สนใจ คอนโดฯ ในโครงการนี้? เลือกชม รายการประกาศ ราคาโดนใจ
ด้วยความหนาแน่นและพื้นที่ใจกลางเมืองที่จะนำมาพัฒนากำลังหมดไปทำให้ บริษัท ศุภาลัย จำกัด (มหาชน) ให้ความสนใจในการเข้าไปพัฒนาที่ดินย่านทำเลถนนพระราม 9 และเป็นเส้นทางรถไฟฟ้า MRT สายสีส้ม เนื่องจากเป็นเส้นทางที่เชื่อมกรุงเทพฯ ตะวันออก และกรุงเทพฯ ตะวันตก ที่สามารถเดินทางเข้าสู่ใจกลางเมืองธุรกิจ ด้วยระบบรถไฟฟ้า และอื่นๆ อีกมากมาย ทำให้ศักยภาพของทำเลบริเวณนี้จึงเหมาะกับการลงทุนพัฒนาโครงการคอนโดมิเนียมโครงการใหม่ล่าสุดอย่าง “ศุภาลัย เวอเรนด้า พระราม 9” คอนโดมิเนียมไฮไรส์ 1 อาคาร 2 ทาวเวอร์ สูง 31 ชั้น จำนวน 1,410 ยูนิต และมีร้านค้า 14 ยูนิต บนพื้นที่ขนาดใหญ่กว่า 12 ไร่ มูลค่า 4,000 ล้านบาท 350 เมตร จากรถไฟฟ้า MRT สายสีส้ม สถานี รฟม. (สายอนาคต) ในราคาเริ่มต้น 1.85 ล้านบาท หรือราคาเฉลี่ย: 61,700 บาท/ตร.ม.
ชื่อโครงการ: ศุภาลัย เวอร์เรนด้า พระราม 9 (Supalai Veranda Rama 9)
ผู้พัฒนาโครงการ: บริษัท ศุภาลัย จำกัด (มหาชน)
ทำเลที่ตั้ง: ถนนพระราม 9 แขวงบางกะปิ เขตห้วยขวาง กรุงเทพ
เว็บไซต์: www.supalai.com
โทร: 1720 กด 90
พื้นที่โครงการ: 12-3-66.9 ไร่
ลักษณะโครงการ: คอนโดมิเนียมไฮไรส์ 1 อาคาร 2 ทาวเวอร์ สูง 31 ชั้น จำนวน 1,410 ยูนิต และมีร้านค้า 14 ยูนิต
สถานะการก่อสร้าง: เริ่มสร้างต้นปี 2560 คาดว่าจะสร้างแล้วเสร็จ ปลายปี 2562
ที่จอดรถ: ประมาณ 70 % ไม่รวมจอดซ้อนคัน
สิ่งอำนวยความสะดวก: Swimming Pool, Kid’s Pool, Fitness & Yoga, Roof Garden, Library, Meeting Room, Sky Lounge
ระบบรักษาความปลอดภัย: Access Card Control กล้อง CCTV ระบบป้องกันอัคคีภัย Smoke & Heat Detector Fire Alarm และเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยตลอด 24 ชม.
สถานะการขาย: Pre Sale วันที่ 26 ต.ค. – 1 พ.ย. 59
เงื่อนไขการชำระเงิน: จอง 10,000 – 20,000 บาท ทำสัญญา 69,000 – 259,000 บาท ดาวน์ 32 งวด 6,900 – 25,900 บาท
เงินกองทุนสะสม: 350 บาท/ตร.ม. ชำระครั้งเดียว ณ วันโอน
ค่าส่วนกลาง: 35 บาท/ตร.ม./เดือน ชำระล่วงหน้า 1 ปี ณ วันโอน
ค่าทำเนียมการโอนกรรมสิทธิ์: แบ่งชำระกันคนละครึ่ง
ราคาเริ่มต้น: 1.85 ล้านบาท
ราคาเฉลี่ย: 61,700 บาท/ตร.ม.
*โปรโมชั่น ส่วนลด+เฟอร์นิเจอร์* + ส่วนลดพิเศษ 160,000 – 300,000 บาท (เฉพาะยูนิตที่บริษัทกำหนด)
รูปแบบห้อง
สตูดิโอ ขนาดพื้นที่ใช้สอยเริ่มต้น 30 ตร.ม.
1 ห้องนอน ขนาดพื้นที่ใช้สอย 37.5 – 43 ตร.ม.
2 ห้องนอน ขนาดพื้นที่ใช้สอย 57.5 – 65.5 ตร.ม.
3 ห้องนอน ขนาดพื้นที่ใช้สอย 112 ตร.ม.
