The Shelter โครงการบ้านเดี่ยว และโฮมออฟฟิศตั้งอยู่ในย่านธุรกิจชั้นนำ เพชรเกษม–พุทธมณฑลสาย 5 บนทำเลที่ดีที่สุดติดถนนเพชรเกษม เดินทางเข้าออกโครงการได้ง่าย ใกล้รถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินส่วนต่อขยายที่เชื่อมต่อถึงพุทธมณฑลสาย 4 ในอนาคต กับราคาเริ่มต้นที่ 10 ล้านบาท
หากใครผ่านไปมาบริเวณซอยลาดกระบัง 54 หรือศรีวราน้อย อาจจะสะดุดตากับโครงการบ้านสุดกว้างขวางนามว่า วารีโอ สุวรรรภูมิ (Vario Suvarnabhumi) ซึ่งถูกพัฒนาขึ้นจากดีเวลอปเปอร์อย่าง พร็อพเพอร์ตี้ คอนแทค ในเครือเอ็มไทย กรุ๊ป โดยทุ่มทุนกว่า 5,000 ล้านบาท เพื่อแปลงโฉมที่ดินติดถนนศรีวารีน้อยให้กลายเป็นฮับเพื่อการอยู่อาศัยโดยเฉพาะ ซึ่งไม่เพียงมีความโดดเด่นทั้งแบบบ้าน The Volume และ The Flow อันคำนึงถึงแนวคิดการออกแบบให้มีความโปร่งโล่ง และถ่ายเทอากาศได้สะดวก ตามทิศทางลมเท่านั้น แต่ยังแบ่งโซนของยูนิตอยู่อาศัยและพื้นที่ส่วนกลางอย่างชัดเจน เพื่อให้ได้สัมผัสความเป็นส่วนตัวมากขึ้น พร้อมทั้งจัดเต็มสิ่งอำนวยความสะดวกแบบครบครันทั้งเรื่องสุขภาพ รวมถึงเทรนด์ออกกำลังกาย ถึงแม้จะเป็นการบริหารงานจากภายนอกก็ตาม โดยล่าสุดภายหลังจากเปิดให้จับจองในราคาเริ่มต้น 4.39 ล้านบาท เมื่อช่วงต้นปีที่ผ่านมา พบว่าได้รับความสนใจทั้งจากกลุ่มคนพื้นที่และคนทำงานโซนบางนาพอสมควร
เจาะลึกข้อมูลโครงการ (ข้อมูล ณ วันที่ 18 เมษายน 2560)
• ชื่อโครงการ: วารีโอ สุวรรรภูมิ (Vario Suvarnabhumi)
• ผู้พัฒนาโครงการ: บริษัท พร๊อพเพอร์ตี้ คอนแทค จำกัด
• ทำเลที่ตั้ง: ถนนศรีวารีน้อย ตำบลศรีษะน้อย อำเภอบางเสาธง สมุทรปราการ
• เว็บไซต์: variolife.com
• โทร: 092-926-5959
รายละเอียดโครงการ (ข้อมูล ณ วันที่ 18 เมษายน 2560)
พื้นที่โครงการ: 58 ไร่ 3 งาน 6 ตร.ว.
ลักษณะโครงการ: บ้านเดี่ยว 2 ชั้น จำนวน 191 ยูนิต
กลุ่มเป้าหมาย: คนรุ่นใหม่ วัยทำงาน และกลุ่ม Starter
สถานะการก่อสร้าง: ขณะนี้โครงการก่อสร้างแล้วเสร็จพร้อมโอนแล้วบางส่วน โดยคาดว่าจะแล้วเสร็จ 100% ทั้งโครงการ ไม่เกินปี 2562
ที่จอดรถ: 2 คัน / ยูนิต
สิ่งอำนวยความสะดวก: คลับเฮาส์ ประกอบไปด้วย สระว่ายน้ำ ฟิตเนส และสวนส่วนกลาง
ระบบรักษาความปลอดภัย: Access Card เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย และ กล้องวงจรปิดตลอด 24 ชั่วโมง
สถานะการขาย: หลังจากเปิดขายไปช่วงต้นปีทีผ่านมา มียอดขายไปแล้ว 70%
เงื่อนไขการชำระเงิน: ทั้งแบบบ้าน The Flow และ The Volume จอง 20,000 บาท ทำสัญญา 30,000 บาท
ค่าส่วนกลาง: 25 บาท / ตร.ว./ เดือน (ชำระล่วงหน้า 2 ปี ในวันโอนกรรมสิทธิ)
ค่าใช้บริการคลับเฮ้าส์: 50 บาท / ครั้ง (หลังจากใช้คูปองฟรีของโครงการหมด)
ราคาเริ่มต้น: 4.39 ล้านบาท
รูปแบบบ้าน: บ้านเดี่ยวสไตล์โมเดิร์น
– The Volume Wide 3 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ 1 ที่จอดรถ พื้นที่ใช้สอย 151 ตร.ม. เนื้อที่เริ่มต้น 50 ตร.ว.
ราคาเริ่มต้น 4.39 ล้านบาท
– The Volume Vision 3 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ พื้นที่ใช้สอย 164 ตร.ม. เนื้อที่เริ่มต้น 50 ตร.ว.
