พาร์ค 168 นพรัตน์ รามอินทรา (Park 168 Nopparat Ramindra) จาก บริษัท แอล.พี.เอ็น.ดีเวลลอปเมนท์ จํากัด (มหาชน) คอนโดมิเนียม High Rise 25 ชั้น 3 อาคาร ห้องชุดพักอาศัยรวม 1,224 ยูนิต อาคารจอดรถและสระว่ายน้ำ สูง 8 ชั้น 1 อาคาร แต่ละอาคารมีห้องพักอาศัยเพียงอาคารละ 408 ยูนิต มีความเป็นส่วนตัว ไม่แออัด ใกล้รถไฟฟ้าสายสีชมพู สถานีนพรัตนราชธานี ราคาเริ่มต้น 1.69 ล้านบาท
สนใจ คอนโดฯ ในโครงการนี้? เลือกชม รายการประกาศ ราคาโดนใจ
ปัจจุบันถึงแม้ตลาดอสังหาริมทรัพย์จะซบเซาลงไปบ้างตามสภาพเศรษฐกิจไทย แต่ในเซกเมนต์ของคอนโดมิเนียมระดับท็อปเอนด์ก็ยังเป็นอีกหนึ่งช่องทางในการกระจายเม็ดเงินสำหรับนักลงทุน ซึ่งทำเลที่มีความโดดเด่นและเป็นที่หมายตาของกลุ่มเป้าหมายระดับบนก็คงหนีไม่พ้นทำเลแนวรถไฟฟ้าสุขุมวิท โดยเฉพาะบริเวณสถานีรถไฟฟ้าพร้อมพงษ์ ทำเลที่มีความหลากหลายของรูปแบบอสังหาริมทรัพย์ ทั้งศูนย์การค้าขนาดใหญ่ซูเปอร์ลักซ์ชัวรี่ โรงแรมระดับห้าดาว ตลอดจน บ้านหรู ลักซ์ชัวรี่คอนโดมิเนียม จนไปถึง คอนโดมิเนียมระดับ ซูปเปอร์ลักซ์ชัวรี่เลยทีเดียว แต่ด้วยพื้นที่แนวรถไฟฟ้าส่วนใหญ่บริเวณนี้เองได้ถูกพัฒนาไปจนหมดแล้ว พื้นที่ข้างเคียงในซอยอย่างสุขุมวิท 39 จึงได้รับอานิสงส์จากรัศมีความเจริญด้านนอกตรงนี้ไปเต็มๆ เนื่องจากเป็นซอยที่อยู่ใกล้กับสถานีรถไฟฟ้าพร้อมพงษ์มากที่สุด บวกกับภาษีของทำเลที่สามารถเชื่อมต่อทะลุกันหมดตั้งแต่บริเวณซอยสุขุมวิท 21 ซอยสุขุมวิท 23 นับตั้งแต่ถนนอโศก – มนตรี ไปจนถึงสุขุมวิท 49 และเชื่อมต่อสู่ซอยทองหล่อหรือสุขุมวิท 55 ได้อย่างไม่ยากเย็น
โดยหนึ่งในผู้พัฒนาที่เข้ามาจับตลาดคอนโดมิเนียมระดับลักซ์ชัวรี่ในซอยสุขุมวิท 39 ก็คือ บริษัท แอสเซท ไบร์ท จำกัด (มหาชน) เจ้าของโครงการ ABC World อาคารมิกซ์ยูสแห่งใหม่บนย่านรามคำแหงที่เพิ่งเปิดตัวไปไม่นาน และเลือกตบเท้าเข้ามาจับธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ที่อยู่อาศัยกับโครงการ อโบฟ สุขุมวิท 39 คอนโดมิเนียมไฮไลท์ระดับพรีเมียม 25 ชั้น ที่ประกอบไปด้วยยูนิตที่พักอาศัยที่มีพื้นที่ใช้สอยขนาดใหญ่ตั้งแต่ 286-341 ตารางเมตร เพียง 41 ยูนิตเท่านั้น ถือเป็นโปรดักส์ใหม่ที่มีความเป็นส่วนตัวสูงเหมาะกับกลุ่มลูกค้าระดับลักซ์ชัวรีทั้งกลุ่มชาวไทยและต่างชาติที่ต้องการซื้อเพื่ออยู่อาศัยเอง และลงทุนในระยะยาว ซึ่งปัจจุบันโครงการสร้างเสร็จพร้อมอยู่แล้ว โดยมีราคาเริ่มต้นที่ 45 ล้านบาท ณ ปัจจุบัน
เจาะลึกข้อมูลโครงการ
ชื่อโครงการ: อโบฟ สุขุมวิท 39 (ABOVE Sukhumvit 39)
ผู้พัฒนาโครงการ: บริษัท แอสเซท ไบร์ท จำกัด (มหาชน) : ABC
ตัวแทนการขาย: บริษัท เน็กซัส พรอพเพอร์ตี้ คอนซัลแทนท์ จำกัด
ทำเลที่ตั้ง: เลขที่ 122 ซอยพร้อมจิต ถนนสุขุมวิท แขวงคลองตันเหนือ เขตวัฒนา กรุงเทพมหานคร
เว็บไซต์: http://www.above39.com
โทร: 098-281-0592
รายละเอียดโครงการ (ข้อมูล ณ วันที่ 20 ตุลาคม 2559)
พื้นที่โครงการ: 1-0-66 ไร่
ลักษณะโครงการ: อาคารพักอาศัยสูง 25 ชั้น 41 ยูนิต
กลุ่มเป้าหมาย: ระดับบน, นักลงทุนทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ
สถานะการก่อสร้าง: สร้างเสร็จพร้อมอยู่
ลิฟท์: ลิฟท์โดยสาร มิตซูบิชิ จำนวน 2 ตัว
ที่จอดรถ: 140 คัน (โครงการมอบที่จอดสำหรับหนึ่งยูนิต จำนวน 3 – 4 คัน แล้วแต่ขนาดพื้นที่ใช้สอยของยูนิต ไม่ฟิกซ์ที่จอด)
สิ่งอำนวยความสะดวก: สระว่ายน้ำ, ห้องซาวน่า, ห้องฟิตเนส, สตรีม
ระบบรักษาความปลอดภัย: ระบบ CCTV / Access Card, ระบบรักษาความปลอดภัยตลอด 24 ชม.
