ไอดีโอ พหลฯ – จตุจักร คอนโดมิเนียม แบรนด์ IDEO ซีรี่ส์ใหม่ ที่ชูจุดเด่นที่แตกต่างจาก IDEO โครงการเก่าๆ ด้วย Facilities ที่ไฮคลาสและมากขึ้นกว่าเดิม แต่ยังคงโลเคชั่นติดรถไฟฟ้าเอาไว้ ณ สถานีสะพานที่เป็นจุดเชื่อมต่อสู่ The New CBD ในอนาคตอย่างจตุจักร – หมอชิต โดยมีราคาเริ่มต้นที่ 3.59 ล้านบาหรือประมาณ 155,000 บาทต่อตารางเมตร
สนใจ บ้าน ในโครงการนี้? เลือกชม รายการประกาศ ราคาโดนใจ
เมื่อเอ่ยถึงทาวน์โฮม ส่วนใหญ่แล้วมักจะเป็นรูปแบบสไตล์โมเดิร์น พร้อมชูจุดขายเน้นหน้ากว้าง พื้นที่ใช้สอยจัดเต็ม แต่ดูเหมือนไม่ค่อยพบรูปแบบทาวน์โฮมที่นอกจากจะให้ความรู้สึกเหมือนบ้านแล้ว ยังเน้นการวางผังภาพรวมโครงการ พื้นที่ส่วนกลาง และตัวบ้าน บนแนวคิดหลักอย่าง Eco อันช่วยประหยัดพลังงาน ไปพร้อมกับทำให้บ้านเย็น เหมือนอย่างโครงการ อีโค สเปซ บางนา – วงแหวน (Eco Space Bangna – Wongwaen) ที่ถูกพัฒนาขึ้นจากดีเวลลอปเปอร์ เอส.แอล.เอสแตท โดยเคาะราคาขายเริ่มต้น 3.79 ล้านบาท ซึ่งก่อนหน้านี้ได้เปิดตัวทาวน์โฮมในสไตล์ดังกล่าว บริเวณย่านเกษตรนวมินทร์ ได้รับการตอบรับดีเกินคาด ล่าสุดขอบุกตลาดอสังหาฯ พื้นที่ย่านบางนา ทำเลแห่งการพัฒนาเมกะโปรเจกต์หลายด้าน ไม่ว่าจะเป็นรถไฟฟ้าความเร็วสูง แผนขยายเส้นทางบีทีเอสสายสีเขียวเข้ม และการเปิดเฟสใหม่ของสนามบินสุวรรณภูมิ อันล้วนแล้วเกื้อหนุนให้ทำเลที่ตั้งโครงการนั้นมีความสนใจมากขึ้น
เจาะลึกข้อมูลโครงการ (ข้อมูล ณ วันที่ 18 เมษายน 2560)
• ชื่อโครงการ: อีโค สเปซ บางนา – วงแหวน (Eco Space Bangna – Wongwaen)
• ผู้พัฒนาโครงการ: บริษัท เอส.แอล.เอสเตท จำกัด
• ทำเลที่ตั้ง: ถนนกาญจนาภิเษก บางนา-ตราด กม.8 ตำบลบางแก้ว อำเภอบางพลี สมุทรปราการ
• เว็บไซต์: theeco-space.com
• โทร: 02-269-9911
รายละเอียดโครงการ (ข้อมูล ณ วันที่ 18 เมษายน 2560)
พื้นที่โครงการ: 18 ไร่ 36 ตร.ว.
