รีวิวโครงการ: มอนเต้ พระราม 9 (Monte Rama 9)

รีวิวภาพรวมโครงการ

การวางทิศทางโครงการ

ทิศตะวันออกเฉียงเหนือ: โกดังเก็บของความสูงประมาณ 2 ชั้น
ทิศตะวันตกเฉียงใต้: อาคารพาณิชย์สูง 4 ชั้น, ซ.รามคำแหง 12 และโครงการสร้างใหม่ของเดอะมอลล์ รามคำแหง
ทิศตะวันออกเฉียงใต้: บ้านเดี่ยว 2 ชั้น
ทิศตะวันตกเฉียงเหนือ: โกดังเก็บของสูง 2 ชั้น และซอยตัน

ตัวโครงการมีลักษณะวางผังแบบเจาะทางเข้า-ออกโครงการเข้าไปยังที่ดินด้านหลังแถบอาคารพาณิชย์ ดังนั้นทิศสำคัญที่อาจบังวิวโครงการได้จะเป็นฝั่งทิศตะวันตกเฉียงใต้ทั้งหมด หรือก็คือบริเวณตึก C ฝั่งที่ห้องหันออกมาทาง ซ.รามคำแหง 12 ดังในรูปจะเห็นว่ามีอาคารพาณิชย์บังวิวจนถึงชั้น 4 ซึ่งมีผลกระทบกับตึก C มากที่สุด ทั้งนี้ ทางโครงการได้พยายามแก้ปัญหาให้ผู้อยู่อาศัยในตึก C ฝั่งทิศนี้ ซึ่งจะอธิบายในส่วนของ Floor Plan ต่อไป

• ค้นหาประกาศคอนโด ราคาต่ำกว่า 2 ล้านบาท ได้ที่นี่

Floor Plan

การจัดวางผังอาคารโครงการมอนเต้ พระราม 9 (Monte Rama 9) แบ่งเป็น 3 อาคาร คือตึก A, B และ C โดยเมื่อมาจากปากทางเข้า ซ้ายมือจะเป็นตึก A ซึ่งเป็นตึกที่เล็กและจำนวนยูนิตน้อยที่สุด (105 ยูนิต) ส่วนทางขวามือเป็นตึก B และ ตึก C เป็นทรงตัว L เข้าหากัน มีสระว่ายน้ำฟรีฟอร์มและสวนส่วนกลางอยู่ตรงกลางระหว่างสองตึก ขณะที่สิ่งอำนวยความสะดวกส่วนใหญ่จะอยู่ในตึก B ทั้งหมด

ชั้น 1 เป็นชั้นสิ่งอำนวยความสะดวกและที่จอดรถ ไม่มีห้องพักอาศัยในชั้นนี้ สิ่งอำนวยความสะดวกในชั้นนี้ประกอบด้วย สระว่ายน้ำฟรีฟอร์ม สวนส่วนกลาง ระหว่างตึก B กับ C มีล็อบบี้รับแขก ฟิตเนส สำนักงานนิติบุคคล ในตึก B และมีห้องเครื่องซักผ้าที่ตึก A และตึก A นี้ยังมีที่จอดรถชั้นใต้ดินด้วย

ชั้น 2 ชั้นนี้ยังมีพื้นที่ส่วนกลางในตึก B ได้แก่ พื้นที่รับแขกและมินิเธียเตอร์ ส่วนนี้ทางโครงการอธิบายว่าต้องการให้เป็นพื้นที่ที่สวนตัวมากขึ้นกว่าล็อบบี้ด้านล่าง ข้างกันเป็น co-working space อีกมุมหนึ่งคือ co-kitchen เชื่อมต่อกับพื้นที่แคมปิ้งซึ่งเป็นบริเวณกลางแจ้ง เป็นโซนสำหรับทำอาหารและจัดสังสรรค์เล็ก ๆ ได้