“ศุภาลัย เวอเรนด้า พระราม 9” คอนโดมิเนียมใหม่ล่าสุดของ “ศุภาลัย” บนพื้นที่ขนาดใหญ่กว่า 12 ไร่ มูลค่าโครงการประมาณ 4,000 ล้านบาท โดยเป็นอาคารสูง 31 ชั้น 1 อาคาร 2 ทาวเวอร์ ห้องชุดพักอาศัย 1,410 ยูนิต ร้านค้า 14 ยูนิต มีขนาดพื้นที่ใช้สอยตั้งแต่ห้องสตูดิโอขนาด 30 ตารางเมตร ราคาเริ่มต้น 1.85 ล้านบาท มีสัดส่วน 15% สำหรับขนาด 1 ห้องนอน พื้นที่ 37.5-43 ตารางเมตร ราคาขาย 2.22 ล้านบาท มีสัดส่วน 71% สำหรับขนาด 2 ห้องนอน พื้นที่ 57.5-65.5 ตารางเมตร ราคาขาย 3.42 ล้านบาท สัดส่วน 13% สำหรับขนาด 3 ห้องนอน พื้นที่ 109.5 – 112 ตารางเมตร ราคาขาย 8.09 ล้านบาทขึ้นไป และสัดส่วน 1% จะเป็นอาคารประหยัดพลังงานที่มาพร้อมความสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน ปัจจุบันผ่าน EIA แล้ว ทั้งนี้คาดว่าการก่อสร้างจะแล้วเสร็จในปี 2562
การออกแบบตัวอาคารยังคงเน้นเอกลักษณ์อาคารประหยัดพลังงาน และจัดวางผังให้เป็นอาคารรูปตัว U โดยตึกถูกแบ่งเป็น 2 ทาวเวอร์ โดยมีทางเดินเชื่อมทาวเวอร์ทั้ง 2 เป็นพื้นที่สวนหย่อม และช่วยลดความร้อนจากแสงแดดยามบ่าย เพิ่มร่มเงาให้พื้นที่ส่วนกลาง และเพิ่มพื้นที่เปิดโล่งกว่า 78% ตลอดจนใช้กระจกสีเขียวตัดแสงเพื่อลดความร้อนจากภายนอกเข้าสู่ตัวอาคาร รวมทั้งห้องพักเน้นให้พื้นที่ใช้สอยโปร่งกว้าง รับทิศทางลม และแสงแดดจากธรรมชาติ
พื้นที่สีเขียวรวมกว่า 4 ไร่ สวนส่วนกลางรวมกว่า 1 ไร่ ไม่ว่าจะเป็น Pocket Garden และ Roof Garden Lobby พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ อย่างห้อง Laundry Meeting Room Library สระว่ายน้ำยาวกว่า 50 เมตร โดยแบ่งการใช้งานเป็นสระเด็ก ยาว 6.30 เมตร พื้นที่พักผ่อน pool-beds ยาว 6.15 เมตร สระผู้ใหญ่ยาว 40 เมตร ห้อง Fitness & Yoga Sauna Game Room Sky Lounge ร้านค้า และ Seven – Eleven มั่นใจด้วยระบบความปลอดภัย ประกอบไปด้วยกล้อง CCTV ระบบป้องกันอัคคีภัย Smoke & Heat Detector Fire Alarm เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยตลอด 24 ชม. และที่จอดรถกว่า 70 % (ไม่รวมจอดซ้อนคัน)
ทิศทางรอบโครงการ
ทิศเหนือ: เป็นพื้นที่เปล่าขนาดใหญ่
ทิศใต้: หันไปทางถนนพระราม 9 และ ทางพิเศษศรีรัช ซึ่งเป็นด้านทางเข้าโครงการ
ทิศตะวันออก: หันไปทางอาคาร เค พี เอ็น ทาวเวอร์
ทิศตะวันตก: จะเป็นฝั่งของสระว่ายน้ำ ซึ่งหันไปยังแยกพระราม 9
Master Plan & Floor Plan
Layout ของ Master plan
ชั้น 1 จะประกอบไปด้วยโถงล็อบบี้ขนาดใหญ่ และร้านค้า ร้านสะดวกซื้อกว่า 14 ร้าน
Layout ของ Master pool ชั้น 6
ผังโครงการชั้น 6 ตัวอาคารเป็นรูปตัว U โอบล้อม Facilities ที่ประกอบด้วยสวนและสระว่ายน้ำ กว่า 50 เมตร โดยแบ่งการใช้งานเป็นสระเด็ก ยาว 6.30 เมตร พื้นที่พักผ่อน pool-beds ยาว 6.15 เมตร สระผู้ใหญ่ยาว 40 เมตร
ชั้น 6 เป็นชั้นของพื้นที่ส่วนกลางที่รวบรมสิ่งอำนวยตวามสะดวกหลักๆ ไว้ที่ชั้นนี้
ผังอาคารชั้น 7, 10, 12, 14, 16, 18, 20, 22, 24, 26 และชั้น 28 – 30 จะเป็นห้องพักอาศัยทั้งหมด โดยตัวอาคารจะแยกออกเป็น 2 ตึก โถงทางเดินเป็น Double Corridor
ผังอาคารชั้น 11, 15, 19, 23, 27 เป็นชั้นพักอาศัยที่มีทางเชื่อมอาคารระหว่าง 2 ตึก ซึ่งเป็น Pocket Garden
Pocket Garden ตามชั้นต่างๆ
ผังชั้น 31 เป็นส่วนของห้องพักอาศัย, สวนลอยฟ้า ซึ่งผู้ที่อยู่ชั้นนี้สามารถเดิมมาพักผ่อนหรือไว้ชื่นชมความงามของวิวเมืองยังพื้นที่นี้ได้อีกด้วย
ปิดท้ายด้วยชั้น 31 ที่มีทั้ง สวนลอยฟ้า และ สกายเลาจน์
อาคารวางผังให้เป็นรูปตัว U เพื่อโอบล้อมพื้นที่สีเขียวภายในโครงการ และสอดแทรกพื้นที่สีเขียวบนอาคาร เพื่อสร้างสภาพแวดล้อมให้แก่ผู้อยู่อาศัย
โครงการมีพื้นที่สีเขียว รวมกว่า 4 ไร่ และพื้นที่เปิดโล่งกว่า 78%
ภาพจำลอง Lobby ของโครงการ
ภาพจำลองสระว่ายน้ำของโครงการ
ภาพจำลองห้อง Fitness
ภาพจำลอง Lobby ของโครงการ
Unit Layout
สัดส่วนห้องภายในโครงการ