ราคาเริ่มต้น 4.89 ล้านบาท
– The Volume Panorama 3 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ 1 ห้องอเนกประสงค์ 2 ที่จอดรถ พื้นที่ใช้สอย 190 ตร.ม. เนื้อที่เริ่มต้น 60 ตร.ว. ราคาเริ่มต้น 6.19 ล้านบาท
– The Flow O2 3 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ พื้นที่ใช้สอย 180 ตร.ม. เนื้อที่เริ่มต้น 61 ตร.ว.
ราคาเริ่มต้น 6.19 ล้านบาท
– The Flow O3 3 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ พื้นที่ใช้สอย 205 ตร.ม. เนื้อที่เริ่มต้น 68 ตร.ว.
ราคาเริ่มต้น 6.89 ล้านบาท
รายละเอียดโครงการ
รีวิวภาพรวมโครงการ
โครงการนี้มีเนื้อที่ทั้งหมดค่อนข้างกว้างขวาง โดยกินเนื้อที่กว่า 54 ไร่ และเป็นแปลงติดกับถนนซอยวัดศรีวราน้อย หรือลาดกระบัง 54 จึงทำให้เดินทางไปไหนค่อนข้างสะดวก และแม้เส้นทางนี้ส่วนใหญ่จะพบรถบรรทุกวิ่งกันไปมาขวักไขว่ แต่ด้วยข้อดีของการทำถนนจากหน้าโครงการไปถึงส่วนยูนิตที่อยู่อาศัยมีระยะห่างประมาณ 700 เมตร จึงทำให้ไม่ได้รับผลกระทบเรื่องเสียงดัง ทำให้ผู้อยู่อาศัยได้ความเป็นส่วนตัวเพิ่มขึ้น และที่สำคัญแม้อยู่ใกล้สนามบินสุวรรณภูมิ แต่กลับพบว่าไม่ค่อยได้เสียงเครื่องบินเท่าไรนัก อาจเป็นเพราะโครงการไม่ได้ตั้งอยู่ในรัศมีแลนดิ้ง จึงได้ข้อได้เปรียบเรื่องความเงียบไปเต็มๆ
ซุ้มทางเข้าโครงการ บริเวณนี้มีป้อมเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย พร้อมกล้องวงจรปิด CCTV โดยใช้ระบบ Access Key Card ในการผ่านเข้า-ออก
จากรูปคือส่วนของถนนภาระจำยอม มีความกว้าง 18 เมตร โดยเป็นเส้นถนนที่เข้าส่วนยูนิตอาศัย ซึ่งจะสังเกตเห็นว่าด้านขวามือของรูปจะเป็นหนองน้ำ ทำให้ได้วิวทิวทัศน์สวยงาม
ถนนภาระจำยอมเส้นนี้จะตัดผ่านคลองจระเข้ ซึ่งโครงการได้ทำสะพานข้ามคลองดังรูป
เมื่อเข้ามาด้านในโครงการ ส่วนของยูนิตอาศัย ทั้งรูปแบบบ้าน The Volume และ The Flow อยู่ด้านขวามือของรูป โดยจะเห็นว่ามีการทำถนนเข้าไปด้านใน ซึ่งเป็นพื้นที่โครงการในอนาคต
ป้ายโครงการ บริเวณซุ้มทางเข้ายูนิตอาศัย
ซุ้มทางเข้าโครงการที่ 2 ยังคงใช้ระบบ Access Key Card ในการเข้า-ออก พร้อมระบบรักษาความปลอดภัยด้วยป้อมเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย และกล้อง CCTV โดยจากรูปจะเห็นว่าส่วนของยูนิตรูปแบบบ้าน The Volume จะอยู่ด้านขวามือ ส่วน The Flow อยู่ด้านซ้ายมือ
ถนนในซอยจะมีความกว้าง 9 เมตร ส่วนเมนหลักมีความกว้าง 12 เมตร และ 16 เมตร (บริเวณรอบสวนหย่อม) ซึ่งถือว่ากว้างพอสมควร จึงไร้ปัญหาการกลับรถยาก
รูปแบบบ้าน The Volume ซึ่งมีจุดเด่นที่เพดานเป็นแบบ Double Volume มีความสูง 6 เมตร ทำให้ตัวบ้านดูโปร่ง ไม่อึดอัด
เพดาน Double Volume มีความสูง 6 เมตร กินพื้นที่ชั้น 2 จึงทำให้เมื่อเข้ามาในบ้าน จะพบว่าส่วนของโถงนั่งเล่นนั้นมีความโปร่ง โล่ง ไม่อึดอัด