ลักษณะโครงการ: ทาวน์โฮม 3 ชั้น จำนวน 179 ยูนิต
กลุ่มเป้าหมาย: คนรุ่นใหม่ วัยทำงาน และกลุ่ม Upgrader
สถานะการก่อสร้าง: ขณะนี้อยู่ในระหว่างก่อสร้างเฟสใหม่ ซึ่งเป็นยูนิต Type B ทั้งหมด โดยจะแล้วเสร็จประมาณเดือนมิถุนายน 2560
ที่จอดรถ: 2 คัน / ยูนิต
สิ่งอำนวยความสะดวก: คลับเฮาส์ ประกอบไปด้วย สระว่ายน้ำ ฟิตเนส สวนหย่อม และสนามเด็กเล่น
ระบบรักษาความปลอดภัย: Access Key Card เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย และ กล้องวงจรปิดตลอด 24 ชั่วโมง
สถานะการขาย: นับจากเปิดขายอย่างเป็นทางการ มียอดขายประมาณ 75% โดยขณะนี้มียูนิตเหลือขายคือ Type C และ D และเฟสใหม่ Type B
เงื่อนไขการชำระเงิน: จอง 30,000 บาท ทำสัญญา 70,000 บาท
ค่าส่วนกลาง: 50 บาท / ตร.ว. (เก็บล่วงหน้า 2 ปี)
ราคาเริ่มต้น: 3.79 ล้านบาท
รูปแบบบ้าน: ทาวน์โฮม สไตล์ลอฟท์
Type A 3 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ 1 ห้องนั่งเล่น 2 ที่จอดรถ พื้นที่ใช้สอย 180 ตร.ม.บนเนื้อที่เริ่มต้น 22 ตร.ว. ขึ้นไป (Sold Out)
Type B 3 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ 1 ห้องนั่งเล่น 2 ที่จอดรถ พื้นที่ใช้สอย 170 ตร.ม.บนเนื้อที่เริ่มต้น 22 ตร.ว. ขึ้นไป (เฟสใหม่)
Type C 3 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ 1 ห้องนั่งเล่น 2 ที่จอดรถ พื้นที่ใช้สอย 180 ตร.ม.บนเนื้อที่เริ่มต้น 22 ตร.ว. ขึ้นไป ราคา 3.99 ล้านบาท
Type D 3 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ 1 ห้องนั่งเล่น 2 ที่จอดรถ พื้นที่ใช้สอย 162 ตร.ม. บนเนื้อที่เริ่มต้น 22 ตร.ว. ขึ้นไป ราคา 3.79 ล้านบาท
รายละเอียดโครงการ
รีวิวภาพรวมโครงการ
เป็นโครงการที่สร้างความแตกต่างจากทาวน์โฮมทั่วไปที่หลายคนคุ้นเคย โดยเน้นดีไซน์ทั้งผังโครงการและตัวบ้านให้อยู่ภายใต้แนวคิด Eco ดังนั้นตั้งแต่ทางเข้า รวมถึงบริเวณเกาะกลางถนน มักถูกโอบล้อมด้วยต้นไม้ใหญ่ ประกอบกับทิศทางของบ้านยังเลือกให้ตั้งอยู่ในฝั่งเหนือและใต้ ซึ่งเป็นมุมหลบแดด ทำให้บ้านไม่ร้อน ประกอบกับมีการติดตั้งแผ่นสะท้อนกันความร้อนใต้หลัง พร้อมทาสีกันความร้อนภายนอก จึงช่วยลดอุณหภมิภายในบ้านได้ถึง 1-2 องศา ทำให้ประหยัดค่าไฟได้ อีกทั้งโดยธรรมชาติของทาวน์โฮมมักพบปัญหาไม่มีพื้นที่ตกแต่งสวน เหตุนี้เองเจ้าของโปรเจกต์จึงเปลี่ยนแปลนชั้นล่างใหม่ ด้วยการปรับพื้นที่ห้องครัวไว้ด้านหน้า เพื่อเพิ่มเนื้อที่ด้านหลังบ้าน ทำให้สามารถจัดแต่งเป็นสวนหย่อมส่วนตัวในบ้านได้ พร้อมออกแบบเพดาน ลักษณะ Double Volume บริเวณโถงนั่งเล่น ทั้งนี้เพื่อให้ตัวบ้านมีความโปร่ง ถ่ายเทอากาศได้ดียิ่งขึ้น