สถานะการขาย: เปิด Pre-Sale เมื่อ 9-11 กันยายน 2559, เปิดตัวโครงการเมื่อ 22 กันยายน 2559
เงื่อนไขการชำระเงิน
จอง: 100,000 บาท
ทำสัญญา: 5% ของราคาจะซื้อจะขาย (ภายใน 15 วัน นับจากวันจอง)
ดาวน์: 10% ของราคาจะซื้อจะขาย (แบ่งเป็นงวดละ 5% จำนวน 2 งวด)
โอนกรรมสิทธิ์: 85% ของราคาจะซื้อจะขาย
เงินกองทุนสะสม: 1,000 บาท ต่อ ตารางเมตร
ค่าส่วนกลาง: 80 บาท ต่อ ตารางเมตร ต่อ เดือน
ราคาเริ่มต้น: 45 ล้านบาท
ราคาเฉลี่ย: 150,000 บาทต่อตารางเมตร
รูปแบบห้อง
Luxury ขนาดพื้นที่ใช้สอย 287 ตารางเมตร 3 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ 1 ห้องเอนกประสงค์
Penthouse ขนาดพื้นที่ใช้สอย 341 ตารางเมตร 4 ห้องนอน 4 ห้องน้ำ 1 ห้องเอนกประสงค์
*ไม่มีภาพตัวอย่าง
รายละเอียดโครงการ
รีวิวภาพรวมโครงการ
โครงการ ABOVE Sukhumvit 39 เป็นคอนโดมิเนียมใหม่ ภายในซอยสุขุมวิท 39 ปัจจุบันสร้างเสร็จพร้อมอยู่แล้ว ถือเป็นหนึ่งในโครงการคอนโดมิเนียมไฮไลท์ระดับไฮเอนด์ที่มีความสูง 25 ชั้น แต่เน้นความเป็นส่วนตัว และพื้นที่ใช้สอยขนาดใหญ่เพียง 41 ยูนิต ดีไซน์ภายนอกอาคารใช้สีเทา ขาว เน้นความเรียบหรู พื้นที่รอบโครงการถึงแม้จะไม่กว้างมาก เนื่องจากโครงการนำพื้นที่ส่วนใหญ่ไปเน้นให้กับ Space ของพื้นที่ใช้สอยในยูนิต และที่จอดรถ แต่โดยรอบภายนอกอาคารเองก็ยังเต็มไปด้วยสวนหย่อมเล็กๆ ตามจุดสำคัญ ทำให้ภายนอกโครงการดูร่มรื่น
ทาง – เข้าออกโครงการแบ่งเป็นสองประตู มี รปภ.คอยดูแลรักษาความปลอดภัยตลอด 24 ชม. ทางขึ้นลานจอดรถอยู่บริเวณชั้นล่าง เป็นทางลาดขึ้นจอดรถแบบสวนทางขึ้น – ลง สามารถรองรับที่จอดได้ 140 คัน ถัดมาจากทางเข้าที่จอดรถเป็น Grand Lobby ขนาดใหญ่ ตกแต่งด้วยกระจกเงาด้านข้าง ตีกรอบผนังด้วยกระจกใส ผนังสูงโปร่ง โดยมีลิฟท์โดยสารจำนวน 2 ตัว มีระบบควบคุมด้วยการ์ดเฉพาะชั้น หนึ่งชั้นมี 2 ยูนิตเท่านั้น ในเรื่องของส่วนกลางบริเวณชั้น 5 จะเป็นพื้นที่ของส่วนกลาง สระว่ายน้ำ ฟิตเนส ห้องซาวน่า สตรีม โดยที่ชั้นนี้จะมียูนิตที่พักอาศัยเพียงหนึ่งยูนิตเท่านั้นคือห้อง Penthouse ที่ใหญ่ที่สุดและแพงที่สุดของโครงการ
ภาพรวมทั้งหมดของโครงการมีจุดเด่นในเรื่องของความเป็นส่วนตัวสูง และสเปซห้องที่มีความกว้าง เน้นฟังก์ชั่นการใช้งานของกลุ่มครอบครัวใหญ่ตั้งแต่ 4-5 คนขึ้นไป โดยเปิดโอกาสให้กลุ่มผู้อยู่อาศัยสามารถตกแต่งจัดสรรพื้นที่ขนาดใหญ่ให้เหมาะสมตามขนาดครอบครัวได้ง่าย ทั้ง Type ห้องแบบ 3 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ ที่มีห้องอเนกประสงค์พร้อมห้องน้ำในตัว หรือ Type ห้องแบบ 4 ห้องนอน 4 ห้องน้ำ ที่เน้นพื้นที่ใช้สอยของทุกห้องที่กว้างกว่าเดิม หากใครที่เคยผ่านมาบริเวณโครงการจะเห็นว่าด้านข้างโครงการที่เป็นตึก Bio House มีความสูงพอสมควร เทียบได้กับความสูงโครงการ ตรงนี้ไม่ต้องคิดมากในเรื่องของการเทควิว เพราะยูนิตภายในโครงการจะหันหน้าไปทางหน้าโครงการ และหลังโครงการเท่านั้น ส่วนเรื่องของด้านข้างที่เป็นตึก Bio House จะได้รับผลกระทบเพียงส่วนกลางสระว่ายน้ำที่ชั้น 5 โดยโครงการทำรั้วกั้นบริเวณด้านนี้เป็นพุ่มหญ้าสูงกว่า 1.5 ม. ที่สามารถให้ความร่มรื่นและความเป็นส่วนตัวบนพื้นที่ส่วนกลางได้
ภาพรวมของตัวอาคาร จะเห็นว่าโครงการเน้นความเป็นส่วนตัวเรียกได้ว่าหากยืนอยู่บนระเบียง นอกจากวิวแล้วจะมองไม่เห็น ยูนิตอื่นๆ เลย
ชั้นล่างสุดเป็นในส่วนของล็อปบี้โครงการตกแต่งผนัง และพื้นด้วยหินอ่อนธรรมชาติ ปูพรมแดงเป็นทางเดินยาวไปสู่โถงลิฟท์ด้านใน รู้สึกได้ถึงความหรูหราและวัสดุคุณภาพ
อีกหนึ่งส่วนของชั้นล่างเป็นพื้นที่รับแขก มีชุดโซฟาขนาดใหญ่ 4-5 ชุด ผนังตกแต่งด้วยกระจกบานใหญ่ทำให้ล็อบบี้ดูมีความกว้างขวาง และสบายตาสำหรับแขกที่มาเยือน
โถงลิฟท์แบ่งออกเป็นลิฟท์โดยสาร 2 ตัว เป็นลิฟท์ความเร็วขนาดมาตรฐาน อัตราส่วนลิฟท์อยู่ที่ 20 ยูนิตต่อลิฟท์หนึ่งตัว
ภายในชั้น 5 จะมียูนิตที่พักอาศัยเพียงหนึ่งยูนิตคือห้อง Penthouse ขนาด 4 ห้องนอน 4 ห้องน้ำ และเป็นห้องที่มีพื้นที่ใช้สอยมากที่สุดในโครงการ
พื้นที่ส่วนกลางกลางแจ้งฝั่งที่ติดกับตึก Bio House โครงการสร้างรั้วสูงพร้อมตกแต่งด้วยพุ่มไม้สูงขึ้นมาเพื่อป้องกันระดับสายตาจากตึกด้านข้างได้ระดับหนึ่ง
การวางทิศทางโครงการ
ทิศใต้ของโครงการ: ด้านหน้าโครงการเป็นถนนเดินรถทางเดียว มุ่งหน้าไปทางซอยสุขุมวิท 23 และสามารถวนกลับเข้ามาที่ซอยสุขุมวิท 39 ได้ไม่ยาก ในเรื่องของวิวด้านนี้ ฝั่งตรงข้ามจะเป็นวิวเคลียร์ มีบ้านเดี่ยวสูงไม่เกิน 2 ชั้น ที่ดินเปล่า เขยิบออกมาเยื้องๆ กับโครงการมีตึกอาคารสูงแซมบ้างเล็กน้อยแต่ไม่ได้บดบังทัศนียภาพในระยะสายตา
ทิศเหนือของโครงการ: ทิศเหนือเป็นวิวเคลียร์เช่นกัน มองจากมุมดาดฟ้าจะเห็นพื้นที่เปล่าขนาดใหญ่ที่ยังไม่ได้ใช้งาน ณ ปัจจุบันยังเป็นพื้นที่ว่างเปล่า
ทิศตะวันตกของโครงการ: ทิศนี้ในระยะ 300 ม. มีอาคารที่อยู่อาศัยสูงบดบังวิวทิศนี้ แต่ไม่มีผลต่อยูนิตที่อยู่อาศัย เนื่องจากโครงการมียูนิตที่หันไปเฉพาะด้านหน้าและด้านหลังโครงการเท่านั้น ชิดกับรั้วโครงการ เป็นบ้านเดี่ยวสูงไม่เกิน 2 ชั้น ไม่มีเสียงรบกวน
ทิศตะวันออกของโครงการ: ชิดกับรั้วโครงการด้านนี้เป็นตึก Bio House ความสูงของระดับชั้นพอๆ กับโครงการ วิวทิศนี้ถูกบล็อคมองไม่เห็นอะไรเลย แต่ด้วยยูนิตของโครงการไม่ได้หันไปทางด้านนี้ จึงไม่มีผลอะไรต่อผู้อยู่อาศัยนัก ในเรื่องของส่วนกลางชั้น 5 ความเป็นส่วนตัวอาจจะลดน้อยลง เพราะสำนักงานด้านบนมีบานกระจกที่หันเข้ามาที่โครงการ
Unit Layout
ภาพแปลนจริงสำหรับแบบห้อง 3 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ Type A พื้นที่ใช้สอย 287 ตารางเมตร
ภาพแปลนจริงสำหรับแบบห้อง 3 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ Type B ขนาดพื้นที่ใช้สอย 287 ตารางเมตร
สิ่งอำนวยความสะดวกภายในโครงการ
Lobby, Mailbox
สระว่ายน้ำระบบคลอรีน
ฟิตเนส
ซาวน่า
สตรีม
สวนพักผ่อนชั้นดาดฟ้า
Perfect Smart Home หรือระบบบ้านอัจฉริยะ
Access Card Control
CCTV
ระบบรักษาความปลอดภัยตลอด 24 ชม.
