พาร์ค 168 นพรัตน์ รามอินทรา (Park 168 Nopparat Ramindra) จาก บริษัท แอล.พี.เอ็น.ดีเวลลอปเมนท์ จํากัด (มหาชน) คอนโดมิเนียม High Rise 25 ชั้น 3 อาคาร ห้องชุดพักอาศัยรวม 1,224 ยูนิต อาคารจอดรถและสระว่ายน้ำ สูง 8 ชั้น 1 อาคาร แต่ละอาคารมีห้องพักอาศัยเพียงอาคารละ 408 ยูนิต มีความเป็นส่วนตัว ไม่แออัด ใกล้รถไฟฟ้าสายสีชมพู สถานีนพรัตนราชธานี ราคาเริ่มต้น 1.69 ล้านบาท
สนใจ คอนโดฯ ในโครงการนี้? เลือกชม รายการประกาศ ราคาโดนใจ
หากพูดถึงตลาดคอนโดมิเนียมระดับไฮเอนด์ หลายคนคงนึกถึงผู้พัฒนารายใหญ่ไม่กี่ราย และหนึ่งในชอยส์ทั้งหมดนั้นก็คงหนีไม่พ้น เครือเมเจอร์ ดีเวลลอปเม้นท์ กลุ่มผู้พัฒนาคอนโดมิเนียมระดับบนที่เน้นการใช้วัสดุคุณภาพมาเป็นส่วนประกอบในโครงการต่างๆ สังเกตด้จากโครงการที่ผ่านมาๆ อาทิ โครงการภายใต้แบรนด์ M ที่จับเอาทำเลไพร์ม ใกล้ระบบรถไฟฟ้าอย่างสีลม ทองหล่อ ไปจนถึง ลาดพร้าว จตุจักร จากโครงการคอนโดมิเนียมไฮไรส์ที่ผ่านมาบอกได้ถึงประสบการณ์ด้วยการเก็บชั่วโมงการบินกว่า 17 ปีและผู้ประกอบการรายนี้ก็ไม่พลาดที่จะหันมาจับตลาดกลุ่มคอนโดมิเนียมโลว์ไรส์ โดยจับเอาทำเลธุรกิจในเมืองเป็นที่ตั้งโครงการภายใต้แบรนด์ “มาเอสโตร” (Maestro) โดยพัฒนาผ่านบริษัทลูกอย่าง บริษัท เมเจอร์ ดีเวลลอปเม้นท์ เอสเตท จำกัด และหนึ่งในทำเลที่เครือเมเจอร์ฯ เลือกไปปักหมุด คือทำเลที่กำลังจะกลายเป็นย่านการค้าและศูนย์กลางธุรกิจ (CBD) แห่งใหม่อย่าง รัชดา-พระรามเก้า กับโครงการใหม่อย่าง Maestro 03 รัชดา-พระราม 9 ที่มีราคาเริ่มต้นที่ 3.5 ล้านบาท ในขณะที่การออกแบบและวัสดุที่เลือกใช้ยังคงอยู่ในมาตรฐานระดับเดิม ซึ่งโครงการนี้จะน่าสนใจแค่ไหนกันนั้น วันนี้ทาง DDproperty จะมาวิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึกให้ได้อ่านกัน
เจาะลึกข้อมูลโครงการ
ชื่อโครงการ: มาเอสโตร 03 รัชดา – พระราม 9 (Maestro 03 Ratchada – Rama 9)
ผู้พัฒนาโครงการ: บริษัท เมเจอร์ ดีเวลลอปเม้นท์ เอสเตท จำกัด
ทำเลที่ตั้ง: ซอยรัชดาภิเษก 3 ติดกับสถานฑูตจีน เขตดินแดง กรุงเทพฯ
เว็บไซต์: http://www.mde.co.th/th/condominium
เฟซบุ๊ค: https://www.facebook.com/maestro.residences
รายละเอียดโครงการ (ข้อมูล ณ วันที่ 5 พฤศจิกายน 2558)
พื้นที่โครงการ: 3-0-18 ไร่
รูปแบบ: คอนโดมิเนียม 3 อาคาร 8 ชั้น ที่จอดรถใต้ดิน 2 ชั้น จำนวน 321 ยูนิต (ห้องพักอาศัย 320 ยูนิต 1 ยูนิตสำหรับสำนักงานขาย)
กลุ่มเป้าหมาย: กลุ่มคนทำงาน, นักธุรกิจ
เริ่มการก่อสร้าง: พฤศจิกายน 2558
คาดว่าจะแล้วเสร็จ: กรกฎาคม 2560
เงื่อนไขการชำระเงิน: จอง 50,000 บาท สำหรับ 1 ห้องนอน และ 2 ห้องนอน ทำสัญญา 5% ของราคาห้อง เงินดาวน์ 10% ของราคาห้อง
ค่าธรรมเนียมการโอน: ผู้ซื้อและผู้ขายรับผิดชอบฝ่ายละครึ่ง
เงินกองทุนสะสม: 650 บาท/ตร.ม. (ชำระในวันโอนกรรมสิทธิ์)
ค่าส่วนกลาง: 65 บาท/ตร.ม./เดือน (ชำระล่วงหน้า 1 ปี ในวันโอนกรรมสิทธิ์)
ที่จอดรถ: 55% ของโครงการ
ราคาเริ่มต้น: 3.5 ล้านบาท
ราคาเฉลี่ย: 120,000 บาทต่อตร.ม.