ซุ้มทางเข้าโครงการ ใช้ระบบ Access Key Card ในการผ่านเข้า-ออก ทั้งนี้เจ้าของโปรเจกต์ยังคำนึงถึงความปลอดภัยของผู้อยู่อาศัย จึงได้ออกแบบบริเวณดังกล่าวในลักษณะ Double Security พร้อมติดตั้ง CCTV จุดนี้ด้วย
เมื่อเข้ามาในโครงการ จะพบความร่มรื่น จากการปลูกต้นไม้ใหญ่บริเวณเกาะกลาง ทั้งนี้จะสังเกตเห็้นพื้นที่กำลังก่อสร้างอยู่ทางด้านซ้ายมือ นั่นเป็นยูนิตเฟสใหม่ ซึ่งจะเป็นรูปแบบ Type B ทั้งหมด
Floor Plan ทาวน์โฮม Type B
Floor Plan ทาวน์โฮม Type D
สำหรับรูปแบบทาวน์โฮม Type D เป็นการปรับแบบแปลนบ้าน เพื่อแก้ปัญหาไม่มีพื้นที่สวน ด้วยการปรับห้องครัวมาไว้ด้านหน้า แล้วเพิ่มพื้นที่ใช้สอยหลังบ้าน
Floor Plan ชั้น 2 ของยูนิตทาวน์โฮม Type D จะเป็นพื้นที่ของห้องนอน โดยมีความน่าสนใจที่หน้าต่างสามารถมองเห็นโถงนั่งเล่นชั้น 1 และพื้นที่สวนหลังบ้าน
สำหรับ Floor Plan ชั้น 3 เป็นพื้นที่ของห้องนอนที่ 2 และ 3 เหมือนกับ Type B และยังคงออกแบบให้ห้องน้ำอยู่ด้านนอกห้องนอน เพื่อพื้นที่ใช้สอย
การวางทิศทางโครงการ
ทิศเหนือ: ที่ดินเปล่าของบุคคลอื่น
ทิศใต้: โรงงานกระดาษ และที่ดินเปล่าของบุคคลอื่น
ทิศตะวันออก: วงแหวนรอบนอกตะวันออก
ทิศตะวันตก: หมู่บ้านรัตนธานี เป็นทาวน์เฮ้าส์และบ้านเดี่ยว 2 ชั้น
สิ่งอำนวยความสะดวกภายในโครงการ
ด้วยแนวคิดหลักของโครงการคือ Eco Smart Design ดังนั้นแม้แต่พื้นที่ส่วนกลางอย่างคลับเฮ้าส์ ยังจำเป็นต้องดีไซน์ให้หันในทิศทางลม โดยเน้นการออกแบบอาคารให้มีความโปร่งโล่ง พร้อมนำต้นไม้ใหญ่มาปลูกล้อมรอบ เพื่อให้สัมผัสได้ถึงความร่มรื่น เหมาะแก่การพักผ่อนอย่างแท้จริง ซึ่งภายในคลับเฮ้าส์นี้ ประกอบไปด้วย ฟิตเนส สระว่ายน้ำระบบธรรมดา ศาลานั่งพักผ่อน พร้อมปลั๊กเสียบชาร์ตแบตมือถือ สำหรับผู้เสพติดโลกโซเชียล
คลับเฮ้าส์โครงการ ถูกออกแบบภายใต้แนวคิด Eco เช่นกัน โดยเน้นเรื่องทิศทางลม พร้อมออกแบบให้โปร่ง โล่ง ที่สำคัญเน้นความร่มรื่นด้วยการปลูกต้นไม้ใหญ่รอบคลับเฮ้าส์
ชั้นบนของคลับเฮ้าส์ เป็นส่วนของห้องออกกำลังกาย โดยถูกล้อมรอบด้วยกระจก เพื่อให้ระหว่างออกกำลังกายสามารถชมวิวทิวทัศน์โดยรอบโครงการได้
รีวิวภายในห้องตัวอย่าง
สิ่งที่จะได้รับจากโครงการ
พื้น: ชั้นล่าง กระเบื้องแกรนิตโต้ ขนาด 60 x 60 ซม. ชั้นบน ลามิเนต
ความสูงพื้นจรดเพดาน: ชั้นล่าง บริเวณโถงรับแขก Double Volume 6 เมตร ส่วนชั้น 2 และ 3 2.7 เมตร