รีวิวภายในห้องตัวอย่าง
สิ่งที่จะได้รับจากโครงการ
พื้น
พิ้นห้อง: ไม้ปาร์เก้ ไม้แดง หนา 1.5 ซม. ขัดและทำผิวเคลือบยูริเทน
พื้นห้องน้ำ: พื้นกระเบื้องเซรามิค ขนาด 60 x 60 ซม.
พื้นระเบียง: พื้นกระเบื้องเซรามิคลายไม้ ขนาด 20 x 120 ซม. (Border ผิวทรายล้าง)
ผนัง
ผนังกั้นระหว่างห้อง: ก่ออิฐมวลเบาฉาบปูนเรียบทาสี
ผนังกั้นภายในห้อง: ก่ออิฐมวลเบาฉาบปูนเรียบทาสี
ผนังห้องน้ำ: ก่ออิฐมวลเบาฉาบปูเรียบ กรุด้วยแผ่นหินธรรมชาติสีดำ
พื้นจรดเพดานความสูง: 2.30 ม.
เครื่องปรับอากาศ: แอร์เป็นแบบซ่อนผนังของ Daikin โครงการมอบให้ตามขนาดห้อง
ห้องโถง: ขนาด 36000 BTU
ห้องรับประทานอาหาร: ขนาด 36000 BTU
ห้องนอนใหญ่: ขนาด 36000 BTU
ห้องนอนที่ 2: ขนาด 24000 BTU
ห้องนอนที่ 3: ขนาด 24000 BTU
สุขภัณฑ์: อ่างล้างหน้า พร้อมกระจกเงา เทมเปอร์ หนา 8 มม., โถสุขภัณฑ์, ฝักบัว และก็อกน้ำ ของยี่ห้อ Cotto
ชุดครัว: เครื่องดูดควันและเตาไฟฟ้า ของยี่ห้อ Mex
ห้องตัวอย่าง Luxury ขนาดพื้นที่ใช้สอย 287 ตารางเมตร 3 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ 1 ห้องเอนกประสงค์
เมื่อเปิดประตูเข้ามาจะเจอพื้นที่สี่เหลี่ยมหรือ Floyer ของห้อง พื้นที่มีขนาดกว้างจนสามารถจัดมุมรับแขก หรือมุมอเนกประสงค์อื่นๆ ได้เลย
ถัดมาด้านข้างประตูทางเข้ามีสวิทซ์ไฟระบบสัมผัส โครงการมอบระบบสัญญาณกันขโมยให้ พร้อมไอแพดที่สามารถควบคุมระบบสัญญาน ระบบไฟภายในห้องทั้งหมดได้
เมื่อเดินออกมาจาก Floyer แล้ว จะเป็นในส่วนของพื้นที่ใช้สอยภายในห้องขนาดยาวแบ่งออกเป็นห้องนั่งเล่น ห้องรับประทานอาหาร และห้องครัว
ฝั่งตรงข้ามจะเป็นชั้นวางทีวี สามารถติดตั้งทีวีแบบแขวนผนังตั้งแต่ขนาด 43-60 นิ้วโดยยังมองเห็นภาพบนทีวีได้ชัดเจนในระยะสายตา
พื้นห้องเป็นไม้ปาร์เก้ ซึ่งเป็นวัสดุปูพื้นที่มีราคา บริเวณห้องนั่งเล่นเชื่อมต่อกับระเบียงใหญ่ของห้อง แอร์ทุกจุดภายในห้องเป็นแบบซ่อนฝ้าตามภาพ
ประตูบานเลื่อนกั้นระหว่างห้องนั่งเล่นและระเบียงเป็นบานกระจกสูงจากพื้นจรดผนังสูงโปร่ง วงกบอลูมิเนียมเคลือบสีดำ เป็นประตูเลื่อนสองตอน พื้นระเบียงถูกแบ่งแยกออกจากพื้นห้องชัดเจนใช้วัสดุกระเบื้องเซรามิคขนาด 20 x 120 ซม. เป็นวัสดุผิวหยาบกันลื่น
ด้านนอกระเบียงมีขนาดกว้างมาก สามารถจัดสรรมุมพักผ่อนเป็นชุดโซฟา 2-3 ที่นั่งได้เลย ถัดจากระเบียงไปจะมีชานห้องยื่นออกไปเป็นในส่วนของที่วางคอมเพรสเซอร์แอร์
กลับมาในห้อง ถัดจากพื้นที่นั่งเล่นเป็นห้องน้ำกลาง โดยกลางห้องโครงการไม่ได้ตกแต่งเฟอร์นิเจอร์เพิ่ม แต่จากภาพทำให้เห็นว่ายังเหลือพื้นที่ที่สามารถจัดสรรเป็นมุมอเนกประสงค์อื่นๆ ได้อีกมาก
ภายในห้องน้ำประกอบด้วยกระจกใสบานใหญ่ และอ่างล้างหน้าของ Cotto ตกแต่งบานกระจกด้วยอลูมิเนียมสีคอปเปอร์ให้ความหรูหราตามภาพ
จากมุมนี้จะเห็นว่าเคาท์เตอร์อ่างล้างหน้าที่โครงการมอบให้มีพื้นที่ใช้สอยสำหรับวางอุปกรณ์ด้านข้างอ่างเยอะมาก
ถัดมาเป็นในส่วนของโถสุขภัณฑ์โครงการมอบสุขภัณฑ์อิเล็กทรอนิกส์แบบญี่ปุ่นให้ตามภาพ ด้านข้างผนังมีแผงควบคุม พร้อมปลั๊กไฟสำหรับเสียบใช้งาน
พื้นที่ต่อมาเป็นพื้นที่ที่โครงการจัดให้เป็นห้องรับประทานอาหารขนาดใหญ่ เชื่อมต่อกับระเบียงใหญ่ที่หันหน้าไปอีกด้าน ถัดไปด้านข้างจะเป็นแพนทรี่และครัวแบบเปิด ซึ่งผู้อยู่อาศัยสามารถต่อเติมผนังหรือประตูกั้นเพื่อแยกส่วนกันได้
ไอเดียชุดโต๊ะรับประทานอาหารที่โครงการจัดไว้ให้ เป็นชุดโต๊ะขนาด 8 คน และยังเหลือพื้นที่รอบโต๊ะให้เตรียมอาหารได้สบาย
โครงการติดตั้งระบบไฟ และระบบน้ำ สำหรับระเบียงทุกระเบียงให้เรียบร้อย แต่ระเบียงของห้องรับประทานอาหารสำหรับห้องตัวอย่างนี้จะเชื่อมต่อกับระเบียงของ Master Bedroom ซึ่งหากจะดัดแปลงให้เป็นส่วนเดียวกันก็สามารถทุบได้ไม่มีผลต่อโครงสร้างรวมภายในห้อง
มาที่ห้องครัวเปิด โครงการมอบไอซ์แลนด์ขนาดใหญ่สำหรับจัดวางอาหาร พร้อมชุดเคาท์เตอร์ครัว เครื่องใช้ไฟฟ้า ตู้เย็น เตาอบ ไมโครเวฟให้ เป็นออฟชั่นให้ผู้อาศัยเลือก หรืออยากจะตกแต่งเองก็ได้
พื้นห้องครัวปูด้วยกระเบื้องเซรามิคลายไม้ ผิวมัน สำหรับการทำความสะอาดที่ง่าย ถัดไปจากครัวเป็นห้องอเนกประสงค์
