The Shelter โครงการบ้านเดี่ยว และโฮมออฟฟิศตั้งอยู่ในย่านธุรกิจชั้นนำ เพชรเกษม–พุทธมณฑลสาย 5 บนทำเลที่ดีที่สุดติดถนนเพชรเกษม เดินทางเข้าออกโครงการได้ง่าย ใกล้รถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินส่วนต่อขยายที่เชื่อมต่อถึงพุทธมณฑลสาย 4 ในอนาคต กับราคาเริ่มต้นที่ 10 ล้านบาท
ด้วยการพัฒนาพื้นที่ย่านพระราม 2 รอบด้าน นับตั้งแต่มีการเปลี่ยนสีผังเมืองจากสีเหลืองกลายเป็นสีส้ม รวมถึงเพิ่มจุดเด่นด้านการคมนาคมที่เชื่อมต่อหลายเส้นทาง ทั้งวงแหวนรอบนอกตะวันตก ทางด่วนพิเศษศรีรัช หรือแม้แต่โครงการในอนาคตอย่าง โปรเจคการสร้างสะพานเชื่อมต่อกับพื้นที่พระราม 3 รวมถึงการขยายเส้นทางให้บริการรถไฟฟ้าสายสีแดง ช่วงสถานีบ้านภาษี-มหาชัย กว่า 114.3 กม. ส่งผลให้ผู้อาศัยในย่านนี้สามารถเข้า-ออกเมืองเพื่อทำกิจธุระต่างๆ ได้สะดวกสบายยิ่งขึ้น ด้วยเหตุนี้เองจึงทำให้ดีเวลลอปเปอร์อย่าง “ศุภาลัย” เกิดแนวคิดต่อยอดจุดเด่นของทำเลพระราม 2 ด้วยการลงทุนพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยแนวราบในทำเลดังกล่าวอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นบ้านเดี่ยว บ้านรุ่นใหม่ และทาวน์โฮม 2 ชั้น ล่าสุด เมื่อช่วงปลายปีที่แล้ว ได้เปิดตัวโครงการศุภาลัย พรีโม่ พระราม 2 (Supalai Primo Rama 2) เพื่อรองรับกลุ่มผู้อยู่อาศัยเป้าหมายทั้งในพื้นที่และโดยรอบ รวมถึงคนที่ต้องการที่อยู่อาศัยเงียบสงบ เป็นส่วนตัว แต่สามารถเข้า-ออกใจกลางเมืองได้สะดวกสบาย ถึงแม้จะตั้งอยู่ชานเมืองก็ตาม ทั้งนี้ยังเพิ่มจุดเด่นให้กับบ้านทาวน์โฮมด้วยแนวคิดประหยัดพลังงานจากวัสดุที่ใช้ รวมถึงกันจัดวางห้องนอน พื้นที่นั่งเล่น และบริเวณโซนกินข้าว ให้รับลม สามารถถ่ายเทอากาศได้ดี พร้อมช่วยทำให้บ้านเย็น ในราคาเบาๆ สำหรับทาวน์โฮม 3 ชั้น เริ่มต้นเพียง 2.99 ล้านบาท
เจาะลึกข้อมูลโครงการ (ข้อมูล ณ วันที่ 10 มกราคม 2560)
• ชื่อโครงการ: ศุภาลัย พรีโม่ พระราม 2 (Supalai Primo Rama 2)
• ผู้พัฒนาโครงการ: บริษัท ศุภาลัย จำกัด (มหาชน) (Supalai)
• ทำเลที่ตั้ง: ถนนพระราม 2 ซอย 44 แขวงท่าข้าม เขตบางขุนเทียน กทม.
• เว็บไซต์: supalai.com
• โทร: 1720 กด 52
รายละเอียดโครงการ (ข้อมูล ณ วันที่ 31 มกราคม 2560)
พื้นที่โครงการ: 11 ไร่ 1 งาน 41.9 ตร.ว.