ห้องสตูดิโอขนาด 30 ตารางเมตร ราคาเริ่มต้น 1.85 ล้านบาทมีสัดส่วน 15%
ขนาด 1 ห้องนอน พื้นที่ 37.5-43 ตารางเมตร ราคาขาย 2.22 ล้านบาท มีสัดส่วน 71%
ขนาด 2 ห้องนอน พื้นที่ 57.5-65.5 ตารางเมตร ราคาขาย 3.42 ล้านบาท สัดส่วน 13%
ขนาด 3 ห้องนอน พื้นที่ 109.5 – 112 ตารางเมตร ราคาขาย 8.09 ล้านบาทขึ้นไป สัดส่วน 1%
ผังห้อง Studio แบบ Veranda Suite ขนาด 30 ตารางเมตร
ผังห้องนั่งเล่นของแบบ 1 Bedroom ประเภท Executive suite (c) ขนาด 41.5 ตารางเมตร
ผังห้องนอนของแบบ 1 Bedroom ประเภท Executive suite (c) ขนาด 41.5 ตารางเมตร
ผังห้องนั่งเล่น ของแบบ 2 Bedroom ประเภท Family Suite ขนาด 65.5 ตารางเมตร
ผังห้องนอนใหญ่ของ แบบ 2 Bedroom ประเภท Family Suite ขนาด 65.5 ตารางเมตร
ผังห้องนอนเล็กของแบบ 2 Bedroom ประเภท Family Suite ขนาด 65.5 ตารางเมตร
ผังห้อง Studio แบบ Veranda Suite ขนาด 30 ตารางเมตร
ห้องของโครงการจะมาพร้อมเครื่องปรับอากาศ วอลเปเปอร์ ชุดเฟอร์นิเจอร์ครัว เครื่องทำน้ำอุ่น และฉากกั้นอาบน้ำแบบกระจกนิรภัย เรามีสิทธิเลือกว่าจะเอาเฟอร์นิเจอร์ครบชุด + ส่วนลดพิเศษ หรือ ส่วนลด พิเศษ 2 เท่า ประมาณ 160,000 – 300,000 บาทแทนชุดเฟอร์นิเจอร์
ห้องตัวอย่าง Studio แบบ Veranda Suite ขนาด 30 ตารางเมตร เข้ามาในห้องฝั่งซ้ายจะเป็นส่วนครัว ประตูห้องน้ำฝั่งขวาจะเป็นประตูห้องน้ำ ต่อไปยังส่วนห้องนั่งเล่น และห้องนอนที่อยู่ติดระเบียง
พื้นที่ห้องครัวกว้าง 2.30 x 2.40 ม. พื้นเป็นกระเบื้องเซรามิกขนาด 30 x 30 ซม. ทำให้เวลาทำอาหารหรือเท้าเปียกน้ำจากห้องน้ำมาก็ไม่มีปัญหาเช็ดทำความสะอาดได้ง่าย
หน้ากว้างห้องนี้ ประมาณ 3.80 ม.ไฟติดเพดานส่วนครัวเป็นโคมซาลาเปา ส่วนห้องนอนเป็นโคมซาลาเปา เพดานห้องสูง 2.6 เมตร
ชุดครัวเป็นแบบบิวท์อินด้านบนมีชั้นเก็บของพร้อมหน้าบานมาให้ตามที่เห็น
เคาร์เตอร์ครัวท็อปด้วยเมลามีนลายหินสีดำไม่มีเตาไฟฟ้าหรือเครื่องดูดควันมาให้ผนังหลังเคาน์เตอร์ครัวเป็นกระเบื้องมาให้เช็ดล้างทำความสะอาดได้ง่าย
ประตูด้านขวามือที่เห็นเป็นประตูห้องน้ำ ธรณีประตูเป็นแกรนิตผนังติดวอลเปเปอร์ ตามแบบมาตรฐานของโครงการ
พื้นที่ภายในห้องน้ำขนาด 1.5 x 2.4 ม. มีการแยกส่วนเปียกแห้งอย่างชัดเจน มีฉากกันอาบน้ำเป็นกระจกนิรภัย
สุขภัณฑ์ และ อ่างล้านหน้าเป็นของ Cotto
ผนังห้องน้ำปูกระเบื้องมาให้จนจรดเพดาน ที่เพดานติดไฟดาวน์ไลท์มาให้ พร้อมพัดลมดูดอากาศ และเครื่องทำน้ำอุ่นก็ให้มาเช่นกัน
ภายในห้องอาบน้ำขนาด 1×1.5 ม. สามารถเข้าไปอาบ 2 คนพร้อมกันได้ พื้นห้องน้ำเป็นกระเบื้องเซรามิกแบบผิวด้านสีน้ำตาลอ่อนขนาด 30 x 30 ซม.
ฉากกั้นอาบน้ำกระจกนิระภัยเป็นแบบบานเลื่อน เปิดปิดได้ 1 บาน
เนื่องจากห้องนี้เป็นห้องสตูดิโอ ส่วนของห้องนั่งเล่นจะถูกรวมกับห้องนอนไปในตัวเลย
ห้องนอนขนาด 3.8 x 5 ม. พื้นห้องนอนจะเป็นไม้ลามิเนต 8 มม. ไฟติดเพดานส่วนห้องนอนเป็นโคมซาลาเปา เช่นกัน
ห้องนั่งเล่นกับห้องนอนจะอยู่รวมกัน โซฟาจะอยู่ข้างๆ กับเตียง ตู้ข้างเตียงขนาด 40 x 40 x 40 ซม. ขั้นกลาง
โซฟาแบบบิวท์อิน เป็นเบาะผ้าแบบ 2 ที่นั่ง บอดี้เป็น เมลามีนสี Light Grey พร้อมหมอนอิง 2 ใบ และโต๊ะกลางขาเหล็กดำ ตามภาพ
ชั้นวางทีวีปลายเตียง ขนาบด้วยตู้เสื้อผ้าและโต๊ะทำงาน
ภาพมุมบนทำให้เห็นสัดส่วนของพื้นที่ทางเดินรอบเตียงถึงแม้ห้องนั่งเล่นจะรวมกันกับห้องนอน แต่ก็ไม่ได้ทำให้ดูอึดอัดแต่อย่างใด
อีกฝากเป็นโซฟาเบดแบบบิวท์อินมีที่เก็บของใต้ที่นั่งขนาด 190 x 60 x 40 ซม. ที่นั่งเป็นเบาะผ้า บอดี้เป็น เมลามีนสี Light Grey
พื้นที่จากปลายเตียงถึงผนังประมาณ 1.65 ม. แต่ถ้าถึงชั้นวางทีวีก็จะมีทางเดินปลายเตียงประมาณ 1.15 ม. โดยประมาณ
ด้านซ้ายมือ จะประกอบไปด้วยตู้เสื้อผ้า ชั้นวางทีวี และโต๊ะทำงาน ที่ทางโครงการจัดมาให้แบบนี้เลย ยกเว้นของตกแต่ง และทีวี เท่านั้น ต่อกันยาวไปถึงระเบียง
เตียงเป็นแบบบิวท์อินพร้อมที่เก็บของปลายเตียง และที่นอนสปริงขนาด 5 ฟุต
มีพื้นที่ข้างเตียงบริเวณโซฟาเบด ประมาณ 0.5 ม.
