยม เนื่องจากไม่เล็กหรือใหญ่เกินไป
จากรูปจะรู้ถึงสาเหตุที่ทำให้ตัวบ้านดูโปร่งโล่ง ที่ไม่ใช่เพียงการปรับพื้นที่ใช้สอยและตัวบ้านให้ใหญ่ขึ้นเท่านั้น แต่เป็นการเพิ่มพื้นที่หน้าต่าง ทั้งรูปแบบของบาน Fix และบานเลื่อนดังรูป โดยจะเห็นว่าตัวบานหน้าต่างนั้นจะค่อนข้างสูง จึงทำให้ตัวบ้านดูโปร่งขึ้น อีกทั้งด้วยความกว้างของโถงรับแขก จึงทำให้สามารถวางชุดโซฟาได้อย่างจัดเต็ม โดยไม่ต้องกังวลว่าจะมีระยะเดินที่แคบหรืออึดอัดเกินไป
ถัดจากโถงรับแขกเข้ามา จะเป็นพื้นที่ของห้องอเนกประสงค์ ซึ่งผู้อยู่อาศัยสามารถกั้นให้เป็นห้องนั่งทำงาน พักผ่อน หรือแม้แต่ปรับเปลี่ยนเป็นห้องนอนสำหรับผู้สูงอายุได้ตามต้องการ
มาดูส่วนของพื้นที่วางโต๊ะกินข้าวกันบ้าง จะเห็นว่าสามารถจัดวางโต๊ะขนาด 6 ที่นั่งได้เลย
ถัดจากพื้นที่นั่งกินข้าว จะเป็นส่วนของห้องครัวขนาดใหญ่ ด้วยความกว้าง จึงทำให้สามารถวาง Island ได้ แต่ถ้าบ้านไหนชอบทำกับข้าวอย่างอาหารไทย อาจจะต้องเพิ่มประตูกั้น เพื่อไม่ให้กลิ่นเข้ามาส่วนของโถงรับแขก และจะได้ดูเป็นสัดส่วนขึ้นด้วย
และอีกหนึ่งความแตกต่าง คือบริเวณนี้ จะมีประตูออกไปพื้นที่จอดรถด้วย ทำให้สะดวกมากขึ้น ไม่ต้องเดินอ้อมออกไปบริเวณโถงรับแขก
ขึ้นมาดูส่วนของพื้นที่ชั้น 2 บริเวณโถงบันได จะมีหน้าต่างบาน Fix ที่ช่วยให้แสงลอดผ่านเข้ามา จึงทำให้บริเวณทางเดินบันไดสว่าง ไม่มืดเกินไป
เมื่อขึ้นบันไดมาชั้น 2 จะพบพื้นที่อเนกประสงค์ ซึ่งสามารถจัดวางให้เป็นมุมนั่งทำงาน หรือจะกั้นเป็นห้องพระได้ เนื่องจากพื้นที่บริเวณนี้ค่อนข้างกว้าง และมีหน้าต่างที่ช่วยเพิ่มความสว่างให้กับกับบริเวณนี้
ถักจากพื้นที่อเนกประสงค์ จะเป็นห้องนอนที่ 2 ซึ่งมีขนาดเล็กที่สุดในบ้าน แต่กับไม่แคบ อึดอัด โดยโครงการได้ออกแบบให้มีหน้าต่าง 2 ฝั่ง เพื่อเพิ่มช่องแสง และระบานอากาศ
จริงๆ แล้วห้องนี้สามารถนำเตียงขนาด 5 ฟุตมาวางได้ แต่ด้วยความต้องการของเจ้าของโปรเจกต์ ที่จะให้เห็นความกว้างของห้อง จึงนำเตียงขนาด 3 ฟุตมาวาง
เมื่อนำเตียงขนาด 3 ฟุตมาวาง จึงทำให้มีพื้นที่เหลือในการวางเก้าอี้หรือโต๊ะ จัดวางให้เป็นมุมพักผ่อนเพิ่มเติมได้
