พาร์ค 168 นพรัตน์ รามอินทรา (Park 168 Nopparat Ramindra) จาก บริษัท แอล.พี.เอ็น.ดีเวลลอปเมนท์ จํากัด (มหาชน) คอนโดมิเนียม High Rise 25 ชั้น 3 อาคาร ห้องชุดพักอาศัยรวม 1,224 ยูนิต อาคารจอดรถและสระว่ายน้ำ สูง 8 ชั้น 1 อาคาร แต่ละอาคารมีห้องพักอาศัยเพียงอาคารละ 408 ยูนิต มีความเป็นส่วนตัว ไม่แออัด ใกล้รถไฟฟ้าสายสีชมพู สถานีนพรัตนราชธานี ราคาเริ่มต้น 1.69 ล้านบาท
พระราม 3 คือหนึ่งในพื้นที่ที่ตลาดอสังหาริมทรัพย์ให้ความสนใจในเวลานี้เนื่องจากเป็นพื้นที่ที่เชื่อมต่อกับตัวเมืองได้ง่าย และได้รับความเจริญต่างๆ ที่ขยายออกมาจากทางฝั่งตัวเมืองครบถ้วน โดยจะขาดก็เพียงรถไฟฟ้าที่ไม่ได้ตัดผ่านถนนสายนี้เท่านั้น แต่ก็ยังมีรถราง BRT คอยมอบความสะดวกสบายกับผู้ที่อยู่อาศัยบนพื้นที่ ดังนั้นจากที่กล่าวมาพระราม 3 จึงมีความเหมาะสมในการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ที่อยู่อาศัย ที่ผ่านมาจึงจะเห็นบ้านระดับพรีเมี่ยมเกิดขึ้นบนย่านนี้ ตลอดจนคอนโดมิเนียมที่นิยมมาปักหมุดบริเวณแนวแม่น้ำเจ้าพระยา และพยายามสร้างจุดขายให้น่าสนใจจากราคาเริ่มต้นที่ไม่แพงมากเพื่อทดแทนระบบคมนาคมรถไฟฟ้าที่หายไป
หนึ่งในผู้พัฒนาชื่อดังอย่าง LPN ก็ไม่พลาดที่จะยึดทำเลแนวเจ้าพระยามาพัฒนาคอนโดมิเนียมวิวแม่น้ำโครงการ ลุมพินี เพลส พระราม 3 – ริเวอร์ไรน์ (Lumpini Place Rama 3 – Riverine) พร้อมกับจุดเด่นที่สามารถดึงความสนใจของผู้อยู่อาศัยที่กำลังมองหาบ้านหลังแรกด้วยราคาเริ่มต้นเพียง 1.78 ล้านบาทเท่านั้น ถึงแม้ห้องขนาดเริ่มต้นจะเป็นห้อง Studio ขนาด 24 ตารางเมตร แต่ต้องบอกว่าภาพรวมของโครงการทั้งทำเลที่ตั้ง ส่วนกลาง ราคา ถือว่าเป็นอะไรที่ค่อนค้างคุ้มค่าแก่การอยู่อาศัยเลยทีเดียวบนทำเลพระราม 3 การันตีด้วยรางวัล Best Affordable Condo Development (Bangkok) จากงาน PropertyGuru Thailand Property Awards ประจำปี 2563
ข้อมูลโครงการ (ข้อมูล ณ วันที่ 29 ธันวาคม 2560)
ชื่อโครงการ: ลุมพินี เพลส พระราม 3 – ริเวอร์ไรน์ (Lumpini Place Rama 3 – Riverine)
ผู้พัฒนาโครงการ: บริษัท แอล.พี.เอ็น. ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด มหาชน
ทำเลที่ตั้ง: ถนนวงแหวนอุตสาหกรรม แขวงบางโพงพาง เขตยานนาวา กทม.
เว็บไซต์: www.lpn.co.th
โทร: 02-689-6888
รายละเอียดโครงการ ลุมพินี เพลส พระราม 3 – ริเวอร์ไรน์ (Lumpini Place Rama 3 – Riverine)
พื้นที่โครงการ: 3-2-25 ไร่
ลักษณะโครงการ: คอนโดมิเนียม 1 อาคาร 35 ชั้น จำนวนที่พักอาศัย 719 ยูนิต (ชั้น 6 – 35) ที่จอดรถ 40% ของโครงการไม่รวมจอดซ้อนคัน ลิฟท์โดยสาร 3 ตัว ลิฟท์บริการ 1 ตัว
สิ่งอำนวยความสะดวก: Lobby, Mailbox, Infinity Edge Pool, Fitness Zone, Fit & Firm Area, Co-Living Area, Playground, Green Togetherness Area, Roof Garden, Co-Working Zone, Happiness Zone, Kid’s Fun Zone, Learning Zone, จุดชมวิวบางกะเจ้า, กล้องวงจรปิด, รปภ. 24 ชม.