ประตู: บานเลื่อนพร้อมกระจกตัดแสงสีเขียว และกรอบอลูมิเนียมสีน้ำตาล
สุขภัณฑ์: American Standard
บรรยากาศของยูนิตตัวอย่าง Type D 3 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ 1 ห้องนั่งเล่น 2 ที่จอดรถ พื้นที่ใช้สอย 162 ตร.ม. บนเนื้อที่เริ่มต้น 22 ตร.ว. ขึ้นไป
สำหรับยูนิต Type D ส่วนของรูปแบบตัวอาคารจะแตกต่างจาก Type อื่น คือมี ระแนงบังพื้นที่วางคอมแพสเซอร์แอร์ทั้งชั้น 2 และ 3 พร้อมปรับส่วนของระเบียงไว้บริเวณห้องนอนมาสเตอร์ชั้น 2 ทั้งนี้ยังคงใช้โทนสีอย่างเทา น้ำตาล มาสร้างความอบอุ่นให้กับตัวบ้าน
ประตูเข้าด้านในบ้าน เป็นแบบบานเลื่อน โดยใช้กระจกตัดแสงสีเขียว เพื่อช่วยในการกรองแสงแดด พร้อมด้วยกรอบอลูมิเนียมสีน้ำตาล ข้อดีนอกจากทำให้บ้านดูดีแล้ว ยังไม่ต้องเจอปัญหาเรื่องการทำความสะอาดเหมือนกับกรอบสีขาว ที่มักพบว่าเป็นคราบเหลืองเมื่อถูกใช้งานเป็นเวลานาน
เมื่อเข้ามาในบ้าน สิ่งแรกที่พบจะเป็นพื้นที่ครัว ซึ่งถูกปรับเปลี่ยนมาไว้ด้านหน้า ทั้งนี้เพื่อเพิ่มพื้นที่ด้านหลังบ้าน ซึ่งหากผู้อยู่อาศัยอยากปรับเปลี่ยนเป็นพื้นที่อื่น สามารถทำได้ ไม่จำเป็นต้องเป็นครัวเหมือนดังบ้านตัวอย่าง
กลับมาดูพื้นที่ครัวที่ถูกปรับมาไว้ส่วนหน้าบ้าน ซึ่งสำหรับบ้านตัวอย่างมีตกแต่งในลักษณะครัวเปิด โดยถือว่าค่อนข้างลงตัวเมื่อมีการวางเคาน์เตอร์ครัวเข้ามุม พร้อมนำโต๊ะกินข้าวขนาด 4 ที่นั่งมาวางแล้ว ไม่รู้สึกอึดอัด หรือเกะกะต่อการเข้า-ออกบ้าน
มุมโต๊ะกินข้าว ที่ถูกจัดวางในคอนเซปท์ Eco โดยนำต้นไม้มาตกแต่ง พร้อมเรียกใช้โต๊ะ เก้าอี้ในโทนสีน้ำตาล อันสามารถสร้างบรรยากาศอบอุ่นให้กับตัวบ้าน
บริเวณพื้นที่ประกอบอาหาร ทางโครงการได้ออกแบบบริเวณดังกล่าวในลักษณะเข้ามุม พร้อมหน้าต่างบานกระทุ้งระบายอากาศและกลิ่นเมื่อทำอาหาร
พื้นที่ครัวในบ้านจริง โครงการได้นำเคาน์เตอร์ครัวมาติดตั้งให้ดู หากมีการปรับพื้นที่บริเวณดังกล่าวเป็นครัวเปิด หรือบางบ้านอาจกั้นด้วยประตูบานเลื่อน เพื่อให้ดูเป็นสัดส่วนมากขึ้น และป้องกันปัญหากลิ่นอาหาร
ถัดจากพื้นที่ครัว เข้ามาด้านในจะเป็นโถงรับแขก ซึ่งบริเวณนี้เพดานจะเป็นลักษณะ Double Volume หรือสูงประมาณ 6 เมตร พร้อมทั้งมีประตูบานเลื่อนเปิดออกไปบริเวณสวนหลังบ้านได้
พื้นที่ด้านหลังบ้านถือว่าค่อนข้างกว้างทีเดียว สามารถจัดเป็นสวนหย่อมส่วนตัว หรือเลิอกเป็นมุมพักผ่อนสำหรับครอบครัวได้ตามต้องการ