ด้วยความที่เป็นโซฟาเบดแบบบิวท์อินทำให้มีการออกแบบให้มีช่องเก็บของตามที่เห็นในภาพ ซึ่งห้องจริงจะได้อย่างนี้เลย
ห้องจริงจะไม่มีที่เก็บของแบบลอยตัวมาให้ มีให้แค่ชั้นวางทีวีโต๊ะทำงาน เก้าอีก และการที่จัดวางแบบนี้ก็เพื่อให้แสงจากระเบียงเข้ามาช่วยนั่นเอง
พื้นที่ฝั่งปลายเตียง หรือฝั่งซ้ายมือของทางเข้านั้นจะถูกบิวท์อินเป็นพื้นที่ผนังฝั่งซ้าย เพื่อให้การใช้งานเป็นสัดส่วน และง่ายต่อการออกแบบนั่นเอง
หน้าต่างบริเวณเตียงเป็นแบบกระจกบานกระทุ้ง
ประตูระหว่างห้องกับระเบียงเป็นกระจกบานเลื่อนแบบ 2 ตอน มีการยกขอบ 10 ซม. ระเบียงกว้างประมาณ 1.2 x 1.65 เมตร
ผังห้อง 1 Bedroom แบบ Executive suite (c) ขนาด 41.5 ตารางเมตร
ห้องตัวอย่าง 1 Bedroom แบบ Executive suite (c) ขนาด 41.5 ตารางเมตร โดยห้องนี้จะแบ่งเป็น 3 ส่วน หลักๆ ได้แก่ เข้าไปจะเป็นห้องนั่งเล่น ส่วนด้านหลังฝั่งซ้ายจะเป็นห้องครัว และฝั่งขวาจะเป็นห้องนอนซึ่งมีห้องน้ำในตัว
เข้ามาภายในห้องฝั่งซ้ายมือของทางเข้าจะเป็นโซฟา และโต๊ะ ส่วนขวามือจะเป็นส่วนของชั้นวางทีวี ไฟติดเพดานเป็นโคมซาลาเปา เพดานห้องสูง 2.6 เมตร ผนังห้องติดวอลเปเปอร์ ตามแบบมาตาฐานของโครงการ
ฝั่งขวาชั้นวางทีวีถ้าเลือกแบบเอาเฟอร์นิเจอร์ก็จะได้ กล่องแขวนที่อยู่ด้านบนขนาด 180x30x30 ซม. พร้อมชั้นวางทีวีขนาด 180x40x40 ซม. และตู้รองเท้า ขนาด 80x40x100 ซม. ส่วนวัสดุปิดผิวเป็นเมลามีน เป็นสี Denim Grizzlyตัดกับ Light Grey ตามแบบที่เห็นเลย
โซฟาจะเป็นเบาะผ้าแบบ 2 ที่นั่ง ขนาด 170x80x75 ซม. พร้อมหมอนอิง 2 ใบ ส่วนวัสดุปิดผิวเป็นเมลามีน สี Light Grey มีที่เก็บของใต้โซฟา พร้อมกับโต๊ะกลาง ท็อปด้วยกระจกนิระภัย สีชาดำ ขาโต๊ะเป็นเหล็กสีดำขนาด 80x50x40 ซม. ตามภาพที่เห็นเลย
พื้นที่ห้องนั่งเล่นขนาด 3.55 x 3.60 ซม. พื้นห้องจะเป็นไม้ลามิเนตสีอ่อนหนา 8 มม.
ถัดมาจะเป็นพื้นที่โต๊ะทานอาหารอยู่บริเวณด้านหน้าทางเข้าห้องครัว เหนือประตูติดเครื่องปรับอากาศขนาด 9,000 BTU
โต๊ะทานอาหารที่ให้มาจะเป็น โต๊ะขนาด 80x80x75 ซม. วัสดุปิดผิวเป็นเมลามีน เป็นสี Denim Grizzly ท็อปด้วยกระจกนิระภัย สีชาดำ ขาโต๊ะเป็นเหล็กสีดำ เก้าอี้เหล็กหุ้มหนัง PU สีดำ 2 ตัว
ส่วนของห้องครัวจะได้มาเป็นครัวปิด มีฉากกั้นเป็นกระจกบานเลื่อนกรอบอลูมิเนียมสีเงินมาให้เรียบร้อย
พื้นที่ห้องครัวขนาด 1.9 x 2.8 เมตร ส่วนพื้นห้องครัวกระเบื้องขนาด 30 x 30 ซม.