รูปแบบห้อง
รายละเอียดโครงการ
รีวิวภาพรวมโครงการ
มาเอสโตร 03 รัชดา – พระราม 9 คอนโดมิเนียมโลว์ไรส์ 8 ชั้น 3 อาคาร ตกแต่งครบพร้อมอยู่ด้วยเฟอร์นิเจอร์แบบ Fully Furnished ที่มีให้เลือกถึงสองสไตล์ในแบบ Monet สำหรับคนชอบเฟอร์นิเจอร์สีอ่อนๆ และแบบ Malvyn สำหรับคนชอบสีเข้มสไตล์โมเดิร์น จุดเด่นของโครงการคือห่างสถานีรถไฟฟ้า MRT สถานีพระราม 9 ไม่เกิน 800 ม. และห่างจากปากซอย 200 ม. บรรยากาศโดยรอบโครงการส่วนใหญ่เป็นอาคารพาณิชย์เรียงรายเป็นทางยาว เต็มไปด้วยสิ่งอำนวยความสะดวก พลุกพล่านไปด้วยผู้อาศัยดั้งเดิม สำหรับผู้อาศัยที่พักอยู่ยูนิตทางทิศใต้หรือบริเวณอาคาร A อาจจะได้ยินเสียงรบกวนในช่วงกลางวัน แต่ก็ยังคงความเงียบในชั่วโมงพักผ่อน
ภาพรวมของโครงการเหมาะกับนักศึกษาจบใหม่ กลุ่มคนทำงาน ไปจนถึงนักธุรกิจทั้งในไทยและต่างประเทศที่เข้ามาทำธุรกิจในย่านนี้บ่อยครั้ง
บริเวณหน้าโครงการมีอาคารสำนักงานขายชั้นเดียวตั้งอยู่ สามารถเข้าไปจอดรถในพื้นที่โครงการได้เนื่องจากยังไม่ได้มีการขึ้นไซต์งาน
ส่วนกลางของโครงการจะอยู่ที่ชั้นล่าง กึ่งกลางระหว่างอาคารทั้ง 3 อาคาร ซึ่งการออกแบบให้มีตึกล้อมรอบแบบนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อความเป็นส่วนตัว
พื้นที่โดยรวมของโครงการเป็นรูปสีเหลี่ยมจตุรัส เดิมพื้นที่นี้เป็นอาคารของโรงแรมรัชดา รีสอร์ท แอนด์ สปา และอาคารพาณิชย์ของชุมชนดั้งเดิมบางส่วน มีการรื้อถอนไปก่อนหน้านี้แล้ว
Master Plan
ชั้นล่างมียูนิตอยู่อาศัยประมาณ 31 ยูนิต โดยมียูนิตที่จะได้รับวิวจากสระว่ายน้ำส่วนกลางอยู่ทั้งหมด 12 ยูนิต ชั้นจอดรถใต้ดินมี 2 ชั้น มีทางเข้าทั้งตึก A , B และ C เฉพาะชั้น Basement 1 ของตึก A และ B มีทางเชื่อมถึงกันได้
บริเวณชั้น 2 – 4 เป็นในส่วนของที่พักอาศัยทั้งหมดแต่ละอาคารมีลิฟท์ 2 ตัว สามารถขึ้นจากชั้นใต้ดินที่เป็นลานจอดรถได้เลย
Unit Layout
รูปแบบห้อง 1 ห้องนอน ขนาด 29 ตร.ม. ระเบียงเชื่อมต่อกับโซนพักผ่อน หันออกไปทางทิศตะวันตก แปลนห้องนี้ตั้งอยู่ในส่วนของด้านนอกซึ่งวิวในส่วนนี้จะเป็นอาคารพาณิชย์ความสูงไม่เกิน 2 ชั้น มีอาคารสูงไม่เกิน 8 ชั้นแซมบ้างเล็กน้อยเรียงรายไปยันท้ายซอย
รูปแบบห้อง 1 ห้องนอนมีระเบียงหันเข้ารับวิวสระว่ายน้ำส่วนกลางของโครงการ ซึ่งห้องที่รับวิวด้านนี้จะมีขนาดใหญ่กว่าและมีราคาแพงกว่าห้องที่รับวิวจากด้านนอก ห้องรูปแบบนี้มีหน้ากว้างประมาณ 4.5 ม. ลักษณะการตกแต่งห้องเป็นแนวลึก
แปลนรูปแบบห้อง 2 ห้องนอน ขนาด 74 ตร.ม. ซึ่งเป็นห้องแปลนมุมที่มีขนาดใหญ่ที่สุดของโครงการ ระเบียงหันออกไปทางทิศเหนือซึ่งเป็นทิศที่ได้รับวิวได้ดีที่สุดของโครงการ