กลับมาดูส่วนของโถงรับแขกกันต่อ จะเห็นว่าสำหรับยูนิตตัวอย่างนี้ ทางโครงการได้ตกแต่งด้วยการทำพนังทึบ ที่สามารถเลื่อนเข้า-ออกได้ โดยนอกจากดูเป็นระเบียบเรียบร้อยแล้ว ยังเป็นการเพิ่มพื้นที่ใช้สอยในบริเวณนี้ด้วย
จากรูปเป็นพื้นที่วางทีวีบริเวณโถงรับแขกของบ้านจริง ซึ่งหากไม่ได้มีบานเลื่อนกั้น ก็จะเห็นส่วนของห้องเก็บของและห้องน้ำชั้นล่างดังรูป
บันไดขึ้นชั้น 2 จะมีการติดตั้งหน้าต่างบานกระทุ้งบริเวณชานพักบันไดให้ด้วย เพื่อให้แสงรอดผ่านเข้าบ้านได้ดี
และเมื่อขึ้นมาชั้น 2 จะเห็นว่ามีทางเดิน Corridor เล็กน้อย ไปส่วนของบันไดขึ้นชั้น 3 เนื่องจากเนื้อที่ชั้น 2 บางส่วน ถูกเปิดโล่ง เนื่องจากถูกออกแบบให้โถงรับแขกมีเพดานแบบ Double Volume
มาดูส่วนของพื้นที่ห้องนอนมาสเตอร์ จะเห็นว่าผนังถูกออกแบบให้เป็นแบบหน้าต่างกระจกบาน Fix เพื่อให้สามารถมองเห็นพื้นที่สวนหลังบ้าน และโถงรับแขกชั้นล่าง
พื้นที่บริเวณหน้าต่างบาน Fix สามารถจัดวางเป็นมุมนั่งอ่านหนังสือ หรือดูทีวีได้ โดยอาจติดผ้าม่านเพิ่ม เพื่อให้ดูเป็นส่วนตัวมากขึ้น
บริเวณปลายเตียง สามารถตู้วางทีวีมาติดตั้งเพิ่มเติมได้อย่างไม่อึดอัด โดยแนะนำว่่าควรเลือกขนาดที่มีความยาวพอดีกับผนัง
จากแปลนของห้องนอนมาสเตอร์ มีการออกแบบ Walk in closet บริเวณด้านหน้าน้ำด้วย พร้อมกับหน้าต่างบานกระทุ้ง ที่ช่วยเพิ่มแสงสว่างให้กับห้องนอน
ห้องน้ำภายในยูนิตตัวอย่างนี้ มีการเปลี่ยนส่วนของเคานเตอร์บริเวณอ่างล้างหน้า ซึ่งของจริงจะมีที่เก้บของ แต่จะไม่มีฉากกันอาบน้ำให้
ขึ้นมาชั้น 3 จะพบการแบ่งห้องนอน 2 และ 3 ออกเป็น 2 ฝั่ง โดยสำหรับห้องนอนแรกที่จะไปดูกันนี้ โครงการได้แต่งให้เป็นห้องทำงานได้อย่างลงตัว
บริเวณนี้หากแต่งเป็นห้องนอน เตียงที่สามารถนำมาวางได้จะเป็นขนาด 3 ฟุต เพื่อให้มีพื้นที่เหลือในการเดิน
มาดูห้องน้ำชั้น 3 สำหรับยูนิตตัวอย่างมีการเปลี่ยนเคานเตอร์บริเวณอ่างล้างหน้าอีกเช่นกัน โดยทั้งหมดจะเหมือนกับชั้น 2 คือไม่มีฉากกั้นอาบน้ำให้
มาดูพื้นที่ของห้องนอนที่ 3 ถือว่าค่อนข้างกว้างทีเดียว โดยเมื่อนำเตียงขนาด 5 ฟุตมาวางแล้ว สังเกตว่ายังมีพื้นที่ด้านข้างเตียงให้สามารถจัดวางเป็นโต๊ะทำงานได้
บรรยากาศของยูนิตตัวอย่างของ Type B 3 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ 1 ห้องนั่งเล่น 2 ที่จอดรถ พื้นที่ใช้สอย 170 ตร.ม.บนเนื้อที่เริ่มต้น 22 ตร.ว. ขึ้นไป
สำหรับทาวน์โฮม Type B สังเกตว่าจะแตกต่างกับ Type D ตรงที่ไม่มีระแนงบังคอมแพสเซอร์แอร์ แต่เพิ่มพื้นที่ระเบียงชั้น 2 ให้กว้างขึ้น