เคาท์เตอร์ครัวที่โครงการมอบให้เป็นเฟอร์นิเจอร์แบบบิวท์อิน ท็อปด้วยหินสังเคราะห์ หน้าบานของชั้นใต้ซิงค์ กับชั้นวางของด้านบนเป็นบานลามิเนตทำสี
โครงการมอบเตาไฟฟ้าของ Mex ขนาด 4 หัวให้ เป็นเตาไฟฟ้าระบบสัมผัส พร้อมที่ดูดอากาศด้านบนเป็นของ Mex เช่นกัน
จากในภาพจะเป็นพื้นที่เตรียมครัวกลางเคาท์เตอร์ครัว อาจจะเหลือพื้นที่ใช้สอยไม่มาก แต่ก็ยังสามารถประกอบอาหารได้สบายๆ
มาที่ห้องอเนกประสงค์ โครงการเลือกใช้ประตูไม้จริงทาสีขาว มีบานเกร็ดกระจกใสที่สามารถเปิดปิดได้จากด้านใน โครงการตกแต่งเป็นไอเดียแบบห้องจริงจะเป็นผนังทึบ
โครงการจัดห้องนี้ให้เป็นห้องนอนของแม่บ้าน แบบห้องจริงจะเป็นห้องเปล่าสามารถตกแต่งต่อเติมเพิ่มขนาดได้โดยไม่มีผลกระทบกับโครงสร้าง
ฝั่งตรงข้ามห้องอเนกประสงค์เป็นในส่วนของพื้นที่ซักล้าง โครงการออกแบบให้พื้นของโซนซักล้างลดระดับจากพื้นห้องเพื่อป้องกันน้ำไหลเข้าสู่ห้อง
บรรยากาศโดยรวมของพื้นที่ซักล้างที่โครงการจัดสรรให้เป็นไอเดีย ประกอบไปด้วย เครื่องซักผ้า พื้นที่สำหรับวางคอมเพรสเซอร์แอร์ ห้องสำหรับวางงานระบบ และยังมีประตูเชื่อมต่อออกไปสู่ทางหนีไฟจากบนห้องได้เลย
ตรงข้ามกับ Floyer ของห้อง จะเป็นทางเชื่อมไปสู่ห้องโซนพักผ่อนแบ่งออกเป็น Master Bedroom ห้องนอนที่ 2 และห้องนอนที่ 3 ทางเดินมีขนาดกว้างประมาณ 1.5 ม. สามารถเดินเข้าออกห้องนอนได้สบาย
กลอนของ Master Bedroom เป็นชนิดเดียวกับกลอนประตูห้องอื่นๆ ตกแต่งกลอนประตูด้วยสีรมควัน ให้เหมาะสมกับตัวห้อง
ภายในห้องนอนถูกแบ่งออกเป็น 4 ส่วนหลักๆด้วยกันคือ โซนพักผ่อน ระเบียงห้องนอน ห้องแต่งตัว และห้องน้ำในตัว
พื้นห้องนอนปูด้วยพื้นไม้ปาร์เก้เหมือนพื้นห้อง จากมุมนี้จะเห็นว่าโครงการเลือกใช้เตียงขนาดคิงไซส์ แล้วยังเหลือพื้นที่ปลายเตียงให้วางโซฟานั่งดูทีวีได้แบบไม่เสียสายตา
ระเบียงของห้องนอนใหญ่ไม่กว้างมาก แต่สามารถทุบผนังกั้นไปเชื่อมต่อสู่ระเบียงห้องรับประทานอาหารได้ แล้วแต่จะจัดสรร
บริเวณด้านข้างเตียงจะมีแผงอุปกรณ์สำหรับควบคุมไฟภายในห้องทั้งหมด รวมถึงอุณหภูมิของแอร์ภายในห้อง สะดวกสบายเวลาเข้านอน ไม่จำเป็นต้องลุกไปปิดเปิดสวิทซ์ไฟ
จากมุมบนเตียงจะเห็นผนังกั้นห้องที่อยู่ปลายเตียงโครงการจัดสรรให้เป็นชั้นวางทีวีขนาดใหญ่ สามารถเลือกติดทีวีขนาด 60-80 นิ้ว นอนดูหนังบนเตียงได้สบาย
ถัดมาจากห้องนอนเป็นในส่วนของห้องแต่งตัวซึ่งโครงการออกแบบผนังกั้นห้องไว้กึ่งกลางทำให้มีทางเข้าจากห้องนอนได้สองทาง ผนังด้านหลังชั้นวางทีวีโครงการจัดสรรให้เป็นโต๊ะเครื่องแป้งแบบยาว สามารถใช้งานได้สองคนในเวลาเดียวกัน หากผู้อยู่อาศัยจะกั้นผนังเต็มติดประตูกั้นส่วนทำเป็น Walk in Closet ก็สามารถทำได้ในส่วนนี้
บรรยากาศโดยรวมของห้องแต่งตัวที่โครงการจัดสรรไว้ให้เป็นไอเดีย นอกจากนั้นบริเวณนี้ยังเชื่อมต่อกับระเบียงเล็กด้านนอกตามภาพที่เห็นด้วย ส่วนถัดไปด้านในจะเป็นห้องน้ำในตัวของ Master Bedroom
โครงการติดตั้งเคาท์เตอร์อ่างล้างหน้าแบบบิวท์อินให้ มีชั้นเก็บของใต้อ่าง และเป็นเคาเตอร์แบบมีอ่างล้างหน้าแบบ His & Her พร้อมกระจกเงาบานใหญ่ และก็อกน้ำแบบผสมที่เลือกระหว่างน้ำเย็นและน้ำอุ่นได้
โถสุขภัณฑ์ในห้องน้ำของห้อง Master Bedroom เป็นรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์ สามารถสั่งงานโดยเพียงใช้นิ้วสัมผัสปุ่มกด
อ่างอาบน้ำเป็นขนาดไม่ใหญ่มาก สามารถลงไปแช่ได้เพียงคนเดียว โครงการมอบทั้งก็อกน้ำรองอาบแบบหัวผสม และฝักบัวให้ ด้านข้างมีชั้นวางอุปกรณ์อาบน้ำตามภาพ
มาที่ห้องนอนที่ 2 เป็นห้องที่มีขนาดพื้นที่ใช้สอยรองลงมาจากห้อง Master Bedroom เป็นห้องแนวยาว โครงการจัดสรรให้เป็นห้องนอนแบบเตียงคู่
เตียงที่โครงการเลือกใช้เป็นเตียงขนาด 3.5 นิ้ว หรือเตียงเดี่ยว วางคู่กัน โดยเว้นพื้นที่รอบเตียงไว้ และแทรกด้วยชั้นข้างเตียง
ฝั่งปลายเตียง ผนังถูกออกแบบให้เป็นตู้เสื้อผ้าแบบบิวท์อิน และชั้นวางทีวี จะเห็นว่าบริเวณชั้นวางทีวีสามารถปรับเปลี่ยนขนาดหน้าจอให้ใหญ่ขึ้นได้ตามเหมาะสม
พื้นที่ด้านข้างเตียงโครงการออกแบบ Layout ห้องให้มีผนังยื่นออกมา สำหรับวางตู้ค้างเตียง และเป็นพื้นที่เชื่อมต่อสู่ห้องน้ำ