แปลนห้องรูปแบบ 2 ห้องนอน ขนาด 65.5 ตร.ม. ระเบียงของห้องเชื่อมต่อกับโซนนั่งเล่นหันออกไปทางวิวสระว่ายน้ำของโครงการ ด้านขวาจะเป็น Master ห้องนอน ด้านซ้ายเป็นห้องนอนเล็ก และมีครัวแบบเปิดอยู่บริเวณทางเข้าห้อง ห้องแบบนี้มีหน้ากว้างประมาณ 10.4 ม. ลักษณะการตกแต่งห้องเป็นแนวกว้าง
การวางทิศทางห้อง
ทิศเหนือ: เป็นด้านหลังของโครงการ ทิศนี้เป็นส่วนของอาคาร B และ อาคาร C ห้องที่หันหน้าออกทางฝั่งนี้ตั้งแต่ชั้น 2 ขึ้นไป จะได้รับวิวทิวทัศน์โล่งโปร่งตา เพราะส่วนใหญ่ทางทิศนี้เป็นแหล่งชุมชนที่มีอาคารพาณิชย์สูงไม่เกิน 2 ชั้น และไม่มีเสียงรบกวน
ทิศใต้: โครงการหันหน้าไปทางทิศใต้ ซึ่งทิศนี้จะติดกับถนนหลักในซอยรัชดาภิเษก 3 ฝั่งตรงข้ามโครงการเป็นอาคารพาณิชย์มีร้านค้าและร้านอาหารตามสั่งเรียงราย และมีถนนย่อยในซอยรัชดาภิเษก 3 มุ่งตรงไปสู่ด้านหลังของห้างเทสโก้โลตัส พระราม 9
ทิศตะวันออก: วิวด้านนี้อยู่ติดกับแมนชั่นมีความสูงประมาณ 8 ชั้น บังวิวทิศนี้ไปส่วนหนึ่ง หากอาศัยอยู่อาคารทางฝั่งนี้บริเวณใกล้ๆ กับด้านหน้าของโครงการ สามารถหลีกเลี่ยงแมนชั่น 8 ชั้นที่อยู่ติดกับโครงการด้านนี้ได้โดยการพักอาศัยตั้งแต่ชั้น 6-8 ซึ่งจะสามารถมองออกไปยังถนนรัชดาภิเษกได้เลย
ทิศตะวันตก: รั้วโครงการติดอยู่กับอาคารพาณิชย์เก่า เป็นที่อยู่อาศัยของชุมชนดั้งเดิม มีความสูง ไม่เกิน 2 ชั้น ด้านหลังเป็นอาคารหอพักความสูงประมาณ 5 ชั้น หากอยากได้รับวิวเต็มสายตา ต้องพักอาศัยตั้งแต่ ชั้น 6 ขึ้นไป
สิ่งอำนวยความสะดวกภายในโครงการ (Facilities)
ส่วนกลางอยู่บริเวณชั้นล่าง หรือ Ground Floor
ลานจอดรับส่ง (Drop off)
ป้อมรักษาความปลอดภัย (Guardhouse)
กล่องจดหมายส่วนตัว (Secure Postbox)
ห้องซักรีด (Laundry Room)
แร็คจอดจักรยาน (Bike Rack)
ลานจอดซูเปอร์ไบค์ (Superbike Parking)
ฟิตเนสบนชั้นลอย (Mezzanine Fitness Arena)
ห้องสตีม (Steam Room)
ห้องซาวน่า (Sauna Room)
สระว่ายน้ำกึ่งในร่ม (Semi Indoor Pool)
สระว่ายน้ำสไตล์ยุโรป (Reflecting Pool)
ที่นั่งพักผ่อนริมสระ (Pool Deck)
เก้าอี้ริมสระ (Pool Seat)
ซุ้มอ่านหนังสือ (Reading Cabin)
ซุ้มทำอาหาร (Gourmet Cabin)
ลานบาร์บีคิว (BBQ Patio)
ซุ้มคนรักสัตว์เลี้ยง (Pet-Lover’s Cabin) คอนโดฯ เครือนี้อนุญาตให้เลี้ยงสัตว์ได้แต่จำกัดขนาดและน้ำหนัก
สวนหินเพื่อความผ่อนคลาย (Reflexology garden)
ทางวิ่งจ๊อกกิ้ง (Jogging Trail)
ที่จอดรถชั้นใต้ดิน (Basement Parking)
อินเตอร์เน็ตไร้สาย 24 ชม. (24/7 Wireless Internet)
ระบบรักษาความปลอดภัย 24 ชม. (24/7 Security Service)
บริการรถรับส่ง (Shuttle Service)
สิ่งที่จะได้รับจากโครงการ
พื้นห้อง: ไม้ลามิเนตหนา 8 มม.
พิ้นครัว: กระเบื้องแกรนิตโต้ขนาด 60×60 ซม.
ผนัง: ฉาบเรียบทาสีขาว
พื้นจรดเพดานความสูง: 2.45 ม.