สำหรับยูนิตนี้ เมื่อเปิดประตูบานเลื่อนเข้ามาในบ้าน ยังคงพบโถงรับแขกเหมือนกับโครงการทาวน์โฮมทั่วไปอยู่ พร้อมทั้งยังมีเพดานในลักษณะ Double Volume
บริเวณบันไดขึ้นชั้น 2 ข้างที่วางทีวีจะเป็นห้องเก็บของใต้บันได ซึ่งถูกตกแต่งด้วยประตูกระจกบานเลื่อน เพื่อให้เป็นสัดส่วนมากขึ้น
พื้นที่ของบันไดขึ้นชั้น 3 จะเห็นว่าบริเวณราวจับฝั่งที่สามารถมองลงไปโถงรับแขกนั้น สามารถทำเป็นผนังกระจกได้
ส่วนชั้น 2 พื้นที่ของห้องนอนมาสเตอร์ ยังคงออกแบบให้ผนังเป็นกระจกที่สามารถมองทะลุออกมาเห็นพื้นที่ระเบียงชั้น 2
กลับมาดูการตกแต่งห้องนอนมาสเตอร์ในยูนิตตัวอย่าง จะเห็นว่าไม่มีระเบียง มีเพียงกระจกบานเลื่อนเท่านั้น และบริเวณปลายเตียง ถ้าเป็นบ้านจริง ผนังจะเป็นก่ออิฐฉาบปูนธรรมดา
เมื่อขึ้นมาชั้น 3 จะพบพื้นที่ของห้องนอนที่ 2 จากรูปสามารถนำเตียงขนาด 5 ฟุตมาวางได้ โดยยังมีพื้นที่ด้านข้างเหลืือเล็กน้อยให้สามารถวางสตูข้างเตียงเพิ่มเติม
ทําเล & การเดินทาง
ศักยภาพทำเลบางนา-ตราด
ปัจจุบันต้องยอมรับว่าภาพของย่านบางนา-ตราด นั่นมีการเปลี่ยนแปลงไปจากเดิมอย่างมาก โดยเฉพาะมูลค่าที่ดินซึ่งปรับสูงขึ้นถึง 4% และดูเหมือนปัจจัยหลักจะมาจากอานิสงส์ของส่วนต่อขยายรถไฟฟ้าสายสีเขียว จากอ่อนนุช-แบริ่ง ซึ่งปัจจุบันได้เพิ่มเส้นทางออกไปอีกตั้งแต่สำโรง (เพิ่งเปิดใช้อย่างเป็นทางการเมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา) ไปจนสุดสถานีที่บางปู ประกอบกับในอนาคตอันใกล้ยังมีการพัฒนารถไฟฟ้าต่ออีกโดยเพิ่มเส้นทางจากไบเทค-สนามบินสุวรรณภูมิ เหตุนี้เองจึงทำให้ธุรกิจอสังหาฯ ได้ผุดขึ้นในบริเวณดังกล่าวอย่างรวดเร็ว โดยหากอยู่ใกล้กับรถไฟฟ้าบีทีเอสที่เปิดให้บริการอยู่ ณ ขณะนี้ มักเป็นอสังหาฯ ในลักษณะแนวสูงอย่างคอนโดมิเนียม และถ้าหากขยับออกมาทางถนนบางนา-ตราด บริเวณดังกล่าวค่อนข้างหนาแน่นไปด้วยแนวราบ โดยมีราคาเริ่มต้นตั้งแต่ 5-40 ล้านบาท มีทั้งตั้งอยู่ริมถนนและเข้าซอย ซึ่งมีหนึ่งในทำเลโซนบางนา ที่กำลังบูมตลาดแนวราบ นั่นคือบริเวณถนนกาญจนาภิเษก เลียบวงแหวนรอบนอกตะวันออก โดย 2 ฝั่งข้างทางต่างเต็มไปด้วยโครงการบ้านระดับกลาง-หรู ทั้งนี้อาจเป็นเพราะด้วยศักยภาพของการเดินทาง ที่สามารถะลุออกได้หลายเส้นทาง ทั้งอ่อนนุช ลาดกระบัง ถนนเฉลิมพระเกียรติร.9 พัฒนาการ เป็นต้น
ที่ตั้งโครงการ
ถนนกาญจนาภิเษก เลียบวงแหวนรอบนอกตะวันออก เป็นเส้นถนนตัดใหม่ ที่กำลังได้รับความนิยมในการพัฒนาพื้นที่เป็นธุรกิจอสังหาฯ ซึ่งส่วนใหญ่มักเป็นโครงการแนวราบ