ห้องน้ำในตัวของห้องนอนที่ 2 มีขนาดไม่กว้างมาก ประกอบด้วยอ่างล้างหน้า โถสุขภัณฑ์แบบอิเล็กทรอนิกส์ และห้องอาบน้ำ ที่จัดวางอย่างลงตัว
เนื่องจากห้องอาบน้ำของห้องนอนที่ 2 ไม่ได้มีฟังก์ชันของอ่างอาบน้ำหรือส่วนเปียกอื่นๆ เพิ่มเติม โครงการจึงออกแบบให้ห้องอาบน้ำมีความกว้างเป็นพิเศษ
ระเบียงมีขนาดไม่กว้างมาก โครงการน่าจะจัดสรรในส่วนนี้ให้เป็นพื้นที่ของคอมเพรสเซอร์แอร์ แต่ก็สามารถออกมายืนชมวิว รับลมได้เช่นกัน
ด้วย Layout ของห้องนอนที่เป็นรูปสี่เหลี่ยมจตุรัสจึงทำให้โครงการออกแบบจัดสรรไอเดียได้ไม่ยาก เมื่อเปิดประตูเข้ามาจะเห็นโต๊ะทำงานหรือโต๊ะเครื่องแป้งขนาดใหญ่อยู่บริเวณซ้ายมือ
ถัดมาจากมุมโต๊ะหนังสือโครงการยังเว้นที่ว่างรอบเตียงให้สามารถใช้งานได้สะดวก ตกแต่งข้างเตียงด้วยชั้นข้างเตียงขนาดไม่ใหญ่มาก ด้านข้างมีแผงอุปกรณ์สำหรับควบคุมไฟและอุณหภูมิติดไว้ให้เหมือนกับห้องนอนอื่นๆ
ด้านในเป็นในส่วนของเตียงนอน ชั้นวางทีวี ตู้เสื้อผ้า และห้องน้ำ รวมทั้งส่วนเชื่อมต่อกับระเบียงห้องนอน
โครงการจัดสรรเตียงขนาด 5 ฟุต ไว้ให้เป็นไอเดีย แต่จากพื้นที่รอบเตียงที่เหลือน่าจะจัดวางเตียงขนาดคิงไซส์ได้โดยยังเหลือพื้นที่ให้เดินรอบเตียงได้สบายๆ เลย
ภายในห้องน้ำประกอบด้วยอ่างล้างหน้าที่เป็นเฟอร์นิเจอร์แบบลอยตัว สามารถใช้สอยพื้นที่ด้านล่าง และเก็บของในชั้นใต้อ่างได้ ส่วนสุขภัณฑ์เป็นของ Cotto และมีระบบอิเล็กทรอนิกส์สำหรับสั่งงานเมื่อใช้งาน
อ่างล้างหน้ามีขนาดไม่ใหญ่มาก อาจจะต้องปรับหาพื้นที่ใช้สอยว่างๆ ในห้องทำโต๊ะเครื่องแป้งใกล้กับห้องน้ำ หรือปรับเปลี่ยนมุมตู้เสื้อผ้าให้ใช้งานซัพพอร์ทจุดนี้ได้ด้วย
ระเบียงของห้องนอนที่ 3 มีขนาดไม่ใหญ่มาก Layout เป็นรูปสี่เหลี่ยมจตุรัส ถึงแม้จะใช้สอยพื้นที่ได้ไม่มาก แต่โครงการก็ติดตั้งระบบประปาและระบบไฟไว้ให้ด้านนอก สำหรับจัดการเป็นพื้นที่ซักล้างได้
ทําเล & การเดินทาง
ศักยภาพทำเล
ซอยสุขุมวิท 39 ถือเป็นหนึ่งในทำเลที่เชื่อมต่อกับสถานีรถไฟฟ้าพร้อมพงษ์ ซึ่งเป็น Prime Zone ของตลาดอสังหาริมทรัพย์ระดับไฮเอนด์ เนื่องจากบริเวณนี้เป็นเสมือนศูนย์กลางธุรกิจกรุงเทพฯ ขนาดใหญ่ และมีจิ๊กซอว์สำคัญอย่าง “ดิ เอ็ม ดิสทริค” (The Em District)” เมกะโปรเจคมูลค่าการลงทุนกว่า 50,000 ล้านของเดอะมอลล์กรุ๊ป ที่กำลังพัฒนาเป็นรูปเป็นร่างใกล้เข้าสู่ความสำเร็จทุกที และจะเผยโฉมตัวแปรสุดท้ายอย่าง The Em Sphere ในไม่ช้านี้ ซึ่งจากการพัฒนาในจุดนี้ทำให้บริเวณย่านพร้อมพงษ์มีความอุดมสมบูรณ์ เพียบพร้อม และโปรเจคดังกล่าวก็ถือเป็นส่วนหนึ่งที่เข้ามาเติมเต็มความสะดวกสบายทั้งเรื่องของการอยู่อาศัยและการดำเนินธุรกิจ ส่งผลให้มูลค่าของทำเลบริเวณนี้ ทั้งแนวรถไฟฟ้าเองหรือรัศมีโดยรอบที่เชื่อมต่อกับรถสถานีรถไฟฟ้ามีราคาพุ่งสูงขึ้นอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
แม้ในปัจจุบันการหาที่ดินบริเวณพร้อมพงษ์สำหรับพัฒนาโครงการใหม่ๆ ไม่ใช่เรื่องง่ายแล้วก็ตาม แต่พื้นที่ในซอยสุขุมวิทต่างๆ ที่อยู่ในรัศมีความเจริญย่านพร้อมพงษ์ ก็ยังคงหลงเหลือพื้นที่ให้พอปักหมุดโครงการอยู่บ้าง และปัจจุบันซอยที่ได้รับความสนใจจากผู้ประกอบการมากที่สุดบนทำเลพร้อมพงษ์ก็คือ ซอยสุขุมวิท 39 ที่มีไฮไลท์เด่นอย่างเส้นทางคมนาคมที่ตอบโจทย์กลุ่มเป้าหมายระดับบน โดยสามารถเชื่อมต่อไปสู่ย่านธุรกิจต่างๆ ได้ไม่ยาก เนื่องจากสามารถใช้เป็นซอยลัดออกไปสู่ ซอยสุขุมวิท 21 บริเวณถนนอโศก – มนตรี หรือเชื่อมต่อเข้าสู่สุขุมวิท 55 หรือซอยทองหล่อได้โดยไม่ต้องพึ่งถนนใหญ่ และอีกสิ่งหนึ่งนอกจากเส้นทางคมนาคมที่เป็นจุดเด่นของซอยสุขุมวิท 39 ก็คือภาพรวมของโครงการคอนโดมิเนียมระดับลักซ์ชัวรี่ไปจนถึงซูเปอร์ลักซ์ชัวรี่ที่เกิดขึ้นใหม่เรื่อยๆ รวมถึงการพัฒนาพื้นที่เปล่าเป็นอสังหาริมทรัพย์ในรูปแบบอื่นๆ ซึ่งจุดนี้เองที่สามารถการันตีได้ถึงศักยภาพทำเลภายในซอยนี้ ในเรื่องของกำลังซื้อ ไม่ว่าจะเป็นการซื้อเพื่ออยู่อาศัยหรือว่าการซื้อเพื่อลงทุนปล่อยเช่าก็ตาม เป็นผลให้มีผู้พัฒนาชื่อดังที่ตบเท้าเข้ามาเฟ้นหาพื้นที่พัฒนาโครงการอยู่ตลอดเวลา จากการรับรู้กำลังซื้อมหาศาลของคนบนพื้นที่ที่ต้องการอยู่อาศัยเองหรือนักลงทุนต่างชาติที่ยังคงให้ความสนใจและมีความต้องการของที่อยู่อาศัยสูงบนทำเลย่านพร้อมพงษ์ในปัจจุบัน