ลักษณะโครงการ: ทาวน์โฮม ประหยัดพลังงาน 3 ชั้น จำนวน 110 ยูนิต
กลุ่มเป้าหมาย: เน้นรองรับกลุ่มคนทำงาน กำลังสร้างครอบครัว ทั้งในพื้นที่และบริเวณโดยรอบ
สถานะการก่อสร้าง: ขณะนี้อยู่ระหว่างการก่อสร้าง และคาดว่าจะแล้วเสร็จ 100 % ประมาณเดือนสิงหาคม 2560
ที่จอดรถ: 1-2 คัน / ยูนิต
สิ่งอำนวยความสะดวก: สวนสาธารณะ
ระบบรักษาความปลอดภัย: Access Key Card เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย และ กล้องวงจรปิดตลอด 24 ชั่วโมง
สถานะการขาย: ภายหลังจากเปิดขายอย่างเป็นทางการ ในช่วงเดือนสิงหาคม 2559 สามารถขายไปแล้วประมาณ 40%
เงื่อนไขการชำระเงิน: จองเริ่มต้น 20,000 บาท ทำสัญญา 30,000 บาท
โปรโมชั่น: ฟรี! ชุดเครื่องใช้ไฟฟ้า Toshiba ค่าธรรมเนียมการโอน + ค่าจดจำนอง และ ค่าส่วนกลาง 1 ปี
ค่าส่วนกลาง: 60 บาท/ ตร.ว./ เดือน (ชำระล่วงหน้า 3 ปี ณ วันโอนกรรมสิทธิ์)
ราคาเริ่มต้น: 2.99 ล้านบาท / ยูนิต
รูปแบบบ้าน: ทาวน์โฮม ประหยัดพลังงาน 3 ชั้น
ศุภพฤกษ์ 3 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ 1 ที่จอดรถ พื้นที่ใช้สอย 140.34 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 2.99 ล้านบาท
ศุภเชษฐ์ 3 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ พื้นที่ใช้สอย 183.50 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 3.69 ล้านบาท
รายละเอียดโครงการ
รีวิวภาพรวมโครงการ
ความน่าสนใจของโครงการนี้ นอกเหนือจากยูนิตที่ค่อนข้างน้อย และบริเวณโดยรอบส่วนใหญ่เป็นพื้นที่เปล่าสลับกับบ้านเดี่ยว สร้างความเป็นส่วนตัวแล้ว ดูเหมือนเจ้าของโปรเจกต์จะพยายามออกแบบทั้งภายนอกและภายในของทาวน์โฮม ให้สอดคล้องกับธรรมชาติ โดยยึดหลักการของช่องแสงและลม เพื่อทำให้บ้านเย็น อย่างประตู-หน้าต่างทุกยูนิตของโครงการ จะมีช่องเปิดใหญ่ ทำให้ถ่ายเทอากาศได้ดี โดยส่วนของรูปแบบศุภเชษฐ์และศุภพฤกษ์ นอกจากจะแตกต่างกันตรงพื้นที่ประโยชน์ใช้สอยหรือที่จอดรถแล้ว ยังเพิ่มเรื่องของชั้นดาดฟ้าเข้ามาอีกด้วย ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับความต้องการของผู้อยู่อาศัยเป็นหลัก ในการเลือกรูปแบบของทาวน์โฮม เนื่องจากมีรูปแบบที่แตกต่างกัน แต่หากใครที่ต้องการบ้านแฝด อาจจะต้องผิดหวัง เนื่องจาก Sold Out ไปแล้ว และมีเพียง 2 ยูนิตเท่านั้น โดยตั้งอยู่บริเวณสวนส่วนกลาง
การวางทิศทางโครงการ
ภาพจาก Google Maps จะเห็นว่าเนื้อที่ของโครงการจะมีลักษณะรูปตัว L โดยถูกรายล้อมด้วยพื้นที่รกร้างสลับกับบ้านเดี่ยว
ทิศเหนือ: ด้านหน้าโครงการ เป็นพื้นที่เปล่ารกร้าง
ทิศใต้: ด้านหลังโครงการ พื้นที่เปล่าสลับกับบ้านเดี่ยว 1 ชั้น
ทิศตะวันออก: พื้นที่เปล่ารกร้าง
ทิศตะวันตก: พื้นที่เปล่าสลับกับบ้านเดี่ยว 1 ชั้น
สิ่งอำนวยความสะดวกภายในโครงการ
พื้นที่ 11 ไร่ ส่วนใหญ่ของโครงการถูกพัฒนาให้กลายเป็นทาวน์โฮมทั้งรูปแบบศุภเชษฐ์และศุภพฤกษ์ ดังนั้นสำหรับพื้นที่ส่วนกลางจึงไม่ใช่รูปแบบของคลับเฮ้าส์ อาจเป็นเพราะเน้นความส่วนตัว ยูนิตน้อยเป็นหลัก ดังนั้นส่วนกลางที่ได้จะเป็นรูปแบบของสวนสาธารณะ พร้อมสนามเด็กเล่น พื้นที่พักผ่อน และเรื่องของความปลอดภัยเป็นหลักสำคัญ
รีวิวภายในห้องตัวอย่าง
สิ่งที่จะได้รับจากโครงการ
พื้น: ชั้นล่าง กระเบื้องแกรนิตโต้ ขนาด 60 x 60 ซม. ชั้นบน ลามิเนตหนา 8 มม.
ความสูงพื้นจรดเพดาน: ชั้นบน ประมาณ 2.60 เมตร ชั้นล่าง ประมาณ 2.54 เมตร
ประตู: ประตูหน้าบ้าน เป็นแบบบานเลื่อน
สุขภัณฑ์: American Standard
เครื่องปรับอากาศ: Mitsubishi
บรรยากาศบ้านตัวอย่างของ ทาวน์โฮม รูปแบบ ศุภเชษฐ์ 3 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ พื้นที่ใช้สอย 183.50 ตร.ม.
