รีวิวโครงการ: อาร์เทล พัฒนาการ - ทองหล่อ (Artale Phatthanakarn - Thonglor)

ซุ้มประตูทางเข้าโครงการเป็นแบบ Double Gate พร้อมเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย และระบบการเข้า-ออก แบบ Access Card

เมื่อเข้ามาจะพบส่วนของยูนิตโชว์บ้านตัวอย่าง ซึ่งภายในโครงการ มีถนนเมนหลักกว้าง 12 เมตร เมนรอง 9 เมตร

โดยบริเวณโซนยูนิตตัวอย่างนี้ จะมีพื้นที่สวนหย่อมให้นั่งพักผ่อนด้วย

เมื่อเข้าด้านในบริเวณรอบสวนหย่อม อยู่ระหว่างก่อสร้างบ้านจำนวน 10 ยูนิต ที่จะเปิดขายพร้อมโอนในวัน Presale ในวันที่ 18-19 มี.ค. 60

ภายในโครงการ ออกแบบให้มียูนิตทั้งหมดเพียง 49 หลังเท่านั้น เพื่อความเป็นส่วนตัว

บ้านเป็นสไตล์ Modern Elegant โดยมีจุดขายที่การออกแบบห้องนอนในสไตล์ Penthouse

อีกหนึ่งจุดขายของโครงการ ที่ออกแบบสวนส่วนตัวให้อยู่ใจกลางบ้าน นอกจากจะทำให้เพิ่มพื้นที่ของตัวบ้านแล้ว ยังทำให้ทุกส่วนของบ้าน สามารถสัมผัสความร่มรื่นของสวนได้

นอกจากนี้พื้นที่ชั้น 3 ผู้อยู่อาศัยสามารถตกแต่งเป็นพื้นที่พักผ่อนส่วนตัวได้อีก

ภาพจาก Google Maps แสดงรัศมีรอบทิศทาง พื้นที่ของโครงการ

พื้นที่ส่วนกลางตั้งอยู่กลางโครงการ เนื่องจากมีจุดประสงค์ เพื่อให้ทุกยูนิตสามารถมองออกมาบริเวณสวนส่วนกลางที่ตั้งอยู่ในแปลงที่ดินขนาด 1 ไร่

คลับเฮาส์ของโครงการ ประกอบไปด้วย สระว่ายน้ำ Lap Pool ขนาด 5 x 25 เมตร พร้อมอ่างจากุซซี่และสระเด็กลึก 50 ซม. โดยบริเวณนี้จะมี Sun Lounge ให้นั่งพักผ่อนริมสระ

และเมื่อขึ้นมาบนชั้น 2 ของคลับเฮาส์ จะพบพื้นที่พักผ่อน ที่ถูกตกแต่งให้เข้ากับบรรยากาศของสวนสนจำลอง ที่อยู่รอบคลับเฮาส์

มาดูส่วนของฟิตเนส เครื่องออกกำลังกายเป็นของ Impluse และ Encore

ด้านหน้าฟิตเนส จะมีห้องน้ำอยู่ด้านหน้าเพิ่มเติมจากชั้นล่าง เพื่อความสะดวกในการใช้บริการ

พื้นที่สวนหย่อมนี้ถูกจำลองมาจากป่าสน

รอบสวนหย่อม จะมีลำธาร โดยจะมีต้นไม้เป็นตัวช่วยกรองน้ำ

สะพานไม้ในสวนหย่อม ที่ให้เด็กๆ สามารถมาดูจิงโจ้น้ำ โดยเจ้าของโปรเจกต์ต้องการออกแบบให้บริเวณนี้เป็นศูนย์การเรียนรู้

แบบบ้าน Medio เป็นไซส์กลางของรูปแบบบ้านของโครงการ อาร์เทล อาร์เทล พัฒนาการ – ทองหล่อ Artale Phatthanakarn Thonglor

ตัวบ้านจะเป็นสไตล์โมเดิร์น โดยมีการออกแบบระแนงบนพื้นที่ชั้น 2 ของบ้าน

จากรูปจะสังเกตเห็นว่า มีตู้เก็บของอยู่ด้านหน้าให้ด้วย โดยใช้อิฐมอญมาตกแต่งบริเวณนี้

