รีวิวโครงการ: วิรัณยา วงแหวน-อ่อนนุช (Viranya Wongwaen - Onnut)

จากภาพ Google maps จะเห็นว่าเนื่อที่ของโครงการเป็นลักษณะแนวลึกเข้าไป โดยทางเข้าจะอยู่ติดถนนเลียบวงแหวนกาญจนาภิเษก ฝั่งตะวันออก ส่วนที่ถูกล้อมกรอบสีเหลืืองเป็นพื้นที่ส่วนกลาง คลับเฮ้าส์ ทะเลสาบ และสวนสาธารณะ โดบแบ่งบ้านพักอาาศัยออกเป็น 3 โซน โซนที่ 1 ตั้งแต่ประตูทางเข้า-คลับเฮ้าส์ โซนที่ 2 คลับเฮ้าส์-ทะเลสาบ โซน 3 Private Zone

แนวคิดหลักของโครงการ วิรันยา วงแหวน-อ่อนนุช คือ การสร้างบ้านที่มีหัวใจ เน้นการใช้พื้นที่ใช้สอยให้เกิดประโยชน์สูงสุด และเชื่อมต่อกับธรรมชาติ รอบโครงการ

แบบบ้าน Floretta 3 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ พื้นที่ใช้สอย 141.37 ตร.ม. บนเนื้อที่ 55.9 ตร.ว.

แบบบ้าน Blooma 3 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ พื้นที่ใช้สอย 154 ตร.ม. บนเนื้อที่ 50.8 ตร.ว.

แบบบ้าน Matura 4 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ พื้นที่ใช้สอย 171 ตร.ม. บนเนื้อที่ 58.3 ตร.ว.

ซุ้มประตูทางเข้าโครงการ หรือ Grand Gate นั้นแบ่งฝั่งซ้ายคือ จุดเข้าโครงการ ฝั่งขวา จุดออกโครงการ โดยมีประตูกั้นอีกชั้น พร้อมประตูเข้า-ออก คนเดิน ที่อยู่ด้านมุมทั้งสองฝั่ง

ระบบรักษาความปลอดภัย จะมีเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย กล้อง CCTV พร้อมใช้ Access Key Card ในการเข้า-ออก

ประตูที่ถูกกั้นอีกชั้น หากมองออกมาจากด้านในโครงการ

ฝั่งซ้ายมือ ของซุ้มประตูทางเข้า เป็นจุดจอดรถจักรยานและมอเตอร์ไซค์

ภายในโครงการ มีการติดป้ายจำกัดความเร็วไม่เกิน 30

ความกว้างของถนนในรูป มีความกว้างประมาณ 14 เมตร

จากรูป คือส่วนของเฟส 2 ที่อยู่ในระหว่างการก่อสร้าง โดยถนนของเฟสนี้ เมนหลักมีความกว้าง 12 เมตร เมนรอง 9 เมตร

เมื่อวันที่ 8-9 ตุลาคม ที่ผ่านมา เพิ่งฉลองเปิดคคลับเฮ้าส์ไป

คลับเฮ้าส์ ถูกออกแบบในสไตล์โมเดิร์น โดยแบ่งพื้นที่ส่วนกลางออกเป็น 2 ชั้น ชั้นล่างเป็น พื้นที่พักผ่อนท่ามกลางสวน ห้องประชุม ห้องเด็กเล่น และห้องนิตบุคคล ส่วนด้านบน เป็นสระว่ายน้ำและห้องออกกำลังกาย