เฟอร์นิเจอร์: Fully Furnished มีให้เลือก 2 แบบ คือแบบ Monet (โทนสีอ่อน) และแบบ Malvyn (โทนสีเข้ม)
เครื่องปรับอากาศ: 1 ห้องนอนได้ แอร์ 2 เครื่อง, 2 ห้องนอนได้ 3 เครื่อง เป็นของ Trane หรือเทียบเท่า
สุขภัณฑ์: Kohler
ชุดครัว: Kitchen ได้รับ Hob & Hood เป็นของ Electrolux, ซิงค์เป็นของ Mex
รีวิวภายในห้องตัวอย่างทั้งหมด
รูปแบบห้อง 1 ห้องนอน 29 – 41 ตารางเมตร
1 ห้องนอน 29 – 41 ตารางเมตร Type นี้ เป็น Type BA 3-1 ตามแปลนจริงด้านบนในส่วนของรีวิวภาพรวมโครงการ – Unit Layout
แบบห้องนี้เป็นห้องแนวลึก เมื่อเปิดประตูมาจะมีครัวอยู่ทางขวามือ ในส่วนของพื้นที่เตรียมครัวทางโครงการมอบโต๊ะรับประทานอาหารไว้ด้านข้าง อาจจะเตรียมครัวได้ลำบากนิดหน่อย แต่ก็ยังเหลือพื้นที่ใช้สอยสำหรับเตรียมครัวได้อยู่
ภาพบรรยากาศจากด้านในสุดของห้องไปจนถึงประตูห้อง แบ่งโซนห้องด้วยการปูพื้นกระเบื้องแกรนิตโต้ในส่วนครัว และใช้ไม้ลามิเนตหนา 8 มม.ในส่วนของโซนพักผ่อนและห้องนอน
ครัวที่โครงการมอบให้เป็นครัวแนวยาว มีซิงค์ล้างมืออยู่ทางด้านขวามือ ตรงกลางเป็นเตาแบบ 2 หัว และมีพื้นที่เตรียมครัวอยู่ทางซ้าย ด้านบนเป็นส่วนของเตาดูดควันและชั้นเก็บของมีบานประตูปิด
ระเบียงที่เชื่อมต่อกับโซนนั่งเล่นเป็นประตูเลื่อนแบบ 3 ตอน ใช้กระจกเขียวตัดแสง ขอบอลูมิเนียมสีดำ มีความสูงตั้งแต่พื้นจรดเพดาน
ในส่วนของห้องนอนมีบานกระจกขนาดใหญ่อยู่ด้านในสุด ทางโครงการมอบแอร์ให้ 2 เครื่อง สำหรับห้องรูปแบบนี้ คือห้องนอนและโซนห้องนั่งเล่น
บานกระจกเป็นแบบ 2 ตอนสามารถเลื่อนเปิดได้ด้านเดียว เป็นของอลูมิเนียมสีดำ มีระบบล็อคแบบใช้มือกดขึ้น ลง
รูปแบบห้อง 1 ห้องนอนมีห้องน้ำในอยู่ในตัวห้องนอน แบบห้องจริงมีประตูกั้นระหว่างห้องนอนกับโซนห้องนั่งเล่น
ห้องน้ำมีบานประตูกระจกนิรภัยกั้นโซนเปียกและโซนแห้ง แบบห้องจริงมีสายสำหรับติดตั้งเครื่องทำน้ำอุ่นเตรียมไว้ให้
รูปแบบห้อง 2 ห้องนอน พื้นที่ 50 – 74 ตารางเมตร
ห้องตัวอย่างเป็นห้อง Type CB5-1 เป็นรูปแบบ 2 ห้องนอน หน้ากว้างประมาณ 10.4 ม. เป็นแบบห้องตามแปลนด้านบนในรีวิวภายในห้องตัวอย่างทั้งหมด – Unit Layout
ครัวในห้องรูปแบบนี้แตกต่างจากห้องรูปแบบ 1 ห้องนอน เนื่องจากพื้นที่ที่มากกว่าครัวที่โครงการมอบให้จึงเป็นเคาน์เตอร์ครัวรูปตัวแอล
โต๊ะรับประทานอาหารที่โครงการมอบให้เป็นแบบ 4-6 ที่นั่ง โดยบริเวณปลายโต๊ะสามารถยกขึ้นมาเป็นที่นั่งเสริมได้
ครัวรูปตัวแอลมีซิงค์อยู่ทางซ้ายมือ เตามี 4 หัวมาพร้อมที่ดูดควัน พื้นที่ล่างเตาเป็นที่วางไมโครเวฟ ทางขวามือสุดเป็นพื้นที่เตรียมครัวด้านล่างมีชั้นเก็บของ
ส่วนของห้องนั่งเล่นได้เฟอร์นิเจอร์ตามภาพ ทั้งชุดโซฟา และโซฟาที่นั่งเดี่ยว มาพร้อมชั้นวางทีวี สิ่งที่จะไม่ได้รับในภาพนี้คืออะคลีลิคตกแต่งผนังหลังทีวี ชั้นลอยด้านบน และม่าน
ระเบียงปูพื้นกระเบื้องแกรนิตโต้ขนาด 30×30 ซม. ความยาวประมาณ 240 ซม. มีประตูกระจกขอบอลูมิเนียมเป็นประตูบานเลื่อน 2 ตอน