ทำเลที่ตั้งโครงการ
โครงการ อโบฟ สุขุมวิท 39 ตั้งอยู่ในซอยพร้อมจิต ซึ่งเป็นซอยย่อยของซอยสุขุมวิท 39 จากโครงการมีระยะห่างจากสถานีรถไฟฟ้าพร้อมพงษ์จุดขึ้นลงที่ 3 ประมาณ 900 ม. หรือคิดเป็นค่าบริการวินมอเตอร์ไซค์ประมาณไม่เกิน 20 บาท นอกจากนั้นอีกหนึ่งจุดเด่นของที่ตั้งโครงการก็คือเส้นทางการคมนาคมที่สามารถเชื่อมต่อไปยังซอยสุขุมวิทอื่นๆ ได้ อาทิ ซอย 21, 23, 27, 31, 33, 35, 37 และซอยสุขุมวิท 49 ที่สามารถเชื่อมต่อเข้าไปสู่ซอยสุขุมวิท 55 หรือซอยทองหล่อได้อย่างง่ายได้ ถึงแม้บริเวณถนนหลักหน้าโครงการจะเป็นทางเดินรถทางเดียวออกไปสู่บริเวณซอยสุขุมวิท 21 และ ซอยสุขุมวิท 23 ก็ตาม แต่จากบริเวณอโศกมนตรีหากเลี้ยวเข้าซอยสุขุมวิท 21 แล้วเลี้ยวขวา จากนั้นเลี้ยวซ้ายเข้าสู่ซอยสุขุมวิท 23 ไปเชื่อมต่อกับซอยสวัสดี ก็ยังสามารถวนกลับเข้ามาหน้าโครงการจากทางนั้นได้ หรือจากบริเวณถนนสุขุมวิทเอง ก็สามารถเลี้ยวเข้าซอยสุขุมวิท 23 ไปถึงโครงการโดยเส้นทางดังกล่าวได้อีกเช่นกัน ซึ่งนอกจากเส้นทางหลักไปสู่โครงการอย่างซอยสุขุมวิท 39 แล้ว สองเส้นทางนี้ก็ถือเป็นอีกสองเส้นทางที่นำมาสู่โครงการได้ง่าย โดยการเดินทางดังกล่าวถือเป็นจุดเด่นหลักๆ ของที่ตั้งโครงการบนซอยสุชุมวิท 39 ทั้งนี้เองถึงแม้บริเวณเส้นทางลัดภายในซอยจะมีการจราจรหนาแน่นก็ตาม แต่ในช่วงเวลาที่ไม่เร่งด่วนมาก ก็สามารถช่วยย่นระยะเวลาในการเดินทางออกไปสู่สถานที่สำคัญต่างๆ ได้
ทั้งนี้จากการสำรวจพื้นที่ภายในซอยส่วนใหญ่จะถูกนำใช้ในการปลูกสร้างคอนโดฯ อาคาร บ้านเดี่ยวส่วนมาก โดยยังคงมีอาคารพาณิชย์ดั้งเดิมของคนในพื้นที่อยู่โดยรอบ ซึ่งส่วนใหญ่จะถูกดัดแปลงเป็นร้านสะดวกซื้อ ร้านค้า บาร์เบอร์ช็อป ร้านอาหารข้างทาง เป็นส่วนใหญ่ และอยู่ในระยะเดินจากโครงการไม่ถึง 100 ม. ถึงแม้ร้านค้าเหล่านี้เอง จะไม่ได้ตอบโจทย์กลุ่มลูกค้าระดับบน แต่ก็ถือเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่เข้ามาเสริมออฟชั่นในเรื่องของสิ่งอำนวยความสะดวกให้กับโครงการไปโดยปริยาย
มาถึงในเซกชั่นของราคาที่ดินเอง คงต้องบอกว่าในอนาคตนอกจากอานิสงส์จากพื้นที่แนวรถไฟฟ้าที่มีการพัฒนาปีต่อปีแล้ว พื้นที่ภายในซอยสุขุมวิท 39 ก็ถือเป็นส่วนหนึ่งที่เชื่อมต่อกับถนนสุขุมวิทบริเวณรถไฟฟ้าพร้อมพงษ์ได้เร็วที่สุดก็กำลังอยู่ในช่วงที่เรียกได้ว่ามีการพัฒนาจนแทบจะเต็มพื้นที่เช่นกัน โดยยังคงมีดีมานด์ของกลุ่มผู้อยู่อาศัยระดับบนหรือกลุ่มนักลงทุนที่มีความต้องการสูงอยู่ จากความเพียบพร้อมที่เต็มไปด้วยความสะดวกสบาย และตั้งอยู่ใจกลางเมือง แต่ก็ยังสามารถมอบความเป็นส่วนตัวได้ ซึ่งทั้งหมดนั้นยังคงเป็นปัจจัยที่กลุ่มเป้าหมายระดับบนปรารถนามาตลอด ด้วยเหตุนี้เองจึงทำให้ราคาที่ดินในซอยสุขุมวิท 39 นี้ น่าจะมีอัตราของราคาพุ่งสูงขึ้นเรื่อยๆ ตามลำดับตามพื้นที่แนวรถไฟฟ้าด้านนอกอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
การเดินทาง
หากมาจากทางถนนสุขุมวิท สามารถเข้าซอย 23, 27, 29, 31, 33, 35, 37, 39 ได้ แต่จากเส้นทางบนถนนสุขุมวิท ซอยที่สะดวกสำหรับการนำไปสู่โครงการก็คือ ซอยสุขุมวิท 39 ซึ่งเป็นซอยหลัก โดยจากปากซอยตรงเข้ามาไม่เกิน 800 ม. จะเห็นซอยพร้อมจิตให้เลี้ยวซ้าย ถัดจากอาคาร Bio House ไปก็จะพบกับทางเข้าโครงการอยู่ทางขวามือเลย
จากถนนสุขุมวิทบริเวณฝั่งมุ่งหน้าไปทางสถานีรถไฟฟ้าพร้อมพงษ์ เมื่อถึงบริเวณสถานีให้เตรียมตัวเบี่ยงซ้าย เพื่อเลี้ยวเข้าสู่ซอยสุขุมวิท 39
จากทางอโศก – มนตรี
หากมาจากถนนอโศก – มนตรีสามารถเลือกเลี้ยวเข้าซอยสุขุมวิท 21 บริเวณตรงข้ามอาคารเสริมมิตร แล้วแล้วเลี้ยวซ้ายเข้าสู่ซอยสุขุมวิท 23 ตรงไปประมาณ 400 ม. ให้เลี้ยวซ้ายเข้าสู่ซอยสวัสดีแล้วมุ่งหน้าไปตามทางจะเจอทางออกสู่สุขุมวิท 39 จากนั้นให้เลี้ยวขวาตรงมาประมาณ 650 ม. เลี้ยวขวาเข้าซอยพร้อมจิตก็จะพบกับโครงการ
จากทางถนนเพชรบุรี