รูปแบบอาคารเป็นสไตล์ Modern โดยออกแบบให้มีไม้ระแนง และผนังลายกราฟิก รูปกิ่งไม้ พร้อมจัดวางตัวบ้านให้รับลม ช่วยให้บ้านเย็น
สำหรับยูนิตบ้านตัวอย่าง เป็นรูปแบบศุภเชษฐ์ ประกอบไปด้วย 4 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ ในพื้นที่ใช้สอย 185 ตร.ม. บนเนื้อที่ 25 ตร.ว.
สำหรับยูนิตนี้มีหน้ากว้าง 5 เมตร โดยพื้นที่นั่งพักผ่อนหน้าบ้าน บ้านจริงจะเป็นพื้นที่จอดรถได้ 2 คัน พร้อมปูกระเบื้องให้ตามรูป
บริเวณลานจอดรถ ทางโครงการได้โรยหินกรวดให้ด้วย โดยนอกจากจะสร้างความสวยงามแล้ว ยังช่วยลดการเกิดของวัชพืชรำคาญใจอย่าง ต้นหญ้าด้วย
เนื่องจากยูนิตตัวอย่างเป็นห้องมุม ดังนั้นจึงมีพื้นที่ด้านข้างให้สามารถจัดเป็นสวนได้ โดยทางโครงการได้ปูไว้ให้ด้วย
ประตูเข้ามาด้านในบ้าน เป็นแบบบานเลื่อน กรอบอลูมิเนียมสีขาว พร้อมกระจกตัดแสง
เมื่อเข้ามาในบ้าน จะพบโซนนั่งเล่น โดยชั้นล่างนี้ ถูกปูด้วยกระเบื้องแกรนิตโต้สีขาวขนาด 60 x 60 ซม. ซึ่งทำให้ง่ายต่อการทำความสะอาด
สำหรับโซนรับแขกนี้ สามารถตกแต่ง ด้วยการนำโซฟารับแขก ชุดขนาดพอเหมาะมาวาง และการติดวอลเปเปอร์รูปแบบกระจก นอกจากจะทำให้บ้านดูหรูหราขึ้นแล้ว ยังทำให้รู้สึกว่าบ้านดูกว้างขึ้นอีกด้วย
เมื่อเดินเข้าด้านในบ้าน จะพบมุมนั่งสังสรรค์กินข้าวกันในครอบครัว โดยทางโครงการได้ดร๊อปฝ้าให้ด้วย ซึ่งหากสังเกตจะเห็นว่าจากรูปจะมีห้องน้ำอยู่ด้านซ้ายมือ
สำหรับห้องน้ำชั้นล่าง นั้นจะอยู่ใต้บันได โดยทางโครงการใช้สุขภัณฑ์ทั้งหมดจาก American Standard พร้อมตกแต่งด้วยกระเบื้องโมเสกตามรูป แต่ห้องน้ำชั้นล่างนี้ จะไม่มีพื้นที่อาบน้ำให้ เนื่องจากข้อจำกัดของพื้นที่ใช้สอย
กลับมาดูโซนนั่งกินข้าว สามารถนำโต๊ะกินข้าวขนาดพอเหมาะ ตั้งแต่ 4-6 ที่นั่งมาวางได้ โดยบริเวณนี้จะมีประตูบานเลื่อนให้ออกมาด้านหลังบ้าน ข้อดีคือนอกจากจะสร้างบรรยากาศระหว่างกินข้าวแล้ว ยังช่วยระบายกลิ่นอาหารได้ดีอีกด้วย
เป็นอีกหนึ่งความสนใจของโครงการนี้ สำหรับการออกแบบครัวในรูปแบบปิด ซึ่งทำให้ดูเป็นสัดส่วนด้วยประตูบานเลื่อน เหมาะสำหรับคนที่ชอบทำอาหาร ที่ไม่ต้องการเสียสตางค์ต่อเติมครัวไทยหลังบ้านเพิ่มเติม
ด้านในครัวปิด สามารถนำเคาน์เตอร์ขนาดพอเหมาะ หรือมีความยาวไม่เกิน 3 เมตรมาติดตั้งได้ ทั้งนี้เพื่อมีพื้นที่ในการวางตู้เย็น หรือเครื่องซักผ้า ซึ่งทางโครงการได้วางระบบไว้ให้เรียบร้อยแล้ว
เนื่องจากเจ้าของโปรเจกต์ได้ใส่ใจเรื่องฟังค์ชันการใช้งาน ดังนั้นจึงออกแบบให้ด้านหลังของทาวน์โฮมทุกหลังมีบันไดอเนกประสงค์ สำหรับทำงานระบบไฟหรือแอร์ โดยไม่ต้องให้ช่างเข้ามาด้านในบ้าน
สำหรับบันไดขึ้นช้น 2 นั่นจะใช้วัสดุไม้ยาง ซึ่งการดูแลรักษาจะคล้ายลามิเนต เนื่องจากวัสดุเหล่านี้จะไม่ชอบน้ำ หากโดนน้ำมาก ๆ จะพอง และเกิดรอยด่าง
เมื่อเดินขึ้นบันไดมาชั้น 2 ทางโครงการได้ออกแบบให้มีห้องอเนกประสงค์อยู่ซ้ายมือ ซึ่งห้องนี้สามารถติดตั้งประตู เพื่อสร้างความเป็นสัดส่วนได้
สำหรับยูนิตตัวอย่าง ห้องอเนกประสงค์นี้ ถูกปรับเปลี่ยนให้เป็น ห้องนั่งเล่นสำหรับครอบครัว ทั้งนี้ผู้อยู่อาศัยสามารถปรับเปลี่ยนให้เป็น ห้องนอนเล็ก หรือห้องห้องทำงานได้ตามความต้องการ โดยชั้นบน พื้นจะถูกปูด้วยลามิเนตหนา 8 มม.
