แลนด์มาร์ค แอท แกรนด์สเตชั่น บาย ไซมิส แอสเสท (Landmark At Grand Station By Siamese Asset) เป็นโครงการมิกซ์ยูส บนทำเลศักยภาพ ตรงข้ามแฟชั่นไอส์แลนด์ ใกล้รถไฟฟ้าสายสีชมพู สถานีวงแหวนรามอินทรา เพียง 400 เมตร ภายในห้องออกแบบเป็น 2 ชั้น เพดานสูง 4.15 เมตร เน้นความโปร่ง โล่ง พร้อมออกแบบห้องตามพฤติกรรมและไลฟ์สไตล์ที่แตกต่างกัน ไม่ว่าจะเป็นห้องพักสำหรับผู้สูงอายุ คนที่มีสัตว์เลี้ยงหรือห้องพักในรูปแบบ Co-living และห้องพักแบบมาตรฐาน ภายในโครงการครบครันด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกทั้งพื้นที่พักอาศัย โรงแรม ร้านค้า ร้านอาหาร และสำนักงาน ราคาเริ่มต้นเพียง 2.90 ล้านบาท
ถนนเพชรบุรีถือเป็นอีกหนึ่งถนนที่มีการลงทุนอสังหาริมทรัพย์อย่างต่อเนื่อง ด้วยอานิสงส์ที่เป็นถนนคู่ขนานกับถนนสุขุมวิท และมีจุดเชื่อมต่อเส้นทางคมนาคม ทั้งทางด่วนเฉลิมมหานคร, Airport Rail Link มักกะสัน โดยเฉพาะบริเวณแยกมิตรสัมพันธ์ไปจนถึงบริเวณแยกอโศก – เพชรบุรี ถือเป็นโลเคชั่นใหม่ที่ดีเวลลอปเปอร์ให้ความสนใจ เนื่องจากเป็นถนนสายสั้นๆ ระยะทางประมาณ 1 กม. ที่ล้อมรอบไปด้วยย่านธุรกิจ (CBD) อโศก – สุขุมวิท และยังเชื่อมต่อไปสู่ รัชดา – พระราม 9 ได้ไม่ยาก ซึ่งในปัจจุบันพื้นที่ย่านถนนเพชรบุรีนั้นกำลังเติบโตมาก ตลอดแนวเส้นทางดังกล่าวประกอบไปด้วย คอนโดมิเนียม High Rise หลายโครงการ อาทิ Q Asoke, Villa Asoke, The Address Asoke, Circle 1 (เพชรบุรี 39) และ Circle Living Prototype และนอกจากนั้นพื้นที่ส่วนใหญ่ที่เหลือก็ยังเป็นอาคารพาณิชย์เก่าแก่ที่กำลังรอการพัฒนา ทำให้เห็นว่าพื้นที่นี้มีแนวโน้มในการเจริญเติบโตไปได้อีกไกลในอนาคต ทั้งนี้เองหนึ่งในดีเวลลอปเปอร์ชื่อดังอย่าง บริษัท แอล.พี.เอ็น. ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) ก็ไม่พลาดที่จะเข้ามาลงทุนปักหมุดโครงการ ลุมพินี สวีท เพชรบุรี-มักกะสัน บริเวณใกล้กับแยกมิตรสัมพันธ์ ที่เชื่อมต่อถนนนิคมมักกะสัน และซอยสุขุมวิท 3 (นานา) เอาไว้ โดยเซกเมนต์ของแบรนด์ สวีท เองนั้น ทาง LPN ก็ยกให้เป็นคอนโดมิเนียมเกรดที่ดีที่สุด หากไม่นับโปรเจคพิเศษอย่าง เดอะ ลุมพินี 24
เจาะลึกข้อมูลโครงการ
ชื่อโครงการ: ลุมพินี สวีท เพชรบุรี-มักกะสัน (Lumpini Suite Phetchaburi – Makkasan)
ผู้พัฒนาโครงการ: บริษัท แอล.พี.เอ็น. ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) (L.P.N. Development PCL.)
ทำเลที่ตั้ง: ถนนเพชรบุรี แขวงมักกะสัน เขตราชเทวี กรุงเทพฯ
เว็บไซต์: http://www.lpn.co.th/
โทร: 02-689-6888
รายละเอียดโครงการ (ข้อมูล ณ วันที่ 22 ธันวาคม 2559)
พื้นที่โครงการ: 3-0-71.1 ไร่
ลักษณะโครงการ: คอนโดมิเนียม High Rise 35 ชั้น 1 อาคาร จำนวน 636 ยูนิต
สถานะการก่อสร้าง: เริ่มก่อสร้างประมาณเดือนเมษายน 2560 และคาดว่าจะแล้วเสร็จประมาณปลายปี 2561
ลิฟต์: ลิฟต์โดยสาร 3 ตัว ลิฟต์เซอร์วิส 2 ตัว
ที่จอดรถ: 277 คัน คิดเป็น 40% (ไม่รวมซ้อนคัน)
สิ่งอำนวยความสะดวก: Co-Living Zone, Co-Living Area, Fit & Firm Area, Infinity Edge Pool, Fitness Zone, Kid’s Fun Zone, Steam, Sauna, Infinity Garden, Green Together Area, Sky Lounge
ระบบรักษาความปลอดภัย: ระบบรักษาความปลอดภัยและรปภ. ตลอด 24 ชม. / Key Card Access / CCTV
สถานะการขาย: เปิดจองวันแรก 21 ม.ค. 2560
เงื่อนไขการชำระเงิน: จอง 10%, ดาวน์ 10%
เงินกองทุนสะสม: 700 บาท/ตร.ม.
ค่าส่วนกลาง: 50 บ./ตร.ม./เดือน
ราคาเริ่มต้น: 2.35 ล.บ.*
ราคาเฉลี่ย: 140,000 บ./ตร.ม.
รูปแบบห้อง
สตูดิโอ ขนาดพื้นที่ใช้สอยเริ่มต้น 23.00-24.00 ตร.ม.
1 ห้องนอน ขนาดพื้นที่ใช้สอยเริ่มต้น 26.50-33.00 ตร.ม.
2 ห้องนอน ขนาดพื้นที่ใช้สอยเริ่มต้น 34.50-61.00 ตร.ม.
รายละเอียดโครงการ
รีวิวภาพรวมโครงการ
โครงการลุมพินี สวีท เพชรบุรี-มักกะสัน เป็นโครงการที่จัดอยู่ในเซกเมนต์เกรดสูงสุดของคอนโดมิเนียมในเครือบริษัท แอล.พี.เอ็น. ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) หากไม่นับรวมโปรเจกต์พิเศษอื่นๆ อาทิ เดอะ ลุมพินี 24 โครงการแบรนด์สวีทถือเป็นคอนโดมิเนียมที่มอบวัสดุ อุปกรณ์ที่มากับห้องชุดได้เหนือกว่าแบรนด์อื่นๆ ของลุมพินี พร้อมทั้งยังจัดเต็มส่วนกลางให้กับลูกบ้าน ประกอบไปด้วย Co-Living Zone, Co-Living Area, Fit & Firm Area, Infinity Edge Pool, Fitness Zone, Kid’s Fun Zone, Steam, Sauna, Infinity Garden, Green Together Area, Sky Lounge โดยพื้นที่ส่วนกลางส่วนใหญ่จะอยู่บริเวณชั้นหนึ่ง โดยมี Infinity Edge Pool ที่บริเวณชั้น 10 มุมของสระว่ายน้ำหันไปทางทิศตะวันออก ซึ่งบริเวณทิศตะวันออกเฉียงเหนือ หากใช้สายตามองเยื้องๆ มาจากที่ชั้น 10 ส่วนกลางสระว่ายน้ำ น่าจะสามารถเทควิวพื้นที่สวนสวยมักกะสันในอนาคตได้ด้วย ภายในอาคารมีลิฟต์โดยสาร 3 ตัว เฉลี่ยอัตราส่วนลิฟต์ 1 ตัว ต่อ 212 ยูนิต ซึ่งถือว่าเยอะพอสมควร ยูนิตที่พักอาศัยเริ่มต้นที่ชั้น 4 ยูนิตเฉลี่ยต่อชั้นอยู่ที่ประมาณ 24 ยูนิต ทางเดินเป็นแบบ Double Corridor ทุกชั้นมีห้องคละกัน ความเป็นส่วนตัวอาจจะน้อยลงจากยูนิตที่เยอะพอสมควร แต่ในหนึ่งชั้นจะมี 1 ยูนิตที่โดดเด่นที่สุดคือห้อง 2 ห้องนอนที่อยู่บริเวณหัวมุมของชั้น เป็นห้องขนาดใหญ่ที่หันออกไปทางฝั่งถนนเพชรบุรี ในหนึ่งชั้นจะมีเพียง 1 ห้องเท่านั้น ส่วนชั้นบนสุดหรือชั้น 35 จะมีสวนดาดฟ้า และ Sky Lounge ที่หันไปเทควิวทางฝั่งตะวันตกหรือบริเวณแยกมิตรสัมพันธ์ได้
Sales Gallery ของโครงการตั้งอยู่บริเวณแยกมิตรสัมพันธ์ฝั่งถนนที่มุ่งหน้าไปยังแยกอโศก – เพชรบุรี ภายนอกออกแบบด้วยสี Copper ตัดกับกระจกเขียวตัดแสง คาดว่ารูปแบบอาคารภายนอกจะออกมาในลักษณะคล้ายกับ Sales Gallery
โมเดลอาคาร Scale 1 : 100 อาคารภายนอกออกแบบตกแต่งโดยเน้นสี Copper Gold ตัดกับกริดสีน้ำเงิน มีพื้นที่สีเขียวล้อมรอบโครงการ บริเวณ Layout อาคารที่ยื่นออกมาด้านหน้าสุดหันออกไปทางถนนเพชรบุรีจะเป็นห้อง 2 ห้องนอน แปลนมุม หรือห้องขนาดใหญ่สุด (61 ตร.ม.) ของโครงการ
ด้านหลังโครงการจะมีที่จอดรถที่มีกริลเหล็ก ตกแต่งด้วยไม้ประดับ สำหรับกันลมกันฝนให้ที่จอดรถ และบดบังทัศนียภาพจากสายตาภายนอก
การวางทิศทางโครงการ
ทิศเหนือ: ทิศเหนือเป็นด้านหลังโครงการ เป็นอาคาร Plaza Entertainment Complex เป็นตึกสูงประมาณ 13 ชั้น ผู้อยู่อาศัยที่ความสูงชั้น 15 ขึ้นไปน่าจะเทควิวเคลียร์ออกไปที่ดินมักกะสันได้แล้ว
ทิศใต้: ทิศใต้เป็นด้านหน้าโครงการติดอยู่กับถนนเพชรบุรีฝั่งมุ่งหน้าไปแยกอโศก – เพชรบุรี ฝั่งตรงข้ามโครงการสามารถเทควิวเคลียร์ได้ไกลสุดสายตาเลย ปัจจุบันยังเป็นอาคารพาณิชย์สูงไม่เกิน 4 ชั้น เยื้องๆ จะเป็นคอนโดมิเนียม Circle 1 มี 2 อาคาร สูง 30 ชั้น และ 43 ชั้น
ทิศตะวันออก: ทิศตะวันออกหากมองลงมาจากชั้นสูงๆ จะเป็นซอยส่วนบุคคล แต่ถ้ามองออกไปข้างหน้าจะถูกบล็อควิวด้วยโครงการคอนโดมิเนียม Circle Living Prototype ที่มีความสูงถึง 53 ชั้น แต่ที่บริเวณชั้น 10 ของโครงการมองออกไปเป็นมุมทะแยงมุมจะสามารถเทควิวที่ดินมักกะสันได้
ทิศตะวันตก: ทิศตะวันตกเป็นแนวราบไม่มีอาคารสูง เป็นวิวเมืองยาวออกไปถึงแพลทินัม พันธุ์ทิพย์ พลาซ่า ติดกับโครงการเป็นที่ดินเปล่า การไฟฟ้าสาขาย่อยนานา และชุมชนดั้งเดิม