ความแตกต่างของรูปแบบบ้าน The Volume ที่ไม้เหมือนกับโครงการอื่นๆ คือ ตัวบ้านมีหน้ากว้าง 14 เมตร พร้อมจัดสรรพื้นที่เอนกประสงค์ให้มากด้วยพื้นที่ใช้สอยบริเวณกลางบ้าน
แปลนบ้านยูนิต The Volume นี้ เป็นไซส์ขนาดกลางหรือรูปแบบ vision ซึ่่งสามารถจอดรถได้ 2 คัน พร้อมด้วยพื้นที่ Terrace ด้านข้างบ้าน ไว้สำหรับนั่งพักผ่อนพร้อมชมสวน
แปลนชั้น 2 ของยูนิต The Volume ซึ่งประกอบไปด้วย 3 ห้องนอน โดยความพิเศษอยู่ที่ ห้องนอนมาสเตอร์ที่สามารถกั้นเป็น Walk in closet ได้
ความพิเศษของรูปแบบบ้าน The Flow คือ ส่วนของด้านหลังบ้านที่ออกแบบให้เปิดโล่งในลักษณะรูปตัว L ซึ่งทำให้ลมผัดผ่านเข้าบ้าน ช่วยห้บ้านเย็น
อีกหนึ่งจุดเด่นของรูปแบบบ้าน The Flow คือการออกแบบตำแหน่งหน้าต่างให้ลมเข้ามาในบ้านได้สะดวก พร้อมด้วยการสร้างบ้านด้วยอิญมวลเบา ซึ่งมีข้อดีไม่กักเก็บความร้อน ทำให้บ้านเย็น
แปลนบ้านยูนิต The Flow จะเป็นลักษณะรูปตัว L โดยชั้นล่างมีจุดเด่นที่มี Terrace ส่วนตัวกว้างถึง 3.20 x 4.90 เมตร
แปลนยูนิต The Flow ชั้น 2 มีจุดเด่นที่ห้องนอนมาสเตอร์ และห้องนอนที่ 3 สามารถมองลงมาเห็นพื้นที่ Terrace ด้านล่าง
การวางทิศทางโครงการ
ทิศเหนือ: ติดกับบ้านพักอาศัยและที่ดินของบุคคลอื่น ซึ่งเป็นทุ่งหญ้าสลับกับหนองน้ำ
ทิศใต้: ฝั่งนี้ส่วนใหญ่เป็นทุ่งหญ้าสลับกับหนองน้ำเช่นกัน
ทิศตะวันออก: ส่วนใหญ่เป็นหนองน้ำ และเป็นโซนด้านหลังของโครงการ
ทิศตะวันตก: คือด้านหน้าโครงการ ซึ่งติดกับถนนวัดศรีวราน้อย
สิ่งอำนวยความสะดวกภายในโครงการ
สำหรับสิ่งอำนวยความสะดวกภายในโครงการนี้ ถือว่าจัดเต็มเลยทีเดียว โดยเจ้าของโปรเจกต์ได้ออกแบบให้เป็นลักษณะสโมสรขนาดใหญ่ ประกอบไปด้วย สระว่ายน้ำ และฟิตเนส อันรายล้อมด้วยสวนสาธาณะ ภายใต้ชื่อว่า We Club แต่การบริหารจัดการนั้นจะไม่ใช่โครงการเป็นผู้ดูแล จะเป็นของบริษัทเอกชนทั้งหมด ดังนั้นจึงทำให้คนนอกสามารถมาใช้สโมสรได้ ส่วนผู้อยู่อาศัยโครงการนี้จะได้คูปองในการใช้บริการจำนวน 400 ใบ และถ้าหากคูปองหมดสามารถซื้อเพิ่มได้ในราคา 50 บาท
คลับเฮ้าส์ขนาดใหญ่ 2 ชั้น ภายใต้ชื่อว่า We Club เป็นการบริหารงานจากบริษัทเอกชน จึงทำให้คนนอกสามารถเข้ามาใช้บริการได้
สระว่ายน้ำเป็นระบบเกลือ มีขนาด 28 x 11 เมตร ลึก 1.2 เมตร โดยแยกสระเด็กและผู้ใหญ่อย่างชัดเจน พร้อมที่นั่งพักผ่อนริมสระ
รีวิวภายในห้องตัวอย่าง
สิ่งที่จะได้รับจากโครงการ
พื้น: ชั้นล่าง กระเบื้องแกรนิตโต้ ขนาด 60 x 60 ซม. ชั้นบน ลามิเนต หนา 12 มม.
ความสูงพื้นจรดเพดาน: เริ่มต้น 3 – 6 เมตร
ประตู: บานเลื่อนพร้อมกระจกตัดแสงสีเขียว และกรอบอลูมิเนียมสีน้ำตาล
สุขภัณฑ์: Cotto หรือเทียบเท่า
บรรยากาศบ้านตัวอย่างยูนิต The Volume vision 3 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ พื้นที่ใช้สอย 164 ตร.ม. เนื้อที่เริ่มต้น 50 ตร.ว.