กระเบื้องที่เห็นในรูป ของจริงได้ตามรูปทั้งหมด โดยนอกจากในห้องน้ำจะมีหน้าต่างระบายอากาศแล้ว ทางโครงการยังติดตั้งเครื่องดูดอากาศจาก Panasonic ให้เพิ่มเติมอีกด้วย
มาดูส่วนของห้องนอนมาสเตอร์ สามารถนำเตียงขนาด 6 ฟุตมาวางได้ พร้อมจัดวางให้สามารถนำโตีะเครื่องแป้ง มาวางด้านข้างได้
จากรูป จะมีหน้าต่างบานกระทุ้งให้แสงส่องเข้ามาในห้อง ทำให้ดูโปร่งขึ้น ซึ่งหน้าต่างทุกบานของทุกยูนิต ทางโครงการได้ติดมุ้งลวดไว้ให้เรียบร้อยแล้ว
สำหรับระเบียงของห้องนอนมาสเตอร์ ถือว่าค่อนข้างกว้าง และยาวทีเดียว โดยสามารถนำโต๊ะ และต้นไม้มาจัดวางให้กลายเป็นอีกหนึ่งมุมพักผ่อนได้
สำหรับยูนิตตัวอย่างนั้น ตกแต่งห้องนอนเล็กให้เป็นห้องนอนสำหรับเด็ก โดยหากปรับให้เป็นห้องนอนเล็ก สามารถนำเตียงขนาด 5-6 ฟุต มาวางได้ เนื่องจากมีพื้นที่ใช้สอยค่อนข้างมาก
สังเกตเห็นว่าเมื่อนำโต๊ะทำงานขนาดพอเหมาะมาติดตั้งแล้ว ยังมีพื้นที่เหลือให้นำของเล่นหรือโต๊ะมาวางเพิ่มเติมได้อีก
เช่นเดียวกันสำหรับชั้น 3 ที่มีพื้นที่ของห้องน้ำ ซึ่งสามารถเข้า-ออก ได้ทั้งบริเวณด้านนอก และบริเวณห้องนอน
กระเบื้อง วัสดุ ทั้งหมดที่เห็นในห้องน้ำ ทางโครงการได้ตกแต่งให้ทั้งหมด แต่่จะไม่มีหน้าต่างระบายอากาศให้
ทําเล & การเดินทาง
ศักยภาพทำเลพระราม 2
จากปัจจัยการขยับขยายความเจริญของพื้นที่ศูนย์กลางธุรกิจอย่างสาธรและพระราม 3 จึงทำให้ย่านพระราม 2 ฝั่งตะวันตกของกรุงเทพฯ นั้นได้รับอานิสงส์ไปด้วย สังเกตได้จากช่วงระยะเวลาไม่กี่ปีมานี้ บรรดาดีเวลลอปเปอร์หลายรายต่างพากันเปิดตัวโครงการอสังหาฯ แนวราบอย่างมากมาย นับตั้งแต่มีการเปลี่ยนสีผังเมืองจากสีเหลืองให้กลายเป็นสีส้มอันเอื้อต่อการทำธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ประกอบกับระดับความนิยมอยู่อาศัยย่านนี้ได้เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง อาจเป็นผลมาจากบริเวณดังกล่าวเป็นสถานที่ตั้งของโรงงาน รวมถึงนิคมอุตสาหกรรมสินสาคร จึงส่งผลให้จากเดิมเลือกเช่าอพาร์ทเมนท์ใกล้แหล่งงาน กลับกลายเป็นจับจองบ้านแทน ทั้งนี้อาจเป็นเพราะต้องการขยายฐานครอบครัว ซึ่งสอดคล้องกับซัพพลายในย่านดังกล่าวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง และถ้าหากมีการแบ่งกลุ่มอสังหาฯ ตามโซนของพระราม 2 สามารถแบ่งได้ดังนี้
– ช่วงต้นของพระราม 2
จุดเชื่อมต่อบริเวณถนนสุขสวัสดิ์ เรื่อยมาถึงวงแหวนรอบนอกตะวันตก บริเวณดังกล่าวทั้งฝั่งมุ่งหน้าไปจังหวัดสมุทรสาคร หรือเข้ากรุงเทพฯ ต่างรายล้อมไปด้วยโครงการแนวราบทั้งทาวน์โฮม 2-3 ชั้น และบ้านเดี่ยวที่อยู่ในระดับราคา 3 – 8 ล้านบาท โดยสาเหตุหลักที่บรรดาโครงการอสังหาฯ ต่างพากันผุดขึ้นอย่างต่อเนื่องนั่นคือ ปัจจัยการเปลี่ยนสีผังเมืองเป็นสีส้มนั่นเอง