Master Plan
Lay out ของ Ground Floor เป็นจุดศูนย์กลางของส่วนกลางสำหรับพักผ่อนหย่อนใจ ล็อบบี้จะอยู่ด้านหน้าสุดของทางเข้าโครงการ ส่วนด้านในจะเป็นอาคารจอดรถ
Floor Plan
ที่ชั้นสองจะเป็นงานระบบของชั้นล่าง โครงการน่าจะออกแบบพื้นที่พักผ่อน และล็อบบี้แบบ Double Volume เน้นความหรูหรา
ที่ชั้น 4 ถึงชั้น 8 จะเป็นอาคารจอดรถส่วนหนึ่ง ส่วน Layout รูปตัว L ด้านหน้าโครงการจะเป็นยูนิตที่พักอาศัยเริ่มต้นตั้งแต่ชั้น 4 โดยที่ชั้น 4 ถึงชั้น 8 จะสามารถเดินเชื่อมเข้าอาคารจากลานจอดรถได้โดยตรงผ่านระบบคีย์การ์ด ชั้น 4 – 8 จะมียูนิตเฉลี่ยอยู่ที่ 10 ยูนิตต่อชั้น น่าจะเป็นโซนที่มีความเป็นส่วนตัวสูงสุด
ชั้น 9 จะเป็นงานระบบของส่วนกลางที่ชั้น 10 ทำให้จากลานจอดรถไม่สามารถเดินเข้าได้ตัวอาคารที่เป็นส่วนของยูนิตพักอาศัยได้
ชั้น 10 เป็นส่วนของสระว่ายน้ำส่วนกลาง ฟิตเนส และงานระบบ บริเวณฟิตเนสสามารถเทควิวหน้าโครงการที่เป็นถนนเพชรบุรีได้ ส่วนสระว่ายน้ำจะสามารถเทควิวฝั่งทิศตะวันออก ซึ่งอาจจะโดนบล็อควิวจากโครงการคอนโดมิเนียม Circle 2 ที่มีความสูงถึง 53 ชั้น
ที่ชั้น 10 และชั้น 11 แบบแปลนมีรูปร่างคล้ายกันต่างกันที่ชั้น 11 ส่วนของส่วนกลางจะเป็นงานระบบ โดย 2 ชั้นนี้จะมียูนิตเฉลี่ยอยู่ที่ 14 ยูนิตต่อชั้น มีความเป็นส่วนตัวพอสมควรเพราะมีการกั้นส่วนระหว่างส่วนกลางกับยูนิตพักอาศัย และงานระบบไว้ชัดเจน
ชั้น 12 – 31 จะเป็นยูนิตที่พักอาศัยทั้งหมด มียูนิตเฉลี่ยประมาณ 24 ยูนิตต่อชั้น หากสังเกตจากแปลนที่ผ่านมาจะเห็นว่าโครงการจะไม่เน้นห้อง Studio แต่จะเน้นห้องตั้งแต่ 1 ห้องนอนขนาด 27 ตร.ม.ขึ้นไป และห้อง 2 ห้องนอนแทน
ชั้น 33-34 แปลนห้อง 2 ห้องนอนแปลนมุมจะหายไป จากงานระบบของสวนชั้น 32 แต่ยังคงมีห้องแบบ 1 ห้องนอน และ 2 ห้องนอนแบบธรรมดาให้เลือก โดยห้องที่หันออกไปวิวด้านที่ดีที่สุดส่วนใหญ่จะเป็นห้อง 2 ห้องนอน
ภาพตัวอย่างของ Unit Layout
สิ่งอำนวยความสะดวกภายในโครงการ
Infinity Edge Pool สระว่ายน้ำระบบเกลือ
Co-Living Zone ห้องอเนกประสงค์ สำหรับการพบปะสังสรรค์
Co-Living Area ลานกิจกรรม เพื่อการพักผ่อน
Fit & Firm Area ลานฟิตแอนด์เฟิร์ม
Fitness Zone ฟิตเนสโซน
Kid’s Fun Zone ห้องคุณหนู เหมาะสำหรับเจ้าตัวน้อย
Steam ห้องอบไอน้ำ
Sauna ห้องซาวน่า
Infinity Garden สวนรอบโครงการ
Green Together Area สวนรวมใจ
Sky Lounge จุดชมวิว
รีวิวภายในห้องตัวอย่าง
สิ่งที่จะได้รับจากโครงการ
พื้น: ลามิเนท
ผนัง: ทาสี
พื้นจรดเพดานความสูง: 2.60 ม.
เฟอร์นิเจอร์: ตู้เสื้อผ้า
เครื่องปรับอากาศ: สตูดิโอ 1 เครื่อง,1 ห้องนอน 2 เครื่อง, 2 ห้องนอน 3 เครื่อง
ห้องน้ำ: สุขภัณฑ์ American Standard, เครื่องทำน้ำอุ่น
ชุดครัว: เคาน์เตอร์ครัว
ห้องตัวอย่าง สตูดิโอ ขนาดพื้นที่ใช้สอย 23.00 ตร.ม.
ห้องตัวอย่างสตูดิโอขนาด 23.00 ตร.ม. เป็นห้องเริ่มต้นจะมีเฉพาะในชั้น 4-8 เท่านั้น เฉลี่ยประมาณชั้นละ 3 ยูนิต
เมื่อเข้ามาในห้องจะเห็นเลยว่าแปลนห้องเป็นแบบเปิดไม่มีผนังกั้น ส่วนใหญ่ถ้าเป็นแปลนห้องแบบมีการกั้นส่วนจะสังเกตได้เลยว่าห้องจะมีขนาดเล็ก
ทางด้านซ้ายจะเป็นเคาน์เตอร์ครัวที่โครงการมอบให้มีซิงค์ล้างจาน แต่ไม่มีที่พักจาน ด้านล้างเป็นที่เก็บของใต้ซิงค์ มีช่องสำหรับใส่เครื่องซักผ้าแบบฝาหน้า โครงการติดตั้งปลั๊กไฟให้เรียบร้อยแต่ไม่ได้มอบเตาไฟฟ้าและเครื่องดูดควันให้ ที่ชั้นบนเป็นชั้นเก็บของและซ่อนงานระบบไฟฟ้าไว้ พร้อมชั้นวางไมโครเวฟ