สำหรับยูนิต The Volume Vision เป็นขนาดกลางของรูปแบบบ้าน The Volume โดยมีการใช้โทนสีฟ้า น้ำเงิน มาทางส่วนภายนอก พร้อมติดตั้งรั้วบานเลื่อนดังรูป อีกทั้งโครงการยังคำนึงถึงแนวคิดบ้านเย็น จึงได้ติดตั้งแผ่นสะท้อนความร้อนไว้ใต้กระเบื้องหลังคา
พื้นที่จอดรถ เป็นพื้นปูน โดยสามารถจอดรถได้ 2 คัน ทั้งนี้ผู้อยู่อาศัยอาจทำหลังคายื่นออกมาเพิ่มเติม เพื่อบังแดดและฝน พร้อมป้องกันฝนสาดในหน้าฝน
โครงการได้ปูสนามหญ้าให้รอบบ้าน โดยประตูบานเลื่อนด้านซ้ายมือของรูป เป็นทางเข้าหลักของบ้าน โดยได้ยกสูงขึ้นจากพื้นมาเล็กน้อย พร้อมทำขั้นบันได เพื่อเป็นการเล่นระดับ
ด้านข้างบ้านมีพื้นที่ให้สามารถแต่งเป็นสวนหย่อมส่วนตัวได้เพิ่มเติม และการทำรั้วต้นไม้ดังรูป นั่นเป็นการเพิ่มความเป็นส่วนตัวมากยิ่งขึ้น
เมื่อเข้ามาในตัวบ้าน สิ่งแรกที่พบคือโถงนั่งเล่น ที่มีจุดเด่นที่เพดานในรูปแบบ Double Volume สูง 6 เมตร
ถัดจากโถงนั่งเล่นมา เป็นพื้นที่อเนกประสงค์ ที่สามารถดัดแปลงเป็นมุมนั่งกินข้าวในครอบครัวได้ และสังเกตว่าด้านข้างบ้าน ทางโครงการได้ติดตั้งหน้าต่างบานเลื่อน และบาน Fix ให้ด้วย โดยมีประตูให้สามารถออกไปนั่งพักผ่อนบริเวณ Terrace ด้านข้างบ้าน
พื้นที่ Terrace ด้านข้างบ้านมีขนาด 1.60 x 3.00 เมตร โดยสามารถนำเก้าอี้มาตั้ง จัดวางเป็นมุมพักผ่อนได้
กลับเข้ามาดูส่วนของพื้นที่อเนกประสงค์กันต่อ จะเห็นว่าด้านในสุด ถัดจากพื้นที่วางโต๊ะกินข้าว ยังมีพื้นที่เหลือให้สามารถจัดวางเป็นมุมทำงานส่วนตัวได้ และถือว่าเป็นมุมที่เหมาะกับการนั่งทำงานและอ่านหนังสือ เนื่องจากมีการติดตัั้งหน้าต่าง จึงทำให้แสงลอดผ่านเข้ามาได้ดี
สำหรับพื้นที่ห้องน้ำชั้นล่าง เนื่องจากมีพื้นที่จำกัด จึงไม่มีส่วนของพื้นที่อาบน้ำ โดยสุขภัณฑ์ทั้งหมดเป็นของ Cotto
มาดูส่วนของครัวกันบ้าง ทางโครงการได้ออกแบบให้เป็นลักษณะครัวปิด พร้อม Built-in เคานเตอร์ครัวในลักษณะรูปตัว L โดยพื้นที่ใช้สอยจะไม่มากนัก ดังนั้นหาก Built ตู้เก็บของเพิ่ม อาจจะทำให้อึดอัดไป
ภายในครัวมีการติดตั้งหน้าต่างบานเลื่อนให้ด้วยดังรูป ซึ่งทำให้ช่วยระบายอากาศได้ดี แต่อาจจะทำความสะอาดยากสักหน่อย เพราะเวลาทำกับข้าวคราบน้ำมันจะเกาะติดกระจกได้
พื้นที่ตรงข้ามเคาน์เตอร์ครัว สามารถนำตู้เย็นขนาดไม่ควรเกิน 11 คิวมาติดตั้ง เนื่องจากหากใหญ่กว่านี้อาจจะทำให้ห้องครัวแคบ และไม่สะดวกต่อการเข้า-ออก
พื้นที่ลานซักล้างถูกออกแบบให้อยู่ด้านข้างของตัวบ้าน จึงทำให้มีพื้นที่ใช้สอยมากกว่าออกแบบไว้ด้านหลังบ้าน
พื้นที่ด้านหลังบ้าน นั้นจะมีขนาดไม่กว้างมากนัก แต่ก็ถือว่าไม่แคบ พอเดินได้
กลับเข้ามาในบ้าน มาดูส่วนของบันได นั้นมีความกว้างพอเหมาะประมาณ 90 ซม. โดยลูกตั้งเป็นคอนกรีตเสริมเหล็กทาสีขาว ส่วนลูกนอนปูด้วยไม้ Leowood ข้อดีของไม้นี่จะแข็งแรง คงทน ยืดอายุการใช้งานได้นานกว่าลามิเนต โดยพื้นที่ด้านข้างบันได ถูกออกแบบให้เป็นห้องเก็บของ