สถานที่สำคัญใกล้โครงการ: BRT วัดปริวาส, เซ็นทรัลฯ พระราม 3, เทสโก้ โลตัส พระราม 3, The Up พระราม 3, สะพานภูมิพล, โรงเรียนสารสาสน์พิทยา, มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลกรุงเทพ, สำนักงานใหญ่ธนาคารกรุงศรีอยุธยา, สำนักงานใหญ่ทิพยประกันภัย
สถานะการก่อสร้าง: เปิดจองเมื่อ 9 ธันวาคม 2560, เริ่มก่อสร้างปี 2561 และคาดว่าแล้วเสร็จปลายปี 2562
สถานะการขาย: 60% ของยูนิตทั้งหมด 10 ชั้น (ข้อมูล ณ วันที่ 28 ธันวาคม 2560)
เงื่อนไขและราคาของโครงการ ลุมพินี เพลส พระราม 3 – ริเวอร์ไรน์ (Lumpini Place Rama 3 – Riverine)
เงินจอง: Studio 10,000 บาท, 1 Bedroom 20,000 บาท, 2 Bedroom 30,000 บาท
เงินกองทุนสะสม: 1,000 บาทต่อตารางเมตร (ชำระครั้งเดียวในวันโอนกรรมสิทธิ์)
ค่าส่วนกลาง: 65 บาทต่อตารางเมตรต่อเดือน 1 ปีแรก (ปีถัดไปเก็บตามมติที่ประชุมเจ้าของร่วม)
ราคาเริ่มต้น: 1.78 ล้านบาท
ราคาเฉลี่ย: 85,000 – 90,000 บาท
รูปแบบห้องของโครงการ ลุมพินี เพลส พระราม 3 – ริเวอร์ไรน์ (Lumpini Place Rama 3 – Riverine)
*ราคาข้างต้นเป็นราคาเริ่มต้น ณ วันเปิดตัวของโครงการ ลุมพินี เพลส พระราม 3 – ริเวอร์ไรน์ (Lumpini Place Rama 3 – Riverine)
Studio ขนาด 24 ตร.ม. ขึ้นไป (ราคาเริ่มต้น 1.78 ล้านบาท)
1 Bedroom ขนาด 28 ตร.ม. ขึ้นไป (ราคาเริ่มต้น 2.40 ล้านบาท)
2 Bedroom ขนาด 36 ตร.ม. ขึ้นไป (ราคาเริ่มต้น 3.54 ล้านบาท)
รายละเอียดโครงการ
Concept โครงการ ลุมพินี เพลส พระราม 3 – ริเวอร์ไรน์ (Lumpini Place Rama 3 – Riverine)
โครงการ ลุมพินี เพลส พระราม 3 – ริเวอร์ไรน์ (Lumpini Place Rama 3 – Riverine) ถือเป็นคอนโดมิเนียมระดับกลางของแบรนด์ LPN ขยับขึ้นมาจากลุมพินี พาร์ค ดังนั้นรูปแบบโครงการจึงถูกพัฒนาบนทำเลที่ค่อนข้างมีศักยภาพ ถึงแม้จะไม่ได้ใกล้กับสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ ในระยะเดิน แต่ในรัศมีไม่กี่ร้อยเมตรก็สามารถเชื่อมต่อไปถึงสถานที่สำคัญบนถนนพระราม 3 ได้หลายแห่ง อีกทั้งยังตั้งอยู่ในจุดที่รับวิวโค้งแม่น้ำเจ้าพระยาพอดี LPN จึงดึงจุดเด่นนี้มาเป็นคอนเซปต์ และสร้างอาคารสูงกว่า 35 ชั้นขึ้นมาบนพื้นที่กว่า 3 ไร่ โดยมีวิวแม่น้ำเจ้าพระยาโอบล้อมโครงการไว้ แถมยังตั้งราคายูนิตขนาดเริ่มต้นให้ทุกคนสามารถจับต้องได้ที่ตารางเมตรละ 80,000 – 90,000 บาท ซึ่งเป็นราคาที่ถือว่าคุ้มค่าบนทำเลวิวสวยติดแนวแม่น้ำแต่ไม่ได้ติดกับรถไฟฟ้าเท่านั้นเอง
การวางทิศทางและยูนิตที่อยู่อาศัยของโครงการ ลุมพินี เพลส พระราม 3 – ริเวอร์ไรน์ (Lumpini Place Rama 3 – Riverine)
โครงการออกแบบให้ทางเข้าออกโครงการอยู่ทางทิศเหนือ หรือมุมที่ติดกับถนนหลักหน้าโครงการ ส่วนพื้นที่ดินถัดมาจากทางเข้าจะเป็นที่ดินรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้ายาวจากด้านหน้าโครงการมายังทิศใต้ ดังนั้นเพื่อประโยชน์ใช้สอยที่คุ้มค่าของที่ดินแนวนี้โครงการจึงจำเป็นต้องออกแบบยูนิตที่พักอาศัยส่วนใหญ่ให้หันไปทางทิศตะวันออกและทิศตะวันตก ซึ่งเป็นทิศที่แดดออกตลอดทั้งวันแต่ได้สิ่งที่ทดแทนกลับมาคือวิวโค้งแม่น้ำเจ้าพระยาที่ทิศใต้ โดยยูนิตทั้งฝั่งตะวันออกและตะวันตกจะมองเห็นวิวโค้งน้ำเจ้าพระยานี้เหมือนกันทุกห้อง แตกต่างกันที่วิวเมืองซึ่งทางฝั่งตะวันออกจะเป็นอาคารบ้านเรือนฝั่งพระราม 3 ส่วนทางตะวันตกจะได้รับวิวสะพานภูมิพล 1 ซึ่งในระยะสายตาถือว่าตัวสะพานใกล้ชิดกับตัวอาคารพอสมควรหากอยู่อาศัยที่ไม่เกินชั้น 6-10 ฝั่งทิศนี้จะเห็นสะพานแขวนชัดเจนมาก