– ช่วงกลางของพระราม 2
เริ่มจากบริเวณวงแวนรอบนอกตะวันตก เรื่อยมาถึงวัดพันท้ายนรสิงห์ ระยะทางช่วงนี้เป็นเขตผังเมืองสีเขียวเส้นทะแยง อันหมายถึงบริเวณดังกล่าวนั้นเป็นพื้นที่ใช้ประโยชน์เกษตรกรรม หรือเป็นที่ตั้งของสถานที่ราชการ เป็นต้น โดยบริเวณนี้มักพบโครงการบ้านเดี่ยว มากด้วยเนื้อที่ 100 ตร.ว. ขึ้นไป
– ช่วงปลายของพระราม 2
นับตั้งแต่ช่วงต่อของพระราม 2 มาจนถึงฝั่งสมุทรสาคร บริเวณดังกล่าวจะพบโรงงานค่อนข้างมาก อีกทั้งยังเป็นที่ตั้งของนิคมอุตสาหกรรมสินสาคร รวมถึงโรงแช่แข็งรายใหญ่ ย่านนี้มักเป็นแหล่งที่อยู่อาศัยของกลุ่มคนกระเป๋าหนัก
ที่ตั้งโครงการ
สำหรับ ศุภาลัย พรีโม่ พระราม 2 ถือว่าตั้งอยู่ในช่วงต้นของพระราม 2 จุดเด่นของย่านนี้คือ นอกจากจะอยู่ใกล้จุดขึ้นทางพิเศษเฉลิมมหานครแล้ว บริเวณดังกล่าวยังรายล้อมไปด้วยแหล่งไลฟ์สไตล์ ที่ผุดขึ้นเพื่อสร้างศักยภาพให้ทำเลพระราม 2 ทั้งคอมมูนิตี้มอลล์ ห้างสรรพสินค้ารีเทล และเซ็นทรัล พระราม 2 จึงทำให้ค่อนข้างสะดวกสบายในการจับจ่ายใช้สอย อีกทั้งหากเดินทางไปทำงาน หรือกิจธุระต่างๆ ในเมือง โดยเฉพาะโซนสาทร หรือพระราม 3 ค่อนข้างสะดวก เนื่องจากเส้นสายของถนนพระราม 2 นั้นเชื่อมต่อหลายเส้นทาง ไม่ว่าจะเป็น ถนนสมเด็จพระเจ้าตากสิน (มุ่งหน้าสู่พระราม 3 เจริญกรุง สาทร รัชดาภิเษก) ถนนสุขสวัสดิ์ ถนนกัลปพฤกษ์ เป็นต้น
การเดินทาง
แม้ทำเลที่ตั้งของโครงการ จะตั้งอยู่โซนชานเมืองฝั่งตะวันตกของกรุงเทพฯ ซึ่งหลายคนอาจเข้าใจว่าเป็นทำเลไกลเมือง เดินทางไปทำกิจธุระต่างๆ ได้ลำบาก แต่ในทางกลับกันสามารถเข้าใจกลางเมืองได้ง่ายกว่าที่คิด แม้ว่าจะต้องเผชิญปัญหารถติดในชั่วโมงเร่งด่วน เนื่องจากมีประชากรผู้อยู่อาศัยค่อนข้างมากในบริเวณดังกล่าว โดยสามารถแก้ปัญหาได้โดยการใช้เส้นทางลัดออกถนนพระราม 2 ซอย 30 ได้ ซึ่งห่างจากจุดทางด่วนพิเศษเฉลิมมหานครเพียง 1.6 กม. ช่วยย่นระยะทางไปถึง 1.2 กม. เลยทีเดียว
รถยนต์
ภาพจาก Google Maps หากเริ่มต้นเส้นทางจากทางพิเศษเฉลิมมหานคร สู่ที่ตั้งโครงการศุภาลัย พรีโม่ พระราม 2
ทางเลือกที่ 1 สำหรับผู้ที่อยู่ใจกลางเมือง ให้ใช้ทางด่วนพิเศษเฉลิมมหานคร มาทางฝั่งพระราม 3 ถนนสุขสวัสดิ์ โดยข้าม สะพานแขวน แล้วมุ่งหน้าไปตามเส้นทางที่จะไปจังหวัดสมุทรสาคร เมื่อสุดทางด่วนให้ขับตรงมาเรื่อยๆ ประมาณ 5 กม. จากนั้นให้ใช้สะพานกลับรถเซ็นทรัลพระราม 2 มาฝั่งห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัล แล้วตรงไปประมาณ 1.5 กม. จะเจอป้ายถนนพระราม 2 ซอย 44 เมื่อเลี้ยวเข้าไปในซอย จะพบป้ายบอกทางไปโครงการเป็นระยะ ตรงไปเรื่อยๆ ประมาณ 1 กม. จะพบเซเว่น อีเลฟเว่นอยู่ซ้ายมือ จากนั้นให้เลี้ยวขวา แล้วตรงมาประมาณ 300 เมตร จะพบโครงการอยู่ขวามือ