โครงการ อีโค สเปซ บางนา – วงแหวน ตั้งอยู่บนทำเลที่กำลังบูมตลาดแนวราบอยู่ ณ ขณะนี้ นั่นคือ บริเวณถนนกาญจนาภิเษก หรือเลียบวงแหวนรอบนอกตะวันออก โดยถนนเส้นนี้สามารถทะลุออกอ่อนนุชหรือสุขุมวิท 77 หรือแม้กระทั่งมุ่งหน้าออกต่างจังหวัดทางภาคตะวันออกได้อย่างสะดวกสบาย ยิ่งไปกว่านั้นยังใกล้กับสนามบินสุวรรณภูมิ (เดินทางราวๆ 10 นาทีถึง) เหตุนี้เองจึงทำให้บริเวณดังกล่าวค่อนข้างเด่นเรื่องศักยภาพการเดินทาง แต่อาจจะมีข้อเสียบริเวณช่วงต้นของถนนนั้นเป็นลักษณะ One Way ประกอบกับเป็นเส้นถนนตัดใหม่ จึงทำให้ไม่ได้พลุกพล่านไปด้วยคอมมูนิตี้มอลล์ ร้านสะดวกซื้อ หรือห้างสรรพสินค้าเหมือนกับบริเวณถนนบางนา-ตราด แต่ในทางกลับกันกับพบสวนอาหารบรรยากาศดี สลับกับหมู่บ้านจัดสรร อย่างร้านวิวดี บึงใหญ่ บึงมารวย มาเติมเต็มความต้องการของผู้อยู่อาศัยบริเวณนี้ ที่อยากดื่มด่ำอาหาร ท่ามกลางบรรยากาศดีๆ
การเดินทาง
ด้วยทำเลที่ตั้งโครงการอยู่ติดถนนกาญจนาภิเษก เลียบวงแหวนรอบนอกศรีรัชตะวันออก ซึ่งถนนหน้าโครงการเป็นถนนแบบสองเลน ซึ่งเป็นลักษณะ One Way และหากต้องการกลับรถให้ใช้ทางลอดถนนวงแหวนรอบนอกศรีรัชตะวันออกไปอีกฝั่ง ซึ่งจะจำกัดความสูงเพียง 1.50 เมตร เพราะฉะนั้นรถหลังคาสูงอย่างกระบะ หรือรถตู้จะไม่สามารถข้ามไปได้
โดยเส้นทางที่มาโครงการสะดวกสุด จะเริ่มต้นจากถนนบางนา-ตราด โดยให้มุ่งหน้าตรงไปเรื่อยๆ ประมาณ 4 กม. และสังเกตเห็นเทสโก้ โลตัส อยู่ด้านซ้ายมือ ให้เตรียมชิดซ้าย เพื่อเข้าถนนกาญจนาภิเษก เลียบวงแหวนรอบนอกศรีรัชตะวันออก ในช่องที่มีป้ายเขียนว่า อ่อนนุช จากนั้นตรงมาประมาณ 900 เมตร จะเจอโครงการอีโค สเปช บางนา – วงแหวน อยู่ซ้ายมือ
หากมาจากเส้นถนนบางนา-ตราด ให้สังเกตป้ายอ่อนนุช จากนั้นเบี่ยงซ้ายเข้าถนนกาญจนาภิเษก เลียบวงแหวนรอบนอกตะวันออก
ถนนเส้นนี้ จะเลียบวงแหวนรอบนอกตะวันออก หากตรงไปเรื่อยๆ จะไปทะลุเส้นอ่อนนุช ทั้งนี้สามารถตัดเข้าถนนลาดกระบัง หรือใช้เส้นทางลัดบริเวณวัดทุ่งเศรษฐีเพื่อเข้าถนนเฉลิมพระเกียรติ ร.9 ได้
สถานที่สำคัญรอบโครงการ
ห้างสรรพสินค้า
เทสโก้ โลตัส สาขาบางนา (ห่างจากโครงการประมาณ 2.5 กม.)
เมกา บางนา (ห่างจากโครงการประมาณ 5.3 กม.)
เซ็นทรัล บางนา (ห่างจากโครงการประมาณ 6.8 กม.)
สถานศึกษา
มหาวิทยาลัยรามคำแหง วิทยาเขตบางนา (ห่างจากโครงการประมาณ 1.8 กม.)
โรงเรียนราชวินิจ บางแก้ว (ห่างจากโครงการประมาณ 6.6 กม.)
โรงพยาบาล
โรงพยาบาลปิยะมินทร์ (ห่างจากโครงการประมาณ 6 กม.)
โรงพยาบาลจุฬารัตน์ 1 (ห่างจากโครงการประมาณ 10 กม.)