ช่องใส่จดหมาย พร้อมที่เปิดแบบก้านโยก

ประตูที่เข้าภายในบ้าน เป็นแบบ Digital Door Lock พร้อมระบบ Manual ด้ามจับแบบก้านโยก โดยทางโครงการได้ Built-in ที่เก็บรองเท้าให้ บริเวณ Corridor ทางเดินไปโซนโถงรับแขก ซึ่งหน้าบานของจริงจะเป็นไม้ผิวเรียบ

เมื่อเดินเข้ามาในบ้าน จะพบกับความโปร่งโล่งของโถงรับแขก และยิ่งทำให้ดูโปร่งขึ้นเข้าไปอีก เมื่อมีการใช้วอลล์เปเปอร์เป็นวัสดุกระจก ซึ่งสิ่งที่สังเกตเห็นอีกอย่างหนึ่งคือ บริเวณนี้มีติดตั้งแอร์แบบฝั่งฝ้าให้ด้ัวย ซึ่งบ้านจริงก็มีการติดตั้งแอร์เช่นนีเให้ด้วยเช่นกัน

รูปนี้น่าจะเป็นบทพิสูจน์ถึงความโปร่งของโถงรับแขกได้ดี

ส่วนของพื้นที่รับแขก จะเชื่อมต่อกับครัวดังรูป โดยจะมีประตูบานเลื่อนด้านข้าง ให้สามารถออกไปชมสวนส่วนตัวกลางบ้านได้

เดินเข้าส่วนของพื้นที่เตรียมอาหาร จะพบมุมสำหรับการตกแต่งให้เป็นห้องกินข้าว ที่ยังคงสามารถชมสวนกลางบ้าน ได้อีกเช่นกัน โดยสามารถวางโต๊ะขนาดใหญ่ หรือ 6 ที่นั่งได้เลยทีเดียว ซึ่งพื้นที่ชั้นล่าง จะมีเพดานสูง 3 เมตร

บริเวณ Pantry ทางโครงการได้ Built-in เคาน์เตอร์ครัวให้จาก Kohler พร้อมเครื่องใช้ไฟฟ้า อาทิ เตาไฟฟ้าจาก Teka ตู้เย็น และเตาอบจาก Smeg โดยจากรูปจะเห็นการเชื่อมต่อระหว่างครัวฝรั่งและครัวไทย และห้องน้ำชั้นล่าง

ครัวไทย สามารถเข้าได้อีกทาง บริเวณพื้นที่งานระบบของบ้าน

ส่วนของพื้นที่งานระบบของบ้าน อยู่ด้านข้าง โดยถูกแบ่งออกเป็น ห้องแม่บ้าน ห้องเก็บเครื่องซักผ้า อุปกรณ์ต่างๆ และห้องน้ำสำหรับแม่บ้าน โดยเหตุผลของการออกแบบพื้นที่งานระบบไว้ด้านข้างบ้าน เพื่อแม่บ้านจะได้ไม่ต้องเดินผ่านเข้ามาในบ้าน สามารถเดินตรงจากหน้าบ้านมาได้เลย

จากรูปคือ พื้นที่ของห้องเก็บเครื่องซักผ้า และห้องน้ำสำหรับแม่บ้าน

กลับมาดูพื้นที่ใช้สอยในบ้านกันต่อ โดยบันไดขึ้นชั้น 2 เป็นไม้เอ็นจิเนียริ่งวูด พร้อมราวกันตกที่ใช้วัสดุกระจกนิรภัย มาช่วยความโปร่งและหรูหรามากขึ้น

เมื่อมองจากระเบียงชั้น 2 จะเห็นโถงรับแขกที่มีความสูง 2 ชั้น ดังรูป

ทางเดิน Corridor สู่ห้องนอนที่ 1

สำหรับห้องนอนที่ 1 มีการจัดวางสำหรับพื้นที่ Walk in closet ก่อนเข้าสู่ส่วนของพื้นที่วางเตียงนอน

พื้นที่ Walk in closet สำหรับห้องนี้ มีขนาดพอเหมาะให้สามารถ Built-in ตู้เสื้อผ้าในขนาด 3 บาน

ด้านหน้าห้องน้ำ สามารถจัดวางเป็นโต๊ะเครื่่องแป้งเพิ่มเติมได้

ห้องน้ำภายในห้องนอนที่ 1 อ่างล้างหน้าถูกแบ่งออกเป็น 2 ฝั่ง พร้อมอ่างอาบน้ำ และพื้นที่อาบน้ำ โดยมีการแบ่งโซนอาบน้ำ และโถชำระอย่างชัดเจน