สิ่งอำนวยความสะดวกภายในโครงการ ลุมพินี เพลส พระราม 3 – ริเวอร์ไรน์ (Lumpini Place Rama 3 – Riverine)
เพื่อให้เอื้อกับคอนเซปต์โครงการ ลุมพินี เพลส พระราม 3 – ริเวอร์ไรน์ (Lumpini Place Rama 3 – Riverine) ที่โอบล้อมไปด้วยธรรมชาติกับโค้งแม่น้ำเจ้าพระยา โครงการจึงออกแบบให้มีพื้นที่สีเขียวทั้งหมด 40% ของโครงการ และเน้นให้พื้นที่ที่ชั้น 28 ซึ่งเป็นโพเดี่ยมยื่นออกมาเป็นไฮไลท์ของส่วนกลางประกอบไปด้วย สระว่ายน้ำลอยฟ้า (Infinity Edge Pool) ห้องเรียนรู้, ห้องเปี่ยมสุข, ห้องคุณหนู ซึ่งสามารถชมวิวพร้อมกับครอบครัวได้ โดยที่ชั้น 6 ก็จะมีจุดชมวิวบางกระเจ้าที่โครงการทำขึ้นมาเป็นพิเศษอีกด้วย ส่วนส่วนกลางอื่นๆ อาทิ ฟิตเนส ร้านค้า ที่จอดรถ ก็ถือว่ามีมาครบตามมาตรฐานคอนโดฯ
วัสดุภายในโครงการ ลุมพินี เพลส พระราม 3 – ริเวอร์ไรน์ (Lumpini Place Rama 3 – Riverine)
วัสดุภายในโครงการเป็นวัสดุมาตรฐานของโครงการแบรนด์ ลุมพินี เพลส โดยสิ่งที่จะได้รับเป็นเฟอร์นิเจอร์แบบ Fully Fitted ได้เพียงเฟอร์นิเจอร์บิวท์อินบางส่วนเท่านั้น คือ ชุดเคาน์เตอร์ครัว สุขภัณฑ์ภายในห้องน้ำ และราวตากผ้าด้านนอกระเบียงที่โครงการติดตั้งให้ ส่วนวัสดุอื่นๆ งานประกอบภายในห้องก็เป็นวัสดุเกรด B ที่โครงการคอนโดมิเนียมส่วนใหญ่เลือกใช้ โดยพื้นในห้องจะเป็นไม้ลามิเนต กลอนประตูห้องน้ำเป้นแบบลูกบิด บานเลื่อนเป็นกระจกเขียวตัดแสงวงกบอลูมิเนียม หน้าต่างเป็นแบบบานกระทุ้ง เป็นต้น ซึ่งวัสดุค่อนข้างจะเรียบง่ายไม่มีอะไรพิเศษเนื่องจากหากเปรียบเทียบทำเลกับราคาเริ่มต้นแล้วถือว่าโครงการผลิตคอนโดมิเนียมออกมาได้ในราคาที่ค่อนข้างถูกเลยทีเดียว วัสดุต่างๆ จึงเป้นวัสดุมาตรฐานทั่วไปไม่ได้อยู่ในเกรดพรีเมี่ยมตามที่ดครงการหรูๆ เลือกใช้กัน
รีวิวภายในห้องตัวอย่างของโครงการ ลุมพินี เพลส พระราม 3 – ริเวอร์ไรน์ (Lumpini Place Rama 3 – Riverine)
ห้องตัวอย่าง Studio ขนาด 24 ตร.ม. ขึ้นไป ราคาเริ่มต้น 1.78 ล้านบาท
ประตูของยูนิตที่อยู่อาศัยทุกยูนิตเป็นวัสดุ HDF ผิวลายไม้เซาะร่อง 0.90 x 2.00 ม. ทาสีตามภาพ พร้อมช่องตาแมวและก้านโยกประตูแบบเขาควายจาก Hefele
ภายในห้องขนาดเริ่มต้นที่ 24 ตร.ม. เป็นห้องแบบ Studio ไม่มีส่วนกั้นภายในห้อง Layout ของผนังห้องเป็นรูปสี่เหลี่ยมจตุรัส แบ่งพื้นที่ออกเป็น 3 ส่วนคือห้องครัวเปิดบริเวณหน้าห้อง ห้องนั่งเล่น และห้องนอน โดยมีระเบียงห้องที่มีฟังก์ชันซักล้างเชื่อมต่อกับห้องนั่งเล่น
เคาน์เตอร์ครัวของห้องขนาด 24 ตร.ม. ตั้งอยู่บริเวณหน้าห้อง โดยเคาน์เตอร์ครัวที่โครงการมอบให้มีเพียงซิงค์ล้างจาน ไม่มีเตาไฟฟ้ามอบให้ ขนาดประมาณ กว้าง 1.20 x ยาว 0.59 x สูง 2.00 ม. ตัวตู้ดานบนและด้านล่างเป็นบานเปิดเมลานีน สีขาว ส่วนท็อปเคาน์เตอร์ครัวเป็นลามิเนตลายไม้สีเข้ม สามารถทำได้ทั้งครัวหนักครัวเบา
พื้นที่ในส่วนของห้องนั่งเล่นมีขนาดไม่ใหญ่มากแต่ก็สามารถจัดสรรให้เป็นพื้นที่พักผ่อนขนาด 2-4 คนได้ หรือ จะจัดสรรตามไอเดียที่ดครงการจัดสรรให้โดยแบ่งพื้นที่เป็นโต๊ะทำงานหนึ่งส่วน และพื้นที่พักผ่อนขนาดไม่ใหญ่อีกหนึ่งส่วนก็ทำได้
ระเบียงเชื่อมต่อกับบริเวณห้องนั่งเล่นเป็นบานประตูกระจกเขียวใสหนา 5 มม. 2 ตอน กรอบบานเป็นอลูมินั่ม พร้อมอุปกรณ์รางเลื่อนครบชุดที่โครงการติดตั้งไว้ให้เรียบร้อย บานประตูที่โครงการมอบให้มีขนาด 1.60 x 1.96 ม.