บทวิเคราะห์
วิเคราะห์อัตราผลตอบแทนที่จะได้รับ
แม้ยูนิตทาวน์โฮมจะสามารถดัดแปลงเป็นโฮมออฟฟิศ พร้อมปล่อยเช่าให้กับกลุ่มผู้ประกอบการ SME ได้ เนื่องจากมีระดับดีมานด์ค่อนข้างสูง แต่ถึงกระนั้นกลับพบว่าอาจจำเป็นต้องพิจารณาเรื่องทำเลเป็นหลัก โดยหากอยู่ใกล้เมือง หรือโซนธุรกิจในบย่านบางนา จะสามารถปล่อยเชาได้ที่ราคา 15,000 – 20,000 บาท / เดือน สำหรับยูนิตทาวน์โฮม 3 ชั้น แต่ถ้าหากอยู่แทบชานเมือง แนะนำว่าเน้นเกร็งกำไรระยะยาวน่าจะเหมาะกว่า เนื่องจากในอนาคตอันใกล้พื้นที่ย่านบางนา จะได้รับการพัฒนาเมกะโปรเจกต์จากทางภาครัฐและเอกชนหลายด้าน
เปรียบเทียบกับโครงการอื่น
โครงการ | ยูนิต | พื้นที่ใช้สอย(ตร.ม.) | ราคาขาย(ล้านบาท) |
ไอฟีล บางนา | 86 | 194 – 260 | 3.89 |
พฤกษาวิลล์ 76 บางนา-วงแหวน | 286 | 176 | 4.59 |
iField Bangna
iField Bangna ภาพ via ifieldbangna.com
ชื่อโครงการ: ไอฟีล บางนา
ผู้พัฒนาโครงการ: บริษัท นัมเบอร์วัน เฮ้าส์ซิ่ง ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด
ทำเลที่ตั้ง: ถนนกาญจนาภิเษก แขวงดอกไม้ เขตประเวศ กทม.
เว็บไซต์: ifieldbangna.com
รายละเอียดโครงการ
พื้นที่โครงการ: 33 ไร่ 1 งาน 35 ตร.ว.
พื้นที่ใช้สอย: 194 – 260 ตร.ม.
รูปแบบ: ทาวน์โฮม 3-4 ชั้น จำนวน 86 ยูนิต ประกอบด้วย 3 ห้องนอน 3-4 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ
ราคาขายปัจจุบันเริ่มต้น: 3.89 ล้านบาท / ยูนิต
Pruksa Ville 76 Bangna-Wongwaen
Pruksa Ville 76 Bangna-Wongwaen ภาพ via pruksaville.pruksa.com
ชื่อโครงการ: พฤกษาวิลล์ 76 บางนา-วงแหวน
ผู้พัฒนาโครงการ: บริษัท พฤกษา เรียลเอสเตท จำกัด (มหาชน) : PRUKSA
ทำเลที่ตั้ง: ถนนบางนา-ตราด กม.10 ตำบลบางพลีใหญ่ อำเภอบางพลี สมุทรปราการ
เว็บไซต์: pruksaville.pruksa.com
รายละเอียดโครงการ
พื้นที่โครงการ: 28 ไร่ 1 งาน 78.6 ตร.ว.
พื้นที่ใช้สอย: 176 ตร.ม.
รูปแบบ: ทาวน์โฮม 3 ชั้น จำนวน 286 ยูนิต ประกอบด้วย 3 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ
ราคาขายปัจจุบันเริ่มต้น: 4.59 ล้านบาท / ยูนิต
สรุป
บทสรุป
• ตัวโครงการชูจุดขายด้วยแนวคิด Eco
• ทาวน์โฮมถูกดีไซน์ใหม่ ด้วยการปรับผังบ้าน เพิ่มพื้นที่ด้านหลัง เพื่อสามารถดัดแปลงเป็นสวนส่วนตัว
• วัสดุทั้งหมดที่ใช้มีคุณสมบัติฉนวนกันความร้อน ช่วยประหยัดทำงาน ทำให้บ้านเย็น
• ที่ตั้งโครงการอยู่บนถนน ที่สามารถเชื่อมต่อได้หลายเส้นทาง คือ อ่อนนุช ถนนเฉลิมพระเกียรติร.9 ลาดกระบัง และสุวรรณภูมิ
• ถนนทางเข้าโครงการมีลักษณะเป็น One Way ดังนั้นเส้นทางที่สะดวกสุดในการมาโครงการคือฝั่งถนนบางนา-ตราด
สนใจ บ้าน ในโครงการนี้? เลือกชม รายการประกาศ ราคาโดนใจ