ด้านหน้าห้องโครงการตกแต่งด้วยเฟอร์นิเจอร์ลายไม้ขนาดยาว แบ่งออกเป็นชั้นวางทีวี มุมโต๊ะทำงาน ด้านบนมีชั้นวางของและตู้เก็บของ โดยเว้นช่องว่างให้สามารถวางตู้เย็นขนาดไม่สูงมากได้
ห้องนั่งเล่นของห้องแบบ 23.00 ตร.ม. เชื่อมต่อกับระเบียง ข้อดีของห้องแบบแปลนเปิดคือผู้อยู่อาศัยอาจสามารถจัดมุมนั่งเล่น หรือมุมพักผ่อนได้ตามอัธยาศัยโดยไม่มีผนังกั้น
เฟอร์นิเจอร์ชั้นวางของอเนกประสงค์ที่โครงการออกแบบตกแต่งให้เป็นไอเดีย เป็นการประหยัดพื้นที่ใช้สอยของห้องด้วยการใช้เฟอร์นิเจอร์แบบรวม
พื้นที่ห้องนั่งเล่นมีขนาดกว้างมากถึงแม้ห้องจะมีขนาดเพียง 23 ตร.ม. สังเกตได้จากพื้นที่ว่างระหว่างโซฟาและชั้นวางทีวี
โครงการยกสเตปพื้นห้องและระเบียงขึ้นมาเพื่อป้องกันฝุ่นละออง และกั้นน้ำไหล ประตูกั้นส่วนเป็นกระจกเขียวตัดแสงวงกบอลูมิเนียม แบบบานเลื่อนสองตอน มีความสูงพอสมควรสามารถรับแสงธรรมชาติได้อย่างเต็มที่
ระเบียงกว้างประมาณ 80 ซม. โครงการติดตั้งระบบประปาให้เรียบร้อย สามารถวางเครื่องซักผ้าทั้งแบบฝาบนและฝาหน้าได้ ระเบียงเน้นพื้นที่ใช้สอยแบบทางยาวมีขนาดยาวจนสามารถจัดสวนครัวเล็กๆ ได้เลย
กลับเข้ามาในห้องบริเวณหลังโซนนั่งเล่นจะเป็นมุมห้องนอนที่เน้นความโปร่งโล่งสบายด้วยกระจกแบบ Full Height จากภาพเป็นเตียงขนาด 5 ฟุต หากปรับเปลี่ยนเป็นแบบคิงไซส์ก็ยังสามารถเดินได้รอบเตียงอยู่
บานกระจกขนาดใหญ่ตีกริดสีทองให้ความหรูหรา พร้อมรับแสงธรรมชาติ Layout ของผนังห้องด้านนี้สามารถติดตั้งม่านทั้งแบบบนลงล่าง หรือจากด้านซ้ายไปขวา ขวาไปซ้ายได้
ปลายเตียงโครงการตกแต่ง Layout ผนังกั้นระเบียงด้วยชั้นวางของแบบบิวท์อินท์พร้อมกระจกเงาทำให้ห้องดูกว้างขึ้นมาก
Shower Box เป็นบานกระจกเลื่อนสองตอน ห้องอาบน้ำมีขนาดไม่ใหญ่มาก ปูด้วยกระเบื้องแกรนิตโต้แบบหยาบกันลื่น
ภายใน Shower Box โครงการติดตั้งจุดทำน้ำอุ่นไว้ให้ พร้อมชั้นวางอุปกรณ์อาบน้ำ สามารถวาง Shower Cream และยาสระผมได้พอดี
ห้องตัวอย่าง 1 ห้องนอน ขนาดพื้นที่ใช้สอย 27.00 ตร.ม.
เคาน์เตอร์ครัวมีลักษณะเหมือนกับห้องแบบสตูดิโอ แต่จะมีพื้นที่เตรียมครัวทางฝั่งซ้ายมือมากกว่า ที่ชั้นเก็บของเหนือช่องวางไมโครเวฟเป็นตู้ซ่อนงานระบบไฟฟ้า ทางด้านขวาเป็นชั้นเก็บของอเนกประสงค์
สิ่งที่แตกต่างนอกจากขนาดห้องที่กว้างขึ้นจากห้องสตูดิโอก็คือ ฝั่งตรงข้ามเคาน์เตอร์ครัวจะเป็นพื้นที่เตรียมครัวเล็กๆ พร้อมพื้นที่ใช้สอยสำหรับตู้เย็นที่ไม่ฟิกซ์ความสูง
จากภาพเป็นระยะในการนั่งโซฟาไปจนถึงชั้นวางทีวีมีระยะห่างพอสมควร สามารถวางทีวีขนาด 60 นิ้วได้โดยไม่เสียสายตา
บรรยากาศของห้องนั่งเล่นที่โครงการออกแบบเป็นไอเดียให้ มีความโปร่งโล่งสบาย จากบานกระจกกั้นส่วนระเบียงที่มีความสูงประมาณ 2 ม.
ระเบียงด้านนอกโครงการทาสีผนังเป็นสีน้ำเงินให้ลับกับกริดที่เป็นสี Copper Gold ตามคอนเซปต์โครงการ ระเบียงมีขนาดกว้างและยาวพอๆ กับห้องแบบสตูดิโอ
ภายในห้องนอนมีขนาดกว้างพอสมควร จากภาพเป็นเตียงขนาดคิงไซส์ จะเห็นว่าบริเวณฝั่งตู้เสื้อผ้าเหลือพื้นที่ใช้สอยเยอะมาก
ด้านในมีโถสุขภัณฑ์ครบครันถูกวางเข้ามุม เนื่องจาก Layout ของห้องน้ำแบบ 1 ห้องนอน เป็นทางยาว มีขนาดไม่ใหญ่มากเพื่อเน้นพื้นที่ใช้สอยของห้องนอน
ห้องตัวอย่าง 2 ห้องนอน ขนาดพื้นที่ใช้สอย 40.50 ตร.ม.