จากรูปจะเห็นว่าเมื่อนำตู้เสื้อผ้าขนาด 3 บานมาวางแล้ว ยังมีพื้นที่เหลือให้วางโต๊ะเครื่องแป้งเพิ่มเติม แต่สำหรับใครที่ต้องการวางตู้เสื้อผ้าขนาดใหญ่ สามารถนำมาวางเต็มพื้นที่ได้เลย
ออกมาจากห้องนอนที่ 2 มาดูส่วนของห้องน้ำชั้น 2 กันบ้าง จะเห็นว่ายังคงเน้นการแบ่งพื้นที่เปียก-แห้ง อย่างเป็นสัดส่วน
ถัดจากห้องน้ำ จะเป็นพื้นที่ของห้องนอนที่ 3 โดยห้องนอนนี้จะมีระเบียงอยู่ด้านหน้า จริงๆ แล้วสามาระถนำเตียงขนาด 5-6 ฟุตมาวางได้
บริเวณระเบียง จะมีประตูกระจกบานเลื่อน สามารถเปิดออกไปสูดอากาศด้านนอกได้
กลับเข้าดูพื้นที่ปลายเตียง สำหรับบ้านตัวอย่างนี้ ได้ตกแต่งให้สามารถวางโต๊ะทำงานขนาดยาวได้ กรณีนี้สามารถวางได้ เมื่อได้ปรับขนาดเตียงเป็น 3 ฟุต แต่ถ้านำเตียงขนาด 5-6 ฟุตมาวาง อาจจะทำให้ดูแคบ หรืออึดอัดได้ ดังนั้นบริเวณนี้อาจจะปรับเปลี่ยนเป็นการแขวนทีวีแทน น่าจะเหมาะสมกว่า
ส่วนด้านข้างเตียงสามารถนำตู้เสื้อผ้าขนาด 3 บานมาวางได้อย่างไม่อึดอัด แต่ถ้าปรับขนาดให้ใหญ่กว่านี้ เวลาเปิดประตูเข้าห้อง บานประตูอาจจะชนกับตู้ได้
โดยระเบียงของห้องนอนมาสเตอร์ จะมีหน้าต่างบาน Fix บริเวณผนัง ที่สามารถมองเห็นมุมพื้นที่อเนกประสงค์
ความกว้างของระเบียง อาจจะทำได้เพียงเปิดรับลม สูดอากาศเท่านั้น อาจจะไม่สะดวกต่อการเดินออกไปยืนสูดอากาศ เนื่องจากพื้นที่ใช้สอยค่อนข้างแคบ
สำหรับ Walk in Closet ของรูปแบบบ้าน Panoramic Sense นั้นจะมีพื้นที่ใช้สอยค่อนข้างกว้างกว่ารูปแบบอื่น
ภายในห้องน้ำ โครงการได้แบ่งพื้นที่ไว้สำหรับผู้อยู่อาศัยที่ชอบให้ห้องน้ำมีความร่มรื่น เข้าถึงธรรมชาติ โดยจากรูปสามารถนำกระถางต้นไม้มาวางได้ ทั้งนี้อาจจะเลือกชนิดของต้นไม้ที่ชอบที่ร่ม และความชื้น
บรรยากาศบ้านตัวอย่างรูปแบบ Proud Precious 3 ห้องนอน 4 ห้องน้ำ ห้องพักผ่อนชั้นบน ห้องรับแขก ห้องอเนกประสงค์ ห้องรับประทานอาหาร ห้องครัว ห้องแม่บ้าน พื้นที่ใช้สอย 222 ตร.ม. เนื้อที่ 60 ตร.ว.
สำหรับรูปแบบบ้าน Proud Precious นั้นเป็นบ้านขนาดใหญ่สุดของโครงการ โดยมีพื้นที่ใช้สอยถึง 222 ตร.ม.