มีการจัดพื้นที่สำหรับวางตู้เย็น ขนาด 10 คิว ชุดครัวบิวท์อิน ด้านบนมีชั้นลอยพร้อมหน้าบานมาให้ ส่วนช่องเก็บของด้านในก็มีที่เก็บของมาให้พอสมควร
เคาน์เตอร์ครัวเป็นเมลามีนลายหินสีดำไม่มีเตาไฟฟ้าหรือเครื่องดูดควันมาให้ แต่มีการติดตั้งปลั๊กไฟมาให้ ซื้อเตามาเสียบใช้ได้เลย
อ่างล้างจานสแตนเลสฝังมาให้แบบหลุมเดียวมีที่พักจานด้านข้าง ผนังหลังเคาน์เตอร์ครัวติด กระเบื้องมาให้เช็ดล้างทำความสะอาดได้ง่าย
มุมมองภายในห้องครัว วางเคาน์เตอร์ครัวไปแล้วจะเหลือระยะเดินประมาณ 1 เมตร
บริเวณห้องครัวจะมีประตูบานเลื่อนกรอบอลูมิเนียมสีเงิน กระจกเขียวตัดแสง แบบสองบาน เปิดออกไประเบียงได้ ประตูยกพื้นขึ้นมาประมาณ 10 เซนติเมตร เพื่อกันฝุ่นและน้ำจากระเบียง ระเบียงขนาด 1.2 x 1.9 เมตร
บริเวณระเบียงมีที่แขวนลอยคอมเพรสเซอร์แอร์มาให้ ทำให้ใช้งานพื้นที่ใต้แอร์คอมเพรสเซอร์สามารถวางเครื่องซักผ้าได้ อีกทั้งยังมีการเดินระบบไฟ และท่อมาให้พร้อมใช้งาน อีกฟากก็มีการติดโคมไฟมาให้
กลับมายังห้องนอนมีขนาด 3.3 x 5.8 เมตร ซึ่งกว้างมากทีเดียว เพดานห้องนอน 2.6 เมตร
ไฟเพดานห้องนอนเป็นโคมซาลาเปา มีไฟดาวน์ไลท์บริเวณหน้าห้องน้ำ เตียงที่ให้มาเป็นเตียง 5 ฟุต พร้อมที่นอนสปริงขนาด 5 ฟุต ลิ้นชักเก็บของฝั่งซ้ายของเตียง ฝั่งขวาของเตียงจะเป็นตู้เสื้อผ้าและห้องน้ำ
ผนังห้องนอนจะมีหน้าต่างบานใหญ่ติดมาให้ 1 ชุด ด้านล่างเป็นหน้าต่างบานฟิกซ์ ด้านบนเป็นหน้าต่างบานเลื่อน กรอบอลูมิเนียมสีธรรมชาติ ส่วนมู่ลี่ไม่ได้มีมาให้
ระยะจากปลายเตียงถึงผนังประมาณ 1 เมตร เมื่อวางชั้นวางทีวีกับโต๊ะแต่งหน้าก็ยังพอมีทางเดินได้สบายๆ ซึ่งได้มาแบบที่เห็นเลย
ตู้วางทีวีแบบลอยตัวติดผนังชนกับขอบพื้นบัว ขนาด 120x30x40 ซม. ท็อป-บอดี-หน้าบานใช้เมลามีนปิดผิว พร้อมเดินระบบเคเบิล และปลั๊กมาให้อย่างละ 1 จุด
โซฟาเบดแบบบิวท์อินมีที่เก็บของใต้ที่นั่งขนาด 170 x 80 x 75 ซม. ที่นั่งเป็นเบาะผ้า พร้อมหมอนอิง 2 ใบ ตัวบอดี้เป็นเมลามีนสี Light Grey
ตู้เสื้อผ้าจะอยู่บริเวณทางเข้าห้องน้ำ เป็นตู้ขนาด 150x63x220 ซม. แบบบานเลื่อนเมลามีน บานฝั่งซ้ายจะท็อปด้วยกระจกเงา ขนาดเท่าบานเลื่อน ตามแบบที่เห็น
มีทางเดินประมาณ 1 เมตร ขอบประตูท็อปด้วนหินแกรนิต
พื้นที่ภายในห้องน้ำ 1.65 x 2.40 เมตร มีการแยกส่วนเปียกแห้งอย่างชัดเจน มีฉากกันอาบน้ำเป็นกระจกนิรภัย ผนังห้องน้ำปูกระเบื้องมาให้จนจรดเพดาน ที่เพดานติดไฟดาวน์ไลท์มาให้ พร้อมพัดลมดูดอากาศ และเครื่องทำน้ำอุ่นก็ให้มาเช่นกัน
สุขภัณฑ์ และ อ่างล้านหน้าเป็นของ Cotto
ฉากกั้นอาบน้ำกระจกนิระภัยเป็นแบบบานเลื่อน เปิดปิดได้ 1 บาน ภายในห้องอาบน้ำขนาด 1 x 1.65 เมตร
ศักยภาพทำเล
ด้วยศักยภาพของทำเลที่ตั้ง อยู่ในย่านถนนพระราม 9 เส้นทางรถไฟฟ้า MRT สายสีส้ม เนื่องจากเป็นเส้นทางที่เชื่อมกรุงเทพฯ ตะวันออก (ช่วงศูนย์วัฒนธรรมฯ – มีนบุรี) และกรุงเทพฯ ตะวันตก (ช่วงตลิ่งชั่น – ศูนย์วัฒนธรรมฯ) แวดล้อมด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน ติดถนนพระราม 9 ใกล้สี่แยก อสมท เชื่อมต่อสู่ถนนธุรกิจสายสำคัญ อาทิ รัชดาภิเษก อโศก สุขุมวิท ดินแดง รามคำแหง ประดิษฐ์มนูธรรม ที่สามารถเดินทางเข้าสู่ใจกลางเมืองธุรกิจได้อย่างสะดวก รวดเร็ว อีกทั้งเพียง 350 เมตร จากรถไฟฟ้า MRT สายสีส้ม สถานี รฟม. (สายอนาคตที่คาดว่าจะสร้างเสร็จปี 2565) และ MRT พระราม 9 ทางด่วนศรีรัช ด่านรามคำแหง รถไฟฟ้า Airport link สถานีมักกะสัน อีกทั้งยังเชื่อมต่อแหล่งอำนวยความสะดวกที่ลงตัวไม่ว่าจะ เซ็นทรัลพลาซา แกรนด์ พระราม 9 เอสพลานาด รัชดาภิเษก ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย และ Show DC ซึ่งเป็นศูนย์การค้าและเอนเตอร์เทนเมนต์ครบวงจร แลนด์มาร์คแห่งใหม่ของภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และอีกมากมายที่จะเกิดขึ้นในอนาคตบนถนนเส้นนี้ อีกด้วย