ห้องนอนแบบ 2 ห้องนอน ขนาด 40.50 ตร.ม. เป็นห้องที่มียูนิตเยอะรองลงมาจากห้องแบบ 1 ห้องนอน โดยแต่ละชั้นจะมีห้อง 2 ห้องนอนที่หันออกมาทางวิวถนนเพชรบุรี 3 ห้อง หันออกไปทางแยกมิตรสัมพันธ์ 3 ห้อง และทางทิศตะวันออกที่เป็นโครงการคอนโดมิเนียมสูง 53 ชั้นเพียง 1 ห้องนอน
ไอเดียการตกแต่งมุมรับประทานอาหาร ใช้โคมไฟ Chandelier ชั้นวางของแบบบิวท์อิน ที่ใช้ไฟสีส้มเป็นหลักจะช่วยเพิ่มสีสันของอาหารให้มีความน่ารับประทานยิ่งขึ้น
เคาน์เตอร์ครัวที่โครงการมอบให้มีขนาดใหญ่กว่าทั้ง 2 ห้องที่ผ่านมา แบ่งเป็นชั้นเก็บของใต้อ่างล้างจาน ช่องใส่เครื่องซักผ้าแบบฝาหน้า และลิ้นชักเก็บของพร้อมช่องวางไมโครเวฟ
ภายในห้องน้ำจัดสัดส่วนของสุขภัณฑ์ให้ใช้งานได้ง่ายตามลำดับ ด้านในสุดจะเป็นห้องอาบน้ำที่มีบานกั้นโซนเปียกโซนแห้ง
ระยะระหว่างโซฟากับห้องนั่งเล่นห่างกันพอสมควร โครงการจัดสรรไอเดียให้เป็นการติดทีวีที่ผนังเพื่อขยายระยะสายตา ด้านในเป็นพื้นที่ที่เชื่อมต่อกับระเบียง
ระเบียงมีขนาดใหญ่พอๆ กับห้องตัวอย่างสตูดิโอ และ 1 ห้องนอน แต่มีขนาดยาวกว่า โครงการจัดสวนที่ระเบียงไว้ให้เป็นไอเดีย
จากมุมระเบียงจะเห็นพื้นที่ใช้สอยของห้องครัวขนาดใหญ่ พร้อมประตูเชื่อมต่อกับ Master Bedroom ฝั่งผนังที่ติดตั้งชั้นวางทีวี
ภายในห้องนอน Master Bedroom เป็นห้อง Layout สี่เหลี่ยมจตุรัส แบ่งออกเป็นเฟอร์นิเจอร์เตียง ตู้เสื้อผ้า และโต๊ะเครื่องแป้ง
พื้นที่โดยรวมของ Master Bedroom มีขนาดไม่ใหญ่มาก แต่ดูโปร่งโล่งสบายจากบานกระจกแบบ Full Height ด้านบนโครงการบิวท์อินเพดานและเว้นรางม่านไว้ ทำให้การติดตั้งม่านดูสวยงาม
พื้นที่ปลายเตียงสามารถเดินได้อยู่แต่มีขนาดเล็ก เรียกว่าโครงการออกแบบขนาดห้องมาให้พอดิบพอดีกับเตียงขนาดคิงไซส์เลย
ทําเล & การเดินทาง
ศักยภาพทำเล
ศักยภาพทำเลบริเวณเพชรบุรี – มักกะสัน
ถนนเพชรบุรีเป็นถนนคู่ขนานกับถนนสุขุมวิท มีจุดเด่นคือเส้นทางที่เชื่อมต่อถึงกัน จากซอยลัดหรือบริเวณแยกต่างๆ เพื่อหลีกเลี่ยงเส้นทางการจราจรติดขัด โดยในปัจจุบันโครงการที่มาปักหลักอยู่บริเวณนี้จะเน้นจุดเด่นจากทำเลที่มีเส้นทางคมนาคมที่สามารถเดินทางเข้าสู่ใจกลางเมืองได้สะดวก ตั้งแต่บริเวณแยกมิตรสัมพันธ์จนไปถึงแยกอโศก – เพชรบุรี จะสามารถเชื่อมต่อสู่ CBD เก่าอย่าง อโศก-สุขุมวิท และ New CBD อย่างโซนรัชดา – พระราม 9 ได้อย่างง่ายดาย ซึ่งการเกิดขึ้นของซัพพลายคอนโดมิเนียมในย่านนี้ก็มีผลพวงมาจากการรองรับการเติบโตจากทางฝั่งอโศก – สุขุมวิท ที่เรียกได้ว่ามีการเจริญเติบโตเกินกว่าจะพัฒนาให้ก้าวกระโดดออกไปอีกขั้นแล้ว หากมองย้อนไปในช่วง 4-5 ปีที่ผ่านมาจะเห็นว่าที่ดินบริเวณถนนเพชรบุรีนั้นยังมีราคาไม่สูงมาก แต่ ณ ปัจจุบัน ด้วยอานิสงส์จากภาครัฐจากการพัฒนาพื้นที่สีเขียวบริเวณมักกะสันในอนาคต และภาคเอกชนที่นิยมมาลงทุนบริเวณจุดเชื่อมต่อ CBD มากขึ้น ทำให้ปัจจุบันราคาที่ดินติดถนนเพิ่มขึ้นสูง และด้วยปัจจัยต่างๆ ที่เอื้ออำนวยด้านที่อยู่อาศัยแนวสูง ทำให้ที่ผ่านมาโครงการที่เข้ามาปักหมุดบริเวณนี้จะมียอดขายเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 70 – 80% เลยทีเดียว และจะยิ่งน่าสนใจขึ้นไปอีก หากในอนาคตที่ดินด้านหลังที่ตั้งโครงการ ลุมพินี สวีท เพชรบุรี-มักกะสันที่มีขนาดพื้นที่กว่า 479 ไร่ จะถูกพัฒนาเป็นพื้นที่สีเขียวขนาดใหญ่ที่ประกอบไปด้วย พิพิธภัณฑ์รถไฟ 30 ไร่ พื้นที่สีเขียว 150 ไร่ และพื้นที่เชิงพาณิชย์อีกประมาณ 300 กว่าไร่ ซึ่งหากการพัฒนานี้เกิดขึ้นจริงจะส่งผลต่อราคาของที่อยู่อาศัยและที่ดินบริเวณนี้ไปด้วยอย่างแน่นอน
ทำเลที่ตั้งโครงการ
แผนที่โครงการพิกัด Google : 13.750431, 100.555641