ขึ้นมาชั้น 2 จะพบว่าด้านบนถูกปูพื้นด้วยลามิเนตที่มีความ 12 มม. และถึงแม้โครงการเลือกชนิดหนาให้แล้ว แต่ถึงกระนั้นก็ควรระมัดระวังเรื่องการทำความสะอาด ไม่ควรใช้ผ้าเปียกเช็ดพื้น เพราะจะทำให้พื้นบวม
จากรูปจะเห็นว่า ส่วนของพื้นที่โถงนั่งเล่นนั้นเป็นลักษณะ Double Volume กินพื้นที่ชั้น 2 บางส่วน โดยโครงการได้ออกแบบให้หน้าต่างห้องนอนสามารถมองลงมาเห็นโถงนั่งเล่น
มาดูพื้นที่ของห้องนอนมาสเตอร์กันบ้าง จะเห็นว่าถูกล้อมรอบด้วยหน้าต่าง ทำให้ถ่ายเทอากาศได้ดี ช่วยทำให้บ้านเย็น โดยเตียงสามารถวางได้ตั้งแต่ขนาด 6 ฟุตขึ้นไป
บริเวณหน้าต่างห้องนอน ที่สามารถมองลงไปเห็นโถงนั่งเล่น สามารถนำที่วางทีวีขนาดพอเหมาะ และควรมีความยาวพอดีกับบริเวณที่ติดตั้งหน้าต่าง เพื่อความสวยงาม และไม่ให้เกะกะ
สำหรับห้องนอนที่ 2 ขนาดพื้นที่ใช้สอยถูกลดขนาดลง จึงทำให้สามารถนำเตียงเดี่ยวหรือขนาด 3 ฟุตมาวางได้ และไม่ควรเลือกขนาดใหญ่กว่านี้ เนื่องจากจะทำให้ห้องแคบ
บริเวณหน้าต่างห้องนอนที่สามารถมองลงมาเห็นโถงนั่งเล่น การวางทีวีควรเป็นแบบแขวนเนื่องจากมีพื้นที่จำกัด
ด้านข้างของเตียง สามารถ Built-in ตู้เสื้อผ้าพร้อมชั้นวางของเต็มพื้นที่ได้อย่างไม่เกะกะ
สำหรับห้องนอนที่ 3 จะมีขนาดพื้นที่ใช้สอยเพิ่มขึ้นมาเล็กน้อย จึงทำให้สามารถวางเตียงขนาด 3-5 ฟุตได้อย่างไม่อึดอัด
บริเวณปลายเตียงจริงๆ แล้ว ผู้อยู่อาศัยอาจเลือกที่วางทีวีที่มีฟังค์ชันสามารถปรับเปลี่ยนเป็นโต๊ะทำงานได้ เพื่อความสะดวกในการใช้งาน และเป็นการใช้พื้นที่ให้คุ้มค่า
บรรยากาศบ้านตัวอย่างยูนิต The Flow O2 3 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ พื้นที่ใช้สอย 180 ตร.ม. เนื้อที่เริ่มต้น 61 ตร.ว.
บ้านตัวอย่างยูนิต The Flow หลังนี้ เป็นรูปแบบ O2 โดยจะเป็นบ้านรูปตัว L ที่เน้นเรื่องทิศทางลมเข้าบ้าน ทำให้บ้านเย็น
เมื่อเข้าบ้านจากทางฝั่งประตูโถงโรงรถ จะพบ Foyer ในขนาด 2 x 2.40 เมตร สามารถ Built-in ตู้เก็บรองเท้าขนาดพอเหมาะได้เลย
เมื่อเข้าด้านในบริเวณนี้สามารถตกแต่งเป็นพื้นที่ครัวเปิดได้ หรือบางบ้านอาจจัดเป็นมุมสำหรับปาร์ตี้ในครอบครัวหรือเพื่อนฝูงก็ถือว่าดีไม่น้อย
ห้องน้ำชั้นล่างยังคงอยู่บริเวณนี้ด้วย โดยจะไม่มีพื้นที่อาบน้ำให้ แต่ความน่าสนใจอยู่ที่หน้าต่างบานกระทุ้งระบายอากาศที่เป็นบานใหญ่ ทำให้ช่วยระบายอากาศได้ดี
เนื่องจากโครงสร้างบ้านเป็นรูปตัว L จึงทำให้พื้นที่ครัวเปิดที่โครงการตกแต่ง มีประตูบานเลื่อนที่เปิดได้ 3 ตอน ออกไปส่วนพื้นที่ Terrace ทำให้ลมพัดเข้าบ้านได้ดี
ด้านหลังบ้าน พื้นที่ลานซักล้าง โครงการได้ทำซิงค์อ่างล้างจานให้ด้วยดังรูป ทำให้ผู้อยู่อาศัยไม่ต้องต่อเติมเพิ่ม
ส่วนของพื้นที่สระน้ำ บ้านจริงโครงการได้ปูสนามหญ้าให้ ซึ่งผู้อยู่อาศัยสามารถทำเป็นบ่อปลา จัดสรรเป็นมุมพักผ่อนส่วนตัวได้
กลับดูพื้นที่โถงนั่งเล่นในบ้านกันต่อ บริเวณ Corridor สามารถจัดเป็นมุมให้สามารถวางโต๊ะ เก้าอี้ จัดเป็นมุมนั่งทำงานได้