พื้นที่นั่งพักผ่อน ที่ถูกตกแต่งในสไตล์รีสอร์ท

มุมนั่งพักผ่อน คล้ายในรีสอร์ทอย่างไม่มีผิดเพี้ยน

สระว่ายน้ำเป็นระบบเกลือ กว้างประมาณ 10.7 x 21 เมตร โดยแยกสระเด็กและผู้ใหญ่

มุมอาบน้ำก่อนหรือหลังลงสระ

เก้าอี้นั่งพักผ่อนริมสระ

ห้องออกกำลังกายที่ถูกล้อมรอบด้วยกระจก เพื่อให้สัมผัสถึงบรรยากาศบริเวณโดยรอบ

บรรยากาศของห้องเด็กเล่น ที่อยู่ชั้นล่าง

สนามเด็กเล่น

บรรยากาศของสวนสาธารณะ พร้อมศาลาให้นั่งพักผ่อน

อีกหนึ่งมุมของบรรยากาศสวนสาธารณะ ซึ่งฝั่งนี้ถูกออกแบบให้มี Jogging Tack ด้วย

ประตูรั้วของบ้านเป็นล้อเลื่อน

ช่องเก็บขยะ ที่สร้างความเป็นระเบียบ และไม่ทำให้โครงการดูสกปรก

ถังขยะ ที่โครงการติดตั้งให้จากด้านในตัวบ้าน

โถงที่จอดรถ ที่สามารถจอดได้ 2 คัน

รายละเอียดของแบบบ้าน Matura ซึ่งประกอบไปด้วย 4 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ 1 โถงนั่ง 2 family Area 1 พื้นที่กินข้าว 1 ห้องครัว และ 1 ห้องเก็บของ

ประตูทางเข้าภายในบ้าน บริเวณโถงที่จอดรถ เป็นไม้จริงสีน้ำตาลแดง พร้อมติดกระจก เพื่อให้แสงลอดผ่าน โดยที่จับเป็นแบบก้านโยก

เมื่อเข้ามาด้านในตัวบ้านจะพบโถงนั่งเล่น โดยชั้นล่างทั้งหมดถูกปูด้วยพื้นกระเบื้องแกรนิตโต้ สีขาวครีม ขนาด 60 x 60 ซม. และในบริเวณดังกล่าวมีการติดตั้งกระจก นอกจากจะช่วยระบายอากาศแล้ว ยังทำให้แสงลอดเข้ามาในบ้าน ช่วยให้บ้านสว่าง

ถัดจากโถงห้องนั่งเล่น จะเป็นโซนกินข้าว ซึ่งออกแบบให้มีหน้าต่างแบบเข้ามุม พร้อมประตูบ้านเลื่อน ให้ออกไปด้านนอกตัวบ้านได้อีกทาง ซึ่งด้านหลังที่กินข้าว จะเป็ห้องนอนเล็กอีกห้อง

โดยบริเวณนี้สามารถนำโต๊ะกินข้าวขนาด 6 ที่นั่งวางได้ ดังรูป

เมื่อเปิดประตูบานเลื่อนออกมาด้านนอกตัวบ้าน จะพบพื้นที่นั่งพักผ่อน

เป็นอีกหนึ่งไอเดียที่ดี ในการจัดวางทำมุมพักผ่อน ด้านนอกตัวบ้านให้เป็นลักษณะศาลา

กลับเข้ามาด้านในบ้าน โซนนั่งกินข้าว สามารถนำเคาน์เตอร์บาร์ มาติดตั้งเพิ่มเติม ให้ความรู้สึกสไตล์บ้านฝรั่ง โดยด้านซ้ายของรูปเป็นห้องครัว

พื้นที่เคาน์เตอร์บาร์

ด้านในครัว โครงการได้ Built-in เคานเตอร์ครัวให้ดังรูป พร้อมติดตั้งซิงค์ล้างจานจาก Prema นอกจากนี้ยังมีประตูออกไปพื้นที่ซักล้างด้านหลังบ้าน

จากรูป ช่องว่างที่เว้นไว้ คือไว้สำหรับวางตู้เย็นขนาดใหญ่ โดยโครงการได้ติดตั้งปลั๊กไฟไว้เพื่อรองรับการใช้งาน

ประตูออกพื้นที่ซักล้างหลังบ้าน ตัวจับเป็นก้านโยก

พื้นที่ด้านหลังบ้าน สามารถปรับเปลี่ยนจากสวนให้กลายเป้นครัวไทย หรืออีกมุมของการพักผ่อน

โครงการได้ติดตั้งถังสำรองน้ำและปั๊มน้ำให้ด้วย

กลับเข้ามาดูห้องนอนเล็ก ที่อยู่ถัดจากพื้นที่นั่งกินข้าว ซึ่งสามารถนำเตียงขนาด 5 ฟุตมาวางได้ ทั้งนี้บางครอบครัวอาจสามารถปรับเปลี่ยนห้องดังกล่าวให้เป็นห้องทำงาน หรือห้องอเนกประสงค์อื่นๆ ได้เพิ่มเติม

ด้วยความกว้างของห้อง จึงทำให้สามารถนำตู้เสื้อผ้าขนาด 2 บาน พร้อมเก้าอี้โยกมาวางได้

จากเดิน Corridor ก่อนขึ้นบันไดชั้น 2 มีความกว้างประมาณ 1.50 เมตร

จากรูปคือ ห้องเก็บของใต้บันได ส่วนด้านขวามือ เป็นส่วนของห้องน้ำ

ห้องน้ำชั้นล่าง มีพื้นที่อาบน้ำให้ด้วย

ความกว้างของพื้นที่อาบน้ำ โดยมีการแบ่งส่วนเปียกและแห้ง ด้วยการก่อกระเบื้องขึ้นมาประมาณ 50 ซม.