โครงการตั้งอยู่ติดกับถนนเพชรบุรี ฝั่งมุ่งหน้าไปทางแยกอโศก – เพชรบุรี ห่างจากแยกมิตรสัมพันธ์ประมาณ 100 ม. มี Mass Transit ที่ใกล้ที่สุดคือ รถไฟฟ้าใต้ดิน สถานีเพชรบุรี อยู่ห่างจากโครงการประมาณ 850 ม. รองลงมาจะเป็น Airport Rail Link มักกะสันอยู่ห่างจากโครงการประมาณ 1 กม. นอกจากนั้นจากหน้าโครงการมุ่งหน้าไปทางแยกมิตรสัมพันธ์ประมาณ 100 ม. จะมีสะพานลอยสามารถข้ามสะพานลอยไปลงหน้าปากซอยสุขุมวิท 3 และเรียกวินมอเตอร์ไซค์ไปสู่ BTS สถานีนานาได้ในระยะทาง 1.3 กม. รวมไปถึงเส้นทางการคมนาคมของรถยนต์ก็สามารถมุ่งตรงเลยแยกมิตรสัมพันธ์ไปประมาณ 500 ม. เลี้ยวซ้ายก็จะสามารถตัดเข้าทางพิเศษเฉลิมมหานคร ขึ้นด่านเพชรบุรีมุ่งหน้าไปสู่ถนนพระราม 4 ออกไปสู่บริเวณสาทร – สีลมที่เป็นแหล่งงานขนาดใหญ่ได้ หรือ ถ้าเลี้ยวตัดออกไปทางซ้ายก็สามารถใช้ทางพิเศษมหานครมุ่งหน้าไปยังบริเวณจตุจักรได้เช่นกัน นอกจากเส้นทางการคมนาคมที่ครบครันแล้ว ห่างจากโครงการประมาณ 300 ม. บริเวณซอยสุขุมวิท 3 หรือซอยนานา ยังมีท่าเรือนานาเหนือ บนเส้นทางการเดินเรือคลองแสนแสบให้บริการด้วย ส่วนในเรื่องอาหารการกินจะมีสตรีทฟู้ดอยู่บริเวณฝั่งตรงข้ามเยื้องๆ กับโครงการ เนื่องจากบริเวณนั้นจะมีอาคารสำนักงานธนภูมิและสำนักงานการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยที่พลุกพล่านไปด้วยพนักงานบริษัทตลอดวัน ความคึกคักด้านอาหารการกินในระหว่างวันจึงจะอยู่ทางฝั่งซอยเพชรบุรี 36 มากกว่า ส่วนถ้าเป็นช่วงกลางคืนบริเวณที่ตั้งโครงการจะเงียบสงบ แต่หากมองออกไปที่บริเวณซอยสุขุมวิท 3 หรือทางฝั่งถนนอโศกมนตรีก็จะมีความครึกครื้นเต็มไปด้วยสถานที่ไลฟ์สไตล์ และแฮงเอาท์มากมาย ซึ่งซอยนานามีระยะห่างจากโครงการเพียงข้ามช่วงถนนเท่านั้น ส่วนบริเวณอโศกมนตรีจะอยู่ห่างจากโครงการประมาณ 850 ม. และเต็มไปด้วยไลฟ์สไตล์แนวญี่ปุ่นเกาหลีให้เลือกสรร แต่ต้องเดินทางด้วยบริการขนส่งมวลชนหรือรถยนต์ หากเดินไปอาจใช้เวลาพอสมควร
การเดินทาง
จากทางพิเศษเฉลิมมหานคร
จุดที่ 1
เมื่อออกจากทางด่วนเฉลิมมหานครทางออกเพชรบุรี ให้ยูเทิร์นรถตามเส้นทางทางด่วน ขับตรงมาเรื่อยๆ จนเจอทางออก เส้นทางบังคับให้เลี้ยวซ้ายเข้าถนนเพชรบุรี ตรงมาประมาณ 100 ม. จะเจอโครงการอยู่ทางซ้ายมือ
จุดที่ 2
จากทางออกทางด่วนเข้าสู่ถนนเพชรบุรี ขับตรงมาเรื่อยๆ ประมาณ 450 ม. เจอแยกมิตรสัมพันธ์ ให้เริ่มขับชิดขวา และขับตรงไปประมาณ 100 ม. โครงการจะอยู่ทางซ้ายมือ
MRT
หากโดยสารมาโดยรถไฟฟ้าใต้ดินให้มาลงที่สถานีเพชรบุรี ออกทางออกถนนเพชรบุรี และเดินไปตามแนวรถวิ่งไปทางเพชรบุรีซอย 36 หรือเรียกวินมอเตอร์ไซค์ประมาณ 10 บาท โครงการจะตั้งอยู่ตรงข้ามกับเพชรบุรีซอย 36 ใกล้กับแยกมิตรสัมพันธ์
Airport Rail Link
หากโดยสารมาโดย Airport Rail Link ให้มาลงที่สถานีมักกะสัน โครงการจะอยู่ห่างจากสถานีประมาณ 1 กม. หากจะเดินเท้าไปต้องใช้ทางเชื่อมไปออกสู่ MRT เพชรบุรีและเดินย้อนขึ้นไปทางแยกมิตรสัมพันธ์ หรือถ้าใช้วินมอเตอร์ไซค์จาก Airport Rail Link มักกะสันให้ตรงไปทางถนนนิคมมักกะสัน ตรงไปประมาณ 650 ม. จะเจอทางเลี้ยวซ้ายเข้าสู่ถนนนิคมมักกะสัน จากนั้นตรงไปอีก 150 ม. ให้เบี่ยงซ้ายเข้าสู่ถนนเพชรบุรีจะพบกับโครงการตั้งอยู่ทางซ้ายมือ
ท่าเรือนานาเหนือ
หากโดยสารเรือจากเส้นทางการเดินเรือคลองแสนแสบสามารถเดินลงที่ท่าเรือแล้วเดินย้อนมาที่แยกมิตรสัมพันธ์ได้ เมื่อออกมาถึงแยกให้เดินข้ามสะพานลอย ลงจากสะพานลอยเดินมุ่งหน้าไปทางแยกอโศกมนตรีอีก 100 ม. จะเจอโครงการอยู่ทางซ้ายมือ จากโครงการถึงท่าเรือมีระยะทางประมาณ 300 ม. เท่านั้น ซึ่งอยู่ในระยะเดินได้
สถานที่แนวไลฟ์สไตล์
นับตั้งแต่แยกมิตรสัมพันธ์ไปจนถึงบริเวณแยกอโศก – เพชรบุรี จะเป็นถนนกว้าง 7 เลน สองข้างทางประกอบไปด้วยอาคารพาณิชย์ตึกแถวของคนดั้งเดิมเป็นส่วนใหญ่ จะมีคอนโดมิเนียม และอาคารสำนักงานขึ้นมาแซมบ้าง แต่ก็ยังไม่ได้เยอะมาก ดังนั้นด้วยความที่มีอาคารสำนักงาน ช่วงกลางวันจึงยังพอมีร้านอาหารตามสั่งข้างทางให้เลือกสรรอยู่บ้างในระยะเดิน แต่พอตกกลางคืนบรรยากาศจะเงียบสงบ แหล่งไลฟ์สไตล์ที่ใกล้กับโครงการที่สุดจึงตกไปอยู่ที่ซอยนานาหรือซอยสุขุมวิท 3 ที่ห่างจากโครงการเพียง 300 ม. อันเป็นแหล่งรวมไลฟ์สไตล์แฮงค์เอาท์ทั้งร้านอาหาร ร้านขนม ร้านข้าว รวมรวบเอาทั้งความเป็นยุโรป อาหรับตะวันออกกลาง และทั้งรสชาติไทยดั้งเดิมไว้ในซอยเดียว ส่วนแหล่งไลฟ์สไตล์ อาทิพวกห้างสรรพสินค้าก็จะอยู่บริเวณ CBD อโศก และทางฝั่งประตูน้ำ ซึ่งจะมีระยะห่างจากโครงการไม่เกิน 2 กม.