ทำเลที่ตั้งโครงการ
ที่ตั้งโครงการอยู่ติดถนนพระราม 9 ใกล้ด่านเก็บเงินพระราม 9 (ขึ้นทางด่วน) ระหว่างซอยพระราม 9 ซอย 9 กับ ซอยพระราม 9 ซอย 11 โดยที่ดินเดิมเป็นที่ดินเปล่า ด้านสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ ในระยะเดินรอบๆ โครงการยังไม่ค่อยมีให้เห็นมากนัก ห่างจากโครงการประมาณ 400 เมตร รอบๆ โครงการพอจะมีร้านอาหารอยู่บ้างสำหรับขายบรรดาพนักงานบริษัท ของตึก KPN Tower ทำให้ภายในโครงการ จึงมียูนิตร้านค้าเอาไว้ 14 ยูนิตเพื่ออำนวยความสะดวกให้คนในโครงการนั่นเอง และในรัศมีประมาณ 2 กม. ก็ถึง MRT พระราม 9 จะต่อไปสุขุมวิทพื้นที่ใจกลางเมือง
รวมถึงเส้นรัชดาที่รวมแหล่งไลฟ์สไตล์ไว้มากมาย ทั้งห้างฟอร์จูน, เซ็นทรัลพระราม 9, Belle Rama 9, เอสพลานาด, ตลาดนัดรถไฟรัชดา เดอะ สตีท เป็นต้น ซึ่งก็ถือว่าเป็นทำเลที่มีความอุดมสมบูรณ์และสะดวกสบายสูงและอยู่ห่างจากโครงการไม่มากส่วนจุดเด่นของโครงการอีกอย่างคือ จะมีรถไฟฟ้า MRT สายสีส้มที่จะตัดผ่านถนนพระราม 9 ในอนาคต โดยสถานีที่ใกล้โครงการที่สุดคือ สถานี รฟม. ตามทีคาดการณ์ไว้ซึ่งอยู่ห่างจากที่ตั้งโครงการประมาณ 350 เมตร คาดว่าจะเปิดให้บริการปี 2565 ทั้งนี้เมื่อโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้มสร้างเสร็จที่ดินบริเวณนี้ก็น่าจะมีมูลค่าเพิ่มขึ้นไปอีก เนื่องจากเดินเข้าออกเมืองได้ง่ายขึ้นนั่นเอง ส่วนตอนนี่ยังไม่เสร็จก็คงต้องทนกับรถติดกันไปก่อน
การเดินทาง
เส้นทางหลักของที่ตั้งโครงการนี้จะอยู่ติดกับถนนพระราม 9 ฝั่งขาออก อยู่ด่านเก็บเงินพระราม 9 (ขึ้นทางด่วน)ไม่ถึงร้อยเมตร อยู่ระหว่างซอยพระราม 9 ซอย 9 กับ ซอยพระราม 9 ซอย 11 ส่วนสำนักงานขายจะอยู่ในไปในซอยพระราม 9 ซอย 11 ตรงเข้าไปในซอยประมาณ 100 เมตรก็จะถึง สำนักงานขาย ทำให้ไม่ว่าจะมาจากเส้นทางไหน อย่างรัชดา – ดินแดง หรือ เส้นอโศก – ดินแดง ยังไงก็ต้องวิ่งเข้ามายังแยกพระราม 9 เพื่อมุ่งไปยังโครงการอยู่ดี
แผนที่โครงการ
เส้นทางที่ 1 จากเส้นรัชดา (ขาเข้า) ให้มุ่งตรงมายังแยกพระราม 9 แล้วเลี้ยวซ้ายเข้าเส้นพระราม 9 ตรงมาประมาณ 1 กม. จะถึงแยกผังเมือง ให้เริ่มชิดซ้ายเพื่อใช้เลนซ้าย แล้ววิ่งตรงไปอีกประมาณ 1 กม.ก็จะถึงที่ตัวโครงการอยู่ทางซ้ายมือ
เส้นทางที่ 2 จากเส้นดินแดง (ขาออก) ให้มุ่งตรงมายังแยกพระราม 9 เข้าเส้นพระราม 9 ตรงมาประมาณ 1 กม. จะถึงแยกผังเมือง ให้เริ่มชิดซ้ายเพื่อใช้เลนซ้าย แล้ววิ่งตรงไปอีกประมาณ 1 กม.ก็จะถึงที่ตัวโครงการอยู่ทางซ้ายมือ
เส้นทางที่ 3 จากเส้นอโศก-ดินแดง (ขาออก) ให้มุ่งตรงมายังแยกพระราม 9 แล้วเลี้ยวขวาเข้าเส้นพระราม 9 ตรงมาประมาณ 1 กม. จะถึงแยกผังเมือง ให้เริ่มชิดซ้ายเพื่อใช้เลนซ้าย แล้ววิ่งตรงไปอีกประมาณ 1 กม.ก็จะถึงตัวโครงการอยู่ทางซ้ายมือ
รถไฟฟ้า
MRT สถานีพระราม 9 และ MRT สายสีส้ม สถานี รฟม. เพียง 350 เมตร (คาดว่าเปิดใช้ปี 2565)
ทางด่วน
ทางด่วนศรีรัช ทางด่วนพระราม 9
RCA อีกหนึ่งสถานที่เที่ยวยามราตรีในกรุงเทพฯ นอกจากร้านต่าง ๆ บนถนนเส้นรัชดาภิเษก เอกมัย ทองหล่อแล้ว ชื่อของ “RCA” ก็เป็นอีกหนึ่งสถานที่ ที่ได้รับการพูดถึงกันอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน และเป็นสถานที่แรก ๆ ของหลาย ๆ คนที่จะนึกถึงกันเป็นอันดับต้น ๆ รวมไปถึงจากชาวต่างชาติอีกด้วย และด้วยความเป็นสถานที่ยอดฮิต และความหลากหลายของสไตล์นี่เอง ทำให้ที่นี่กลายเป็นจุดหมายของนักท่องราตรีนั่นเอง