ภายในห้องสามารถรับแสงธรรมชาติให้เข้าห้องได้ถึงสองส่วนหลักๆ คือส่วนระเบียงจากห้องนั่งเล่นละบริเวณห้องนอนที่เป็นหน้าต่างบานฟิกและบานกระทุ้ง ดังนั้นในช่วงกลางวันจึงค่อนค้างสว่างมาก แต่ด้วยจากข้อมูลยูนิตส่วนใหญ่ที่หันไปทางทิศตะวันตกและตะวันออก เมื่ออยู่อาศัยจริงแนะนำให้ทำการติดม่านแบบทึบแสงเพิ่มไว้ด้วยจะช่วยป้องกันความร้อนได้ดีในช่วงเช้าจรดเย็น
พื้นที่ของห้องนอนโดยรวมมีขนาดใหญ่พอสมควรสามารถวางเตียงได้ตั้งแต่ขนาด 3.5 ฟุต 5 ฟุต ตลอดจนเตียงคิงไซส์ โดยยังเหลือเพื่อนที่ให้วางตู้เสื้อผ้าขนาดมาตรฐานเริ่มต้นพร้อมพื้นที่ในการยืนแต่งตัวได้ โดยจากห้องตัวอย่างโครงการได้มีการบิวท์อินโต๊ะเครื่องแป้งลงในผนังเบาปลายเตียงด้วย ทำให้สามารถแต่งหน้าบริเวณปลายเตียงได้
ภายในห้องน้ำโครงการมอบอุปกรณ์ให้ครบครันทั้ง อ่างล้างหน้า โถสุขภัณฑ์ ฝักบัว ที่ว่างเครื่องอาบน้ำ บานกั้นแบบเลื่อนสำหรับห้องอาบน้ำ ตลอดจนติดตั้งระบบไฟฟ้าสำหรับติดตั้งเครื่องทำน้ำอุ่นไว้เรียบร้อย
ห้องตัวอย่าง 1 Bedroom ขนาด 28 ตร.ม. ขึ้นไป ราคาเริ่มต้น 2.40 ล้านบาท
Layout ของห้องขนาด 28 ตร.ม. ไม่ค่อยแตกต่างจากห้องนอนแบบ Studio เท่าไหร่ เพียงแต่ได้พื้นที่ในห้องเพิ่มมา 4 ตร.ม. และได้ส่วนกั้นห้องนอนกับห้องนั่งเล่น พร้อมเคาน์เตอร์ครัวที่มีขนาดใหญ่ขึ้น โครงการบิวท์อินติดตั้งให้บริเวณหน้าห้อง
เขยิบไปจากห้องครัวเป็นห้องครัวเป็นพื้นที่ของห้องนั่งเล่น โครงการจัดสรรไอเดียให้มีพื้นที่ในส่วนของโต๊ะทำงานด้วยการติดตั้งชั้นอเนกประสงค์ให้เป็นไอเดีย และมีการเพิ่มฟังก์ชันบริเวณห้องนั่งเล่นให้สามารถรับประทานอาหารไปได้ในตัว ซึ่งทั้งหมดนี้โครงการจัดสรรเป็นไอเดียเท่านั้นไม่ได้มอบให้
ระเบียงห้องติดอยู่กับห้องนั่งเล่น โครงการติดตั้งระบบน้ำระบบไฟไว้ให้เรียบร้อย ขนาดความกว้างของระเบียงมีขนาดประมาณ 80 ซม. สามารถวางเครื่องซักผ้าขนาด 60 x 60 ซม. ทั้งแบบฝาหน้าฝาบนได้ พร้อมติดตั้งราวตากผ้าสแตนเลสแบบพับเก็บได้ที่มีขนาด 60 ซม. ให้ด้วย
มาที่ห้องนอนพื้นในห้องเป็นไม้ลามิเนต รุ่น Thai Teak สีพื้นจะเข้มกว่าลายไม้ลามิเนตทั่วไป เหมือนพื้นห้องด้านนอก ภายในห้องโครงการจัดสรรไอเดียให้โดยการวางเตียงขนาด 5 ฟุตและเหลือพื้นที่ให้เดินรอบเตียง พร้อมพื้นที่แต่งตัวหน้าห้องน้ำและตู้เสื้อผ้าที่กว้างพอสมควร
จากมุมนี้นะเห็นว่าภายในห้องนอนสามารถจัดฟังก์ชันได้ครบครัน หากจะเลือกวางเตียงขนาด 6 ฟุตให้ชิดกับมุมหน้าต่างก้สามารถทำได้ โดยยังเหลือพื้นที่แต่งตัวและพื้นที่วางตู้เสื้อผ้าได้สบาย ส่วนด้านในสุสจะเป็นประตูทางเข้าห้องน้ำในตัวของห้องนอนแบบ 28 ตร.ม.