สถานที่ไลฟ์สไตล์ใกล้โครงการ
Foodland สาขาสุขุมวิทซอย 5 (อาคารนายเลิศ) 1.00 กม.
Talad Neon 1.30 กม.
Central Embassy 1.60 กม.
Korean Town 1.70 กม.
Platinum Fashion Mall 1.70 กม.
Central Chidlom 1.80 กม.
Terminal 21 1.90 กม.
Pantip Plaza 2.00 กม.
Central Plaza Grand Rama 9 2.00 กม.
สถานพยาบาล
โรงพยาบาลบุรฉัตรไชยากร 0.65 กม.
โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ 0.70 กม.
โรงพยาบาลผิวหนังอโศก 1.10 กม.
โรงพยาบาลจักษุรัตนิน 1.10 กม.
โรงพยาบาลพระราม 9 2.00 กม.
โรงพยาบาลพญาไท 1 2.10 กม.
สถานศึกษา
โรงเรียนมักกะสันพิทยา 0.45 กม.
วิทยาลัยเทคโนโลยีดอนบอสโก 0.45 กม.
โรงเรียนเซนต์ดอมินิก 0.45 กม.
มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ 1.5 กม.
โรงเรียนนานาชาตินิสท์ 1.6 กม.
โรงเรียนสาธิต มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒประสานมิตร 1.8 กม.
โรงเรียนวัฒนาวิทยาลัย 1.9 กม.
บทวิเคราะห์
วิเคราะห์อัตราผลตอบแทนที่จะได้รับ
ในช่วงหลายปีที่ผ่านมาต้องยอมรับว่าบริเวณถนนเพชรบุรีช่วงแยกมิตรสัมพันธ์ยาวไปถึงบริเวณแยกอโศก – เพชรบุรี ถือว่ามีการเปิดตัวคอนโดมิเนียมเยอะพอสมควร อีกทั้งโครงการส่วนใหญ่ถูกทำผลิตภัณฑ์ให้โดดเด่นและมีราคาอยู่ที่ประมาณ 150,000 บาทต่อตร.ม. ในขณะที่ราคาของโครงการ ลุมพินี สวีท เพชรบุรี-มักกะสัน อยู่ที่ประมาณ 140,000 บาทต่อตร.ม. เท่านั้น โอกาสในการจะเก็งกำไรในอนาคตย่อมมีมาก ยิ่งหากบวกอานิสงส์ของปัจจัยที่จะเข้ามาเสริมศักยภาพของโครงการอย่างพื้นที่สีเขียวขนาดใหญ่ของมักกะสัน ย่อมทำให้ทำเลนี้เกิดความลงทุนมากขึ้นและเปลี่ยนแปลงราคาอาคารห้องชุดในย่านนี้ให้ถีบตัวขึ้นไป รวมไปถึงอีกไม่นานบริเวณแยกอโศกก็จะมี สิงห์คอมเพล็กซ์ มาช่วยสร้างสีสัน ขยับขยายพื้นที่ความเจริญ และเปลี่ยนถนนเพชรบุรีให้ดูมีสีสันน่าจับตา ซึ่งข้อได้เปรียบของทำเลที่ตั้งโครงการหรือถนนเพชรบุรีฝั่งแยกมิตรสัมพันธ์ก็คือยังมีพื้นที่ให้พัฒนาต่อได้อีกพอสมควรจากอาคารพาณิชย์ที่อยู่ติดถนน ประกอบกับเป็นจุดเชื่อมต่อถนนสายหลักอย่างสุขุมวิทที่ใกล้ที่สุด ทำให้ปัจจัยการเลือกพื้นที่ขยับขยายจากที่ดินบนสุขุมวิทที่ไม่เหลือแล้วง่ายขึ้น ในอนาคตหากมีการลงทุนของภาคเอกชนเข้ามา บวกกับการพัฒนาสิ่งต่างๆ โดยรอบจากภาครัฐ ราคาต่อตร.ม.ก็จะเพิ่มขึ้นไปอีก โดยปัจจุบันพื้นที่บริเวณแยกอโศก-เพชรบุรีในรัศมี 500 ม. MRT เพชรบุรี มีราคาคอนโดมิเนียมต่อตร.ม.ที่ 170,000 – 180,000 บาท แล้ว จากการพัฒนาโครงการสิงห์คอมเพล็กซ์ และคาดว่าอีกไม่นานบริเวณพื้นที่ติดถนนเพชรบุรีจะมีราคาขึ้นไปตามลำดับ
เปรียบเทียบกับโครงการอื่น
เซอร์เคิล คอนโดมิเนียม (Circle Condominium)
ผู้พัฒนาโครงการ: บริษัท เฟรเกรนท์ พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด
ลักษณะโครงการ: คอนโด High Rise จำนวน 2 อาคาร จำนวนห้องรวม 917 ยูนิต ร้านค้า 4 ยูนิต ประกอบด้วย Tower 1 สูง 30 ชั้น 350 ยูนิต และ Tower 2 สูง 43 ชั้น 567 ยูนิต
พื้นที่โครงการ: ประมาณ 5-0-3 ไร่
ราคาเริ่มต้น: 3.49 ล้านบาท
ราคาเฉลี่ย: ประมาณ 130,000 บาทต่อตารางเมตร
คิว ชิดลม-เพชรบุรี (Q Chidlom – Phetchaburi)
ผู้พัฒนาโครงการ: บริษัท อนันดา เอ็มเอฟ เอเชีย จำกัด
ลักษณะโครงการ: คอนโดมิเนียมสูง 42 ชั้น จำนวน 1 อาคาร รวมทั้งสิ้น 354 ยูนิต แบ่งเป็นที่พักอาศัย 352 ยูนิตและร้านค้า 2 ยูนิต
พื้นที่โครงการ: 1-2-80.9 ไร่
ราคาเริ่มต้น: 5.5 ล้านบาท
ราคาเฉลี่ย: 160,000 บาทต่อตารางเมตร
ไลฟ์ อโศก (Life Asoke)
ผู้พัฒนาโครงการ: บริษัท เอพี ไทยแลนด์ จำกัด (มหาชน)
ลักษณะโครงการ: คอนโดมิเนียมสูง 35 ชั้น จำนวน 1 อาคาร รวม 1,642 ยูนิต
พื้นที่โครงการ: 6-2-85 ไร่
ราคาเริ่มต้น: ประมาณ 3.12 ล้านบาท
ราคาเฉลี่ย: ประมาณ 130,000 บาทต่อตารางเมตร
สรุป
บทสรุป
ถึงแม้ที่ตั้งโครงการจะอยู่บนถนนเพชรบุรีก็ตาม แต่ก็ยังสามารถเชื่อมต่อถนนสายสำคัญอย่างสุขุมวิทได้ หากเปรียบเทียบในเรื่องของเส้นทางคมนาคมระหว่างถนนเพชรบุรี และถนนสุขุมวิท ต้องบอกว่าไม่ได้เป็นรองกันเท่าไหร่ สามารถมอบความสะดวกสบายในการเชื่อมต่อเข้าสู่ใจกลางเมืองได้ไม่แพ้กัน ทั้ง Mass Transit อย่าง MRT สถานีเพชรบุรี, Airport Rail Link มักกะสัน, BTS สถานีนานา, ท่าเรือคลองแสนแสบ ท่านานาเหนือ และทางพิเศษเฉลิมมหานคร ถึงแม้ภาคส่วนของเส้นทางคมนาคมสาธารณะต่างๆ จะไม่ได้อยู่ในระยะเดินก็ตาม แต่ก็สามารถเชื่อมต่อไปถึงได้ไม่ยากในระยะไม่เกิน 1.5 กม.