ออนิกซ์ (Onyx) ร้านแดนซ์สไตล์ EDM ที่การตกแต่งร้านได้รับแรงบันดาลใจมาจาก Zouk สิงคโปร์ และ Octagon โซล (เกาหลี) อีกทั้งยังมีการใช้ระบบเสียงอย่างดีจาก KUVO by Pioneer, ระบบไฟ LED จำนวนมาก ตัวร้านแบ่งออกเป็นส่วนของโซนแดนซ์ขนาดใหญ่ และโซน VIP 2 โซน ทั้งด้านล่างและด้านบนของร้าน ดีเจประจำของทางร้านก็ต่างเป็นดีเจชื่อดังของกรุงเทพ นำเสนอแนวเพลงสไตล์ EDM ส่วนดีเจต่างประเทศที่ทาง ONYX เคยนำมาเล่น มีอาทิเช่น DJ ELLIE (Taiwan) และ DEORRO ฯลฯ
รูท 66 (Route 66) ร้านดังของกรุงเทพที่หลายคนต่างรู้จักเป็นอย่างดี เปิดตั้งแต่ปี 1996 โดยเป็นร้านที่มีลูกค้าแน่นขนัดตลอด ทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ ทางร้านแบ่งออกเป็น 4 โซน ได้แก่ โซนดนตรีสด ซึ่งนำเสนอดนตรีสดจากศิลปินกลุ่มชาวไทย 3-4 วงต่อคืน, โซนฮิปฮอป ซึ่งนำโดยทีมงาน Bangkok Invaders, โซน EDM ที่เล่นโดยดีเจชื่อดังของกรุงเทพ และจากต่างประเทศ และสุดท้ายกับโซนเอาท์ดอร์ด้านหน้าของร้าน สำหรับลูกค้าที่ต้องการบรรยากาศชิลๆ โดยทุกๆ โซนต่างก็ถูกตกแต่งด้วยระบบแสง สี เสียงอย่างดี
สถานที่สำคัญรอบโครงการ
อาคารสำนักงาน
Super Tower
AIA
Capital Center
Cyber World Tower
KPN Tower
อาคารตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย
ห้างสรรพสินค้า
เซ็นทรัลพลาซา แกรนด์ พระราม 9 1.8 กม.
ฟอร์จูนทาวน์ 2.2 กม.
เอสพลานาด รัชดาภิเษก 3 กม.
บิ๊กซี เอ็กซ์ตร้า รัชดาภิเษก 3.5 กม.
The Street รัชดาภิเษก 3.6 กม.
The Mall รามคำแหง 4.2 กม.
The Nine พระราม 9 5.1 กม.
Terminal 21 6.2 กม.
สถานพยาบาล
โรงพยาบาลพระราม 9 1.8 กม.
โรงพยาบาลปิยะเวท 2 กม.
โรงพยาบาลกรุงเทพ 4.4 กม.
สถานศึกษา
มศว ประสานมิตร 3.2 กม.
โรงเรียนวัฒนาวิทยาลัย 3.9 กม.
โรงเรียนเซนต์ดอมินิก 3.2 กม.
โรงเรียนนานาชาติ NIST 4.9 กม.
ที่ดินบริเวณนี้หาที่ดินแปลงใหญ่ที่จะนำมาพัฒนาค่อนข้างหายาก อีกทั้งราคาที่ดินยังสูงโดยราคาที่ดินในแนวถนนเดียวกันอยู่ที่ประมาณ 250,000-400,000 บาท/ตารางวา และมีราคาขายที่ประมาณ 90,000 บาท/ตารางเมตร ประกอบกับซัพพลายใหม่บริเวณนี้ไม่มี โดยซัพพลายตั้งแต่ศูนย์วัฒนธรรมถึงพระราม 9 มีอยู่ประมาณ 5,000 กว่ายูนิต ปัจจุบันเหลือขาย 500 ยูนิต โดยระดับราคามีตั้งแต่ 1 แสนบาทเป็นต้นไป ดังนั้นศักยภาพของทำเลบริเวณนี้จึงเหมาะกับการลงทุน หรือซื้อเพื่ออยู่อาศัยเอง ขณะที่ตลาดปล่อยเช่าในย่านนี้ อัตราการปล่อยค่อนข้างดี ผลตอบแทนประมาณ 6 % หรืออยู่ที่ 15,000 บาทต่อเดือนเลยทีเดียว
| แบบห้องชุด | ขนาด (ตร.ม.) | ราคาปล่อยเช่า (บาท/ เดือน) |
| สตูดิโอ | 30 | 15,000 |
| 1 ห้องนอน | 37.5 – 43 | 18,000 – 25,000 |
| 2 ห้องนอน | 57.5 – 65.5 | 30,000 – 40,000 |
| 3 ห้องนอน | 112 | 60,000 UP |
| ชื่อโครงการ | ยูนิต | พื้นที่ใช้สอย | ราคาเฉลี่ย/ตร.ม. | ราคาขายเริ่มต้น |
| เดอะ เบส การ์เดน-พระราม 9 | 639 | 26.5 – 55 | 100,000 | 2.19 ล้านบาท |
ชื่อโครงการ: เดอะ เบส การ์เดน-พระราม 9 (The Base Garden Rama 9)
ผู้พัฒนาโครงการ: บริษัท บีทีเอส แสนสิริ โฮลดิ้ง เซเว่น จำกัด
ทำเลที่ตั้ง: ถนนพระราม 9 ตัดใหม่ แขวงหัวหมาก เขตบางกะปิ กรุงเทพมหานคร
รูปแบบ: อาคารพักอาศัยสูง 36 ชั้น 1 อาคาร 639 ยูนิต และเพื่อการพาณิชย์ 1 ยูนิต พื้นที่โครงการ 3-2-39 ไร่
เว็บไซต์: http://www.sansiri.com/condominium/thebase-garden-rama9
ลิฟท์: ลิฟท์โดยสาร 4 ตัว, ลิฟท์บริการ 1 ตัว ที่จอดรถ: 40% ไม่รวมจอดซ้อนคัน
ราคาเริ่มต้น: 2.199 ล้านบาท หรือราคาเฉลี่ย ประมาณ 99,000 – 110,000 ต่อตร.ม.