ภายในห้อน้ำแบ่งเป็นโซนเปียกโซนแห้ง รัศมีการใช้งานของโถสุขภัณฑ์ค่อนข้างแคบเพราะอยู่ในตำแหน่งที่ติดกับบานกั้นห้องอาบน้ำ พื้นในห้องน้ำเป็นกระเบื้องผิวด้านแผ่นใหญ่ขนาด 60 x 60 ซม. ช่วยลดรอยต่อกระเบื้องทำให้ทำความสะอาดง่าย
ห้องตัวอย่าง 2 Bedroom ขนาด 36 ตร.ม. ขึ้นไป ราคาเริ่มต้น 3.54 ล้านบาท
ห้องตัวอย่างนี้เป็น ห้องตัวอย่าง 2 ห้องนอนขนาด 36 ตร.ม. เมื่อเข้าไปในห้องจะเห็นว่า Layout ผนังส่วนต่างๆ ถูกออกแบบมาให้สามารถจัดฟังก์ชันของการอยู่อาศัยได้ครบถ้วน ไม่ว่าจะเป็นมุมโต๊ะอาหาร มุมห้องครัว มุมนั่งเล่น
ห้องนอนเล็กอยู่ติดกับมุมห้องรับประทานอาหาร เป็นห้องขนาดไม่ใหญ่มากสามารถจัดสรรให้เป็นห้องนอนเดี่ยวได้ โดยยังเหลือพื้นที่ให้วางโต๊ะทำงานหรือตู้เสื้อผ้าได้ แต่หากอยากจัดสรรให้สามารถนอนได้สองคนโดยการวางเตียง 5 ฟุตก็สามารถทำได้ แต่จะเสียโอกาศในการใช้พื้นที่ส่วนอื่นๆ ภายในห้องนอนเล็ก
ถัดมาจากมุมโต๊ะอาหารหน้าห้องจะเป็นในส่วนของห้องครัวที่เชื่อมต่อกับห้องน้ำกลางในห้อง โดยสเปคของเคาน์เตอร์ครัวที่โครงการมอบให้เป็นขนาดเดียวกับห้อง 1 ห้องนอน คือ กว้าง 1.50 x ยาว 0.59 x สูง 2.00 ม. ซึ่งเป็นเคาน์เตอร์ครัวที่สามารถเตียมครัวได้ 2 คน แต่ทั้งนี้จำเป็นต้องติดตั้ง Hob & Hood เอง เพราะโครงการมอบให้แต่เคาน์เตอร์ครัว ซิงค์ล้างจาน และชั้นด้านบนเท่านั้น
ภายในห้องน้ำโครงการมอบอ่างล้างหน้าสีขาวของ Charmer ด้านบนมีกระจกเงาติดตั้งให้เรียบร้อย โถสุขภัณฑ์ และฝักบัวเป็นของ American Standard ภายในห้องอาบน้ำมีที่วางสบู่ของ Bathero ราวแขวนผ้ามีขนาดยาว 65 ซม. ติดตั้งอยู่เหนือโถสุขภัณฑ์ และที่แขวนกระดาษชำระเป็นของ Hafele ส่วนบานเลื่อน 3 ตอนเป็นของ Charmer ช่วยประหยัดพื้นที่ในการเข้าใช้ห้องอาบน้ำได้พอสมควร
พื้นที่ของห้องนั่งเล่นถูกจัดสรรไว้ให้อยู่หน้าห้องนอนใหญ่ มีขนาดไม่ใหญ่มากนักสามารถวางโซฟาขนาด 2-4 ที่นั่งได้ ส่วน Layout ของชั้นวางทีวีโครงการจัดสรรให้ผนังกั้นส่วนของห้องนอนใหญ่เป้นที่ติดตั้งชั้นวาง จากภาพจึงจะเห็นว่าการติดตั้งทีวีแบบติดผนังจึงมีข้อจำกัดเรื่องของขนาดทีวีที่ไม่ใหญ่มาก
ที่ระเบียงโครงการยังคมอบฟังก์ชันการซักล้างไว้ที่บริเวณนี้โดยการติดตั้งระบบน้ำระบบไฟฟ้าไว้ให้เรียบร้อย พร้อมติดตั้งชั้นวางคอมเพรสเซอร์แอร์ไว้ให้ด้านบนเหนือศีรษะทำให้สามารถใช้พื้นที่ระเบียงได้ทุกส่วน ส่วนราวกั้นตกเป้นเหล็กกล่องสูงประมาณ 1.5 ม.