ในส่วนของอาหารการกิน บริเวณฝั่งตรงข้ามเยื้องๆ กับที่ตั้งโครงการ ยังมีอาคารสำนักงานธนภูมิ และสำนักงานการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ซึ่งเป็นทั้งหน่วยงานของภาครัฐและเอกชน ช่วงกลางวันถนนเส้นนี้จึงมีร้านค้า ร้านอาคารมาเปิดอย่างคับคั่ง แต่ในช่วงกลางคืนหรือวันหยุดก็จะเงียบสงบหน่อย เพราะลูกค้าส่วนใหญ่จะเป็นพนักงานบริษัทย่านดังกล่าว ดังนั้นแหล่งอาหารการกินหลักๆ ไม่นับรวมร้านสะดวกซื้อที่มีตามจุดสำคัญบนถนนเพชรบุรีแล้ว จะไปกระจุกตัวอยู่ที่บริเวณซอยนานาหรือซอยสุขุมวิท 3 ตั้งแต่หน้าปากซอยไปยันท้ายซอย ส่วนไลฟ์สไตล์พวกห้างสรรพสินค้าในระยะไม่เกิน 1.5 กิโลเมตร หากสามารถเชื่อมต่อสู่ BTS นานาได้ หรือในระยะไม่เกิน 1 กม. สู่ MRT เพชรบุรี ก็สามารถเชื่อมต่อไปสู่ห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่ได้ ทั้ง Terminal 21, เซ็นทรัล พระราม 9, ดิ เอ็มโพเรียม และดิ เอ็มควอเทียร์ รวมไปถึงสามารถเดินทางด้วยรถยนต์หรือบริการขนส่งมวลชนสาธารณะมุ่งหน้าไปสู่ แพลทตินั่ม พลาซ่า และพันธุ์ทิพย์พลาซ่าได้อย่างไม่ยาก
มาถึงในตัวโครงการหากโฟกัสไปที่แบรนด์ลุมพินี สวีท ของ LPN ซึ่งทางบริษัทชูให้เป็นแบรนด์สูงสุด ถึงแม้จะไม่สามารถไปเปรียบเทียบกับโครงการไฮท์เอนด์ของดีเวลลอปเปอร์อื่นๆ ได้ แต่ก็ต้องบอกว่าทั้งเรื่องวัสดุ ส่วนกลางต่างๆ ไม่ได้ด้อยไปกว่ากัน แถมยังสร้างผลิตภัณฑ์ที่คุ้มค่าในราคาที่ถูกกว่าอย่างแน่นอน โดยไฮไลท์เด่นของ LPN ก็คือการบริหารจัดการที่ขึ้นชื่ออยู่แล้ว โดยเฉพาะเรื่องของนิติบุคคลที่เข้ามาช่วยดูแลรักษากฎระเบียบของโครงการ ตรงนี้ถือเป็นจุดเด่นที่เหนือกว่าดีเวลลอปเปอร์เจ้าอื่น และสามารถสร้างแบรนด์ที่โดดเด่นดึงทั้งลูกค้าเก่า และลูกค้าใหม่ให้กลับมาที่ตัวโครงการได้อย่างดี ประกอบกับผลิตภัณฑ์ที่ทำมาค่อนข้างดีและมีราคาที่ไม่ได้แพงโอเว่อร์เกินไปก็ทำให้กลุ่มนักลงทุนหน้าเก่าที่เป็นคู่ค้ากับ LPN กลับเข้ามาสู่โครงการได้ไม่ยากเลย ดังนั้นต้องบอกว่าด้วยชื่อเสียงทางด้านที่กล่าวมาทั้งหมด ทำให้โครงการของ LPN ส่วนใหญ่ซื้อง่ายขายคล่องมีกำไรแน่นอน จะมากหรือน้อยก็ขึ้นอยู่กับทำเลที่จะพัฒนาในอนาคต
ส่วนในเรื่องของโครงสร้างภายใน หากดูจากโครงการเก่าๆ ที่ผ่านมา ถือเป็นหนึ่งในดีเวลลอปเปอร์ที่มีข้อบกพร่องในเรื่องของยูนิตที่พักอาศัยค่อนข้างน้อย เพราะบริษัทใช้ผู้รับเหมาภายในของบริษัทตัวเองมาโดยตลอด ผังห้องและดีไซน์อาคารภายนอกของแต่ละโครงการจึงมีความคล้ายคลึงกัน แต่ในเซกเมนต์ของแบรนด์สวีทที่เป็นแบรนด์สูงสุดของ LPN ไม่นับรวม เดอะ ลุมพินี 24 อาจจะมีการปรับเปลี่ยนให้หรูหราขึ้น มีความแปลกตาและให้สัมผัสที่ดีกว่าเดิม แต่ที่ไม่ต้องกังวลเลยก็คงเป็นเรื่องข้อบกพร่องต่างๆ ของยูนิตที่พักอาศัยที่จะตามมา ซึ่งอาจจะมีบ้าง แต่คงไม่เยอะหรือมีปัญหาเท่ากับโครงการอื่นๆ อย่างแน่นอน