หากเปิดประตูเข้ามาทางฝั่งโถงรับแขก จะพบพื้นที่ของห้องนั่งเล่น ที่มีการตกแต่งอย่างหรูหรา โดยความน่าสนใจอยู่ที่มุมของห้องอเนกประสงค์ซึ่งอยู่ด้านหลัง บริเวณห้องนั่งเล่นนี้ โครงการได้ดร๊อปฝ้าให้ด้วย
บริเวณที่วางทีวี บ้านจริงจะเป็นผนังปูนธรรมดา แต่ผู้อยู่อาศัยสามารถนำไอเดีย การนำผนังให้เป็นลักษณะกระจกฝ้ามาใช้ได้ เพราะนอกจากจะทำให้เพิ่มความหรูหราแล้ว ยังทำให้ตัวบ้านดูโปร่งขึ้นด้วย
สำหรับหน้าต่างบริเวณโถงรับแขก จะเป็นลักษณะแบ่งออกเป็นซ้าย-ขวา ดังนั้นเรื่องความสว่างอาจจะไม่ได้เทียบเท่ากับรูปแบบ Panoramic Sense ที่เลือกนำหน้าต่่างบานใหญ่มาไว้ตรงกลาง
มาดูความน่าสนใจของห้องอเนกประสงค์กันบ้าง ลักษณะจะคล้ายกับรูปแบบบ้าน Panoramic Sense โดยสามารถปรับเปลี่ยนเป็นห้องทำงาน ห้องนอนผู้สูงอายุ หรือแม้แต่ห้องดูหนังได้ตามต้องการ
ส่วนของพื้นที่กินข้าว ถูกตกแต่งไว้อย่างหรูหรา โดยสามารถนำโต๊ะกินข้าวขนาด 6 ที่นั่งมาวางได้ พร้อมออกแบบให้มี Pantry ไว้เตรียมอาหาร สะดวกต่อแม่บ้าน
ภายในพื้นที่ครัวยังคงเน้นเรื่องหน้าต่างในการระบายอากาศและกลิ่นอาหาร โดยทางโครงการจะวางระบบน้ำ รวมถึงการติดตั้งเครื่องซักผ้าให้ด้วย
บริเวณพื้นที่พักผ่อน จะมีระเบียงให้ออกไปสูดอากาศด้านนอกด้วย แต่ถ้าหากปรับเปลี่ยนเป็นห้องพระ ผู้อยู่อาศัยอาจจะกั้นห้องเพิ่มเติม เพื่อให้ดูเป็นสัดส่วน
สำหรับห้องนอนมาสเตอร์ ยังคงคอนเซปต์เรื่องความกว้าง และมีระเบียง สามารถวางเตียงขนาดคิงไซส์ได้อย่างไม่อึดอัด
พื้นที่ระเบียง กว้างพอที่จะออกมานั่งเล่น สูดอากาศได้
ห้องน้ำยังคงแบ่งพื้นที่เปียก-แห้ง พร้อมด้วยพื้นที่ตกแต่งสวนในห้องน้ำ เพื่อรองรับกลุ่มคนชอบความร่มรื่น อยากดีไซน์ห้องน้ำให้อยู่ท่ามกลางธรรมชาติ
มาดูพื้นที่ใช้สอยของห้องนอนที่ 3 กันบ้าง ยังคงเน้นความกว้างอีกเช่นเคย โดยสามารถนำเตียงขนาด 5-6 ฟุตมาวางได้
ด้านข้างเตียงสามารถนำตู้เสื้อผ้ามาวางเต็มพื้นที่ได้เลย
ห้องน้ำภายในห้องนอนที่ 3 ถือว่าไม่แคบ อยู่ในขนาดที่สะดวกต่อการใช้งาน โดยยูนิตนี้ ทุกห้องนอนจะมีห้องน้ำในตัว
ทําเล & การเดินทาง
ศักยภาพทำเลสุวรรณภูมิ
“สุวรรณภูมิ” เป็นย่านที่ถูกขนานนามนับตั้งแต่ท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ มาปักหลักอยู่ในโซนลาดกระบัง จนทำให้ในยุคสมัยของอดีตนายกรัฐมนตรี ทักษิณ ชิณวัตร เกิดความคิดที่จะจัดตั้งเป็นจังหวัดที่ 77 ของประเทศไทย แต่ด้วยปัจจัยหลายด้านจึงทำให้ต้องยกเลิกไป เหตุนี้เองจึงทำให้อาณาเขตดังกล่าว มีการเปลี่ยนแปลงเข้าสู่ความเจริญตามนโยบายของรัฐบาล ทั้งนี้เพื่อรองรับกลุ่มนักเดินทาง และกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศ จึงส่งผลให้เกิดเมกะโปรเจกต์หลายโครงการ อาทิ สร้างเส้นทางรถไฟฟ้าแอร์พอร์ต ลิงค์ เชื่อมต่อกับบีทีเอสสายสุขุมวิท ซึ่งเปิดใช้บริการอยู่ ณ ขณะนี้ ประกอบกับในอนาคตยังขยายเส้นทางให้บริการรถไฟฟ้าสายสีเขียวเข้ม (สุขุมวิท) เข้าสู่แอร์พอร์ต รวมถึงอีกหนึ่งโปรเจกต์สุดน่าสนใจ นั่นคือการสร้างรถไฟฟ้าความเร็วสูง มุ่งหน้าสู่จังหวัดทางภาคตะวันออก ซึ่งหากโครงการเหล่านี้แล้วเสร็จ จะส่งผลให้พื้นย่านสุวรรณภูมิ ลาดกระบัง และกิ่งแก้ว นั้นมีมูลค่าที่ดินและอสังหาฯ สูงขึ้น ตามระดับความเจริญของพื้นที่และความนิยมในการอยู่อาศัย
ที่ตั้งโครงการ
โครงการตั้งอยู่ริมถนนกิ่งแก้ว ซึ่งเป็นย่านยอดนิยมของการปักหมุดแหล่งงาน เนื่องจากอยู่ใกล้กับนิคมอุตสาหกรรมลาดกระบัง ประกอบกับยังสามารถขนส่งสินค้าได้อย่างสะดวก เนื่องจากถนนดังกล่าวเชื่อมต่อกับหลายเส้นทางทั้งลาดกระบัง บางนา-ตราด และฉะเชิงเทรา ด้วยเหตุนี้เองจึงทำให้สองฝั่งข้างทางมักพบแหล่งของกิน ตลาดนัด คอมมูนิตี้มอลล์เปิดใหม่ รวมทั้งหมู่บ้านจัดสรร ที่เข้ามารองรับกลุ่มคนทำงานในย่านนี้ แต่ที่น่าสังเกตปั้มน้ำมันที่ตั้งอยู่บนถนนดังกล่าว มักมีขนาดใหญ่ และเต็มไปด้วยร้านค้า ร้านกาแฟ หรือแม้กระทั่งร้านอาหารยอดนิยม อาจเป็นเพราะเพื่อรองรับความต้องการของคนที่อยู่อาศัยและทำงานในย่านนี้อีกเช่นกัน ดังนั้นใครที่กำลังกังวลว่าจะหาของกินยาก ขอให้สบายใจได้
การเดินทาง
ข้อดีของโครงการตั้งอยู่ติดถนนกิ่งแก้ว คือสามารถเดินทางไปทำกิจธุระต่างๆ ได้สะดวก ไม่ต้องไปเผชิญกับสภาพรถติดในซอยเวลาชั่วโมงเร่งด่วน เหมือนกับโซนใจกลางเมือง อีกทั้งถนนเส้นนี้ยังเชื่อมต่อหลายเส้นทาง ทั้งบางนา-ตราด บางพลี และลาดกระบัง รวมถึงที่ตั้งของแอร์พอร์ต ลิงค์ด้วย
แอร์พอร์ต ลิ้งค์
ทางเลือกที่ 1 ใช้บริการแอร์พอร์ต ลิ้งค์ มาลงสถานีลาดกระบัง แล้วนั่งแท๊กซี่ต่อมาประมาณ 10 กม. ถึงโครงการ
ทางเลือกที่ 2 ใช้บริการแอร์พอร์ต ลิ้งค์ มาลงสถานีสุวรรณภูมิ จากนั้นเรียกแท๊กซี่จากสนามบินมาโครงการ ประมาณ10 กม.
รถยนต์
ภาพจาก Google Maps หากเริ่มต้นเส้นทางจากถนนบางนา-ตราด สู่ที่ตั้งโครงการ ภัสสร เพรสทีจ บางนา-สุวรรณภูมิ (Passorn Prestige Bangna – Suvarnabhumi)
ทางเลือกที่ 1 หากมาจากเส้นถนนบางนา-ตราด ให้ตรงมาเรื่องๆ เจอแยกกิ่งแก้ว ให้เลี้ยวซ้าย ตรงมาประมาณ 1.5 กม. จะพบป้ายซอยกิ่งแก้ว 9 ให้เตรียมชิดซ้าย เพื่อเลี้ยวเข้าโครงการ ซึ่งอยู่ติดกับถนนกิ่งแก้ว