โถงนั่งเล่นจริงๆ แล้ว สามารถจัดวางโซฟาขนาดเกิน 3 ที่นั่งได้ เนื่องจากมีพื้นที่ใช้สอยมากพอสมควร ที่สำคัญมีประตูบานเลื่อนทั้งฝั่งหน้าบ้าน และหลังบ้าน ทำให้หากเปิดรับลมทั้ง 2 ด้าน จะทำให้ลมพัดผ่านได้ดีมาก ทำให้บ้านเย็น
ประตูบานเลื่อนฝั่งนี้ เป็นทางเข้าบ้านได้อีกหนึ่งทาง แต่ผู้อยู่อาศัยอาจจำเป็นต้องทำขั้นบันไดเพิ่ม เนื่องจากมีระดับค่อนข้างสูง อาจไม่เหมาะกับผู้สูงอายุ
ออกมาดูพื้นที่สวนด้านนอกกันบ้าง ของจริงทางโครงการได้ปูหญ้าให้รอบบ้าน แต่จริงๆ แล้วผู้อยู่อาศัยสามารถจัดเป็นสวนหย่อมได้ตามต้องการ
กลับเข้ามาในบ้าน ส่วนของบันไดยังใช้ไม้ Leowood ที่ขึ้นชื่อเรื่องความคงทน พร้อมออกแบบให้มีห้องเก็บของใต้บันได แต่อาจจะเข้าไปในห้องเก็บของค่อนข้างลำบาก เพราะประตูทางเข้าค่อนข้างเตี้ย
ถัดจากมุมหน้าต่างเข้ามาจะเป็นห้องน้ำ ที่มีการแบ่งส่วนเปียก-แห้ง ด้วยการลดระดับพื้นที่อาบน้ำลง
สำหรับเตียงนอนที่สามารถนำมาวางได้จะมีขนาดตั้งแต่ 6 ฟุตขึ้นไป โดยภายในห้องนอนมาสเตอร์ จะมีระเบียงให้ออกไปรับลมข้างนอกได้
บริเวณปลายเตียง สามารถ Built-in เป็นที่วางทีวีและชั้นวางของได้ พร้อมทั้งบริเวณด้านหน้าห้องน้ำ จะมีพื้นที่เหลือให้สามารถติดตั้งตู้เสื้อผ้าเพิ่มเติม
ด้านข้างเตียงสามารถ Built-in เป็นตู้เสื้อผ้าบานเลื่อนขนาด 2 บานได้ และยังมีพ้นที่เหลือเล็กน้อยให้วางโต๊ะเครื่องแป้งเพิ่มเติม
ถัดจากห้องนอนที่ 2 จะเป็นห้องน้ำ ซึ่งยังคงมีการแบ่งส่วนเปียก-แห้ง ด้วยการลดระดับพื้นที่อาบน้ำลง
ทําเล & การเดินทาง
ศักยภาพทำเลโซนตะวันออก (สุวรรณภูมิ-ลาดกระบัง)
ปัจจุบันพื้นที่ในรัศมีโดยรอบสนามบินสุวรรณภมิ ไม่ว่าจะเป็นเขตลาดกระบัง บางนา-ตราด หรือกิ่งแก้วนั้น กำลังถูกจับตาในด้านการพัฒนาความเจริญในด้านต่างๆ แต่ที่เห็นเด่นชัดสุด คงจะหนีไม่พ้นโครงการขยายเส้นทางให้บริการของรถไฟฟ้าสายอนาคต อย่างสีเขียวเข้ม (Light Rail) ช่วงส่วนต่อขยายสายบางนา-สุวรรณภูมิ ที่จะปักหมุดสถานีสุดท้ายที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ โดยขบวนรถไฟสายนี้หากเปิดใช้บริการตามที่คาดไว้ในปี 2565 จะนำพาความเจริญมาให้ในทำเลดังกล่าวอย่างมาก เรียกได้ว่ากลายเป็นแหล่งรองรับความเป็นเมืองจากโซนสุขุมวิทตอนปลาย ที่ทุกวันนี้มองไม่เห็นที่ดินเปล่ารกร้างแล้ว หลังจากมีรถไฟฟ้าบีทีเอสสายสีเขียวเข้มช่วงส่วนต่อขยายวิ่งผ่าน ส่งผลให้มูลค่าของอสังหาฯ ปรับตัวสูงขึ้นเป็นเท่าตัว และปรากฎการณ์นี้จะเกิดขึ้นอีกครั้งกับโซนสุวรรณภูมิ-ลาดกระบัง หากบรรดาโครงการในอนาคตที่รัฐบาลได้วางแผนพัฒนาไว้ ไม่ว่าจะเป็น สนามบินสุวรรณภูมิเฟส 2 รถไฟความเร็วสูงมุ่งหน้าสู่จังหวัดทางตะวันออกแล้วเสร็จ คาดว่ามูลค่าของที่ดินและอสังหาริมทรัพย์ย่านดังกล่าวจะปรับสูงขึ้นอีก 20-30% โดยปัจจุบันโครงการบ้านเดี่ยวโซนดังกล่าวเริ่มต้นที่ 4-10 ล้านบาท ส่วนที่ดินรกร้างอยู่ที่ 50,000 – 100,000 บาท / ตร.ว.