ด้านขวาของระเบียงเป็นตะแกรงอลูมิเนียมสำหรับวางคอมพ์แอร์เหมือนห้องรูปแบบ 1 ห้องนอน ความกว้างของระเบียงอยู่ที่ประมาณ 120 ซม. ที่กั้นเป็นลูกกรงเหล็กทาสีเทา
ทางด้านซ้ายมือของประตูทางเข้าห้องเป็นทางเดินเชื่อมต่อไปยังห้องนอนเล็กมีตู้เก็บของสำหรับวางเครื่องซักผ้าตามภาพ
ถัดมาเป็นในส่วนของห้องน้ำ ห้องน้ำทางฝั่งซ้ายซึ่งเป็นห้องนอนเล็กจะมีประตูแบบ Twin Door คือสามารถเข้าได้ 2 ทาง คือจากห้องส่วนของครัวและห้องนั่งเล่น และในส่วนของห้องนอนเล็ก
ภาพในห้องนอนเล็ก ประกอบด้วยโต๊ะทำงาน ชั้นวางทีวี แอร์ที่ได้รับสำหรับห้องรูปแบบนี้ ได้ 3 ตัว คือในส่วนของห้องนอนเล็ก โซนนั่งเล่น และ Master Bedroom ซึ่งแอร์ในรูปแบบ 2 ห้องนอนนี้ มีแรงขับเคลื่อนหรือ BTU มากกว่าแอร์ที่โครงการให้ในรูปแบบ 1 ห้องนอน
ในส่วนของห้องนอนใหญ่ผนังห้องบนหัวเตียงมีการตกแต่งวอลล์เปเปอร์ตามภาพ แต่ผนังห้องจริงที่โครงการให้เป็นแบบฉาบเรียบทาสีขาวไม่มีวอลล์เปเปอร์ตามภาพ แต่จะมีการตกแต่งสีด้านล่างให้ดูสมูทไปกับเตียงที่ไม่สูงมาก
อีกด้านของ Master Bedroom เป็นแบบทางเดินไปสู่ห้องน้ำ ซึ่งห้องนอนนี้มีห้องน้ำในตัวไม่เชื่อมต่อกับด้านนอก ด้านข้างทางเดินเป็นตู้เสื้อผ้าแบบบิลท์อิน
ตัวอย่างเฟอร์นิเจอร์ที่จะได้รับ
ทําเล & การเดินทาง
วิเคราะห์ศักยภาพทำเล
อย่างที่ทราบดีว่าพื้นที่ทำเลรัชดา-ราม 9 เป็นทำเลที่กลุ่มธุรกิจทั้งต่างชาติและไทยให้ความสนใจ สังเกตได้จากการย้ายมาของสำนักงานตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ช้อปปิ้งมอลล์ที่จับจองพื้นที่ขนาดใหญ่อย่างเซ็นทรัลพระราม 9 ซึ่งนับตั้งแต่ทำเลนี้มีรถไฟฟ้าใต้ดินกำเนิดขึ้นจากทำเลที่มีความครึกครื้นทางด้านธุรกิจอยู่แล้ว ก็ถูกชิงพื้นที่ด้วยโครงการอสังหาริมทรัพย์ ซึ่งอีกไม่นานโครงการ “เดอะ ซูเปอร์ ทาวเวอร์” ตึกที่สูงที่สุดในอาเซียนก็จะปรากฎขึ้นบนใจกลางทำเลรัชดา – พระราม 9 ซึ่ง ในอนาคตจะเป็นแหล่งธุรกิจใหม่ที่ดึงดูดผู้คนจากทั่วมุมโลกเข้ามา ซึ่งปัจจัยหนึ่งที่ช่วยส่งเสริมศักยภาพทำเลตรงนี้ให้ดีขึ้นนอกจากการขยายตัวรอบทิศทางของแหล่งธุรกิจสำคัญแล้วก็คือมอเตอร์เวย์สายตะวันออกที่เป็นจุดเชื่อมต่อจากสุวรรณภูมิเข้ามาสู่เมืองได้โดยง่าย ซึ่งภาพรวมในการคมนาคมบนท้องถนนถึงจะคับคั่งไปด้วยรถยนต์ส่วนตัวและบริการขนส่งมวลชนแต่นั่นก็คือสิ่งที่สะท้อนให้เห็นถึงการเป็นทำเลที่ใครๆ ต้องการและให้ความสนใจ
วิเคราะห์ทำเลที่ตั้งโครงการ
จากปากซอยรัชดาภิเษก 3 ถึงตัวโครงการมีระยะห่างประมาณ 200 ม. สองข้างทางเรียงรายไปด้วยร้านค้า ร้านอาหารแทบจะตลอดทาง รวมทั้งร้านสะดวกซื้อชื่อดัง นับจากปากซอยไปยังโครงการมีด้วยกันถึง 3 ร้าน ถึงแม้ว่าซอยรัชดาภิเษกจะเป็นถนนสองเลนที่ดูจะค่อนข้างคับแคบสำหรับการที่รถยนต์วิ่งสวนกันแต่ก็ยังมีการระบายรถออกด้วยซอยย่อยต่างๆ ที่พาทะลุไปยังถนนหลักด้านนอก การเดินทางเข้ามาสู่ตัวโครงการมีบริการมอร์เตอร์ไซค์วินเป็นระยะๆ ตั้งแต่บริเวณสถานี MRT พระราม 9 ราคาค่าบริการจากสถานีถึงโครงการประมาณ 10 บาท ภายในซอยไม่มีบริการรถสองแถว แต่ก็สามารถนั่งแท็กซี่เข้ามาได้ปกติ หากมองในแง่ของความสะดวกสบายแล้วถือว่าเหมาะกับคนทำงานไปจนถึงนักธุรกิจไม่ว่าจะเป็นชาวต่างชาติหรือชาวไทย ในแง่ของไลฟ์สไตล์ที่ตั้งโครงการรายล้อมไปด้วยอาหารการกินและร้านกาแฟ รวมไปถึงสถานที่แฮงค์เอ้าท์ด้านนอกซอยรัชดาภิเษก 3 ที่อยู่ไม่ไกลจากโครงการมาก ไม่ว่าจะเป็นฟอร์จูน ทาวน์ เซ็นทรัลพระรามเก้า หรือเอสพลานาด รัชดา เนื่องจากซอยรัชดาภิเษก 3 เป็นซอยทางลัด ถึงแม้ในชั่วโมงเร่งด่วนอาจจะมีรถยนต์พลุกพล่านที่ระบายมาจากถนนรัชดาภิเษก แต่ก็ยังมีบริการคมนาคมอื่นๆ เป็นทางเลือกในเวลาที่เร่งรีบ ประกอบกับตัวโครงการจนถึงหน้าปากซอยมีระยะไม่ไกลมากสามารถเดินไปถึง MRT สถานีพระรามเก้าได้เลยในระยะทางไม่เกิน 800 ม. ซึ่งหากจะมองในแง่ผู้อยู่อาศัยโดยภาพรวมแล้วนั้น เรื่องการเดินทางไม่ใช่อุปสรรคแต่อย่างใด
การเดินทาง
MRT
หากโดยสารด้วย MRT ลงที่สถานีพระราม 9 แล้วเดินออกมายังทางออกที่ 1 บริเวณอาคารฟอร์จูน ทาวน์ สามารถเรียกรถโดยสารต่อมุ่งตรงไปตามถนนแล้วเลี้ยวซ้ายเข้าซอยรัชดาภิเษก 3 ตรงไปข้ามสี่แยกแรกในซอยรัชดาภิเษก 3 เลยสี่แยกไปไม่ถึง 50 ม. โครงการจะอยู่ทางขวามือ หากเดินออก MRT ทางออกที่ 4 ก็จะเป็นทางออกไปยังตัวห้างเซ็นทรัลพระราม 9 ได้เลย จากสถานี MRT ไปถึงโครงการระยะห่างประมาณ 800 ม.
โครงการอยู่ภายในซอยรัชดาภิเษก 3 รั้วที่เห็นในภาพเป็นรั้วของสถานฑูตจีน จากปากซอยห่างจากโครงการประมาณ 200 ม.
บริเวณหน้าสถานีรถไฟฟ้า MRT พระราม 9 รถสามล้อจอดให้บริการ จากตรงนี้ไปถึงโครงการมีราคาประมาณ 30-40 บาท
ถัดมาเป็นจุดเรียกแท็กซี่อัจฉริยะ ซึ่งบริเวณซอยรัชดาภิเษก 3 นี้ มีรถแท็กซี่วิ่งผ่านทั้งวันทั้งคืน เพราะฝั่งตรงข้ามเป็นรัชดาภิเษกซอย 4 แหล่งรวมสถานที่แฮงค์เอาท์ชื่อดัง
ป้ายรถเมล์บริเวณสถานีรถไฟฟ้าใต้ดิน MRT พระราม 9 มีรถเมล์หลายสายวิ่งผ่าน ตั้งแต่สาย 73 136 137 179 185 206 514 517 และ ปอ. 529
ป้ายรถเมล์บริเวณหน้าซอยรัชดาภิเษก 3 มีสะพานลอยข้ามไปสู่ฝั่งตรงข้ามซึ่งเป็นรัชดาภิเษกซอย 4 ถัดมาก็คือห้างเซ็นทรัลพลาซ่า แกรนด์ พระราม 9
รถประจำทาง
จากเซ็นทรัลเวิลด์สามารถมาลงหน้า ฟอร์จูน ทาวน์ หรือ หน้าสถานฑูตจีน ได้ โดยขึ้นรถเมล์สาย 73, 73ก, 514
จากอนุสาวรีย์ชัยฯ สามารถมาลงหน้า ฟอร์จูน ทาวน์ หรือ หน้าสถานฑูตจีนได้ โดยขึ้นรถเมล์สาย 529, 172, 528
บริเวณปากซอยจะมีวินมอเตอร์ไซค์รับส่งไปถึงโครงการ ราคาประมาณ 7-10 บาท หรือสามารถเดินเท้าได้สบายๆ ด้วยระยะห่างของปากซอยถึงตัวโครงการ 200 ม.
สถานที่แนวไลฟ์สไตล์
เซ็นทรัลพลาซา แกรนด์ พระราม 9
เซ็นทรัลพลาซา แกรนด์ พระรามเก้าศูนย์การค้าขนาดใหญ่ที่รวบรวมสินค้าชั้นนำและร้านอาหารสุดฮิปไว้ในที่เดียว ตั้งอยู่ตรงหัวมุมถนนรัชดาภิเษกตัดกับถนนพระราม 9 ห่างจากตัวโครงการไม่เกิน 1.3 กม.