ภาพจาก Google Maps หากเริ่มต้นเส้นทางจากถนนลาดกระบัง สู่ที่ตั้งโครงการ ภัสสร เพรสทีจ บางนา-สุวรรณภูมิ (Passorn Prestige Bangna – Suvarnabhumi)
ทางเลือกที่ 2 หากเริ่มต้นมาจากเส้นลาดกระบัง ให้เลี้ยวเข้าถนนกิ่งแก้ว ให้ตรงมาประมาณ 7.5 กม. จากนั้นให้กลับรถมาอีกฝั่งแล้วตรงต่อมาประมาณ 150 เมตร ให้เตรียมชิดซ้าย เพื่อเลี้ยวเข้าโครงการ
สถานที่ไลฟ์สไตล์
ศูนย์จำหน่ายเฟอร์นิเจอร์ยักษ์ใหญ่อย่าง อิเกีย ได้ปักหมุดอยู่ในย่านบางนา-ตราด โดยห่างจากโครงการประมาณ 11 กม. ภาพ via bangkokpath.com
บริเวณถนนกิ่งแก้ว ตั้งอยู่บนพื้นที่สีเขียว ดังนั้นอาจจะไม่ค่อยพบเห็นห้างสรรพสินค้ายักษ์ใหญ่บนถนนเส้นนี้ แต่ใช่ว่าจะไม่พบแหล่งไลฟ์สไตล์เลย โดยส่วนใหญ่ตามตอกซอกซอยของถนนกิ่งแก้ว มักซ้อนร้านอาหารชื่อดัง อย่าง กิ่งแก้ว ซีฟู้ด แหล่งรวมอาหารทะเล สด สะอาด อร่อย หรือจะเป็นเมนูง่ายๆ แต่ได้ใจเรื่องรสชาติอย่างก๋วยเตี๋ยว รุ่งโรจน์ ลูกชิ้นปลา เป็นต้น แต่ถ้าอยากได้อารมณ์นั่งชิว พร้อมดื่มด่ำรสชาติกาแฟอันหอมกรุ่น บริเวณซอยกิ่งแก้ว 39/3 ที่ตั้งของคาเฟ่น่ารัก House Café Suvarnabhumi ซึ่งมีบรรยากาศประหนึ่งเหมือนนั่งจิบกาแฟในสวน คอยต้อนรับกลุ่มผู้อยู่อาศัยและทำงานอยู่ในย่านนี้ แต่ถ้าหากอยากเดินเล่นในคอมมูนิตี้มอลล์ หรือห้างสรรพสินค้า อาจจะต้องออกไปทางเส้นบางนา-ตราด จะมีห้างสรรพสินค้ายักษ์ใหญ่ของย่านนี้อย่างเมกาบางนา ที่ตอนกลางคืน โซนด้านหน้าจะเต็มไปด้วยร้านนั่งชิลมากมาย
นอกจากนี้บริเวณถนนกิ่งแก้ว ยังพบสถานที่ท่องเที่ยวอันสะท้อนวัฒนธรรมดั้งเดิมของทางฝั่งสมุทรปราการได้ดี อย่างวัดกิ่งแก้ว (ตั้งอยู่ซอยกิ่งแก้ว 23 ห่างจากโครงการประมาณ 2 กม.) สถานที่ศักดิ์สิทธิ์ เหมาะแก่การทำบุญในวันหยุดเสาร์อาทิตย์ หรืออาจจะข้ามฝั่งไปทางถนนเทพารักษ์ ที่ตั้งของวัดดังในย่านนี้ กับวัดบางพลีใน ที่ช่วงวันออกพรรษาทุกปีจะมีประเพณีรับบัวที่ทางวัดจัดขึ้น โดยทุกวันหยุดสุดสัปดาห์ บริเวณวัดจะมีของขายมากมาย โดยเฉพาะปลาสลิดขึ้นชื่อ หากใครที่ตัดสินใจปักหลักอยู่ในย่านกิ่งแก้ว สุวรรณภูมิ สามารถหาเวลาว่างไปสักการะกันได้
สถานที่สำคัญรอบโครงการ
ห้างสรรพสินค้า
เทสโก้ โลตัส สาขากิ่งแก้ว (ห่างจากโครงการประมาณ 800 เมตร)
เมกาบางนา (Mega Bangna) (ห่างจากโครงการประมาณ 11 กม.)
อีเกีย (Ikea) (ห่างจากโครงการประมาณ 11 กม.)
สถานศึกษา
โรงเรียนสารสาสน์วิเทศ สุวรรณภูมิ (ห่างจากโครงการประมาณ 6.5 กม.)
มหาวิทยาลัยหัวเฉียว (ห่างจากโครงการประมาณ 15 กม.)
โรงพยาบาล
โรงพยาบาลจุฬารัตน์ 1 (ห่างจากโครงการประมาณ 3.7 กม.)
โรงพยาบาลจุฬารัตน์ 9 (ห่างจากโครงการประมาณ 5 กม.)