ภาพจาก Google Maps หากเริ่มต้นเส้นทางจากถนนสายธนบุรี-ปากท่อ สู่ที่ตั้งโครงการศุภาลัย พรีโม่ พระราม 2
ทางเลือกที่ 2 สำหรับกลุ่มที่อยู่ในละแวกนี้ เส้นทางสะดวกสุด คือให้ยึดเส้นทางถนนสายธุนบุรี-ปากท่อ โดยให้สังเกตเซ็นทรัล พระราม 2 อยู่ซ้ายมือ จากนั้นตรงไปประมาณ 1.5 กม. จะเจอป้ายถนนพระราม 2 ซอย 44 เลี้ยวเข้าไปในซอยประมาณ 1 กม. จะพบเซเว่น อีเลฟเว่นอยู่ซ้ายมือ จากนั้นให้เลี้ยวขวา ตรงมาประมาณ 300 เมตร จะพบโครงการอยู่ขวามือ
เมื่อเลี้ยวขวามาได้ประมาณ 300 เมตร จะพบที่ตั้งโครงการอยู่ขวามือ แต่หากตรงไป ซอยนี้จะเป็นทางลัดออกซอย 30 ซึ่งใกล้จุดขึ้น-ลง ทางพิเศษเฉลิมมหานคร
รถไฟฟ้าในอนาคต (สายสีแดงเข้ม)
ในอนาคตตามนโยบายการขยายเส้นทางให้บริการรถไฟฟ้าในกรุงเทพฯ ให้ครอบคลุมนั้น สำหรับย่านพระราม 2 ถือว่าเป็นอีกหนึ่งพื้นที่ตั้งอยู่บริเวณรถไฟฟ้าอนาคต (สายสีแดงเข้ม) โดยเริ่มจากสถานี รวมระยะทางกว่า 114.3 กม. รวม กว่า 38 สถานี ซึ่งหากโครงการผ่านการอนุมัติก่อสร้าง พร้อมเปิดให้บริการ จะสร้างความสะดวกสบายในการเดินทางเข้า-ออกเมือง และช่วยแก้ปัญหาการจราจรหนาแน่นเวลาชั่วโมงเร่งด่วนได้อีกระดับ
สถานที่ไลฟ์สไตล์
ปัจจุบัน “พระราม 2” เปรียบเสมือนประตูสู่ภาคตะวันตกและใต้ของประเทศ จึงส่งผลให้การเติบโตด้านคมนาคมนั้นมีการขยับขยายถนนและเส้นทางให้เชื่อมต่อกับส่วนต่างๆ ของกรุงเทพฯ อย่างรวดเร็ว ประกอบกับยังเกิดแหล่งไลฟ์สไตล์ใหม่ๆ เกิดขึ้น ทั้งคอมมูนิตี้มอลล์ และห้างสรรพสินค้ายักษ์ใหญ่เครือจิราธิวัฒน์ อย่าง เซ็นทรัล พลาซ่า พระราม 2 (ห่างจากโครงการประมาณ 3.1 กม.) อันก่อเกิดขึ้นจากความต้องการให้เป็นจุดแวะพักการเดินทางอย่างสมบูรณ์แบบ ภายในต่างอัดแน่นไปด้วยร้านอาหารครบครัน มีทั้งรองรับกลุ่มครอบครัว หรือแฮงค์เอาท์ในหมู่เพื่อนฝูง ประกอบกับยังออกแบบพื้นที่จอดรถไว้อย่างกว้างขวาง เพื่อรองรับคณะผู้เดินทางอันมุ่งหน้าเข้ากรุงเทพฯ ทั้งแบบส่วนตัว สาธารณะ และเป็นกรุ๊ปทัวร์ ทั้งนี้ในระยะไม่กี่กิโลเมตรจากห้างสรรพสินค้าแห่งนี้ ยังรายล้อมไปด้วยคอมมูนิตี้มอลล์มากมาย ทั้งเดอะไบร์ท (ห่างจากโครงการประมาณ 5.2 กม.) ที่ถูกเครมจากผู้บริหารบริษัท แลมป์ตั้น พร็อพเพอร์ตี้ แล้วว่าเป็นซิตี้ไลฟ์มอลล์ อันเต็มเปี่ยมไปด้วยความทันสมัยที่ไม่แตกต่างจากในเมือง รวมถึงร้านค้าตอบโจทย์กลุ่มคนรุ่นใหม่ ที่อาศัยอยู่ในย่านพระราม 2 แห่งนี้ แล้วถ้าหากขับออกไปทางตอนปลายของพระราม 2 บริเวณดังกล่าวเป็นที่ตั้งของ Porto Chino (ห่างจากโครงการประมาณ 20 กม.) คอมมูนิตี้มอลล์ที่พยายามสร้างสรรค์การตกแต่งบรรยากาศโดยรอบให้คล้ายเป็นท่าเรือ ซึ่งเป็นกลิ่นไอของย่านนี้ โดยปรียบเสมือนเป็นประตูสู่ภูมิภาคทางตอนใต้ของประเทศ ยังไม่นับรวมร้านค้า ร้านอาหารมากมาย ที่ต่างปักหมุดตลอด 2 ฝั่งข้างทางของถนนเส้นนี้ จึงส่งผลให้ผู้อยู่อาศัยค่อนข้างสะดวกสบายในการจับจ่ายใช้สอย หรือแฮงค์เอาท์ในวันหยุดสุดสัปดาห์ โดยไม่ต้องเดินทางเข้าเมือง เผชิญการจราจรหนาแน่นให้เสียเวลา
สถานที่สำคัญรอบโครงการ
ห้างสรรพสินค้า
เซ็นทรัล พลาซ่า พระราม 2 (ห่างจากโครงการประมาณ 3.1 กม.)
บิ๊กซี สาขาพระราม 2 (ห่างจากโครงการประมาณ 3.8 กม.)
สถานศึกษา
โรงเรียนสวนกุหลาบ ธนบุรี (ห่างจากโครงการประมาณ 10 กม.)
มหาวิทยาลัยพระจอมเกล้า ธนบุรี (ห่างจากโครงการประมาณ 14.5 กม.)
โรงพยาบาล
โรงพยาบาลนครธน (ห่างจากโครงการประมาณ 3.8 กม.)
โรงพยาบาลบางมด (ห่างจากโครงการประมาณ 5.8 กม.)
โรงพยาบาลบางปะกอก 9 อินเตอร์ (ห่างจากโครงการประมาณ 10 กม.)
บทวิเคราะห์
วิเคราะห์อัตราผลตอบแทนที่จะได้รับ
แม้ว่าช่วงปลายปีจะเกิดการชะลอตัวในด้านกำลังซื้อของกลุ่มผู้อยู่อาศัยทั้งระดับล่าง-กลาง อันเนื่องจากภาวะเศรษฐกิจของประเทศรวมถึงปัจจัยการปล่อยสินเชื่อของธนาคาร แต่ถึงกระนั้นด้วยอานิสงส์ของการขยายความเจริญจากโซนในเมืองอย่างสาทร หรือพระราม 3 ศูนย์กลางด้านธุรกิจ จึงส่งผลให้เกิดการลงทุนอสังหาฯ ในพระราม 2 อย่างมาก โดยเฉพาะโครงการประเภททาวน์โฮม อันเป็นผลจากกลุ่มผู้อยู่อาศัยที่กำลังสร้างครอบครัวหรือขยับขยายฐานะ เริ่มให้ความสนใจกับบ้านที่ตอบโจทย์ความต้องการทั้งพื้นที่ใช้สอย เดินทางสะดวก ใกล้เมือง ในราคาไม่สูง โดยมีทั้งรูปแบบซื้อเพื่ออยู่อาศัยเองซึ่งเป็นส่วนใหญ่ หรือปล่อยเช่าระยะยาวกลุ่มคนทำงานในพื้นที่ โดยราคาปล่อยเช่าสำหรับทาวน์โฮม 3 ชั้นต่อเดือนจะอยู่ที่ 15,000 – 20,000 บาท ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับศักยภาพทำเลที่ตั้งของโครงการนั้นๆ ด้วย
เปรียบเทียบกับโครงการอื่น
โครงการ | ยูนิต | พื้นที่ใช้สอย(ตร.ม.) | ราคาขาย(ล้านบาท) |
พาทิโอ รามา 2 | 286 | 155 | 3.49 |
วิวาเรี่ยม พระราม 2 – พุทธบูชา 36 | 76 | 180 | 3.5 |
Patio Rama 2
Patio Rama 2 ภาพ via patio.pruksa.com
ชื่อโครงการ: พาทิโอ รามา 2
ผู้พัฒนาโครงการ: บริษัท พฤกษา เรียลเอสเตท จำกัด (มหาชน)
ทำเลที่ตั้ง: พระราม 2 ซอย 33 ถนนพระราม 2 แขวงบางมด เขตจอมทอง กทม.