ห้องนอนใหญ่มีขนาดไม่กว้างมากนัก เนื่องจากห้องมีขนาดประมาณ 36 ตร.ม.เท่านั้น แต่ถูกดัดแปลงให้มีฟังก์ชัน 2 ห้องนอน แต่ทั้งนี้โดยรวมภายในห้องก็สามารถวางเตียงขนาด 5-6 ฟุต ได้โดยยังเหลือพื้นที่แต่งตัวและพื้นที่สำหรับโต๊ะเครื่องแป้งได้อยู่ แต่จะเป็นพื้นที่ขนาดเล็กมากถ้าเลือกวางเตียง 6 ฟุต ทั้งนี้แนะนำให้เลือกวางตู้เสื้อผ้าแบบบานเลื่อนน่าจะช่วยประหยัดพื้นที่ในห้องนอนใหญ่ได้พอสมควร
ทําเล & การเดินทาง
ศักยภาพทำเลที่ตั้งโครงการ ลุมพินี เพลส พระราม 3 – ริเวอร์ไรน์ (Lumpini Place Rama 3 – Riverine)
แผนที่ตั้งโครงการพิกัดจาก Google Map 13.675547, 100.539838
โครงการ ลุมพินี เพลส พระราม 3 – ริเวอร์ไรน์ (Lumpini Place Rama 3 – Riverine) ตั้งอยู่ติดกับถนนเลียบวงแหวนอุตสาหกรรม ที่ดินที่ตั้งโครงการตั้งอยู่บริเวณใต้สะพานภูมิพล 1 สิ่งที่น่าเป็นห่วงคือมลภาวะทางเสียงจากรถลาที่วิ่งอยู่บนสะพาน แต่ไฮไลท์คือที่ตั้งโครงการจะลับกับวิวโค้งแม่น้ำเจ้าพระยาพอดี หากมองในแง่ดีก็จะได้รับวิวโค้งแม่น้ำ และความสวยงามของสะพานภูมิพล ปัจจุบันสิ่งอำนวยความสะดวกจะกระจุกตัวอยู่บนถนนพระราม 3 ที่ห่างจากตัวโครงการไม่เกิน 300 ม. ประกอบไปด้วยอาคารสำนักงานขนาดใหญ่ ร้านค้า ร้านอาหาร ตลอดจนเมกะโปรเจกต์ในอนาคตอย่าง โครงการพัฒนาริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา (กรุงเทพมหานคร), โครงการ ASIATIQUE 2 พื้นที่ 30 ไร่ มูลค่า 2,000-3,000 ล้านบาท และโครงการพัฒนาพื้นที่สถานีแม่น้ำ บนเนื้อที่ 227 ไร่ มูลค่าการลงทุน 9.6 หมื่นล้านบาท ก็ถือเป็นสิ่งอำนวยความสะดวกที่จะเข้ามาช่วยเติมเต็มความสะดวกสบายให้กับโครงการเช่นกัน
เส้นทางคมนาคมสำคัญใกล้โครงการ ลุมพินี เพลส พระราม 3 – ริเวอร์ไรน์ (Lumpini Place Rama 3 – Riverine)
เส้นทางคมนาคมหลักของโครงการ ลุมพินี เพลส พระราม 3 – ริเวอร์ไรน์ (Lumpini Place Rama 3 – Riverine) คือ ถนนพระราม 3 เส้นเลือดใหญ่ที่จะลำเลียงดีมานด์ที่อยู่อาศัยบนย่านนี้เข้าสู่ตัวเมือง CBD ที่ใกล้ที่สุดอย่างบริเวณ สาทร – สีลม โดยจากถนนพระราม 3 จะมีเส้นทางลัดไปสู่บริเวณที่เป็นแหล่งงานได้หลายเส้นทางไม่ว่าจะเป็นถนนสาธุประดิษฐ์, ถนนยานนาวา, ถนนเจริญราษฎร์, ถนนรัชดาภิเษก เป็นต้น ซึ่งในระยะไม่เกิน 3-4 กม. ก็สามารถเชื่อมต่อไปยังทางลัดดังกล่าวได้ง่าย นอกจากนั้นเองยังสามารถใช้สะพานภูมิพลเชื่อมต่อไปยังแหล่งอุตสาหกรรมฝั่งพระประแดง สมุทรปราการได้ โดยปากทางขึ้นสะพานภูมิพลจะอยู่ห่างจากโครงการประมาณ 2.5 กม. หรือจะเลือกใช้ทางพิเศษเฉลิมมหานครที่ห่างจากโครงการ 3 เชื่อมต่อไปยังสถานที่สำคัญอื่นๆ ก็ยังได้ นอกจากนั้นในแง่ของคนที่ไม่ได้มีรถยนต์ส่วนตัวยังสามารถเลือกเดินทางด้วยรถราง BRT บริเวณสถานีที่ใกล้ที่สุดอย่างวัดปริวาส หรือ จะใช้ท่าเรือ วัดปริวาส ไปเชื่อมต่อกับรถไฟฟ้าช่องนนทรีได้สบายๆ โดยจากโครงการไปวัดปริวาสจะมีระยะห่างที่ประมาณ 500 ม. เท่านั้น ส่วนบริการรถสาธารณะจากหน้าโครงการเดินมาที่ถนนพระราม 3 จะเจอทั้งวินมอเตอร์ไซค์ แท็กซี่ รถเมล์ ซึ่งสามารถเลือกเดินทางได้หลายช่องทาง
สิ่งอำนวยความสะดวกรอบโครงการ ลุมพินี เพลส พระราม 3 – ริเวอร์ไรน์ (Lumpini Place Rama 3 – Riverine)