บันไดและราวบันไดขึ้นชั้น 2 เป็นไม้ โดยมีช่องรับแสงจากหน้าต่างบานกระทุ้งบริเวณชานพัก

เมื่อขึ้นมาชั้น 2 ทั้งชั้นปูด้วยลามิเนต โดยมีการติดตั้งสัญญาณกันขโมยบริเวณชั้นนี้ด้วย

มาดูห้องนอนที่ 2 กันบ้าง ซึ่งจากรูปจะเห็นระยะของปลายเตียงกับโต๊ะวางทีวี ที่ถือว่าค่อนข้างห่าง

เตียงที่สามารถนำมาติดตั้งได้ มีขนาด 6 ฟุต โดยยังมีที่ว่างให้สามารถวางโต๊ะข้างเตียงได้

นอกจากบริเวณปลายเตียงจะสามารถ Built-in โต๊ะวางทีวีได้แล้ว ยังนำโต๊ะเครื่องแป้งมาวางได้เพิ่มเติมอีกด้วย

ห้องน้ำชั้นบน มีการแบ่งส่วนเปียก-แห้ง คล้ายกับชั้นล่าง แต่สิ่งที่เพิ่มเติมเข้ามาคือ ตู้เก็บของใต้อ่างล้างหน้า

จุดขายของแนวคิดบ้านที่มีหัวใจ นั้นคือมุม Creative Space ซึ่งสามารถออกแบบให้เป็นมุมนั่งพักผ่อนของครอบครัวได้ตามต้องการ

ห้องนอนเล็ก จะอยู่ตรงข้ามกับมุม Creative Space โดยสามารถนำเตียงเดี่ยวหรือขนาด 3 ฟุต มาวางได้

ด้านข้างเตียง หากนำโต๊ะข้างเตียงมาวาง อาจเปิดตู้เสื้อผ้าได้ไม่สะดวก ทางที่ดีควรติดตั้งที่วางของกับผนัง หรือปล่อยโล่ง น่าจะเหมาะกว่า

ด้วยเนื้อที่จำกัด จึงสามารถทำผนังให้เป็นที่แขวนของได้ดังรูป

ภายในห้องนอนมาสเตอร์ สามารถนำเตียงขนาด 6 ฟุตขึ้นไปมาวางได้

ภายในห้องนอนมาสเตอร์มีระเบียงให้ออกไปสูดอากาศ โดยความกว้างประมาณ 60 ซม.

บริเวณที่วางคอมเพรสเซอร์แอร์ จะมีระแนงบังให้ด้วย

บริเวณหัวเตียงจะมีหน้าต่างบานกระทุ้งติดตั้งให้

ทั้งนี้ห้องนอนมาสเตอร์ของโครงการจะมีการออกแบบให้เป็น Walk in Closet

การวางตู้เสื้อผ้าสามารถแบ่งออกเป็น 2 ฝั่ง

ด้านใน Walk in closet จะเป็นส่วนของห้องน้ำในตัว

ภายในห้องน้ำ จะมีหน้าต่างกระจกฝ้า เพื่อเพิ่มความสว่างให้กับห้องน้ำ

บริเวณตู้อาบน้ำ ออกแบบให้มีที่นั่งดังรูป

ความแตกต่างของรูปแบบ Blooma กับ Matura อยู่ขนาดพื้นที่ใชเสอยที่น้อยลง อีกทั้ง กระจกเข้ามุมหรือ Bay Window ถูกย้ายมาอยู่บริเวณโถงนั่งเล่น

ขนาดพื้นที่ใช้สอยรูปแบบบ้าน Blooma อยู่ที่ 154 ตร.ม.