เว็บไซต์: patio.pruksa.com
รายละเอียดโครงการ
พื้นที่โครงการ: 25 ไร่ 1 งาน 57 ตร.ว.
พื้นที่ใช้สอย: 155 ตร.ม.
รูปแบบ: ทาวน์โฮม 3 ชั้น 3 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ รวม 286 ยูนิต
ราคาขายปัจจุบันเริ่มต้น: 3.49 ล้านบาท / ยูนิต
Vivarium Rama 2 – Phutabucha 36
Vivarium Rama 2 Phutabucha 36 ภาพ via vivariumtownhome.com
ชื่อโครงการ: วิวาเรี่ยม พระราม 2 – พุทธบูชา 36
ผู้พัฒนาโครงการ: บริษัท โฮมทาวน์ พรอพเพอร์ตี้ จำกัด
ทำเลที่ตั้ง: ถนนพุทธบูชา แขวงบางมด เขตทุ่งครุ กทม.
เว็บไซต์: vivariumtownhome.com
รายละเอียดโครงการ
พื้นที่โครงการ: 6 ไร่ 2 งาน 75 ตร.ว.
พื้นที่ใช้สอย: 180 ตร.ม.
รูปแบบ: ทาวน์โฮม 3 ชั้น 3 ห้องนอน 4 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ รวม 76 ยูนิต
ราคาขายปัจจุบันเริ่มต้น: 3.5 ล้านบาท / ยูนิต
สรุป
บทสรุป
ในอดีตเมื่อเอ่ยถึงโครงการบ้านย่านพระราม 2 สิ่งแรกที่หลายคนนึกถึงคือ ความไกลเมือง และสภาพจราจรอันหนาแน่นตลอดวัน อันเป็นเหตุมาจากการขยายถนนช่วงธนบุรี-ปากท่อ แต่แล้ววันเวลาผ่านไป โปรเจกต์ขยับขยายเส้นทางทั้งขยายถนน วงแหวนรอบนอกตะวันตก รวมถึงโครงการรถไฟฟ้าในอนาคตสายสีแดง อันช่วยให้เชื่อมต่อกับส่วนต่างๆ ของกรุงเทพฯ ไม่ว่าจะเป็น สาทร พระราม 3 รัชดาภิเษก สุขสวัสดิ์ หรือแม้แต่ทางฝั่งตะวันออก จึงทำให้ลบภาพการเดินทางเข้าเมืองที่ไม่สะดวกสบายไปได้โดยปริยาย ส่งผลให้ระดับความนิยมการอยู่อาศัยในย่านดังกล่าวเพิ่มมากขี้น และส่วนใหญ่มักเลือกทำเลใกล้ทางด่วน หรือห้างสรรพสินค้า ซึ่งโครงการศุภาลัย พรีโม่ พระราม 2 ถือได้ว่าเป็นอีกหนึ่งโครงการที่มีทำเลที่ตั้งตรงกับความต้องการของผู้อยู่อาศัย ถึงแม้ว่าจะเข้าไปในซอย 44 ค่อนข้างลึกก็ตาม
ข้อดีของความลึกในทำเลที่ตั้งโครงการศุภาลัย พรีโม่ พระราม 2 นั่นได้เปรียบในด้านระยะห่างค่อนข้างไกลจากถนนใหญ่ ซึ่งมักมีรถบรรทุกใช้เส้นทางดังกล่าวเป็นประตูสู่จังหวัดต่างๆ ทางภาคตะวันตกและใต้ของประเทศ ส่งผลให้คนที่อยู่อาศัยไม่ต้องเผชิญกับภาวะเสียงดัง ทำให้ได้ความเป็นส่วนตัว ประกอบกับปัจจัยด้านการออกแบบโครงการที่มีจำนวนยูนิตค่อนข้างน้อย
นอกจากนี้ในด้านฟังค์ชันของตัวทาวน์โฮม เจ้าของโปรเจคพยายามสร้างจุดสนใจและความแตกต่างจากโครงการอื่น ด้วยแนวคิดประหยัดพลังงาน ถึงแม้จะไปออกตัวมากนัก แต่สามารถสังเกตได้ว่าวัสดุที่ใช้มักคำนึงการช่วยบ้านเย็นเป็นหลัก รวมถึงเพิ่มพื้นที่ของครัวปิด ห้องอเนกประสงค์ ห้องนอนขนาดใหญ่ พร้อมระเบียงกว้าง มาทำให้เป็นจุดขายของโครงการ