สิ่งอำนวยความสะดวกหลักๆ ที่สามารถเชื่อมต่อไปถึงได้ง่ายที่สุดจะอยู่บนถนนพระราม 3 ที่ประกอบไปด้วยอาคารสำนักงาน อาทิ สำนักงานใหญ่ธนาคารกรุงศรีอยุธยา, สำนักงานใหญ่ทิพยประกันภัย, อาคารกำธร และ อาคาร เอสวี ซิตี้ ที่เป็นศูนย์รวมแหล่งงานขนาดใหญ่ นอกจากนั้นในเรื่องของไลฟ์สไตล์ก็จะมีศูนย์การค้าทั้ง Community Mall และ Life Style Mall อาทิ Bangkok Square, INT Intersect, Home Pro, เซ็นทรัลฯ พระราม 3, เทสโก้ โลตัส พระราม 3, The Up พระราม 3 รวมไปถึง Asiatique The Riverfront ก็อยู่ห่างจากโครงการประมาณ 7 กม. อีกทั้งในระยะไม่เกิน 1-3 กม. จะมีโรงเรียนนานาชาติชื่อดังอยู่บนพื้นที่หลายโรงเรียน แต่ในส่วนของโรงพยาบาลที่ใกล้ที่สุดจะมีระยะห่างจากโครงการไกลออกไปหน่อยอย่าง โรงพยาบาลเซนต์หลุยส์ที่ระยะทาง 7.3 กม. ส่วนในเรื่องปากท้องก็ไม่ต้องเป็นห่วงเลยเพราะตลอดแนวถนนพระราม 3 ที่มีความยาวกว่า 10 กม. ถูกสอดแทรกไปด้วยร้านอาหารแนว Street Food ที่เข้ามารองรับปากท้องของพนักงานบนพื้นที่พระราม 3 มากมายให้เลือกสรร ซึ่งต้องบอกว่าในด้านของสิ่งอำนวยความสะดวกบนพระราม 3 จะขาดหายอะไรไปก็มีเพียงแค่รถไฟฟ้ากับโรงพยาบาลที่อยู่ในระยะที่ต้องพึ่งรถยนต์ในการเชื่อมต่อที่ประมาณ 8-10 กม. เท่านั้น
ความปลอดภัยบนทำเลที่ตั้งของโครงการ ลุมพินี เพลส พระราม 3 – ริเวอร์ไรน์ (Lumpini Place Rama 3 – Riverine)
บริเวณหน้าปากทางเข้า – ออก โครงการ พื้นที่รอบด้านค่อนข้างเงียบสงบ มีหอพักและอพาร์ทเมนต์อยู่ฝั่งตรงข้ามโครงการ
สำหรับความปลอดภัยบนทำเลต้องบอกว่าการเข้า – ออกจากรั้วโครงการนี้ยังเหมาะที่จะใช้รถยนต์รถสาธารณะมาเชื่อมต่อกับรั้วโครงการจะดีกว่าการเดินเข้าออกไปมา เพราะพื้นที่รอบด้านโครงการยังคงเป็นไซส์งาน พื้นที่ที่ยังไม่ได้รับการพัฒนาอยู่ แต่ทั้งนี้เองก็ไม่ได้หมายความว่าจะเดินเข้าออกไม่ได้ หากต้องการเชื่อมต่อไปยังบริเวณถนนพระราม 3 ก็สามารถเดินไปได้เช่นกันในระยะทางไม่เกิน 300 ม. ซึ่งถือเป็นระยะที่ต้องใช้เวลาในการเดินพอสมควร คาดว่าในอนาคตน่าจะมีวินมอเตอร์ไซค์คอยให้บริการหน้าโครงการ เพราะหากมีวินมอเตอร์ไซค์จะสามารถทำให้การเดินทางเข้า – ออก โครงการสะดวกสบายขึ้นอย่างมาก เพราะในระยะ 300 ม. ขึ้นไปจะสามารถเชื่อมต่อไปถึงสถานที่สำคัญต่างๆ ได้รอบทิศทาง
บทวิเคราะห์
วิเคราะห์อัตราผลตอบแทนที่จะได้รับจากโครงการ ลุมพินี เพลส พระราม 3 – ริเวอร์ไรน์ (Lumpini Place Rama 3 – Riverine) กับโครงการอื่น
ปัจจุบันทำลที่ตั้งโครงการถือว่ามีความครบครัน และสามารถลงทุนเพื่อปล่อยเช่าหรืออยู่เองได้ เนื่องจากพื้นที่บริเวณพระราม 3 ก็มีการพัฒนาอาคารสำนักงานใหม่ๆ อยู่ประปราย ซึ่งในอนาคตพื้นที่อยู่อาศัยก็จะสามารถดึงเหล่าพนักงานออฟฟิศตั้งแต่ลูกจ้างไปถึงระดับผู้บริหารเข้ามาได้ และการเลือกเช่าที่อยู่อาศัยบริเวณนี้ก็จะง่ายขึ้นเนื่องจากมีราคาที่ค่อนข้างถูกกว่าโซนอื่นๆ โดยอัตราค่าเช่าเฉลี่ยอยู่ที่ตารางเมตรละประมาณ 400 บาทเท่านั้นในปัจจุบัน ซึ่งก็ค่อนข้างสอดคล้องกับคอนโดมิเนียมที่มีอัตราเฉลี่ยของราคาอยู่ที่ 80,000 – 90,000 บาท
ส่วนเรื่องการลงทุนระยะยาวหรือการขายต่อในอนาคตอาจจะขายยากกว่าคอนโดมิเนียมแนวรถไฟฟ้าสักหน่อย เพราะในปัจจุบันผู้อยู่อาศัยรุ่นใหม่ก็มักจะเลือกทำเลใกล้รถไฟฟ้ามากกว่าเน้นวิวสวยติดริมแม่น้ำหรือไม่ก็จะขยับพื้นที่ไปเลือกที่อยู่อาศัยบริเวนราธิวาสที่มีราคาสูงขึ้นมาหน่อยแต่ได้ทำเลใกล้สาทรมากกว่า แต่หากมองกันตามหลักการใช้ชีวิตแล้วถ้าให้เลือกทำเลที่ไม่ได้ติดกับรถไฟฟ้าเลย แล้วต้องใช้รถยนต์ในการเดินทางก็ควรเลือกที่อยู่อาศัยที่ถูกกว่าเนื่องจากสุดท้ายแล้วก็ต้องใช้รถยนต์ในการเชื่อมต่อเช่นเดียวกัน