โถงที่จอดรถยังคงสามารถจอดได้ 2 คัน

สำหรับคนที่อยากได้บรรยากาศความเป็นธรรมชาติ แต่ไม่ชอบการตัดหญ้า เป็นอีกหนึ่งไอเดียที่สอดแทรกหญ้ากับปูนเข้าด้วยกัน

ทางเข้าภายในตัวบ้าน บริเวณโถงนั่งเล่น เป็นประตูบานเลื่อน กระจกตัดแสงสีเขียว พร้อมกรอบอะลูมิเนียมสีน้ำตาล

เมื่อเข้ามาสามารถนำโซฟาขนาดพอเหมาะมาวางได้

ถัดจากมุมนั่งเล่น จะเป็นพื้นที่นั่งกินข้าว ซึ่งสามารถนำโต๊ะกินข้าวขนาด 4 ที่นั่ง ซึ่งเป็นขนาดพอเหมาะ ทำให้ตัวบ้านไม่อึดอัดมาวาง โดยด้านขวามือ เป็นส่วนของห้องครัว

โครงการยังคง Built-in เคาน์เตอร์ครัว พร้อมฝังซิ้งค์ล้างจานให้

พื้นที่ซักล้างด้านหลังบ้าน ถูกลดขนาดลง

กลับเข้ามาบริเวณโถงนั่งเล่น ที่สามารถนำโซฟาเบด มาติดตั้งได้

โดยบริเวณดังกล่าว มีหน้าต่างกระจก ที่ให้แสงลอดผ่าน ทำให้ตัวบ้านดูโปร่ง

Corridor ขึ้นไปชั้น 2 ซึ่งด้านซ้ายจะเป็นประตูออกไปโถงที่จอดรถ

ห้องเก็บของใต้บันได โดยฝั่งซ้ายมือเป็นห้องน้ำชั้นล่าง

ห้องน้ำชั้นล่างมีพื้นที่อาบน้ำให้ด้วย

บันได ขึ้นส่วนชั้น 2 วัสดุยังคงเป็นไม้ พร้อมหน้าต่างให้แสงลอดผ่าน

เมื่อขึ้นมาชั้น 2 จะพบทางเดินไปห้องต่างๆ ซึ่งมีความกว้างประมาณ 1 เมตร

มาดูในส่วนของห้องนอนแรกกัน สามารถนำเตียงขนาด 5 ฟุตมาวางได้

เป็นอีกหนึ่งไอเดีย สำหรับความต้องการให้ห้องมีพื้นที่กว้างขึ้น แต่ยังคงมีชั้นวางของ ด้วยการติดชั้นวางของกับผนัง

ด้านข้างเตียงสามารถนำตู้เสื้อผ้าขนาด 2 บานมาวางได้ โดยอาจต้องเว้นระยะปลั๊กไฟ เพื่อสะดวกต่อการใช้งาน

ห้องน้ำชั้น 2 ส่วนที่เพิ่มเติมเข้ามาคือ ตู้เก็บของใต้อ่างล้างหน้า

สำหรับบ้านตัวอย่างหลังนี้ มุม Creative Space ถูกออกแบบให้เป็นสไตล์ญี่ปุ่น ไว้นั่งจิบชาพักผ่อนในครอบครัว

ห้องนอนเล็กฝั่งตรงข้าม Creative Space เป็นห้องนอนเล็ก ที่สามารถนำเตียงขนาด 3 ฟุต มาวางได้ โดยให้สังเกตบริเวณปลายเตียงนั้นมีพื้นที่ค่อนข้างน้อย หากนำโต๊ะวางทีวีมาตั้ง

ด้วยพื้นที่ที่ค่อนข้างน้อย จึงสามารถปรับเปลี่ยนจากโต๊ะวางทีวี เป็นชั้นวางของที่ Built-in กับผนัง

มาดูส่วนของห้องนอนมาสเตอร์ ยังคงมีระเบียงออกไปสูดอากาศด้านนอก

บริเวณหัวเตียง เป็นอีกหนึ่งไอเดียที่ Built-in ผนังให้เป็นฉากเลื่อนปิดหน้าต่างได้ตามต้องการ แทนผ้าม่าน

ห้องนอนมาสเตอร์ยังคงมี Walk in closet

ตู้เสื้อผ้าถูกแบ่งออกเป็น 2 ฝั่งเช่นเคย

ด้านใน Walk in closet ดป็นพื้นที่ห้องน้ำ ที่แบ่งส่วนเปียกและแห้ง

บริเวณที่อาบน้ำ ประตูอาบน้ำจะมีตัวหยุดประตูติดอยู่ตรงที่นั่งอาบน้ำ ทำให้เวลาเปิดอาบน้ำไม่ไปชนกับกระเบื้อง ซึ่งอาจทำให้กระเบื้องและกระจกแตกได้