ฟอร์จูน ทาวน์
ศูนย์กลางแห่งวิวัฒนาการไอทีในย่านรัชดา แหล่งรวมไลฟ์สไตล์คนไอที ที่เต็มไปด้วยอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ครบครันทันสมัย พร้อม Food Mall กับบรรยากาศที่ผสมผสานระหว่าง Inter Brand กับรสชาติอาหารและบริการได้อย่างลงตัว
เอสพลานาดรัชดา
ศูนย์รวมไลฟ์สไตล์ความบันเทิงภายใต้แนวคิดแห่งศิลปะ 7 แขนง ที่ตอบโจทย์กลุ่มลูกค้าด้วยโรงภาพยนตร์ระดับเมกาเพล็กซ์ถึง 12 โรง รวมไปถึงโรงละครเมืองไทยรัชดาลัย เธียร์เตอร์, มิวสิคพลาซ่า, ลานโบว์ลิ่ง บลูโอริธึมแอนด์โบว์, อาร์ต อิน พาราไดซ์ พื่นที่แสดงภาพเขียนเสมือนจริงสำหรับคอศิลปะ แล้วยังมีท็อปส์ มาร์เก็ต แหล่งรวมวัตถุดิบสำหรับของกิน ของใช้ในชีวิตประจำวัน
บทวิเคราะห์
วิเคราะห์อัตรผลตอบแทนที่จะได้รับ
อัตราค่าเช่ารายเดือนเริ่มต้นของห้องแบบ 1 ห้องนอน อยู่ที่ประมาณ 15,000 บาทต่อเดือน ซึ่งหากเปรียบเทียบจากวัสดุอุปกรณ์ เฟอร์นิเจอร์ที่จะได้จากโครงการหรือผู้ให้เช่าแล้วถือว่าเป็นการเช่าที่คุ้มค่ามาก ความคุ้มค่านี้วัดจากโครงการคอนโดมิเนียมโลว์ไรส์โดยรอบภายในซอยรัชดาภิเษก 3 ที่มีอัตราค่าเช่าอยู่ที่ประมาณ 10,000 – 15,000 บาท แม้จะให้เฟอร์นิเจอร์ครบชุดพร้อมอยู่ แต่ระยะห่างจากปากซอยก็มีความไกลเกิน 500 ม. ขึ้นไป แต่ราคากลับอยู่ในระดับเดียวกันจึงทำให้ โครงการ มาเอสโตร 03 รัชดา – พระราม 9 เป็นตัวเลือกที่ดีกว่าในส่วนของผู้ที่ต้องการเช่าเพื่ออาศัย
ในส่วนของผู้ซื้ออยู่เองเป็นบ้านหลังที่สอง ผลตอบแทนที่จะได้รับอย่างแน่นอนก็คือในเรื่องของราคาที่ถูกกว่าประมาณ 2-3 แสนบาท หากเปรียบเทียบกับคอนโดมิเนียมติดถนนรัชดาภิเษก 3 ถึงแม้ว่าโครงการ มาเอสโตร 03 รัชดา – พระราม 9 จะเขยิบพื้นที่มาอยู่ในซอยรัชดาภิเษก 3 แต่สิ่งอำนวยความสะดวกก็ยังมีครบครัน แทบไม่แตกต่างจากคอนโดมิเนียมด้านนอก ความเป็นส่วนตัวอาจจะลดลงบ้างเพราะโครงการตั้งอยู่บนแหล่งชุมชนดั้งเดิมที่มีความหนาแน่น แต่เชื่อว่าในอนาคตผู้พัฒนา คงจะเข้ามาจับจองพื้นที่ตรงนี้มากขึ้นเรื่อยๆ จนเกิดเป็นอาณาจักรคอนโดมิเนียมโลว์ไรส์ขนาดใหญ่ก็เป็นได้ ดูได้จากการซื้อพื้นที่ของโครงการโครงการ มาเอสโตร 03 รัชดา – พระราม 9 ซึ่งเดิมพื้นที่นี้เป็นโรมแรมรัชดา รีสอร์ท แอนด์ สปา ควบรวมกับอาคารพาณิชย์ของผู้อยู่อาศัยดั้งเดิมหลายอาคาร
เปรียบเทียบกับโครงการอื่น
Emerald Residence Ratchada
คอนโดมิเนียม ในการกำกับดูแลของบริษัท พีทีซี.คอนโด ตกแต่งพร้อมเฟอร์นิเจอร์ ความสูง 8 ชั้น พร้อมชั้นใต้ดิน 1 ชั้น จำนวน 2 อาคาร (อาคาร A และ B) และ คอนโดมิเนียม ตกแต่งพร้อมเฟอร์นิเจอร์ สูง 8 ชั้น จำนวน 1 อาคาร (อาคาร C) บนพื้นที่ 4-2-90 ไร่ จำนวน 635 ยูนิต มาพร้อมกับห้องแบบสตูดิโอ 1-2 ห้องนอน มีพื้นที่ใช้สอยเริ่มต้นตั้งแต่ 22.59 – 51.41 ตร.ม. ในราคาเริ่มต้น 2.39 ล้านบาท อยู่ที่ตร.ม.ละ 80,000 ขึ้นไปสำหรับห้องขนาดเล็กสุด
Kes รัชดา
โครงการคอนโดมิเนียม Low rise ที่มีเพียง 70 ยูนิต ของผู้พัฒนารายย่อยบริษัท วิษณี โครงการตั้งอยู่ในซอยข้างสถานทูตจีนหรือรัชดาซอย 3 ห่างจาก MRT พระราม 9 ประมาณ1.5 กิโลเมตร บนพื้นที่ 198 ตร.ว. แบ่งออกเป็น Type A, Type B, และ Studio Roomโดยมีพื้นที่ใช้สอยสตูดิโอและ 1 ห้องนอน เริ่มต้นที่ 26.75 – 41.25 ตร.ม. เป็นห้องแต่งครบเฟอร์นิเจอร์แบบ Fully Furnished เริ่มต้นที่ 2.1 – 3.3 ล้านบาท ราคาเฉลี่ย 85,000 บาทต่อตร.ม.