บทวิเคราะห์
วิเคราะห์อัตราผลตอบแทนที่จะได้รับ
สำหรับโครงการนี้เป็นบ้านในตลาดระดับกลางถึงบน โดยมีราคาต้นทุนเริ่มต้นตั้งแต่ 6-10 ล้าน ซึ่งหากลงทุนปล่อยเช่าระยะยาว อาจจะไม่คุ้ม เป็นเพราะทำเลที่ตั้งไม่ได้อยู่ในโซนไข่แดงของกรุงเทพฯ ซึ่งมีดีมานด์สูง แต่ถ้าหากในอนาคตมีการขายต่อ ด้วยธรรมชาติของอสังหาฯ เมื่อเวลาผ่านไปราคาบ้านปรับตัวสูงขึ้นอยู่แล้ว แต่สำหรับโซนกิ่งแก้ง ในอนาคตจะถูกล้อมรอบด้วยรถไฟ 3 สาย อาทิ แอร์พอร์ต ลิงค์ สายสีเหลือง และเขียวเข้ม จึงคาดว่าทั้งระดับดีมานด์และราคาน่าจะปรับตัวสูงขึ้นมากกว่า 20 %
เปรียบเทียบกับโครงการอื่น
โครงการ | ยูนิต | พื้นที่ใช้สอย(ตร.ม.) | ราคาขาย(ล้านบาท) |
โกลเด้น วิลเลจ บางนา – กิ่งแก้ว | 186 | 136 – 198 | 5.59 – 8 |
บุราสิริ วงแหวน – อ่อนนุช | 388 | 113 – 223 | 5.89 – 11 |
Golden Village Bangna – Kingkaew
Golden Village บางนา-กิ่งแก้ว ภาพ via goldenland.co.th
ชื่อโครงการ: โกลเด้น วิลเลจ บางนา – กิ่งแก้ว
ผู้พัฒนาโครงการ: บริษัท แผ่นดินทอง พร็อพเพอร์ตี้ ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) : GOLD
ทำเลที่ตั้ง: ถนนกิ่งแก้ว ตำบลราชาเทวะ อำเภอบางพลี สมุทราปราการ
เว็บไซต์: goldenland.co.th
รายละเอียดโครงการ
พื้นที่โครงการ: 40 ไร่ 1 งาน 20.8 ตร.ว.
พื้นที่ใช้สอย: 136 – 198 ตร.ม.
รูปแบบ: บ้านเดี่ยว 2 ชั้น ประกอบด้วย 3-4 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ 186 ยูนิต
ราคาขายปัจจุบันเริ่มต้น: 5.59 ล้านบาท / ยูนิต
Burasiri Wongwaen Onnut
บุราสิริ วงแหวน-อ่อนนุช ภาพ via sansiri.com
ชื่อโครงการ: บุราสิริ วงแหวน – อ่อนนุช
ผู้พัฒนาโครงการ: บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) : SIRI
ทำเลที่ตั้ง: ซอยกาญจนาภิเษก 39 ถนนกาญจนาภิเษก ตำบลราชาเทวะ อำเภอบางพลี สมุทราปราการ
เว็บไซต์: sansiri.com
รายละเอียดโครงการ
พื้นที่โครงการ: 96 ไร่
พื้นที่ใช้สอย: 113 – 223 ตร.ม.
รูปแบบ: บ้านเดี่ยว 2 ชั้น ประกอบด้วย 3-4 ห้องนอน 2-4 ห้องน้ำ 1-2 ที่จอดรถ 388 ยูนิต
ราคาขายปัจจุบันเริ่มต้น: 5.89 ล้านบาท / ยูนิต
สรุป
บทสรุป
• โครงการตั้งอยู่ช่วงต้นของถนนกิ่งแก้ว ซึ่งใกล้กับเส้นบางนา-ตราด ทำให้ค่อนข้างสะดวกในการไปแหล่งไลฟ์สไตล์อย่างห้างสรรพสินค้า ร้านอาหาร ที่มักกระจุกตัวอยู่ในบริเวณดังกล่าว
• เป็นโครงการแรก ภายใต้แบรนด์ภัสสร ที่ปรับโฉมรูปแบบบ้านใหม่ ดูทันสมัยมากขึ้น
• คลับเฮ้าส์หรูหรา ในสไตล์โมเดิร์น 2 ชั้น พร้อมเพิ่มพื้นที่ Co-Working Space เพื่อรองรับความต้องการของคนรุ่นใหม่
• ในอนาคตด้านหน้าโครงการ จะมีพื้นที่สำหรับยูนิตพาณิชย์ ในรูปแบบบ้านแฝด เพื่อเปิดเป็นร้านค้า ทำให้สร้างความสะดวกสบายแก่ผู้อยู่อาศัยมากขึ้น
• โครงการค่อนข้างเน้นความปลอดภัย นอกจากจะมีเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย และกล้อง CCTV แล้ว ภายในบ้านทุกยูนิต ยังติดตั้งสัญญาณกันขโมยให้ด้วย