ที่ตั้งโครงการ
โครงการถูกปักหมุดอยู่บริเวณซอยศรีวารีน้อย ซึ่งศักยภาพของซอยนี้คือ สามารถทะลุออกได้ 2 ทาง ทั้งฝั่งบางนา-ตราด ข้างมหาวิทยาลัยหัวเฉียว และลาดกระบัง 54 จึงทำให้สร้างความสะดวกต่อการเดินทางหลีกเลี่ยงรถติดเพื่อไปทำกิจธุระต่างๆ ประกอบกับความน่าสนใจของซอยนี้ หากใครเคยผ่านไปมาเป็นประจำในสมัยอดีต จะพบว่าสองฝั่งข้างทางของถนนดังกล่าว ต่างเต็มไปด้วยทุ่งหญ้ารกร้างสลับกับทุ่งนา แต่แล้วด้วยอานิสงส์ของสนามบินสุวรรณภูมิ จึงส่งผลให้พื้นที่ย่านนี้ถูกพัฒนาเป็นหมู่บ้านจัดสรร ควบคู่ไปกับสถานที่ไลฟ์สไตล์ ที่ทยอยมาเปิดรองรับความต้องการกลุ่มผู้อยู่อาศัย รวมถึงคนพื้นที่ และดูเหมือนว่าส่วนใหญ่จะเป็นสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญด้วย อาทิ คิง เพาเวอร์ ศรีวารี (ห่างจากโครงการประมาณ 14.4 กม.) ตลาดโรงเกลือ (ห่างจากโครงการประมาณ 15 กม. ) หรือแม้แต่พุทธสถานชื่อดัง วัดศรีวารีน้อย (ห่างจากโครงการประมาณ 13 กม.) ดังนั้นหากใครไม่อยากเบื่อหน่ายกับรถติดเส้นบางนา-ตราด สามารถเลือกท่องเที่ยวแหล่งไลฟ์สไตล์ใกล้ๆ โครงการ ในวันหยุดสุดสัปดาห์ได้ ส่วนแหล่งความอุดมสมบูรณ์ของกินนั้น อาจจะต้องมาเลือกสรรบริเวณปากซอย ซึ่งเป็นที่ตั้งของตลาดจันทร์เจริญ (ห่างจากโครงการประมาณ 17 กม. ) แหล่งรวมของอร่อยมากมาย หรืออาจเลือกไปช้อปปิ้งทางฝั่งลาดกระบัง 54 ที่ตั้งของตลาดหัวตะเข้ (ห่างจากโครงการประมาณ 6 กม.) ศูนย์รวมร้านอาหารแนว Street Food และของใช้ราคาถูกมากมาย
การเดินทาง
สำหรับผู้ที่ต้องการเดินทางมาโครงการ แล้วกำลังกังวลว่าจะเข้าซอยลาดกระบัง 54 ไม่ได้ เนื่องจากทางสำนักงานเขตลาดกระบังได้ประกาศปิดถนนช่วงต้นซอย เพื่อขยายถนนออกเป็น 4 เลน โดยขณะนี้ได้เปิดให้ใช้เป็นปกติแล้ว จึงไม่ต้องไปอ้อมใช้อีกเส้นทางฝั่งบางนา-ตราด ซึ่งรถจะค่อนข้างติด เนื่องจากมีรถบรรทุกใช้ถนนเส้นนี้ค่อนข้างเยอะ
รถยนต์
ภาพจาก Google Maps หากเริ่มต้นเส้นทางจากถนนลาดกระบัง สู่ที่ตั้งโครงการ วารีโอ สุวรรรภูมิ (Vario Suvarnabhumi)
ทางเลือกที่ 1 หากมาจากเส้นสุขุมวิท ให้เลี้ยวเข้าซอยอ่อนนุชหรือสุขุมวิท 77 แล้วตรงมาเรื่อยๆ ผ่านแยกเฉลิมพระเกียรติ วงแหวนรอบนอกกรุงเทพมหานครฝั่งตะวันออก จากนั้นตัดเข้าถนนลาดกระบัง จากนั้นให้ตรงต่อมาประมาณ 6 กม. จะพบถนนตัดเข้าสนามบินสุวรรณภูมิ ให้มุ่งหน้าตรงต่อมาประมาณ 1 กม. แล้วกลับรถใต้สะพานบริเวณตลาดหัวตะเข้ เพื่อเตรียมเลี้ยวซ้ายเข้าซอยลาดกระบัง 54 เมื่อเข้าซอยให้ตรงต่อมาประมาณ 4 กม. จะพบโครงการอยู่ด้านซ้ายมือ
ภาพจาก Google Maps หากเริ่มต้นเส้นทางจากถนนบางนา-ตราด สู่ที่ตั้งโครงการ วารีโอ สุวรรรภูมิ (Vario Suvarnabhumi)
ทางเลือกที่ 2 หากมาจากถนนเส้นบางนา-ตราด ให้ตรงมาเรื่อยๆ ประมาณ 10 กม. จะเจอซอยศรีวราน้อยอยู่ฝั่งซ้ายมือ ข้างมหาวิทยาลัยหัวเฉียว ให้ตรงเข้าไปในซอยประมาณ 10 กม. จะพบโครงการอยู่ขวามือ
สถานที่สำคัญรอบโครงการ
ห้างสรรพสินค้า
คิง เพาเวอร์ ศรีวารี (King Power ศรีวารี) (ห่างจากโครงการประมาณ 14.4 กม.)
เมกา บางนา (Mega Bangna) (ห่างจากโครงการประมาณ 29 กม.)
อิเกีย (Ikea) (ห่างจากโครงการประมาณ 29 กม.)
สถานศึกษา
สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง (ห่างจากโครงการประมาณ 7 กม.) มหาวิทยาลัยหัวเฉียวเฉลิมพระเกียรติ (ห่างจากโครงการประมาณ 19 กม.)
โรงพยาบาล
โรงพยาบาลเซ็นทรัลปาร์ค (ห่างจากโครงการประมาณ 19 กม.)