หากมาจากทางเพชรบุรี ให้กลับรถ เข้ามายังสุขุมวิท 55 ตรงมาสักพักจะเห็นโรงพยาบาลคามิลเลียนอยู่ทางฝั่งขวามือ ให้เตรียมตัวเลี้ยวเข้าซอยข้างโรงพยาบาลหรือซอยทองหล่อ 25 ตรงมาตามทาง จะสามารถเชื่อมต่อเข้าสู่ซอยสุขุมวิท 49/6 จากนั้นให้เลี้ยวซ้าย ตรงมาไม่เกิน 400 ม. ให้เลี้ยวขวามุ่งหน้าไปยังซอยพร้อมศรีจะออกไปที่ซอยสุขุมวิท 39 จากนั้นให้เลี้ยวขวาและเบี่ยงซ้ายเข้าสู่ซอยพร้อมจิตก็จะพบกับตัวโครงการอยู่ทางขวามือ หรือจะเลี้ยวเข้าซอยทองหล่อ 13 ช่วงต้นซอยทางฝั่งสุขุมวิทก็ได้ ตรงไปประมาณ 600 ม. จะเจอทางเชื่อมต่อสู่ซอยอัครภัทรและมุ่งหน้าไปสู่ซอยสุขุมวิท 49 และใช้เส้นทางข้างต้นไปสู่โครงการได้เช่นกัน
หากโดยสารมาจาก BTS
หากโดยสารมาโดย BTS ให้เลือกลงที่สถานีพร้อมพงษ์ทางออกที่ 3 เดินตรงมาตามแนวถนนมาไม่เกิน 100 ม. จะพบกับซอยสุขุมวิท 39 ด้านหน้ามีวินมอเตอร์ไซค์คอยให้บริการ ในระยะทางจากปากซอยไปถึงโครงการไม่เกิน 650ม. ค่าบริการจะอยู่ที่ 10-20 บาท
สถานที่แนวไลฟ์สไตล์
เอ็มควอเทียร์ และเอ็มโพเรี่ยม (เดอะ เอ็ม ดิสทริค)
ศูนย์การค้าใจกลางเมืองใน “เดอะ เอ็ม ดิสทริค” ที่รวบรวมเอาแฟชั่น ไลฟ์สไตล์ แบรนด์เนมใหม่ๆ เข้าไว้ด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็นร้านอาหารระดับหรู จนไปถึงฟิตเนสระดับเวิลด์คลาส ทั้งนี้อีกสองปีข้างหน้าก็จะมี EmSphere ผุดขึ้นมาในย่านนี้อีกหนึ่งแห่ง
H1 Thonglor
จุดเริ่มต้นไลฟ์สไตล์ย่านทองหล่อบนพื้นที่กว่า 1 ไร่ ดีไซน์ที่แปลกตา กับร้านแฮงเอาท์เก๋ๆ ไม่กี่ร้านในโครงการ โดยเฉพาะร้านดังๆ ของที่นี่ อาทิ To Die For Bar & Restaurant ที่เป็นแหล่งแฮงค์เอ้าท์ยอดนิยมของผู้คนย่านนี้
J-Avenue
Lifestyle Center ที่จับกลุ่มทาร์เก็ตลูกค้าญี่ปุ่น ทำให้ทำเลย่านทองหล่อได้รับอานิสงส์จากสินค้าและบริการที่คัดสรรค์มาเพื่อตอบสนองกลุ่มลูกค้านี้ไปด้วย ไม่ว่าจะเป็น วิลล่ามาร์เก็ต ร้านอาหารญี่ปุ่นหรือคาราโอเกะใน Major Blow Hit
สถานที่สำคัญอื่นๆ รอบโครงการ
เป็นที่ทราบกันดีอยู่แล้วว่านอกจาก The Em District จะเป็นหนึ่งในศูนย์รวมไลฟ์สไตล์ขนาดใหญ่ที่ครบครันไปด้วยแหล่งอาหาร แฟชั่น และไลฟ์สไตล์ระดับหรูแล้ว พื้นที่ภายในซอยสุขุมวิท 39 ก็ไม่ได้น้อยหน้าไปกว่าพื้นที่ด้านนอกบนถนนสุขุมวิท จากการที่ซอยสุขุมวิท 39 เชื่อมต่อกับทุกเส้นทางทั้งทางฝั่งอโศก และทางฝั่งทองหล่อ จึงรวบรวมแหล่งไลฟ์สไตล์เอาไว้นับไม่ถ้วน ซึ่งจากสองทำเลดังกล่าวที่เชื่อมต่อกับซอยสุขุมวิท 39 คงไม่ต้องพูดถึงอะไรมาก เพราะเป็นแหล่งรวมไลฟ์สไตล์แดนอาทิตย์อุทัยจากดีมานด์ของนักลงทุนชาวญี่ปุ่นอยู่แล้ว ดังนั้นภายในซอยสุขุมวิท 39 ไลฟ์สไตล์ไม่ได้แตกต่างพื้นที่ที่กล่าวมา ซึ่งภายในซอยสุขุมวิท 39 เอง จะประกอบไปด้วยร้านเด่นร้านดัง อาทิ
Parden (Fruits Palor Café and ZAKKA)
ร้านขนมของหวานสไตล์ญี่ปุ่นสำหรับสาวๆ ทั้งวัยเด็กไปจนถึงวัยมีอายุ มีเมนูแนะนำอย่าง Parden Fruit Parfait ที่ด้านล่างจานจะเป็นเชอร์เบทผลไม้ และตามด้วยไอศกรีมโยเกิร์ตหลากรสแล้วแต่เลือกสรรค์ พร้อม ผลไม้ตามฤดูกาลอีก 8 ชนิด เรียกได้ว่าเป็นความกลมกล่อมที่ลงตัวชนิดเปิดวาร์ปไปประเทศญี่ปุ่นได้ในพริบตา ร้านตั้งอยู่บนชั้น 2 ของคอมมูนิตี้มอลล์ชื่อ The Manor
เปิดวันอังคาร – อาทิตย์ 11.00 – 17.45 น. (last order 17.00 น.)
โทร. 02-204-2205
facebook l Parden
Subhashok The Arts Centre (S.A.C)
เขยิบมาหน่อยจากร้านขนมหวานด้านบน จะพบกับ Subhashok The Arts Centre อาคารที่สะสมงานศิลปะของศิลปินหน้าใหม่จากผู้ก่อตั้งอย่างนักธุรกิจชื่อดังโดย คุณศุภโชค อังคสุวรรณศิริ ผู้มีใจรักในงานศิลป์ ด้านในจะมี นิทรรศการที่ชั้น 1 และ 2 ให้เข้าไปดูได้ ด้านข้างมี ตึกเล็กที่ตั้งอยู่ใกล้กัน เป็นแกลเลอรี่ที่โชว์ผลงานของศิลปินรุ่นใหม่ๆ และต้อนรับผู้คนที่เข้ามาเยือนด้วยโซนคาเฟ่นั่งชิลล์ และร้านบอร์ดเกม เปลี่ยนไลฟ์สไตล์ซอยสุขุมวิท 39 ให้เป็นวันพักผ่อนหย่อนใจที่เงียบสงบและมีความเป็นกันเอง Subhashok The Arts Centre (S.A.C)
เปิดวันอังคาร – ศุกร์ 10.00 – 17.30 น. วันเสาร์ – อาทิตย์ 11.00 – 18.00 น.