ชั้น 2 นี้จะเริ่มเป็นชั้นที่พักอาศัย ไฮไลท์อยู่ที่ความพยายามแก้จุดบอดของตึก C ฝั่งที่จะถูกอาคารพาณิชย์บังวิวโครงการดังที่กล่าวไปข้างต้น โดยโครงการได้ทำ Pocket Garden ไว้ 3 จุด และเจาะหน้าต่างของห้องชุดที่ติดกับสวนเหล่านี้ไว้ด้วย เพื่อให้ห้องได้เห็นวิวพื้นที่สีเขียวมากขึ้น แม้จะเล็กๆ ก็ตาม Pocket Garden แบบนี้จะมีที่ชั้น 2 และชั้น 6 เท่านั้น ส่วนชั้น 3,4,7 จะเป็น void คือเป็นพื้นที่โล่งที่มองลงมาเห็น Pocket Garden ด้านล่าง ห้องชุดที่ติดกับ void นี้ก็จะมีหน้าต่างฝั่ง void มองลงมาเห็นสวนเช่นกัน

ลักษณะ Pocket Garden ชั้น 2 และชั้น 6 รวมถึงบริเวณที่ว่าง (void) ที่ชั้น 3 ,4, 7

ชั้น 3, 4, 7 ซึ่งเป็นชั้นที่ตึก C มี void เลย์เอาท์ผังห้องจะเป็นแบบนี้

ชั้น 6 เลย์เอาท์มี Pocket Garden ที่ตึก C

ชั้น 5, 8 ตึก C มีห้องเต็มทั้งชั้น โดยส่วนที่หายไปของชั้นอื่น ๆ จะมีห้อง Type 22 ตารางเมตร เข้ามาเติม

ในแง่ของการกระจาย Type ห้อง จะเห็นได้ว่าห้อง Type 22 ตารางเมตร จะมีในตึก A และ C เท่านั้น ส่วน Type 27 ตารางเมตร จะมีเฉพาะในตึก A ห้อง Type 29 ตารางเมตร จะอยู่ในตึก B เป็นส่วนใหญ่และมีในตึก C บางส่วน ห้อง Type 35 ตารางเมตร มีเฉพาะตึก C ปิดท้ายห้องแบบ 2 ห้องนอน 44 ตารางเมตร เป็นห้องหัวมุมทั้งหมด อยู่ในตึก B และ C

Unit Layout

Type ห้องมีให้เลือกถึง 5 แบบ (มีห้องตัวอย่างให้ชม 3 แบบ) โดย Type ที่มีมากที่สุดคือ แบบ 1 ห้องนอน พื้นที่ใช้สอย 29 ตารางเมตร และรองลงมาคือแบบสตูดิโอ พื้นที่ใช้สอย 22 ตารางเมตร

ตัวอย่าง Type A, B และ C

ตัวอย่าง Type D และ E

สิ่งอำนวยความสะดวกในโครงการ

สระว่ายน้ำฟรีฟอร์มพร้อมสวนสีเขียว

สวนดาดฟ้าและสนามพัตกอล์ฟ ออกแบบในแนวผจญภัย บริเวณสะพานเชื่อมสวนดาดฟ้าระหว่างตึกจะเป็นสะพานคอนกรีตและราวกั้นกระจก แต่นำสะพานแขวนไม้มาประดับเพื่อความสนุกสนานให้เป็นกึ่งสนามเด็กเล่นให้แก่เด็ก ๆ

ล็อบบี้เลาจน์บริเวณโถงทางเข้าชั้น 1 ตึก B

ฟิตเนสและพื้นที่เอนกประสงค์ ชั้น 1 ตึก B

Co-working Space บนชั้น 2 ตึก B

ห้องรับแขกส่วนตัว บนชั้น 2 ตึก B

มินิเธียเตอร์ บนชั้น 2 ตึก B

รีวิวภายในห้องตัวอย่าง

สิ่งที่จะได้รับจากโครงการ

• พื้น: ห้องนั่งเล่นและห้องนอน ลามิเนต 9 มิลลิเมตร (พื้นปูในห้องตัวอย่างจะเป็นกระเบื้องยางแต่ใช้สีโทนน้ำตาลอมเทาเหมือนกัน) ห้องครัวและห้องน้ำ กระเบื้องแกรนิตโต้ ขนาด 60×60 ซม. ระเบียง กระเบื้องเซรามิก ขนาด 30×30 ซม.
• ผนัง: พื้นจรดเพดานความสูง: 2.55 เมตร
• เฟอร์นิเจอร์: สั่งทำ
• สุขภัณฑ์: Hafele ทั้งหมด
• ชุดครัว: อ่างล้างจาน เตาไฟฟ้า ฮู้ดดูดควัน จาก Franke
• Digital Door Lock: Veco ระบบ passcode