เปรียบเทียบโครงการ ลุมพินี เพลส พระราม 3 – ริเวอร์ไรน์ (Lumpini Place Rama 3 – Riverine) กับโครงการอื่น
*ปัจจุบันคอนโดมิเนียมแนวแม่น้ำเจ้าพระยา บริเวณพระราม 3 ส่วนใหญ่จะเป็นคอนโดมิเนียมที่มีการเปิดขายมาในระยะเวลา 2-3 ปี หรือ สร้างเสร็จพร้อมอยู่แล้ว โดยจะมีราคาเริ่มต้นที่ประมาณ 2.5 ล้านบาทขึ้นไป ดังนั้นหากจะหาโครงการมาเปรียบเทียบกันต้องบอกว่าโครงการ โครงการ ลุมพินี เพลส พระราม 3 – ริเวอร์ไรน์ (Lumpini Place Rama 3 – Riverine) ถือเป็นคอนโดมิเนียมเจ้าแรกๆ ที่มีราคาเปิดตัวไม่ถึง 2 ล้านบาทในระแวกนี้
สรุป
โครงการ ลุมพินี เพลส พระราม 3 – ริเวอร์ไรน์ (Lumpini Place Rama 3 – Riverine) เหมาะกับคนที่กำลังหาที่อยู่อาศัยบริเวณพระราม 3 ยิ่งหากถ้ามีแหล่งงานบริเวณนี้โครงการนี้ถือว่าเหมาะสมสำหรับการซื้ออยู่เองพอสมควรทั้งคนที่มีรถและไม่มีรถเพราะที่ตั้งโครงการสามารถเลือกใช้บริการขนส่งมวลชนได้หลายช่องทางถึงแม้จะไม่มีรถไฟฟ้าก็ตาม ซึ่งในราคาเริ่มต้นที่ 1.78 ล้านบาท ผู้ที่สนใจโครงการนี้จะต้องมีเงินเดือนขั้นต่ำที่ประมาณ 35,000 บาทขึ้นไปสำหรับการกู้ซื้อคนเดียว แต่หากต้องการกู้ร่วมมีเงินเดือนเริ่มต้นที่ประมาณ 15,000 บาทก็มีสิทธิ์ที่จะกู้ซื้อผ่านได้ โดยใครที่สนใจจะซื้อที่อยู่อาศัยหรือโครงการนี้ก็สามารถเข้ามาดู อัพเดทอัตราดอกเบี้ยสินเชื่อบ้าน กู้ซื้อบ้าน และ คำนวณสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยด้วยตนเองได้ที่นี่
มาดูกันที่ตัวโครงการจุดแข็งหลักๆ ของโครงการเลยก็คือทีมงานนิติบุคคลของทาง LPN ที่เป็นมืออาชีพและคงความเป็นมาตรฐานมาตลอด ดังนั้นในเรื่องของการปล่อยเช่าหรือซื้อเพื่ออยู่อาศัยเองจึงมั่นใจได้ว่าจะพบเจอกับปัญหาน้อยมากหากเปรียบเทียบกับโครงการของผู้พัฒนาเจ้าอื่น โดยจุดแข้งนี้ถือเป็นหนึ่งในจุดเด่นที่ทำให้ลูกค้าเก่าๆ มันใจในแบรนด์และกลับมาซื้อโครงการใหม่ๆ ของ LPN ส่วนในเรื่องปัจจัยภายในของโครงการเองก็ต้องบอกว่าที่ตั้งของโครงการนั้นเป็นทำเลที่ห่างจากถนนพระราม 3 ไม่ถึง 300 ม. โดยเมื่อสร้างเสร็จจะสามารถดึงดีมานด์ที่อยู่อาศัยบนถนนพระราม 3 มาได้เยอะพอสมควร เนื่องจากคู่แข่งหลายเจ้าบริเวณนี้ค่อนข้างตั้งราคาไว้สูงกว่าพอสมควร เรื่องของราคาจึงถือเป็นอีกหนึ่งจุดแข็งของโครงการนี้ และทำให้โครงการเป็นหนึ่งในคอนโดฯ ที่น่าสนใจบนย่ายนพระราม 3
ทั้งนี้จุดอ่อนหลักๆ ที่เห็นได้ชัดเจนก็คือโครงการตั้งอยู่บนทำเลที่ค่อนข้างจะเชื่อมต่อกับรถไฟฟ้ายาก แต่ก็ยังมี BRT ท่าเรือ วินมอเตอร์ไซค์ แท็กซี่เป็นตัวเลือกสำรอง ถึงแม้จะไม่ได้ช่วยทำเวลาให้เร็วขึ้นมากกว่ารถไฟฟ้าก็ตาม ซึ่งตรงนี้ทางเลือกในการเดินทางที่แตกต่างกันแต่สามารถเชื่อมต่อไปได้เหมือนกันก็ต้องบอกเลยว่าใครที่ไม่ได้คิดว่ารถไฟฟ้าสำคัญขนาดนั้นการมองหาคอนโดฯ วิวแม่น้ำและอยู่ใกล้เมืองที่ราคาไม่เกิน 2 ล้านบาทไม่ใช่เรื่องง่ายเลย แต่ LPN ก็สามารถทำออกมาได้และยังตอบโจทย์ผู้อยู่อาศัยเองและผู้เช่าที่มีไลฟ์สไตล์ชีวิตบนถนนพระราม 3 ออกไปจนถึงสาทรได้ด้วย