โรงพยาบาลบางนา 2 (ห่างจากโครงการประมาณ 26 กม.)
บทวิเคราะห์
วิเคราะห์อัตราผลตอบแทนที่จะได้รับ
แม้ว่าในปัจจุบัน ตลาดลงทุนอสังหาฯ จะค่อนข้างชะลอตัว แต่ถึงกระนั้นกับพบว่าเหล่านักลงทุนที่ซื้อบ้านเพื่อการเกร็งกำไรระยะยาวยังมีอยู่ โดยเฉพาะในทำเลที่มีแรงผลักดันจากดีมานด์อย่างต่อเนื่อง เฉกเช่นเดียวกับโซนสุวรรณภูมิและลาดกระบัง ซึ่งต้องยอมรับว่านับตั้งแต่ท่าอากาศยานสุวรรรภูมิ มาปักหลักอยู่ในบริเวณดังกล่าว ส่งผลให้ตลาดอสังหาฯ คึกคักอย่างมาก อาจเป็นเพราะมีประชากรกลุ่มหนึ่งจำเป็นต้องโยกย้ายที่อยู่อาสัยตามแหล่งงานมาในบริเวณดังกล่าว และเกิดความต้องการอยากได้บ้านใกล้สถานที่ทำงาน เหตุนี้เองจึงทำให้การซื้อ ขาย หรือเช่ากลับมาคึกคักอีกครั้ง แม้ว่าจะมีคู่แข่งค่อนข้างมาก แต่พบว่าอัตราผลตอบแทนที่ได้รับยังถือว่าอยู่ในระดับสูงอยู่ โดยสำหรับบ้านเดี่ยวที่มีพื้นที่ใช้สอยไม่เกิน 160 ตร.ม. มีอัตราราคาค่าเช่าอยู่ที่ 40,000 บาท / เดือน หรือเฉลี่ย 250 บาท / ตร.ม.
เปรียบเทียบกับโครงการอื่น
โครงการ | ขนาดพื้นที่(ตร.ว.) | พื้นที่ใช้สอย(ตร.ม.) | ราคาขาย(ล้านบาท) |
ศุภาลัย การ์เด้นวิลล์ สุวรรณภูมิ | เริ่มต้น 61 ตร.ว. | 150 – 217 | 4 |
ศุภาวรรณ เวนิส | เริ่มต้น 50 ตร.ว. | 170 | 4.2 |
Supalai Garden Ville Suvarnabhumi
Supalai Garden Ville Suvarnabhumi ภาพ via supalai.com
ชื่อโครงการ: ศุภาลัย การ์เด้นวิลล์ สุวรรณภูมิ
ผู้พัฒนาโครงการ: บริษัท ศุภาลัย จำกัด (มหาชน) : SUPALAI
ทำเลที่ตั้ง: ถนนศรีวารีน้อย (ซอยลาดกระบัง 54) ตำบลศรีษะน้อย อำเภอบางเสาธง สมุทรปราการ
เว็บไซต์: supalai.com
รายละเอียดโครงการ
พื้นที่โครงการ: 97 ไร่
พื้นที่ใช้สอย: 150 – 217 ตร.ม.
รูปแบบ: บ้านเดี่ยว 2 ชั้น ประกอบด้วย 3-4 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ
ราคาขายปัจจุบันเริ่มต้น: 4 ล้านบาท / ยูนิต
Supawan Venice
Supawan Venice ภาพ via supawanvenice.com
ชื่อโครงการ: ศุภาวรรณ เวนิส
ผู้พัฒนาโครงการ: บริษัท อู่เงิน จํากัด
ทำเลที่ตั้ง: ถนนศรีวารีน้อย (ซอยลาดกระบัง 54) ตำบลศรีษะน้อย อำเภอบางเสาธง สมุทรปราการ
เว็บไซต์: supawanvenice.com
รายละเอียดโครงการ
พื้นที่โครงการ: 14 ไร่ 2 งาน 81.6 ตร.ว.
พื้นที่ใช้สอย: 170 ตร.ม.
รูปแบบ: บ้านเดี่ยว 2 ชั้น ประกอบด้วย 3 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ 3 ที่จอดรถ
ราคาขายปัจจุบันเริ่มต้น: 4.2 ล้านบาท / ยูนิต
สรุป
บทสรุป
• ที่ตั้งโครงการบริเวณถนนศรีวราน้อย สามารถทะลุออกได้ 2 เส้นทาง คือ เส้นบางนา-ตราด และลาดกระบังซอย 54
• แบบบ้าน โดดเด่นด้วยการออกแบบให้เน้นความโปร่งโล่ง และบ้านเย็น
• คลับเฮ้าส์เน้นครบครันและมีขนาดใหญ่ แต่การบริหารจะเป็นภาคเอกชน จึงทำให้บุคคลภายนอกสามารถมาใช้บริการได้
• แม้โครงการตั้งอยู่ในโซนสุวรรณภูมิ แต่กับไม่พบปัญหาเรื่องเสียงเครื่องบินดัง
• ในอนาคตภาพรวมของโครงการ จะเป็นเหมือนฮับสำหรับที่อยู่อาศัย โดยถูกแบ่งออกเป็น โซนบ้านที่อยู่อาศัย พื้นที่ส่วนกลาง รวมถึงร้านค้า