ใน Sale Gallery จะมีห้องตัวอย่าง 3 แบบคือ พื้นที่ใช้สอย 27, 29, 35 ตารางเมตร ซึ่งภาพรวมการวาง Layout คล้ายกันคือ เปิดประตูห้องเข้ามาจะเป็นส่วนนั่งเล่นก่อน และมีห้องครัวแยกเป็นสัดส่วนติดกับระเบียง พร้อมมีประตูบานเลื่อนแบบรางบนกั้นเป็นสัดส่วน ดังนั้นการทำอาหารจะลดการส่งกลิ่นอวลอยู่ในห้องพักได้ดี

สิ่งที่ให้เหมือนในห้องตัวอย่างจะเป็นเฟอร์นิเจอร์ คือ โซฟา ชั้นวางโทรทัศน์ โต๊ะกาแฟ ตู้รองเท้า ตู้เสื้อผ้า โครงเตียง 5 ฟุต ชุดครัว สุขภัณฑ์ ฉากกั้นอาบน้ำ ประตูบานเลื่อนกั้นห้องนอน ประตูบานเลื่อนกั้นห้องครัว และไฟฝังฝ้าจะได้ตามห้องตัวอย่าง ทุก Type ได้เหมือนกันทั้งหมด ยกเว้นแบบ 1 ห้องนอน พลัส พื้นที่ใช้สอย 35 ตารางเมตร จะได้ชั้นวางโทรทัศน์เพิ่มเป็น 2 ชุด และแบบ 2 ห้องนอน พื้นที่ใช้สอย 44 ตารางเมตร จะได้ฐานเตียง 3.5 ฟุต และตู้เสื้อผ้าเพิ่มอีก 1 ใบเพื่อใช้ในห้องนอนเล็กด้วย

ส่วนสิ่งที่ไม่ได้ตามห้องตัวอย่างคือ ชุดโต๊ะเก้าอี้รับประทานอาหาร วัสดุตกแต่งผนัง โคมไฟแต่งห้อง และเครื่องใช้ไฟฟ้าทั้งหมด รวมถึงพื้นปูห้องนั่งเล่นและห้องนอน ห้องจริงจะเป็นลามิเนต ขณะที่ห้องตัวอย่างใช้กระเบื้องยาง

ห้องแบบ 1 ห้องนอน พื้นที่ใช้สอย 27 ตารางเมตร

ระบบ Digital Door Lock ที่ติดตั้งสำหรับห้องทุก Type ของ Veco จากเกาหลี ใช้ได้ทั้งระบบคีย์การ์ดและระบบใส่รหัส ติดตั้งบนประตูห้องทำจากไม้ HDF สีเทาอมน้ำตาลเข้ากับพื้นห้อง

เปิดเข้ามาจะเป็นห้องนั่งเล่น โดยตั้งโซฟาเยื้องกับชั้นวางโทรทัศน์เพื่อให้มีพื้นที่พอตั้งโต๊ะรับประทานอาหารพร้อมเก้าอี้ 2 ที่นั่ง ด้านข้างโซฟา ระยะห่างระหว่างโซฟากับโทรทัศน์ประมาณ 1.8 เมตร ถือว่าไม่ใกล้ทีวีมากเกินไป อยู่ในระยะกำลังพอดี มองตรงไปจะเป็นห้องนอนโดยใช้ประตูกระจกบานเลื่อนแบบ 2 บานเป็นตัวกั้นห้อง

หันกลับมามองจากมุมโต๊ะทานข้าวกลับไปที่ประตูทางเข้าห้อง จะเห็นว่าด้านข้างประตูเข้าห้องมีตู้ให้ด้วย โดยตู้นี้จะเป็นชั้นวางรองเท้า และด้านบนเป็นตู้ไฟ เลี้ยวไปด้านหลังโทรทัศน์นั้นจะเป็นห้องน้ำ

เดินลึกเข้าไปด้านใน จะเห็นว่าห้องนอนอยู่ติดกับห้องครัว โดยทั้ง 2 ห้องมีบานเลื่อนกระจกกั้นให้

ห้องนอนสามารถวางเตียง 5 ฟุตพร้อมโต๊ะข้างเตียงได้ ติดกันเป็นตู้เสื้อผ้า กว้าง 1.2 เมตร สีดำด้าน ตู้เสื้อผ้าเป็นแบบบานเปิด 2 ประตู แต่งประตูด้วยกระจกเต็มบาน ข้างเตียงมีพื้นที่วางโต๊ะข้างเตียงได้ 