Chateau in Town รัชดา 10
ชาโตว์ อินทาวน์ รัชดา 10 คอนโดมิเนียมสไตล์ Low Rise ความสูง 8 ชั้น ของค่ายพระยาพาณิชย์ พร็อพเพอร์ตี้ ในเครือ CMC ตั้งอยู่ในซอยรัชดา 10 แยก 7 ห่างจากจากปากซอยรัชดา 100 เมตร, ใกล้ MRT สถานีศูนย์วัฒนธรรม พัฒนาบนเนื้อที่โครงการกว่า 0-3-14 ไร่ กับรูปแบบห้อง 1 ห้องนอน พื้นที่ใช้สอย 25-41 ตร.ม. และ 2 ห้องนอน พื้นที่ 47-52 ตร.ม. ในราคาเริ่มต้น 3.5 ล้านบาท ปัจจุอยู่ที่ตารางเมตรละ 140,000 สำหรับห้องพื้นที่ 30 ตร.ม.
สรุป
จากการสำรวจทำเลภายในซอยรัชดาภิเษก 3 บริเวณโดยรอบแทบไม่มีพื้นที่เปล่าเลย ส่วนใหญ่พื้นที่โดยรอบจะเป็นอาคารพาณิชย์ และหอพัก ผู้อาศัยส่วนใหญ่ถ้าไม่ประกอบอาชีพเองก็จะปล่อยอาคารพาณิชย์ให้เช่า หากใครได้มีโอกาสผ่านเข้าไปในซอยจะเห็นได้ชัดเลยว่า จะมีป้ายขายที่ดินติดอยู่ตลอดแนวซอยรัชดาภิเษก 3 ตั้งแต่ 100 ตร.ว. จนถึง 200 ตร.ว. ขึ้นไป ซึ่งจากการคำนวณคร่าวๆ ที่ดินประมาณ 200 ตร.ว. ก็สามารถปลูกคอนโดมิเนียมโลว์ไรส์ 10 ยูนิตต่อชั้นได้สบายๆ ถ้ามองในจุดๆ นี้โอกาสที่ราคาที่ดินในซอยรัชดาภิเษก 3 จะมีราคาสูงก็มีมากขึ้น หากผู้พัฒนาส่วนใหญ่เริ่มมองเห็นศักยภาพและมีแนวคิดที่จะกว้านซื้อที่ดินและผุดโครงการขึ้นในซอย
หากจะถามกันตรงๆ ว่าโครงการ มาเอสโตร 03 รัชดา – พระราม 9 เหมาะที่จะลงทุนไหมคงฟันธงไม่ได้เสียทีเดียวเพราะเป็นเรื่องของอนาคต แต่หากถามว่าโครงการมีความน่าอยู่มากน้อยเพียงใด ก็สามารถตอบได้ว่าโครงการนี้มีความน่าอยู่มากสำหรับกลุ่มเป้าหมายที่เป็นคนเมือง ตั้งแต่นักศึกษา พนักงานออฟฟิศ เนื่องจากมีแหล่งไลฟ์สไตล์ ความคึกคักในด้านของอาหารการกินที่หลากหลาย แหล่งสาธารณูปโภคครบครัน เป็นปัจจัยที่ตอบโจทย์คนทุกกลุ่มที่ยังคงชอบบรรยากาศและสีสันของเมืองหลวง สำหรับรูปแบบห้อง 1 ห้องนอนอาจจะเหมาะกับผู้อาศัย 1-2 คนซึ่งเป็นเรื่องปกติ แต่สำหรับห้อง 2 ห้องนอนถึงแม้ว่าจะมีพื้นที่ใช้สอยที่ประมาณ 50-74 ตร.ม. ซึ่งอาจไม่ใหญ่มากสำหรับกลุ่มครอบครัว แต่การตกแต่งวัสดุอุปกรณ์ต่างๆ รวมไปถึงเฟอร์นิเจอร์บิลท์อิน และการวางเลย์เอาท์ของห้องกลับให้ความรู้สึกว่ากลุ่มครอบครัวตั้งแต่ 3-4 คน ขึ้นไปสามารถใช้ชีวิตอยู่ร่วมกันได้อย่างสบายๆ
สนใจ คอนโดฯ ในโครงการนี้? เลือกชม รายการประกาศ ราคาโดนใจ