รูปแบบห้อง
1 Bedroom 26.5 – 34.75 ตร.ม.
2 Bedrooms 49.75 – 55 ตร.ม.
การที่ ศุภาลัย เลือกปักหมุดโครงการนี้บนทำเลถนนพระราม 9 ก็เนื่องจากเส้นนี้เป็นเส้นทางที่เชื่อมกรุงเทพฯ ตะวันออก และกรุงเทพฯ ตะวันตก ที่สามารถเดินทางเข้าสู่ใจกลางเมืองธุรกิจ ได้ด้วยระบบรถไฟฟ้า และอื่นๆ อีกมากมาย รวมถึงเป็นทำเลทองรองลงมาจากเส้นใจกลางเมืองที่มีความหนาแน่น ประกอบกับที่ดินมีราคาสูง และหาได้ยากขึ้นทุกที
ต่อไปเส้นรัชดา – พระราม 9 นี้จะกลายเป็น NEW CBD ในไม่ช้าจากการพัฒนาของภาพรวมที่เกิดขึ้นอยู่ในขณะนี้ รวมไปในอนาคตจะเป็นเส้นทางรถไฟฟ้า MRT สายสีส้ม ที่คาดว่าจะสร้างเสร็จปี 2565 ก็เป็นการขายฝันไปในตัว ทำให้คนที่คิดจะซื้อโครงการนี้ต้องมีรถยนต์ส่วนตัว ไม่งั้นคงเดินทางลำบากสักหน่อย แต่หากไปถึง MRT พระราม 9 ซึ่งอยู่ห่างจากโครงการประมาณ 2 กม. ก็สามารถจะต่อไปสุขุมวิทพื้นที่ใจกลางเมือง หรือที่ต่างๆ ก็ทำได้ง่ายขึ้น
โดยรอบโครงการแทบไม่มีอะไรบดบังเพราะเป็นพื้นที่เปิดโล่งทำให้หมดปัญหาเรื่องการบล็อกวิว (ณ. ตอนนี้) ทำให้สิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ ในระยะเดินรอบๆ โครงการไม่ค่อยมีให้เห็น แต่ทางโครงการก็ได้แก้ด้วยการจัดยูนิตร้านค้าเอาไว้ 14 ยูนิตนั่นเพื่ออำนวยความสะดวกให้คนในโครงการนั่นเอง
ด้วยการเป็นโครงการขนาดใหญ่ที่มี จำนวน พันกว่ายูนิต ทำให้มีสิ่งอำนวนความสะดวกที่จัดมาให้เยอะเช่นกัน พร้อมพื้นที่สีเขียว รวมกว่า 4 ไร่ และพื้นที่เปิดโล่งกว่า 78% ทำให้รู้สึกไม่แออัด อีกทั้งที่จอดรถกว่าประมาณ 70 % ก็ช่วยให้โล่งใจขึ้นเยอะ ว่ากลับดึกๆ จะไม่มีที่จอด
ห้องแบบสตูดิโอขนาด 30 ตร.ม. ซึ่งเป็นห้องขนาดเริ่มต้นของโครงการจะมาพร้อมเครื่องปรับอากาศ วอลเปเปอร์ ชุดเฟอร์นิเจอร์ครัว เครื่องทำน้ำอุ่น และฉากกั้นอาบน้ำแบบกระจกนิรภัย ก็ถือว่าจัดมาให้เต็มๆ แต่เรามีสิทธิเลือกว่าจะเอาเฟอร์นิเจอร์ครบชุด + ส่วนลดพิเศษ หรือ ส่วนลดพิเศษ 2 เท่า 160,000 – 300,000 บาทแทนชุดเฟอร์นิเจอร์ กับราคาเริ่มต้นที่ 1.85 ล้านบาท หรือราคาเฉลี่ย 61,700 บาท/ตร.ม. ก็ถือว่าน่าสนใจไม่น้อยที่เดียวสำหรับโครงการนี้ ขณะที่ตลาดปล่อยเช่าในย่านนี้ อีกทั้งอัตราการปล่อยเช่าก็ค่อนข้างดี ซึ่งทางโครงการเครมว่าผลตอบแทนประมาณ 6 % หรืออยู่ที่ 15,000 บาทต่อเดือนเลยทีเดียว
สนใจ คอนโดฯ ในโครงการนี้? เลือกชม รายการประกาศ ราคาโดนใจ
พาร์ค 168 นพรัตน์ รามอินทรา (Park 168 Nopparat Ramindra) จาก บริษัท แอล.พี.เอ็น.ดีเวลลอปเมนท์ จํากัด (มหาชน) คอนโดมิเนียม High Rise 25 ชั้น 3 อาคาร ห้องชุดพักอาศัยรวม 1,224 ยูนิต อาคารจอดรถและสระว่ายน้ำ สูง 8 ชั้น 1 อาคาร แต่ละอาคารมีห้องพักอาศัยเพียงอาคารละ 408 ยูนิต มีความเป็นส่วนตัว ไม่แออัด ใกล้รถไฟฟ้าสายสีชมพู สถานีนพรัตนราชธานี ราคาเริ่มต้น 1.69 ล้านบาท
คาราเพช หัวหิน-เขาเต่า (CARAPACE Huahin-Khaotao) คอนโด Low Rise สไตล์รีสอร์ต อยู่ติดชายหาดเขาเต่า ไม่ไกลจากถนนเพชรเกษม สามารถสร้าง Passive Income จากการลงทุนที่โครงการการันตีผลตอบแทน 5% นาน 5 ปี รวมรับผลตอบแทนต่อเนื่อง 15 ปี ในราคาเริ่มต้น 3.5 ล้านบาท
ลุมพินี ทาวน์ชิป รังสิต-คลอง 1 คอนโด Low Rise 8 ชั้น 50 อาคาร อาคารที่จอดรถสูง 8 ชั้น 6 อาคาร มีจำนวนยูนิตพักอาศัยรวม 10,074 ยูนิต และร้านค้า 7 ยูนิต ตกแต่งแบบ Fully Fitted ราคาเริ่มต้นต่ำกว่า 1 ล้านบาท