บริเวณหน้าห้องน้ำและหน้าห้องครัวจะมีพื้นที่ว่างอยู่มุมหนึ่ง สามารถจัดเป็นมุมตู้หนังสือ หรือตู้เก็บของได้

ถัดมาที่ห้องครัวติดกับระเบียง สามารถเปิดระเบียงช่วยระบายกลิ่นได้ ส่วนชุดครัวที่ให้มาจะเป็นตู้พร้อมซิงค์ล้างจาน ด้านล่างมีช่องใส่เตาไมโครเวฟ/เตาอบ เว้นพื้นที่ติดเตาไฟฟ้าได้ 1 หัว ที่เหลือมีพื้นที่วางของทำครัวได้ ด้านบนเป็นตู้เก็บของแบบบานเปิด และฝั่งติดเครื่องดูดควันเป็นแบบกดกระเด้ง ทางโครงการยังติดผนังกระเบื้อง back splash กันสิ่งสกปรกที่จะกระเด็นมาถูกผนังไว้ให้ด้วย ทางเดินกว้างประมาณ 80 เซนติเมตร เดินเข้า-ออกสะดวก

ชุดครัวบิลท์อินด้านบน ฝั่งบานเปิดเป็นช่องแบ่ง 6 ช่อง ลึกพอที่จะใส่โถเครื่องปรุงและขวดต่าง ๆ

ด้านฝั่งบานกดกระเด้งจะค่อนข้างตื้น อาจจะวางของได้เฉพาะขวดเครื่องปรุงเล็ก ๆ เท่านั้น

ระเบียง ขนาดประมาณ 1×1.3 เมตร วางเครื่องซักผ้าได้ มีพื้นที่เหลือให้ตากผ้า

ห้องน้ำอุปกรณ์ครบครัน เมื่อเปิดประตูเข้าไปจะเป็นอ่างล้างหน้า โถสุขภัณฑ์ ด้านในเป็นฝักบัวอาบน้ำ มีฉากกั้นอาบน้ำให้ โดยโครงการใช้สุขภัณฑ์ทั้งหมดจาก Hafele ฉากกั้นอาบน้ำเป็นแบบ 3 ตอน ด้านในพื้นที่อาบน้ำก็กะทัดรัดเช่นกัน ขนาดประมาณ 1×1.2 เมตร แต่สามารถยืนอาบน้ำ ทำธุระส่วนตัวได้สะดวก

ห้องแบบ 1 ห้องนอน พื้นที่ใช้สอย 29 ตารางเมตร

ห้อง Type นี้ มีจำนวนมากที่สุดในโครงการ เมื่อเปิดประตูเข้ามาจะเป็นห้องนั่งเล่นและโต๊ะรับประทานอาหาร พร้อมเก้าอี้ ขนาด 2 ที่นั่ง ตรงเข้าไปด้านในสุดก็จะเป็นห้องนอน โดยมีบานเลื่อนกระจกกั้น เป็นบานเลื่อนแบบ 3 ตอน

ระยะจากโซฟาไปยังชั้นวางโทรทัศน์ก็จะไกลสายตาขึ้นจากห้อง Type 27 ตารางเมตร ถ้าใครที่ชอบโทรทัศน์จอใหญ่ 50 นิ้ว จะเหมาะมาก ด้านหลังชั้นวางโทรทัศน์จะเป็นทางเดินแยกเข้าไปในห้องครัวและห้องน้ำ ซึ่งมีบานเลื่อนกระจกกั้นเช่นกัน เพื่อกันกลิ่นจากห้องครัวออกมารบกวน

ภายในห้องนอน ปลายเตียงจะกว้างขึ้น ตู้เสื้อผ้าห้องจริงจะเป็นแบบบานเปิด ดังนั้นเตียงนอนอาจจะต้องเลื่อนไปชิดหน้าต่างเพื่อให้มีพื้นที่เปิดตู้เสื้อผ้า ส่วนด้านปลายเตียงข้างตู้เสื้อผ้ายังมีพื้นที่ว่างเหลือ ซึ่งอาจจะจัดเป็นมุมโต๊ะเครื่องแป้งได้