พื้นที่อาบน้ำ โครงการได้ติดตั้ง Rain Shower ให้ด้วย

ส่วนของพื้นที่ห้องนอน สามารถวางเตียงขนาดคิงไซส์ได้เลย ซึ่งจะถูกล้อมรอบด้วยหน้าต่างบาน Fix และบานกระทุ้ง

เมื่อวางเตียงแล้วจะเห็นระยะห่างบริเวณปลายเตียงกับชั้นวางทีวี ที่อยู่ในระดับพอเหมาะ ไม่แคบหรือกว้างเกินไป

หน้าต่างฝั่งในรูป เมื่อเปิดม่านออก จะเห็นสวนหย่อมกลางบ้าน

ทางเดิน Corridor ไปห้องนอนที่ 2

เมื่อเดินมาอีกฝั่ง ก่อนจะถึงห้องนอนที่ 2 จะเป็นพื้นที่ของห้องอเนกประสงค์ ที่สามารถตกแต่งให้เป็นห้องทำงานได้

การจัดวางเป็นห้องทำงาน ที่ค่อนข้างได้พื้นที่กว้าง

ห้องนอนที่ 2 ภายในบ้านตัวอย่าง ถูกจัดวางให้เป็นลักษณะห้องนอนสำหรับเด็ก จึงวางเตียงขนาด 3 ฟุต ให้ดู แต่จริงๆ แล้ว ภายในห้องนี้ ด้วยพื้นที่ใช้สอยค่อนข้างกว้าง สามารถวางเตียงคิงไซส์ได้เลย

ด้านหน้าห้องน้ำภายในห้องนอน สามารถนำตู้เสื้อผ้าขนาด 2-3 บาน มาติดตั้งได้

ห้องน้ำภายในห้องนอน มีการแบ่งส่วนเปียก-แห้ง อย่างชัดเจน

ภายในพื้นที่อาบน้ำ โครงการได้ออกแบบที่นั่งให้ด้วย ซึ่งสร้างความสะดวกให้กับเด็กและผู้สูงอายุ

บันไดขึ้นชั้น 3

บริเวณทางเดิน Corridor ชั้น 3 จะมีการออกแบบให้แสงธรรมชาติ ให้ลอดผ่านเข้ามาในตัวบ้าน

ห้องนอนที่ 3 ความพิเศษคือ สามารถทุบผนังออก ให้รวมกับห้องนอนที่ 4 ได้ จึงทำให้ได้ความกว้างมากขึ้น ประหนึ่งเป็นห้อง Penthouse เลยทีเดียว

แต่หากไม่ได้ทุบผนังในการขยายห้องนอน จะเหลือพื้นที่ในการวางตู้เสื้อผ้าขนาดใหญ่ได้ จึงสามารถวางเตียงได้ตั้งแต่ขนาด 5-6 ฟุต ดังรูป

ภายในห้องนอนที่ 3 มีระเบียงกว้างยื่นออกมา ให้สามารถชมสวนกลางบ้านได้ด้วย

เมื่อมีการจัดวางเตียงในขนาดที่พอเหมาะ ไม่ได้ใหญ่เกินไป จึงทำให้สามารถ Built-in ตู้เสื้อผ้าขนาดใหญ่ได้ดังรูป

พื้นที่ทางเดิน Corridor ของห้องนอนที่ 3 โดยด้านซ้ายมือของรูปจะเป็นส่วนของห้องน้ำในตัวห้องนอน

ภายในห้องน้ำในตัวของห้องนอนที่ 3 มีอ่างอาบน้ำให้ด้วย

ออกมาจากห้องนอนที่ 3 ก่อนจะไปดูอีกหนึ่งไฮไลท์ของบ้าน กับพื้นที่พิเศษ ที่สามารถปรับเปลี่ยนเป็นมุมพักผ่อนได้ตามต้องการ

มาดูห้องนอนที่ 4 กันบ้าง เข้ามาจะพบส่วนของหน้าต่างที่เชื่อมต่อกับพื้นที่พิเศษด้านนอก ซึ่งจะทำให้แสงลอดผ่านเข้ามาในห้อง ทำให้ห้องดูโปร่งขึ้น