สำหรับยูนิตนี้ จุดเด่นของโครงการ อย่าง Creative Space และ Bay Window ยังคงมีอยู่ แต่สิ่งที่แตกต่างคือพื้นที่ใช้สอยน้อยลง และไม่มีระเบียงบริเวณห้องนอนมาสเตอร์

โถงที่จอดรถสามารถจอดได้ 2 คัน

การจัดพื้นที่หน้าบ้านลักษณะนี้ ถือว่าถูกใจผู้อยู่อาศัยที่ชอบปาร์ตี้พอสมควร

เมื่อเปิดประตูมา จะพบพื้นที่นั่งเล่น และโถงนั่งกินข้าว

สังเกตว่าจากรูปจะเห็น Bay Window ที่ทำให้ตัวบ้านดูกว้างขึ้น

มุมนั่งเล่นพักผ่อน ดูทีวี สังเกตว่าจากรูป มีการวางโต๊ะตรงกลาง ซึ่งค่อนข้างยาว และอาจเดินไม่สะดวก แนะนำว่าอาจหาโต๊ะขนาดพอเหมาะมาวางแทน

มุมโต๊ะกินข้าว ถูกล้อมรอบด้วยกระจก สำหรับบางบ้านที่เชื่อเรื่องฮวงจุ้ย สังเกตว่าหน้าต่างจะชนกับประตูทางเข้า ดังนั้นอาจแก้ไขโดยปิดหน้าต่าง หรือหาสติ๊กเกอร์สวยๆมาแปะ

มาดูส่วนของห้องครัว เคาน์เตอร์ครัวที่ Built-in ให้จะขนาดเล็กลง

พื้นที่วางตู้เย็น

ทางเดินขึ้นชั้น 2 และประตูออกไปบริเวณที่จอดรถ

ห้องเก็บของใต้บันได

สำหรับยูนิตนี้ ห้องน้ำชั้นล่างจะไม่มีที่อาบน้ำให้

ขึ้นมาชั้น 2 ยังคงถูกปูด้วยลามิเนต

ห้องนอนเล็ก ด้วยพื้นที่ใช้สอยค่อนข้างจำกัด จึงสามารถนำเตียวเดี่ยวขนาด 3 ฟุตมาวางได้

ด้วยพื้นที่ใช้สอยที่จำกัด ขนาดห้องเล็กลง ทางโครงการจึงออกแบบให้มีหน้าต่างเพิ่มเติม เพื่อทำให้ห้องดูโปร่งขึ้น

ด้านข้างเตียงสามารถนำตู้เสื้อผ้าขนาด 2 บานมาวางได้

ปลายเตียงยังมีพื้นที่ให้สามารถวางโต๊ะเขียนหนังสือและทีวี

มุม Creative Space สามารถทำเป็นมุมอ่านหนังสือได้

ห้องน้ำชั้น 2 มีส่วนของพื้นที่อาบน้ำให้ แต่ตู้เก็บของใต้อ่างล้างหน้าจะไม่ได้เหมือนรูปแบบ Blooma และ Matura

ห้องนอนเล็กที่ 2 เมื่อวางเตียงเดี่ยวไปแล้ว ยังมีพื้นที่เหลือบริเวณปลายเตียง

ด้านข้างเตียง โครงการได้ติดตั้งหน้าต่างบาน Fix และบานเลื่อน เพื่อช่วยถ่ายเทอากาศ

บริเวณปลายเตียง สามารถ Built-in โต๊ะหนังสือ พร้อมนำทีวีมาแขวนไว้กับผนัง เพื่อไม่ทำให้ห้องดูแคบ

ตู้เสื้อผ้าที่สามารถนำมาวางได้จะเป็นขนาดไม่ใหญ่มาก ดังรูป

ภายในห้องนอนมาสเตอร์ สามารถนำเตียงขนาด 5 ฟุตมาวางได้ หากเว้นช่องหน้าต่าง

ปลายเตียง สามารถติดตั้งที่วางทีวีได้ขนาดพอเหมาะ

และยังคงจุดเด่นด้วยการมี Walk in closet ให้ภายในห้อง

ห้องน้ำด้านใน มีการแบ่งส่วนเปียก-แห้ง พร้อมตู้อาบน้ำ