มองจากห้องนอนกลับออกไปทางห้องนั่งเล่น มีพื้นที่ระหว่างประตูบานเลื่อนกับเตียงนอน วางโต๊ะข้างเตียงได้สบาย ๆ

ห้องครัวได้ชุดครัวแบบเดียวกัน มีอ่างล้างจาน ตู้ครัวบิลท์อินบน-ล่าง ผนังส่วน Backsplash ปูกระเบื้องทำความสะอาดง่าย ทางเดินกว้างประมาณ 1 เมตร เดินเข้า-ออกสะดวก เชื่อมต่อกับระเบียงด้วยประตูกระจกแบบบานเลื่อน

ห้องน้ำอุปกรณ์ครบครัน มี Layout ต่างจากห้องแบบแรก คือ เปลี่ยนอ่างล้างหน้าและโถสุขภัณฑ์อยู่แยกกันเป็นมุมซ้ายขวา และด้านในสุดเป็นโซนเปียกสำหรับอาบน้ำฝักบัว โดยมีบานเลื่อนกระจกแบบ 3 ตอนกั้นเป็นสัดส่วน

พื้นที่อาบน้ำขนาดประมาณ 0.8×1.8 เมตร

ห้องแบบ 1 ห้องนอน พลัส พื้นที่ใช้สอย 35 ตารางเมตร

เปิดประตูห้องเข้ามาจะพบห้องนั่งเล่นเป็นส่วนแรกเช่นกัน โดยประตูขวามือเป็นห้องน้ำ ติดกับห้องน้ำคือห้องอเนกประสงค์ ตรงไปด้านในสุดคือห้องครัวและห้องนอนอยู่ติดกัน

ระยะระหว่างโซฟากับชั้นวางโทรทัศน์ ห่างประมาณ 1.2 เมตร ชมโทรทัศน์สะดวก ส่วนพื้นที่วางโต๊ะทานอาหาร เพิ่มเก้าอี้เป็น 3 ที่นั่งได้ไม่เกะกะ

ตัวอย่างตู้วางรองเท้าที่ได้ในห้องทุกไทป์ วางรองเท้าได้ประมาณ 12 คู่

ห้องนอนวางเตียงขนาด 5 ฟุตได้สบาย ๆ วางชิดผนังฝั่งหน้าต่าง เพื่อให้มีพื้นที่วางตู้เสื้อผ้าแบบบานเปิดได้ โดยมีพื้นที่ปลายเตียงมากขึ้น จึงสามารถวางชั้นวางโทรทัศน์เพิ่มได้ และยังมีพื้นที่ทางเดินรอบเตียงได้สะดวก กว้างประมาณ 60 เซนติเมตร แม้วางชั้นวางโทรทัศน์แล้ว

ห้องนอน Type นี้ เป็นประตูบานสวิงปิดทึบไม่ใช่บานสไลด์ จึงให้ความเป็นส่วนตัวมากขึ้น

ตู้เสื้อผ้าในห้องนอนวางชิดมุมห้องแล้วยังมีพื้นที่เหลือ สามารถวางโต๊ะเครื่องแป้งได้

ห้องอเนกประสงค์ซึ่งเป็นส่วนที่ “พลัส” ขึ้นมาใน Type นี้ ประตูจะกั้นด้วยบานเลื่อนแบบรางบนเหมือนกับประตูครัว

ห้องพลัสมีขนาดประมาณ 2×2.2 เมตร สามารถตกแต่งเป็นห้องนอนเล็ก ห้องนอนเด็ก ห้องทำงาน หรือแม้แต่ห้องแต่งตัวก็ได้

ห้องครัวอุปกรณ์ครบครัน ทางเดินกว้างประมาณ 1 เมตร เดินเข้า-ออกสะดวก เชื่อมต่อกับระเบียงด้วยประตูกระจกแบบบานเลื่อน

ห้องน้ำแบ่งพื้นที่โซนเปียกและโซนแห้งเป็นสัดส่วน โดยใช้ฉากกั้นแบบสไลด์เข้ามุม มีโถสุขภัณฑ์อยู่คนละมุมกับอ่างล่างหน้า ให้ความรู้สึกเป็นสัดส่วนมากขึ้น พื้นที่อาบน้ำขนาดประมาณ 0.8×1 เมตร โดยฉากกั้นเป็นกระจกใส 2 ด้าน ทำให้โปร่งโล่ง และไม่อึดอัด