สำหรับห้องนอนที่ 4 ของบ้านตัวอย่างหลังนี้ ถูกออกแบบให้เป็น Multi Room

บริเวณผนังที่แขวนกีตาร์ สามารถทุบเพื่อเชื่อมต่อกับห้องนอนที่ 3 ได้

มาดูส่วนของพื้นที่พิเศษกันบ้าง โดยราวกันตกบริเวณนี้จะใช้กระจกนิรภัยทั้งหมด โดยนอกจากเพื่อความสวยงาม ดูโมเดิร์นเข้ากับตัวบ้านแล้ว ยังทำให้ปลอดภัยอีกด้วย

พื้นที่พิเศษนี้ จะเป็นลักษณะตัว L

บริเวณพื้นที่พิเศษ สามารถเห็นระเบียงของห้องนอนที่ 3 และสวนหย่อมใจกลางบ้าน

สำหรับบ้านยูนิต Grand จะมีพื้นที่ใช้สอยใหญ่กว่าแบบ Medio 20%

ประตูเข้ามาพื้นที่ใช้สอยภายในบ้าน เป็น Digital Door Lock ชั้นเดียวกับ Medio

ทางเดิน Corridor บริเวณทางเข้าบ้าน จะมีหน้าต่างบาน Fix เพื่อแสงลอดผ่านเข้ามาในบ้าน โดยโครงการได้ติดตั้ง Home Automation ให้ด้วย เช่นเดียวกับ Medio

บริเวณผนังบันได สามารถออกแบบให้เป็นที่วางของได้เพิ่มเติม

โถงรับแขก มีประตูบานเลื่อนให้ออกไปพื้นที่สวนหย่อมกลางบ้านได้

สวนหย่อมกลางบ้าน มีจุดเด่น ที่ทุกห้องนอนในบ้าน หรือแม้แต่โถงรับแขก สามารถมองเห็นสวน

โถงรับแขกจะเชื่อมต่อกับพื้นที่ครัว และส่วนของพื้นที่กินข้าว

สังเกตว่าโต๊ะกินข้าว ที่เชื่อมต่อกับ Pantry สามารถวางขนาดใหญ่ได้เลย

โดยความกว้างของพื้นที่ใช้สอย จึงทำให้สามารถวาง Island ได้อย่างไม่อึดอัด

บริเวณชั้นล่างนีี้ จะมีห้องนอนที่เหมาะกับผู้สูงอายุ โดยสามารถวางเตียงขนาด 6 ฟุต หรือคิงไซส์ ได้เลย

ทางเข้าห้องนอนนี้ จะอยู่ใกล้กับครัว

บริเวณปลายเตียง สามารถนำทีวีมาวางได้เพิ่มเติม หรืออาจปล่อยโล่ง เพื่อให้สัมผัสถึงธรรมชาติของสวนหย่อมใจกลางบ้าน

ภายในห้องนอนเล็กมีห้องน้ำในตัวด้วยเช่นกัน ทำให้ผู้สูงอายุสะดวกต่อการเข้าห้องน้ำ

ห้องน้ำมีการแบ่งส่วนเปียก-แห้ง อย่างชัดเจน โดยยังคงมีที่นั่งบริเวณโซนอาบน้ำ

มาดูส่วนของครัวไทยกันบ้าง ถือว่าได้ขนาดพอเหมาะ โดยสามารถติดตั้งเคาน์เตอร์ครัวรูปตัว L ได้เลย

บริเวณครัวไทย จะมีหน้าต่างบานเลื่อนจำนวน 1 บาน ในการช่วยระบายอากาศ เวลาทำกับข้าว

เปิดประตูครัวไทยออกมา จะพบพื้นที่งานระบบอยู่ด้านนอก เหมือนกับยูนิต Medio

บันไดขึ้นชั้น 2 วัสดุยังคงเป็นไม้เอ็นจิเนียริ่งวูด

ทางเดิน Corridor ไปห้องนอนที่ 1

เมื่อมองลงมาจากชั้น 2 จะเห็นความโปร่งของบ้านอย่างชัดเจน

กลับมาดูพื้นที่ห้องนอนที่ 1 ก่อนเข้ามาบริเวณที่วางเตียง ยังคงมี Walk in closet เช่นกัน

สำหรับ Walk in closet ห้องนอนนี้ มีขนาดพื้ที่ใช้สอย 4×3 เมตร โดยจะเชื่อมต่อกับห้องน้ำ