โทร. 02-662-0299
facebook l S.A.C. Subhashok The Arts Centre
Cataholic Café
สวรรค์ของคนรักแมว ที่เน้นความเป็นกันเองระหว่างคนและน้องเหมียวสุดน่ารัก พร้อมอาหารคาว หวาน ทั้งเค้ก ขนมปัง ชา กาแฟ ให้เลือกหลากรส หากมีเวลาวันหยุดชิลล์ๆ และรู้ตัวว่าเป็นคนรักแมว ก็สามารถแวะมานั่งเล่น อ่านหนังสือที่ร้านได้ แนะนำว่าหากมาในช่วงเสาร์-อาทิตย์ ให้โทรจองก่อนจะได้ไม่พลาด พิกัดของร้านตั้งอยู่ที่ โครงการ Ozono เพชรบุรีซอย 39
เปิดทุกวัน ยกเว้น วันจันทร์
ห้างสรรพสินค้า
The Emporium
The Emquartier
The Emsphere
Villa Market
K Village
สถานพยาบาล
รพ.สมิติเวช สุขุมวิท
รพ.พร้อมมิตร
สถานศึกษา
โรงเรียนนานาชาติไอวี่บาวนด์
โรงเรียนสวัสดีวิทยา
มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ (ประสานมิตร)
โรงเรียนสาธิตมหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ ประสานมิตร
โรงเรียนนานาชาติโมเดิร์น
บทวิเคราะห์
วิเคราะห์อัตราผลตอบแทนที่จะได้รับ
ปัจจุบันทำเลที่อยู่ในรัศมีของสถานีรถไฟฟ้าพร้อมพงษ์ หากเป็นคอนโดมิเนียมระดับลักซ์ชัวรี่จะมีราคาต่อตร.ม.ที่ 200,000 – 250,000 บาทต่อตารางเมตรขึ้นไป จากพื้นในตัวเมืองที่เป็นทำเล Prime Zone แต่หากนับจากที่ตั้งโครงการซึ่งอยู่ในซอยสุขุมวิท 39 เองก็ยังมีกลุ่มคอนโดลักซ์ชัวรี่ที่มีราคาเริ่มต้นเกือบๆ 200,000 บาทต่อตารางเมตรอยู่ เนื่องจากถือเป็นสุขุมวิทตอนกลางที่ดึงเอาศักยภาพของพร้อมพงษ์เชื่อมต่อไปสู่ทำเลทองหล่อได้ไม่อยาก ดังนั้นข้อได้เปรียบที่สุดของโครงการ อโบฟ สุขุมวิท 39 เอง จึงเป็นเรื่องของราคาเริ่มต้นที่ 150,000 บาทต่อตร.ม. ซึ่งหากเปรียบเทียบกับโครงการไฮเอนด์อื่นๆ ถือว่ามีราคาถูกกว่าอย่างเห็นได้ชัด ดังนั้นสิ่งที่ผู้อยู่อาศัยจะได้รับความคุ้มค่าก็คือขนาดห้องที่กว้างขึ้นเรียกได้ว่าในราคาเริ่มต้นที่ 45 ล้านหากเปรียบเทียบกับโครงการใหม่อื่นๆ เรียกได้ว่าได้ขนาดพื้นที่ใช้สอยมากขึ้นเป็นเท่าตัว รวมไปถึงความเป็นส่วนตัว ซึ่งปัจจุบันจะมีซัพพลายน้อยนักที่เอาโปรดักส์ของคอนโดมิเนียมไฮไลท์มาทำที่พักอาศัยเพียง 41 ยูนิต โดยเน้นความเป็นส่วนตัวและสามารถตอบโจทย์ทั้งผู้ที่ต้องการอยู่อาศัยเอง อาทิ กลุ่มครอบครัวขยาย หรือแม้กระทั่งนักลงทุนในประเทศที่มองหาบ้านหลังที่สองไว้สำหรับอยู่อาศัยและติดต่อธุรกิจบนพื้นที่ และยังสามารถปล่อยเช่าให้กับดีมานด์กลุ่มลูกค้าชาวต่างชาติที่เป็นผู้บริหารชาวต่างชาติระดับบนได้ในราคาต่อเดือนที่ 200,000 บาท ซึ่งถือเป็นราคาที่คุ้มค่าสำหรับดีมานด์การเช่าระดับบน
*เนื่องจากโปรดักส์ของโครงการ อโบฟ สุขุมวิท 39 ถือเป็นโปรดักส์ที่มีความแตกต่างของพื้นที่ใช้สอยขนาดใหญ่กว่า 300 ตารางเมตร ถึงแม้จะมีราคาต่อตารางเมตรอยู่ที่ 150,000 บาท แต่ราคาเริ่มต้นที่ 45 ล้านถือว่ายังหาโครงการมาเปรียบเทียบได้ยากในย่านนี้
สรุป
ปัจจุบันถึงแม้สถานการณ์ทางเศรษฐกิจภายในประเทศจะไม่ได้เอื้ออำนวยต่อตลาดอสังหาริมทรัพย์ แต่ในเซกเมนต์ของคอนโดมิเนียมระดับท็อปเอนด์ที่มีราคาเริ่มต้นที่ 45 ล้านบาท อย่างโครงการ อโบฟ สุขุมวิท 39 ก็ไม่ได้เป็นอุปสรรคต่อกำลังซื้อของกลุ่มเป้าหมายระดับบน ซึ่งหากมองภาพรวมของที่ตั้งโครงการ ศักยภาพทำเล และตัวโปรดักส์แล้ว ถือว่ามีความโดดเด่นและได้เปรียบในตลาดคอนโดมิเนียมย่านนี้ ด้วยจุดเด่นหลักๆ ที่เน้นความเป็นส่วนตัวบนพื้นที่ใช้สอยขนาดใหญ่กว่า 287 – 341 ตารางเมตร ซึ่งหากกลุ่มลูกค้าระดับบนจะต้องควักเงิน 9 หลักเพื่อซื้อที่อยู่อาศัยหรือลงทุนในระยะยาวก็จะรู้สึกคุ้มค่าที่ได้รับยูนิตที่มีขนาดใหญ่มาก พร้อมด้วยที่จอดรถสำหรับหนึ่งยูนิตที่มากสุดถึง 4 คัน บวกกับศักยภาพทำเลที่เชื่อมต่อสู่ CBD สุขุมวิท และอโศก ได้อย่างง่ายดาย และในเรื่องของการเชื่อมต่อนี้เองที่ถือเป็นตัวช่วยที่คอยซัพพอร์ทโปรดักส์โครงการเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้ไม่ยากบนทำเลที่มีดีมานด์ความต้องการที่อยู่อาศัยระดับท็อปเอนด์สูง แต่เนื่องด้วยปัจจุบันพื้นที่ภายในซอยสุขุมวิท 39 ที่เหลือไม่มากแล้ว ก็เป็นอีกหนึ่งส่วนที่ช่วยผลักดันราคาในอนาคตให้สูงขึ้นไปด้วย ซึ่งในจุดนี้เองนอกเหนือจากการซื้อเพื่ออยู่อาศัยเองแล้ว ก็ทำให้โครงการ อโบฟ สุขุมวิท 39 เป็นอีกหนึ่งโครงการที่น่าสนใจสำหรับนักลงทุนด้วยเช่นกัน
สนใจ คอนโดฯ ในโครงการนี้? เลือกชม รายการประกาศ ราคาโดนใจ