บริเวณอ่างล้างหน้า แบ่งออกเป็น 2 ฝั่งอย่างชัดเจน

สำหรับห้องน้ำ จะมีทั้งอ่างอาบน้ำ และส่วนอาบน้ำ Rain Shower ที่แยกกับพื้นที่โถชำระ อย่างชัดเจน

พื้นที่วางเตียงภายในห้องนอน จริงๆ แล้ว สามารถวางเตียงใหญ่กว่าคิงไซส์ได้เลย

จากห้องนอนนี้ เมื่อมองออกไป จะสามารถมองเห็นห้องนอนที่ 2

ปลายเตียง มีพื้นที่เหลือค่อนข้างมาก เมื่อวางที่วางทีวีแล้ว โดยสามารถนำโต๊ะ หรือโซฟานั่งเล่นมาวางได้เพิ่มเติม

ทางเดิน Corridor ไปห้องนอนที่ 2

ก่อนจะไปห้องนอนที่ 2 จะพบพื้นที่ของห้องอเนกประสงค์อยู่ซ้ายมือ

เรียกได้ว่าด้วยขนาดของพื้นที่ใช้สอยที่ค่อนข้างมาก จริงทำให้ตกแต่งได้อย่างหรูหรา

ห้องนอนที่ 2 สำหรับบ้านตัวอย่างหลังนี้ เป็นการออกแบบไว้สำหรับห้องนอนของเด็กๆ โดยยังคงเอกลักษณ์ของ Walk in closet ที่มีขนาดกว้าง

การตกแต่งห้องนอนนี้ เจ้าของโปรเจกต์ ต้องการให้เห็นถึงการเชื่อมต่อของ Walk in closet กับพื้นที่วางเตียง

หากไม่ได้มีการวางเตียงขนาด 3 ฟุต แบบในรูป สามารถปรับการวางเตียงในลักษณะห้องนอนมาสเตอร์ได้เลย ด้วยการนำเตียงขนาด 6 ฟุต จนถึงคิงไซส์ มาวางได้

ภายในห้องนอนที่ 2 นี้ มีห้องน้ำในตัว โดยแบ่งส่วนเปียก-แห้ง อย่างชัดเจน

บันไดขึ้นชั้น 3

เมื่อขึ้นมาชั้น 3 จะพบความแตกต่างของยูนิตนี้กับยูนิต Medio คือ มีการปรับห้องนอน 3 ให้เป็นมุมพักผ่อน จัดปาร์ตี้ ของครอบครัว

ผนังด้านหลังโซฟา สามารถทุบออก เพื่อขยายห้องนอนได้เช่นเดียวกับยูนิต Medio

ด้านหลังบาร์ จะเป็นทางเดินไปห้องน้ำในตัว

ดูเหมือนเจ้าของโปรเจกต์จะชูจุดขายของบ้าน เรื่องความโปร่ง จึงออกแบบให้ห้องทุกห้องนั้นมีหน้าต่าง เพื่อให้แสงลอดเข้ามาในบ้าน

ห้องน้ำมีการแบ่งส่วนเปียก-แห้งให้ แต่จะไม่มีอ่างอาบน้ำ

เดินมาดูห้องนอนที่ 4 กันบ้าง บริเวณประตูทางเข้ามาด้านในของห้องนอน จะเป็นพื้นที่ของห้องน้ำ

ภายในห้องนอนที่ 4 สามารถวางเตียงคิงไซส์ได้เลย

โดยยังคงมีระเบียง ที่สามารถมองลงไปพบสวนกลางบ้าน

จากรูป บริเวณนี้สามารถทุบผนังเพื่อเชื่อมต่อกับอีกห้องได้

กับมาดูห้องน้ำ ภายในห้องนอนนี้อันต่อ จะเห็นว่า มีอ่างอาบน้ำให้ด้วย

บริเวณประตูที่จะออกไปพื้นที่พิเศษชั้น 3 สามารถนำเก้าอี้มาตั้ง นั่งพักผ่อนกันได้

เมื่อออกมาบริเวณพื้นที่พิเศษ ทางโครงการตกแต่งให้เป็นพื้นที่พักผ่อนส่วนตัว

จากรูป จะเห็นว่าสามารถมองเห็นพื้นที่ส่วนกลางของโครงการ ซึ่งเป็นอีกหนึ่งจุดขายของโครงการ